เหตุผลที่เธอมาที่นี่ก็เพราะเขาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย!เหมือนว่าฟู่จิ้นหานจะได้รับบาดเจ็บ เมื่อนึกถึงความเกลียดชังที่ซูหรานมีต่อ “ฟู่จิ้นหาน” ในใจก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันทีที่ได้พบหน้าเธอ เขาก็แทบไม่สามารถควบคุมความปรารถนาที่เขามีต่อเธอเอาไว้ได้ แต่เขาก็กลับลืมไปว่าเธอหลีกเลี่ยงคุณชายสามฟู่ราวกับว่าเขาเป็นงูพิษ ถึงขั้นหลบหน้าเขาทุกครั้งที่เจอเลยด้วยซ้ำ เหตุผลที่เธอยอมมาพบเขา ก็เป็นเพราะเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ของเย่ซิงหลาน!“ผมขอโทษ”ฟู่จิ้นหานพยายามต่อต้านความรู้สึกเจ็บแปลบในใจเอาไว้ แล้วปล่อยมือออกฝ่ามือสูญเสียความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ ราวกับว่าความว่างเปล่ากำลังกลืนกินจิตใจท่าทีของซูหรานกลับดูโล่งอก แต่ก็บังเอิญสบเข้ากับสายตาที่ดูซับซ้อนของเขา มันร้อนราวกับโดนไฟลวก หัวใจของเธอเต้นระรัวเมื่อตระหนักได้ว่าตัวเองทำตัวแปลก ๆ จึงรีบเลี่ยงการจ้องมองซูหรานด้วยความรู้สึกผิด เขาถอยหลังหนึ่งก้าว ก่อนที่จะรีบเดินเข้าห้องรับแขกไปภายในห้องนั่งเล่นทั้งสะอาดและเป็นระเบียบ แสดงให้เห็นร่องรอยของการพักอาศัย เขา......อยู่ที่นี่มาตอลดเลยงั้นเหรอ?ซูหรานรู้สึกประหลาดใจอย่างบ
ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ เสียงที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ก็ดูมืดมนลง แสดงความไม่อดทนออกมา “พูดพล่ามอะไรอยู่? ตระกูลไหนมีบ้าง?”เห็นได้ชัด ว่าฉินฟั่งเดาได้ถูกต้องคุณชายรีบร้อนเรื่องงานเลี้ยงเข้าสังคมขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เกี่ยวข้องกับคุณผู้หญิง!เกรงว่าคงอยากจะออกเดทในงานเลี้ยงแน่นอนเมื่อรู้ว่าสถานการณ์เป็นเรื่องเร่งด่วน ฉินฟั่งเองก็ไม่กล้ารอช้า “คุณชาย ผมขอเวลาหนึ่งนาทีครับ”หลังพูดจบ ก็วางสายไปนาทีต่อมา ฉินฟั่งก็โทรกลับมาที่โทรศัพท์มือถือของฟู่จิ้นหานพร้อมกับข่าวที่สืบได้ก่อนที่ฟู่จิ้นหานจะทันได้เปิดปากถาม ฉินฟั่งก็รีบรายงานขึ้นทันที “คุณชายครับ วันนี้มีที่ไหนจัดงานเลี้ยงเข้าสังคมเลยครับ แต่ว่า มีตระกูลหนึ่งจัดงานเลี้ยงร้อยวันให้กับทารกแรกเกิดครับ......”“ที่อยู่”ก่อนที่ฉินฟั่งจะทันได้พูดจบ ฟู่จิ้นหานก็แทบรอไม่ไหวที่จะถามต่อราวกับว่าเขาต้องการแค่ความจริงที่สามารถหักล้างข้อแก้ตัวที่เขาพูดกับซูหรานได้ก็เท่านั้น ส่วนจะเป็นตระกูลไหนนั้น เขาไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยฉินฟั่งส่งที่อยู่ไปยังโทรศัพท์มือถือของเขาอย่างรวดเร็วเมื่อฟู่จิ้นหานนึกถึงเรื่องที่วันนี้เขาได้พบกับซูห
