เหตุผลที่เธอมาที่นี่ก็เพราะเขาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย!เหมือนว่าฟู่จิ้นหานจะได้รับบาดเจ็บ เมื่อนึกถึงความเกลียดชังที่ซูหรานมีต่อ “ฟู่จิ้นหาน” ในใจก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันทีที่ได้พบหน้าเธอ เขาก็แทบไม่สามารถควบคุมความปรารถนาที่เขามีต่อเธอเอาไว้ได้ แต่เขาก็กลับลืมไปว่าเธอหลีกเลี่ยงคุณชายสามฟู่ราวกับว่าเขาเป็นงูพิษ ถึงขั้นหลบหน้าเขาทุกครั้งที่เจอเลยด้วยซ้ำ เหตุผลที่เธอยอมมาพบเขา ก็เป็นเพราะเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ของเย่ซิงหลาน!“ผมขอโทษ”ฟู่จิ้นหานพยายามต่อต้านความรู้สึกเจ็บแปลบในใจเอาไว้ แล้วปล่อยมือออกฝ่ามือสูญเสียความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ ราวกับว่าความว่างเปล่ากำลังกลืนกินจิตใจท่าทีของซูหรานกลับดูโล่งอก แต่ก็บังเอิญสบเข้ากับสายตาที่ดูซับซ้อนของเขา มันร้อนราวกับโดนไฟลวก หัวใจของเธอเต้นระรัวเมื่อตระหนักได้ว่าตัวเองทำตัวแปลก ๆ จึงรีบเลี่ยงการจ้องมองซูหรานด้วยความรู้สึกผิด เขาถอยหลังหนึ่งก้าว ก่อนที่จะรีบเดินเข้าห้องรับแขกไปภายในห้องนั่งเล่นทั้งสะอาดและเป็นระเบียบ แสดงให้เห็นร่องรอยของการพักอาศัย เขา......อยู่ที่นี่มาตอลดเลยงั้นเหรอ?ซูหรานรู้สึกประหลาดใจอย่างบ
ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ เสียงที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ก็ดูมืดมนลง แสดงความไม่อดทนออกมา “พูดพล่ามอะไรอยู่? ตระกูลไหนมีบ้าง?”เห็นได้ชัด ว่าฉินฟั่งเดาได้ถูกต้องคุณชายรีบร้อนเรื่องงานเลี้ยงเข้าสังคมขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เกี่ยวข้องกับคุณผู้หญิง!เกรงว่าคงอยากจะออกเดทในงานเลี้ยงแน่นอนเมื่อรู้ว่าสถานการณ์เป็นเรื่องเร่งด่วน ฉินฟั่งเองก็ไม่กล้ารอช้า “คุณชาย ผมขอเวลาหนึ่งนาทีครับ”หลังพูดจบ ก็วางสายไปนาทีต่อมา ฉินฟั่งก็โทรกลับมาที่โทรศัพท์มือถือของฟู่จิ้นหานพร้อมกับข่าวที่สืบได้ก่อนที่ฟู่จิ้นหานจะทันได้เปิดปากถาม ฉินฟั่งก็รีบรายงานขึ้นทันที “คุณชายครับ วันนี้มีที่ไหนจัดงานเลี้ยงเข้าสังคมเลยครับ แต่ว่า มีตระกูลหนึ่งจัดงานเลี้ยงร้อยวันให้กับทารกแรกเกิดครับ......”“ที่อยู่”ก่อนที่ฉินฟั่งจะทันได้พูดจบ ฟู่จิ้นหานก็แทบรอไม่ไหวที่จะถามต่อราวกับว่าเขาต้องการแค่ความจริงที่สามารถหักล้างข้อแก้ตัวที่เขาพูดกับซูหรานได้ก็เท่านั้น ส่วนจะเป็นตระกูลไหนนั้น เขาไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยฉินฟั่งส่งที่อยู่ไปยังโทรศัพท์มือถือของเขาอย่างรวดเร็วเมื่อฟู่จิ้นหานนึกถึงเรื่องที่วันนี้เขาได้พบกับซูห
