ไห่ถงอึ้งไปชั่วขณะ แต่ตกลงว่าจะไปกับเขา เธอเดินอ้อมออกจากแคชเชียร์และกระซิบกับเพื่อนว่า "เสี่ยวจวิน ฉันออกไปข้างนอกก่อนนะ ร้านก็ฝากให้เธอดู และเมื่อพี่ของฉันมา เธอช่วยปลอบโยนพี่ของฉันหน่อย ส่วนเรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง บอกพี่ไปว่าไม่ต้องเป็นห่วง""โอเค"เซินเสี่ยวจวินกําชับเพื่อนสองสามคํา แล้วมองเพื่อนออกไปพร้อมกับจ้านหยินไห่ถงนั่งอยู่ในรถของจ้านหยิน และถามจ้านหยินว่า "คุณจ้าน พอมีเพื่อนที่รู้จักในวงการสื่อบ้างไหมคะ?""มีครับ คุณต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาไหม?"ไห่ถงพูดว่า “ฉันกลับไปบ้านเกิดครั้งนี้ จะไปถ่ายบ้านของพวกลุงๆ อาๆ ทั้งหมด ถ้ามีบุคคลที่สามเป็นสักขีพยานอยู่ด้วย มันจะมีน้ำหนักมากขึ้นค่ะ เพราะตอนนี้ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าพวกลุงๆ อาๆ และลูกพี่ลูกน้องทั้งหลายของฉันทำงานอะไรกันอยู่”ตอนนี้ปู่และย่าอาศัยอยู่ในบ้านที่พ่อแม่ของเธอสร้างขึ้นในปีนั้น และเธอก็ต้องการถ่ายรูปสภาพปัจจุบันของพวกเขาสองคนที่อาศัยอยู่ในบ้านเธอจะต้องหักล้างข้อกล่าวหาทีละนิด จึงต้องมีหลักฐานมาสนับสนุนส่วนเรื่องที่ชาวเน็ตที่ตอนนี้ด่าและวิจารณ์เธออย่างเผ็ดร้อนนั้น เธอก็ไม่สนใจแม้แต่น้อยปล่อยไว้สักพักก่อนดีก
ไห่ถงอึ้งไป แต่ก็ยังยิ้มและพูดว่า "มีคู่รักกี่คู่ที่แยกทางกันเมื่อเกิดปัญหา เราเป็นคู่แต่งงานสายฟ้าแลบที่ไม่มีความรู้สึกใดต่อกัน และเราแต่งงานกันได้แค่สิบกว่าวันเท่านั้น คุณยังยินดีที่จะเผชิญกับสิ่งนี้กับฉันอีก ฉันรู้สึกขอบคุณคุณมากจริงๆ ค่ะ"หากจัดการได้ไม่ดี เรื่องนี้ก็จะส่งผลต่อคนรอบข้างเธอ“พี่ฉันและพี่เขยเป็นเพื่อนร่วมชั้นมาหลายปีแล้ว และรักกันมานานก่อนที่จะแต่งงานกัน พวกเขามีลูกชาย หลังจากรู้ว่าพี่สาวติดคำค้นหาร้อนแรงในอินเตอร์เนต ท่าทีของพี่เขยฉันก็ไม่ค่อยดีนัก”หลังจากจ้านหยินเงียบไปครู่หนึ่งก็พูดว่า "ไห่ถง คุณไม่สามารถเอาพี่เขยของคุณ มาเปรียบเทียบกับผู้ชายทุกคนได้ เพราะมันไม่ยุติธรรมกับผู้ชายคนอื่นมาก คนเราร้อยพ่อพันแม่ ความคิดของแต่ละคนจึงแตกต่างกัน"เขารู้สึกว่าความรู้สึกของโจวหงหลินที่มีต่อไห่หลิงนั้นแย่ลงเพียงแต่เขาที่เป็นน้องเขย แต่ก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่น้องเขยได้ดี ก่อนที่ยังไม่มีหลักฐาน เขาก็ไม่กล้าพูดว่าโจวหงหลินนอกใจ แม้มีลางสังหรณ์ว่าโจวหงหลินนั้นมีปัญหา"ก็ใช่ค่ะ"การแต่งงานของพี่สาว ทำให้ไห่ถงรังเกียจความรักและการแต่งงานเล็กน้อย โชคดีที่ผู้ชายของเธอค่อนข้างดี
