ซูอินเพิ่งวางสายจากหลินเยว่เยว่ไม่นาน ก็มองหน้าจอโทรศัพท์อย่างแปลกใจ"เย่ซือเหยียน? หึ..."ตั้งแต่วันที่ถูกคนของคุณชายสามฟู่ไล่ออกจากโรงพยาบาล ซูอินก็ไม่ได้ไปโรงพยาบาลอีกเลย ในข่าวไม่ได้เห็นข่าวการเสียชีวิตของคุณปู่เย่ ก็ไม่รู้ว่าคุณปู่เย่ฟื้นขึ้นมาหรือยังเย่ซือเหยียนโทรมาหาเธอเอง คงมีอะไรเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลซูอินรีบรับสาย "พี่ซือเหยียน พี่หาฉันเหรอ? คุณปู่เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า? ฉันไม่ได้ไม่ไปเยี่ยมคุณปู่นะ แต่เพราะพี่ชายกับพี่หรานหราน..."ซูอินแสดงท่าทางน้อยใจแต่เธอพูดยังไม่ทันจบ เย่ซือเหยียนก็ขัดการแสดงของเธอ "คุณปู่ฟื้นแล้ว""จริงเหรอ?"ซูอินอุทาน ดูเหมือนจะซ่อนความดีใจไม่อยู่แต่เย่ซือเหยียนไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของเธอเลย เย่ซือเหยียนแค่อยากให้ซูอินไปโรงพยาบาล ดูว่าตอนนี้ตระกูลเย่เป็นยังไงบ้าง"อินอิน ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะรีบไปเยี่ยมคุณปู่ที่โรงพยาบาลเร็วๆ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไรก็ตาม"พูดจบ เย่ซือเหยียนก็วางสายซูอินจ้องโทรศัพท์ที่ถูกวางสาย สีหน้าหม่นลงทันที"เธอหมายความว่ายังไง?"ซูอินขมวดคิ้ว กัดฟันครุ่นคิดครู่หนึ่ง เธอรู้ว่าไม่ว่าคำพูดของเย่ซือเหยียนจะมีความหมายลึ
ถ้าให้เหยียนเหยียนเข้าใจผิดจะทำยังไง?คุณปู่เย่มองไปทางซูหรานข้างๆ อธิบายด้วยสีหน้าจริงจังมาก"อย่าเข้าใจผิดนะ พ่อมีลูกสาวแค่หนูคนเดียว นอกจากหนู ก็ไม่มีญาติสายเลือดเดียวกันอีกแล้ว!"ท่านกลัวว่าลูกสาวจะเข้าใจผิดว่าท่านให้ความรักกับคนอื่นปฏิกิริยานี้ทำให้ซูหรานก็อดอึ้งไปไม่ได้ ตามมาด้วยความรู้สึกสะเทือนใจหลายปีมานี้ คุณปู่เย่คงแบกรับความเสียใจและรู้สึกผิดมากมาย จนเรื่องที่ลูกสาวกลับบ้านแล้วจากไปอีกครั้งกลายเป็นปมในใจของท่านเห็นซูหรานไม่พูดอะไร คุณปู่เย่ก็ขมวดคิ้วมองซูอิน สายตาเต็มไปด้วยความตำหนิ "สาวน้อยคนนี้ พูดส่งเดชแบบนี้ได้ยังไง ทำให้ลูกสาวฉันเข้าใจผิด เธอต้องอธิบายให้ลูกสาวเข้าใจให้ชัดเจน!"ซูอิน "..."เกิดอะไรขึ้น?ทุกคำที่คุณปู่เย่พูด เธอได้ยินชัดเจน แต่พอเอามารวมกัน เธอกลับไม่เข้าใจความหมายลูกสาวของท่านอะไร?ลูกสาวของท่านจะเป็นซูหรานได้ยังไง?!ซูอินพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้า ไม่นานเธอก็แน่ใจ ต้องเป็นเพราะซูหรานป้อนยาอะไรให้คุณปู่เย่แน่ๆ!เธอจะไม่ยอมให้ซูหรานทำสำเร็จซูอินยังคงมองคุณปู่เย่ สายตาเต็มไปด้วยความจริงใจและกระตือรือร้น "คุณปู่คะ มองฉันให้ดีๆ ส