เมื่อสังเกตเห็นว่าหยางซูเริ่มขมวดคิ้ว ซูอินก็ตระหนักถึงท่าทีของเธอได้ในทันทีเธอรีบระงับความรู้สึกผิดเอาไว้ แต่แสร้งทำเป็นอธิบายด้วยท่าทีสงบนิ่ง: “คุณตาก็แค่ลืมเท่านั้น ฉันไม่โทษท่านหรอกที่จำฉันไม่ได้ ฉันเชื่อว่าเดี๋ยวท่านก็จะดีขึ้น จนสามารถจำฉันได้ จำหลานสายแท้ ๆ ของท่านได้”ไม่ใช่ซูหรานที่ถูกเข้าใจผิดว่าคือฉินเหยียนแต่ท่าทีที่รู้สึกผิดของเธอนั้น ไม่สามารถเล็ดลอดไปจากสายตาของหยางซูได้หยางซูยิ่งรู้สึกแปลกในใจมากขึ้นเรื่อย ๆโดยเฉพาะซูอินแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขารีบขจัดความสงสัยในใจทิ้ง และปลอบซูอินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “คุณปู่จะต้องกลับมาจำได้อย่างแน่นอน”จะกลับมาจำได้จริง ๆ งั้นเหรอ?ขนตาของซูอินเริ่มสั่นเทา แต่ความรู้สึกผิดที่ซ่อนอยู่ในใจของเธอยังคงอยู่สำหรับเธอแล้ว การที่เขากลับมาจำทุกอย่างได้ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี และทางที่ดีที่สุดก็คือ......เหมือนว่าในหัวซูอินจะนึกอะไรออก จู่ ๆ เธอก็มองไปที่หยางซู และจงใจแสดงความผิดหวังออกมาผ่านสายตา“ก่อนหน้านี้คุณปู่ยังบอกอีกว่าจะฉลองวันเกิดให้ฉัน ท่านบอกว่า ในวันเกิดปีแรกที่ฉันได้กลับตระกูลเย่ ท่านจะพาฉันกลับไปเยี่ยม
ซูหรานได้ยินคำว่า “สามี” จากปากเขาอย่างคลุมเครือ และเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากไปที่เย่หลินบาร์ในคืนนั้นขึ้นมา ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำทันทีฟู่จิ้นหานเองก็นึกถึงคืนนั้นด้วยเช่นกันบรรยากาศยิ่งเพิ่มความคลุมเครือมากขึ้นกว่าเดิมในตอนที่ซูหรานไม่สามารถทนสายตาอันเร่าร้อนของฟู่จิ้นหานที่มีต่อเธอได้ และกำลังจะจ้องกลับอย่างดุเดือด ฟู่จิ้นหานก็ถอนสายตากลับไปเสียก่อนฟู่จิ้นหานรู้ดีว่าไม่ควรที่จะเร่งเร้าจนเกินไปซูหรานไม่ชอบ “คุณชายสามฟู่” เขายิ่งไม่ควรทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคืองใจจนกลายเป็นความเกลียดชังแต่ระหว่างทาง ทั้งที่กำลังขับรถอยู่ สายตาของเขาก็เผลอมองเธอโดยที่ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ราวกับไม่ว่ายังไงก็มองไม่พอซูหรานสัมผัสได้ถึงสายตาที่เขามองมา เธอคิดว่าเขากำลังมองเธออยู่ แต่ขณะที่เธอมองมาที่เขา ท่าทีของเขากลับเหมือนว่ากำลังใช้สมาธิขับรถอยู่ต่างฝ่ายต่างก็นั่งเงียบมาตลอดทางรถจอดอยู่บริเวณสวนด้านนอกของโรงแรมระดับไฮเอนด์ในไห่เฉิงเจ้าของงานเลี้ยงวันเกิดครบร้อยวันสกุลหลิว ในไห่เฉิง ตระกูลหลิวเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี เนื่องจากหลายเดือนก่อนขาดแคลนเงินทุนอย่างหนัก ตอน
