โรงพยาบาล?เซียวหยุนเจินสนใจขึ้นมา "เตรียมของเยี่ยมไข้ให้ผมหน่อย ผมจะไปเยี่ยมคนป่วย"ผู้ช่วยแปลกใจเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้พูดอะไรมาก รีบเตรียมของเยี่ยมไข้ทันทีโรงพยาบาลซินเหอก่อนกลับ ซูหรานวางบัตรเชิญไว้บนโต๊ะในห้องพักผู้ป่วยเดิมทีเธอไม่ได้ตั้งใจจะบอกเขา แต่เธออยากแนะนำสามีอันดับหนึ่งให้คุณปู่รู้จักในงานเลี้ยงแต่การเชิญโดยตรงก็กระดากเกินไปเธอทิ้งบัตรเชิญไว้ให้เขา เขาน่าจะเข้าใจความหมายของเธอใช่ไหม?เขาจะไปไหม?ซูหรานคิดแล้วคิดอีก เธอรู้สึกว่าเขาจะต้องไปแน่นอนซูหรานออกจากโรงพยาบาล เซียวหยุนเจินก็ลงจากรถหรูคันหนึ่ง พอดีเดินสวนกับซูหรานฟู่จิ้นหานมองบัตรเชิญบนโต๊ะอย่างใจลอย เขาเข้าใจความหมายของซูหรานแน่นอน เธอเชิญเขาไปงานเลี้ยงต้อนรับเข้าทำงานของเธอแต่ครั้งนี้คุณปู่เย่ทำใหญ่แม้จะเป็นแค่งานเลี้ยงต้อนรับเข้าทำงาน แต่ยังเชิญตระกูลใหญ่จากเมืองจิงเฉิงมาด้วยถ้าเขาปรากฏตัว อาจปิดบังตัวตนไม่อยู่เขาจะไปไหม?ฟู่จิ้นหานขมวดคิ้ว กำลังครุ่นคิด เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฟู่จิ้นหานหันไปมองที่ประตูเมื่อเห็นผู้มาเยือน ดวงตาเขาฉายแววประหลาดใจหลิงเทียนกรุ๊ป...เซียวหยุนเจินทั้งสองไม่ค่
ซูจี้ไห่แทบจะระเบิดด้วยความโกรธซูหรานไม่ให้หน้าเขาเลยสักนิด แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสที่จะได้ผลประโยชน์จากความมั่งคั่งมหาศาลของตระกูลเย่"ซูหรานบ้านั่น!" ซูจี้ไห่สบถอีกครั้งไม่ได้ เขาไม่อาจยอมแพ้แบบนี้ซูจี้ไห่คิดจะใช้เย่ซิงหลานเป็นเครื่องมืออีกครั้ง เขาคิดว่าถ้าซูหรานยอมให้เงินเขาห้าพันล้านเพื่อคนตายอย่างเย่ซิงหลาน ก็น่าจะยอมทำตามข้อเรียกร้องอื่นๆ ของเขาเพื่อเย่ซิงหลานได้อีกแต่จะข่มขู่ซูหรานยังไงดี?ขณะที่ซูจี้ไห่กำลังคิด จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง "คุณด่าน้องสาวฉัน!"เสียงผู้หญิงแฝงความโกรธเล็กน้อยซูจี้ไห่หันไปมอง จำได้ทันที "คุณ...หนูใหญ่เย่...""คุณรู้จักฉันเหรอ?" เย่ซือเหยียนแปลกใจซูจี้ไห่รีบประจบประแจงทันที "รู้จักครับ รู้จักแน่นอน บริษัทอัญมณีตระกูลเย่เป็นผู้นำในวงการ คุณและคุณชายใหญ่เย่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ผมเคยเห็นคุณในสื่อ"ซูจี้ไห่พูดจบก็รีบยื่นนามบัตรให้ "นี่นามบัตรของผมครับ"เย่ซือเหยียนชำเลืองมองนามบัตร "อ้ายอินจิวเวลรี่? ซูจี้ไห่..."ที่แท้ก็เป็นพ่อของซูอินและซูหรานอ้ายอินจิวเวลรี่?เย่ซือเหยียนมองซูจี้ไห่อย่างมีความหมาย เธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเ
งานเลี้ยงจัดที่วิลล่าแห่งหนึ่งของตระกูลเย่ในเมืองซูหรานก็มาที่นี่เป็นครั้งแรกในฐานะแขกคนสำคัญที่สุดของงาน คุณปู่เย่จัดทีมงานมาดูแลการแต่งหน้าทำผมให้ซูหรานโดยเฉพาะชุดราตรีวันนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ดของแบรนด์หรูระดับโลก เครื่องประดับที่จับคู่ด้วยเป็นชุดที่คุณปู่เย่ให้คนเลือกมาจากคอลเลกชันของตระกูลเย่ในเมืองจิงเฉิง ส่งมาทางเครื่องบินข้ามคืนซูหรานมองชุดเครื่องประดับเหล่านั้น ล้วนเป็นของเก่าระดับโบราณวัตถุ"นี่...มีค่ามากเกินไปแล้ว" ซูหรานเห็นมูลค่าของเครื่องประดับเหล่านั้นในทันทีสองสามชุดอาจใช้คำว่า "มูลค่ามหาศาล" มาอธิบายได้ถ้าเธอสวมใส่แล้วเกิดเสียหาย หรือมีอุบัติเหตุอะไร ต่อให้ขายตัวเธอก็ชดใช้ไม่ไหวเย่ถิงเซินเห็นท่าทางของเธอที่กลัวแม้แต่จะมองนานๆ จะทำให้เครื่องประดับเสียหาย ก็อดยิ้มไม่ได้ "คุณปู่บอกว่าเครื่องประดับชุดนี้เป็นของขวัญต้อนรับเข้าทำงานให้เธอ แม้จะเสียหายก็ไม่เป็นไร"ซูหราน "..."เสียหายก็ไม่เป็นไร?ของมีค่าขนาดนี้ จะให้เสียหายได้ยังไง...ไม่ใช่...ของขวัญต้อนรับเข้าทำงานให้เธอ? ตระกูลเย่ใจป้ำขนาดนี้เลยหรือ?"ฮ่าๆ พี่ อย่าล้อเล่นเลยค่ะ ของขวัญแบบนี้ หนูรับไม่ไห
ถ้าเป็นคนอื่น เย่ซือเหยียนคงโกรธไปแล้วแต่คนตรงหน้านี้ แม้จะอึดอัด เธอก็ต้องยิ้มต้อนรับต่อไป"ใช่ค่ะ คุณหนูใหญ่ตระกูลเย่ คุณปู่ของฉัน..." เย่ซือเหยียนไม่ได้หดมือกลับ แต่ยังคงแนะนำตัวต่อราวกับคิดว่าแค่รู้ว่าเธอเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเย่ แม้แต่ประธานหลิงเทียนกรุ๊ปก็ต้องให้เกียรติบ้างแต่เธอยังพูดไม่ทันจบ เสียงของเซียวหยุนเจินก็ดังขึ้นอีก "รับมาจากสถานสงเคราะห์ จะเป็นคุณหนูใหญ่อะไรได้!"เย่ซือเหยียน "..."ผู้ช่วยสาวข้างๆ "..."ประธานของเธออารมณ์ดี มักจะปากร้ายแบบนี้ ถ้าไม่มีหลิงเทียนกรุ๊ปเป็นที่พึ่ง เขาคงถูกคนตีตายไปนานแล้ว หญ้าบนหลุมฝังศพคงสูงหลายเมตรเห็นเย่ซือเหยียนดูเหมือนจะทนไม่ไหวแล้วผู้ช่วยสาวรีบพูดขึ้น "คุณหนูใหญ่เย่คะ ขอโทษด้วยนะคะ วันนี้ประธานของเรา...อารมณ์ไม่ค่อยดี อย่าถือสาเลยนะคะ..."เซียวหยุนเจินมองผู้ช่วยสาวเย็นชาใครบอกว่าเขาอารมณ์ไม่ดี? วันนี้เขาอารมณ์ดีมากต่างหาก!แต่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้ช่วยสาว ดวงตาของเขาวาบขึ้น ไม่พูดอะไรอีก แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะสนใจเย่ซือเหยียนอีก เดินอ้อมคนตรงหน้าไป จากไปโดยตรงเย่ซือเหยียนที่เหลืออยู่กำมือแน่นผู้ช่วยสาวรู้สึกถึงควา
ขณะที่เซียวหยุนเจินถามออกไป เขาก็นึกถึงอีกคนหนึ่งพร้อมกันนั้น สายตาของเขาก็เห็นเธอเย่ซือเหยียน!"ใช่ค่ะ คนนั้นอยู่ในเมืองไห่เฉิง จากอีเมล์ที่ส่งมา เขามีความจริงใจในการซื้อสูงมาก แต่น่าเสียดาย..." น่าเสียดายที่ท่านประธานไม่ขายเพชรนั้นผู้ช่วยสาวยังพูดไม่ทันจบ เซียวหยุนเจินก็เดินไปหาเย่ซือเหยียนที่อยู่ในกลุ่มคนไม่ไกลแม้วันนี้จะเป็นงานของตระกูลเย่ เย่ถิงเซินและซูหรานอยู่ข้างๆ คุณปู่เย่ เป็นศูนย์กลางของความสนใจ แต่คุณหนูใหญ่เย่คนนี้กลับดูเหมือนคนนอกและสายตาของคนนอกคนนี้ไม่ค่อยเป็นมิตรเลย"คุณอิจฉาคุณซูมากเลยนะ" เสียงของเซียวหยุนเจินดังขึ้นข้างๆ เย่ซือเหยียนอย่างกะทันหันอาจเพราะจดจ่อเกินไป เย่ซือเหยียนถึงเพิ่งสังเกตเห็นเซียวหยุนเจิน"อิจฉา? หรานหรานเป็นหลานสาวของคุณปู่ ฉันก็เป็นหลานสาวของคุณปู่ มีอะไรให้อิจฉาล่ะคะ?" เย่ซือเหยียนไม่อยากให้ใครมองทะลุความคิดของเธอแต่เธอกลับมองข้ามไปว่าคนที่เธอกำลังเผชิญหน้าอยู่คือเซียวหยุนเจินแม้ในประเทศจะมีข่าวลือเกี่ยวกับเขาน้อย แต่คนที่ถือครองหลิงเทียนกรุ๊ปได้ จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร?เซียวหยุนเจินเพียงแค่ยิ้มมองเธอ เพียงไม่กี่วินาที เย่ซ
ซูจี้ไห่ชะงักไป ซูหรานจ้องมองเขา เขาก็ไม่กล้าโกหก "ไม่...ไม่ใช่ครับ""งั้นใครให้คุณมาล่ะ?" คุณปู่เย่เสียงสูงขึ้นเล็กน้อยพร้อมกันนั้น ท่านมองไปทางหนึ่งสายตานั้นทำให้เย่ซือเหยียนใจสั่น กลัวว่าซูจี้ไห่จะบอกชื่อเธอออกมา"ผม...ผม..." ซูจี้ไห่ไม่กล้าเอ่ยชื่อคุณหนูใหญ่เย่ ได้แต่มองซูหรานขอความช่วยเหลือ "หรานหราน..."เขาหวังว่าซูหรานจะช่วยให้เขาลงจากต้นไม้ได้เขาเชื่อว่าแค่ซูหรานเอ่ยปาก คุณปู่เย่ไม่เพียงจะไม่กดดันเขา แต่อาจจะให้เกียรติเขาด้วยซ้ำซูหรานขมวดคิ้ว เธอไม่อยากทำลายบรรยากาศงานเลี้ยงแต่เธอก็รู้ดีว่าซูจี้ไห่มีเจตนาอะไร เธอไม่อาจปล่อยให้เขาใช้ชื่อตระกูลเย่ไปหลอกลวงคนอื่นได้แน่นอนซูหรานยกแก้วเหล้า ยิ้มให้ทุกคนในงาน "ขอโทษด้วยนะคะ แม้ฉันจะนามสกุลซู แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคุณซูจี้ไห่คนนี้แล้ว อาจเป็นเพราะฉันไม่ค่อยรู้ความ ทำให้เขาไม่พอใจ เมื่อหลายเดือนก่อน เขาก็ไล่ฉันออกจากบ้านตระกูลซูแล้ว"ซูหรานไม่กลัวว่าเรื่องพวกนี้จะทำให้เธอเสียหน้ากระแสสังคมมักจะเข้าข้างคนที่ถืออำนาจในการพูด เธอขอบคุณตระกูลเย่ที่ให้อำนาจในการพูดกับเธอแน่นอน คนในงานเริ่มกระซิบกระซาบกัน"คุณหนู
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังสามารถทำให้คุณท่านเย่ทำลายซิงหลานจิวเวลรี่ของซูหรานทิ้งได้อีกด้วย!พอคิดแบบนั้นแล้ว ในใจซูอินก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกและหลังจากที่ปลอบใจซูจี้ไห่สองสามประโยคแล้ว ซูอินก็วางสายไป ขณะที่เธอเดินออกจากห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงครึกครื้นของงานเลี้ยงค็อกเทลดังขึ้นมาหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงของเย่ถิงเซิน:“คุณปู่ครับ คุณปู่กลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อนเถอะครับ ผมจะดูแลหรานหรานเอง”“ปู่แก่แล้ว อันที่จริงร่างกายนี้ก็......ถิงเซิน ปู่มักจะคิดว่าหรานหรานเหมือนกับอาของหลานมาก เพราะงั้นหลานจะต้องดูแลเธอแทนปู่ให้ดี ๆ อย่าปล่อยให้เธอถูกคนรังแกโดยเด็ดขาด”คุณท่านเย่กำชับเป็นพิเศษพอเอ่ยถึงซูหราน น้ำเสียงของเขาก็อ่อนโยนลงมาก เห็นได้ชัดว่ามันเต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดูการดูแลที่เขาพูดถึง ไม่ใช่แค่การดูแลเธอในคืนนี้เท่านั้นเย่ถิงเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง พร้อมกับให้สัญญาอีกครั้ง “คุณปู่วางใจเถอะครับ ผมจะต้องดูแลเธอให้ดีแน่นอนครับ”“ดี มีหลานอยู่ ปู่ก็สบายใจ” คุณท่านเย่ถอนหายใจ และหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นว่า “ปู่กะว่า จะยกบริษัทอัญมณีตระกูลเ