เมื่อสังเกตเห็นว่าหยางซูเริ่มขมวดคิ้ว ซูอินก็ตระหนักถึงท่าทีของเธอได้ในทันทีเธอรีบระงับความรู้สึกผิดเอาไว้ แต่แสร้งทำเป็นอธิบายด้วยท่าทีสงบนิ่ง: “คุณตาก็แค่ลืมเท่านั้น ฉันไม่โทษท่านหรอกที่จำฉันไม่ได้ ฉันเชื่อว่าเดี๋ยวท่านก็จะดีขึ้น จนสามารถจำฉันได้ จำหลานสายแท้ ๆ ของท่านได้”ไม่ใช่ซูหรานที่ถูกเข้าใจผิดว่าคือฉินเหยียนแต่ท่าทีที่รู้สึกผิดของเธอนั้น ไม่สามารถเล็ดลอดไปจากสายตาของหยางซูได้หยางซูยิ่งรู้สึกแปลกในใจมากขึ้นเรื่อย ๆโดยเฉพาะซูอินแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขารีบขจัดความสงสัยในใจทิ้ง และปลอบซูอินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “คุณปู่จะต้องกลับมาจำได้อย่างแน่นอน”จะกลับมาจำได้จริง ๆ งั้นเหรอ?ขนตาของซูอินเริ่มสั่นเทา แต่ความรู้สึกผิดที่ซ่อนอยู่ในใจของเธอยังคงอยู่สำหรับเธอแล้ว การที่เขากลับมาจำทุกอย่างได้ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี และทางที่ดีที่สุดก็คือ......เหมือนว่าในหัวซูอินจะนึกอะไรออก จู่ ๆ เธอก็มองไปที่หยางซู และจงใจแสดงความผิดหวังออกมาผ่านสายตา“ก่อนหน้านี้คุณปู่ยังบอกอีกว่าจะฉลองวันเกิดให้ฉัน ท่านบอกว่า ในวันเกิดปีแรกที่ฉันได้กลับตระกูลเย่ ท่านจะพาฉันกลับไปเยี่ยม
ซูหรานได้ยินคำว่า “สามี” จากปากเขาอย่างคลุมเครือ และเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากไปที่เย่หลินบาร์ในคืนนั้นขึ้นมา ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำทันทีฟู่จิ้นหานเองก็นึกถึงคืนนั้นด้วยเช่นกันบรรยากาศยิ่งเพิ่มความคลุมเครือมากขึ้นกว่าเดิมในตอนที่ซูหรานไม่สามารถทนสายตาอันเร่าร้อนของฟู่จิ้นหานที่มีต่อเธอได้ และกำลังจะจ้องกลับอย่างดุเดือด ฟู่จิ้นหานก็ถอนสายตากลับไปเสียก่อนฟู่จิ้นหานรู้ดีว่าไม่ควรที่จะเร่งเร้าจนเกินไปซูหรานไม่ชอบ “คุณชายสามฟู่” เขายิ่งไม่ควรทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคืองใจจนกลายเป็นความเกลียดชังแต่ระหว่างทาง ทั้งที่กำลังขับรถอยู่ สายตาของเขาก็เผลอมองเธอโดยที่ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ราวกับไม่ว่ายังไงก็มองไม่พอซูหรานสัมผัสได้ถึงสายตาที่เขามองมา เธอคิดว่าเขากำลังมองเธออยู่ แต่ขณะที่เธอมองมาที่เขา ท่าทีของเขากลับเหมือนว่ากำลังใช้สมาธิขับรถอยู่ต่างฝ่ายต่างก็นั่งเงียบมาตลอดทางรถจอดอยู่บริเวณสวนด้านนอกของโรงแรมระดับไฮเอนด์ในไห่เฉิงเจ้าของงานเลี้ยงวันเกิดครบร้อยวันสกุลหลิว ในไห่เฉิง ตระกูลหลิวเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี เนื่องจากหลายเดือนก่อนขาดแคลนเงินทุนอย่างหนัก ตอน