ระหว่างทางกลับ เธอเตรียมใจไว้แล้ว แต่พอได้ยินคำพูดนี้ เธอก็ชะงักฝีเท้าอยู่ครู่หนึ่งเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ที่สุดของตระกูลเย่?ไม่ควรเป็นเธอ ซูอิน หรอกหรือ?ทำไมถึงเป็นซูหราน!ซูอินกลั้นความอิจฉาและไม่พอใจเอาไว้ มองซูหรานอย่างไม่เป็นที่สังเกต แล้วก้มหน้าลงอย่างว่าง่ายเธอต้องอยู่ในวิลล่าตระกูลเย่ ถึงจะมีโอกาส!"คุณปู่..."ซูอินฝืนยิ้ม เรียกเสียงอ่อนโยนคุณปู่เย่มองเธอผ่านๆ ดูเหมือนจะจำได้ว่าเธอคือคนที่สาปแช่งลูกสาวของเขาที่โรงพยาบาล ใบหน้าที่เมื่อครู่ยังเต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดูต่อซูหราน กลับบึ้งตึงลงทันทีพูดเสียงอย่างเย็นชา"เธอมาทำอะไร?"บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันทีซูอินเตรียมคำพูดไว้แล้ว เธอคุกเข่าลงทันที ทำหน้าน่าสงสารขอโทษ "ฉันพูดผิดไป เมื่อกี้ฉันแค่ตื่นเต้นเกินไป ขอคุณปู่โปรดยกโทษให้อินอินที่พูดจาไม่ยั้งคิดด้วยเถอะค่ะ""ฉันไม่ใช่ปู่ของเธอ"คุณปู่เย่ไม่ยอมรับซูอินกัดริมฝีปากเบาๆ ยังคงลดท่าทีลง "คุณปู่คะ ฉันผิดจริงๆ ค่ะ ขอคุณปู่อย่าไล่ฉันไปเลยนะคะ"คุณปู่เย่มองซูอิน รู้สึกไม่ชอบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกคุณปู่อะไรกัน?เด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาเรียกคนอื่นเป็นญาติอย่างไม
เย่ซือเหยียนเพิ่งนึกถึงซูอินได้ รีบจับข้อมือของหยางซู แล้วเดินเข้าไปแนะนำทั้งสองคน“หยางซู นี่คือซูอิน...โอ้ ไม่ ไม่ใช่ คุณปู่เปลี่ยนชื่อให้อินอินแล้ว ตอนนี้เธอควรจะชื่อเย่อิน”“ไนติงเกล? ไนติงเกลที่ร้องเพลงได้เหรอ” หยางซูตอบด้วยน้ำเสียงขี้เล่นโดยไม่ได้คิดว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นหลานแท้ๆ ของตระกูลเย่ แต่หลังจากเขาพูดจบ เย่ซือเหยียนก็ตบเขาอย่างแรงด้วยท่าทีตำหนิ “หยางซู จริงจังหน่อย เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณเคยเจอข้างนอกพวกนั้น” เย่ซือเหยียนพูดจบก็จับมือซูอินขึ้นมา “มานี่ อินอิน นี่คือลูกชายคนเดียวของคุณน้าเย่ซินของเรา หยางซู”น้าเย่ซิน?ซูอินไม่ได้รู้ทันทีว่าเย่ซินคือใคร จนกระทั่งเย่ซือเหยียนพูดว่า “ตอนที่แม่ของเธอออกจากตระกูลเย่ น้าเย่ซินก็รู้สึกผิดมากเหมือนกัน เรื่องบาดหมางของรุ่นก่อน พอมาถึงรุ่นเราแล้วก็ไม่ต้องพูดถึงดีกว่า”ถึงจะบอกไม่ให้พูดถึง แต่ก็จงใจพูดออกมา ซูอินก็รู้ทันทีว่าเย่ซินคือใครลูกสาวบุญธรรมของตระกูลเย่คนนั้น ว่ากันว่าความเข้าใจผิดระหว่างฉินเหยียนกับคุณปู่เย่ที่ทำให้ฉินเหยียนตัดสินใจออกจากตระกูลเย่ ล้วนเป็นฝีมือของเย่ซินทั้งสิ้นและคนตรงหน้าคนนี้