“ขึ้นรถ”เสียงของสามีตัวพ่อดังขึ้นจากนั้นฉินฟั่งก็เปิดประตูรถให้ ซูหรานรีบขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งผู้โดยสาร ทันทีที่ประตูรถปิดลง รถก็เร่งความเร็วแล้วขับออกไปต่อให้รถคันนั้นจะเร็วราวกับสายลม แต่เซียวหยุนเจินก็ยังจำรถคันนั้นได้อยู่ดี เป็นรถของคุณชายสามฟู่ในตอนนั้นและเขาก็ไม่ใช่คนเดียวที่เห็นทุกคนที่วิ่งตามมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็เห็นฉากนั้นด้วยเช่นกัน“คนในรถเมื่อกี้คือใครกัน?”“รถแล่นเร็วเกินไป เลยเห็นไม่ชัด แต่ว่านะ คนที่อยู่ตรงนั้น......เหมือนว่าฉันจะรู้จักเขานะ”มีคนมองไปทางฉินฟังที่ยืนอยู่ริมถนน“รู้สึกว่าเขาจะเป็นผู้นำของ......เออ ใช่ ผู้นำบริษัทชิงอวิ๋นของฟู่ซือกรุ๊ป”“ผู้นำบริษัทชิงอวิ๋นงั้นเหรอ? ผู้นำบริษัทชิงอวิ๋นของฟู่ซือกรุ๊ป แต่ไหนแต่ไรหน้าที่ของเขาก็คือคนที่คอยคุ้มครองผู้มีอำนาจของฟู่ซือกรุ๊ปด้วยตัวของเขาเอง ที่เขามาอยู่ที่นี่ได้ หรือว่าคนที่อยู่ในรถเมื่อกี้นี้จะเป็น......”“คะ......คุณชายสามฟู่......” จะต้องเป็นคุณชายสามฟู่แน่ ๆ!แต่ทำไมคนอย่างคุณชายสามฟู่ถึงได้ขับรถที่มันธรรมดาขนาดนั้นกันล่ะ?แถมยังพาตัวซูหราน ผู้อำนวยการฝ่ายการออกแบบคนใหม่ของบริษัทอัญมณ
คิดจะใช้มุกนี้อีกแล้วเหรอ?ตีเธอหรือด่าเธองั้นเหรอ?ในเมื่อเธอขอมาแบบนี้ เช่นนั้นเธอก็จะสนองความต้องการให้เธอได้สมใจเอง!“เธอ......” มานี่ซูหรานยังพูดไม่ทันจบ ฟู่จิ้นหานก็ได้ส่งสัญญาณให้ฉินฟั่งเสียก่อนเรื่องทำร้ายคนแบบนี้ ทำไมต้องให้ซูหรานเป็นคนลงมือด้วยตัวกันล่ะ?ฉินฟั่งก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาอันรวดเร็วนั้น เขาก็ได้ตบหน้าซูอินไปหนึ่งทีเสียงเพี๊ยะดังขึ้น ไม่มีความปรานีใด ๆ ซูอินเดินเซจนแทบล้ม ยากที่จะทรงตัวเอาไว้ได้ ในหัวขาวโพลนไปหมด เหลือเพียงเสียงหึ่ง ๆ เท่านั้นใครกัน......ที่กล้าทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้? !ทันทีที่ซูอินได้สติกลับมา เธอจึงมองไปที่ฉินฟั่งด้วยความโกรธฉินฟั่งได้รับการฝึกฝนมา เขาได้ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งที่บริษัทชิงอวิ๋น แถมยังได้รับอิทธิพลจากฟูจิ้นหานที่มีความเด็ดขาดในการต่อสู้อีกด้วย เพียงแค่สายตาเดียว ความกดดันของซูอินก็ถูกลดทอนลงไปทันทีแต่จะให้ซูอินยอมได้อย่างไร?เธอเป็นถึงหลานสาวแท้ ๆ ของตระกูลเย่ ฉินฟั่งคนนี้......ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายฟู่จิ้นหานเท่านั้นต่อให้การตบเธอจะเป็นความต้องการของฟู่จิ้นหาน แต่มีคนมากมายอยู่ด้วยขนาดนี้ ห