ฟู่จิ้นหานขมวดคิ้ว และแอบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเงียบ ๆ เพื่อส่งข้อความถึงฉินฟั่งฉินฟั่งมองดูข้อความที่คุณชายของเขาเพิ่งจะสั่งการ เครื่องหมายคำถามก็ผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด: ? ? ?ตรวจสอบข้อมูลพ่อของเด็กที่เพิ่งจะฉลองร้อยวันทำไมคุณชายถึงได้ไปให้ความสนใจกับเจ้านายของบริษัทเล็ก ๆ ที่ใกล้จะล้มละลายได้?ฉินฟั่งเดาความคิดคุณชายของเขาไม่ออกจริง ๆ แต่ในเมื่อเป็นเรื่องที่คุณชายสั่ง เขาเองก็ไม่กล้าที่จะรอช้า รีบส่งคนไปสืบทันที ในเวลาไม่ถึงสิบนาที ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับหลิวชิงก็ถูกส่งเข้าเมลส่วนตัวของฟู่จิ้นหานเสียงหัวเราะของซูหรานและหนูน้อยยังคงกึกก้องอยู่ในสวนหลิวชิงและภรรยาของเขาคอยมองดูอยู่ข้าง ๆ แม้ว่าใบหน้าจะมีรอยยิ้ม แต่ลึก ๆ ในใจกลับรู้สึกเศร้าฟู่จิ้นหานดูที่โทรศัพท์ของเขา ตอนนี้ก็พอจะเข้าใจเรื่องราวคร่าว ๆ ของหลิวชิงแล้วศักยภาพไม่เลว แค่ขาดโชคนิดหน่อย โครงการพัฒนาชิปของบริษัทเขา เป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ฟู่ซือกรุ๊ปคอยดูแลอยู่พอดีบางทีอาจเพราะหนูน้อยเล่นสนุกมากเกินไป จนเริ่มหิวขึ้นมาแล้วในตอนที่ซูหรานนำหนูน้อยส่งคืนสู่อ้อมแขนของภรรยาหลิวชิง เธอยังคงลังเลเล็กน้อยก
เลขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เสียงของเจ้านายที่อยู่ปลายสายก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ฉันต้องการที่อยู่ ฉันให้เวลาหนึ่งนาที ส่งที่อยู่มาที่โทรศัพท์ของฉันซะ”หลังพูดจบ สายก็ถูกตัดไปเลขาไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของเจ้านาย เขาจึงไม่กล้ารอช้าเมื่อที่อยู่ถูกส่งไปยังโทรศัพท์มือถือของมหาเศรษฐีแห่งการลงทุน เขาก็ได้ขับรถออกมาจากที่จอดรถ และตรงไปยังจุดหมายทันทีในขณะเดียวกันนี้เอง รถหรูหลายคันต่างก็ขับออกมาจากสถานที่อื่น ๆ หลายแห่งในไห่เฉิงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย และมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถยนต์หรูหราจำนวนนับไม่ถ้วนก็มาจอดอยู่ด้านนอกสวนของโรงแรมต่างก็เป็นบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมการลงทุนและเทคโนโลยีของไห่เฉิง โดยปกติแล้ว คนใหญ่คนโตก็มักจะทักทายกันอย่างสุภาพเสมอ แต่ในเวลานี้พวกเขาทุกคนกลับดูกังวล ราวกับว่าพวกเขามีเรื่องที่สำคัญมากกว่านั้นรออยู่น่าขัน!ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรวมกัน ก็เทียบเส้นผมของคุณชายสามฟู่ที่อยู่ด้านในไม่ติดเลยแม้แต่เส้นเดียวที่พวกเขามาที่นี่ต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน: คือได้ทำความรู้จักกับคุณชายสามฟู่แต่คุณชายส
