ฟู่จิ้นหานขมวดคิ้ว และแอบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเงียบ ๆ เพื่อส่งข้อความถึงฉินฟั่งฉินฟั่งมองดูข้อความที่คุณชายของเขาเพิ่งจะสั่งการ เครื่องหมายคำถามก็ผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด: ? ? ?ตรวจสอบข้อมูลพ่อของเด็กที่เพิ่งจะฉลองร้อยวันทำไมคุณชายถึงได้ไปให้ความสนใจกับเจ้านายของบริษัทเล็ก ๆ ที่ใกล้จะล้มละลายได้?ฉินฟั่งเดาความคิดคุณชายของเขาไม่ออกจริง ๆ แต่ในเมื่อเป็นเรื่องที่คุณชายสั่ง เขาเองก็ไม่กล้าที่จะรอช้า รีบส่งคนไปสืบทันที ในเวลาไม่ถึงสิบนาที ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับหลิวชิงก็ถูกส่งเข้าเมลส่วนตัวของฟู่จิ้นหานเสียงหัวเราะของซูหรานและหนูน้อยยังคงกึกก้องอยู่ในสวนหลิวชิงและภรรยาของเขาคอยมองดูอยู่ข้าง ๆ แม้ว่าใบหน้าจะมีรอยยิ้ม แต่ลึก ๆ ในใจกลับรู้สึกเศร้าฟู่จิ้นหานดูที่โทรศัพท์ของเขา ตอนนี้ก็พอจะเข้าใจเรื่องราวคร่าว ๆ ของหลิวชิงแล้วศักยภาพไม่เลว แค่ขาดโชคนิดหน่อย โครงการพัฒนาชิปของบริษัทเขา เป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ฟู่ซือกรุ๊ปคอยดูแลอยู่พอดีบางทีอาจเพราะหนูน้อยเล่นสนุกมากเกินไป จนเริ่มหิวขึ้นมาแล้วในตอนที่ซูหรานนำหนูน้อยส่งคืนสู่อ้อมแขนของภรรยาหลิวชิง เธอยังคงลังเลเล็กน้อยก
เลขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เสียงของเจ้านายที่อยู่ปลายสายก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ฉันต้องการที่อยู่ ฉันให้เวลาหนึ่งนาที ส่งที่อยู่มาที่โทรศัพท์ของฉันซะ”หลังพูดจบ สายก็ถูกตัดไปเลขาไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของเจ้านาย เขาจึงไม่กล้ารอช้าเมื่อที่อยู่ถูกส่งไปยังโทรศัพท์มือถือของมหาเศรษฐีแห่งการลงทุน เขาก็ได้ขับรถออกมาจากที่จอดรถ และตรงไปยังจุดหมายทันทีในขณะเดียวกันนี้เอง รถหรูหลายคันต่างก็ขับออกมาจากสถานที่อื่น ๆ หลายแห่งในไห่เฉิงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย และมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถยนต์หรูหราจำนวนนับไม่ถ้วนก็มาจอดอยู่ด้านนอกสวนของโรงแรมต่างก็เป็นบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมการลงทุนและเทคโนโลยีของไห่เฉิง โดยปกติแล้ว คนใหญ่คนโตก็มักจะทักทายกันอย่างสุภาพเสมอ แต่ในเวลานี้พวกเขาทุกคนกลับดูกังวล ราวกับว่าพวกเขามีเรื่องที่สำคัญมากกว่านั้นรออยู่น่าขัน!ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรวมกัน ก็เทียบเส้นผมของคุณชายสามฟู่ที่อยู่ด้านในไม่ติดเลยแม้แต่เส้นเดียวที่พวกเขามาที่นี่ต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน: คือได้ทำความรู้จักกับคุณชายสามฟู่แต่คุณชายส
