จ้านหยินไม่รู้ว่าการทำงานหนักอย่างเอาเป็เอาตายนััน จะทำให้คนในบริษัทเดือดร้อนกันถ้วนหน้า หลังจากสงบสติอารมณ์ หลังจกผ่านไปเจ็ดวัน ก็จะเป็นวันจันทร์ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ เขาจึงนัดเจอกับไห่ถงหลังจากพักผ่อนมา 1 สัปดาห์ อาการบาดเจ็บที่มือของไห่ถงก็ดีขึ้น และอย่างน้อยก็ไม่ส่งผลต่อการขับรถของเธออีกต่อไปจ้านหยินนัดพบกับไห่ถงในห้องสวีทที่ชั้นบนสุดของโรงแรมกวนเฉิงไห่ถงพาหยางหยางมาด้วยวันนี้ที่เจ้าตัวเล็กตามเธอมาด้วย ก็เพราะร้านของพี่สาวของเธอกำลังจะปรับปรุงใหม่อยู่ และเธอก็ยุ่งมากในช่วงนี้ จึงไม่มีเวลาดูแลหยางหยาง ทำให้ต้องฝากเขาไว้กับเธอ"นายหญิง"อาฉีและเพื่อนร่วมงานของเขายืนรอไห่ถงอยู่ที่ทางเข้าโรงแรม เมื่อเห็นไห่ถงอุ้มหยางหยางลงมาจากรถ หยางหยางก็ก้าวไปข้างหน้าและเรียกไห่ถงอย่างเคารพว่านายหญิง"นายน้อยของพวกคุณอยู่ไหน?""นายน้อยกำลังรอนายหญิงยู่ที่ชั้นบนสุด นายหญิงแค่ตามพวกเรามาพอครับ"อาชีและคนอื่นๆ ทักทายไห่ถงอย่างเคารพ เมื่อพวกเขาเข้ามาในโรงแรมไม่กี่นาทีต่อมาเธออุ้มหยางหยางเข้าไปในห้องสวีทที่ตกแต่งอย่างงดงามจ้านหยินยืนหันหลังให้ประตู และยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ภายในห
จ้านยินเอาทรัพย์สินส่วนตัวของเขา รวมถึงหุ้นในจ้านซื่อกรุ๊ปเอกสารการโอนหุ้น บัญชีธนาคาร ใบรับรองทรัพย์สินของอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดภายใต้ชื่อของเขา ร้านค้า ฯลฯ ใส่ไว้ในแฟ้มเอกสารเพื่อส่งให้ไห่ถง""แม้ว่าฉันจะโอนหุ้นให้คุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องดูแลบริษัท ฉันจะบริหารจ้านซื่อกรุ๊ปต่อไปเอง และเงินที่ฉันหามาได้ ก็จะเป็นของคุณ ฉันแค่ทำงานเพื่อคุณ ไม่ว่าคุณต้องการเงินมากแค่ไหนหรือคุณต้องการกลายเป็นเศรษฐีนี ฉันก็จะพยายามทำงานอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้คุณไปถึงระดับความสำเร็จนั้นได้""ตราบใดที่คุณเต็มใจ คุณสามารถร่วมมือกับฉัน เพื่อจัดการขั้นตอนต่างๆ และทรัพย์สินทั้งหมดเหล่านี้จะถูกโอนเป็นชื่อของคุณ ฉันจะไม่เก็บไว้สักชิ้นเลย แค่ให้เงินค่าขนมกับฉันทุกเดือนก็พอ""เมื่อก่อนฉันคอยกรีดกันคุณ เพราะกลัวว่าคุณจะพยายามที่จะเอาเงินของฉันไป ตอนนี้ฉันจึงยอมให้เงินคุณทั้งหมดนั้น เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าฉันเชื่อใจคุณ และการกระทำของฉันทั้งหมดนี้ ก็เป็นการขอโทษคุณและสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก"ไห่ทงไม่ได้ดูใบรับรองทรัพย์สินของเขาอีก และยัดมันกลับเข้าไปในแฟ้มเอกสาร จากนั้นจ้องเขา แต่ยังคงเงียบอยู่"ถง
