“เอาล่ะ”จางเต๋อหลิน ท่านผู้นำของอุตสาหกรรมยาสมุนไพรเจียงโจวได้ออกมาเพื่อหยุดเหตุการณ์ไม่ให้บานปลาย ก่อนที่เขาจะจ้องไปที่เจียงปินที่มีใบหน้าซีดเผือด แล้วโบกมือพร้อมกับพูดว่า :“ค่อยคุยเรื่องเก่า ๆ ตอนนี้มาดำเนินพิธีสำเร็จการศึกษากันก่อนดีกว่า”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ก็กลับมาควบคุมได้ในที่สุดภายใต้การจับจ้องของเพื่อนร่วมชั้นทั้งหมด หลินเฟิงก็ค่อย ๆเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างช้า ๆ ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆบุคคลสำคัญเหล่านั้น“หึหึ”หลินเฟิงกะพริบตาให้กับหลินเสวี่ยฮุ่ยที่อยู่ด้านล่างเวทีหลินเสวี่ยฮุ่ยปิดปากพร้อมกับหัวเราะออกมา พี่ชายคนนี้ของเธอไม่ได้โกหก คนเหล่านี้ต่างก็เป็นเขาที่เรียกมาที่นี่เมื่อเห็นสิ่งที่เขาเตรียมไว้ให้ทั้งหมดนี้ จู่ ๆหลินเสวี่ยฮุ่ยก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันทีส่วนเจียงปินใบหน้าของเขาซีดเผือด ก่อนจะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ แล้วจ้องมองอย่างใจลอยไปทางหลินเฟิงที่กำลังกระซิบกับพวกคนใหญ่คนโตที่อยู่รอบ ๆบนเวที จนอดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเอง“มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง? เป็นแบบนี้ได้ยังไง....”บรรยากาศของพิธีรับปริญญาบัตรครึกครื้นเป็นพิเศษเมื่อถึงคราวขอ
“ถุย! เขาเทียบขนขาของศาสตราจารย์หลินไม่ได้ด้วยซ้ำ!”“เชี่ย อย่ามาดูถูกขนขาของศาสตราจารย์หลินนะ!”“อะไรนะ? ขนขาของศาสตราจารย์หลิน? ฉันจะจ่ายเงินซื้อ ราคาเท่าไหร่?”เมื่อได้ยินเสียงเยาะเย้ย ทั้งแสดงความคิดเห็นและกลอกตาไปมาของเหล่านักศึกษาที่อยู่ด้านล่าง เจียงปินที่ก้มหน้าอยู่ ก็เกือบจะกัดฟันของตัวเองจนหัก“ไอ้สารเลว....”เขาก้มหน้าพร้อมกับด่าในใจอย่างบ้าคลั่งแถมที่ด้านหลังของเขาก็เป็นหลินเสวี่ยฮุ่ย และไม่อาจทนให้เธอเห็นสภาพนี้ได้ไม่ต้องพูดถึงโอกาสที่จะได้จีบเลยจากนี้ไปเขา เจียงปินก็จะเป็นหนูเร่ร่อนข้างถนน และชื่อเสียงที่เหม็นโฉ่และถ้าหากเรื่องนี้แพร่งพรายไปถึงเมืองเจิ้งเต๋อ พ่อของเขาที่อยู่ที่นั่นละก็เกรงว่าสิ่งที่รอเขาอยู่จะไม่ใช่เพียงการดุด่าเท่านั้น แต่รวมถึงการถูกทุบตีจากพ่อและตัดการสนับสนุนทางการเงินอีกด้วย เพราะการกระทำของเขา ทำให้ชื่อเสียงพ่อของเขาได้รับความเสียหายอย่างมากหลังจากนี้หากมีใครก็ตามที่มาหาพ่อของเขา แล้วพูดถึงเจียงปิน เช่นนั้นจะต้องเป็นการถูกคนอื่นหัวเราะเยาะและล้อเลียนแน่ ๆ!“หลินเฟิง....หลินเสวี่ยฮุ่ย โจวเสี่ยวหาง พวกแก...พวกนายรอฉันก่อนเถอะ ฉันจะ