ฟู่จิ้นหานขมวดคิ้ว และแอบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเงียบ ๆ เพื่อส่งข้อความถึงฉินฟั่งฉินฟั่งมองดูข้อความที่คุณชายของเขาเพิ่งจะสั่งการ เครื่องหมายคำถามก็ผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด: ? ? ?ตรวจสอบข้อมูลพ่อของเด็กที่เพิ่งจะฉลองร้อยวันทำไมคุณชายถึงได้ไปให้ความสนใจกับเจ้านายของบริษัทเล็ก ๆ ที่ใกล้จะล้มละลายได้?ฉินฟั่งเดาความคิดคุณชายของเขาไม่ออกจริง ๆ แต่ในเมื่อเป็นเรื่องที่คุณชายสั่ง เขาเองก็ไม่กล้าที่จะรอช้า รีบส่งคนไปสืบทันที ในเวลาไม่ถึงสิบนาที ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับหลิวชิงก็ถูกส่งเข้าเมลส่วนตัวของฟู่จิ้นหานเสียงหัวเราะของซูหรานและหนูน้อยยังคงกึกก้องอยู่ในสวนหลิวชิงและภรรยาของเขาคอยมองดูอยู่ข้าง ๆ แม้ว่าใบหน้าจะมีรอยยิ้ม แต่ลึก ๆ ในใจกลับรู้สึกเศร้าฟู่จิ้นหานดูที่โทรศัพท์ของเขา ตอนนี้ก็พอจะเข้าใจเรื่องราวคร่าว ๆ ของหลิวชิงแล้วศักยภาพไม่เลว แค่ขาดโชคนิดหน่อย โครงการพัฒนาชิปของบริษัทเขา เป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ฟู่ซือกรุ๊ปคอยดูแลอยู่พอดีบางทีอาจเพราะหนูน้อยเล่นสนุกมากเกินไป จนเริ่มหิวขึ้นมาแล้วในตอนที่ซูหรานนำหนูน้อยส่งคืนสู่อ้อมแขนของภรรยาหลิวชิง เธอยังคงลังเลเล็กน้อยก
เลขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เสียงของเจ้านายที่อยู่ปลายสายก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ฉันต้องการที่อยู่ ฉันให้เวลาหนึ่งนาที ส่งที่อยู่มาที่โทรศัพท์ของฉันซะ”หลังพูดจบ สายก็ถูกตัดไปเลขาไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของเจ้านาย เขาจึงไม่กล้ารอช้าเมื่อที่อยู่ถูกส่งไปยังโทรศัพท์มือถือของมหาเศรษฐีแห่งการลงทุน เขาก็ได้ขับรถออกมาจากที่จอดรถ และตรงไปยังจุดหมายทันทีในขณะเดียวกันนี้เอง รถหรูหลายคันต่างก็ขับออกมาจากสถานที่อื่น ๆ หลายแห่งในไห่เฉิงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย และมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถยนต์หรูหราจำนวนนับไม่ถ้วนก็มาจอดอยู่ด้านนอกสวนของโรงแรมต่างก็เป็นบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมการลงทุนและเทคโนโลยีของไห่เฉิง โดยปกติแล้ว คนใหญ่คนโตก็มักจะทักทายกันอย่างสุภาพเสมอ แต่ในเวลานี้พวกเขาทุกคนกลับดูกังวล ราวกับว่าพวกเขามีเรื่องที่สำคัญมากกว่านั้นรออยู่น่าขัน!ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรวมกัน ก็เทียบเส้นผมของคุณชายสามฟู่ที่อยู่ด้านในไม่ติดเลยแม้แต่เส้นเดียวที่พวกเขามาที่นี่ต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน: คือได้ทำความรู้จักกับคุณชายสามฟู่แต่คุณชายส