ไม่จำเป็นต้องแก้ไขพินัยกรรมงั้นเหรอ?ซูอินดีใจมาก รู้สึกเหมือนได้รับความมั่นใจมากขึ้นแน่นอนว่าขอแค่เธอยังเป็นลูกสาวของฉินเหยียนอยู่ คุณท่านเย่ก็จะเห็นแก่หน้าฉินเหยียน และยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอครั้งนี้ ไม่ว่าคุณท่านเย่จะรอดมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ไม่ว่ายังไงพินัยกรรมของคุณท่าน เมื่อกี้ทุกคนต่างก็ได้ยินอย่างชัดเจนกันหมดแล้วคุณท่านเย่ได้มอบทุกอย่างของตระกูลเย่ให้กับเธอ แม้ว่าวันนี้เธอจะยังไม่ได้รับช่วงต่อจากตระกูลเย่ แต่เธอก็ยังเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวอยู่ส่วนคนพวกนี้......ซูอินรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่เมื่อนึกถึงวิดีโอเมื่อกี้แล้ว ซูอินจึงหันไปมองซูหรานที่อยู่ข้าง ๆ คุณท่านเย่ทันทีในตอนนี้ เธอไม่มีเวลามามัวคิดว่าคลิปวิดีโอนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการใช้ประโยชน์จากอำนาจเสียงของคุณท่าน เพื่อช่วยลบข้อครหาและปฏิเสธว่าคนในคลิปไม่ใช่เธอน้ำสกปรกนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องสาดไปที่ซูหรานให้ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซูอินก็ขมวดคิ้วทันที “หนูไม่สนใจของนอกกายพวกนั้นหรอกค่ะ แต่ถ้าหากแม่ของหนูที่อยู่บนสวรรค์รู้ว่าหนูถูกใส่ร้ายด้วยคลิปวิดีโอนั้น จนทำ
น้ำเสียงนั้นดูทุ้มต่ำ แต่ก็มีความโกรธที่ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ปนอยู่ซูอินเงียบและไม่มีการตอบสนองอยู่นาน ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงนั้น ก็กลับมีสีหน้าที่ดูต่างกันออกไปพวกเขาเพิ่งจะได้ยินอะไรกันแน่?เย่ซินกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ก่อนจะกอดแขนตัวเองแน่น ราวกับพยายามขับไล่ความหนาวของเมื่อครู่นี้ที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายออกไปเธอหูฝาดไปรึเปล่านะ?เสียงนั้นน่ะ คือเสียงของคุณท่านจริง ๆ!แต่เห็น ๆ อยู่ว่าคุณท่านเสียชีวิตไปแล้ว แล้วร่างก็กำลังนอนอยู่ในโลงแก้วอีกด้วย จะมีเสียงออกมาได้อย่างไร?แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “วิญญาณ” ขึ้นมา เย่ซินก็กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นตัวและเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนั้น ก็กลับยิ่งทำให้เย่ซือเหยียนมั่นใจในข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ได้ และเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าการแสดงในวันนี้มีซูอินที่เป็นเป้าหมาย!เย่ซือเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าทั้งเย่ถิงเซินและหยางซู พวกเขาสองคนไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ มากนักต่อเสียงของคุณปู่ในตอนนั้นเธอก็รู้ได้ในทันที ว่าทั้งสองคนเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วยเช่นกันส่วนซูอิน......ตอนนี้ ในหัวของซูอินมันขาวโพลนไปหมดเธอเ
หน้าตาที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนแอของซูอินแข็งทื่อทันทีชั่วขณะหนึ่ง เหมือนว่าหน้ากากนั้นของเธอจะถูกเจาะจนทะลุ สีหน้าเธอดูไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “พี่ซู พี่หมายความว่ายังไง?”“ฮึ หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? น้องอินอิน เธอคงไม่คิดว่าทุกคนจะโง่กันหมดหรอกใช่ไหม? ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันก็เดาได้แล้ว ว่าเธอเป็นคนยังไง ต่อหน้าก็แสร้งทำตัวไร้เดียงสาและอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง ใจกลับดำมืดเต็มไปด้วยแผนการ คุณสนุกกับการใช้หน้ากากที่เธอสร้างขึ้นมาหลอกลวงทุกคน ฉันก็เลยเล่นตามน้ำกับเธอไป แกล้งทำเป็นเชื่อในความดีและความไร้เดียงสาของเธอ”เสียงของหยางซูดังกึกก้องทั่วทั้งศาลาไว้ทุกข์ซูอินฟังแล้วก็รู้สึกบาดหูเป็นพิเศษในตอนนี้ ใบหน้าที่เคยแสดงความไร้เดียงสาของเธอก็เริ่มมีความโกรธปรากฏขึ้นมานิดหน่อยที่อยางซูจะบอกก็คือ ทุกสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอ มันเป็นเพียงแค่การแสดงอย่างนั้นน่ะเหรอ?แล้วที่เมื่อวานเขารับปากเธอว่าจะใช้เส้นสายเรียกทนายอู๋มาล่ะ มันเพื่ออะไรกัน?มีคนอื่นอยู่ด้วย ซูอินจึงไม่สะดวกที่จะถามออกมาแต่เมื่อเธอจ้องไปที่ตาของหยางซู กลับทำให้หยางซูเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไร และคิดจะ
ฟู่จิ้นหานก้มหน้าสบตากับซูหรานแววตาของเธอดูมั่นคง มือที่กำเสื้อตรงหน้าอกของเขาก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่จิ้นหานรู้สึกกังวลในใจไม่หาย แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่สามารถขัดขืนซูหรานได้ฟู่จิ้นหานวางเธอลง แต่แขนของเขายังคงโอบเอวเธอเอาไว้อยู่ ท่าทางที่เขาปกป้องเธอนี้ ทำให้ผู้คนรอบข้างเกิดความคิดที่แตกต่างกันออกไปคนที่ตกใจและประหลาดใจที่สุด ก็คือเย่ซินฟู่จิ้นหาน......ผู้นำคนใหม่ของฟู่ซือกรุ๊ปคนนี้ เย่ซินเคยเห็นมาก่อนเขาจัดการกับฟู่ซือกรุ๊ปด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยม ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันในจิงเฉิง แค่เธอได้ยินก็รู้สึกขนลุกทุกคนต่างก็พูดกันว่าฟู่จิ้นหานเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้ สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แววตาของเขาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ บ้างก็เหลือบมองไปยังอีกด้าน แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นเฉียบขาดในทันทีท่าทีที่ฟู่จิ้นหานปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนี้พิเศษมากจริง ๆเย่ซินอดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ้นหาน และนึกถึงชื่อที่พวกเขาเพิ่งจะเรียกเธอขึ้นมาเมื่อกี้หรานหราน......ซูหราน......เธอคือหลานสาวที่คุณท่านรับอุปการะมา