เมื่อเผชิญหน้ากับการจากไปของเจียงปิน บรรยากาศของพิธีสำเร็จการศึกษาก็อึมครึมลงเรื่อย ๆ จนถึงขั้นได้ยินเสียงเข็มหล่นกันเลยทีเดียว“เอ๊ะ....เด็กคนนี้มีนิสัยแบบนี้ ทำให้ความหวังดีของพ่อเขาเสียเปล่าจริง ๆ”เมื่อจางเต๋อหลินเห็นฉากนี้ ก็ถอนหายใจออกมาอย่างเงียบ ๆหากพูดตรง ๆคุณสมบัติของเจียงปินก็ไม่เลวเขายังมีความคิดที่จะรับเขาเป็นลูกศิษย์ด้วยแล้วทุกอย่างที่ทำไปเมื่อครู่ก็เพื่อปลูกฝังนิสัยของเขา ให้เขาได้เรียนรู้ความอ่อนน้อมถ้อมตนและความชอบธรรม แล้วยังอยากแสดงให้หลินเฟิงได้เห็นอีกด้วยอย่างน้อยก็ทำให้หลินเฟิงได้เห็นถึงท่าทางของเขาบางทีหากมีความสุข หลินเฟิงอาจจะละทิ้งความแค้นในอดีตแล้วให้คำแนะนำได้แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเด็กคนนี้จะไม่รับน้ำใจ ถึงขั้นแสดงอารมณ์ออกมาต่อหน้าทุกคน มันทำให้คนผิดหวังอย่างมาก“การเสียลูกศิษย์แบบนี้ไปก็ไม่เป็นไรหรอก คนที่มีนิสัยไม่ดี ไม่มีอะไรที่ต้องเสียดาย”จางเต๋อหลินก็คิดได้ในที่สุดแต่ทว่าจางเต๋อหลินก็ไม่รู้เช่นกันพ่อของเจียงปินสั่งให้เจียงปินไปรับใบปริญญาจากมหาวิทยาลัยเจียงโจวไม่อย่างนั้น เขาก็ไม่อาจจะประสบความสำเร็จในต่างประเทศได้ขนาดนี้ และก็คงไม
เห็นได้ชัดว่าหลินเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกเสียใจอยู่เล็กน้อย แต่ก็ทำได้เพียงปล่อยหลินเฟิง แล้วเดินลงจากเวทีไปอย่างไม่เต็มใจ“คุณหลิน บอกฉันหน่อย คุณคิดยังไงกับหลินเสวี่ยฮุ่ย?”โจวเสี่ยวหางรับใบปริญญา พร้อมกับเอ่ยถามเสียงต่ำว่า :“เสวี่ยฮุ่ย? เธอเป็นน้องสาวของผม เป็นคนที่อาจารย์ของผมฝากฝังให้ดูแลไปตลอดชีวิต”หลินเฟิงยิ้มเบา ๆอย่างสงบเสงี่ยมแล้วพูดขึ้นว่า :“อืม ฉันเข้าใจแล้ว”โจวเสี่ยวหางพยักหน้า ก่อนจะโค้งคำนับหลินเฟิง แล้วเดินออกจากเวทีไปพร้อมกับใบปริญญาเมื่อมองไปที่ร่างของโจวเสี่ยวหาง หลินเฟิงก็เหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างเห็นได้ชัดว่าเด็กสาวคนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเพื่อน ๆหลังจากมอบใบปริญญาเสร็จแล้วก็เป็นการแสดงทางศิลปวรรณคดีอิ่นนั่วเจียขึ้นนำไปบนเวทีเพื่อแสดงเรียกน้ำย่อยก่อน แล้วร้องเพลงให้ครูและนักเรียนทุกคนฟัง ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตกตะลึง และทำได้แค่เพียงพูดว่าสมแล้วที่เป็นซูเปอร์สตาร์ของประเทศมังกร ไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ด้านการแสดงเท่านั้น แต่น้ำเสียงก็ยังยอดเยี่ยมอีกด้วยหลังจากที่อิ่นนั่วเจียลงจากเวทีไปก็มีคนที่ไม่คาดฝันปรากฏตัวขึ้น“ฮ่าฮ่า ศาสตราจารย์หลิน คิดไม่ถึงเ
“ยังมีใครดีเลิศกว่าคุณอีก?”โจวเสี่ยวหางยกคิ้วขึ้น และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะพร้อมกับเอ่ยว่า :“คุณหลิน คุณนี่น่าสนใจจริง ๆ คุณเก่งเรื่องการให้ความหวังยิ่งกว่าประธานในบริษัทเหล่านั้นอีกนะ”“ดีกว่าคุณ....พูดได้น่าฟัง บนโลกนี้ยังจะมีอีกสักกี่คนที่เก่งกว่าคุณบ้าง?”