ถังฮั่วชี้ไปที่สมองของตัวเองพร้อมกับหัวเราะเยาะว่า :“นายเป็นครึ่งเทพมาจากไหน? ถึงเรียกเม็ดยานั้นว่ายาหยกโมราอะไร ฉันคิดว่าน่าจะเรียกยาเสริมพลังจะดีกว่านะ!”“พรวด...”เมื่อได้ยินชื่อยาเสริมพลัง ผู้มีเกียรติจำนวนไม่น้อยก็หัวเราะออกมาดังลั่นในเมื่อชื่อนี้ นั่นเป็นของที่พวกต้มตุ๋นที่อยู่ตามข้างถนนขายกัน และพูดโกหกหลอกลวงว่ากันว่าหากกินแล้วจะทำให้แข็งแรง มีอายุยืนยาวและไม่ติดพิษอะไรทั้งนั้นแต่ความจริงแล้ว มันก็เป็นเพียงก้อนแป้งเท่านั้นเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครเลยสักคนในที่นี้จะเชื่อสิ่งที่เรียกว่ายาหยกโมรา ของหลินเฟิงผู้คนในที่นี้ต่างก็พบเจอเรื่องราวดีและร้ายมากันมากมายอยากจะหลอกลวงพวกเขา เป็นการหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ“สุดยอด! ฉันยังคิดว่าของปลอมที่ถังฮั่วนำมาขายเมื่อครู่นี้ดีที่สุดแล้ว”“คิดไม่ถึงว่าผ่านไปไม่นาน ก็จะมีคนเอายาเสริมพลังมาขาย การประมูลการกุศลครั้งนี้ทำเอาฉันหัวเราะแทบตายเลยจริง ๆ”“อย่ามาพูดไร้สาระ หากยามันได้ผลจริง ๆล่ะ?”“ฮ่าฮ่าฮ่า....ฉันเกือบจะเชื่อในสิ่งที่คุณพูดแล้วนะ”เมื่อเผชิญกับการล้อเลียนและความสงสัยของแขกที่มาร่วมงาน หลินเฟิงก็หยุดคิดอยู่นาน ก่อนจะพูดข
ผู้อำนวยการเจียงก็พูดอย่างเย็นชาว่า: “ถ้าหากอาจารย์โปเป็นอะไรขึ้นมา หลินเฟิง คุณเจอปัญหาใหญ่แน่นอน!”“หึ…”หลินเฟิงไม่ได้ตอบกลับ เพราะเขาอยากรู้ว่าสองคนนี้จะทำอะไรกันแน่“คุณเผิงกวงฉี่!”ถังฮั่วเดินผ่านหลินเฟิง ไปที่ตรงหน้าของเผิงกวงฉี่ ต่อหน้าแขกทุกคน ชี้หลินเฟิงและพูดเสียงดังว่า:“หลินเฟิงคนนี้เป็นแมงดาเกาะตระกูลถังกิน! เป็นคนหลอกลวง!”“หือ?”เผิงกวงฉี่เหลือบมองหลินเฟิงด้วยสีหน้านิ่งเฉย และบอกให้ถังฮั่วพูดต่อไปเห็นเผิงกวงฉี่สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปผู้อำนวยการเจียงกับถังฮั่วก็รู้สึกดีใจ“คนผู้นี้กำเริบเสิบสาน ไม่เพียงฆ่าคุณหนูหลงเซียวของตระกูลหลง ทำให้ตระกูลถังของผมกับตระกูลหลงเกิดช่องว่างระหว่างกัน”“อีกทั้งคุยโวอย่างหน้าไม่อาย อยู่ต่อหน้าคนมากมาย เขาบอกว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตคุณเผิงกวงฉี่เอาไว้!”“ทำลายชื่อเสียงของคุณ!”“อีกทั้งวันนี้ที่มา ก็ไม่ได้นำบัตรเชิญมา เข้ามากับคนอื่นอย่างหน้าไม่อาย!”“ไม่มีบัตรเชิญ?”เผิงกวงฉี่ตกตะลึง มองไปทางหลินเฟิงหลินเฟิงกลับพูดลอยๆ ขึ้นมา:“บัตรเชิญ ผมลืมเอามาด้วย”“ลืมเอามา?”เผิงกวงฉี่นิ่งอึ้ง ถึงได้รู้ว่าทำไมหลินเฟิงเดินทาง