น่ารักและมีเสน่ห์มาก...ตอนที่หยางซูพูดประโยคนี้ สายตาของเขาร้อนแรงจนทำให้ใบหน้าของซูอินร้อนวูบขึ้นมาทันที ขนตาของเธอสั่นไหวเบาๆ เห็นได้ชัดว่าคำพูดเหล่านั้นได้แทรกซึมเข้าไปในหัวใจของเธอ ก่อให้เกิดคลื่นไม่น้อยมุมปากของซูอินยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ หยางซูก็ยิ้มเช่นกันเขาไม่สนใจปฏิกิริยาตกตะลึงของเย่ซินที่ปลายสาย และวางสายทันทีในรถ บรรยากาศเงียบสงบมากราวกับอุณหภูมิได้เพิ่มสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัวหยางซูรู้ดีว่าจะจัดการกับผู้หญิงอย่างไร โดยเฉพาะคนอย่างซูอิน เขาแค่มองเธออย่างจดจ่อ ราวกับถูกเธอทำให้หลงใหล บางครั้งก็ชมว่า "น้องอินอิน เธอสวยจริงๆ"ซูอินฟังแล้วรู้สึกปลาบปลื้ม ความภาคภูมิใจแทบจะล้นออกมาแต่เธอยังคงทำหน้านิ่งสงบราวกับแกล้งไม่เข้าใจ "ความหลงใหล" ที่หยางซูแสดงออกมา เธอมีสถานะเป็นแค่น้องสาวของเขาลูกหลานคนรวยคนนี้...ไม่ว่าเขาจะมาเมืองไห่ด้วยจุดประสงค์อะไร และไม่ว่าเขาจะมีแผนอะไรกับเย่ซือเหยียน ซูอินตัดสินใจแล้วว่าจะต้องใช้ประโยชน์จากผู้ชายคนนี้ให้ได้ถ้าเธอรู้จักควบคุมเขาให้ดี บางเรื่อง เขาจะต้องทำได้ดีกว่าลู่ซิวหนิงแน่นอน!ส่วนวิธีควบคุมผู้ชายคนนี้...รถจอดที่หน้าวิลล
แขกไม่ได้รับเชิญมาเยือนที่วิลล่าตระกูลเย่ทันทีที่พ่อบ้านได้รับข่าว ก็รีบตรงไปรอต้อนรับที่ประตูอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูยิ้มแย้มของหยางซู เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นอีกแน่นอน“คุณปู่ของฉันอยู่ที่ไหนกันล่ะ?”ทันทีที่หยางซูเดินผ่านประตูเข้าไป เขาก็รีบถามหาคุณท่านเย่อย่างกระตือรือร้นแม้ว่าเขาจะสกุลหยาง เย่ซินเองก็เป็นฝ่ายที่แต่งออกไป แต่หยางซูก็กลับเรียกคุณท่านเย่ว่า “คุณปู่” มาตั้งแต่เด็ก ๆ ราวกับถูกตีตราว่าเป็น “คนนอก” สำหรับตระกูลเย่หลายปีมานี้ แม้ว่าคุณท่านเย่จะไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับเย่ซิน สองแม่ลูกนี้มากนักแต่ขอบเขตธุรกิจของตระกูลเย่ก็ค่อนข้างที่จะใหญ่ ในสายตาของคนนอก ไม่ว่ายังไงเย่ซิน สองแม่ลูกนี้ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเย่อยู่ดีเกรงว่าพอทั้งสองได้รู้ถึงสถานการณ์ของคุณท่านเย่ เย่ซิน สองแม่ลูกเองก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวแล้วด้วยเช่นกัน“คุณชายซู เชิญด้านนี้ครับ”พ่อบ้านยิ้มให้อย่างอ่อนโยนคำว่าคุณชายที่เรียกออกมานั้น กลับทำให้หยางซูรู้สึกอึดอัดใจนิดหน่อยเย่ถิงเซินเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเย่ พอมาถึงเขา จึงเป็นได้แค่ “คุณชายซู” เท่านั้น.