“แค่กแค่ก นักศึกษาโจวเสี่ยวหางชมกันเกินไป จริง ๆแล้วผมก็เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ที่แต่งงานไปอยู่บ้านภรรยา แล้วถูกเขาไล่ออกมา”หลินเฟิงแตะที่จมูก พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า :“คนที่เก่งกว่าผมมีอีกตั้งมากมาย”“เอาล่ะ ไม่ล้อเล่นกับคุณแล้ว”โจวเสี่ยวหางพูดขึ้นน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังว่า :“เกี่ยวกับเสวี่ยฮุ่ย ฉันได้ถามลองเชิงเธอแล้ว และเธอก็ชอบคุณจริง ๆ”“คุณหลิน ถ้าหวังดีกับเสวี่ยฮุ่ย วันนี้คุณไม่ควรจะมาปรากฏตัวเลย และยิ่งไม่ควรทำตัวโดดเด่นขนาดนี้ต่อหน้าเธอด้วย”“ในเมื่อคุณทำถึงขนาดนี้แล้ว งั้นก็ต้องรับผิดชอบเธอด้วย”“เข้าใจหรือเปล่า? คุณหลิน?”โจวเสี่ยวหางพูดจริงจังอย่างมาก ก่อนจะจ้องมองไปที่หลินเฟิงหลินเฟิงรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย น้องสาวคนนี้อายุน้อยกว่าเขามาก แถมอาจารย์ก็ยังมอบความไว้วางใจให้เขาดู
“พี่หลินเฟิง ไม่..ไม่ต้องสนใจฉัน พี่รีบหนีเร็ว!”หลินเสวี่ยฮุ่ยที่ยังคงมีสติอยู่ และเมื่อเผชิญหน้ากับอันธพาลที่ดุร้ายสี่สิบห้าสิบคน เธอก็รู้สึกว่าหลินเฟิงอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาขณะดิ้นรน ก็ตะโกนไปทางหลินเฟิง“เสวี่ยฮุ่ย.....”คิ้วของหลินเฟิงผ่อนคลายลง จากนั้นก็กำหมัดแน่น“หึ หลินเฟิง ทั้งหมดมันเป็นเพราะนาย ไอ้สารเลว วันนี้ทำให้ฉันต้องเสียหน้า ไม่ต้องห่วง หลังจากที่ฉันจัดการกับนายแล้ว ฉันก็จะปรนนิบัติสาวของแกเป็นอย่างดีเลย”เจียงปินดึงผมของหลินเสวี่ยฮุ่ย ก่อนจะเอาหน้าไปเข้าใกล้กับหลินเสวี่ยฮุ่ย แล้วสูดดม พูดอย่างเคลิบเคลิ้มว่า :“เป็นอย่างที่คิดไว้ สาวงามประเทศมังกรแตกต่างจากสาวต่างประเทศพวกนั้น ไม่เพียงไม่เหม็นสาบ แต่ยังมีกลิ่นที่หอมอีกด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊ หลินเฟิง นายมีน้องสาวที่ดี จริง ๆเลย ฮ่าฮ่าฮ่า....”เจียงปินหัวเราะเสียงดังลั่นหลินเสวี่ยฮุ่ยที่ถูกดึงผมเอาไว้รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากจนน้ำตาไหลนองหน้า แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ เธอก็ยังคงดิ้นรนต่อไป“พี่หลินเฟิง พี่รีบหนีไปเร็ว!”“ขอโทษ ฉันไม่ควรเรียกพี่มาเลย พี่หลินเฟิง พี่หนีไปเร็ว.....”“เฮ้อ....”หลังจากได้ยินคำพูดของเส
“ส่วบ!”หลินเฟิงยกมีดสปาต้าขึ้น ฟันลงอย่างแรงแต่หยุดลงบนหน้าผากของอันธพาลที่มุ่งหน้าเข้ามาด้วยความแม่นยำ ส่วนอันธพาลคนนัเนในตอนนี้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ที่เท้ายังมีของเหลวที่เหม็นสาบไหลลงมา“ไสหัวไป!”หลินเฟิงเหลือบมองซ้ายขวา ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ถ้าหากทำการฆ่าฟันต่อหน้าเหล่านักศึกษา เกรงว่าจะทิ้งความทรงจำที่เลวร้ายเอาไว้ให้พวกเขาดังนั้นหลินเฟิงจึงหยุดลงมือได้ทันเวลาและเมื่อเห็นภาพนี้ อันธพาลที่อยู่รอบๆ ก็รู้แล้วว่า หลินเฟิงเป็นผู้ฝึกฝน ถึงขั้นที่ยังเป็นนักบู๊พวกเขาที่เป็นเพียงแค่คนชั้นต่ำเหล่านี้ จึงไม่สามารถสร้างอันตรายใดๆ ให้กับหลินเฟิงได้กลับกันพวกเขาอาจจะกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิตอีกด้วยคิดถึงตรงนี้ พวกอันธพาลที่เจียงปินใช้เงินจ้างมาก็หันหลังหนีเตลิด ไม่สนใจเสียงร้องตะโกนแหบแห้งของเจียงปิน“ไอ้เวร อย่าหนีนะ!”