"ตื๊ดๆ ๆ ๆ..."เสียงโทรศัพท์ของไห่ถงดังขึ้นเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากพี่สาว จึงกดรับสาย"ถงถง เห็นการค้นหายอดฮิตบนเวยป๋อไหม? พวกเขาน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!"ไห่หลิงก็โกรธมากเช่นกันเมื่อพ่อและแม่ของเธอทั้งคู่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ตอนนั้นเธออายุได้สิบห้าปีและจำสิ่งต่างๆ ได้มากกว่าน้องสาวของเธอเธอเขียนไว้ในไดอารี่ของเธอว่าปู่ ย่า ตา ยาย ลุงๆ และ อาๆ ทั้งหลาย โหดร้ายกับสองพี่น้องขนาดไหนและเธอยังคงเก็บไดอารี่นั้นไว้อยู่ไม่คิดว่าพวกเขาจะกลับดำเป็นขาว ลากสองพี่น้องลงมาเพื่อให้คนประนาม"ไม่ใช่ว่าพวกเขาเพิ่งน่ารังเกียจซะเมื่อไหร่ เมื่อก่อนก็ใจดําอยู่แล้ว""ฉันจะเข้าไปในเว็บอธิบายตอนนี้"ไห่หลิงพูดจบแล้วก็กำลังจะวางสาย แต่ถูกไห่ถงเรียกไว้ก่อน "พี่ ไม่ต้องไปอธิบายหรอก รอให้เรื่องนี้มันใหญ่กว่านี้พวกเราค่อยตอบ จะได้ฉีกหน้าพวกเขาทีเดียว"“พวกเขาเผยแพร่ภาพถ่ายและหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเราสองคน ดังนั้นเราต้องทำการบ้านและรวบรวมหลักฐานก่อนจึงจะฉีกหน้าพวกเขาได้”"ถงถง ถ้าอยากทําอะไร พี่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ใช่แล้วปีนั้นพี่ชอบเขียนไดอารี่ แล้วไดอารี่ที่เคยเขี
ไห่หลิงฟังสามีด่าอย่างรุนแรง เธอโกรธแต่พยายามทำใจเย็น และพูดอย่างเย็นชา "อย่ากังวล เรื่องของฉันจะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณ ฉันปฏิบัติต่อพวกเขาเช่นนั้น ฉันไม่เคยคิดที่จะติดต่อกับพวกเขาอีกเลย พวกเขามาที่นี่อย่างไร้ยางอายและอยากให้เราสองพี่น้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของย่า"หลังจากโจวหงหลินด่าแล้ว ก็เพิ่งตระหนักได้ว่าเขาคำพูดของเขานั้นไร้ปราณี เขาจึงผ่อนคลายลงและพูดว่า "ไห่หลิง คุณก็เขียนโพสต์และชี้แจงหน่อย ผมจะช่วยคุณใช้เงินเพื่อจ้างคนมาเขียนแสดงความคิดเห็นให้และผลักดันโพสต์ของคุณให้ขึ้นคำค้นหายอดฮิต จะได้ไปหักล้างกับพวกเขา เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาเรื่องสกปรกแบบนี้ได้"ตอนนี้เขาก็รังเกียจไห่หลิง และต้องพูดอย่างหนึ่งว่าญาติตระกูลไห่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีจริง ๆตอนเขาแต่งงานกับไห่หลิงในปีนั้น คนเหล่านั้นนั่งรถมาสองคัน และคนหลายสิบคนก็ขอให้เขาจ่ายค่าสินสอด 1,500,000 บาทให้กับพวกเขา มิฉะนั้นจะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของเขากับไห่หลิงเขากับไห่หลิงเป็นเพื่อนร่วมชั้นในมหาวิทยาลัยและรักกันมาหลายปี จึงรู้ดีว่าไห่หลิงและน้องกว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไห่หลิงไม่เคยตำหนิญาติข