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเสียงของผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ ได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียดถึงจะฟังไม่ชัดเจนว่าเป็นของใคร แต่ก็กลับฟังออกว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเข้มข้นภายใต้เสียงร้องของหญิงสาว กระทั่งการพูดด้วยคำพูดที่ดูเปิดเผยต่าง ๆ ทำให้คนที่อยู่ ณ ตรงนั้นแค่ได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปบ้างแล้วซูอินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และแอบบ่นลินเยว่เยว่ที่ทำการแปลงเสียง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ต่อให้จะฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงของซูหราน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นก็เป็นซูหราน ยังไงก็มีผลลัพธ์เดียวกัน!ซูอินเหลือบมองไปที่เย่ถิงเซินเธออยากเห็นมากที่สุด ก็คือปฏิกิริยาของเย่ถิงเซินหลังจากที่เขาเห็นว่าคนในคลิปคือซูหราน แต่เย่ถิงเซินเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมีสีหน้าที่ดูไม่พอใจเท่านั้น เขากลับไม่หยิบโทรศัพท์ออกมาสักทีดูเหมือนว่าเย่ซินจะตกใจกับภาพที่เธอเห็นมาก เธอจ้องมองที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างงงงวยภายในห้องไว้ทุกข์ เสียงของหญิงสาวยังคงดังกึกก้องอยู่ในบรรยากาศที่แปลกประหลาด ก็มีคนที่สองที่หยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดข้อความที่เพิ่งได้รับเมื่อสักครู่นี้อ่า......เสียงที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ก็ดัง
“พวกเขาจะทำอะไร?”ในหัวเย่ซือเหยียนยังคงคิดไม่ตก ไม่สามารถคาดเดาภาพรวมของเรื่องราวได้เลยแต่เธอก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง: หากคุณท่านยังไม่ตายจริง ๆ เช่นนั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันก็คือกับดักและกับดักนี้ ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อใครอย่างนั้นเหรอ?เย่ซิน? ตัวเธอ? หรือว่า......ซูอิน?เย่ซือเหยียนรู้สึกโชคดีที่เธอค้นพบเรื่องนี้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้น เธอก็อาจจะตกหลุมพรางไปด้วยส่วนซูอิน......ความเกลียดชังสะสมอยู่ในดวงตาของเย่ซือเหยียนไม่ว่ากับดักนี้จะถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับใครก็ตาม วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในตอนนั้นแทบจะในทันที เย่ซือเหยียนโทรหาสายสายหนึ่ง และสั่งการกับคนที่อยู่ปลายสายหนึ่งประโยค หลังจากวางสาย ในใจเย่ซือเหยียนก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป......ในขณะเดียวกัน ณ ศาลาไว้ทุกข์ ซูอินยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอาการเป็นลมของเย่ซือเหยียนทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอย่างมากรอจนกระทั่งพ่อบ้านจัดแจงให้คนพาเย่ซือเหยียนออกไป ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทนายอู๋ แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกกลัวว่าจะมีคนเห็นความลนลานของเธอ เธอจึงไม่กล้าพู