“แน่นอน ถ้านายต้องไปนัดบอดหรือจัดงานแต่งงานสายฟ้าแลบ ฉันสามารถให้วันหยุดพิเศษแก่นายได้”ซูหนานวางสายจากหัวหน้าและเพื่อนของเขาอยากจะทำให้เขาดูแย่เหรอ!ไม่มีทาง!จ้านหยินแต่งงานสายฟ้าแลบเพราะถูกคุณย่าของเขาบังคับคุณยายจ้านชอบไห่ถงมาก แม้จะเป็นการแต่งงานของหลานชายคนโตก็สามารถเสียสละได้หลังจากสั่งซูหนานเรียบร้อยแล้ว จ้านหยินก็ลงจากรถอีกครั้ง เขาไปซื้อของกินมา เมื่อไห่ถงกลับไปที่รถ เขาก็ส่งอาหารที่ซื้อมาให้ไห่ถงและพูดว่า "ไปกลับครั้งนี้ต้องใช้เวลาหน่อย คุณกินอะไรก่อน อย่าหิ้วท้องตัวเองเพราะปัญหาเล็กๆ น้อยๆ""คุณกินแล้วเหรอคะ?"จ้านหยินแค่ตอบกลับ อืม เขากินไปนิดหน่อยเพื่อไม่ให้ตัวเองหิว ถึงอยากจะกินให้อิ่มแต่ของว่างเหล่านี้ไม่ถูกปากเขาในเมื่อเขากินแล้ว ไห่ถงก็ไม่เกรงใจเมื่อออกเดินทางต่อ จ้านหยินขับรถ ไห่ถงก็กินอาหารอยู่บ้านตระกูลไห่อยู่ห่างจากเขตเมืองกวนเฉิง ต้องขับรถมากกว่าหนึ่งชั่วโมงและใช้ทางด่วนไห่ถงไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านนี้มาเกือบสิบปีแล้ว เมื่อก่อนสองพี่น้องจะกลับมาในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวและฤดูร้อน แต่ทุกครั้งที่กลับมา ปู่กับย่าจะหน้านิ่วคิ้วขมวดและไม่หาอะไรพวกเธอกิน พ
ไห่ถงรีบเช็ดน้ําตาที่หางตาอย่างรวดเร็ว เธอมองไปที่ป้าคนนั้นและจำอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว "ป้าอาหยูใช่ไหมคะ?"ตอนที่แม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ ป้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับแม่ของเธอ"ใช่ฉันเอง เธอกลับมาแล้วเหรอ?"ป้าอาหยูกระตือรือร้นต่อไห่ถงอย่างมาก "จะไปนั่งที่บ้านฉันก่อนไหม?"เธอมองไปที่บ้านหลังนั้น แล้วพูดกับไห่ถง "ฉันได้ยินมาว่าย่าของเธอป่วยและบอกว่าต้องการไปโรงพยาบาลในเมืองเพื่อรับการรักษา ปู่ของเธอและคนอื่นๆ ส่งย่าของเธอไปที่เมืองอย่างอึกทึกครึกโครม พวกเขาทั้งหมดขับรถคันเล็กไป คนนอกว่าคิดว่าพวกเขากำลังพาย่าไปงานเลี้ยงงานแต่งงาน""ปกติไม่เห็นพวกเขากระตือรือร้นขนาดนั้น ย่าป่วยก็ยังลุกขึ้นมากระตือรือร้นกัน เหมือนทําให้พวกเราดูเท่านั้นเอง"ป้าอาหยูไม่ได้เล่นอินเตอร์เน็ต จึงไม่รู้เรื่องราวอะไรแถมข่าวเพิ่งฮือฮาได้ไม่กี่ชั่วโมง จึงยังไม่เป็นข่าวดัง"ป้าอาหยูคะ ปกติพวกเขาไม่สนใจปู่กับย่าของฉันเหรอ?""พวกเขาก็ซื้อผลไม้มาให้ในช่วงวันหยุดเยี่ยมปู่กับย่าของเธอ ปู่ของเธอมีเงินบำนาญ และด้วยเงินจำนวนมากของพ่อแม่ของเธอแบ่งในตอนนั้นอีก ดังนั้นปู่กับย่าของเธอจึงไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า แ
“ในตอนนั้นพวกเขาบอกว่าตราบใดที่เธอให้เงินชดเชยการเสียชีวิตของพ่อแม่ครึ่งหนึ่ง พวกเขาจะไม่ต้องการให้สองพวกเธอพี่น้องมาเลี้ยงดูพวกเขาอีกตลอดช่วงชีวิต และพวกเขายังไม่ต้องการให้พวกเธอสองพี่น้องฝังศพพวกเขาหลังจากที่พวกเขาตาย และนอกจากนี้ย่าเธอยังมีลูกเป็นโหล มันจะมาถึงคิวพวกเธอสองพี่น้องออกเงินได้อย่างไร”"เธอแค่จําไว้ว่าตอนที่พ่อแม่ของเธอเพิ่งตาย ศพยังอุ่น พวกเขาจะขอแบ่งค่าชดเชยการตายของพ่อแม่เธอแล้ว แถมยังไม่เลี้ยงดูพวกเธอสองพี่น้องอีก ยึดบ้าน ยึดไร่นาของพวกเธอ แม้แต่ฝังศพก็ไม่ให้พวกเธอไปฝังศพพ่อแม่ของเธอ พวกเธอไม่ต้องไปให้เงินและไม่ต้องรู้สึกผิดไป"ป้าอาหยูไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนที่ดีกับแม่ไห่ถงเท่านั้น แต่ยังรู้เรื่องราวในปีนั้นอีกด้วยสมัยนั้น หลังจากที่ลุงๆ อาๆ ได้รับเงินแล้ว ก็คิดว่าพ่อแม่ของเธอตายอย่างอนาถ ทั้งคู่อายุยังไม่ถึงสี่สิบปีก็ตาย โชคไม่ดี บางคนแกล้งทำป่วย บางคนก็แก้ตัวอย่างอื่น หาข้อแก้ตัวต่างๆ เพราะไม่อยากช่วยเรื่องการจัดงานศพผู้ใหญ่บ้านทนไม่ไหวจึงด่าพวกเขาทั้งหมด ชาวบ้านก็ชี้นิ้วด่า ดังนั้นพวกเขาเข้ามาช่วยจัดการเรื่องงานศพอย่างไม่เต็มใจ"ก็แค่พวกเขาไร้ยางอาย"หลังจา
"พวกมันจะออกมาเขียนอธิบายไหม?"ผู้เฒ่าถามเขาไม่เข้าใจอินเทอร์เน็ต แต่เขารู้ว่าโพสต์ของหลานชายคนโตบนอินเทอร์เน็ตนั้นถูกแต่งเรื่องขึ้นมาและไม่เป็นความจริง เขากังวลว่าหากหลานสาวทั้งสองออกมาอธิบาย สุดท้ายพวกเขาก็ยังจะไม่ได้รับเงินแล้วจะอับอายอีก“ใครจะเชื่อพวกมันล่ะ เราจ้างหน้าม้าโซเชียลมามากมายมาเขียนแสดงความคิดเห็นและเปิดโปงข่าวไปเรื่อยๆ เมื่อพวกมันปรากฏตัวก็จะถูกชาวเน็ตชี้หน้าด่า”ผู้เฒ่าไห่พูดว่า "จื้อหมิง แกใช้มือถือของย่าโทรหาไห่ถงอีกครั้ง ถ้าเธอไม่อยากถูกด่าจนตาย ก็แค่ส่งเงินมา ไห่หลิงแต่งงานแล้ว คงไม่มีเงินไม่มาก ก็แค่บีบไห่ถงให้เธอออกเงินมา!"“บอกให้เธอนำเงินมาให้มากกว่า 3,000,000 บาท และจะลบบทความที่แกเขียนไว้ ไม่เช่นนั้นเธอจะด่างพร้อยและไม่สามารถแต่งงานได้”"คุณปู่ เราอย่าเพิ่งเป็นฝ่ายลงมือก่อน รอให้พวกมันติดต่อเรามาเอง แบบนี้ถึงจะบรรลุเป้าหมายได้"ไห่จื้อหมิงคิดถึงผลการค้นหาที่ร้อนแรง เขาก็จะบังคับให้ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองติดต่อกับพวกเขาเองผู้เฒ่าคิดแล้ว ก็รู้สึกว่ามันถูกต้อง ใครก็ตามที่ลงมือก่อนจะแพ้ย่าไห่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "รูปถ่ายที่แกใช้อาจทำให้ไม่มีใครจำพ