เธอเบี่ยงสายตามองไปทางอื่น ราวกับว่าเธอไม่แม้แต่จะอยากสนใจเขาเสียด้วยซ้ำ“คุณ......”พอหยางซูจะเปิดปากพูด เขาก็ไม่สามารถพูดประโยคที่จะเปลี่ยนความสนใจของเธอได้ เขาอยากที่จะประกาศตัวตนออกไป แล้วทำให้เธอเสียใจกับการกระทำที่หยาบคายของเธอที่ทำกับเขาเมื่อสักครู่นี้แต่ประโยคที่ว่า “คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร” กลับพูดออกมาได้แค่คำว่า “คุณ” เท่านั้นทันใดนั้นก็มีเสียงสองเสียงแทรกขึ้นมา และขัดจังหวะคำพูดของเขาทันที“เหยียนเหยียน? เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”“หรานหราน......”เสียงทั้งสองเสียงดังขึ้นพร้อมกันทันทีที่สิ้นเสียงพูด ชายหนุ่มเจ้าของเสียงก็ได้เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าซูหรานแล้ว เขาคว้าข้อมือของซูหรานขึ้นมา พร้อมกับถามออกไปด้วยความกังวล: “หรานหราน ไม่เป็นไรใช่ไหม?”คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเย่ถิงเซินแววตาที่เป็นกังวลของเย่ถิงเซินแสดงออกมาอย่าชัดเจน เขากวาดสายตามองดูซูหรานอย่างรวดเร็ว ราวกับต้องการเช็คเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด“ฉันไม่เป็นไรค่ะ!” ซูหรานกางมือออกพร้อมกับเหลือบมองคนที่อยู่บนพื้นอีกครั้งคนที่มีปัญหา เป็นคนอื่นต่างหากหยางซูที่นอนอยู่บนพื้น: “......”เขา
เธอทำการหักนิ้วมือ และขณะที่กำลังจะสะบัดข้อมืออีกครั้งหยางซูก็ได้ก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วทำให้เขาสูญเสียการทรงตัวไปชั่วขณะพอเห็นสีหน้ามองเหยียดของซูหราน พร้อมกับทิศทางที่เธอกำลังตรงมาหาเขามันให้ความรู้สึกเหมือนจะมีคำสี่คำปรากฏขึ้นมา: ไม่ใช่คนดีโมเมนตัมที่น่ากลัวนั้น ทำให้หยางซูถึงขั้นต้องก้าวถอยหลังซูหรานก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวคนหนึ่งล่าถอย อีกคนก้าวไปข้างหน้า ไม่นานหยางซูก็ถูกบังคับให้ต้องมาหยุดอยู่ที่ทางลงบันได ความเย่อหยิ่งที่ต้องการคำขอโทษจากซูหรานเมื่อสักครู่นั้น ก็ได้หายไปจนหมดสิ้นในที่สุดก็มาถึงจุดที่เป็นทางเดิน ที่กว้างพอจะให้คนคนหนึ่งเดินผ่านได้ ซูหรานก้าวเท้ายาว ๆ เดินผ่านสิ่งกีดขวางนี้ และเดินตรงกลับไปยังทางเข้าห้องของเธอขณะที่กำลังเดินเข้าประตูไป ซูหรานก็หันกลับมามองหยางซู แล้วพูดเป็นนัยว่า: “คุณชายซูอย่างมัวมาเสียเวลากับฉันเลยค่ะ หากว่าคุณชายซูเบื่อ น้องอินอินอยู่เป็นเพื่อนคุณได้นะคะ”ทันทีที่ซูหรานพูดจบ สายตาของเธอก็มองไปยังชั้นล่างด้วยแววตาที่ดูคลุมเครือณ ประตูห้องโถงใหญ่ ไม่รู้ว่าซูอินยืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนแล้วหยางซูมองตามสายตาของซูหราน และเห็นเข้าก