ระหว่างเขาสองคนก็เป็นแค่สามีภรรยาในนาม ถึงเขาจะเมา ก็ไม่ได้ต้องการให้เธอมาดูแลอยู่แล้ว ใครจะไปรู้ ดีไม่ดีผู้หญิงคนนั้นอาจจะฉวยโอกาสนี้แตะอั๋งเขาก็ได้อายุก็ปาเข้าไปสามสิบ แต่เขายังไม่เคยเสียแม้แต่จูบแรกเลยด้วยซ้ำอย่าพูดไปถึงเรื่องพรหมจรรย์เขาไม่เคยเชื่อในเรื่องความรักคุณยายจ้านมักจะว่าเขาเป็นพวกไม่มีหัวใจ แต่ก็เป็นเพราะเขาไม่เชื่อเรื่องความรัก ถึงได้ยอมสานฝันให้หญิงชราด้วยการแต่งงานกับไห่ถง หลังจากทนฟังคำบ่นจนหูใกล้จะบอดเต็มทีแต่นี่ก็คลำตั้งแต่หัวจรดเท้า จ้านหยินก็ยังหากุญแจบ้านไม่เจอ เขาเอ่ย "...อาเจ็ด เรียกนายหญิงของพวกนายก็แล้วกัน"ดูเหมือนเขาจะลืมหยิบกุญแจบ้านออกมาบอดี้การ์ดเคาะประตูทันทีไห่ถงหลับไปแล้ว แต่เธอไม่ได้หลับลึกจึงได้ยินเสียงเคาะประตู หญิงสาวตื่นขึ้นมาเงี่ยหูฟังอีกครั้ง ก็พบว่ามีคนเคาะประตูอยู่จริง ๆ จึงรีบลุกขึ้นมาตั้งใจจะไปเปิดประตู ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในชุดนอน เธอคว้าเสื้อคลุมกันหนาวในตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วจึงออกไปเปิดประตูทันทีที่ประตูเปิดออก จ้านหยินและอาเจ็ดเห็นไห่ถงใส่เสื้อกันหนาวตัวหนาเตอะ ต่างก็ชะงักตอนนี้เพิ่งจะเข้าเดือนเจ็ด อย
จริง ๆ แล้ว วันสุดสัปดาห์แบบนี้ที่ร้านไม่ค่อยยุ่ง ตลอดทั้งวันแทบจะไม่มีลูกค้า จะไม่เปิดร้านก็ยังได้ไห่ถงมาที่ร้านก็เพราะที่นี่เงียบดี ทำให้เธอมีสมาธิที่จะทำงานฝีมือที่ขายบนร้านออนไลน์ของตัวเองได้เซินเสี่ยวจวินเองก็มาร้านเหมือนกันเมื่อเห็นไห่ถงอยู่ที่ร้าน เซินเสี่ยวจวินก็ถามด้วยความแปลกใจ "ถงถง วันนี้วันอาทิตย์ทำไมเข้าร้านล่ะ? ปกติเธอต้องพาหลานไปเดินสวนสาธารณะไม่ใช่หรอ""ฉันต้องปล่อยสินค้าตัวใหม่บนออนไลน์น่ะ"ไห่ถงถักงานฝีมือ พร้อมกับเงยหน้ามองเพื่อนสนิท แล้วพูดยิ้ม ๆ "ว่าแต่เธอล่ะ?""อย่าให้พูดเลย ฉันโดนแม่บ่นจนหูชา เลยหนีมาร้านนี่แหละ""คุณป้าบ่นอะไรเธออีก?""จะอะไรได้อีก ก็บ่นที่พวกเราไปงานเลี้ยงคืนนั้น แต่ตกเหยื่อรวย ๆ กลับมาไม่ได้น่ะสิ แม่ฉันคงคิดว่าหาสามีรวยมันง่ายมากมั้ง ไม่ย้อนมองดูสภาพลูกสาวตัวเองบ้างเลย คิดว่าฉันเป็นนางงามจักรวาลหรือไง"ไห่ถงหัวเราะก๊ากคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็แบบนี้แหละ พอลูกตัวเองเริ่มเข้าสู่วัยคานทอง ก็เริ่มเป็นเดือนเป็นร้อนหาคู่ให้ลูกตัวเองอายุยี่สิบห้า ถ้าเป็นสมัยก่อนที่คนแต่งงานมีลูกกันเร็ว ก็คงเรียกว่าวัยขึ้นคานได้แหละ แต่ในยุคสมัยนี้ ถือว่ายัง
คุณยายจ้านได้รับงานฝีมือของไห่ถงซึ่งถักด้วยผ้าไหมทองแดง ฝีมือการถักทอของเธอนั้นสวยเสมือนงานแท้ หญิงชราถึงขนาดวางเอาไว้ตามจุดเตะตาต่าง ๆ ในบ้าน แม้ว่าของพวกนั้นจะไม่ได้มีราคาแพง แต่เป็นความตั้งใจของหลานสะใภ้ของเธอเวลามีลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าเหล่านั้นที่ร้าน ต่างก็ชมฝีมือการถักของไห่ถงเป็นเสียงเดียวกัน คุณยายจ้านเองก็ถือโอกาสช่วยไห่ถงขายงาน ทำให้ลูกค้าหลายคนที่เข้ามาต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วยตลอด จนกลายเป็นเพิ่มยอดขายในร้านออนไลน์ไปด้วยแบบไม่รู้ตัว"คุณยายจ้าน ดื่มน้ำก่อนค่ะ"เซินเสี่ยวจวินรินน้ำให้คุณยายจ้านแก้วนึง"ขอบคุณจ้า วันนี้หนูจวินก็อยู่ร้านด้วยหรอ""เฮ้อ ถ้าไม่ใช่เพราะโดนคุณแม่บ่นเรื่องแต่งงาน หนูก็คงไม่หนีมาหลบภัยที่ร้านหรอกค่ะ เอะอะก็นัดให้หนูไปดูตัวอยู่นั่นแหละ ตอนนี้หนูเริ่มรู้สึกตัวเองเป็นแค่สินค้ายังไงก็ไม่รู้ เดี๋ยวเย็นนี้จะให้หนูไปนัดบอดที่ร้านกาแฟXXอีกแล้วนะคะ นี่หนูก็กำลังตื๊อให้ถงถงไปเป็นเพื่อนอยู่ค่ะ"ทันใดนั้นแววตาของคุณยายจ้านก็เปล่งประกาย รอยยิ้มประหลาดผุดขึ้น "แต่ยายเข้าใจคุณแม่ของเรานะ เพราะยายเองก็กำลังปวดหัวที่หลานชายคนอื่น ๆ ยังไม่มีแฟนแต่งงาน
คุณยายจ้านหัวเราะ "อายอะไรลูก? เราสองคนเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าอาจ้านไม่เริ่ม หนูก็ต้องเป็นฝ่ายรุกก่อน ยายอยากอุ้มเหลนจะแย่แล้ว"ไห่ถงพูดไปหน้าแดงไป "คุณยาย หนูพูดตรง ๆ แบบไม่กลัวคุณจะโกรธเลยนะคะ แต่แค่เห็นหน้าเคร่งขรึมของหลานชายคุณยาย หนูก็หมดอารมณ์แล้วล่ะค่ะ"คุณยายจ้าน "..."จ้านหยินเหมือนปู่ของเขา คือเป็นผู้ชายนิสัยเย็นชาแต่กำเนิด สมัยคุณยายจ้านสาว ๆ พอรู้ว่าตัวเองตกหลุมรักคุณปู่ ก็เดินหน้าจีบอยู่หลายปี พยายามทำทุกวิถีทางจนได้เขาเป็นสามีในที่สุด"แค่คิดว่าถ้าหนูต้องจูบเขา คงไม่ต่างอะไรกับจูบกะโหลกอายุร้อยปีที่ทั้งแข็งทั้งเย็นเฉียบ มีหวังริมฝีปากของหนูได้เปื่อยก่อนพอดี"คุณยายจ้าน "...""เรื่องระหว่างหนูกับจ้านหยิน คุณยายอย่ากังวลเกินไปเลยค่ะ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่านะคะ"เพราะถึงยังไงเธอกับเขาก็ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันทุกวันทุกคืนคุณยายจ้านลอบตำหนิ จะให้คนแก่อย่างเธอไม่กังวลได้ยังไง ในเมื่อเด็กสาวตรงหน้าเป็นหลานสะใภ้คนโปรด และก็ต้องมาแต่งงานโดยที่เจ้าตัวไม่ได้เต็มใจเพราะถูกบังคับ ถ้าไห่ถงต้องใช้ชีวิตหลังแต่งงานโดยไม่มีความสุข เธอจะรู้สึกโทษตัวเองไปจนตลอ
เซินเสี่ยวจวินหัวเราะชอบใจมากขึ้น เธอชอบอารมณ์ขันของคุณยายจ้าน เสี่ยวจวินยังไม่เคยเจอจ้านหยินตัวเป็น ๆ แต่จากที่ฟังเพื่อนรักพูดชายหนุ่มเป็นคนเย็นชา เธอจึงไม่เข้าใจว่าคุณยายจ้านเลี้ยงหลานคนนี้ด้วยวิธีไหนกันแน่ ทำไมหมอนั่นถึงต่างจากคุณยายแบบลิบลับขนาดนี้ไม่นาน จ้านอี้เฉินก็มาถึงเขามาเพื่อรับคุณผู้หญิผู้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของบ้าน ซึ่งคุณผู้หญิงของเขาก็ย้ำแล้วย้ำเล่าว่าให้เขาขับรถที่ราคาถูก ๆ มาแต่รถคันที่ถูกที่สุดในโรงจอดรถที่บ้าน ก็เป็นคันที่เอาไว้ให้สำหรับคนใช้ขับไปจ่ายตลาด ซึ่งราคาก็เจ็ดหลักอยู่ดี ครั้นจะไปซื้อคันใหม่เอาตอนนี้ก็ไม่ทัน จ้านอี้เฉินจึงต้องยืมรถปิ๊กอัพของคนสวนมารับคุณยายแทน"พี่สะใภ้ ผมมารับคุณยายกลับบ้านครับ"จ้านอี้เฉินเดินเข้าร้านมาก็เอ่ยทักทายไห่ถง"จ้า ขับรถดี ๆ นะ คุณยายถึงบ้านแล้วส่งข้อความบอกหนูหน่อยนะคะ" ไห่ถงกำชับสองยายหลาน แล้วยื่นงานฝีมือสองชิ้นที่เพิ่งถักเสร็จวันนี้ให้พวกเขา ชิ้นที่เธอมอบให้จ้านอี้เฉินคือกระถางต้นไม้ทองสัมฤทธิ์ มีความหมายว่าขอให้ร่ำรวยจ้านอี้เฉินไม่ได้ปฏิเสธ ในบ้านก็มีงานฝีมือของพี่สะใภ้เต็มไปหมด ซึ่งเขาเองก็ชอบเยี่ยมชม เขาคิดว่าถึงแ
"แกจะไปรู้อะไร"นั่นมันเล่ห์เหลี่ยมของคนแก่จ้านอี้เฉินเข้าใจในเวลาต่อมา เขาหัวเราะ "คุณยายเล่นงานพี่ใหญ่อีกแล้วหรอครับ?"คุณยายจ้านส่งสายตาพิฆาตให้ชายหนุ่ม "ขืนถามอีกคำเดียว ฉันจะเล่นงานแกด้วยเหมือนกัน"จ้านอี้เฉินรีบสงบปากสงบคำทันใดถึงแม้ว่าเขาจะเห็นใจพี่ใหญ่ แต่เพื่อความสงบสุขในชีวิตแล้ว เขาคงต้องหุบปากเงียบไปก่อน ถึงยังไงซะลำบากพี่ได้แต่อย่ามาลำบากเขา!คุณยายเป็นคนแก่แต่จิตใจเหมือนเด็ก ชอบเล่นอะไรเหมือนเด็ก แล้วก็ชอบวอร์มมือกับหลาน ๆ อย่างพวกเขาอีกฝั่งหนึ่ง ไห่ถงปิดประตูร้านหนังสือ รับหมวกกันน็อคมาจากมือเพื่อนสาว แล้วหยิบกุญแจเป็นสิ่งสุดท้าย "ฉันขับเอง!"เซินเสี่ยวจวินนั่งซ้อนท้ายอย่างว่าง่าย เธอโอบแขนกอดรัดเอวบางของไห่ถง"ไห่ถง ถ้าเธอเป็นผู้ชายคงจะดีมากเลยแฮะ ฉันจะแต่งกับเธอ แม่จะได้เลิกบ่นสักที""ทะลึ่งละ อย่าซี้ซั้วจับ เดี๋ยวก็โยนลงข้างทางซะเลยหนิ"ไห่ถงส่งเสียงคำรามเตือนเพื่อนสาว ก่อนจะออกตัวเครื่องยนต์ไห่ถงเคยผ่านร้านกาแฟแอเวนิวเป็นประจำ แต่เธอยังไม่เคยเข้าไปใช้บริการ เพราะเธอไม่ชอบกินกาแฟ เธอชอบชากุหลาบหรือชาดอกเก๊กฮวยมากกว่าเมื่อมาถึงร้านกาแฟแอเวนิว ฝ่ายชายมาร
"คุณหนูเซิน นั้งก่อนเถอะครับ"เขารู้สึกตื่นเต้นมากที่ ได้แสดงออกถึงความรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า จนทำให้เขาไม่เต็มใจที่จะจากเซินเสี่ยวจวินไป“คุณหลานคะ ฉันขอโทษค่ะ ฉันคิดว่าเราไม่เหมาะสม เราอย่ามาพบกันอีกเลยค่ะ”เซินเสี่ยวจวินพูดออกไปโดยไม่อ้อมค้อมและดึงไห่ถงออกไประหว่างเดินอยู่เพื่อนของเธอก็หยุดและหยุดเดินกะทันหัน"ถงถง เป็นอะไร?""สามีฉัน""ห้ะ?"ก่อนที่เซินเสี่ยวจวินจะทันโต้ตอบ จ้านหยินก็เดินมาหาพวกเขาทั้งสองแล้ว ดวงตาสีดำสนิทของเขาจ้องไปที่ไห่ถง และมุมปากของเขาก็ยกขึ้นเล็กน้อย ไห่ถงรู้สึกได้ถึงการยิ้มเหน็บแนมจากเขาเขาเหน็บแหนมเธอเรื่องอะไร?ไห่ถงหันไปมองคุณหลานที่ตามออกมา จึงเข้าใจทันที เธออธิบายออกมาหนึ่งประโยคอว่า "เพื่อนของฉันเสี่ยวจวินมานัดบอด ฉันมาเป็นเพื่อนเธอค่ะ"เธอไม่รีบหาคนใหม่จ้านหยินยังคงไม่ได้พูดอะไรในที่สุดเซินเสี่ยวจวินก็ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของสามีเพื่อนที่แต่งงานสายฟ้าแลบ เท่มาก หล่อมาก!เธอกลัวว่าจ้านหยินจะเข้าใจผิดไห่ถง จึงช่วยอธิบายด้วยจ้านหยินจึงพูดอย่างเย็นชา "รีบกลับบ้าน"ไห่ถงตอบกลับ อืม และถามเขาต่อว่า "คุณมาที่นี่ได้อย่างไรคะ?""คุณ
ไห่ถงไม่รู้ว่า จ้านหยินและคุณยายจ้านคุยอะไรกัน และการได้เจอกับจ้านหยิน ที่ร้านกาแฟโยว่อี้ ก็ทําให้เธอประหลาดใจ แต่เมื่อนึกถึงว่าคุณยายจ้านช่วยพูดให้เธอมาเป็นเพื่อนเซินเสี่ยวจวิน ไห่ถงก็เข้าใจทันทีว่า ทําไมจ้านหยินถึงปรากฏตัวที่นั่นแต่คุณยายจ้านทำไปเพื่ออะไร?เพื่อให้จ้านหยินเข้าใจเธอผิด?ไม่ใช่ว่าเธอไปนัดบอด แต่เป็นเสี่ยวจวินไปนัดบอด แม้ว่าจ้านหยินจะเห็นมันก็........เมื่อนึกถึงสีหน้าของจ้านหยินในร้านกาแฟเมื่อกี้ จากปกติที่เย็นชาอยู่แล้วก็ยิ่งเย็นชามากขึ้นกว่าเดิมอีก ไม่ว่าไห่ถงจะไม่กระตือรือล้นแค่ไหนก็รู้ว่าจ้านหยินในตอนนั้นคิดไปไกลแล้ว ประจวบเหมาะกับเสี่ยวจวินไปห้องน้ําในเวลานั้นด้วย จึงมีเพียงเธอกับคุณหลานสองคนที่อยู่ด้วยกันโชคดีที่เสี่ยวจวินออกมาจากห้องน้ำในภายหลัง เธออธิบายได้ทันเวลา และสีหน้าของจ้านหยินก็ผ่อนคลายเล็กน้อยไห่ถงแค่ไม่เข้าใจว่าทําไมคุณยายจ้านถึงทําแบบนี้ เธอเคยช่วยชีวิตคุณยายจ้านเอาไว้ แต่ไม่เคยถือตัวเองเป็นผู้มีพระคุณสักครั้ง แต่คุณยายจ้านกลับถือว่าเธอเป็นผู้มีพระคุณเสมอ โดยปกติแล้วเธอจะเป็นคนดี เพูดตามหลักเหตุผลแล้ว ไม่หลอกเธอแน่นอนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้ว