“หลังจากที่แต่งงานกัน ฉันก็คอยระวังและสงสัยคุณอยู่ตลอด และผมก็ยังให้คุณเซ็นสัญญาหกเดือน ซึ่งมีข้อจำกัดมากมายกับคุณ... ฉันยอมรับว่าตัวเองเป็นคนงี่เง่า คิดแต่ผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น และไม่เคยคิดถึงคุณสักนิด"“ที่คุณเรียกฉันว่าคนใจแคบ ฉันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ถงถง ฉันขอโทษ!”จ้านหยินจูบริมฝีปากของเธอเบา ๆ ใบหน้าหล่อเหลาต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ถงถง ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ฉันทำความเข้าใจคุณ ค่อยพูดคุยและไว้วางใจคุณ”“คุณก็เป็นภรรยาครั้งแรก ส่วนฉันก็เป็นสามีครั้งแรกเหมือนกัน พวกเราทั้งคู่ต่างก็ไม่มีประสบการณ์ ดังนั้นต้องมาเรียนรู้ร่วมกัน พยายามและก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน โอเคไหม?”จ้านหยินกระซิบข้างหูของไห่ถง ขณะที่เขาพูดเขาก็เผลอหลับไปข้างเธอสองสามีภรรยาต่างก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากไห่ถงไปที่บาร์เพื่อต้องการเมาลืมเรื่องต่างๆจ้านหยินทำงานทั้งคืน กินไม่อิ่ม นอนไม่พอ เมื่อรู้ว่าไห่ถงไปที่บาร์ เขาก็ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลั งแล้วรีบกลับภายในข้ามคืน พร้อมกับร่างกายที่เหนื่อยล้าและหิวโซเหมือนที่ป้าเหลียงแนะนำเขา ความไว้วางใจและความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างสามีภรรยาถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรั
เมื่อพิจารณารายละเอียดของภาพวาดแล้วแววตาของเขาก็มืดมนลงไห่ถงวาดภาพเขาได้ดีมาก ก็คือ....จงใจวาดหัวใจของเขา และยังทำวาดเล็กมากอีกด้วยเธอกำลังบอกเป็นนัยว่าเขาใจแคบใช่ไหม? อีโก้สูงและความเห็นแก่ตัวมาก!มีทะเลสาบหรือสระน้ำวาดอยู่ด้านหลังภาพเหมือนเขา? วงกลมเหล่านั้นบนผิวน้ำหมายถึงอะไร? ไม่มีภาพวาดปลาในน้ำ ถ้ามีปลาก็คงบอกได้เลยว่าปลากำลังหายใจ ปล่อยฟองอากาศออกมาด้านหลังน้ำมีไข่อยู่จ้านหยินหยิบรูปวาดเดินไผและคิดทบทวนไห่ถงวาดภาพแบบนี้หมายความว่าอะไร?ภาพเสมือนคือ "จ้านหยิน" แต่น้ำและวงกลมนั่นหมายถึงอะไร?อาชีกำลังรออยู่ด้านล่าง"นายน้อยครับ""อืม"จ้านหยินพยักหน้าเมื่อเห็นอาชี และกำลังดูกระดาษในมือของเขา จากนั้นขึ้นรถ แล้วถามว่า: "นายหญิงวาดรูปให้ฉันน่ะ"อาชีภาพวาดแบบผ่านๆ แต่เนื่องจากนายหญิงเป็นคนวาดเอง มันต้องยอดเยี่ยมแน่นอนเขาชมเชยว่า “ภาพวาดของนายหญิงต้องสวยมากแน่ๆ”“อืม เธอวาดภาพฉันออกมาได้ อย่างกับรูปถ่ายเลย”จ้านหยินเอนหลังบนเบาะ จ้องวงกลมหลายวงบนผิวน้ำ“จ้านหยิน” บวกไข่?"น้ำเป็นโคลน ซึ่งหมายความว่า... จ้านหยิน ไอ้คนใจดำ!"อาชีหันศีรษะไปถามจ้านหยิน: "นายน้อย กำ