“เอาเงินของฉันไป แต่ละคนต่างเป็นเหมือนกับคนปอดแหก!”“อย่าหนี! ลุยเข้าไปให้ฉัน!”เจียงปินจับอันธพาลที่วิ่งหนีได้คนหนึ่ง ดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้สุดแรง ไม่ให้เขาหนีไปแต่อันธพาลเห็นหลินเฟิงเดินมาทางเขา สีหน้าก็เปลี่ยนไปดุดันทันที“ฉันสู้เขาไม่ได้ ยังจะสู้แก
“พี่หลินเฟิง...”ในตอนนี้เอง หลินเสวี่ยฮุ่ยเดินโซเซเข้ามาที่ด้านข้างของหลินเฟิง และหายใจหอบพูดขอร้องว่า:“พี่หลินเฟิง ไม่เอา...อย่าวู่วามนะ ถ้าหากฆ่าเขา...พี่ก็จะเดือดร้อน!”“พี่หลินเฟิง อย่าวู่วามเด็ดขาด อย่า...”หลินเสวี่ยฮุ่ยจับแขนของหลินเฟิงไว้ พูดขอความเมตตาได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆๆ ก็หลับตาลง และหมดสติล้มไปบนพื้น“เสวี่ยฮุ่ย!”หลินเฟิงเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ยหมดสติ จึงไม่สนใจเจียงปินอีกต่อไปเขารีบผลักเจียงปินไปที่ด้านข้าง ประคองหลินเสวี่ยฮุ่ยขึ้นมา และหลับตาลงตรวจภายในร่างกายของหลินเสวี่ยฮุ่ยไม่นานนัก หลินเฟิงก็พบว่าภายในร่างกายของหลินเสวี่ยฮุ่ยมีไฟหยินกลุ่มหนึ่งที่ยิ่งอยู่ยิ่งโหมกระหน่ำสำหรับอาการแบบนี้ หลินเฟิงงงงวยเล็กน้อย แต่ไม่นานนัก จู่ๆ เขาก็นึกถึงเหล้าที่เจียงปินฝืนกรอกปากให้หลินเสวี่ยฮุ่ยในเหล้านั้น คงจะผสมยาที่กระตุ้นอารมณ์บางอย่าง เพิ่มไฟหยินขึ้นมา“ไอ้สารเลว!”หลินเฟิงจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าเจียงปินคิดอะไรอยู่เขาจึงโกรธขึ้นมาฉับพลัน แต่ติดตรงที่ตรงนี้อยู่ภายใต้สายตาของทุกคน ไม่สามารถถอนพิษให้เสวี่ยฮุ่ยที่ตรงนี้ได้ ดังนั้นทำได้เพียงไว้ชีวิตเจียงปินก่อนชั่วคราว
เขาฝังเข็มโดนใช้ใจอย่างมาก แต่ละเข็มฝังลงไปได้อย่างแม่นยำในที่สุดหลังจากที่หมอเทวดาเลี่ยวฝังเข็มสุดท้ายลงบนหน้าอกของเฝิงอวี้อู่ ความมืดบนใบหน้าของเฝิงอวี้อู่ก็ลดลงอย่างน่าอัศจรรย์แม้แต่ลมหายใจก็มั่นคงขึ้นไม่น้อย“เอ๊ะ?”เมื่อเห็นภาพนี้ เฝิงหลีที่อยู่ไกลออกไปดูตกใจ“นี่คือยาล้างพิษ แม้จะไม่ได้ผลเท่ากับยาของอาจารย์ของผม แต่ก็เป็นแบบจำลองที่วิจัยออกมาโดยศูนย์การแพทย์ตระกูลเลี่ยวของผม”ขณะพูด หมอเทวดาเลี่ยวยัดยาเม็ดสีเหลืองขนาดเท่าลำไยเข้าไปในปากของเฝิงอวี้อู่ยาเม็ดนี้ทานเข้าไปแล้วจะน้ำลายไหล ในสายตาของทุกคน ยาเม็ดนั้นกลายเป็นลูกบอลสีเหลืองไหลลงคอของเฝิงอวี้อู่ทันทีส่วนเฝิงอวี้อู่กลับไอสองครั้งในขณะที่หมดสติใบหน้าก็แดงก่ำอย่างผิดปกติ“ได้ผลจริงๆ ด้วย!”เห็นลูกชายของตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฝิงชางตื่นเต้นมากจนเขาคุกเข่าให้หมอเทวดาเลี่ยวทันที“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาเลี่ยว ก่อนหน้านี้คุณถ่อมตัวเกินไปแล้วจริงๆ!”เฝิงชางเห็นภาพนี้ คิดว่าลูกชายของตัวเองรอดแล้ว เมื่อครู่เป็นแค่คำถ่อมตัวของหมอเทวดาเลี่ยวและในตอนนี้หมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันเพราะวิธีการที่
เมื่อดูแบบนี้ เป็นที่น่าตื่นตะลึงหัวใจของหมอเทวดาเลี่ยวก็กระตุกมองแค่ใบหน้า ก็รู้ว่าคุณชายเฝิงอยู่ได้ไม่นานแล้ว หน้าผากเต็มไปด้วยอากาศสีดำ ใบหน้าดูเหมือนตายแล้ว นี่มันถูกพิษที่ไหนกันนี่เป็นการยื้อลมหายใจสุดท้ายด้วยซ้ำ!หากปล่อยลมหายใจสุดท้ายนี้ออกมา คุณชายตระกูลเฝิงคงจะตายไปนานแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? หมอเทวดาเลี่ยว?”เฝิงชางและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ รีบถามด้วยความกังวลนี่คือลูกชายของเขา ยังเป็นความหวังสำหรับอนาคตของตระกูลเฝิงของพวกเขาอีกด้วย ตอนนี้เห็นลูกชายกลายเป็นแบบนี้ หัวใจของเฝิงชางแทบจะแตกสลาย“ผู้นำตระกูลเฝิงไม่ต้องร้อนใจ”หน้าผากของหมอเทวดาเลี่ยวเต็มไปด้วยเหงื่อถ้าหากพูดว่าเมื่อครู่เขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความหวัง สามารถใช้ความคิดส่วนตัวของตัวเองได้ แต่ตอนนี้ หัวใจของเขาจมลงสู่ก้นบึ้งแค่มองรูปลักษณ์ภายนอกของคุณชายเฝิง อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้อาจารย์ของเขามา เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกลับมาได้“เฮ้อ…”หมอเทวดาเลี่ยวถอนหายใจ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน“พิษที่คุณชายเฝิงโดนได้แทรกซึมเข้าอวัยวะภายในแล้ว เกรงว่ากระเพาะทะลุลำไส้เน่าไปแล้ว เหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”“ผมทำ
ไม่ต้องพูดถึงหมอเทวดาเลี่ยวที่มีสถานะอันสูงส่งเลยพูดไร้สาระมากกว่านี้ นั่นก็เป็นการหาเรื่องใส่ตัวถ้าอีกฝ่ายโกรธและปฏิเสธที่จะทำการรักษา ตระกูลเฝิงจะหันไปพึ่งใครได้?หรือว่าจะไปหาหลินเฟิงคนนั้นงั้นเหรอ?“เมืองเจิ้งเต๋อ?”หมอเทวดาเลี่ยวตกตะลึงเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วว่าช่วงนี้หลินเฟิงอยู่ที่เมืองเจิ้งเต๋อ แต่เมื่อเห็นท่าทางของตระกูลเฝิงในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้จึงทำได้แค่พยักหน้า ความสงสัยนี้วางเอาไว้ก่อนในเมื่อเมืองเจิ้งเต๋อมีคนมากมาย แต่คนที่สามารถกำเริบเสิบสานที่ตระกูลเฝิงได้กลับมีไม่เยอะหมอเทวดาเลี่ยวก็รู้สึกสงสัยเป็นธรรมดา“หึหึ หมอเทวดาเลี่ยว เชิญทางด้านนี้ครับ”เฝิงชางนำทางอยู่ข้างหน้า พาหมอเทวดาเลี่ยวไปที่ชั้นลอยโบราณ ทุกคนเพิ่งผลักประตูเขาไปก็ได้รับกลิ่นหอมที่รุนแรงของยา“อืม? เทียนหลงเสียน เจิ้นเฟิงจือ…”ยังไม่ได้เข้าห้อง หมอเทวดาเลี่ยวก็ย่นปลายจมูก ได้กลิ่นหอมอันล้ำค่าของสมุนไพรสมบัติล้ำค่าจำนวนมากได้ยินหมอเทวดาเลี่ยวพูดชื่อยาสมุนไพรมากกว่าสิบชนิดที่ไม่ขาดไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงชางและเฟิงเอ้อค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นรีบพยักหน้าพูดว่า:“หมอเทวดา
“เดี๋ยวนะไอ้หนุ่ม สมองของนายไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”“ชู่วชู่วชู่ว อย่าเพิ่งพูด ให้ไอ้หมอนี่พูดพร่ำเพ้อไปเถอะ ให้หมอเทวดาเลี่ยวกราบเขา พรวด...”ทั้งสองคนพากันหัวเราะจนปวดท้องเนื่องด้วยคำพูดโอ้อวดของหลินเฟิงหมอเทวดาเลี่ยวมีสถานะอะไร?ทำไมจะต้องคุกเข่ากราบให้นายเด็กหนุ่มที่ไม่มีชื่อเสียง และอวดดีอย่างบ้าระห่ำแบบนี้ด้วย?เขายิ้มบางพูดว่า:“ถ้าหากผมพูดได้ไม่ถูกต้อง เช่นนั้นผมจะคุกเข่ากราบทั้งสองท่าน ชีวิตน้อยๆ ของผมก็จะปล่อยให้พวกคุณสองคนจัดการ”“แต่ถ้าหากผมพูดถูกต้อง...”หลินเฟิงมองไปทางทั้งสองคนและพูดอย่างนิ่งเฉยว่า:“พวกคุณคุกเข่าลง และคลานจากตรงนี้ไปที่หน้าประตูจวนตระกูลเฝิง อีกทั้งขณะที่คลาน จะต้องเลียนแบบหมาเห่าด้วย เป็นยังไง?”เห็นหลินเฟิงเล่นจริง ผู้คุ้มกันทั้งสองนิ่งอึ้งเล็กน้อยพวกเขาเห็นสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของหลินเฟิง ในใจก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยดูยังไง ไอ้หมอนี่ก็ตั้งใจล่อให้พวกเขาติดกับชัดๆแต่ว่าการเดิมพันเกินเหตุไปหน่อยไหมให้หมอเทวดาเลี่ยว หมอเทวดาเมืองจิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังกราบตรงหน้าเขา อีกทั้งขอร้องให้เขาลงมือรักษา?เรื่องแบบนี้พูดออกไปใคร
“คุณท่านรอง ไอ้หมอนี่พาลเกเรที่ตระกูลเฝิงของเราครับ!”“ใช่ครับคุณท่านรอง ไอ้หมอนี่กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!””วันนี้พวกเราจะปิดประตูตีสุนัข สั่งสอนเขาอย่างดีสักหน่อย!”“หุบปาก”ฟังถึงตรงนี้ เฝิงเอ้อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเหลือบมองหลินเฟิง ไม่ได้พูดขอโทษอะไร แต่กลับมองไปทางลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ผู้ที่มาเยือนคือแขก ตระกูลเฝิงของเราจะให้คนนอกหัวเราะเยาะไม่ได้”“แยกย้ายไปให้หมด!”“แต่ว่าคุณท่านรอง...”“ทำไม?”เฝิงเอ้อถลึงตาใส่ และพูดด้วยความโมโห:“ไม่ฟังคำสั่งของฉันงั้นเหรอ?”“......”เห็นเฝิงเอ้อแสดงอำนาจ ลูกศิษย์ตระกูลเฝิงที่อยู่ในเหตุการณ์ทำได้แค่ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ และพากันแยกย้าย ก่อนจะเดินออกไป ก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่หลินเฟิง“คุณหลินเฟิง ไม่ว่าคุณจะมองตระกูลเฝิงของเรายังไง ลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาอบรมสั่งสอน”“หวังว่าคุณจะเข้าใจ”หลังจากพูดคำเหล่านี้จบ เฝิงเอ้อก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหลินเฟิงได้ยินแบบนี้ ก็รู้ว่าเฝิงเอ้อคนนี้ไม่ได้รู้สึกคาดหวังอะไรต่อเขาเลยสักนิด สำหรับเรื่องที่หลินเฟิงพูดว่าสามารถแก้พิษให้อวี
