“พี่หลินเฟิง ไม่..ไม่ต้องสนใจฉัน พี่รีบหนีเร็ว!”หลินเสวี่ยฮุ่ยที่ยังคงมีสติอยู่ และเมื่อเผชิญหน้ากับอันธพาลที่ดุร้ายสี่สิบห้าสิบคน เธอก็รู้สึกว่าหลินเฟิงอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาขณะดิ้นรน ก็ตะโกนไปทางหลินเฟิง“เสวี่ยฮุ่ย.....”คิ้วของหลินเฟิงผ่อนคลายลง จากนั้นก็กำหมัดแน่น“หึ หลินเฟิง ทั้งหมดมันเป็นเพราะนาย ไอ้สารเลว วันนี้ทำให้ฉันต้องเสียหน้า ไม่ต้องห่วง หลังจากที่ฉันจัดการกับนายแล้ว ฉันก็จะปรนนิบัติสาวของแกเป็นอย่างดีเลย”เจียงปินดึงผมของหลินเสวี่ยฮุ่ย ก่อนจะเอาหน้าไปเข้าใกล้กับหลินเสวี่ยฮุ่ย แล้วสูดดม พูดอย่างเคลิบเคลิ้มว่า :“เป็นอย่างที่คิดไว้ สาวงามประเทศมังกรแตกต่างจากสาวต่างประเทศพวกนั้น ไม่เพียงไม่เหม็นสาบ แต่ยังมีกลิ่นที่หอมอีกด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊ หลินเฟิง นายมีน้องสาวที่ดี จริง ๆเลย ฮ่าฮ่าฮ่า....”เจียงปินหัวเราะเสียงดังลั่นหลินเสวี่ยฮุ่ยที่ถูกดึงผมเอาไว้รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากจนน้ำตาไหลนองหน้า แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ เธอก็ยังคงดิ้นรนต่อไป“พี่หลินเฟิง พี่รีบหนีไปเร็ว!”“ขอโทษ ฉันไม่ควรเรียกพี่มาเลย พี่หลินเฟิง พี่หนีไปเร็ว.....”“เฮ้อ....”หลังจากได้ยินคำพูดของเส
“ส่วบ!”หลินเฟิงยกมีดสปาต้าขึ้น ฟันลงอย่างแรงแต่หยุดลงบนหน้าผากของอันธพาลที่มุ่งหน้าเข้ามาด้วยความแม่นยำ ส่วนอันธพาลคนนัเนในตอนนี้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ที่เท้ายังมีของเหลวที่เหม็นสาบไหลลงมา“ไสหัวไป!”หลินเฟิงเหลือบมองซ้ายขวา ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ถ้าหากทำการฆ่าฟันต่อหน้าเหล่านักศึกษา เกรงว่าจะทิ้งความทรงจำที่เลวร้ายเอาไว้ให้พวกเขาดังนั้นหลินเฟิงจึงหยุดลงมือได้ทันเวลาและเมื่อเห็นภาพนี้ อันธพาลที่อยู่รอบๆ ก็รู้แล้วว่า หลินเฟิงเป็นผู้ฝึกฝน ถึงขั้นที่ยังเป็นนักบู๊พวกเขาที่เป็นเพียงแค่คนชั้นต่ำเหล่านี้ จึงไม่สามารถสร้างอันตรายใดๆ ให้กับหลินเฟิงได้กลับกันพวกเขาอาจจะกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิตอีกด้วยคิดถึงตรงนี้ พวกอันธพาลที่เจียงปินใช้เงินจ้างมาก็หันหลังหนีเตลิด ไม่สนใจเสียงร้องตะโกนแหบแห้งของเจียงปิน“ไอ้เวร อย่าหนีนะ!”“เอาเงินของฉันไป แต่ละคนต่างเป็นเหมือนกับคนปอดแหก!”“อย่าหนี! ลุยเข้าไปให้ฉัน!”เจียงปินจับอันธพาลที่วิ่งหนีได้คนหนึ่ง ดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้สุดแรง ไม่ให้เขาหนีไปแต่อันธพาลเห็นหลินเฟิงเดินมาทางเขา สีหน้าก็เปลี่ยนไปดุดันทันที“ฉันสู้เขาไม่ได้ ยังจะสู้แก