จ้านหยินยื่นโทรศัพท์ให้ไห่ถงอย่างเงียบๆชาวเน็ตหลายคนทั้งส่งข้อความและโทรหาไห่ถงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้แบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือไห่ถงหมด เธอจึงติดต่อไม่ได้และแม้แต่คนที่เป็นห่วงก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้"ใครคะ?""คุณยายน่ะ"ไห่ถงรีบรับโทรศัพท์"คุณยายคะ""ไห่ถงเอ๊ย ยายเปิดอินเตอร์เน็ตขึ้นมา เพิ่งรู้ว่าหลานมีปัญหา เป็นอย่างไงบ้าง? ต้องการความช่วยเหลือไหม? รีบบอกจ้านหยินเถอะ เขาทํางานมาหลายปีแล้ว รู้จักคนใหญ่คนโตระดับเป็นเจ้านายหลายคน ช่วยจัดการเรื่องแบบนี้ได้และถนัดมือมาก ง่ายๆ เหมือนกินข้าว"“หลานไม่จำเป็นต้องรู้สึกเขิน พวกหลานเป็นสามีภรรยากันแล้ว ถ้าเจ้าคนนั้นไม่ช่วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นะ เขารอกลับมาบ้านก่อน ยายจะทุบตีเขาเอง”คุณยายจ้านเพิ่งรู้เรื่องนี้จริงๆส่วนใหญ่เป็นเพราะการค้นหายอดฮิตไม่ค่อยส่งผลเท่าไร แถมยังถูกระงับโดยข่าวซุบซิบของจ้านหยินและซางเสี่ยวเฟยอีก ต่อมาก็ตกอันดับค้นหายอดฮิต ต้องอาศัยการแชร์ข่าวออกไป ส่งผลให้ข่าวถูกจำกัดสิทธิ์อยู่ชั่วคราวผู้เฒ่ารู้มาจากหลานชายคนที่สองของเธอว่า หลานสะใภ้คนสำคัญของเธอถูกญาติพี่น้องของเธอรังแก"คุณยาย หนูไม่เป็นไรค่ะ คุณยายก็บอกว่า
ไห่หลิงพูดว่า "ต่อมามีพูดกันว่าพวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากชาวเน็ตผู้ใจดี ย่าได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว และทางโรงพยาบาลก็ได้กำหนดวันเข้ารับการผ่าตัดอีก"“ชาวเน็ตด่าเราอย่างแรงว่า พวกเราเป็นวัวลืมตีน ปู่กับย่าทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูพวกเรา แต่ตอนนี้เราประสบความสำเร็จแล้ว จึงไม่กตัญญูต่อคนแก่ แม้คนแก่จะป่วยเข้าโรงพยาบาล เราไม่ไปเยี่ยมอีก พวกเขาว่าเราใจร้าย อกตัญญู ไร้ยางอาย และขอโทษพ่อแม่เราที่มีลูกแบบเรา”ไห่หลิงอ่านคอมเมนต์ที่บ้านตลอดทั้งวัน และยิ่งเธออ่านมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อเอ่ยถึงพ่อแม่ เธอก็เกลียดพวกเขามากยิ่งขึ้นตอนพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขากตัญญูต่อปู่กับย่ามากกว่าลุงและอาทั้งหลาย แต่เมื่อพ่อแม่เสียชีวิต ปู่กับย่าทํากับพวกเธอแบบนี้ได้อย่างไร?"พี่ อย่าไปดูว่าพวกนั้นพูดอะไร พวกเขาไม่รู้ความจริง เห็นดีเป็นชั่ว แถมถูกใช้ประโยชน์แบบไม่รู้ตัวอีก คิดว่าตัวเองชอบผดุงความยุติธรรมและมีเมตตา แต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเบี้ยในมือคนอื่น ที่ใช้ทําร้ายผู้บริสุทธิ์"สิ่งต่างๆ บนโลกออนไลน์ มักมีการพลิกผันตลอดไห่ถงเห็นมาเยอะในเวลานี้ จ้านหยินพูดเบาๆ ว่า: "ไห่ถง ย่าของ