ไห่ถงพูดด้วยสีหน้าดำทะมึน "ฉันก็หวังอยากจะให้เป็นแค่คุณยายเลี้ยงหรอก ถ้าเป็นแบบนั้นยังไม่ทำร้ายจิตใจมากเท่าไหร่ แต่น่าเสียดายที่เป็นยายแท้ๆน่ะสิ"ยายของหลานชายกับยายของเธอแทบจะเทียบกันติดๆแล้วเงียบไปสักพัก เธอก็พูดขึ้นมาอีก "ยายแก่นั่นพาเสียวเป่ามาที่นี่ แล้วให้เสียวเป่าแพร่เชื้อให้หยางหยาง พอหยางหยางจะได้ป่วย พี่สาวของฉันจะยังมีกระจิตกระใจไปทำงาน? เธอต้องลางานมาดูแลหยางหยางอยู่แล้ว เพิ่งจะไปทำงานได้สองวันก็ต้องขอหัวหน้าลางาน เธอคงจะกอดงานนี้ไว้ได้ไม่นานแน่"เพื่อที่จะทำให้พี่สาวไม่ต้องกลับไปทำงาน ครอบครัวโจวทำได้ทุกวิถีทางจริงๆตอนนี้พี่สาวมีงานทำแล้ว เห็นทีควรจะต้องพูดเรื่องหย่าให้เร็วขึ้น แล้วรีบๆกลับมามีชีวิตใหม่"ไห่ถง ทำไมแม่สามีของพี่สาวเธอไม่อยากให้พี่เธอไปทำงานล่ะ?"ซางเสี่ยวเฟยถามมาประโยคนึงไห่ถงหยิบไม้กวาดเดินกลับเข้ามา เห็นหยางหยางเดินออกมา เธอจึงโน้มเอวลงมาอุ้มหลานชายด้วยมือเดียว แล้วเดินพร้อมกับพูดไปด้วย "เธอนิสัยแบบนั้นแหละ พี่สาวสามีอยากส่งลูกสองคนไปเรียนในเมือง บ้านที่พี่สาวของฉันอาศัยอยู่ในเขตโรงเรียน เธอก็เลยเล็งบ้านหลังนั้นอยู่น่ะสิ""อยากให้พี่เขยสารเลวขอ
"พี่ ตอนนี้พี่ก็มีงานทำแล้ว ควรขอหย่ากับโจวหงหลินได้แล้วนะ" ไห่ถงแนะนำให้พี่สาวหย่าซะตั้งแต่เนิ่นๆทั้งเซินเสี่ยวจวินกับซางเสี่ยวเฟยก็เสริมขึ้นมา "รีบๆหย่ารีบๆมีชีวิตใหม่"ไห่หลิงก้มหน้ามองใบหน้าจิ้มลิ้มของลูกชาย แล้วพยักหน้าหนักๆ "ตอนเย็นพี่จะรอให้โจวหงหลินเลิกงาน แล้วจะขอหย่า"ในมือของเธอกำหลักฐานที่โจวหงหลินนอกใจอยู่ตอนที่เธอเพิ่งได้หลักฐานที่โจวหงหลินนอกใจมา แต่ยังไม่กระฉากหน้ากากเขา เพราะพิจารณาได้ว่าตัวเองยังไม่มีงาน ไม่มีรายได้ ซึ่งจะไม่ส่งผลดีเพื่อขอสิทธิ์ในการเลี้ยงลูกใกล้จะปีใหม่แล้ว เดิมทีไห่หลิงยังคิดว่าจะรอให้ตัวเองได้เงินเดือนก้อนแรกมาก่อนค่อยพูดเรื่องหย่า แต่การกระทำของแม่สามีในวันนี้ทำให้เธอหมดความอดทนพวกนั้นจะทำอะไรกับเธอก็ช่าง เธออาจจะยังพอทนได้ แต่มาทำร้ายหยางหยาง เธอไม่อาจทนได้อีกต่อไป!สองวันก่อนตอนที่แม่กับพี่สาวสามีมา เธอได้ยินโจวหงอิงพูดกับน้องชายว่าเสียวเป่าไม่สบายเป็นไข้หวัด อาการยังไม่หายดี พ่อสามีของเธอเป็นห่วงว่าถ้าเสียวเป่ามาด้วยจะแพร่เชื้อใส่หยางหยาง ถึงได้ไม่ให้โจวหงอิงพาเสียวเป่ามาไม่คิดเลยว่าพอวันที่เธอไปทำงาน จะให้แม่สามีถ่อกลับไปพาเสียวเป
หยางหยางที่อยู่ในอ้อมกอดของแม่ไม่นานก็หลับปุ๋ยไห่หลิงอาศัยจังหวะที่ลูกชายหลับ ส่งต่อเขาให้กับน้องสาว เมื่อรู้ว่าน้องสาวกับน้องเขยชวนป้าเหลียงมาเป็นพี่เลี้ยงเพื่อช่วยเธอดูแลหยางหยาง ไห่หลิงก็ตื้นตันจนพูดไม่ถูกจนถึงตอนนี้เธอยังไม่ได้ตั้งหลักใหม่ จึงจดจำบุญคุณของน้องสาวและน้องเขยเอาไว้ก่อน รอเธอตั้งตัวได้เมื่อไหร่ จะตอบแทนทั้งสองคนอย่างดีแล้วไห่หลิงก็ไปทำงานไห่ถงกดรับสายเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอที่โทรเข้ามา ไม่รู้ว่าเพื่อนจะนัดเธอไปทำอะไร หลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จ ก็บอกลาไห่ถงับเซินเสี่ยวจวิน จากนั้นก็รีบร้อนจากไป"เสี่ยวจวิน เธอดูร้านกับหยางหยางไปก่อนนะ ฉันจะพาป้าเหลียงไปซื้อพวกชุดเครื่องนอน"ไห่ถงยังจำเรื่องที่ต้องซื้อเตียง ตู้เสื้อผ้าและชุดเครื่องนอนให้ป้าเหลียงด้อยู่"โอเค"เซินเสี่ยวจวินตอบรับอย่างร่าเริง ตอนนี้จนถึงก่อนบรรดานักเรียนจะเลิกเรียนในช่วงเย็น เธอว่างสุดๆปกติเธอมักจะอ่านนิยายเพื่อฆ่าเวลาป้าเหลียงพูดว่า "คุณหนูไห่ไปคนเดียวก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหยางหยางตื่นขึ้นมา ต้องมีคนคอยดูแลนะคะ"พอรู้ว่าหยางหยางมีคุณย่าแบบนั้น ป้าเหลียงก็สงสารหยางหยางจับใจอย่างที่ซางเสี่
น่าเสียดายที่เพื่อนๆ ของเขาก็เหมือนกับเขา ที่เป็นพวกคนที่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลยและยังไม่สามารถขอเทคนิคกับคุณยายเป็นการส่วนตัวได้บ่อยๆ ใช่ไหม? นั่นจะทำให้ถูกคุณยายหัวเราะเยาะได้เมื่อนึกถึงตอนที่ตัวเองปากแข็งต่อหน้ายาย และได้พูดไปอย่างเด็ดเดี่ยวว่า "ผมไม่ไล่ตามจีบภรรยาแน่"จ้านหยินรู้สึกว่าหน้าของเขาแสบร้อนเหมือนถูกตบเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องไล่ตามจีบภรรยา เพราะไห่ถงเป็นภรรยาของเขาแล้วนิ!“ขอบคุณคุณจ้านสำหรับการเอาใจใส่ค่ะ ฉันจะตั้งใจพักผ่อนค่ะ”มือที่ถักทออย่างมีความสุขของไห่ถงกำลังถักไหมพรมอย่างว่องไว คุณจ้าน โปรดพาป้าเหลียงกลับไปก่อนค่ะ อย่าลืมพาเสี่ยวไป๋ทั้งสามตัวไปด้วย"จ้านหยินขมวดคิ้วและพูดว่า "ฉันจะไม่พาทั้งสามตัวนั้นไปด้วย"“งั้นป้าเหลียงเอาอุ้มไปด้วยค่ะ ตอนนี้ที่ร้านไม่ยุ่งและคุณสองคนก็ช่วยฉันไม่ได้มาก ทำไมไม่กลับบ้านก่อนและให้ป้าเหลียงไปจัดห้องของเธอล่ะ”"คุณกำลังรังเกียจฉัน!"ไห่ถงเงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วก้มหน้าลงเพื่อช่วยเขา ก่อนพูดติดตลกว่า "คุณจ้าน ฉันคิดว่าคุณค่อนข้างอ่อนไหวนะคะ สิ่งที่ฉันพูดไปนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ว่าฉันรังเกียจคุณ งั้นคุณบอกมาค่ะ ว่าคุณจะช่วยฉัน
หลังจากที่ไห่ถงได้รับการยืนยันแล้ว ไม่อาจไม่รู้สึกเสียใจแทนซางเสี่ยวเฟยได้นายน้อยจ้านมีภรรยาแล้วจริงๆซางเสี่ยวเฟยต้องปล่อยวางแล้วหวังว่าหญิงสาวที่น่ารักคนนั้นจะทำใจลืมความรู้สึกที่มีต่อนายน้อยจ้านได้เร็วๆ นี้ และได้พบกับความสุขของตัวเองสักที“นายน้อยจ้านแต่งงานแล้ว ทำไมไม่มีข่าวอะไรออกมาเลย?”กระทั่งชางเสี่ยวเฟยก็ไม่รู้เรื่อง“อาจจะเป็นการปกป้องภรรยาของประธานก็ได้ คุณลองคิดดูประธาของพวกเราหน้าตาหล่อเหลา อายุน้อยและร่ำรวย หญิงสาวคนไหนที่ได้พบเห็นเขาก็ต้องตกหลุมรักอย่างโงหัวไม่ขึ้น”“แม้ว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ยกเว้นคุณหนูซาง ไม่มีความกล้าที่จะไล่ตามจีบอย่างเปิดเผย แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะคนชื่นชอบเขาไม่กี่คน เขากังวลว่าการเปิดเผยตัวตนและรูปลักษณ์ภรรยาของเขาออกไป จะนำซึ่งปัญหาที่ไม่มีที่สิ้นสุดมาหาเขาได้ หน้ำซ้ำยังกลัวว่าตอนเขาไม่มีเวลาให้ภรรยาจะมีคนมาทำร้ายภรรยาอีก”“คนอื่นฉันไม่รู้ แต่เสี่ยวเฟยไม่ใช่คนอย่างนั้นแน่นอน เธอเป็นนิสัยดี แต่กลับที่ถูกคนภายนอกเข้าใจผิดอย่างมาก นายน้อยจ้านไม่ชอบเธอ ดังนั้นจึงพูดได้แค่ว่าพวกเขาถูกฟ้าลิขิตให้มาเป็นคู่กัน”ไห่ถงถอนหายใจ "ฉันหวังว่าเสี่
ปกติเธอมักจะปิดร้านช้าเสมอ อาจเป็นเพราะต้องสั่งสินค้าเข้าร้านไห่ถงมองเขาแล้วพูดว่า "คุณยังไม่รบกวนอะไรมากค่ะ"จ้านหยิน "..."“พี่ฉันจะขอหย่ากับโจวหงหลินคืนนี้ ฉันเลยรู้สึกกังวลนิดหน่อย”“งั้นฉันจะพาคุณไปดูเธอไหม?”ไห่ถงดูเวลาแล้วพูดว่า "เวลานี้โจวหงหลินยังไม่กลับมา ปกติเขาจะกลับมาตอนดึกๆ"เป็นพวกเธอสองพี่น้องเองที่โง่เขลา เพราะคิดเสมอว่าโจวหงหลินกำลังยุ่งอยู่กับงานและมีต้องไปกินเลี้ยงกับลูกค้าอีกมากมาย หลังจากได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ ทำให้กลับมาตอนดึกดื่น ที่จริงเขาไปพลอดรักกับคนรักของเขา!"เชื่อในตัวพี่ พี่จะต้องจัดการได้แน่นอน"จ้านหยินทำได้แค่ปลอบใจเธอแบบนี้หยุดพูดไปสักพัก ไห่ถงก็พูดว่า "ฉันมักจะรู้สึกเสมอว่าสิ่งต่างๆ จะไม่ราบรื่น ครอบรัวโจวนั้นไร้ยางอาย คุณไม่รู้ว่าพวกเขาทำให้หยางหยางป่วย เพียงเพื่อไม่ให้พี่ฉันออกไปทำงาน"เธอเอาเรื่องที่แม่โจวทำมาบอกกับจ้านหยินหลังจากที่จ้านหยินได้ยิน ก็หน้าเปลี่ยนเป็นสีดำ"หยางหยางไม่เป็นไรใช่ไหม?"“ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะติดไข้หรือยัง พี่บอกว่าเสี่ยวเปาเป็นไข้หวัดซึ่งสามารถแพร่เชื้อไปให้เด็กคนอื่น ๆ ได้ง่าย แต่หยางหยางแข็งแรง
จ้านหยินมองไปที่ไห่ถง ซึ่งไห่ถงก็กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน ฟังเขาถาม"อยากไปบ้านพี่คุณดูหน่อยไหม?"ไห่ถงดูเวลาในโทรศัพท์แล้วพูดว่า "โจวหงหลินยังไม่กลับมาตอนนี้"หลังจากเงียบไปชั่วคราว เธอก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ปล่อยให้เธอจัดการเรื่องนั้นด้วยตัวเองเถอะค่ะ ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือจากฉัน รอจนกว่าะเธอจะเอ่ยปากพูด แล้วฉันจะทำอย่างดีที่สุด”จ้านหยินเงียบไปเขาถือโทรศัพท์และส่งข้อความ ไม่รู้ว่าจะส่งถึงใครไม่กี่นาทีต่อมา จู่ๆ เขาก็พูดกับเธอว่า "ฉันเห็นว่าคุณอารมณ์ไม่ดี จัดการปิดร้านก่อนไหม แล้วฉันจะพาคุณไปเดินเล่น"ไห่ถงเงียบก่อน แล้วก็พูดว่า "ฉันไม่มีที่ที่อยากไปค่ะ"ตอนนี้ถ้าพูดถึงเรื่องการแต่งงานของพี่สาว อารมณ์ของไห่ถงจะเปลี่ยนจากสดใสเป็นหดหู่ทันทีเธอมักจะคิดถึงเสมอว่า น้องพี่น้องอยู่ด้วยกันมาหลายปี หลังจากที่พี่เธอแต่งงานออกไป ก็คิดว่าเธอได้พบครอยครัวที่ดีและมีความสุขอย่างที่รอพี่เธอรอคอยแต่กลับโดนความจริงอันโหดร้ายตบหน้าเธออย่างโหดร้ายตอนนี้การแต่งงานของพี่สาวกำลังจะพังทลาย และเธอกับจ้านหยินก็ยังแสวงหาคำตอบการดำรงอยู่ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรในอนาคตหรือว่าคนที่ใช
เมื่อได้ยินเข้า จ้านหยินก็ขมวดคิ้วและต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ไห่ถงพูดต่อว่า "เสี่ยวจวินและฉันจะตอยแทนเสี่ยวเฟยด้วยวิธีอื่น และจะไม่เอาเปรียบเธอ"ซางเสี่ยวเฟยทิ้งของไว้ที่นี่ เธอและเเซินเสี่ยวจวินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับพวกมันไว้ ไม่รู้ว่าซางเสี่ยวเฟยจะโกรธแค่ไหน ดังนั้นต้องรับเอามาไว้ก่อนตอนที่กำลังจัดการกับของพวกนั้น ทั้งสองคนในใจได้คิดคำนวณแล้วว่าของที่ซางเสี่ยวเฟยเอามาราคาเท่าไหร่ในอนาคตต้องหาโอกาสคืนให้กับชางเสี่ยวเฟยทุกบาททุกสตางค์“ประเด็นไม่ใช่ว่าเอาเปรียบหรือไม่ ร้านของคุณเล็ก ทั้งวางชั้นหนังสือและสต๊อกสินค้าเยอะขนากนี้ หญิงสาวคนนั้นก็ยังคงพยายามเอาของยัดมาเข้าในร้านของคุณอีก และมันไม่ใช่เอาไว้เพื่อให้คุณขาย แบบนี้กลายเป็นรกไม่ใช่เหรอ?”ที่จริงแล้ว จ้านหยินไม่พอใจเขายังไม่เคยทำตัวเป็นใหญ่ในร้านของภรรยาเลย ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้ซ่างเสี่ยวเฟยทำตัวเป็นใหญ่แน่นอนซางเสี่ยวเฟยชอบครอบงำภรรยาของเขาอยู่เสมอ และเป็นคนที่น่ารังเกียจมากกว่าจางเหนียนเซิงอีกแต่เพราะว่าซางเสี่ยวเฟยเป็นผู้หญิงเขาไม่สามารถพูดกับไห่ถงได้ "ที่รัก ฉันไม่ชอบให้คุณกับซางเสี่ยวเฟยสนิทกันเพร
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้