ส่วนผู้ชายคนนั้น......ตั้งแต่ต้นจนจบ หยางซูไม่เคยเห็นด้านหน้าของชายคนนั้นเลย เห็นเพียงด้านหลังของเขาเท่านั้น และแผ่นหลังนั้นก็เหมือนกับชายคนที่เขาเห็นก่อนที่จะออกมาจากวิลล่ามากซูอินเองก็เคยบอกไว้ ว่าซูหรานแต่งงานแล้วเขาเป็นสามีของซูหรานงั้นเหรอ?ภาพของชายที่นั่งยอง ๆ ลง และแบกเธอขึ้นเมื่อสักครู่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา พวกเขาช่างรักกันเสียจริงจู่ ๆ หยางซูก็รู้สึกรำคาญขึ้นมานิดหน่อย กระทั่งไม่อยากที่จะสนใจหยางซูเลยด้วยซ้ำ เขาจึงหันหลังและเดินเข้าไปในบาร์ซูอินสัมผัสได้ถึงความเย็นชาที่เขาปฏิบัติต่อเธอได้อย่างชัดเจนเห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้เขาดูกระตือรือร้นต่อเธอมาก ต่อหน้ากลุ่มเพื่อนในไห่เฉิงของเขา เขาถึงขั้นโอบไหล่ของเธอโดยไม่ลังเลเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าปากเขาจะพูดฉอด ๆ ว่าลูกพี่ลูกน้อง แต่คำพูดและการกระทำของเขาก็ค่อนข้างเปิดเผย: ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ธรรมดา แต่จู่ ๆ ก็เย็นชากะทันหันแบบนี้ อะไรคือสาเหตุกันแน่?ซูอินจ้องมองไปยังทิศทางที่หยางชูกำลังมองอยู่ตอนนี้อย่างครุ่นคิดก่อนที่เธอจะทันได้มีเวลาคิด โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเป็นสายจากหลินเยว่เยว่ในเวลานี้ ซูอินเอาแต่
เธอต้องการที่จะผละออก แต่ทว่าความมั่นคงที่เขานำมาให้เธอในตอนนี้นั้น ดูเหมือนว่าจะมีเวทย์มนตร์บางอย่าง ที่คอยดึงดูดให้เธอเคลิบเคลิ้มไปกับมัน จนไม่สามารถถอนตัวได้ในเมื่อไม่สามารถถอนตัวได้ เช่นนั้นก็ปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งกับมันไปสักพักแม้แต่ซูหรานเองก็ไม่ทันได้สังเกต ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอเลิกขัดขืนเขาเธอถึงขั้นทิ้งตัวซบลงบนหลังเขาเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจของเขา เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ตอนนี้เธอผ่อนคลายลงมาก คลื่นแห่งความเหนื่อยล้าก็ถาโถมเข้ามาเสียงหายใจดังขึ้นมาจากด้านหลัง ฟู่จิ้นหานก็รู้ได้ในทันทีว่าเธอหลับไปแล้ว“นี่ถึงขั้นหลับได้ลง ใจร้ายจังเลยนะ!” ฟู่จิ้นหานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แต่เขาก็กลับไม่ได้ตั้งใจที่จะตำหนิเธอเพื่อที่จะทำให้เธอนอนหลับได้อย่างสงบ เขาจงใจชะลอความเร็วลงจู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่า รอบ ๆ ไม่มีคน การที่ได้แบกเธอไว้แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาอยากที่จะแบกเธอแบบนี้ไปทั้งชีวิตสายลมยามค่ำคืนพัดโชยมา ฟู่จิ้นหานขมวดคิ้วซูหรานสวมกระโปรง เขากลัวว่าเธอจะหนาวต่อให้เขาจะอยากซึมซับความรู้สึกตอนนี้มากแค่ไหน แต่เขาก็คงปวดใจถ้าเธอต้องไม่สบาย เขาจึงโทรศัพท์หาฉินฟั่ง ให้เขาขับรถ