“พี่หลินเฟิง...”ในตอนนี้เอง หลินเสวี่ยฮุ่ยเดินโซเซเข้ามาที่ด้านข้างของหลินเฟิง และหายใจหอบพูดขอร้องว่า:“พี่หลินเฟิง ไม่เอา...อย่าวู่วามนะ ถ้าหากฆ่าเขา...พี่ก็จะเดือดร้อน!”“พี่หลินเฟิง อย่าวู่วามเด็ดขาด อย่า...”หลินเสวี่ยฮุ่ยจับแขนของหลินเฟิงไว้ พูดขอความเมตตาได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆๆ ก็หลับตาลง และหมดสติล้มไปบนพื้น“เสวี่ยฮุ่ย!”หลินเฟิงเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ยหมดสติ จึงไม่สนใจเจียงปินอีกต่อไปเขารีบผลักเจียงปินไปที่ด้านข้าง ประคองหลินเสวี่ยฮุ่ยขึ้นมา และหลับตาลงตรวจภายในร่างกายของหลินเสวี่ยฮุ่ยไม่นานนัก หลินเฟิงก็พบว่าภายในร่างกายของหลินเสวี่ยฮุ่ยมีไฟหยินกลุ่มหนึ่งที่ยิ่งอยู่ยิ่งโหมกระหน่ำสำหรับอาการแบบนี้ หลินเฟิงงงงวยเล็กน้อย แต่ไม่นานนัก จู่ๆ เขาก็นึกถึงเหล้าที่เจียงปินฝืนกรอกปากให้หลินเสวี่ยฮุ่ยในเหล้านั้น คงจะผสมยาที่กระตุ้นอารมณ์บางอย่าง เพิ่มไฟหยินขึ้นมา“ไอ้สารเลว!”หลินเฟิงจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าเจียงปินคิดอะไรอยู่เขาจึงโกรธขึ้นมาฉับพลัน แต่ติดตรงที่ตรงนี้อยู่ภายใต้สายตาของทุกคน ไม่สามารถถอนพิษให้เสวี่ยฮุ่ยที่ตรงนี้ได้ ดังนั้นทำได้เพียงไว้ชีวิตเจียงปินก่อนชั่วคราว
“เธอถูกพิษ อดทนหน่อย กลับไปฉันจะถอนพิษให้เธอ”หลินเฟิงกัดฟัน อดกลั้นกับร่างกายหญิงสาวที่อ่อนนุ่ม ตั้งสมาธิทั้งหมดไปที่บนถนนที่อยู่นอกรถ“อื้อ...อืม”หลินเสวี่ยฮุ่ยครวญคราง แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างเชื่อฟังกว่าจะกลับมาถึงอ่าวเทียนสุ่ยได้หลินเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง อุ้มหลินเสวี่ยฮุ่ยเข้าไปในห้องของเธอโดยตรง โชคดีที่ตอนนี้ในคฤหาสน์ไม่มีคนพอดีจ้าวเฉียวอวิ๋นก็กำลังยุ่งอยู่ที่ในร้าน ไม่ได้กลับมาส่วนอิ่นนั่วเจียกับพวกอวี๋จื่อเสวียนออกจากมหาวิทยาลัยไปที่บริษัท หลังจากเสร็จสิ้นงานรับปริญญาของพวกเธอตอนนี้ก็ยังไม่กลับมานี่เป็นโอกาสดีที่หาได้ยากมาก...เพิ่งคิดถึงตรงนี้ หลินเฟิงก็เกือบจะทนไม่ไหวจนตบหน้าตัวเอง โอกาสดีที่หาได้ยากอะไรกัน?หลินเฟิงฝืนยิ้มออกมา ภายในห้องรับน้ำอาบอ่างใหญ่ ละลายยาแก้พิษ และใช้พลังชี่แท้เร่งให้ออกฤทธิ์ไม่นานนัก น้ำในอ่างอาบน้ำนี้ก็ส่งกลิ่นยาออกมา“เอาล่ะเสวี่ยฮุ่ย ตอนนี้เธอ...”หลินเฟิงเพิ่งหันหน้าไป ก็เห็นหลินเสวี่ยฮุ่ยในตอนนี้แต่งตัวเย็นสบายอย่างมาก สวมแค่เพียงชุดชั้นใน เห็นสายตาตะลึงงันของหลินเฟิง เธอก็ยิ้มซื่อๆ เหมือนกับดื่มเหล้าเมาและพูดว่า:“ร้อนมาก ฉั
เขาอุ้มหลินเสวี่ยฮุ่ยออกมาจากในอ่างอาบน้ำ วางลงบนเตียงก็อยากจะออกจากห้องของเธอไปทั้งแบบนี้แต่เห็นท่าทางหลับสนิทของหลินเสวี่ยฮุ่ย และผมกับร่างกายที่เปียกชุ่ม หลินเฟิงก็อดไม่ได้หากจะเดินจากไปโดยตรงถ้าหลับต่อไปแบบนี้ ต้องไม่สบายแน่นอนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลินเฟิงถึงได้ทำการตัดสินใจยังไงเธอก็หลับแล้ว ไม่รู้อะไรทั้งนั้นหลินเฟิงค้นหาเสื้อผ้าของหลินเสวี่ยฮุ่ยในตู้เสื้อผ้า และใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดร่างกายให้เธอสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นชุดแนบเนื้อที่สะอาดสะอ้านระหว่างนี้ หลินเฟิงถึงแม้จะพยายามเต็มที่แล้ว แต่สิ่งที่ควรดูไม่ควรดูเขาก็ดูจนหมดแล้วเขารู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างมาก แต่โชคดีที่สุดท้ายก็เปลี่ยนเสร็จหลินเฟิงถอนหายใจยาวๆ ออกจากห้องของหลินเสวี่ยฮุ่ยเหมือนหนีตาย......หลินเฟิงไม่กล้าอยู่ต่อนานนักเขากลัวว่าหลังจากหลินเสวี่ยฮุ่ยตื่นขึ้นมา เมื่อนึกถึงบรรยากาศกระอักกระอ่วนระหว่างทั้งสองคน ดังนั้นจึงรีบขับรถออกจากเมืองเจียงโจวในคืนเดียวกันวันต่อมาเขาปรากฏตัวที่เมืองเจิ้งเต๋อ มารายงานตัวที่หลี่ซื่อกรุ๊ปตรงเวลาในฐานะหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป งานของหลินเฟิงพูดได้ว
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหลี่เหวินเชาต้องการที่จะเลี่ยงความรับผิดชอบชายที่ถูกเรียกว่ารองประธานโจวก็ลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะเดินไปข้าง ๆหลี่เหวินเชา แล้วจับคอเสื้อของเขา พร้เอมกับด่าทอว่า :“แล้วมันไม่ใช่ความคิดของไอ้สารเลวอย่างแกเหรอ? ที่บอกว่าเอาที่ดินตรงนี้ ไปหลอกเอาเงินแม่ของแกเพื่อมาใช้หนี้พนัน.....”“แม่งเอ๊ย ตอนนี้กลับเป็นคนในครอบครัวของแกได้เปรียบไป”รองประธานโจวโยนหลี่เหวินเชาลงบนโซฟาแล้วตะโกนใส่ว่า :“ฉันจะให้เวลาแกสามวันไปคิดหาทางซื้อที่ดินตรงนี้คืนจากกลับมาให้ฉัน หากซื้อคืนกลับมาไม่ได้ นายก็รอถูกตัดหัวได้เลย!”หลังจากที่พูดคำนี้จบ ประธานโจวก็ทุบโต๊ะ“รปภ.!”ทันใดนั้น ประตูบานคู่ของสำนักงานก็เปิดออก ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่ดูแข็งแกร่งและสูงสองเมตรจะเดินเข้ามา“จับมันโยนออกไป!”รองประธานโจวชี้ไปที่หลี่เหวินเชา พร้อมกับตะโกนขึ้น“ครับ รองประธานโจว”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนหิ้วปีกหลี่เหวินเชาออกไปจากบริษัทราวกับจับลูกไก่ แล้วไปโยนทิ้งไว้บนถนนเหมือนกับสุนัขที่ตายแล้วตัวหนึ่ง“พวกแก....พวกแกจะเกินไปแล้วนะ!”หลี่เหวินเชาลุกขึ้นจากพื้น พร้อมกับป
“ไอ้สารเลว แกยังกล้ากลับมาอีกนะ!”ทันทีที่จางกุ้ยหลานเห็นหลี่เหวินเชา สีหน้าก็เปลี่ยนไป ก่อนที่จะเริ่มด่าทอหลี่เหวินเชาทำเธอเจ็บปวดอย่างมากสุดท้ายหากไม่ใช่หลินเฟิงที่เป็นคนโดนโกง แล้วเอาที่ดินที่ขายไม่ออกตรงนั้นไปเธอก็คงจะเดือดร้อนมากแน่ ๆไม่เพียงแค่สูญเสียวิลล่าหรูหราเท่านั้น ถึงขั้นที่ถูกคนไล่ล่าอีกด้วยจุดจบแบบนั้น แค่คิดก็ทำให้จางกุ้ยหลานสั่นไปทั้งตัวเมื่อเห็นตัวการสำคัญคนนี้ จางกุ้ยหลานก็ไม่สามารถระงับความโกรธในใจได้อีกต่อไป ก่อนจะชี้ไปที่หน้าของหลี่เหวินเชาและด่าทอเสียงดัง“ไอ้สารเลวน่ารังเกียจ แกต้องการจะฆ่าแม่ของแกให้ตาย! แล้วตอนนี้แกยังกล้าโผล่หน้ามาเจอฉันอีกเหรอ?!”“แม่ แม่ก็พูดเกินไป”หลี่เหวินเชาเกาหัว ก่อนจะยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน สุดท้ายก็วางดอกไม้ที่พามาด้วยไว้บนโต๊ะที่อยู่ด้านข้างจางกุ้ยหลานแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจางกุ้ยหลานจะไม่ซาบซึ้งเลยแม้แต่น้อยก่อนจะปัดช่อดอกไม้ร่วงตกไปอยู่บนพื้น“แกออกไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก ฉันไม่มีลูกชายสารเลวที่หลอกได้แม้กระทั่งแม่อย่างแก!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของหลี่เหวินเชาก็เปลี่ยนไปแต่เมื่อเขาคิดถึงราคาที่ดินตรงนั้น
ถ้าไม่การคัดค้านอะไร ก็เซ็นใบหย่าเถอะคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ในเจียงโจวสาวงามในชุดกี่เพ้าผลักเอกสารไปตรงหน้าหลินเฟิงหญิงสาวตรงหน้านี้เป็นแม่ยายของเขา จางกุ้ยหลานเมื่อมองใบหย่าที่อยู่ตรงหน้า หลินเฟิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยคุณแม่ นี่หมายความว่าอะไรจางกุ้ยหลานกอดอก พูดอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ตระกูลหลี่เป็นบริษัทมหาชนแล้ว “ช่องว่างระหว่างคุณกับฮุ่ยหรานก็เริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ และไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆกับการงานของฮุ่ยหรานเลย” “มีแต่จะฉุดรั้งการพัฒนาของฮุ่ยหราน หากเป็นเช่นนี้ก็หย่ากันเร็วๆดีกว่า”หลินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ถามกลับว่า”นี่คือความคิดของฮุ่ยหรานหรือความคิดคุณแม่ครับ”จางกุ้ยหลานสีหน้าเย็นลง “นี่คือความคิดทุกคนของตระกูลหลี่เรา” “ที่คุณได้แต่งงานกับฮุ่ยหราน แค่เพราะสัญญาการแต่งงานที่คุณปู่ตั้งไว้” “สามปีมานี้ ที่คุณกินอยู่ในบ้านเรา ตระกูลหลี่เรามีความเมตตาต่อคุณมากแล้ว “ถ้าคุณรู้ตัว ก็รีบเซ็นชื่อ”หลินเฟิงหายใจเข้าลึกๆสามปีก่อน เขาใช้ความสัมพันธ์ทั้งหมดของตัวเองที่มีเพื่อช่วยพัฒนาตระกูลหลี่ช่วยพัฒนาเป็นบริษัทมหาชนจากร้านค้าที่เล็กๆแต่ในสายตาของตระกูลหลี่ เขากลับกลายเป
“ไอ้สารเลว แกยังกล้ากลับมาอีกนะ!”ทันทีที่จางกุ้ยหลานเห็นหลี่เหวินเชา สีหน้าก็เปลี่ยนไป ก่อนที่จะเริ่มด่าทอหลี่เหวินเชาทำเธอเจ็บปวดอย่างมากสุดท้ายหากไม่ใช่หลินเฟิงที่เป็นคนโดนโกง แล้วเอาที่ดินที่ขายไม่ออกตรงนั้นไปเธอก็คงจะเดือดร้อนมากแน่ ๆไม่เพียงแค่สูญเสียวิลล่าหรูหราเท่านั้น ถึงขั้นที่ถูกคนไล่ล่าอีกด้วยจุดจบแบบนั้น แค่คิดก็ทำให้จางกุ้ยหลานสั่นไปทั้งตัวเมื่อเห็นตัวการสำคัญคนนี้ จางกุ้ยหลานก็ไม่สามารถระงับความโกรธในใจได้อีกต่อไป ก่อนจะชี้ไปที่หน้าของหลี่เหวินเชาและด่าทอเสียงดัง“ไอ้สารเลวน่ารังเกียจ แกต้องการจะฆ่าแม่ของแกให้ตาย! แล้วตอนนี้แกยังกล้าโผล่หน้ามาเจอฉันอีกเหรอ?!”“แม่ แม่ก็พูดเกินไป”หลี่เหวินเชาเกาหัว ก่อนจะยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน สุดท้ายก็วางดอกไม้ที่พามาด้วยไว้บนโต๊ะที่อยู่ด้านข้างจางกุ้ยหลานแต่คิดไม่ถึงเลยว่าจางกุ้ยหลานจะไม่ซาบซึ้งเลยแม้แต่น้อยก่อนจะปัดช่อดอกไม้ร่วงตกไปอยู่บนพื้น“แกออกไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าแก ฉันไม่มีลูกชายสารเลวที่หลอกได้แม้กระทั่งแม่อย่างแก!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของหลี่เหวินเชาก็เปลี่ยนไปแต่เมื่อเขาคิดถึงราคาที่ดินตรงนั้น
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหลี่เหวินเชาต้องการที่จะเลี่ยงความรับผิดชอบชายที่ถูกเรียกว่ารองประธานโจวก็ลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะเดินไปข้าง ๆหลี่เหวินเชา แล้วจับคอเสื้อของเขา พร้เอมกับด่าทอว่า :“แล้วมันไม่ใช่ความคิดของไอ้สารเลวอย่างแกเหรอ? ที่บอกว่าเอาที่ดินตรงนี้ ไปหลอกเอาเงินแม่ของแกเพื่อมาใช้หนี้พนัน.....”“แม่งเอ๊ย ตอนนี้กลับเป็นคนในครอบครัวของแกได้เปรียบไป”รองประธานโจวโยนหลี่เหวินเชาลงบนโซฟาแล้วตะโกนใส่ว่า :“ฉันจะให้เวลาแกสามวันไปคิดหาทางซื้อที่ดินตรงนี้คืนจากกลับมาให้ฉัน หากซื้อคืนกลับมาไม่ได้ นายก็รอถูกตัดหัวได้เลย!”หลังจากที่พูดคำนี้จบ ประธานโจวก็ทุบโต๊ะ“รปภ.!”ทันใดนั้น ประตูบานคู่ของสำนักงานก็เปิดออก ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนที่ดูแข็งแกร่งและสูงสองเมตรจะเดินเข้ามา“จับมันโยนออกไป!”รองประธานโจวชี้ไปที่หลี่เหวินเชา พร้อมกับตะโกนขึ้น“ครับ รองประธานโจว”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนหิ้วปีกหลี่เหวินเชาออกไปจากบริษัทราวกับจับลูกไก่ แล้วไปโยนทิ้งไว้บนถนนเหมือนกับสุนัขที่ตายแล้วตัวหนึ่ง“พวกแก....พวกแกจะเกินไปแล้วนะ!”หลี่เหวินเชาลุกขึ้นจากพื้น พร้อมกับป
เขาอุ้มหลินเสวี่ยฮุ่ยออกมาจากในอ่างอาบน้ำ วางลงบนเตียงก็อยากจะออกจากห้องของเธอไปทั้งแบบนี้แต่เห็นท่าทางหลับสนิทของหลินเสวี่ยฮุ่ย และผมกับร่างกายที่เปียกชุ่ม หลินเฟิงก็อดไม่ได้หากจะเดินจากไปโดยตรงถ้าหลับต่อไปแบบนี้ ต้องไม่สบายแน่นอนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลินเฟิงถึงได้ทำการตัดสินใจยังไงเธอก็หลับแล้ว ไม่รู้อะไรทั้งนั้นหลินเฟิงค้นหาเสื้อผ้าของหลินเสวี่ยฮุ่ยในตู้เสื้อผ้า และใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดร่างกายให้เธอสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นชุดแนบเนื้อที่สะอาดสะอ้านระหว่างนี้ หลินเฟิงถึงแม้จะพยายามเต็มที่แล้ว แต่สิ่งที่ควรดูไม่ควรดูเขาก็ดูจนหมดแล้วเขารู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างมาก แต่โชคดีที่สุดท้ายก็เปลี่ยนเสร็จหลินเฟิงถอนหายใจยาวๆ ออกจากห้องของหลินเสวี่ยฮุ่ยเหมือนหนีตาย......หลินเฟิงไม่กล้าอยู่ต่อนานนักเขากลัวว่าหลังจากหลินเสวี่ยฮุ่ยตื่นขึ้นมา เมื่อนึกถึงบรรยากาศกระอักกระอ่วนระหว่างทั้งสองคน ดังนั้นจึงรีบขับรถออกจากเมืองเจียงโจวในคืนเดียวกันวันต่อมาเขาปรากฏตัวที่เมืองเจิ้งเต๋อ มารายงานตัวที่หลี่ซื่อกรุ๊ปตรงเวลาในฐานะหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป งานของหลินเฟิงพูดได้ว
“เธอถูกพิษ อดทนหน่อย กลับไปฉันจะถอนพิษให้เธอ”หลินเฟิงกัดฟัน อดกลั้นกับร่างกายหญิงสาวที่อ่อนนุ่ม ตั้งสมาธิทั้งหมดไปที่บนถนนที่อยู่นอกรถ“อื้อ...อืม”หลินเสวี่ยฮุ่ยครวญคราง แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างเชื่อฟังกว่าจะกลับมาถึงอ่าวเทียนสุ่ยได้หลินเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง อุ้มหลินเสวี่ยฮุ่ยเข้าไปในห้องของเธอโดยตรง โชคดีที่ตอนนี้ในคฤหาสน์ไม่มีคนพอดีจ้าวเฉียวอวิ๋นก็กำลังยุ่งอยู่ที่ในร้าน ไม่ได้กลับมาส่วนอิ่นนั่วเจียกับพวกอวี๋จื่อเสวียนออกจากมหาวิทยาลัยไปที่บริษัท หลังจากเสร็จสิ้นงานรับปริญญาของพวกเธอตอนนี้ก็ยังไม่กลับมานี่เป็นโอกาสดีที่หาได้ยากมาก...เพิ่งคิดถึงตรงนี้ หลินเฟิงก็เกือบจะทนไม่ไหวจนตบหน้าตัวเอง โอกาสดีที่หาได้ยากอะไรกัน?หลินเฟิงฝืนยิ้มออกมา ภายในห้องรับน้ำอาบอ่างใหญ่ ละลายยาแก้พิษ และใช้พลังชี่แท้เร่งให้ออกฤทธิ์ไม่นานนัก น้ำในอ่างอาบน้ำนี้ก็ส่งกลิ่นยาออกมา“เอาล่ะเสวี่ยฮุ่ย ตอนนี้เธอ...”หลินเฟิงเพิ่งหันหน้าไป ก็เห็นหลินเสวี่ยฮุ่ยในตอนนี้แต่งตัวเย็นสบายอย่างมาก สวมแค่เพียงชุดชั้นใน เห็นสายตาตะลึงงันของหลินเฟิง เธอก็ยิ้มซื่อๆ เหมือนกับดื่มเหล้าเมาและพูดว่า:“ร้อนมาก ฉั
“พี่หลินเฟิง...”ในตอนนี้เอง หลินเสวี่ยฮุ่ยเดินโซเซเข้ามาที่ด้านข้างของหลินเฟิง และหายใจหอบพูดขอร้องว่า:“พี่หลินเฟิง ไม่เอา...อย่าวู่วามนะ ถ้าหากฆ่าเขา...พี่ก็จะเดือดร้อน!”“พี่หลินเฟิง อย่าวู่วามเด็ดขาด อย่า...”หลินเสวี่ยฮุ่ยจับแขนของหลินเฟิงไว้ พูดขอความเมตตาได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆๆ ก็หลับตาลง และหมดสติล้มไปบนพื้น“เสวี่ยฮุ่ย!”หลินเฟิงเห็นหลินเสวี่ยฮุ่ยหมดสติ จึงไม่สนใจเจียงปินอีกต่อไปเขารีบผลักเจียงปินไปที่ด้านข้าง ประคองหลินเสวี่ยฮุ่ยขึ้นมา และหลับตาลงตรวจภายในร่างกายของหลินเสวี่ยฮุ่ยไม่นานนัก หลินเฟิงก็พบว่าภายในร่างกายของหลินเสวี่ยฮุ่ยมีไฟหยินกลุ่มหนึ่งที่ยิ่งอยู่ยิ่งโหมกระหน่ำสำหรับอาการแบบนี้ หลินเฟิงงงงวยเล็กน้อย แต่ไม่นานนัก จู่ๆ เขาก็นึกถึงเหล้าที่เจียงปินฝืนกรอกปากให้หลินเสวี่ยฮุ่ยในเหล้านั้น คงจะผสมยาที่กระตุ้นอารมณ์บางอย่าง เพิ่มไฟหยินขึ้นมา“ไอ้สารเลว!”หลินเฟิงจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าเจียงปินคิดอะไรอยู่เขาจึงโกรธขึ้นมาฉับพลัน แต่ติดตรงที่ตรงนี้อยู่ภายใต้สายตาของทุกคน ไม่สามารถถอนพิษให้เสวี่ยฮุ่ยที่ตรงนี้ได้ ดังนั้นทำได้เพียงไว้ชีวิตเจียงปินก่อนชั่วคราว
“ส่วบ!”หลินเฟิงยกมีดสปาต้าขึ้น ฟันลงอย่างแรงแต่หยุดลงบนหน้าผากของอันธพาลที่มุ่งหน้าเข้ามาด้วยความแม่นยำ ส่วนอันธพาลคนนัเนในตอนนี้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ที่เท้ายังมีของเหลวที่เหม็นสาบไหลลงมา“ไสหัวไป!”หลินเฟิงเหลือบมองซ้ายขวา ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ถ้าหากทำการฆ่าฟันต่อหน้าเหล่านักศึกษา เกรงว่าจะทิ้งความทรงจำที่เลวร้ายเอาไว้ให้พวกเขาดังนั้นหลินเฟิงจึงหยุดลงมือได้ทันเวลาและเมื่อเห็นภาพนี้ อันธพาลที่อยู่รอบๆ ก็รู้แล้วว่า หลินเฟิงเป็นผู้ฝึกฝน ถึงขั้นที่ยังเป็นนักบู๊พวกเขาที่เป็นเพียงแค่คนชั้นต่ำเหล่านี้ จึงไม่สามารถสร้างอันตรายใดๆ ให้กับหลินเฟิงได้กลับกันพวกเขาอาจจะกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิตอีกด้วยคิดถึงตรงนี้ พวกอันธพาลที่เจียงปินใช้เงินจ้างมาก็หันหลังหนีเตลิด ไม่สนใจเสียงร้องตะโกนแหบแห้งของเจียงปิน“ไอ้เวร อย่าหนีนะ!”“เอาเงินของฉันไป แต่ละคนต่างเป็นเหมือนกับคนปอดแหก!”“อย่าหนี! ลุยเข้าไปให้ฉัน!”เจียงปินจับอันธพาลที่วิ่งหนีได้คนหนึ่ง ดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้สุดแรง ไม่ให้เขาหนีไปแต่อันธพาลเห็นหลินเฟิงเดินมาทางเขา สีหน้าก็เปลี่ยนไปดุดันทันที“ฉันสู้เขาไม่ได้ ยังจะสู้แก
“พี่หลินเฟิง ไม่..ไม่ต้องสนใจฉัน พี่รีบหนีเร็ว!”หลินเสวี่ยฮุ่ยที่ยังคงมีสติอยู่ และเมื่อเผชิญหน้ากับอันธพาลที่ดุร้ายสี่สิบห้าสิบคน เธอก็รู้สึกว่าหลินเฟิงอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาขณะดิ้นรน ก็ตะโกนไปทางหลินเฟิง“เสวี่ยฮุ่ย.....”คิ้วของหลินเฟิงผ่อนคลายลง จากนั้นก็กำหมัดแน่น“หึ หลินเฟิง ทั้งหมดมันเป็นเพราะนาย ไอ้สารเลว วันนี้ทำให้ฉันต้องเสียหน้า ไม่ต้องห่วง หลังจากที่ฉันจัดการกับนายแล้ว ฉันก็จะปรนนิบัติสาวของแกเป็นอย่างดีเลย”เจียงปินดึงผมของหลินเสวี่ยฮุ่ย ก่อนจะเอาหน้าไปเข้าใกล้กับหลินเสวี่ยฮุ่ย แล้วสูดดม พูดอย่างเคลิบเคลิ้มว่า :“เป็นอย่างที่คิดไว้ สาวงามประเทศมังกรแตกต่างจากสาวต่างประเทศพวกนั้น ไม่เพียงไม่เหม็นสาบ แต่ยังมีกลิ่นที่หอมอีกด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊ หลินเฟิง นายมีน้องสาวที่ดี จริง ๆเลย ฮ่าฮ่าฮ่า....”เจียงปินหัวเราะเสียงดังลั่นหลินเสวี่ยฮุ่ยที่ถูกดึงผมเอาไว้รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากจนน้ำตาไหลนองหน้า แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ เธอก็ยังคงดิ้นรนต่อไป“พี่หลินเฟิง พี่รีบหนีไปเร็ว!”“ขอโทษ ฉันไม่ควรเรียกพี่มาเลย พี่หลินเฟิง พี่หนีไปเร็ว.....”“เฮ้อ....”หลังจากได้ยินคำพูดของเส
“ยังมีใครดีเลิศกว่าคุณอีก?”โจวเสี่ยวหางยกคิ้วขึ้น และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะพร้อมกับเอ่ยว่า :“คุณหลิน คุณนี่น่าสนใจจริง ๆ คุณเก่งเรื่องการให้ความหวังยิ่งกว่าประธานในบริษัทเหล่านั้นอีกนะ”“ดีกว่าคุณ....พูดได้น่าฟัง บนโลกนี้ยังจะมีอีกสักกี่คนที่เก่งกว่าคุณบ้าง?”“แค่กแค่ก นักศึกษาโจวเสี่ยวหางชมกันเกินไป จริง ๆแล้วผมก็เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ที่แต่งงานไปอยู่บ้านภรรยา แล้วถูกเขาไล่ออกมา”หลินเฟิงแตะที่จมูก พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า :“คนที่เก่งกว่าผมมีอีกตั้งมากมาย”“เอาล่ะ ไม่ล้อเล่นกับคุณแล้ว”โจวเสี่ยวหางพูดขึ้นน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังว่า :“เกี่ยวกับเสวี่ยฮุ่ย ฉันได้ถามลองเชิงเธอแล้ว และเธอก็ชอบคุณจริง ๆ”“คุณหลิน ถ้าหวังดีกับเสวี่ยฮุ่ย วันนี้คุณไม่ควรจะมาปรากฏตัวเลย และยิ่งไม่ควรทำตัวโดดเด่นขนาดนี้ต่อหน้าเธอด้วย”“ในเมื่อคุณทำถึงขนาดนี้แล้ว งั้นก็ต้องรับผิดชอบเธอด้วย”“เข้าใจหรือเปล่า? คุณหลิน?”โจวเสี่ยวหางพูดจริงจังอย่างมาก ก่อนจะจ้องมองไปที่หลินเฟิงหลินเฟิงรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย น้องสาวคนนี้อายุน้อยกว่าเขามาก แถมอาจารย์ก็ยังมอบความไว้วางใจให้เขาดู
เห็นได้ชัดว่าหลินเสวี่ยฮุ่ยรู้สึกเสียใจอยู่เล็กน้อย แต่ก็ทำได้เพียงปล่อยหลินเฟิง แล้วเดินลงจากเวทีไปอย่างไม่เต็มใจ“คุณหลิน บอกฉันหน่อย คุณคิดยังไงกับหลินเสวี่ยฮุ่ย?”โจวเสี่ยวหางรับใบปริญญา พร้อมกับเอ่ยถามเสียงต่ำว่า :“เสวี่ยฮุ่ย? เธอเป็นน้องสาวของผม เป็นคนที่อาจารย์ของผมฝากฝังให้ดูแลไปตลอดชีวิต”หลินเฟิงยิ้มเบา ๆอย่างสงบเสงี่ยมแล้วพูดขึ้นว่า :“อืม ฉันเข้าใจแล้ว”โจวเสี่ยวหางพยักหน้า ก่อนจะโค้งคำนับหลินเฟิง แล้วเดินออกจากเวทีไปพร้อมกับใบปริญญาเมื่อมองไปที่ร่างของโจวเสี่ยวหาง หลินเฟิงก็เหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างเห็นได้ชัดว่าเด็กสาวคนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเพื่อน ๆหลังจากมอบใบปริญญาเสร็จแล้วก็เป็นการแสดงทางศิลปวรรณคดีอิ่นนั่วเจียขึ้นนำไปบนเวทีเพื่อแสดงเรียกน้ำย่อยก่อน แล้วร้องเพลงให้ครูและนักเรียนทุกคนฟัง ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตกตะลึง และทำได้แค่เพียงพูดว่าสมแล้วที่เป็นซูเปอร์สตาร์ของประเทศมังกร ไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ด้านการแสดงเท่านั้น แต่น้ำเสียงก็ยังยอดเยี่ยมอีกด้วยหลังจากที่อิ่นนั่วเจียลงจากเวทีไปก็มีคนที่ไม่คาดฝันปรากฏตัวขึ้น“ฮ่าฮ่า ศาสตราจารย์หลิน คิดไม่ถึงเ