ส่วนผู้ชายคนนั้น......ตั้งแต่ต้นจนจบ หยางซูไม่เคยเห็นด้านหน้าของชายคนนั้นเลย เห็นเพียงด้านหลังของเขาเท่านั้น และแผ่นหลังนั้นก็เหมือนกับชายคนที่เขาเห็นก่อนที่จะออกมาจากวิลล่ามากซูอินเองก็เคยบอกไว้ ว่าซูหรานแต่งงานแล้วเขาเป็นสามีของซูหรานงั้นเหรอ?ภาพของชายที่นั่งยอง ๆ ลง และแบกเธอขึ้นเมื่อสักครู่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา พวกเขาช่างรักกันเสียจริงจู่ ๆ หยางซูก็รู้สึกรำคาญขึ้นมานิดหน่อย กระทั่งไม่อยากที่จะสนใจหยางซูเลยด้วยซ้ำ เขาจึงหันหลังและเดินเข้าไปในบาร์ซูอินสัมผัสได้ถึงความเย็นชาที่เขาปฏิบัติต่อเธอได้อย่างชัดเจนเห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้เขาดูกระตือรือร้นต่อเธอมาก ต่อหน้ากลุ่มเพื่อนในไห่เฉิงของเขา เขาถึงขั้นโอบไหล่ของเธอโดยไม่ลังเลเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าปากเขาจะพูดฉอด ๆ ว่าลูกพี่ลูกน้อง แต่คำพูดและการกระทำของเขาก็ค่อนข้างเปิดเผย: ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ธรรมดา แต่จู่ ๆ ก็เย็นชากะทันหันแบบนี้ อะไรคือสาเหตุกันแน่?ซูอินจ้องมองไปยังทิศทางที่หยางชูกำลังมองอยู่ตอนนี้อย่างครุ่นคิดก่อนที่เธอจะทันได้มีเวลาคิด โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเป็นสายจากหลินเยว่เยว่ในเวลานี้ ซูอินเอาแต่
เธอต้องการที่จะผละออก แต่ทว่าความมั่นคงที่เขานำมาให้เธอในตอนนี้นั้น ดูเหมือนว่าจะมีเวทย์มนตร์บางอย่าง ที่คอยดึงดูดให้เธอเคลิบเคลิ้มไปกับมัน จนไม่สามารถถอนตัวได้ในเมื่อไม่สามารถถอนตัวได้ เช่นนั้นก็ปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งกับมันไปสักพักแม้แต่ซูหรานเองก็ไม่ทันได้สังเกต ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอเลิกขัดขืนเขาเธอถึงขั้นทิ้งตัวซบลงบนหลังเขาเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจของเขา เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ตอนนี้เธอผ่อนคลายลงมาก คลื่นแห่งความเหนื่อยล้าก็ถาโถมเข้ามาเสียงหายใจดังขึ้นมาจากด้านหลัง ฟู่จิ้นหานก็รู้ได้ในทันทีว่าเธอหลับไปแล้ว“นี่ถึงขั้นหลับได้ลง ใจร้ายจังเลยนะ!” ฟู่จิ้นหานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แต่เขาก็กลับไม่ได้ตั้งใจที่จะตำหนิเธอเพื่อที่จะทำให้เธอนอนหลับได้อย่างสงบ เขาจงใจชะลอความเร็วลงจู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่า รอบ ๆ ไม่มีคน การที่ได้แบกเธอไว้แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาอยากที่จะแบกเธอแบบนี้ไปทั้งชีวิตสายลมยามค่ำคืนพัดโชยมา ฟู่จิ้นหานขมวดคิ้วซูหรานสวมกระโปรง เขากลัวว่าเธอจะหนาวต่อให้เขาจะอยากซึมซับความรู้สึกตอนนี้มากแค่ไหน แต่เขาก็คงปวดใจถ้าเธอต้องไม่สบาย เขาจึงโทรศัพท์หาฉินฟั่ง ให้เขาขับรถ
นี่คือสิ่งที่เย่ถิงเซินกังวลมากที่สุดเมื่อเทียบกับตระกูลเย่แล้ว ตระกูลฟู่ค่อนข้างที่จะซับซ้อนมากกว่าต่อให้ฟู่จิ้นหานจะจำศีลเป็นสิบปี สุดท้ายวันหนึ่งเขาก็จะต้องได้รับตำแหน่งผู้นำฟู่ซือกรุ๊ปอยู่ดี การต่อสู้ชิงอำนาจครั้งล่าสุด สมาชิกทุกคนในฟู่ซือกรุ๊ปต่างก็กลัวฟู่จิ้นหานแต่ลุงและลูกพี่ลูกน้องของเขาเหล่านั้น จะมีใครเต็มใจที่จะยอมปล่อยมือจากฟู่ซือกรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้กัน?ครั้งนี้ถึงทีพวกเขาที่จะต้องจำศีลพวกเขาแอบอยู่ในที่ลับ ฟู่จิ้นหานอยู่ในที่แจ้ง ซูหรานติดตามฟู่จิ้นหาน ก็มีแต่จะดึงดูดอันตรายที่ไม่รู้จักเข้ามากมายอย่างหลีเลี่ยงไม่ได้ตั้งแต่ที่ฟู่จิ้นหานรู้ว่าตัวเองรักซูหราน เขาก็ได้พิจารณาเรื่องนี้เอาไว้แล้ว“ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอได้รับอันตรายใด ๆ!” ท่าทีฟู่จิ้นหานดูเคร่งขรึมคนเหล่านั้นในฟู่ซือกรุ๊ปมีแต่คนที่เล่นสกปรกในตอนที่เขาเพิ่งมาที่ไห่เฉิง ก็มีคนเริ่มลงมือกับเขาแล้ว เขาแค่ตัดความช่วยเหลือของคนนั้นไปหากเป็นตอนที่ยังไม่ได้พบกับซูหราน ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร เขาก็จะคิดว่าเป็นคนที่ตระกูลฟู่ส่งมา และตอบโต้กลับอย่างเหมาะสม แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำลายรากเหง้าแต่หลังจากที่ได้พบ
ภาพถ่ายที่เกือบทำให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียบางแห่งล่มนั้น ไม่รู้ว่าใครเป็นคนที่จัดการทำให้มันหายไปแต่การที่มันสร้างความฮือฮาขึ้นในคืนเดียว ทำให้ตระกูลฟู่ในจิงเฉิงตกใจไปพร้อมกัน คนที่ตกใจที่สุดก็คือหลิวชิงเมื่อคืนหลังจากที่เขารับรองแขกในงานเลี้ยงครบร้อยวันเสร็จ ทันทีที่หลิวชิงกลับถึงบ้านก็ผล็อยหลับไปวันถัดมาเมื่อไปถึงบริษัท เขาตั้งใจว่าจะไปปลอบใจทีมงานต่อหน้า และหารือเกี่ยวกับมาตรการชดเชยหลังจากเลิกจ้างงานแต่เมื่อเขาเข้ามาในบริษัท คนทั้งบริษัท รวมถึงทีมพัฒนาทั้งหมดก็ยืนรออยู่ที่ประตู ทันทีที่เขาปรากฏตัว เสียงปรบมือก็ดังสนั่นทุกคนต่างยิ้มแย้มเมื่อมองไปที่เขา ราวกับมองเห็นความหวังสีหน้าของหลิวชิงกลับดูงงงวยเมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องประชุมท่ามกลางการล้อมรอบของผู้คน จนกระทั่งเขาเริ่มพูดถึงเรื่องการยุบทีม ใบหน้าของทุกคนต่างก็แข็งค้างไปชั่วขณะหนึ่ง“พี่หลิว นี่พี่กำลังล้อกันเล่นอยู่ใช่ไหม?”“นั่นสิคะ ประธานหลิว นี่มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะคะ ยังไงพวกเราก็ต้องติดตามคุณ เพื่อทำให้โปรเจกต์นี้ประสบความสำเร็จด้วยกันสิค่ะ”หลิวชิงขมวดคิ้วและถอนหายใจ ไม่มีเงินทุน แล้วจะทำให้ประสบความสำเร
แต่ในใจเธอกลับรู้สึกแปลก ๆ เมื่อสำรวจอย่างละเอียด ก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันแปลกตรงไหนหลังจากนั้นเยว่เซียงและโจวหมิงอวี้ก็โทรมาหาเธอทันทีที่ฟื้นความจำได้ คนแรกที่เธอติดต่อก็คือสองคนนี้ และได้มอบหมายงานต่าง ๆ ของซิงหลานจิวเวลรี่ให้กับทั้งสองคนจัดการและทั้งสองคนก็จะรายงานสถานการณ์ของบริษัทให้เธอฟังตามเวลาที่กำหนด ปากก็บอกว่าเป็นเรื่องงานแต่ครั้งนี้ ตอนที่ทั้งสองคนโทรมา ในระหว่างการสนทนาไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ทั้งสองก็ได้พูดถึงหนุ่มหล่อที่เคยมาที่บริษัทอยู่บ่อย ๆ ออกมา ทั้งยังชมว่าตาของเธอมีแววบ้าง ชมว่าทั้งสองเหมาะสมกันบ้างความรู้สึกแปลกประหลาดในใจของซูหรานยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆเธอเองก็อยากที่จะหาคำตอบให้กับความแปลกประหลาดนี้ดังนั้น เมื่อซ่งฉีโทรศัพท์นัดเธอออกไป ซูรานก็จึงตอบรับโดยไม่ลังเลทั้งสองได้นัดหมายสถานที่กันไว้ ในตอนที่ซูหรานมาถึง ซ่งฉีก็ได้มาถึงก่อนแล้วซูรานสั่งกาแฟมาหนึ่งแก้ว จนกระทั่งซูรานนั่งลงนานพอสมควร สายตาของซ่งฉีก็เอาแต่จ้องซูหรานอยู่ตลอดเวลา สีหน้าของเขาเหมือนว่ากำลังคิดอะไรอยู่“ทำไม? บนหน้าฉันเขียนอะไรไว้อย่างงั้นเหรอ?” ซูรานลดการระมัดระวังลงเม
ผ่านกระจกมองหลัง ปรากฏให้เห็นใบหน้าที่ดูดุร้ายไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นลู่ซิวหนิงเขาหันไปมองซูหราน ที่กำลังเดินเข้าไปในโรงแรมไห่เฉิง มือถือในมือของเขา แสดงให้เห็นรูปถ่ายรูปนั้นอย่างชัดเจนในรูปถ่าย ซูหรานยืนอยู่ข้างฟู่จิ้นหาน ทั้งยังดูโดดเด่นเป็นพิเศษพวกเขาถ่ายรูปกับคู่สามีภรรยาที่กำลังอุ้มเด็กอยู่ นี่พวกเขากำลังประกาศอะไรรึเปล่า?ซูหรานหายเข้าไปในประตูโรงแรมไห่เฉิง ลู่ซิวหนิงจ้องไปยังท้องของซูหรานในรูปถ่าย สายตาของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นชั่วร้ายขึ้นมาอาจเป็นเพราะเขาจดจ่อเกินไป จนไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีคนที่อยู่ไม่ไกลมองเขาอยู่ หน้าตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ราวกับต้องการยืนยันว่าตนไม่ได้มองผิด คนคนนั้นถึงกับถ่ายรูปเอาไว้ด้วยหลินเยว่เยว่ไม่คิดเลยว่า เธอจะได้พบกับซูหรานเธอยิ่งคิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอกับลู่ซิวหนิงที่นี่ด้วยเธอมองที่รูปถ่ายหลายต่อหลายครั้งเพื่อยืนยัน ว่านั่นคือลู่ซิวหนิงจริง ๆโดยไม่มีการลังเลเลยแม้แต่น้อย หลินเยว่เยว่โทรหาซูอินทันที แต่เธอโทรไปหลายครั้งก็กลับไม่สามารถติดต่อได้ เธอจึงตัดสินใจยอมแพ้“แปลกจัง ช่วงนี้พี่อินอินเหมือนว่าจะยุ่งมากเลยนะ”หลินเยว่เยว่ไม่ร