“เจ้าแน่ใจหรือว่าในเหล้าไม่มียาพิษ?”เซียวเย่หลันพลันสีหน้ามืดมนท่านหญิงหยวนหลี่ผลักขวดไวน์กลับ ส่ายหัวแล้วพูด “หากมีหมอกล่าวว่าในเหล้านี้มียาพิษ คาดว่าคงวินิจฉัยผิดแล้ว”“นางไม่ได้วินิจฉัยผิด แต่นางตั้งใจ”เซียวเย่หลันกำหมัดช้าช้าเซี่ย เชียน ฮวันเจ้าทรยศต่อความเชื่อใจของข้ามีที่มีต่อเจ้า“ฝ่าบาททรงพูดว่านาง หรือว่า...”ท่านหญิงหยวนหลี่มองเซียวเย่หลันตาเขม็ง แล้วถามขึ้นมาอีกครั้งแต่เซียวเย่หลันไม่ตอบ เขากล่าวขอบคุณด้วยสีหน้าเย็นชา หยิบขวดไวน์บนกู่ฉินแล้วหมุนตัวจากไปรอจนร่างเขาหายไปจากสวน สาวใช้ข้างกายจึงพูดเสียงแผ่วว่า “ท่านหญิง หายากที่จ้านอ๋องจะเสด็จมาสักครั้ง ใยจึงปล่อยให้เขาจากไปเร็วเช่นนี้?”“ไม่เป็นไร ในอนาคตยังมีโอกาสได้พบกันอีกเสมอ”ท่านหญิงหยวนหลี่หลุบสายตา แล้วเริ่มดีดฉินขึ้นมาใหม่ บทเพลงชาวประมงเมามายร้องขับขานยามสนธยาดังกึกก้องภายในสวนแต่บางจังหวะเสียงฉินกลับยุ่งเหยิงเล็กน้อยดูเหมือนการปรากฏตัวของเซียวเย่หลัน จะรบกวนจิตใจที่สงบนิ่งของนางขณะเดียวกันณ.วังเฟิงหลิง เหล่าองค์ชายที่ยืนอยู่แถวแรก ต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเอง“ไม่คิดว่าหมิงเฟยจะมีอุบายที่โ
“ในเมื่อองค์หญิงแปดพูดเช่นนี้ งั้นข้าจะหยุดช่วย แต่องค์หญิงแปดต้องจำไว้ว่าจะต้องหาหมอมารักษาฮองเฮาให้ได้ภายในสองสามวัน มิฉะนั้นจะสายเกินไป”เซี่ยเชียนฮวันตอบอย่างเย็นชานางเดินไปยืนตรงปลายแถวข้างองค์ชายเก้า สองมือไพล่หลังไม่มองใคร“เจ้า! ในเมื่อเสด็จพ่อทรงมีรับสั่ง เจ้าจะขัดคำสั่งได้อย่างไร?”เซียวหมิงเซียนไม่คิดว่าเซี่ยเชียนฮวันจะวางมือเพียงเพราะนางพูดไม่กี่คำ จึงกระทืบเท้าด้วยความโมโหเซี่ยเชียนฮวันหันหน้าไปที่นอกห้องโถง “องค์หญิงแปดคิดว่าข้าไร้ประโยชน์ แล้วข้าจะกล้าแสดงทักษะเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเองได้อย่างไร”“เซี่ยเชียนฮวัน เจ้ากล้าเกินไปแล้ว!”ดวงตาเม็ดซิ่งของเซียวหมิงเซียนถลึงมองอย่างเกรี้ยวกราดนางอายุยังน้อย อีกทั้งพระมารดายังเป็นสนมคนโปรด คำพูดคำจาหรือการกระทำล้วนไม่เคยมีขอบเขตแต่ครั้งนี้ที่นางพูดให้เซี่ยเชียนฮวันต้องอับอาย กลับทำให้คนอื่นๆ พากันขมวดคิ้ว เผยแววตาละเอียดอ่อน ในใจคิดว่า อีกเดี๋ยวองค์หญิงแปดคงจะถูกฮ่องเต้ตำหนิอย่างแน่นอนแต่ที่ทำให้ทุกคนคาดไม่ถึงคือ ไม่ทันทีที่ฮ่องเต้จะเอ่ยปากพูด องค์ชายรองกลับเป็นคนแรกที่ดุน้องสาวด้วยใบหน้าอึมครึม!“กลับไปซุ่ยผิงซวนซะ อ
เซี่ยเชียนฮวันเกร็งร่าง แล้วหันไปทางหินจำลองอย่างช้าช้าน่าเสียดายที่นางเห็นร่างที่ซ่อนอยู่หลังหินจำลองไม่ชัด!“เป็นท่าน”นางกล่าวอย่างเย็นชาชายที่ยืนอยู่หลังหินจำลองหัวเราะ “ไม่ต้องกังวล ข้าก็ไม่กล้าทำอะไรเจ้าในวังหลวงแห่งนี้หรอก”“วันนี้มีเพียงไม่กี่คนที่มาเยี่ยมฮองเฮา ท่านไม่กลัวว่าข้าจะเดาออกหรือว่าท่านเป็นใคร?”เซี่ยเชียนฮวันนึกถึงคนที่เพิ่งพบในวังเฟิงหลิงอย่างรวดเร็วนอกจากองค์ชายแล้ว ก็ยังมีชินอ๋องสองสามคนอาจจะเป็นหนึ่งในนั้น?ชายสวมหน้ากากไม่สนใจ เขาหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “การที่ข้ากล้าปรากฏตัว นั่นก็หมายความว่าข้ามั่นใจพอสมควร ว่าเจ้าเดาตัวตนของข้ามิออก”นั่นเป็นความจริงเซี่ยเชียนฮวันได้แต่ถอนหายใจ “ท่านต้องการอะไร?”ทันทีที่ถาม นางก็เพิ่งสังเกตว่าด้านข้างหินจำลองนั้นมีสระน้ำขนาดเล็กอยู่ถ้าหากเดินไปตรงขอบสระ บางทีนางอาจจะเห็นใบหน้าที่แท้จริงของชายสวมหน้ากากผ่านเงาสะท้อนบนน้ำก็ได้“เวลานี้ฮองเฮาทรงประชวรหนัก ข้าไม่มีเวลามาคุยเล่นกับท่านหรอก”เซี่ยเชียนฮวันพูดเบี่ยงเบนความสนใจของชายสวมหน้ากาก ขณะเดินไปทางสระน้ำอย่างช้าๆชายสวมหน้ากากที่ยืนอยู่หลังหินจำลองกล
“ปล่อยข้านะ คนที่ดีแต่ข่มเหงรังแกผู้หญิง จะนับว่าเป็นผู้ชายที่ดีได้อย่างไร”เซี่ยเชียนฮวันงอนิ้วอย่างเงียบๆนางซ่อนเข็มเงินไว้ในแขนเสื้อขอแค่หาโอกาสตอนที่อีกฝ่ายไม่ทันระวัง นางก็สามารถโต้คืนชายผู้นี้ได้ และเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของเขาแต่ไม่คาดว่าชายสวมหน้ากากเหมือนจะสังเกตเห็นถึงความตั้งใจของนาง มือหนึ่งกดศีรษะนาง อีกมือก็จับสองมือนางไพล่ไปด้านหลัง ทำให้นางขยับตัวไม่ได้!“ข้ามิได้รังแกเจ้า แค่อยากจะเตือนเจ้าเท่านั้น” ชายสวมหน้ากากยิ้ม“ไปซะ ข้ารู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ ไม่ต้องให้ท่านมาเตือน!”เซี่ยเชียนฮวันนึกแค้นใจที่ไม่อาจเงยหน้าจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาดุดันได้ชายสวมหน้ากากโน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูนาง “ข้าบอกแล้ว ข้ารู้จักเจ้าดีกว่าเซียวเย่หลัน เจ้าจะไม่โกหกโดยไม่มีเหตุผล หรือถ้าทำก็จะมีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น”“ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของท่าน”“ช่างเป็นสาวน้อยที่ไม่รู้จักเห็นใจผู้อื่นเลย...” ชายสวมหน้ากากถอนหายใจ “เซียวเย่หลันเข้าใจเจตนาดีของเจ้าหรือไม่?”เซี่ยเชียนฮวันไม่ตอบหน้าผากของนางถูกกดแนบตรงหัวใจของชายคนนั้น นางได้ยินเสียงหัวใจเต้นที่ช้าแต่ทรงพลังของเขา ทันใดนั้นดวงตาท
“เซียวเย่หลัน ทำไมท่านถึงมาที่นี่”เซี่ยเชียนฮวันจำเป็นต้องเงยหน้าสบตาอันดุร้ายและเย็นชาคู่นั้นความโกรธของเขารุนแรงกว่าเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัดความเย็นชาที่หนาวถึงกระดูก และแววตาชิงชังขยะแขยงคู่นั้น มันทำให้เซี่ยเชียนฮวันอดไม่ได้ที่จะนึกถึงค่ำคืนอันแสนเจ็บปวดกับเซียวเย่หลันเหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นมาบนฝ่ามือนาง“รักษาฮองเฮาซะ”ในที่สุดเซียวเย่หลันก็ปล่อยเซี่ยเชียนฮวัน จากนั้นก็ผลักนางไปทางตั่งนอนอย่างไม่ปราณีเซี่ยเชียนฮวันลูบคอพลางไอออกมา นางตอบกลับเสียงแหบพร่าว่า “ไม่ใช่ว่าข้าก็รักษาฮองเฮามาตลอดหรือ? ท่านคิดว่าข้าอยู่ที่นี่เพื่ออะไร?”“ไม่จำเป็นต้องหลอกข้าอีกต่อไป”เซียวเย่หลันจ้องมองนาง ก่อนจะพูดออกมาทีละคำเขามองนางราวกับมองคนทรยศเซี่ยเชียนฮวันพลันชะงัก หรือว่านอกจากชายสวมหน้ากากแล้ว แม้แต่เซียวเย่หลันก็มองนางออกไม่ เป็นไปไม่ได้เซียวเย่หลันไม่เข้าใจจิตใจของผู้หญิง กระทั่งท่าทางเสแสร้งของซูอวี้เออร์ก็ยังมองไม่ออก เป็นไปไม่ได้ที่จะพบเบาะแสจากการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของนางยิ่งไปกว่านั้น...ก็ดังที่ชายสวมหน้ากากกล่าว เซียวเย่หลันไม่รู้จักนาง เขาไม่สนใจนางด้วยซ้ำ“ท่านพูด
ทั้งสองมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างตกอยู่ในห้วงภวังค์ของตัวเองสุดท้ายเซียวเย่หลันก็เป็นคนพูดก่อน “เจ้าโทษว่าข้าไม่เชื่อใจเจ้า แต่สิ่งที่เจ้าทำ เจ้าเคยบอกข้าอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่”เซี่ยเชียนฮวันเม้มปากแน่นเป็นเพราะนางไม่ยอมพูดกับเขาตรงๆ อย่างนั้นหรือ?เห็นได้ชัดว่าเขามีอคติกับนางก่อน ไม่ว่านางจะพูดอะไรหรือทำอะไร เขาก็เชื่อผู้อื่นมากกว่าเสมอในกรณีนี้ ทำไมนางต้องพาตัวเองไปโดนเขาเย็นชาใส่ เสียแรงเปล่าเซี่ยเชียนฮวันไม่อยากอธิบายเยอะ จึงพูดตอบไปว่า “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะรักษาฮองเฮา เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะรักษานางก่อนหมิงเฟยจะกลับมา”“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าหมิงเฟยจะกลับมาจากสำนักคุมประพฤติ”เซียวเย่หลันขมวดคิ้วเซี่ยเชียนฮวันกำลังจะอ้าปากพูด แต่จู่ๆ เซียวเย่หลันก็สีหน้าเปลี่ยนไป และยื่นมือมาปิดปากนาง!“อย่าพูด มีคนอยู่นอกหน้าต่าง”วรยุทธ์ของเขาสูงมาก หลังผ่านการฝึกฝนจากในสนามรบ ประสาทหูของเขาจึงเหนือกว่าคนทั่วไปเขายังไวต่อการเคลื่อนไหวในบริเวณใกล้ตัวเซี่ยเชียนฮวันไม่พูด เพียงแต่ยกมือซ้ายขึ้นมา แล้วทำท่าทำทางชี้ไปทางฉากกั้นหลังตั่งหงส์เซียวเย่หลันอุ้มนางขึ้นมา แล้วทะยานไปด้านหลังเ
หลังจากมหาเสนาบดีหลี่ทราบเรื่องนี้ เขาก็ดุนางกับองค์ชายรองยกใหญ่หลี่จิ้งหย่ารู้จักบิดาของนางดีเกินไปหากเรื่องนี้ไม่ได้รับการแก้ไขที่ดี นางจะกลายเป็นบุตรสาวที่ถูกทอดทิ้งของตระกูลหลี่ และความฝันที่จะกลายเป็นฮองเฮาในอนาคตก็จะพังทลายด้วยเช่นกันนางจึงรีบขอยาแก้พิษหญ้าฝรั่นจากที่ปรึกษา แล้วตามหาเกอมามาที่ถูกวางตัวเป็นสายลับในวังของตระกูลหลี่ตั้งแต่ช่วงแรกๆ จากนั้นก็ลอบเข้ามาในวังเพื่อป้อนยาแก้พิษให้กับฮองเฮา เพื่อกอบกู้สถานการณ์เกอมามาคุ้นเคยกับการเห็นคลื่นลมมานักต่อนักแล้ว จึงกล่าวอย่างใจเย็นว่า “หากป่วยเพียงไม่กี่วันก็ไม่มีใครสืบค้นหรอก แต่การวางยาพิษฮองเฮามิใช่เรื่องเล็กน้อย ฝ่าบาทจะต้องสืบสวนจนถึงที่สุด ตอนนี้พระชายาจะต้องปกป้องตัวเองให้ดี ที่ปรึกษาคนนั้นต้องตาย คนของเรือนเจียวชวนก็ต้องตาย จากนั้นพวกเราก็หาทางโยนความผิดให้พระสนมหมิง”“ดูเหมือนนี่จะเป็นทางเดียว...”หลี่จิ้งหย่าถอนหายใจเดิมทีนางกับเซียวเย่หลันเป็นเพื่อนเล่นมาตั้งแต่เด็ก ใจจริงก็ไม่อยากให้สนมหมิงต้องตายเลยอย่างไรก็ตามคนคำนวณไม่สู้ฟ้าลิขิต ทางออกของปัญหานี้ มีแค่เสียสละหมิงเฟยเพื่อปกป้องตัวเองทันใดนั้นทั้งส
เซี่ยเชียนฮวันนั่งข้างฮองเฮาและจับชีพจรให้นางขณะเดียวกันก็ไม่ลืมปรายตามองจากหางตา เพื่อไม่พลาดการแสดงดีดีตรงหน้านางซึ่งเป็นพระชายาที่แท้จริงยังอยู่ที่นี่หลี่จิ้งหย่าบอกว่าจะแต่งงานกับเซียวเย่หลันต่อหน้านาง นี่มันน่าสนใจมากอย่างไรก็ตาม หากสามารถใช้งานพระชายาขององค์ชายองค์อื่นได้ ย่อมเป็นประโยชน์ไม่น้อย ขึ้นอยู่กับว่าเซียวเย่หลันจะคิดเช่นไร“พี่เย่หลัน หัวใจของข้า ร่างกายของข้า สามารถเป็นของท่านได้...”หลี่จิ้งหย่ากัดปากตัวเองแล้วกระซิบพูดในฐานะผู้หญิง นางหมดหนทางแล้วจริงๆ ถึงได้กล่าวเช่นนี้ออกมาแต่ไม่คาดคิดว่าสีหน้าของเซียวเย่หลันจะไร้ซึ่งความรู้สึก ใบหน้าของเขาไม่วี่แววสงสารหรือเห็นอกเห็นใจเลยสักนิด เขากล่าวเสียงราบเรียบ “เจ้าอยากเป็นฮองเฮา แต่ข้าไม่อาจเติมเต็มความปรารถของเจ้าได้”หลี่จิ้งหย่าชะงัก “หรือว่าท่านไม่ต้องการแย่งชิงบัลลังก์งั้นหรือ?”“ข้าอยากถามด้วยว่า เหตุใดพวกเจ้าแต่ละคนถึงอยากให้ข้าขึ้นครองบัลลังก์”เซียวเย่หลันยื่นมือออกไปผลักหลี่จิ้งหย่าแต่ทว่าหลี่จิ้งหย่ากอดแน่นเกินไป จึงไม่อาจผลักออกไปได้ง่ายๆเขาเหลือบมองกลับไปโดยไม่รู้ตัวก่อนจะเห็นผู้หญิงคนน