ถ้าหากพูดว่า พวกเขาไม่เชื่อหนุ่มที่มีภูมิหลังไม่ชัดเจนคนนี้แต่สถานะของอาจารย์โปอยู่ตรงนี้เขาไม่มีทางพูดโกหกถ้าหากเขากับหลินเฟิงตกลงกันไว้ ฝืนเข้าข้างหลินเฟิงเช่นนั้นหลังจากยาเม็ดนี้ถูกขายออกไป ไม่มีประสิทธิผล ชื่อเสียงของเขาอาจารย์โปก็คงจะถูกทำลายตั้งแต่นี้ไปแบบนี้ไม่คุ้มค่าเลยดังนั้นมีเพียงคำอธิบายเดียวอาจารย์โปพูดความจริง!ในตอนที่ทุกคนตกตะลึง แต่ละคนอ้าปากกว้าง ไม่รู้จะพูดอย่างไรเผิงกวงฉี่ก็ยืนออกมาพอดีเขาเดินไปด้านข้างหลินเฟิง ตบไหล่ของหลินเฟิง หลังจากที่ทุกคนตกตะลึงจนตาค้าง และพูดอย่างเรียบเฉยว่า:“อ่อใช่ ผมลืมแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จัก”“คุณหลินเฟิง ก็คือหมอเทวดาแห่งแพทย์แผนโบราณประเทศมังกรที่ทำให้ผมเผิงกวงฉี่ฟื้นคืนจากความตาย จากคนที่อ่อนแอจนไม่สามารถเดินได้ จนวันนี้ร่างกายแข็งแรงกำยำ!”“อ๊ะ?”ได้ยินการแนะนำของเผิงกวงฉี่ ถังฮั่วงุนงงไปหมดผู้อำนวยการเจียงก็งุนงงเช่นกันทั้งสองคนคนหนึ่งคุกเข่า คนหนึ่งยืนขึ้น มองดูแผ่นหลังของเผิงกวงฉี่กับหลินเฟิงด้วยความตะลึงงัน สีหน้าเปลี่ยนไปซีดขาวทันที“ผมเผิงกวงฉี่สามารถใช้ชื่อเสียงของตัวเอง รับประกันยาของคุณหลินเฟิงได้
“ครับ!”พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เป็นนักบู๊พากันพยักหน้าหลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของถังฮั่วก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน ก่อนจะรีบร้องขอความเมตตาจากเผิงกวงฉี่ว่า: “คุณเผิงกวงฉี่ ผมผิดไปแล้ว ขอร้อง ยกโทษให้ผมด้วยเถอะครับ!”“ผม....ผมต้องขอโทษคุณ เรื่องของปลอมนั้นผมก็ไม่ได้ตั้งใจนะ!”“ผมขอโทษคุณหลินเฟิง ผมผิดไปแล้ว! ผมไม่ควรมุ่งเป้าไปที่คุณ ไม่ควรพูดไม่ดีเกี่ยวกับคุณ คุณเผิงกวงฉี่ ได้โปรกยกโทษให้ผมด้วย ขอโทษให้ผมเถอะ!”“ขอร้องคุณเห็นแก่หน้าตาตระกูลถัง.....”เมื่อได้ยินคำร้องขอความเมตตาอย่างไร้ศักดิ์ศรีของถังฮั่ว เผิงกวงฉี่ก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที ก่อนที่จะเขาหัวเราะเยาะถังฮั่ว ต่อหน้าแขกที่มาร่วมงานพร้อมกับพูดว่า :“ตระกูลถัง?”“คุณกล้าอ้างถึงตระกูลถังงั้นเหรอ?”“หึหึ ในฐานะคนของตระกูลถังที่ทำให้ตระกูลถังอับอายซ้ำแล้วซ้ำเล่า! วันนี้เป็นแค่การลงโทษเล็ก ๆ น้อย ๆสำหรับคุณเท่านั้น ต่อให้ผู้นำตระกูลถังมา ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้!”“ลงมือ!”หลังจากที่เผิงกวงฉี่ตะโกนออกไปอย่างเย็นชา พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็รับคำสั่งและลงมือทันทีจู่ ๆก็ได้ยินเสียงกระดูกขาของถังฮั่วหัก
เผิงกวงฉี่ก็ฉลาดแกมโกงเหมือนกันเขาฉวยโอกาสตอนที่ทุกคนไม่มีใครตอบสนอง แล้วจู่ ๆก็เสนอราคาสองหมื่นห้าพันล้านทันทีถึงแม้อาจารย์โปจะเพิ่งพิสูจน์ไปแล้วก็ตามว่ายาหยกโมราเม็ดนี้เป็นของจริงแต่สำหรับเรื่องการยืดอายุนี้ ผู้คนต่างก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อนอกจากนี้ เผิงกวงฉี่ก็ยังบริจาคเงินจำนวนมากถึงสองหมื่นห้าพันล้านมันก็ทำให้คนทั้งหมดเงียบกริบทันทีเมื่อเห็นฉากนี้ เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก และในขณะที่เขากำลังจะประกาศว่ายาหยกโมราเม็ดนี้เป็นของตัวเอง อาจารย์โปกลับลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วลุกขึ้นยืน“ยาหยกโมราเม็ดนี้มีความสำคัญอย่างมาก ต้องขออภัยคุณเผิงกวงฉี่ที่ผมต้องเข้ามาแทรก”หลังจากที่พูดจบ อาจรย์โปก็ยกมือขึ้นพร้อมกับพูดว่า :“ผมขอเดิมพันทรัพย์สินทั้งหมดของผม หนึ่งแสนห้าหมื่นล้าน”“อะไรนะ?!”“หนึ่งแสนห้าหมื่นล้าน?!”เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ แขกผู้มีเกียรติทุกคนต่างก็สูดหายใจลึก ๆถึงแม้ว่าผู้คนที่นั่นทั้งหมด จะไม่ได้ขาดแคลนเงินก็ตามแต่การเอาเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านจากทรัพย์สินทั้งหมดไปเดิมพันกับยาเม็ดเล็ก ๆเม็ดเดียวที่ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือเปล่า ก็ถือเป็นเรื่องสุดโต่งเกินไปส
“หึ.....”หลินเฟิงยิ้มเล็กน้อยและโบกมือไปมา แสดงให้เห็นว่าไม่ได้คิดอะไรหลังจากจบเรื่องราว มิตรภาพของหลินเฟิงก็เพิ่มขึ้น“เอาล่ะ งั้นยาหยกโมราเม็ดนี้ก็จะเป็นของอาจารย์โปในราคาหนึ่งแสนห้าหมื่นล้าน!”เผิงกวงฉี่ประกาศเสียงดังลั่นส่วนบรรดาแขกที่มาร่วมงานที่ด้านล่างเวทีก็พากันปรบมือกันอย่างใจลอยในเมื่อนี่มันคือหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านเลยนะ!พูดว่าโยนทิ้งก็โยนทิ้งออกไปแถมยังทำเพื่อยาเม็ดเล็ก ๆอย่างนี้นี่มันไร้เหตุผลเกินไปแล้วเมื่อยาเม็ดนี้ได้พบกับเจ้าของแล้ว การประมูลเพื่อการกุศลก็ดำเนินต่อไปอย่างไรก็ตามเพราะว่าราคายาอายุวัฒนะของหลินเฟิงนั้นสูงอย่างมาก หลังจากนั้นสิ่งของและของขวัญที่นำออกมาประมูลก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของใครอีกเลยการประมูลเพื่อการกุศลทั้งหมดจึงสิ้นสุดลงเช่นนี้เมื่อออกจากโรงแรงมา ก็ฟ้ามืดเสียแล้วเผิงกวงฉี่ยังอยากเลี้ยงข้าวหลินเฟิง แต่หลินเฟิงกลับต้องการกลับไปปรับการหายใจและฝึกซ้อมให้เร็วที่สุด ดังนั้นจึงไม่ได้อยู่ต่อเมื่อเห็นหลินเฟิงออกไปอย่างรับร้อน เผิงกวงฉี่ก็คว้าแขนของหลินเฟิงไว้ พร้อมกับกระซิบว่า :“สหายหลิน จากนี้ไปพวกเราก็เรียกพี่น้องกัน หากมีใครบา