"พวกเราเปิดร้านที่นี่มาหลายปีแล้ว ถงถงเป็นคนนิสัยอย่างไรทุกคนก็รู้ ในอินเทอร์เน็ตนั้นเขียนมั่วๆ เปลี่ยนเรื่องผิดเป็นถูกแน่นอน"ไห่ถงไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก เซินเสี่ยวจวินไม่ชอบเห็นคนอื่นเข้าใจเพื่อนผิดและพยายามอธิบายแทนเพื่อนเธอเล่าเรื่องที่คนตระกูลไห่ปฎิบัติกับไห่ถงและพี่สาวอย่างไรบ้างยังเล่าอีกว่าหลังจากที่ย่าไห่ล้มป่วย คนตระกูลไห่ก็ต้องการให้ไห่ถงรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด และให้ไห่ถงออกเงินค่าเดินทางไป-กลับ ค่าน้ำมัน ฯลฯ ของลูกพี่ลูกน้องอีกด้วยนิสัยของไห่ถงนั้นทุกคนรู้ดี แม้แต่เจ้าของร้านหนังสือคู่แข่งคนอื่นๆ ก็คิดว่าไห่ถงไม่เหมือนคนอกตัญญู เมื่อเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด พวกเขาโกรธมากจนด่าสาปแช่ง ทุกคนบอกว่าจะไปโพสต์อธิบายให้ชาวเน็ตรู้บนอินเทอร์เน็ตทันทีจะยอมปล่อยให้พวกคนตระกูลไห่มีชีวิตสุขสันต์ได้ยังไงแม้พวกเขาเคยเจอกับคนไร้ยางอายมาก่อน แต่ไม่เคยเห็นใครไร้ยางอายเท่าคนตระกูลไห่พวกนั้นรังแกไห่ถงและพี่สาว เพราะพ่อแม่ตายไม่ใช่หรือ?เมื่อเห็นจ้านหยินมา เซินเสี่ยวจวินก็สะกิดไห่ถงที่กำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่ หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไห่ถงไม่ได้ปิดโทรศัพท์หรือเปลี่ยนเบอร์
ไห่ถงอึ้งไปชั่วขณะ แต่ตกลงว่าจะไปกับเขา เธอเดินอ้อมออกจากแคชเชียร์และกระซิบกับเพื่อนว่า "เสี่ยวจวิน ฉันออกไปข้างนอกก่อนนะ ร้านก็ฝากให้เธอดู และเมื่อพี่ของฉันมา เธอช่วยปลอบโยนพี่ของฉันหน่อย ส่วนเรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง บอกพี่ไปว่าไม่ต้องเป็นห่วง""โอเค"เซินเสี่ยวจวินกําชับเพื่อนสองสามคํา แล้วมองเพื่อนออกไปพร้อมกับจ้านหยินไห่ถงนั่งอยู่ในรถของจ้านหยิน และถามจ้านหยินว่า "คุณจ้าน พอมีเพื่อนที่รู้จักในวงการสื่อบ้างไหมคะ?""มีครับ คุณต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาไหม?"ไห่ถงพูดว่า “ฉันกลับไปบ้านเกิดครั้งนี้ จะไปถ่ายบ้านของพวกลุงๆ อาๆ ทั้งหมด ถ้ามีบุคคลที่สามเป็นสักขีพยานอยู่ด้วย มันจะมีน้ำหนักมากขึ้นค่ะ เพราะตอนนี้ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าพวกลุงๆ อาๆ และลูกพี่ลูกน้องทั้งหลายของฉันทำงานอะไรกันอยู่”ตอนนี้ปู่และย่าอาศัยอยู่ในบ้านที่พ่อแม่ของเธอสร้างขึ้นในปีนั้น และเธอก็ต้องการถ่ายรูปสภาพปัจจุบันของพวกเขาสองคนที่อาศัยอยู่ในบ้านเธอจะต้องหักล้างข้อกล่าวหาทีละนิด จึงต้องมีหลักฐานมาสนับสนุนส่วนเรื่องที่ชาวเน็ตที่ตอนนี้ด่าและวิจารณ์เธออย่างเผ็ดร้อนนั้น เธอก็ไม่สนใจแม้แต่น้อยปล่อยไว้สักพักก่อนดีก