เดาว่าไห่ถงต้องคงปฏิเสธแน่นอน ก่อนที่ไห่ทงจะปฏิเสธได้ เขาก็ขู่เธอว่า “ถ้าคุณไม่รับเอกสารพวกนี้ ฉันจะโยนมันลงมาจากหน้าต่างข้างล่าง คุณเป็นหัวหน้าครอบครัวของเรา และคุณไม่สนใจทรัพย์สินของครอบครัว แล้วฉันจะต้องสนใจ? ฉันสนใจแค่คุณเท่านั้น"ไห่ถง "....."หลังจากไม่ได้เจอกันมาหนึ่งสัปดาห์ เมื่อเขาได้พบกับเธอ เธอคิดว่าเขาได้ทำเข้าใจเธอ และเปลี่ยนนิสัยชอบข่มขู่ของเขาไปแล้ว แต่ตอนนี้ เมื่อได้ยินคำพูดเผด็จการของเขา ไห่ถงก็ถอนหายใจในใจนิสัยของคนเราเปลี่ยนกันได้ยากเขามีนิสัยแบบนี้ เธอไม่สามารถคาดหวังว่าตัวเองจะเป็นข้อยกเว้นและเปลี่ยนแปลงเขาได้เขาจะไม่เปลี่ยนแปลง และเธอเองก็ไม่อยากจะเปลี่ยนเช่นกัน คงทำได้แต่ต้องหยุดแค่นี้หลังจากมองเขาอยู่นาน ไห่ถงก็หยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาอีกครั้งและหยิบบัตรสีดำออกมาจากกระเป๋า เธอส่งบัตรสีดำให้เขาและพูดว่า "ผู้ชายตัวใหญ่ที่ยังเป็นประธานอยู่ จะเดินออกไปโดยไม่มีบัตรแบล็กดาร์ด แล้วแบบนี้จะสมฐานะคุณได้อย่างไร? คุณสามารถนำบัตรธนาคารใบนี้ไปได้ และอย่างอื่น ฉันจะเก็บมันไว้ให้คุณอย่างปลอดภัยชั่วคราว"เพื่อป้องกันไม่ให้เขาโยนของทุกอย่างลงไปนอกหน้าต่างเขาจะทำอย่างนั้
"งัันฉันจะพาคุณไปดูบ้านของพวกเราได้ไหม?"บ้านที่จ้านหยินพูด หมายความถึงบ้านที่เขาซื้อก่อนแต่งงานนั่นเองเขามักจะซื้อวิลล่าขนาดใหญ่ และยังมีสวนหน้าและหลังวิลล่ามีเพียงบ้านในเขตโรงเรียนที่เขาซื้อเท่านั้นที่เป็นตึกสูง ตอนที่เขาซื้อบ้านหลังนี้ เขาโสดอยู่ แต่เขารู้ดีว่าพวกผู้ใหญ่ไม่สามารถปล่อยให้เขาเป็นโสดไปตลอดชีวิตได้ เขาจะต้องแต่งงานและมีลูก และเพื่อความสะดวกในการศึกษาของลูกๆ เขาจึงเลือกซื้อบ้านในเขตโรงเรียน เอาไว้หลายแห่งไม่ว่าลูกของเขาจะเข้าเรียนที่โรงเรียนใด เขาก็มีบ้านอยู่ในเขตการศึกษา ซึ่งสะดวกสำหรับพวกเขาในการไปโรงเรียน"คุณงานไม่ยุ่งเหรอ?""แค่ไม่กับคุณ ฉันไม่ยุ่งเท่าไหร่"ไห่ถง: "....ไว้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์นะ คุณไม่ต้องทำงาน และฉันก็ไม่ต้องเปิดร้าน แล้วค่อยว่ากัน"เธอไม่อยากเบียดเบียนเวลาทำงานของเขาคำพูดของจ้านยินเป็นแค่การลองใจ และตอนนี้ที่เขาได้รู้ผลลัพธ์แล้ว จึงแค่สูดหายใจเข้าลึกๆไห่ถงยินดีที่จะตามเขาไปดูบ้านที่เขาซื้อไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธอยังคงมองเขาเป็นสามีอยู่ และพวกเขายังคงเป็นสมาชิกในครอบครัวกันอยู่อีกแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะยังอยู่แยกกันก็ตาม