คิดถึงตรงนี้ หลินเฟิงมองไปทางเผิงกวงฉี่แล้วพูดว่า:“พี่เผิงรู้ว่า ผมคนนี้นั่งไม่ติด ยิ่งเกลียดงานที่ซับซ้อน ดังนั้นไม่เหมาะสมจะเป็นผู้อำนวยการอะไร”“เหรอครับ? งั้นก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว…”สายตาของเผิงกวงฉี่เผยความเสียดายออกมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้บีบบังคับแต่หลินเฟิงเปลี่ยนเรื่อง ยิ้มพูดว่า:“แต่ว่า ที่ผมมีตัวเลือกที่ไม่เลวอยู่คนหนึ่ง”“ใครครับ?”เผิงกวงฉี่นิ่งอึ้ง“น้องสาวของผม หลินเสวี่ยฮุ่ย”“หลินเสวี่ยฮุ่ย?”เผิงกวงฉี่พูดชื่อนี้เสียงเบา จากนั้นขมวดคิ้วพูดว่า:“ในฐานะผู้อำนวยการ จะต้องมีทักษะทางการแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือ น้องสาวของคุณ…”“วางใจเถอะครับ น้องสาวของผมสำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจียงหลิง อีกทั้งจะถ่ายทอดวิชาแพทย์ให้เธอ ต้องสามารถทำหน้าที่ได้”ได้ยินการรับรองแบบนี้ของหลินเฟิงขนาดนี้ คิ้วที่ขมวดของเผิงกวงฉี่ถึงได้คลายออก และพยักหน้าพูดอย่างพึงพอใจ:“ในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นผู้อำนวยการคนใหม่ของโรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อก็ยืนยันแล้ว น้องสาวของคุณจะมารับตำแหน่งได้เมื่อไหร่ครับ?”“หนึ่งเดือนแล้วกัน”หลินเฟิงครุ่นคิด และให้เวลาที่ชัดเจน“ได้ครับ”เผ
หลังจากที่ถามจ้าวเฉียวอวิ๋นแม่ของเธอ จ้าวเฉียวอวิ๋นมีท่าทางเหมือนไม่รู้อะไรสักอย่างเช่นนั้นมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวนั่นก็คือหลินเฟิงพี่หลินเฟิงเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอเช่นนั้นพูดแบบนี้แล้ว ร่างกายของเธอก็ถูกพี่หลินเฟิง…”ดังนั้นหลินเสวี่ยฮุ่ยจึงอยู่ในถาวะเขินอายและหวาดกลัว เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหลายต่อหลายครั้ง อยากจะโทรศัพท์หาหลินเฟิง แต่ทุกคร้ังต่างไม่กล้าโทรออกไปและตอนนี้ เธอได้ยินหลินเฟิงบอกว่าจะมารับเธอไปเมืองเจิ้งเต๋อนั่นก็หมายความว่า พี่หลินเฟิงจะ…จะรับผิดชอบเธองั้นเหรอ?หลินเสวี่ยฮุ่ยถือโทรศัพท์เอาไว้ด้วยมือข้างเดียว อีกมือหนึ่งเปลี่ยนรองเท้าคนทั้งคนหูตาแดง ยืนอึ้งอยู่ที่เดิม“เสวี่ยฮุ่ย? เสวี่ยฮุ่ย!จนกระทั่งในโทรศัพท์ เสียงเรียกของหลินเฟิงดังขึ้นเรื่อยๆ หลินเสวี่ยฮุ่ยถึงได้ตั้งสติกลับมาแต่ตอนนี้เธอพบว่าบนใบหน้าของเธอไม่รู้ว่าทำไมถึงมีรอยยิ้มที่มีความสุขนี่จึงทำให้เธอรู้กระอักกระอ่วน และรีบตอบรับหลินเฟิง“พี่หลินเฟิง ค่ะ ฉันอยู่ ฉันอยู่”“พี่จะมารับฉันใช่ไหม ได้ค่ะ ฉันจะ…เอ๊ะ ไม่ใช่ไม่ใช่…”ได้ยินเสียงของหลินเสวี่ยฮุ่ยที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท
ได้ยินการวิเคราะห์ของหลินเฟิง เฝิงเอ้อกับเฝิงชางถลึงตาโตทันที“เฝิงหลี?!”หรือว่าเมื่อครู่เฝิงหลีถือโอกาสตอนที่พวกเขาไม่ได้สังเกต วางยาพิษเฝิงอวี้อู่เป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ?!ดังนั้นหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวเพิ่งรักษาจนดีขึ้นเล็กน้อย ก็ได้อาการหนักขึ้นทันที ?“ไอ้สารเลว ผมจะไปจับตัวเขามาถามเดี๋ยวนี้!”เฝิงเอ้ออารมณ์ร้อน ตะโกนเสียงดังด้วยความโมโหทันที“หยุดก่อน!”เฝิงชางกลับตะโกนเสียงดัง จ้องมองเฝิงเอ้อแล้วพูดว่า:“หรือว่านายอยากให้ตระกูลเฝิงของเราตายงั้นเหรอ?”“ไม่พูดก่อนว่านี่เป็นคำพูดของไอ้หมอนี่ฝ่ายเดียว ต่อให้ไอ้หนุ่มคนนี้พูดจริง หรือว่าพวกเราจะแตกหักกับเฝิงหลีจริงๆ งั้นเหรอ?!”“ถ้าหากไอ้หมอนี่รักษาไม่หาย งั้นพวกเราตระกูลเฝิงจะทำยังไง?!”เผชิญหน้ากับการสอบถามของเฝิงชาง เฝิงเอ้อนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายก็โมโหจนทรุดนั่งลงกับพื้น“แม่งเอ๊ย แบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ ทำให้ผมโมโหตายไปเลยเถอะ!”เมื่อเห็นว่าน้องรองของตัวเองโมโหขนาดนี้ เฝิงชางก็รู้สึกเชื่อความสามารถของหลินเฟิงขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงรีบถามว่า:“หลินเฟิง ถ้าหากคุณสามารถรักษาอวี้อู่กับหมอเทวดาเลี่ยวจนหายได
เลี่ยวจื้อหมิงอายุเยอะขนาดนี้ ถูกพวกเขาทำแบบนี้ ยังไงก็ต้องอายุสั้นลงสองปี“หลินเฟิง ผมเตือนคุณว่าทางที่ดีอย่างวู่วาม”“ยาพิษนี้แม้แต่หมอเทวดาเลี่ยวก็โดนโดยที่ไม่ระวัง ทางที่ดีนายช่างใจให้ดีเฝิงชางสีหน้าเย็นชา“หึ ไม่ฟังคำเตือนของผม ตอนนี้เสนอตัวออกมาแสร้งเป็นคนดีงั้นเหรอ?”หลินเฟิงไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ อะไรต่อผู้นำตระกูลเฝิง เขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ เป็นเพราะผลประโยชน์ล้วนๆ“เพียงแค่ผมช่วยเฝิงอวี้อู่ให้รอดได้ คุณก็จะบอกข่าวของหยินหลิงให้กับผมใช่ไหม?”“หยินหลิง?”ผู้นำตระกูลเฝิงนิ่งอึ้ง“ผู้นำตระกูล หยินหลิงก็คือชื่อของผู้นำตระกูลกลุ่มพันธมิตรบู๊”เฝิงเอ้อที่อยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้น“......”สีหน้าของเฝิงชางอึดอัดเล็กน้อย ในเมื่อเมื่อครู่เขาบอกตำแหน่งของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ไปแล้ว อยู่ที่เรือนด้านหลังของตระกูลเฝิงของพวกเขาคราวนี้ หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊น่าจะถูกเขาพาตัวไปแล้วเป้าหมายก็เพื่อมอบให้กับผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษต่อให้เป็นแบบนี้ เฝิงชางพยักหน้าพูดว่า:“แต่ตอนนี้บวกกับหมอเทวดาเลี่ยว ในเมื่อคุณสามารถช่วยลูกชายของผมให้รอดได้ งั้นก็ช่วยหมอเทวดาเลี่ยวด้วยคงไม่ยากใช่