หลินเฟิงตามกลุ่มคนตระกูลเฝิงมาที่ตึกเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังตรงสวนหลังบ้าน ยังไม่ได้เข้าประตู หลินเฟิงก็เห็นหมอเทวดาเลี่ยวที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งติดตามมาเขาไม่ได้เข้าไปทักทาย แต่ยืนอยู่นอกกลุ่มคนเพราะว่าผู้คุ้มกันของตระกูลเฝิงสองคนจับตาดูเขาอยู่ตลอดพวกเขาสองคนอนุญาตให้หลินเฟิงรออยู่ตรงนี้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปยุ่งวุ่นวายในเมื่อเฝิงอวี้อู่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงและอำนาจมากที่สุดในตระกูลเฝิงพวกเขาได้ยินมานานแล้วว่า สภาพครึ่งเป็นครึ่งตายของคุณชายเฝิงอวี้อู่ในตอนนี้ เป็นฝีมือของหลินเฟิงถึงแม้หลินเฟิงไม่ได้เป็นคนวางยา และหลินเฟิงก็ชี้แจงแล้วว่า เขาไม่ใช่คนชั่วช้าต่ำทรามที่ใช้แผนลวงทำร้ายคนอื่นแต่ความโมโหแบบนี้ยังคงมีอยู่และยิ่งเป็นคนชั้นล่างของตระกูลเฝิง ผลกระทบแบบนี้ก็ยิ่งมีมากดังนั้นเหล่าผู้คุ้มกันตระกูลเฝิง จึงยังคงมีท่าทางไม่เป็นมิตรต่อหลินเฟิงเป็นอย่างมากถึงขั้นที่มีลูกศิษย์ของตระกูลเฝิงจำนวนมากขยับเข้ามา อยากจะประลองฝีมือกับหลินเฟิง ลองดูว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆ หรือไม่ถ้าหากไม่ได้ผู้คุ้มกันตระกูลเฝิงขวางไว้ ตรงนี้คงเกิดการปะทะครั้งใหญ่ขึ้นตั้งนานแล
“ง่ายมาก”หลินเฟิงยืดอก พูดด้วยความมั่นใจว่า:“ผมช่วยแก้พิษให้เฝิงอวี้อู่ ส่วนคุณ บอกเบาะแสะของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม เป็นยังไง?”“พรวด”คิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงเพิ่งพูดแบบนี้จบ เฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ ก็หัวเราะออกมาเขามองไปทางหลินเฟิงด้วยความเยาะหยันและพูดว่า:“คุณหลินคนนี้ คุณคงไม่ได้คิดว่าพวกเราโง่เหมือนกับคุณหรอกนะ? ใครจะเชื่อคำพูดไร้สาระของคุณได้?”“ผมได้พูดกำชับหลายครั้งแล้วว่า ยาโลหิตปลิดชีพเป็นยาพิษพิเศษของสำนักร้อยพิษ ไม่ใช่ผู้อาวุโสของเราแก้พิษก็ไม่มีทางแก้ได้”“ส่วนคุณพูดจาโอ้อวดอยู่ตรงนี้ ไม่กลัวว่าฟ้าจะผ่าลิ้นบ้างเหรอ?”เผชิญหน้ากับการเยาะหยันของเฝิงหลี หลินเฟิงไม่ได้รู้สึกโกรธเพียงแค่ส่ายหน้าช้าๆ พูดว่า:“ผู้นำตระกูลเฝิง ผมมองออกถึงความลำบากใจของคุณ”“ไม่สู้เอาแบบนี้ คุณพาผมไปพบเฝิงอวี้อู่ตอนนี้ รักษาหายไม่หาย ก็คิดบัญชีกับผมได้”“ถ้าหากรักษาหาย คุณก็บอกเบาะแสของหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊กับผม แต่ถ้าหากรักษาไม่หาย...ผมก็จะติดเชื้อพิษ และก็จะต้องตายเพราะคำพูดโอ้อวดของผม”“เป็นยังไง?”ได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองของหลินเฟิง เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อย