จ้านหยินพูดด้วยความโกรธ: "นายคิดว่าฉันจะโมโหงั้นเหรอ? ทำไมฉันถึงต้องโมโหด้วย แม้ว่าไห่ถงจะด่าฉันซึ่งๆ หน้าและเรียกฉันว่าคนใจแคบ การถูกตีหรือด่าก็เป็นส่วนหนึ่งของความรัก ที่เธอด่าก็เพราะว่าเธอรักฉัน ถ้าเธอไม่มีความรู้สึกอะไรต่อฉัน เธอคงไม่แม้แต่จะมองหน้าฉันด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงการด่าฉันเลย”“ภาพวาดชิ้นแรกของภรรยา ฉันจะฉีกมันทิ้งลงได้ยังไง ฉันจะเอาไปใส่กรอบและเก็บรักษาไว้อย่างดี พอฉันแก่ตัวไป ฉันก็จะหยิบออกมาชื่นชม แล้วมันก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป”ซูหนาน: "...ถ้าไม่เอาภาพวาดนั้นไปใส่กรอบ นายก็แค่ไอ้ขี้แพ้"จ้านหยินพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ "ฉันไม่เพียงแต่เอาใส่กรอบเท่านั้น แต่ยังต้องแขวนมันไว้ในห้องของฉันกับไห่ถงอีก จากนั้นจะดูวันละสองครั้งในตอนเช้าและตอนเย็น"เพื่อเอาไว้เตือนตัวเองว่าอย่าเป็นคนใจแคบ ไม่คิดเล็กคิดน้อยทำให้เธอโกรธ ทำให้เธอเสียใจ ทำให้เธอร้องไห้ซูหนานเม้มริมฝีปากแล้วพูด:"นายกล้าแขวนมันไว้บนผนังในห้องทำงานของนายไหม?"“ทำไมฉันต้องแขวนมันไว้ที่นั่นด้วย? ภาพวาดที่ภรรยาฉันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างพวกเราสองสามีภรรยา จะไม่ให้คนนอกเห็นได้ ทางที่ดีที่สุด นายควรลืมภา
เธอยังฝันว่าเขาพูดอะไรกับเธอมากมาย แต่เขาพูดว่าอะไรบ้างนั้น เธอไม่ได้ยินสักนิดในความฝัน เธอขอให้เขาพูดดังขึ้นพราะเธอไม่ได้ยินที่เขาพูด แต่ริมฝีปากของเขายังคงเคลื่อนไหวไปโดยไม่ส่งเสียงออกมา และเธอก็ไม่ได้ยินชัดเจน ซึ่งนั่นทำให้เธอวิตกกังวลอย่างยิ่งป้าเหลียงหันกลับมามองเธอ แล้วกลับไปทำงานของเธอต่อ“เมื่อวานตอนบ่าย ฉันพาพี่ของคุณหนูและหยางหยางกลับบ้านก่อนค่ะ ฉันพักที่บ้านพี่สาวคุณหนูเมื่อคืนนี้ ฉันไม่รู้จริงๆว่าคุณจ้านกลับมาหรือเปล่า”ไห่ถงตบหน้าผาก “โอ้ใช่ คุณไม่ได้กลับบ้าน อ่า ปวดหัวมากเลย ป้าเหลียง คุณช่วยทำซุปแก้เมาค้างให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ? ไม่ดีกว่า ฉันจะไปเอายาแก้ปวดมากินก่อนแล้วกันค่ะ ปวดหัวมาก”ไห่ถงออกจากครัวไปจากนั้น ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเดินเข้าไปในห้องรับแขก แล้วหยิบกล่องยามา จากนั้นหยิบยาแก้ปวด เธอแกะซองยาและกำลังกินยา“ปวดหัวใช่ไหม?”เสียงของพี่สาวทำให้เธอสะดุ้งไห่ถงมือสั่นด้วยความกลัว และยาจะร่วงลงกับหล่น“ฉันปวดหัวเพราะนอนไม่ค่อยหลับ กินยาไปคงจะไม่เป็นอะไรแล้ว”เมื่อพี่สาเห็นเธอ ไห่ถงจึงหยิบห่อยาออกมา“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าดื่ม เธอไม่ได้คอแข็งข
ไห่หลิงเหลือบมองน้องสาว: "หรือว่าเสื้อผ้าของเขาจะเดินออกมาเอง? แต่นี่เสื้อผ้ายังเปียกอยู่เลยนะ น่าจะซักเมื่อคืนนี้หรือเช้านี้"ไห่ถง: "…เป็นไปได้ไหมที่เขากลับมาเมื่อคืนนี้จริงๆ?""เธอพูดอะไรนะ?"“ไม่มีอะไร พี่ดูดอกไม้ที่ฉันปลูกสิ สวยมั้ย? ค่อยๆ ชมดอกไม้ไปก่อน ตอนที่ฉันกินข้าวอยู่นะ”ไห่ถงกลับไปที่ห้องครัวพร้อมชามข้าว จากนั้นรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วส่งข้อความไปหาเซินเสี่ยวจวิน "เสี่ยวจวิน เมื่อคืนฉันเมาตอนไหน? หลังจากที่เมา เธอและน้องเธอพาฉันกลับมาส่งบ้าน?"“ทำไมฉันถึงฝันทั้งคืนว่าจ้านหยินกลับมา และฉันก็ไม่คิดถึงเขาสักนิด”“แถมยังมีเสื้อผ้าของเขาตากอยู่บนระเบียงบ้านอีก และมันก็ยังเปียกอยู่… เป็นไปได้ไหมว่าฉันไม่ได้ฝันไป และเขาก็กลับมาจริงๆ”“ส่งข้อความมาพอ ไม่ต้องโทรมา พี่อยู่ที่นี่ ถ้าเธอได้ยินเข้าและรู้ว่าจ้านหยินกับฉันกำลังมีปัญหากัน เดี๋ยวจะทำให้เธอกังวล”หลังจากการหย่าของไห่หลิง ความกลัวที่ใหญ่ที่สุดของเธอก็คือน้องสาวจะได้รับผลกระทบและมีชีวิตแต่งงานที่ไม่สมบูรณ์เช่นกันไห่หลิงจึงกังวลมากเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างน้องสาวกับสามีเซินเสี่ยวจวินตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า "เธอ
"ตื๊ด ๆ ๆ ๆ..."โทรศัพท์ของไห่ถงดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าจากซางเสี่ยวเฟยเธอหยุดแชทกับเซินเสี่ยวจวินชั่วคราวและรับสายโทรศัพท์ของซางเสี่ยวเฟย“ไห่ถง เธออาศัยอยู่ที่ไหน?”"หยวนหมิงฮวา การ์เด้น"“โอเค ฉันจะไปที่นั้นเดี๋ยวนี้ ฉันอยู่ที่ร้านของเธอ แต่วันนี้เธอไม่เปิดร้านน่ะ”ไห่ถงพูดว่า"โอเค ฉันจะส่งที่อยู่ให้เธอนะ พี่ฉันและฉันก็กำลังเตรียมตัวออกจากบ้านแล้วเหมือนกัน"ซางเสี่ยวเฟยตอบกลับอืมหลังจากที่ไห่ถงส่งที่อยู่ให้เธอแล้ว เธอก็เอาโทรศัพท์ออกมาเปิดการนำทางไปที่หยวนหมิงฮวา การ์เด้นเธอมักจะขับรถเร็วเสมอ เมื่อกำลังจะตัดเข้าสู่ถนนสายหลักตรงทางแยก เธอก็เกือบจะชนกับรถมายบัค และทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องเบรกกะทันหันซางเสี่ยวเฟยกดกระจกรถ และคนขับอีกคนก็กดกระจกรถด้วยซางเสี่ยวเฟยส่งสัญญาณให้คนขับอีกคนหนึ่งถอยหลัง เพื่อให้เธอผ่านไปก่อนแต่คนขับไม่สนใจซางเสี่ยวเฟย และหันไปมองคนที่นั่งเบาะหลังแทน"เกิดอะไรขึ้น?"จวินหลานถาม“รถอีกคันไม่ยอมหลีกทางครับ และอยากให้พวกเราถอยหลังหลีกทางก่อน"จวินหลานดึงม่านออกเล็กน้อย และมองออกไปข้างนอกก่อนจะปิดม่านอีกครั้ง: “นั่นคือเสี่ยวเฟยจากตระกูลซาง เธอค่อน
หลังจากไฟเขียว รถขวบนรถพิเศษของจวินหลานก็ขับออกไปก่อนซางเสี่ยวเฟยเห็นหมายเลขทะเบียนรถของเขาคิดในใจว่านั่นรถใคร? รถเก๋งสีดำด้านหลังเป็นรถบอดี้การ์ด?ในกวนเฉิงมีใครอื่นอีกบ้าง นอกจากจ้านหยินที่มีรถของกลุ่มบอดี้การ์ดคุ้มกัน?ซางเสี่ยวเฟยนึกไม่ออกแม้แต่พี่ชายของเธอก็ไม่ชอบมีบอดี้การ์ดตาม และบางครั้งก็นำบอดี้การ์ดมาแค่สองคนเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากจ้านหยินที่มีบอดี้การ์ดสองทีม ทีมละแปดคน ดังนั้นทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว เขามักจะทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนฮ่องเต้เสด็จมาไห่ถงไม่รู้ว่าชางเสี่ยวเฟยได้เจอกับจวินหลานบนท้องถนน หลังจากส่งที่อยู่ให้ซางเสี่ยวเฟยแล้ว เธอก็ส่งข้อความหาเซินเสี่ยวจวิน และบอกว่าเธอต้องไปบ้านป้า เพื่อทำความคุ้นเคยกันหน่อยหลังจากนั้นเธอก็คิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะส่งข้อความถึงจ้านหยินจ้านหยินอาจจะยังอยู่บนเครื่องบินและไม่ได้ตอบกลับไห่ถงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเธอพึมพำ: "ถ้าคุณไม่ตอบก็ไม่ต้องตอบ ฉันไม่สนใจคำตอบของคุณหรอก"เธอยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเสื้อโค้ต ลุกขึ้นไปที่ห้องครัวเพื่อล้างจาน“พี่ได้ทายารักษาแผลเป็นบนใบหน้าหรือเปล่า?”“ทาสิ ฉันไม่รู้ว่ามันจะทิ้งรอยแผลเป็นไ
“ยังไงก็เถอะ ฉันขอบอกคุณไว้นะ เดือนหน้าวันวาเลนไทน์ หงหลินกับฉันจะไปจดทะเบียนสมรสกัน”ไห่หลิงยังคงสงบ "ขอแสดงความยินดีกับคุณเย่ด้วย"ขอแสดงความยินดีกับเย่เจียนีที่กระโดดลงไปในบ่อโคลนของตระกูลโจว“สุดสัปดาห์นี้ ฉันตื่นมากหงลินได้เตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว ฉันได้ยินมาว่าคุณแต่งงานมาสามปีแล้วและทำอาหารให้หงหลิน คุณคงยังไม่ได้ลิ้มรสฝีมือการทำอาหารของหงหลินเลย”ไห่หลิงไม่อยากฟังคำพูดยั่วยุของเย่เจียนีอีกต่อไป จึงกดตัดสายโทรศัพท์“พี่ ยัยคนที่ชื่อเย่ใช่ไหม?”“ใช่ เธอน่าจะลืมกินยาน่ะ โจวหงหลินและฉันหย่ากันแล้ว แถมฉันอวยพรพวกเขาอีก แต่เธอก็ยังกล้าที่จะโทรหาฉัน และยังพูดอย่างไร้ยางอายว่าต้องการเพิ่มฉันเป็นเพื่อนใน WeChat เพราะเธอต้องการแสดงความรักต่อโจวหงหลินทุกวันในโซเชี่ยลมีเดียของเธอ ซึ่งต่องการพยายามทำให้ฉันโกรธ”“ฉันมีอะะให้ต้องโกรธ? พวกเราหย่ากันแล้ว โจวหงหลินก็ไม่เกี่ยวข้องกับฉันอีกต่อไป เขาเป็นแค่อดีตสามี”โจวหงหลินเตรียมอาหารเช้าให้เย่เจียนี นั่นทำให้ไห่หลิงหัวเราะ โจวหงหลินไม่เคยทำอาหารเลย จึงเป็นเรื่องแปลกที่เขาสามารถเตรียมอาหารเช้าให้เย่เจียนีได้ เขาคงออกไปข้างนอกมาแน่นอน“เธอย