“เร็ว! น้องรอง อย่ามัวแต่ยืนอยู่ รีบไปเชิญอาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยว!”“พี่ใหญ่ อาจารย์ของหมอเทวดาเลี่ยวเป็นยอดฝีมือคนไหนกัน เขาไม่ได้พูด พวกเราจะรู้ได้ยังไง?!”เฝิงเอ้อที่ยืนอยู่ตรงประตูก็งุนงงเช่นเดียวกันหมอเทวดาลั่วตายอยู่ที่ตระกูลเฝิงของพวกเขา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่แล้วเฝิงเอ้อรู้ดีเช่นกัน“พี่ใหญ่ เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว พี่มอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรออกมาอย่างว่าง่ายดีกว่า แบบนี้ผมยังสามารถขอร้องให้ผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษถอนพิษให้ได้ ไม่อย่างนั้น จะไม่ทันการณ์แล้วจริงๆ!”เฝิงหลีใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์“ได้...ฉันมอบตัวให้! ฉันมอบให้!”เฝิงชางร้อนใจแล้ว ถ้าหากแค่ลูกชายของเขา งั้นเขายังสามารถสงบสติเลือกที่จะรับหรือไม่รับได้ และคิดถึงอนาคตของตระกูลแต่ชีวิตของหมอเทวดาเลี่ยงกลับไม่สามารถผิดพลาดได้หากเมื่อหมอเทวดาเลี่ยวเสียชีวิต พวกเขาตระกูลเฝิงก็จบสิ้นแล้ว“หึหึ วางใจเถอะพี่ใหญ่ มีผมอยู่ หมอเทวดาเลี่ยวกับหลานอวี้อู่ ไม่มีทางเป็นอันตรายอย่างแน่นอน”เฝิงหลียิ้มอย่างลำพองใจมากที่สุดแผนการของเขาในที่สุดก็สำเร็จแล้วต่อไป ผู้นำตระกูลของตระกูลเฝิงก็จะกลายเป็นเขาเฝิงหลีต
เฝิงอวี้อู่สงบลงแล้วแต่ตอนนี้สีหน้าของเขากลับดูแย่ลงกว่าเดิม ลมหายใจก็เปลี่ยนไปอ่อนแรง ถึงขั้นมีแต่ถอนหายใจ ไม่มีหายใจเข้าผิวทั่วตัวเริ่มคล้ำขึ้น“หมอเทวดาเลี่ยว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”เฟิงชางวิตกกังวลมากจนไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อครู่ลูกชายของเขาเพิ่งดีขึ้น มันแย่ลงอีกแล้วเหรอ?“ผมดูหน่อย!”หมอเทวดาเลี่ยวถอดเข็มเงินที่เจาะเข้าไปในเส้นลมปราณหลักของเฝิงอวี้อู่ออกโดยตรง ใส่ไว้ในมือแล้วหมุน สีหน้าก็เปลี่ยนไป“หมอเทวดาเลี่ยวเป็นอะไรเหรอครับ?”เฝิงชางขยับเข้ามาถามใกล้ๆ ส่วนเฝิงเอ้อที่อยู่ไกลออกไปกลับเหม่อลอยเล็กน้อยเพราะว่าในตอนนี้จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลินเฟิงขึ้นมาได้“อย่าลืมบอกหมอเทวาดาเลี่ยว ห้ามใช้มือสัมผัสเข็มเงินโดยตรง พิษนี้ต่อให้โดนแค่ผิวหนัง ก็ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว”“หมอเทวดาเลี่ยว!”เฟิงเอ้ออดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา“หือ?”หมอเทวดาเลี่ยวกับเฝิงชางหันหน้ามาส่วนเฟิงเอ้อยังคงยื่นมือออกไป เขาต้องการพูดสิ่งที่หลินเฟิงเตือนไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ดูไม่เหมาะสมนักหมอเทวดาเลี่ยวไม่รู้ว่ามันมีพิษเหรอ ต้องให้นายเตือนด้วย?สุดท้ายเฝิงเอ้ออ้าปาก แต่สุดท้ายก็ส่ายหน
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี