“หัวใจของนางหยุดเต้นนานแล้ว สมองกำลังตายลง ตอนที่พบนางหากข้าอยู่ที่นั่นด้วยอาจมีโอกาสรอด แต่บัดนี้ข้าทำได้เพียงให้นางตื่นตัวก่อนจากไปอย่างสงบ”เซี่ยเชียนฮวันวางมือของชุนถงลงแล้วส่ายหน้าสิ่งที่นางพูด มหาดเล็กเซวี่ยและคนอื่น ๆ ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่พวกเขาฟังคำว่าจากไปอย่างสงบออกชัดเจน“เพียงสามารถทำให้ชุนถงบอกว่าคนร้ายเป็นใครก็พอ!” มหาดเล็กเซวี่ยกล่าว“ข้าจะลองดู”เซี่ยเชียนฮวันหยิบเข็มหยกดำออกมาจากกล่องเซียวเย่หลันเห็นเข็มสีดำในมือของนาง จึงขมวดคิ้วขึ้นกล่าวว่า “เข็มเงินของเจ้าอยู่ไหน เจ้าใช้เข็มขึ้นสนิมเช่นนี้จะช่วยคนได้หรือ”“ขออภัยด้วย เข็มเล่มนี้เคยช่วยชีวิตน้อย ๆ ของเจ้าไว้”“เมื่อไร?”“ตอนที่เจ้าจำไม่ได้”เซี่ยเชียนฮวันไม่อยากเสียเวลาอธิบายให้เขาฟัง นางฝังเข็มลงไปยังหัวคิ้วของชุนถง อีกเล่มฝังลงไปยังยอดหัวกะโหลก เพียงแค่สองเข็มก็ทำให้คนที่ดูอยู่ด้านข้างหวาดกลัวไม่น้อยหากเป็นหมอคนอื่น อาจไม่กล้าฝังเข็มลงไปยังจุดเหล่านี้ หรืออาจเป็นลมทันทีที่ฝังเสร็จมีเพียงเซี่ยเชียนฮวันเท่านั้นที่มีความสามารถสูงส่งและกล้าหาญ แต่ละเข็มที่ฝังลงไป นางช่างสงบนิ่งไม่สั่นคลอน“แค่ก ๆ ...”
"หากไม่อยากให้จวิ้นเออร์แต่งเข้ามาในจวนอ๋อง เพียงบอกกับเราดี ๆ ก็ย่อมได้ เหตุใด... เหตุใดต้องใช้วิธีอันโหดเหี้ยมเช่นนี้ ทำลายความบริสุทธิ์ของจวิ้นเออร์...!"แม่เซวี่ยเห็นเซี่ยเชียนฮวันเป็นสตรีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตไปเสียแล้ว น้ำเสียงของนางเอ่ยขึ้นพร้อมน้ำตานองหน้า แต่ละคำราวแสดงความเจ็บปวดราวกับมีดกรีดหัวใจบรรดาขุนนางที่ถูกเชิญมาเป็นพยานต่างก็พากันแอบส่ายหน้า"พระชายาจ้านอ๋องนับวันยิ่งจิตใจโหดเหี้ยมขึ้นทุกที เดิมทีข้างคิดว่านางจะปรับปรุงนิสัยอันชั่วร้ายกลายเป็นคนดีแล้ว ใช้ความสามารถรักษาผู้เจ็บป่วย คิดไม่ถึงว่าแท้จริงแล้วจิตใจจะโหดเหี้ยม ยังคงเป็นคุณหนูแห่งจวนโหวผู้ชั่วร้ายดังเดิม”“ครั้งนี้นางทำเกินเหตุไปจริง ๆ "“นั่นสิ... บุตรสาวของมหาดเล็กเซวี่ยผู้บริสุทธิ์อ่อนช้อย กลับต้องมาถูกทรมานเสียจนเป็นบ้า”พวกเขาพากันกระซิบกระซาบมหาดเล็กเซวี่ยเป็นถึงมหาดเล็กผู้ที่ฮ่องเต้ให้ความโปรดปรานที่สุดแม้จะเทียบอัครมหาเสนาบดีหลี่ไม่ได้ แต่หนังสือที่เขากุมไว้ในมือมีความสำคัญยิ่งนัก จึงได้รับการเชื่อใจจากฮ่องเต้ บัดนี้เมื่อบุตรสาวของเขาถูกทำลายบริษัทความบริสุทธิ์ลง สร้างความอับอายขายหน้าให้แก่ต
"หากข้ากล่าวว่า ข้าไม่เคยให้ใครไปทำร้ายจวิ้นเออร์ เจ้าจะเชื่อข้าหรือไม่"เซี่ยเชียนฮวันหันกลับมามองไปทางเซียวเย่หลันเซียวเย่หลันนิ่งเงียบไม่พูดสิ่งใดออกมาเขาไม่ได้ให้คำตอบอันแน่ชัดอย่างทันควันแม้เมื่อคืนนี้เขาจะเห็นเซี่ยเชียนฮวันอยู่ในจวนอ๋องก็จริง แต่เซวี่ยจวิ้นก็หายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้เช่นกันจู่ ๆ น้ำเสียงของซูอวี้เออร์ก็ดังขึ้นในห้องโถง "ข้าได้ยินว่า คุณหนูรองเซวี่ยเคยไปหาพระชายาอ๋องที่โรงหมอ พระชายาอ๋องได้ให้ใบสั่งยาแก่นาง ในยานั้นอาจมีสิ่งผิดปกติก็ได้ ด้วยเหตุนี้คุณหนูรองเซวี่ยจึงถูกคนอื่นหลอกล่อไปง่าย ๆ ..."เมื่อครู่นางแอบฟังอยู่ข้างหลังฉากกั้น จึงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเซี่ยเชียนฮวันหันไปมองดูซูอวี้เออร์ด้วยแววตาเยือกเย็น เสื้อผ้าของนางไม่เป็นระเบียบ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย ดูเหมือนคืนนี้นางกับเซียวเย่หลันได้เกิดความสัมพันธ์กันแล้ว"ใบสั่งยาที่ข้าให้เซวี่ยจวิ้นนั้นเป็นเพียงยานอนหลับทั่วไป หมอทุกคนในโรงหมอล้วนเป็นพยานได้ พระชายารองซูเพิ่งจะขึ้นนั่งตำแหน่ง ก็รอไม่ไหวอยากจะใส่ร้ายข้าพร้อมกับคนนอกงั้นหรือ""พระชายาอ๋องเข้าใจผิดไปแล้ว ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้นเลย"ซ
คืนนี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากเซี่ยเชียนฮวันวางมือลงบนท้องเบา ๆ และเต็มไปด้วยความกังวล โดยไม่รู้ว่าพรุ่งนี้นางจะได้รับผลลัพธ์แบบไหนในเวลาเพียงแค่คืนเดียว เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับเซียวเย่หลันที่จะค้นหาผู้กระทำความผิดที่แท้จริง!ตอนนี้นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อในตัวผู้ชายคนนั้น…ไม่รู้ว่ารอมานานแค่ไหนเซี่ยเชียนฮวันพยุงศีรษะของนางด้วยมือเดียว และงีบหลับท่ามกลางความกังวล“ท่านอ๋อง!”เสี่ยวตงตะโกน ทำให้เซี่ยเชียนฮวันตื่นขึ้นมานางขมวดคิ้วและลุกขึ้นยืน ในสายตาที่พร่ามัวของนาง ร่างของชายคนนั้นก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางแสงยามเช้า“ข้าเจอพวกอันธพาลที่ลักพาตัวเซวี่ยจวิ้นแล้ว”เสียงทุ้มลึกของเซียวเย่หลัน ลอยเข้าหูของเซี่ยเชียนฮวันนางเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ “จริงหรือ? เร็วมาก!”ใช้เวลาแค่คืนเดียวก็สามารถหาคนเจอได้!สมแล้วที่เป็นเขาต่อให้ตี๋เหรินเจี๋ยจะกลับชาติมาเกิด เกรงว่าจะต้องชื่นชมวิธีการสืบสวนที่น่าทึ่งของชายคนนี้อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของเซียวเย่หลันกลับดูมืดมน ไม่สดใสเลยเขามองไปที่เซี่ยเชียนฮวันและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเขาเปิดเผยชื่อของผู้
“เซียวเย่หลัน แม้ว่าท่านจะไม่เชื่อข้า แต่ท่านไม่เชื่อเสี่ยวตงหรือหลินซวี่ที่ท่านฝึกเป็นการส่วนตัวเหรอ?”เซี่ยเชียนฮวันกัดริมฝีปากของนาง ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเซียวเย่หลันหรี่ตาลงและพูดอย่างใจเย็น “พวกเขาอยู่กับเจ้ามานาน จนกลายเป็นภักดีต่อเจ้าไปแล้ว”“ดี ดี...ท่านมีเหตุผลมาก” เซี่ยเชียนฮวันยิ้มอย่างขมขื่น “หากจิตใจของข้าเลวร้ายเพทุบายจริง แล้วพวกเขาจะภักดีกับข้าได้อย่างไร?”ทหารองค์รักษ์ของสำนักคุมประพฤติไม่ฟังคำอธิบาย ใส่กุญแจมือเซี่ยเชียนฮวันแล้วพานางไปเซี่ยเชียนฮวันทำได้เพียงตามพวกเขาไปเท่านั้นทุกย่างก้าว ทำให้นางมองย้อนกลับไปอย่างลึกซึ้ง“ในตอนแรกทุกคนล้วนบอกว่าเจ้าตายแล้ว แต่ข้าไม่เชื่อที่พวกเขาพูด ยืนหยัดตามหาเจ้า แต่ตอนนี้มีคนใส่ร้ายข้า บอกว่าข้าเป็นผู้บงการ เจ้ากลับเชื่ออย่างไม่สงสัย”“เซียวเย่หลัน การมาเป็นภรรยาท่าน คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตนี้”เสียงหัวเราะของเซี่ยเชียนฮวันดังขึ้นเรื่อยๆไม่เพียงแต่หัวเราะกับความโหดเหี้ยมของชายคนนั้นเท่านั้น แต่ยังหัวเราะกับความโง่เขลาของตัวเองอีกด้วยเพราะนางคิดว่าเขาจะคืนความบริสุทธิ์ของนางได้จริงๆหลังจากรอทั้งคืน เขาก็
อาหารกระจัดกระจายไปทั่วพื้น กลิ่นเหม็นหืนก็แพร่กระจายออกไปและรุนแรงขึ้นโชคดีที่ตอนนี้เป็นฤดูหนาวมิฉะนั้นหากยุงและหนูถูกดึงดูดจะยิ่งเจ็บปวดกว่านี้เซี่ยเชียนฮวันยังคงมีอาการแพ้ท้อง จึงเป็นเรื่องปกติ ที่พอได้กลิ่นเปรี้ยวและเหม็นหืนเหล่านี้ จะไม่สามารถควบคุมความอยากอาเจียนได้จริงๆนางยกผ้าห่มขึ้น วิ่งไปอีกมุมหนึ่งของห้องแล้วอาเจียนออกมา“แค่กๆ...”เซี่ยเชียนฮวันอาเจียนออกมาเป็นน้ำดี ปากของนางเต็มไปด้วยรสขมมันอึดอัดมากจริงๆก่อนหน้านี้นางมีอาการแพ้ท้อง แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนี้ ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนจะตายจริงๆ“เฮ้ อย่าอ้วกออกมาข้างนอก!”ผู้คุมเห็นดังนั้น จึงใช้แส้ฟาดลูกกรงอย่างดุร้าย และหวิดจะโดนร่างเซี่ยเชียนฮวันอยู่หลายครั้งนางทำได้เพียงกุมท้องแล้วเดินกลับไปทันใดนั้นนางก็มีแผนในใจความแตกต่างระหว่างสำนักคุมประพฤติกับเรือนจำธรรมดาคือ จะมีคนคอยบันทึกทุกการเคลื่อนไหวของนักโทษ และสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องรายงานต่อฮ่องเต้หากนางแสดงความเจ็บปวดมากขึ้น บางทีฮ่องเต้อาจจะใจอ่อนเพราะเห็นแก่สายโลหิตในท้องของนางเซี่ยเชียนฮวันเริ่มลงมือทันทีทันใดนั้นนางก็คุกเข่าลงกับพื้นโดยกุ
“เจ้าแอบนัดพบข้าที่นี่ มีเรื่องอันใด?”เซียวเย่หลันเงยหน้าขึ้น สีหน้าไร้อารมณ์จ้องมองสตรีที่เดินเข้ามาตรงหน้าตัวเองนางไม่เปิดเผยชื่อของนาง เพียงแต่บอกว่านางมีความลับสำคัญที่จะแบ่งปัน และเชิญเซียวเย่หลันมาพบกันที่นี่ในที่สุดนางก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วเป็นหลี่จิ้งหย่า“พี่เย่หลัน ที่นี่มีเพียงพวกเราสองคน ไม่จำเป็นต้องทำตัวห่างเหิน”หลี่จิ้งหย่านั่งลงข้างๆ เซียวเย่หลัน หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วคีบอาหารให้เขาเมื่อเห็นว่าชายคนนั้นไม่มีปฏิกิริยาใดๆ นางก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “พี่เย่หลันยังโกรธข้าหรือ? ที่ข้าแต่งงานกับเซียวฉงและทำหลายๆ อย่างเพราะไม่มีทางเลือก เป็นเซียวฉงที่ต้องการใส่ร้ายพระสนมหมิง”“ข้าได้พยายามโน้มน้าวเขาแล้ว แต่เขาเกรงว่าท่านจะร่วมมือกับองค์รัชทายาท และยืนกรานให้ข้าวางอุบายสร้างความร้าวฉานระหว่างพระสนมหมิงกับฮองเฮา ข้าไม่มีทางเลือกจริงๆ ดังนั้น...”พูดยังไม่ทันจบ ก็เห็นเซียวเย่หลันแสดงสีหน้าหมดความอดทนแล้วลุกขึ้นยืนนางรีบคว้าแขนเสื้อของชายคนนั้นแล้วพูดว่า “พี่เย่หลัน อย่าไป!”“ข้าเบื่อที่จะได้ยินคำพูดเหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก”เซียวเย่หลันไม่สนใจสถานการณ์ของหลี่จิ้งหย
“พี่เย่หลัน ท่านควรเข้าใจสิ่งที่ข้าหมายถึง”หลี่จิ้งหย่ากล่าวเสียงเบานางต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์เก่ากับเซียวเย่หลัน“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ข้าไม่ใช่พระชายาขององค์ชายรองอีกต่อไป และข้ายังคงอาศัยอยู่ในจวนของเซียวฉง แม้ว่าข้าจะรับใช้ท่าน ก็ไม่มีอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล”คราวนี้นางฆ่านกสองตัวด้วยธนูดอกเดียวบีบเซวี่ยจวิ้นให้เป็นบ้า และกำจัดเซี่ยเชียนฮวันจากนั้นข้างกายของเซียวเย่หลันก็เหลือแค่ซูอวี้เออร์คนเดียวนี่เกินไปหรือไม่?สำหรับนางแค่คนเดียว มันไม่พอเมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาอันเปี่ยมด้วยความรักของหลี่จิ้งหย่า เซียวเย่หลันก็ยังคงไม่มีสีหน้าใดๆ เลย เขาปัดมือของนางออกแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “แม้ว่าข้าจะถูกเหล่าขุนนางล้อมกรอบ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยชายกระโปรงของผู้หญิงมาช่วย”หลี่จิ้งหย่าหน้าแข็งทื่อนางเฝ้าดูเซียวเย่หลันยืนขึ้นและเปิดประตูแผ่นหลังของชายคนนั้นสูงใหญ่ และปล่อยกลิ่นอายอันเย็นออกมา ตอนที่เขามองย้อนกลับมา มุมหน้าของเขาก็สะท้อนกับเปลวไฟส่งผลให้ดูกดดันอย่างน่ากลัว“ครั้งนี้ มีข้อสงสัยในคดีของเซวี่ยจวิ้นมากมาย ถ้าเจ้ามีเบาะแส ข้าก็คงสนใจ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องอื่นอีก”
“มันมาจากไหน?”เซียวเย่หลันถามเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว “ตงไหล!”“ตงไหล...”พอได้ยินชื่อสถานที่นี้ สีหน้าของเซียวเย่หลันก็ขรึมลงเล็กน้อย เขานึกถึงคนๆ หนึ่งเซี่ยเชียนฮวันเอ่ยชื่อของคนที่อยู่ในความคิดของเขาทันที “รู้สึกว่าบังเอิญมากใช่หรือไม่? ยาที่พวกฆาตกรให้เหยื่อกินเป็นผลผลิตพิเศษจากตงไหล ประจวบเหมาะกับตอนที่พวกเขาจับคนร้ายแถบชานเมืองนั้น ฉินจีที่มีสมญานามว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งตงไหลถูกส่งตัวไปที่วังหลัง” “ช่างบังเอิญมากจริงๆ”เซียวเย่หลันจ้องไปที่หญ้าที่ส่งกลิ่นคาวปลาตายบนโต๊ะ นิ้ววางอยู่เหนือริมฝีปากแล้วบีบจมูกเบาๆเรื่องราวมากมายจริงๆเขาไม่รู้สึกว่าพวกนี้เป็นเรื่องบังเอิญทั้งสองเรื่องนี้ อย่างไรเสียก็ต้องเกี่ยวข้องกันเซี่ยเชียนฮวันพูดว่า “แล้วก็ ข้าให้เพื่อนไปสืบดูแล้ว เป็นเพราะหญ้าโช่วผิงถูกคนเข้าใจว่าเป็นยายืดอายุขัย มีจอมยุทธ์มากมายที่จะใช้มันกลั่นเป็นยาเพื่อใช้บำรุงสำหรับการฝึกยุทธ์”“เพื่อนเจ้าคนไหน? ผู้ชายหรือผู้หญิง?”จุดสนใจของเซียวเย่หลันอยู่ตรงนี้เซี่ยเชียนฮวันกลอกตามองบนอย่างไม่สบอารมณ์ “เถ้าแก่เนี้ยที่หอฮัวเยว่!”“อืม”ผู้หญิง เช่นนั้นเซียวเย่ห
ซูอวี้เออร์สีหน้าแข็งค้างสมควรตายคิดไม่ถึงเลยว่าพวกโจรโฉดพวกนี้จะได้รับข่าวสารว่องไวเพียงนี้!นางยังนึกว่า พวกเขาควรจะเป็นพวกโจรกระจอกในยุทธภพ ไม่ค่อยมีความเข้าใจเกี่ยวกับราชวงศ์นัก และนางเพิ่งตั้งครรภ์ไม่นาน จากภายนอกแล้วก็ดูไม่ออกหากเป็นเช่นนี้ นางในตอนนี้ก็กลายเป็นแกะน้อยเข้าถ้ำเสือแล้วสิ??ในขณะที่ซูอวี้เออร์เหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัวและกำลังคิดว่าจะรับมือต่ออย่างไรนั้น หัวหน้าชุดขาวก็เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ ไม่ต้องเป็นกังวลไป!”“เป้าหมายของพวกเราคือหญิงตั้งครรภ์ท้องโต เจ้าที่เพิ่งท้องแบบนี้ ทารกในครรภ์ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเลย ไม่มีประโยชน์อะไรกับเราสักนิด” อีกคนหนึ่งพูดเสียงเย็น หัวหน้าชุดขาวตบไปที่บ่าของพรรคพวกตัวเอง “เอาล่ะ อย่าทำให้นางตกใจไปเลย พวกเรากำลังต้องการเลือดเนื้อเชื้อไขของราชวงศ์ต้าเซี่ยพอดี นางยังช่วยพวกเราได้อีกมาก”สีหน้าของพรรคพวกคนนั้นแสดงออกถึงความแปลกใจเล็กน้อยแต่ ที่แห่งนี้ คำพูดของหัวหน้าคนเดียวที่ถือเป็นคำตัดสินสูงสุดเขาได้ตัดสินใจจะร่วมมือกับซูอวี้เออร์แล้วซูอวี้เออร์เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา “ตอนนี้ท่านอ๋องจะออกลาดตระเวนทุกคืน
ก่อนหน้านี้ เซียวจ้านได้พูดคุยกับนางหลายครั้งได้แสดงออกให้เห็นถึงความในใจอยู่บ้างแต่นางกลับไม่รู้เลยว่า เซียวจ้านนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นคนเอาแต่เล่นไม่เอาอ่าวอย่างที่เผยให้เห็นในรูปลักษณ์ภายนอก ตอนเด็กเขาก็ผ่านความเจ็บปวดมาไม่น้อยแต่พวกนั้นต่างก็เป็นการพูดคุยเปิดใจทั่วไปเซี่ยเชียนฮวันยืนยันได้ว่าระว่างนางกับเซียวจ้านนั้นไม่มีการข้ามเส้น มากที่สุดก็เรียกได้ว่าเป็นเพื่อน ไม่ได้เป็นเหมือนที่เซียวเย่หลันคิดนางแค่นเสียงเหอะ “เซียวเย่หลัน ข้าว่านะ เพราะเจ้าเคยแอบขโมย พอมองใครก็รู้สึกว่าเป็นโจรเสียหมด”“ข้าไม่เคยขโมยของใคร” เซียวเย่หลันถูกทำให้โกรธจนขำแล้วเซี่ยเชียนฮวันยกมุมปาก “ตัวเจ้ามีหญิงสาวมากมาย ซูอวี้เออร์นั้นข้าไม่นับแล้ว ยังมีหลี่จิ้งหย่าที่ชอบพอกันมาตั้งแต่เด็ก ผู้อื่นแต่งงานกับองค์ชายสองแล้ว เจ้ายังไปติดพันนางยากจะอธิบายได้ชัดเจนอยู่เลย”“เป็นเพราะว่าจิตใจของท่านอ๋องเองไม่บริสุทธิ์ ดังนั้น ถึงได้รู้สึกว่าระหว่างข้ากับองค์ชายห้านั้นพิเศษอย่างไรล่ะ”เซียวเย่หลันน้ำเสียงเย็นเยียบ “ตัวข้าไม่เคยติดพันกับหลี่จิ้งหย่าจนอธิบายไม่ได้”“งั้นหรือ? เช่นนั้นวันนั้นที่ข้าเห็น
“ข้าเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญ ไม่กลัวหรอก”เซี่ยเชียนฮวันปากแข็ง ดึงฝ่ามือออกจากมือของเซียวเย่หลันแล้วเริ่มชันสูตรศพทีละร่างหญิงสาวพวกนี้ตายเพราะเสียเลือดมากเกินไปพวกนางถูกกรีดร่างทั้งเป็น วิธีการทารุณมากแต่ที่แปลกคือ ภายในร่างของพวกนางกลับมีร่องรอยของยาอยู่ แต่ไม่ได้ถูกพิษอย่างที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพพูดพอเจ้าเมืองเห็นเซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้ว ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ เขาจึงบีบจมูกแล้วเดินไปด้านหน้าถามขึ้นว่า “พระชายาอ๋อง ท่านสังเกตพบสิ่งใดหรือไม่?”“จากที่ข้าสังเกต แทนที่จะพูดว่าพวกนางถูกพิษ ควรพูดว่าก่อนตาย พวกนางถูกคนกรอกยาชนิดหนึ่งให้กิน ไม่ถึงกับขั้นส่งผลร้ายต่อร่างกายมากนัก แต่ในเมื่อฆาตกรจะฆ่าพวกนางอยู่แล้ว เหตุใดต้องมากเรื่อง กรอกยาพวกนางด้วยเล่า”จุดที่เซี่ยเชียนฮวันคิดไม่ตกก็คือจุดนี้ในกระเพาะของทุกร่างล้วนมีเศษซากยาชนิดนี้เท่ากับว่า เรื่องนี้สำหรับฆาตกรแล้วเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้สำหรับฆาตกร ขั้นตอนนี้มีประโยชน์ต่อพวกเขาสูงสุดเซียวเย่หลันขมวดคิ้วเล็กน้อย “ยาชนิดนี้ทำขึ้นมาจากอะไรหรือ?”“น่าจะมีประโยชน์เพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่รายละเอียดต่างๆ ต้องรอให้ข้านำตั
“ใครน่ะ?!”เซี่ยเชียนฮวันตกใจเดินไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงมาอยู่ด้านหลังของนาง!พอนึกถึงเรื่องที่สตรีมีครรภ์หายตัวไปในช่วงนี้ ใจของเซี่ยเชียนฮวันก็เต้นตึกๆๆ รัวเป็นกลอง นางหันตัวขวับกลับมา นางก็ราดน้ำที่อยู่ในมือออกไปจนหมดจากนั้น...นางได้ทำให้ผมดกดำและเสื้อผ้าของเซียวเย่หลับเปียกไปหมดเซียวเย่หลันถูกน้ำราดทั้งหน้า หมดคำจะพูด ใช้มือเช็ดถูกแล้วพูดเสียงเย็น “การระมัดระวังตัวตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ต้องกลัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไป”“ใครให้เจ้ามาไม่ให้เสียงสักนิดล่ะ มาอย่างกับผี ตกใจหมดเลย” เซี่ยเชียนฮวันเองก็อารมณ์ไม่ดี “แต่ก่อนเจ้าไม่มาโรงหมอไม่ใช่หรือ วันนี้วิ่งแจ้นมาที่นี่ทำไม?”“หากไม่ใช่เพราะเจ้าเมืองซุ่นเทียนมาขอแล้วขออีก ข้าเองก็คร้านจะมา”เซียวเย่หลันแสดงท่าทางรังเกียจเต็มที่ หยิบเอาผ้าออกมาเช็ดหน้าเซี่ยเชียนฮวันไม่เข้าใจ “เจ้าเมืองซุ่นเทียนขอร้องเจ้า? เขาเองก็อยากซื้อครีมบำรุงให้ฮูหยินของตนหรือ?”“พบศพเหยื่อสาวแถวชานเมืองหลวง ฝ่ายชันสูตรบอกว่าพวกนางถูกพิษ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้แน่ชัดว่าเป็นพิษจากอะไร เจ้าเมืองซุ่นเทียนก็เลยอยากขอให้เจ้าช่วย”เซียวเย่หลันพูดอธิบายส
“รู้สิ ทำไมหรือ?”เซี่ยเชียนฮวันตะลึงตอนที่อยู่โรงหมอ นางได้ยินพวกชาวบ้านถกเถียงกันราวกับว่ามีหญิงสาวมากมายที่ถูกจับตัวหรือว่า ที่ฮ่องเต้เรียกตัวเซียวเย่หลันไปห้องทรงพระอักษรก็เพราะจะให้เขาตรวจสอบเรื่องนี้เซียวเย่หลันพูดเสียงทุ้มว่า “สตรีที่ถูกพวกเขาจับตัวไปล้วนเป็นสตรีมีครรภ์” “อะไรนะ???”เซี่ยเชียนฮวันอดตกใจไม่ได้!ตามหลักแล้ว สตรีที่ถูกจับตัวไปควรเป็นหญิงสาวอายุน้อย เหตุใดจึงเป็นสตรีมีครรภ์ล่ะ?“ตอนนี้ คนในเมืองหลวงในใจกระวนกระวาย เสด็จพ่อได้ออกประกาศห้ามออกจากเคหะสถานยามค่ำคืนแล้ว นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้าต้องนำทหารออกไปลาดตระเวนทุกคืน จนกว่าจะจับตัวพวกผู้ร้ายพวกนั้นได้”เซียวเย่หลันมองไปทางเซี่ยเชียนฮวันปราดหนึ่ง ยื่นมือไปบีบแก้มนาง “เจ้าดูแลเด็กน้อยในท้องของเจ้าให้ดี ช่วงนี้อย่าออกไปวิ่งพล่านที่ไหน ได้ยินไหม”“อื้อ”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างว่าง่ายไม่แปลกที่เซียวเย่หลันไม่ยอมให้นางช่วยที่แท้ก็เพราะแค่มีครรภ์ก็ตกอยู่ในอันตรายแล้ว เพื่อปกป้องเด็กน้อยในท้อง นางต้องไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงเซี่ยเชียนฮวันไม่ได้พูดเรื่องไปช่วยอีกนางติดตามเซียวเย่หลันกลับจวนอ๋อง แล้ว
หลังจากที่ได้เห็นฉากพยานแมวในเหตุการณ์กับตาตัวเองแล้ว สุดท้ายฉินจีก็ยอมรับด้วยตัวเองแล้ว นางคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ ตัวสั่นเทิ้มสีพระพักตร์ของฮ่องเต้เคร่งขึมดูแล้ว เป็นเหมือนดั่งที่เจ้าห้าพูดจริงๆ ด้วย ฉินจีตั้งใจปล่อยแมวไปทำให้เซี่ยเชียนฮวันตกใจไม่ว่าตอนนี้เขาจะลำเอียงรักและเอ็นดูฉินจีมากเพียงใด เรื่องนี้ข้องเกี่ยวกับลูกหลานของราชวงศ์ ไม่สามารถทำตัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้เหมือนเรื่องที่พวกนางสนมทั้งหลายแก่งแย่งความรักกัน เซียวเย่หลันเดินออกมา จ้องไปที่ฉินจีอย่างเย็นชา “ขอเสด็จพ่อลงโทษอย่างสาหัสด้วยพ่ะย่ะค่ะ”“ถ่ายทอดคำสั่ง ลำดับศักดิ์ของฉินจีลดขั้นลงเหลือเพียงไฉหนี่ว์ ถูกกักบริเวณในหอหลิวอินเป็นเวลาสามวัน ห้ามออกจากประตู”ฮ่องเต้กุมขมับ ไม่ได้มองไปทางฉินจีที่มีท่าทีน่าสงสารอีกทั้งลดลำดับศักดิ์ ทั้งถูกกักบริเวณ ถือว่าเป็นการให้เกียรติเซียวเย่หลันกับเซี่ยเชียนฮวันมากแล้ว เซี่ยเชียนฮวันยิ้มตาหยี “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ทรงให้ความยุติธรรมเพคะ”จากนั้น นางก็หันไปทางเซียวจ้าน ในดวงตาเรียวเล็กมีประกายแสงแสดงถึงความจริงจัง “และต้องขอบคุณน้องห้าด้วยที่พูดผดุงความยุติธรรมแก่ข้า”“น้
“ฝ่าบาท พระชายาจ้านอ๋องคงไม่ได้มีปัญหาที่ตรงนี้หรอกนะเพคะ”ฉินจีชี้ไปที่หัวของตัวเองฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ “เอาล่ะ อย่าได้พูดเช่นนี้เลย”ฮ่องเต้ไม่ได้เอาความกับคำพูดส่งเดชของฉินจีอย่างไรเสีย การพูดตรงๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของฉินจี ก็เหมือนหมิงเฟยอย่างนั้นหากไม่ใช่เพราะชอบนิสัยเช่นนี้ของนาง ฮ่องเต้ก็คงไม่ลำเอียงชอบนางมากกว่าทว่า ฮ่องเต้เองก็รู้สึกว่าเซี่ยเชียนฮวันราวกับว่าสมองถูกกระทบกระเทือน กลับมาตั้งคำถามกับแมวอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่รู้ว่านางจะมาไม้ไหนอีก“หากแมวตัวนั้นตอบคำถามของพระชายาจ้านอ๋องจริงๆ หม่อมฉันยอมรับโทษเพคะ” ฉินจีหัวเราะเยาะเย้ยเบาๆ“เจ้าเป็นคนพูดเองนะ” เซี่ยเชียนฮวันนั่งปัดมืออยู่ที่พื้น “เอาล่ะ เป็นแมวที่สัตย์ซื่อหน่อยซิ”“เหมียว เหมียว เหมียว?” เจ้าแมวขาวเอียงหัวเล็กน้อยเซียวเย่หลันเองก็ทนดูไม่ค่อยไหวแล้ว อยากจะลากตัวนางออกไปทันใดนั้น ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเซี่ยเชียนฮวันกำลังก่อเรื่องนั้น เจ้าแมวขาวกลับยื่นอุ้งมือออกมา!มันทำเหมือนที่เซี่ยเชียนฮวันพูดจริงๆ ด้วย ข่วนไปที่หยกห้อยเอวที่อยู่ด้านขวาผู้คนต่างสีหน้าเปลี่ยนสี“เป็นไปไม่ได้!” ฉินจีโพล่งออก
“ฝ่าบาททรงรอบรู้ หม่อมฉันเพียงแต่พูดความจริงเท่านั้น”ฉินจีหลุบตาลงฮ่องเต้มองไปที่เซียวจ้านแล้วพูดว่า “เจ้าห้า เจ้าเป็นคนมีมารยาทดีมาโดยตลอด ทำไมวันนี้ต้องมีปัญหากับฉินเออร์ด้วย”“ทูลเสด็จพ่อ ลูกไม่ได้ตั้งใจจะมุ่งเป้าไปที่ผู้ใด เพียงแต่เห็นฉินเจี๋ยอวี๋กับพระชายาจ้านอ๋องโต้เถียงกัน จากนั้นพระชายาจ้านอ๋องเกือบจะล้ม ซึ่งเลี่ยงไม่ได้ที่คนจะรู้สึกสงสัย”เซียวจ้านประกบมือคำนับแล้วกล่าวขึ้นในเวลานี้ ในที่สุดเซียวเย่หลันก็เอ่ยปากถามเซี่ยเชียนฮวันที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ล้มหรือเปล่า”“ไม่เป็นไร ไม่ตายหรอก”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างไม่สบอารมณ์เซียวเย่หลันพูดไม่ออกสตรีที่ดูอ่อนแอกันคนภายนอกแต่กับคนในบ้านกลับหยาบคายใส่คนนี้นี่เขากำลังแสดงความเป็นห่วงนางชัดๆ แต่กลับพูดจายอกย้อนกับเขา“ฉินเอ๋อเพิ่งเข้าวังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ หากมีตรงไหนล่วงเกินสะใภ้เจ็ด พวกเจ้าก็แค่ให้อภัยก็จบแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำให้ตึงเครียดขนาดนี้”ฮ่องเต้พูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้เรื่องนี้สงบลง ไม่ถือสาหาความผิดของฉินจีอย่างไรก็ตาม พอได้ยินเช่นนี้ฉินจีกลับตกใจเล็กน้อยเดิมทีนางคิดว่าฮ่องเต้จะไม่เพียงแต่ปกป้องนา