ดูเหมือนว่า ผู้ที่อยู่ในที่นั้นนอกจากท่านท่านเย่แล้ว ก็มีเพียงเย่ถิงเซินเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้การกระทำนี้ ทำให้ซูอินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เธอคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลเย่ และนอกจากนี้ ทนายความอู๋คนนี้เองก็เป็นพยานในการทำพินัยกรรมของคุณท่านเย่อีกด้วย เขาก็ควรจะรู้ว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากพินัยกรรมของคุณท่านคือใครเขาควรถามเธอ และให้เธอเป็นผู้ตัดสินใจสิถึงจะถูกเขากลับถือหางให้เย่ถิงเซินเป็นตัวหลักแต่ไม่นาน ซูอินก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ที่ทนายอู๋คนนี้เป็นคนที่มีตาแต่ไร้แวว รอให้ประกาศพินัยกรรมออกมาก่อน ว่าเธอคือผู้สืบทอดทรัพย์สินของตระกูลเย่ จะทำให้คนเหล่านี้ต้องตื่นตระหนกอีกครั้งแน่นอน“เชิญทนายประกาศได้เลยครับ”คำพูดของเย่ถิงเซินแต่ละคำ ทั้งหนักแน่นและชัดเจนทนายความอู๋เปิดถุงเอกสารที่ปิดผนึกเอาไว้ท่ามกลางสายตาของทุกคน และนำพินัยกรรมที่อยู่ข้างในออกมา“ฉัน เย่ชิงเหอ ทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของฉัน จะถูกสืบทอดโดย......”ทนายความอู๋กำลังอ่านเนื้อหาของพินัยกรรม ทุกคนในศาลาไว้ทุกข์ต่างก็ตั้งใจฟัง และเมื่อถึงจุดนี้ สีหน้าของทุกค
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”หยางซูจ้องมองไปที่ซูอิน เขาจะไม่บอกกับเธอ ว่าทนายคนนั้นได้อยู่ที่ไห่เฉิงเรียบร้อยแล้วทันทีที่คุณท่านกลับมาที่ไห่เฉิง ก็ได้ให้ทนายรีบมาที่นี่อย่างลับ ๆและการกระทำของซูอินในคืนนี้ ดูท่าแล้ว คุณท่านเองก็น่าจะมองสถานการณ์ออกตั้งแต่แรกแล้วเมื่อได้รับคำตอบที่แน่นอนจากหยางซู ซูอินก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิมเธอไม่กล้าที่จะลำพองตัวมากเกินไป เหมือนว่าเธอจะรู้สึกพอใจมาก จึงถอนหายใจออกมา “การที่สามารถทำตามความปรารถนาของคุณปู่ได้ ก็ถือเป็นสิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำเพื่อคุณปู่ได้แล้วล่ะค่ะ”ซูอินลดสายตาลง ให้ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความต้องการอะไรเลยจริง ๆแต่หยางซูกลับรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้แล้วในที่สุดหยางซูก็ไม่สามารถอดทนต่อความเกลียดชังในใจได้ เขาจึงอ้างว่าตนรู้สึกเหนื่อย และต้องการพักผ่อน จึงขอให้ซูอินออกไปก่อนเมื่อกลับมาถึงห้อง ซูอินก็รีบวางแผนทุกอย่างที่เหลือทันทีเช้าวันถัดมา ทั้งวิลล่าก็เริ่มวุ่นวายตั้งแต่เช้าแล้วเมื่อวานได้มีการกำหนดให้เผาศพวันนี้ก่อนเริ่มการเผาศพ ก็ควรไปสักการะร่างของผู้เสียชีวิตเสียก่อนภายในโลงแก้วคุณท่านนอนอยู่ข้างใน ใบหน้าดูมีชีว