ไห่ถงอึ้งไป แต่ก็ยังยิ้มและพูดว่า "มีคู่รักกี่คู่ที่แยกทางกันเมื่อเกิดปัญหา เราเป็นคู่แต่งงานสายฟ้าแลบที่ไม่มีความรู้สึกใดต่อกัน และเราแต่งงานกันได้แค่สิบกว่าวันเท่านั้น คุณยังยินดีที่จะเผชิญกับสิ่งนี้กับฉันอีก ฉันรู้สึกขอบคุณคุณมากจริงๆ ค่ะ"หากจัดการได้ไม่ดี เรื่องนี้ก็จะส่งผลต่อคนรอบข้างเธอ“พี่ฉันและพี่เขยเป็นเพื่อนร่วมชั้นมาหลายปีแล้ว และรักกันมานานก่อนที่จะแต่งงานกัน พวกเขามีลูกชาย หลังจากรู้ว่าพี่สาวติดคำค้นหาร้อนแรงในอินเตอร์เนต ท่าทีของพี่เขยฉันก็ไม่ค่อยดีนัก”หลังจากจ้านหยินเงียบไปครู่หนึ่งก็พูดว่า "ไห่ถง คุณไม่สามารถเอาพี่เขยของคุณ มาเปรียบเทียบกับผู้ชายทุกคนได้ เพราะมันไม่ยุติธรรมกับผู้ชายคนอื่นมาก คนเราร้อยพ่อพันแม่ ความคิดของแต่ละคนจึงแตกต่างกัน"เขารู้สึกว่าความรู้สึกของโจวหงหลินที่มีต่อไห่หลิงนั้นแย่ลงเพียงแต่เขาที่เป็นน้องเขย แต่ก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่น้องเขยได้ดี ก่อนที่ยังไม่มีหลักฐาน เขาก็ไม่กล้าพูดว่าโจวหงหลินนอกใจ แม้มีลางสังหรณ์ว่าโจวหงหลินนั้นมีปัญหา"ก็ใช่ค่ะ"การแต่งงานของพี่สาว ทำให้ไห่ถงรังเกียจความรักและการแต่งงานเล็กน้อย โชคดีที่ผู้ชายของเธอค่อนข้างดี
“แน่นอน ถ้านายต้องไปนัดบอดหรือจัดงานแต่งงานสายฟ้าแลบ ฉันสามารถให้วันหยุดพิเศษแก่นายได้”ซูหนานวางสายจากหัวหน้าและเพื่อนของเขาอยากจะทำให้เขาดูแย่เหรอ!ไม่มีทาง!จ้านหยินแต่งงานสายฟ้าแลบเพราะถูกคุณย่าของเขาบังคับคุณยายจ้านชอบไห่ถงมาก แม้จะเป็นการแต่งงานของหลานชายคนโตก็สามารถเสียสละได้หลังจากสั่งซูหนานเรียบร้อยแล้ว จ้านหยินก็ลงจากรถอีกครั้ง เขาไปซื้อของกินมา เมื่อไห่ถงกลับไปที่รถ เขาก็ส่งอาหารที่ซื้อมาให้ไห่ถงและพูดว่า "ไปกลับครั้งนี้ต้องใช้เวลาหน่อย คุณกินอะไรก่อน อย่าหิ้วท้องตัวเองเพราะปัญหาเล็กๆ น้อยๆ""คุณกินแล้วเหรอคะ?"จ้านหยินแค่ตอบกลับ อืม เขากินไปนิดหน่อยเพื่อไม่ให้ตัวเองหิว ถึงอยากจะกินให้อิ่มแต่ของว่างเหล่านี้ไม่ถูกปากเขาในเมื่อเขากินแล้ว ไห่ถงก็ไม่เกรงใจเมื่อออกเดินทางต่อ จ้านหยินขับรถ ไห่ถงก็กินอาหารอยู่บ้านตระกูลไห่อยู่ห่างจากเขตเมืองกวนเฉิง ต้องขับรถมากกว่าหนึ่งชั่วโมงและใช้ทางด่วนไห่ถงไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านนี้มาเกือบสิบปีแล้ว เมื่อก่อนสองพี่น้องจะกลับมาในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวและฤดูร้อน แต่ทุกครั้งที่กลับมา ปู่กับย่าจะหน้านิ่วคิ้วขมวดและไม่หาอะไรพวกเธอกิน พ
ไห่ถงรีบเช็ดน้ําตาที่หางตาอย่างรวดเร็ว เธอมองไปที่ป้าคนนั้นและจำอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว "ป้าอาหยูใช่ไหมคะ?"ตอนที่แม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ ป้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับแม่ของเธอ"ใช่ฉันเอง เธอกลับมาแล้วเหรอ?"ป้าอาหยูกระตือรือร้นต่อไห่ถงอย่างมาก "จะไปนั่งที่บ้านฉันก่อนไหม?"เธอมองไปที่บ้านหลังนั้น แล้วพูดกับไห่ถง "ฉันได้ยินมาว่าย่าของเธอป่วยและบอกว่าต้องการไปโรงพยาบาลในเมืองเพื่อรับการรักษา ปู่ของเธอและคนอื่นๆ ส่งย่าของเธอไปที่เมืองอย่างอึกทึกครึกโครม พวกเขาทั้งหมดขับรถคันเล็กไป คนนอกว่าคิดว่าพวกเขากำลังพาย่าไปงานเลี้ยงงานแต่งงาน""ปกติไม่เห็นพวกเขากระตือรือร้นขนาดนั้น ย่าป่วยก็ยังลุกขึ้นมากระตือรือร้นกัน เหมือนทําให้พวกเราดูเท่านั้นเอง"ป้าอาหยูไม่ได้เล่นอินเตอร์เน็ต จึงไม่รู้เรื่องราวอะไรแถมข่าวเพิ่งฮือฮาได้ไม่กี่ชั่วโมง จึงยังไม่เป็นข่าวดัง"ป้าอาหยูคะ ปกติพวกเขาไม่สนใจปู่กับย่าของฉันเหรอ?""พวกเขาก็ซื้อผลไม้มาให้ในช่วงวันหยุดเยี่ยมปู่กับย่าของเธอ ปู่ของเธอมีเงินบำนาญ และด้วยเงินจำนวนมากของพ่อแม่ของเธอแบ่งในตอนนั้นอีก ดังนั้นปู่กับย่าของเธอจึงไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า แ
“ในตอนนั้นพวกเขาบอกว่าตราบใดที่เธอให้เงินชดเชยการเสียชีวิตของพ่อแม่ครึ่งหนึ่ง พวกเขาจะไม่ต้องการให้สองพวกเธอพี่น้องมาเลี้ยงดูพวกเขาอีกตลอดช่วงชีวิต และพวกเขายังไม่ต้องการให้พวกเธอสองพี่น้องฝังศพพวกเขาหลังจากที่พวกเขาตาย และนอกจากนี้ย่าเธอยังมีลูกเป็นโหล มันจะมาถึงคิวพวกเธอสองพี่น้องออกเงินได้อย่างไร”"เธอแค่จําไว้ว่าตอนที่พ่อแม่ของเธอเพิ่งตาย ศพยังอุ่น พวกเขาจะขอแบ่งค่าชดเชยการตายของพ่อแม่เธอแล้ว แถมยังไม่เลี้ยงดูพวกเธอสองพี่น้องอีก ยึดบ้าน ยึดไร่นาของพวกเธอ แม้แต่ฝังศพก็ไม่ให้พวกเธอไปฝังศพพ่อแม่ของเธอ พวกเธอไม่ต้องไปให้เงินและไม่ต้องรู้สึกผิดไป"ป้าอาหยูไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนที่ดีกับแม่ไห่ถงเท่านั้น แต่ยังรู้เรื่องราวในปีนั้นอีกด้วยสมัยนั้น หลังจากที่ลุงๆ อาๆ ได้รับเงินแล้ว ก็คิดว่าพ่อแม่ของเธอตายอย่างอนาถ ทั้งคู่อายุยังไม่ถึงสี่สิบปีก็ตาย โชคไม่ดี บางคนแกล้งทำป่วย บางคนก็แก้ตัวอย่างอื่น หาข้อแก้ตัวต่างๆ เพราะไม่อยากช่วยเรื่องการจัดงานศพผู้ใหญ่บ้านทนไม่ไหวจึงด่าพวกเขาทั้งหมด ชาวบ้านก็ชี้นิ้วด่า ดังนั้นพวกเขาเข้ามาช่วยจัดการเรื่องงานศพอย่างไม่เต็มใจ"ก็แค่พวกเขาไร้ยางอาย"หลังจา