จู่ๆ จ้านหยินก็สังเกตเห็นถึงความแตกต่างของฐานะหากไห่ถงไม่ทำงาน เธอจะกลายเป็นไห่หลิงก่อนหย่า ต้องค่อยติดต่อเขาเพื่อขอเงินทุกบาททุกสตางค์ เขาจะให้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์บางทีเมื่อเขาให้เงินไปแล้ว เขาจะต่อว่าเธอว่า รู้จักแต่วิธีใช้เงิน แต่ไม่รู้จักวิธีหาเงินและถ้าไห่ทงเกิดและเติบโตในครอบครัวที่ร่ำรวยเหมือนแม่ของเขา พอแต่งงานเข้าไปในครอบครัวที่ร่ำรวย แม้ว่าเธอจะไม่ทำงาน เธอก็ยังมีทรัพย์สินที่มาก ที่พอนำมาสร้างรายได้ และทำให้เธอเป็นอิสระทางการเงินเขาได้ยินมาจากแม่ว่า ตอนที่เธอแต่งงานกับพ่อเขา พ่อก็เป็นลูกชายคนโตของตระกูลจ้าน ปู่กับย่าของเขาเป็นห่วงว่าแม่ของเขาจะถูกรังแกในบ้านของญาติฝ่ายสามี จึงมอบสินสอด บ้าน รถยนต์ ร้านค้า บริษัทเล็กๆ และอื่นๆ มากมายให้กับเธอบริษัทเล็กๆ ของปู่ซึ่งให้กับแม่ของเขาหลังจากแต่งงาน จากนั้นก็ได้รับการบริหารโดยแม่ของเขามานานหลายทศวรรษ และกลายมาเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 500 ล้านบาทจ้านหยินได้รับการเรียกร้องความต้องการของไห่ถงสำหรับความเป็นอิสระ และให้เขามอบเวลาให้เธอปรับตัวและกลายมาเป็นส่วนหนึ่งกับสังคมของเขาไห่ถงยิ้มและพูดว่า “ฉันจะดู
ไห่ถงอุ้มหยางหยางและเดินไปที่ด้านหน้ารถ เธอปลดล็อกรถ เปิดประตู และวางหยางหยางไว้ในที่เบาะนั่งสำหรับเด็ก จากนั้นหันหน้าไปพูดกับจ้านหยินที่ยืนอยู่ด้านหลังว่า “ฉันจะไปก่อนนะ”จ้านหยินจ้องเธออย่างลึกซึ้ง และพูดออกมา "อืม"เขาเหลือบมองรถของเธอ แล้วพูดว่า “เปลี่ยนเป็นรถคันอื่นดีกว่าไหม”ไห่ถงขึ้นรถและสตาร์ทรถแล้ว ก็กดกระจกหน้าต่างลดงมา แล้วพูดกับเขาว่า “นี่เป็นรถคันแรกที่คุณให้ฉัน"สายตาของจ้านหยินลึกซึ้งยิ่งขึ้นเธอขับรถออกไปเขาหยุดนิ่งจ้องมองรถของเธอ แล่นออกไปอาชียืนอยู่ห่างออกไปพร้อมทีมบอดี้การ์ด เพราะกลัวที่จะเข้าใกล้มากเกินไปดูเหมือนว่าคุณชายน้อยกับนายหญิงจะหยุดทะเลาะกันแล้ว แต่ทั้งคู่กลับห่างเหินและเย็นชากัน แถมยังขาดความรักที่หวานชื่นและเอาใจใส่กันอย่างเคยจนกระทั่งรถของไห่ถงลับสายตาไป จ้านหยินก็โบกมือบอดี้การ์ดรีบวิ่งเข้ามา"กลับบริษัท"จ้านหยินพูดด้วยเสียงทุ้มอาชีแจ้งให้คนขับขับรถออกมา จ้านหยินก็ขึ้นไปบนรถโรลส์-รอยซ์ โดยมีบอดี้การ์ดรายล้อมอยู่ และมุ่งหน้ากลับบริษัทอย่างอลังการอีกด้านหนึ่ง ไห่ถงก็มุ่งหน้าตรงไปที่ร้านอาหารเช้าของพี่สาวการตกแต่งร้านอาหารเช้าของไห่
เธอหยุดเช็ดโต๊ะ เดินออกไปพร้อมกับผ้าขี้ริ้ว ส่งรอยยิ้มให้ ขณะที่น้องสาวของลงมาจากรถ พร้อมกับอุ้มลูกชายไว้ในอ้อมแขน"แม่"หยางหยางวิ่งไปหาแม่ของเขาเมื่อเห็นเด็กน้อยวิ่งไปหาแม่ทันทีที่ลงจากรถ ไห่ทงก็ยิ้มและพูดกับพี่สาวว่า “ถึงพี่จะตีเขาแค่ไหน เขาก็ยังรักแม่อยู่เหมือนเดิม""เป็นเรื่องปกติ เธอกับจ้านหยินต่างก็ชอบเด็กกันทั้งคู่ ดังนั้นลองคิดมีลูกดูสักคนสิ"ไห่หลิงหยอกล้อน้องสาว พร้อมทั้งสังเกตท่าทางของเธอ เมื่อเห็นว่าน้องสาวแค่ยิ้ม และไม่ตอบโต้อะไร จึงรู้ว่าสองสามีภรรยายังไม่คืนดีกัน"จ้านหยินนัดเธอไปพบทำไม?"ไห่หลิงพาลูกชายและน้องสาวกลับไปที่ร้าน จากนั้นถามด้วยความเป็นห่วงทันทีที่พี่สาวถามออกมาไห่ถงก็รีบกลับไปที่รถและหยิบแฟ้มเอกสาร ที่มีทรัพย์สมบัติทั้งหมดของจ้านหยินลงมาจากรถเมื่อกลับมาที่ร้าน ไห่ถงเห็นว่าคนงานไม่อยู่แล้ว จึงถามพี่สาวว่า “ทำเสร็จหมดแล้วเหรอ?""อืม สร็จแล้ว เมื่อกี้เพิ่งบอกช่างไป รอให้ฉันทำความสะอาดก่อน แล้วค่อยกลับมา ตรวจสอบดูว่ามีจุดไหนที่ต้องปรับปรุงอีกหรือไม่ ถ้าไม่มีก็เหลือแค่จ่ายค่าแรงในวันพรุ่งนี้"ไห่หลิงวางลูกชายล งและปล่อยให้เขาเล่นอยู่ในร้าน เธอเดิน
"ให้เวลาอีกสักหน่อยแล้วกันนะ" ตบหลังน้อง แล้วเก็บใบรับรองทรัพย์สินทั้งหมดกลับเข้าไปในแฟ้มเอกสาร แล้วพูดว่า” ของพวกนี้สำคัญมาก อย่าเก็บไว้ที่บ้านเช่าพี่เลย ถึงแม้ว่าพี่จะเช่าบ้านที่ดีมากก็ตาม แต่คนที่อยู่ตึกเดียวกัน ก็มาหลายพ่อพันแม่""และการรักษาความปลอดภัยไม่ดีเท่าหมิงหยวนฮวา การ์เด้น เธอเอาของพวกนี้กลับบ้านเธอกับจ้านหยินไปซะ และซื้อตู้เซฟแล้วล็อคเอาไว้ มันจะปลอดภัยกว่า เพราะนี่คือทรัพย์สินทั้งหมดของจ้านหยินเลยนะ"หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ไห่ถงก็พูดว่า "ฉันจะโทรหาคุณยายทีหลังและเอาของพวกนี้ไปให้เธอ ให้เธอเก็บไว้อย่างปลอดภัย เพราะบ้านของพวกเขาก็จะปลอดภัยกว่า""โอเค"ไห่หลิงไม่ขัดข้องและถามน้องสาวว่า “เธออยากอยู่ที่นี่ เพื่อทานอาหารกลางวันไหม?”"ฉันอยากจะไปคฤหาสน์ตระกูลซางหาคุณป้าหน่อย และจะอยู่ที่บ้านของเธอเพื่อทานอาหารเย็นเลย""ไปหาคุณป้ามีเรื่องอะไรเหรอ?"ไห่หลิงถามด้วยความเป็นห่วงว่า "มีเรื่องอะไรอยากให้คุณป้าช่วยเหรอ?"คุณนายซางเป็นญาติและยังเป็นบุคคลที่มีสถานะสูงในกวนเฉิงด้วย หลังจากที่พวกเเธอได้พบกับนางซาง สองพี่น้องก็ไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์จากการที่เป็นหลานของคุณนายซาง และ