ซางเสี่ยวเฟยคิดว่าตัวเองตาฝาดไปจ้านหยินมักจะนั่งอยู่ในรถโรลส์-รอยซ์คันนั้นเสมอ และยังจะมีรถคุ้มกันสีดำหลายคันติดตามอีก ยิ่งกว่านั้นจ้านหยินไม่น่าจะมาปรากฏตัวที่นี่ได้พวกเขาไม่มีใครในครอบครัวเรียนอยู่ที่โรเงรียนมัธยนต้นกวนเฉิงซางเสี่ยวเฟยไม่ได้เอาเรื่องนี้มาใส่ใจเมื่อถึงร้านหนังสือของไห่ถง เธอจอดรถไว้ที่ทางเข้า และไห่ถงก็อุ้มหยางหยางออกมา"ไห่ถง เธอรู้ว่าฉันมา?"ซางเสี่ยวเฟยหัวเราะขณะที่ลงจากรถแล้วพูดว่า "เธอออกมาพร้อมกับหยางหยางเพื่อรับฉัน"“ไม่ ฉันกำลังจะพาหยางหยางไปซุปเปอร์มาร์เก็ต”ซางเสี่ยวเฟยเดินเข้ามาและเอื้อมมือออกไปเพื่อต้องการอุ้มหยางหยาง แต่หยางหยางหันกลับและกอดคอของไห่ถงแล้วพูดว่า "จะอยู่กับน้า"ไห่ถงอธิบายว่า "หยางหยางกำลังดีขึ้น แต่เขาไว้ใจแค่พวกเราไม่กี่คนอยู่กับเขาเท่านั้น"“ตระกูลโจวเป็นไอ้พวกเลว!”ซางเสี่ยวเฟยไม่สามารถอุ้มหยางหยางผู้น่ารักได้ เลยอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งครอบครัวโจว แล้วถามว่า "พี่เธอหย่ากับไอ้โจวชาติหมายัง?"“หย่าแล้วเมื่อวานนี้ และก็ได้รับส่วนแบ่งทรัพย์สินด้วย แถมยังได้คืนค่าตกแต่งบ้านคืนมาแล้ว”ไห่ถงอุ้มหยางหยางเดินกลับมา เพราะซางเสี่ยวเฟยม
หลังจากรินชาแล้ว ซางเสี่ยวเฟยก็พูดด้วยความเจ็บปวดว่า "ไห่ตง นายน้อยจ้านแต่งงานแล้วจริงๆ"ไห่ถงกระพริบตาแล้วพูดว่า "เธอไม่ได้บอกว่าคุณเห็นเขาสวมแหวนแต่งงานครั้งที่แล้วเหรอ?"ทำไมถึงมาพูดถึงนายน้อยจ้านที่แต่งงานแล้วอีกหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ซางเสี่ยวเฟยก็พูดว่า "ฉันเห็นแหวนแต่งงานที่เขาสวมอยู่ แต่ฉันก็คิดว่ายังมีโอกาสอยู่ในใจ คิดว่าเขาจงใจสวมแหวนนั้น เพื่อทำให้ฉันยอมแพ้"เซินเสี่ยวจวินถามเธอว่า "ตอนนี้เธอแน่ใจแล้วหรือนายน้อยจ้านแต่งงานแล้วจริงๆ ?"ซางเสี่ยวเฟยพยักหน้าและตอบว่า "นายน้อยจ้านโพสต์บนโซเชียลของเขาและประกาศว่าแต่งงานแล้ว เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความฮือฮาในสังคมชนชั้นสูงในกวนเฉิง และมีคนนับไม่ถ้วนอยากรู้ว่าภรรยานายน้อยจ้านคือใคร"“ตอนนี้นักข่าวยังคงเฝ้าอยูจ้านซื่อกรุ๊ปและคฤหาส์ตระกูลจ้าน โดยหวังว่าจะได้รับข่าว แต่น่าเสียดายที่ก่อนที่ฉันจะมา ไม่มีรายงานข่าวอะไรจากสื่อ ดังนั้นฉันจึงเดาว่ายังไม่มีข่าวอะไรเพิ่มเติม”ไห่ถงอุทานว่า “สื่อให้ความสนใจการแต่งงานของเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ?”เซินเสี่ยวจวินและ ซางเสี่ยวเฟยมองไปที่ไห่ถงพร้อมกันไห่ถงค่อยๆ ยิ้มออกมาและพูดว่า "ฉันไม่เคยส
เซินเสี่ยวจวินรู้สึกมึนงงเพราะถูกซางเสี่ยวเฟยเขย่า จนเธอเกือบจะเป็นลม และได้ดึงมือของเธอออก ก็พูดว่า "เสี่ยวเฟย คุณซูและฉันพูดคุยกันเพียงครั้งเดียว และไม่มีการสนทนาอื่น แม้ว่าฉันจะถามเขา เขาก็จะไม่พูดอะไรเลย""ที่แท้เธอกับซูหนานนัดบอดกัน!"ซางเสี่ยวเฟยอุทานว่า "ซูหนานยังเป็นคนโสดที่มีค่าที่สุดในเมืองกวนเฉิง"ซางเสี่ยวเฟยไม่ต้องสงสัยเลยว่าเซินเสี่ยวจวินมีโอกาสออกเดทกับซูหนาน เพราะเซินเสี่ยวจวินเป็นลูกสาวของเศรษฐี และป้าของเเซินเสี่ยวจวินก็เป็นภรรยาของตระกูลจางเช่นกัน เซินเสี่ยวจวินมักจะเข้าร่วมงานเลี้ยงในสังคมชั้นสูงกับป้าของเธอแต่เนื่องจาก เซินเสี่ยวจวินล้มตัวลงนอนในงานวันเกิดของคุณนายต้วน คุณนายจางไม่เคยพาเซินเสี่ยวจวินไปงานเลี้ยงอีกเลย“สามีของไห่ถงเป็นพ่อสื่อให้”ไห่ถงยิ้มและยอมรับอย่างจริงใจว่า "สามีฉันก็เกาะขาของประธานซูได้จริงๆ เมื่อรู้ว่าประธานซูยุ่งกับงานมากเกินไปและยังไม่ได้แต่งงาน แล้วเห็นว่าเสี่ยวจุนเหมาะสม ดังนั้นจึงช่วยประธานซูทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อ"“ไห่ถง สามีเธอก็น่าประทับใจเช่นกัน เขาสามารถเกาะหนึบซูหนานได้ ไม่น่าแปลกใจที่เขาเข้ากันได้ดีในในบริษัท ซูหนานเป็นคนที่
วางปากกาลงแล้วลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าต่าง เมื่อมองลงไป เขาเห็นนักข่าวเฝ้าประตูบริษัทอย่างยังไม่ย่อท้อและพึมพำว่า “อดทนจริงๆ เฝ้ามาจนถึงเมื่อคืนนี้ จ้านหยินก็เช่นกัน การแสดงออกความรักนั้น มันยอดเยี่ยมจริงๆ "ทำให้คนอื่นตกใจ และนั่งไม่ติดเก้าอี้ เรื่องของพี่สะใภ้ยังเงียบสงบอยู่จ้านหยินปกป้องพี่สะใภ้อย่างดีมากทุกคนในบริษัทเคยเห็นไห่ถง แต่ไม่มีใครกล้าพูดไม่ต้องพูดถึงคนในตระกูลจ้าน ไม่ว่านักข่าวสื่อจะถามอย่างไร ตระกูลจ้านก็ยังคงเงียบและพูดใด ๆวันนี้ เรื่องแรกที่คนจากชนชั้นสูงในกวนเฉิงจะพูดเมื่อพบกันก็คือ "คุณรู้ไหมว่าภรรยาของนายน้อยจ้านคือใคร?"แม้กระทั่งเมื่อพูดคุยเรื่องธุรกิจ ในตอนท้ายลูกค้าก็ยังซุบซิบและถามว่า "ภรรยาของนายน้อยจ้านคือใคร"?ซูหนานหงุดหงิดมากเพราะเขาสนิทกับจ้านหยินมากที่สุด หลายคนจึงอยากรู้เรื่องผ่านเขาน่าเสียดายที่เขารู้เรื่องมากที่สุด แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้จ้านหยินสร้างคลื่นลูกใหญ่อย่างงนี้ แล้วกลับทำงานอย่างใจเย็นและทำทุกอย่างที่ต้องการตอนเที่ยงหลังเลิกงาน มีบอดี้การ์ดล้อมรอบไปส่งที่โรงแรมกวนเฉิง เพื่อรับประทานอาหาร ยังโทรหาผู้จัดการโจล่วงหน้า และขอให้
“ฉันไม่รู้ว่าคุณหนูผู้โชคดีคนเป็นใคร?”ซางหวู่เหิงรู้ในผลลัพธ์ แต่เขาก็ยังถามน้องสาวฉันอยากรู้ว่าแพ้ให้ใครจ้านหยินมองลึกไปในดวงตาของซางหวู่เหิง และเขาก็พูดว่า "ประธานชาง นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน และฉันปฏิเสธที่จะตอบ"รู้แล้วว่าถามไปก็ไม่ได้อะไรซางหวู่เหิงยอมรับผลลัพธ์นี้ เขายิ้มอย่างสุภาพและพูดว่า "ประธานจ้าน ปกป้องภรรยาของคุณเป็นอย่างดี"“เมื่อฉันแต่งงานกับเธอ ฉันสัญญาว่าจะรักเธอ ดูแลเธอ ปกป้องเธอ และตามใจเธอไปตลอดชีวิต”ซางหวู่เหิงพูดว่า "คุณจ้าน รู้สึกลึกช่างซึ้งจริงๆ"น้องสาวและจ้านหยินนั้นไร้วาสนาต่อกันบอกให้น้องสาวให้ปล่อยวางจ้านหยินไปตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว แต่เธอก็ไม่ฟัง และตอนนี้ก็กำลังเจ็บปวดซางหวู่เหิงถอนหายใจในใจ หาก จ้านหยินตกหลุมรักเสี่ยวเฟย เขาก็จะสนับสนุนน้องสาวจริงๆ และเต็มใจที่จะเปลี่ยนความขัดแย้งกับ จ้านซื่อกรุ๊ป เพื่อเห็นแก่น้องสาวเพราะจ้านหยินให้ความสำคัญกับความรู้สึกเป็นอันดับแรกถ้าจ้านหยินตกหลุมรักแล้ว ก็จะคงอยู่ชั่วชีวิตหากจ้านหยินถูกทรยศ ก็จะไม่มีวันจากหนีไปได้ตลอดชีวิต"ประธานชางเป็นคนที่ลึกซึ้งเช่นกัน และภรรยาของคุณก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
หลังจากซุบซิบเรื่องของนายน้อยจ้านที่เป็นคนคลั่งรักมาทั้งวัน ไห่ถงก็นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งในตอนกลางคืน มาสก์หน้า แล้วพูดกับ จ้านหยินว่า "วันนี้ฉันฟังเรื่องซุบซิบของเจ้านายคุณหูผึ่งเลย"จ้านหยินถามอย่างไม่สนใจ "ซุบซิบอะไร?""คุณไม่รู้เหรอ?"ไห่ถงหันหน้าไปมองเขา "เจ้านายของพวกคุณประกาศว่าเขาแต่งงานแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ว่าภรรยาของเขาคือใคร เสี่ยวเฟยบอกว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในแวดวงชนชั้นสูงของพวกเขา"“จ้านหยิน คุณทำงานที่จ้านซื่อกรุ๊ป มีข่าววงในบ้างไหม? ใครเป็นภรรยาของเจ้านายของคุณคะ?”“ได้ยินมาว่ามีนักข่าวเฝ้าอยู่ที่หน้าบริษัทของคุณ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ข่าวอะไร ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจากไป”จ้านหยินลากเก้าอี้แล้วไปนั่งข้างภรรยา มองมาส์กที่เธอใช้ จากหยิบถุงมาส์กหน้าแล้วดูยี่ห้อ ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ดีและมีราคาแพง"เสี่ยวเฟยให้มาน่ะ ฉันไม่ค่อยได้ใช้ วันนี้เลยลองใช้ดูหน่อย"เมื่อได้ยินเข้า จ้านหยินก็ขมวดคิ้วและพูดว่า "อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่คุณหนูซางให้คุณมาอีกในอนาคต คุณชอบยี่ห้อไหน ก็บอกฉันแล้วฉันจะซื้อให้คุณเอง"“เสี่ยวเฟยให้ฉันมามากมาย ดังนั้นฉันจะทิ
“ถงถง ผลทดสอบ DNA ของคุณกับคุณนายซางจะใกล้จะรู้แล้วไหม?”จ้านหยินเปลี่ยนหัวข้อบทสนทนา และไม่อยากฟังเรื่องซุบซิบของตัวเองอีกเขาเพิ่งแสดงความรักและประกาศลงในโซเชียลมีเดียว่าเขาแต่งงานแล้ว เขาไม่คิดว่าจะทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ขนาดนี้ และส่งผลให้ทำให้ภรรยาฟังเรื่องซุบซิบของเขาทั้งวัน"เสี่ยวเฟยจะไปเอาผลแลปพรุ่งนี้"จ้านหยินถอนหายใจแล้วพูดอย่างรวดเร็วว่า "หากผลออกมาว่าคุณและคุณนายซางมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน คุณก็จะต้องได้พบเจอกันอีกแน่นอน ฉันอาจจะไม่สามารถไปตระกูลซางเป็นเพื่อนคุณได้ เพราะพรุ่งนี้ฉันจะไปทำงานต่างเมือง”ไห่ถงเงยหน้าขึ้นมองเขา "ฉันคิดว่าคุณไม่ไปต่างเมืองแล้ว"จ้านหยินมองเธออย่างเงียบ ๆรู้ว่าเธอหวังให้เขาจากไปอย่างรวดเร็วกลัวมากเธอจำไม่ได้ว่าเขาเป็นใครเมื่อกลับมาจากทำงานต่างเมือง“คุณซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว? เที่ยวบินกี่โมง? ฉันจะไปส่งคุณที่สนามบินค่ะ”“พรุ่งนี้ฉันจะตื่นแต่เช้า มาเพื่อช่วยคุณจัดข้าวของ”ไห่ถงคิดว่าเธอมีน้ำใจมากต่อสามีที่กำลังเดินทางไปทำงาน เธอจึงจัดกระเป๋าเดินทางและพาเขาไปส่งสนามบิน“เที่ยวบินเวลา 10.35 น. ไม่ต้องไปส่งฉันที่สนามบิน ตอนเช้านี้ฉัน
ใครจะคิดว่าบ้านของพวกเขามีอาคารให้เช่ามากมาย และเก็บค่าเช่าแบบผ่อนปรนให้กับคนเช่า?ตระกูลเซินเป็นคนพื้นที่“งั้นให้เสี่ยวจวินกับประธานซูพัฒนาความรู้สึกกันเถอะ ฉันคิดว่าเธอสามารถจุดประกายได้เมื่อเธอได้รู้จักกับประธานซู”หลังจากฟังเรื่องของซูหนานจากเสี่ยวเฟยแล้ว ไห่ถงก็รู้สึกว่าซูหนานและเซินเสี่ยวจวินเป็นคนประเภทเดียวกัน ทั้งคู่ชอบเรื่องสนุกสนานและตื่นเต้น และยังข่าววงในมากมายที่ซูหนานมีอีก“ฉันถามประธานซูแล้ว เขาก็ประทับใจคุณเซินมาก ให้เวลาเขาหน่อยนะ เขาจะลงมือทำแน่ ตอนนี้ใกล้ปีใหม่จีนแล้ว บริษัทกำลังยุ่งกันมากตั้งแต่ระดับเล็กยันใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงคนที่มีตำแหน่งอย่างประธานซู แค่ยุ่งจนถึงก่อนวันหยุดยาวตรุษจีน แล้วเขาก็จะมีเวลาจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง”ในระหว่างที่เขาเดินทางไปทำงานต่างเมือง ซูหนานต้องอยู่ที่บริษัทกับอี้เฉิน ดังนั้นเขาจึงยุ่งมากไห่ถงไม่ต้องการให้เสี่ยวจวินไปแต่งงานไกลๆ ถ้าเสี่ยวจวินได้อยู่กับประธานซู มันก็จะเป็นประโยชน์สำหรับจ้านหยินเช่นกัน และสร้างความมั่งคั่งให้กับครอบครัวเล็กๆ ของพวกเขาด้วยอืม เธอเหมือนกับขายเพื่อนกินเพื่อความมั่งคั่งสองสามีภรรยาคุยกันเรื่
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้