“ขู่นายนี่แหละ จะทำไม?”เฝิงเอ้อก็ไม่เสแสร้งแล้ว เขาชักดาบสะท้อนแสงเล่มใหญ่ออกมาจากด้านหลัง ฟันไปบนโต๊ะเสียงดังปึง จ้องมองหลินเฟิงด้วยความดุดันและพูดอย่างโมโหว่า:“วันนี้ถ้านายพูดไม่ชัดเจน นายก็อย่าได้คิดจะออกจากตระกูลเฝิงเลย!”“พรวด...”ในตอนที่บรรยากาศค่อยๆ เปลี่ยนไปตึงเครียดเฝิงหลีที่อยู่ข้างๆ กลับหลุดหัวเราะออกมากระทันหัน“นายหัวเราะอะไร?!”เฝิงเอ้อไม่พอใจอย่างมากเป้าหมายที่เขาข่มขู่หลินเฟิงแบบนี้ ก็เพราะไม่อยากให้ไอ้หมอนี่สมหัวงถ้าหากสามารถได้รับวิธีการรักษาอวี้อู่จากตัวหลินเฟิง งั้นพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องมอบตัวหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ออกไปแล้วเมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มพันธมิตรบู๊แล้วและก็ไม่ต้องทิ้งจุดอ่อนเอาไว้แต่ทว่าแม้แต่เรื่องที่แม้แต่เฝิงเอ้อยังสามารถคิดได้ เฝิงหลีจะคิดไม่ได้ได้อย่างไร?เขากวาดตามองหลินเฟิงด้วยความเหยียดหยาม และก็มองไปทางเฝิงเอ้ออีกครั้ง:“ฉันว่านะพี่รอง ฉันเคยพูดไว้แล้ว พิษที่อวี้อู่โดนคือยาโลหิตปลิดชีพ พิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลก”“บนโลกนี้แล้ว นอกจากผู้อาวุโสของสำนักร้อยพิษ ก็ไม่มีใครสามารถแก้พิษนี้ได้แล้ว”“ไอ้ห
“ที่คุณหลินพูดถึง ไม่ทราบว่ารับการไหว้วานมาจากใคร? ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไม?”ตอบกลับด้วยคำถามง่ายๆเตะบอลกลับมาที่เท้าของหลินเฟิงใหม่อีกครั้ง“ได้รับการไหว้วานจากพ่อของผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ สำหรับเรื่องที่ตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ทำไมนั้น...”หลินเฟิงหยุดชะงัก ในหัวครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว และยิ้มบางพูดว่า:“ตอนเด็กผมเคยมีหมั้นหมายกับผู้นำกลุ่มพันธมิตรบู๊ ที่มาตามหาในวันนี้ เพื่อให้การหมั้นหมายเสร็จสมบูรณ์”“หือ?”เฝิงชางนิ่งอึ้งเล็กน้อยผู้นำของกลุ่มพันธมิตรบู๊มีหมั้นหมายแล้วงั้นเหรอ? ภายในกลุ่มพันธมิตรบู๊ก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไม่ใช่ว่าไอ้หมอนี่พูดจาซี้ซั้วหรอกนะ?เฝิงชางหรี่ตาลง ในใจครุ่นคิดไม่หยุดส่วนทางด้านหลินเฟิงเขาจำเป็นต้องหาข้ออ้างที่สมเหตุสมผล หาสถานะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เพื่อที่จะให้เขาตามหาผู้นำกลุ่มพันธมิตรไม่อย่างนั้นคุณจะเข้ายุ่งเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ได้อย่างไร?ในตอนนี้เอง หลินเฟิงก็มีข้ออ้างแล้วหยินหลิงเป็นหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรของพวกคุณ เป็นเรื่องภายในของกลุ่มพันธมิตรบู๊ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเท็จแต่ฉันตามหาคู่หมั้นของตัวเอง มีปัญหาไ