ส่วนผู้ชายคนนั้น......ตั้งแต่ต้นจนจบ หยางซูไม่เคยเห็นด้านหน้าของชายคนนั้นเลย เห็นเพียงด้านหลังของเขาเท่านั้น และแผ่นหลังนั้นก็เหมือนกับชายคนที่เขาเห็นก่อนที่จะออกมาจากวิลล่ามากซูอินเองก็เคยบอกไว้ ว่าซูหรานแต่งงานแล้วเขาเป็นสามีของซูหรานงั้นเหรอ?ภาพของชายที่นั่งยอง ๆ ลง และแบกเธอขึ้นเมื่อสักครู่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา พวกเขาช่างรักกันเสียจริงจู่ ๆ หยางซูก็รู้สึกรำคาญขึ้นมานิดหน่อย กระทั่งไม่อยากที่จะสนใจหยางซูเลยด้วยซ้ำ เขาจึงหันหลังและเดินเข้าไปในบาร์ซูอินสัมผัสได้ถึงความเย็นชาที่เขาปฏิบัติต่อเธอได้อย่างชัดเจนเห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้เขาดูกระตือรือร้นต่อเธอมาก ต่อหน้ากลุ่มเพื่อนในไห่เฉิงของเขา เขาถึงขั้นโอบไหล่ของเธอโดยไม่ลังเลเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าปากเขาจะพูดฉอด ๆ ว่าลูกพี่ลูกน้อง แต่คำพูดและการกระทำของเขาก็ค่อนข้างเปิดเผย: ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ธรรมดา แต่จู่ ๆ ก็เย็นชากะทันหันแบบนี้ อะไรคือสาเหตุกันแน่?ซูอินจ้องมองไปยังทิศทางที่หยางชูกำลังมองอยู่ตอนนี้อย่างครุ่นคิดก่อนที่เธอจะทันได้มีเวลาคิด โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเป็นสายจากหลินเยว่เยว่ในเวลานี้ ซูอินเอาแต่
เธอต้องการที่จะผละออก แต่ทว่าความมั่นคงที่เขานำมาให้เธอในตอนนี้นั้น ดูเหมือนว่าจะมีเวทย์มนตร์บางอย่าง ที่คอยดึงดูดให้เธอเคลิบเคลิ้มไปกับมัน จนไม่สามารถถอนตัวได้ในเมื่อไม่สามารถถอนตัวได้ เช่นนั้นก็ปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งกับมันไปสักพักแม้แต่ซูหรานเองก็ไม่ทันได้สังเกต ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอเลิกขัดขืนเขาเธอถึงขั้นทิ้งตัวซบลงบนหลังเขาเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจของเขา เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ตอนนี้เธอผ่อนคลายลงมาก คลื่นแห่งความเหนื่อยล้าก็ถาโถมเข้ามาเสียงหายใจดังขึ้นมาจากด้านหลัง ฟู่จิ้นหานก็รู้ได้ในทันทีว่าเธอหลับไปแล้ว“นี่ถึงขั้นหลับได้ลง ใจร้ายจังเลยนะ!” ฟู่จิ้นหานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แต่เขาก็กลับไม่ได้ตั้งใจที่จะตำหนิเธอเพื่อที่จะทำให้เธอนอนหลับได้อย่างสงบ เขาจงใจชะลอความเร็วลงจู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่า รอบ ๆ ไม่มีคน การที่ได้แบกเธอไว้แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาอยากที่จะแบกเธอแบบนี้ไปทั้งชีวิตสายลมยามค่ำคืนพัดโชยมา ฟู่จิ้นหานขมวดคิ้วซูหรานสวมกระโปรง เขากลัวว่าเธอจะหนาวต่อให้เขาจะอยากซึมซับความรู้สึกตอนนี้มากแค่ไหน แต่เขาก็คงปวดใจถ้าเธอต้องไม่สบาย เขาจึงโทรศัพท์หาฉินฟั่ง ให้เขาขับรถ
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว