ไห่หลิงเหลือบมองน้องสาว: "หรือว่าเสื้อผ้าของเขาจะเดินออกมาเอง? แต่นี่เสื้อผ้ายังเปียกอยู่เลยนะ น่าจะซักเมื่อคืนนี้หรือเช้านี้"ไห่ถง: "…เป็นไปได้ไหมที่เขากลับมาเมื่อคืนนี้จริงๆ?""เธอพูดอะไรนะ?"“ไม่มีอะไร พี่ดูดอกไม้ที่ฉันปลูกสิ สวยมั้ย? ค่อยๆ ชมดอกไม้ไปก่อน ตอนที่ฉันกินข้าวอยู่นะ”ไห่ถงกลับไปที่ห้องครัวพร้อมชามข้าว จากนั้นรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วส่งข้อความไปหาเซินเสี่ยวจวิน "เสี่ยวจวิน เมื่อคืนฉันเมาตอนไหน? หลังจากที่เมา เธอและน้องเธอพาฉันกลับมาส่งบ้าน?"“ทำไมฉันถึงฝันทั้งคืนว่าจ้านหยินกลับมา และฉันก็ไม่คิดถึงเขาสักนิด”“แถมยังมีเสื้อผ้าของเขาตากอยู่บนระเบียงบ้านอีก และมันก็ยังเปียกอยู่… เป็นไปได้ไหมว่าฉันไม่ได้ฝันไป และเขาก็กลับมาจริงๆ”“ส่งข้อความมาพอ ไม่ต้องโทรมา พี่อยู่ที่นี่ ถ้าเธอได้ยินเข้าและรู้ว่าจ้านหยินกับฉันกำลังมีปัญหากัน เดี๋ยวจะทำให้เธอกังวล”หลังจากการหย่าของไห่หลิง ความกลัวที่ใหญ่ที่สุดของเธอก็คือน้องสาวจะได้รับผลกระทบและมีชีวิตแต่งงานที่ไม่สมบูรณ์เช่นกันไห่หลิงจึงกังวลมากเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างน้องสาวกับสามีเซินเสี่ยวจวินตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า "เธอ
"ตื๊ด ๆ ๆ ๆ..."โทรศัพท์ของไห่ถงดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าจากซางเสี่ยวเฟยเธอหยุดแชทกับเซินเสี่ยวจวินชั่วคราวและรับสายโทรศัพท์ของซางเสี่ยวเฟย“ไห่ถง เธออาศัยอยู่ที่ไหน?”"หยวนหมิงฮวา การ์เด้น"“โอเค ฉันจะไปที่นั้นเดี๋ยวนี้ ฉันอยู่ที่ร้านของเธอ แต่วันนี้เธอไม่เปิดร้านน่ะ”ไห่ถงพูดว่า"โอเค ฉันจะส่งที่อยู่ให้เธอนะ พี่ฉันและฉันก็กำลังเตรียมตัวออกจากบ้านแล้วเหมือนกัน"ซางเสี่ยวเฟยตอบกลับอืมหลังจากที่ไห่ถงส่งที่อยู่ให้เธอแล้ว เธอก็เอาโทรศัพท์ออกมาเปิดการนำทางไปที่หยวนหมิงฮวา การ์เด้นเธอมักจะขับรถเร็วเสมอ เมื่อกำลังจะตัดเข้าสู่ถนนสายหลักตรงทางแยก เธอก็เกือบจะชนกับรถมายบัค และทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องเบรกกะทันหันซางเสี่ยวเฟยกดกระจกรถ และคนขับอีกคนก็กดกระจกรถด้วยซางเสี่ยวเฟยส่งสัญญาณให้คนขับอีกคนหนึ่งถอยหลัง เพื่อให้เธอผ่านไปก่อนแต่คนขับไม่สนใจซางเสี่ยวเฟย และหันไปมองคนที่นั่งเบาะหลังแทน"เกิดอะไรขึ้น?"จวินหลานถาม“รถอีกคันไม่ยอมหลีกทางครับ และอยากให้พวกเราถอยหลังหลีกทางก่อน"จวินหลานดึงม่านออกเล็กน้อย และมองออกไปข้างนอกก่อนจะปิดม่านอีกครั้ง: “นั่นคือเสี่ยวเฟยจากตระกูลซาง เธอค่อน
หลังจากไฟเขียว รถขวบนรถพิเศษของจวินหลานก็ขับออกไปก่อนซางเสี่ยวเฟยเห็นหมายเลขทะเบียนรถของเขาคิดในใจว่านั่นรถใคร? รถเก๋งสีดำด้านหลังเป็นรถบอดี้การ์ด?ในกวนเฉิงมีใครอื่นอีกบ้าง นอกจากจ้านหยินที่มีรถของกลุ่มบอดี้การ์ดคุ้มกัน?ซางเสี่ยวเฟยนึกไม่ออกแม้แต่พี่ชายของเธอก็ไม่ชอบมีบอดี้การ์ดตาม และบางครั้งก็นำบอดี้การ์ดมาแค่สองคนเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากจ้านหยินที่มีบอดี้การ์ดสองทีม ทีมละแปดคน ดังนั้นทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว เขามักจะทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนฮ่องเต้เสด็จมาไห่ถงไม่รู้ว่าชางเสี่ยวเฟยได้เจอกับจวินหลานบนท้องถนน หลังจากส่งที่อยู่ให้ซางเสี่ยวเฟยแล้ว เธอก็ส่งข้อความหาเซินเสี่ยวจวิน และบอกว่าเธอต้องไปบ้านป้า เพื่อทำความคุ้นเคยกันหน่อยหลังจากนั้นเธอก็คิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะส่งข้อความถึงจ้านหยินจ้านหยินอาจจะยังอยู่บนเครื่องบินและไม่ได้ตอบกลับไห่ถงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเธอพึมพำ: "ถ้าคุณไม่ตอบก็ไม่ต้องตอบ ฉันไม่สนใจคำตอบของคุณหรอก"เธอยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเสื้อโค้ต ลุกขึ้นไปที่ห้องครัวเพื่อล้างจาน“พี่ได้ทายารักษาแผลเป็นบนใบหน้าหรือเปล่า?”“ทาสิ ฉันไม่รู้ว่ามันจะทิ้งรอยแผลเป็นไ
“ยังไงก็เถอะ ฉันขอบอกคุณไว้นะ เดือนหน้าวันวาเลนไทน์ หงหลินกับฉันจะไปจดทะเบียนสมรสกัน”ไห่หลิงยังคงสงบ "ขอแสดงความยินดีกับคุณเย่ด้วย"ขอแสดงความยินดีกับเย่เจียนีที่กระโดดลงไปในบ่อโคลนของตระกูลโจว“สุดสัปดาห์นี้ ฉันตื่นมากหงลินได้เตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว ฉันได้ยินมาว่าคุณแต่งงานมาสามปีแล้วและทำอาหารให้หงหลิน คุณคงยังไม่ได้ลิ้มรสฝีมือการทำอาหารของหงหลินเลย”ไห่หลิงไม่อยากฟังคำพูดยั่วยุของเย่เจียนีอีกต่อไป จึงกดตัดสายโทรศัพท์“พี่ ยัยคนที่ชื่อเย่ใช่ไหม?”“ใช่ เธอน่าจะลืมกินยาน่ะ โจวหงหลินและฉันหย่ากันแล้ว แถมฉันอวยพรพวกเขาอีก แต่เธอก็ยังกล้าที่จะโทรหาฉัน และยังพูดอย่างไร้ยางอายว่าต้องการเพิ่มฉันเป็นเพื่อนใน WeChat เพราะเธอต้องการแสดงความรักต่อโจวหงหลินทุกวันในโซเชี่ยลมีเดียของเธอ ซึ่งต่องการพยายามทำให้ฉันโกรธ”“ฉันมีอะะให้ต้องโกรธ? พวกเราหย่ากันแล้ว โจวหงหลินก็ไม่เกี่ยวข้องกับฉันอีกต่อไป เขาเป็นแค่อดีตสามี”โจวหงหลินเตรียมอาหารเช้าให้เย่เจียนี นั่นทำให้ไห่หลิงหัวเราะ โจวหงหลินไม่เคยทำอาหารเลย จึงเป็นเรื่องแปลกที่เขาสามารถเตรียมอาหารเช้าให้เย่เจียนีได้ เขาคงออกไปข้างนอกมาแน่นอน“เธอย
พี่สาวเธอเป็นคนขับรถมาไห่หลิงสอนลูกชายกล่าวทักทายผู้คนหยางหยางไม่ต้องการให้คุณนายซางอุ้ม แต่เขายินดีที่จะทักทายคนอื่น ไม่ว่าแม่ของเขาสอนให้เขาทักทายใครก็ตาม เขาจะเรียกพวกเขาอย่างนั้น“เด็กคนนี้น่ารักจริงๆ”หลานจิงพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันขออุ้มเขาหน่อยได้ไหม?”คุณนายซางบอก "หยางหยางไม่ยอมให้ฉันอุ้มเขา เขาจะยอมให้เธออุ้มเหรอ?"หลานจิงเอื้อมมือออกไป และสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน หยางหยางมองเธอแล้วยื่นแขนเล็กๆของเขาออกมา นั่นแสดงว่าเขาต้องการให้หลานจิงอุ้มเขาได้คุณนายซางถึงกับผงะ: “.....หยางหยางก็สามารถเลือกคนเหมือนกันนะ"“ปกติหยางหยางไม่เลือกคน ครั้งก่อนเป็นเพราะมีเรื่องเกิดขึ้นค่ะ คุณป้า ครั้งหน้าที่เจอกัน หยางหยางจะต้องยอมให้คุณอุ้มเขาแน่นอน”หยางหยางตามหลานจิงซึ่งทำให้ไห่หลิงประหลาดใจ“สวัสดี ไห่ถง นี่คือลูกชายคนโตของฉัน ซางหวู่เหิง ลูกพี่ลูกน้องของคุณ”คุณนายซางไม่ลืมที่จะแนะนำลูกชายสองคนของเธอให้หลานสาวของเธอรู้จักพี่สาวน้องสาวทั้งสองเรียกซางหวู่เหิงว่า "ลูกพี่ลูกน้อง"ซางหวู่เหิงยิ้มตอบแต่ไม่ได้พูดอะไรคุณนายซางชี้ไปที่ชางไค ลูกชายคนที่สองของเธอแล้วพูด: "นี่คือซางไค
“จิงจิง ฉันเพิ่งห็นแหวนแต่งงานที่ไห่ถงสวมอยู่”หลานจิงมองเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: "คุณคิดว่าเราทุกคนไม่มีตาและมีเพียงคุณเท่านั้นที่เห็นมันเหรอ? เห็นมันแล้วทำไมล่ะ? แหวนแต่งงานของไห่ถงมันมีอะไร?"ซางหวู่เหิงยังคงเงียบ ครุ่นคิดว่าจะพูดอย่างไรดี“ในฐานะสามีภรรยาไม่มีอะไรที่พูดออกมาไม่ได้นะ คุณเรียกฉันมาที่ชั้นบนเพื่อบอกอะไรบางอย่างใช่ไหม มีเรื่องอะไรก็บอกฉันมาเถอะ“จิงจิง คุณจำได้ไหมว่าฉันเคยบอกคุณเกี่ยวกับจ้านหยินอวดแหวนแต่งงานในวงสังคมได้ไหม”หลานจิงพยักหน้าและพูดว่า "แน่นอน ฉันจำวันนั้นได้ในตอนเช้า คุณขอให้ฉันไปบอกเสี่ยวเฟย และคุณก็ยังเป็นคนดี ส่วนฉันกลายเป็นคนไม่ดี จากสีหน้าไม่สบายใจของเสี่ยวเฟย ฉันอยากจะร้องไห้ให้เธอเลยด้วยซ้ำ"“คุณยังบอกอีกว่าเมื่อคุณบังเอิญเจอจ้านหยินที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกวนเฉิง เขาชวนคุณไปทานอาหารเย็น หลังจากกลับบ้าน คุณเอาแต่คุยกับฉันทั้งคืน โดยบอกว่าคุณไม่เคยคิดฝันว่าจะมีจ้านหยินมาเลี้ยงอาหารค่ำในชีวิตนี้”“คุณยังสงสัยอยู่เหรอว่าจ้านหยินมีแรงจูงใจแอบแฝงต่อคุณ? คุณแต่งงานแล้ว และจ้านหยินก็แต่งงานแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องเขาชอบผู้ชาย แม้ว่าเขาจะชอบผู้ชาย เขาก็จะ
ซางหวู่เหิงก็พิจารณาเรื่องนี้เช่นกัน ดังนั้นเมื่อน้องสาวของเขาบอกว่าแซ่ของสามีของไห่ถงคือจ้าน เขาก็เลยไม่ได้คิดถึงจ้านหยินแม้ว่าตระกูลจ้านจะหยั่งรากลึกและอยู่กันมาหลายชั่วอายุคน และยังย้ายออกจากบ้านนอก ว่ากันว่าในหมู่บ้านบรรพบุรุษของพวกเขาทุกคนมีแซ่จ้านหลังจากที่บรรพบุรุษของจ้านหยินร่ำรวย ซางหวู่เหิงไม่รู้ว่าพวกเขานำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ทั้งตระกูลหรือไม่แต่เขารู้ว่ามีพนักงานจำนวนมากที่ใช้แซ่จ้านในสำนักงานใหญ่และบริษัทในเครือของจ้านซื่อกรุ๊ปด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลจ้านที่ร่ำรวยในปัจจุบัน เพียงแค่แซ่เหมือนกัน“ดังนั้นฉันเรียกคุณมา แค่อยากคุยกับคุณ หลังจากนั้นให้คุณหาโอกาสแอบถามไห่ถงว่าสามีของเธอชื่ออะไร อย่าให้แม่และเสี่ยวเฟยได้ยินเข้า คุณก็รู้ว่าเสี่ยวเฟยยังไม่ได้ปล่อยวามรู้สึกที่มีต่อจ้านหยินไปอย่างหมดสิ้น”“แม่เพิ่งพบไห่ถงและพี่สาวเธอ ดังนั้นอย่าให้เธอรู้ตอนนี้ดีกว่า ถ้าสามีของไห่ถงคือจ้านหยินจริงๆ ใครจะรู้ว่าแม่จะมีปฏิกิริยายังไง ตอนนี้เธออยากสนับสนุนหลานสาวทั้งสองคนอย่างสุดใจ แต่แม่ก็ยังรักเสี่ยวเฟยที่สุดอยู่ดี”“แม้แต่พวกเราเองก็ยังเอนเอียงไปทางเสี่ย
“ในที่สุดเสี่ยวเฟยก็ทำใจตัดใจจากจ้านหยินในที่สุด เมื่อเธอตัดใจอย่างจริงจัง และสามารถเผชิญหน้ากับจ้านหยินอย่างใจเย็น จากนั้นยอมรับความจริงที่ว่าเขาแต่งงานแล้ว พวกเราก็สามารถบอกเธอได้”ซางหวู่เหิงถอนหายใจ “ถ้าเธอรู้ว่าสามีของไห่ถงคือคนที่เธอรักแต่ไม่สามารถครอบครองได้ ฉันก็นึกไม่ออกถึงผลที่ตามมา ไห่ตงอาจไม่อยู่ใกล้เรา แต่เสี่ยวเฟยเข้ากันได้ดีกับเธอ”“ฉันต้องคิดถึงเสี่ยวเฟยเสมอ”“แต่ตอนนี้ไห่ถงกลายเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณแล้ว และสามีที่แต่งงานฟ้าแลบของเธอก็คือน้องเขยของคุณ ถ้าเป็นจ้านหยินจริงๆ เขาจะต้องมาที่บ้านของเรากับไห่ถงวันใดวันหนึ่ง เขาจะหลีกเลี่ยงไม่เจอกับคุณแม่ได้อย่างไร?”การไม่มาเจอพวกเขาก็สมเหตุสมผลแต่ครอบครัวฝั่งภรรยาก็เป็นญาติผู้ใหญ่ ดังนั้นสามีของไห่ถงต้องเจอพวกเขาแน่นอน“คืนนี้ฉันจะนัดพบกับจ้านหยิน และถามเขาว่าเขาวางแผนจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร พวกเขาแอบแต่งงานกันหรือเปล่า? ไห่ถงรู้ตัวตนของเขาหรือไม่? เธออาจจะไม่รู้ ถ้าเธอรู้ เธอคงไม่กล้าแต่งงานกับเขา”หลานจิงเตือนเขา: "ไห่ถงบอกว่าสามีของเธออยู่ระหว่างการเดินทางไปทำงานและจะไม่กลับมาสักระยะหนึ่ง"“หวู่เหิง ทำไมคุณไม่โท
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้