มองดูนายหญิงที่เจริญอาหารอย่างนั้น ป้าเหลียงก็ยิ้ม เมื่อมองดูเธอก็รู้สึกหิวมากขึ้นทันที และไม่ได้เหลือบตามองดูนายน้อย เธอก็เริ่มกินบ้างเหมือนกันหลังจากกินอาหารอร่อยหมดแล้ว ฉวยโอกาสที่ป้าเหลียงกำลังเก็บจานและล้างอยู่ในห้องครัว ไห่ถงก็ขยับเก้าอี้ออกมาแล้วถูที่สีข้างของจ้านหยินจ้านหยินกลายเป็นเหมือนเม่นทันที ทิ่มแทงไปทั่วทั้งร่างกายแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน เขาไม่ได้ระวังตัว เขากังวลไม่รู้ว่าภรรยาตั้งใจจะทำอะไรกันแน่“คุณจ้าน ในบ้านเรามีห้องรับแขกแต่ไม่มีเตียง หลังจากไปรับหยางหยางมาแล้วจะพาป้าเหลียงและหยางหยางกลับไปที่ร้านก่อน เพราะต้องไปซื้อเตียงและผ้าปูที่นอนให้ป้าเหลียง จะปล่อยให้ป้าเหลียงนอนกับพื้นไม่ได้”กระดูกสันหลังของเม่นดูเหมือนจะผ่อนคลายทันที“คุณเป็นนายหญิง คุณจัดการมันเองได้เลย"จ้านหยินมีการประชุมสำคัญเช้านี้และไม่มีเวลาไปซื้อเครื่องนอนกับไห่ถงได้“คุณใช้เงิน 500,000 บาทที่ผมให้คุณไปครั้งก่อนหมดยัง? หลังจากที่ผมถึงที่บริษัท ผมจะใช้คอมพิวเตอร์โอนเงินบางส่วนไปยังบัตรค่าใช้จ่ายในบ้านผ่านออนไลน์ แม้ว่าป้าเหลียงจะเป็นแม่บ้านที่จ้างมาดูแลหยางหยาง ก็ไม่สามารถปฏิบัติกั
ไห่ถงคิดและทำอย่างนั้นเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาทันทีและค้นหาขั้นตอนการผูกเน็คไททางอินเตอร์เน็ตหลังจากรีบอ่านอย่างรวดเร็วสองครั้ง เธอก็ยัดโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าเธอเดินไปข้างหน้าและหยิบเน็คไทที่จ้านหยินออยู่ในมือ เธอดึงมัน ดึงมันขึ้นมา แล้วเอามันไปคล้องคอเขา เธอพึมพำ “การกลับห้องไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้ามันเหนื่อยมากกว่ากาไปแต่งหน้า แถมฉันยังไม่เคยผูกเนคไทด้วยซ้ำ”เมื่อเห็นเช่นนี้ ป้าเหลียงก็รีบเดินออกไปก่อนเธอรอสองสามีภรรยาอยู่ข้างนอก“พวกผู้ชายที่ฉันรู้จัก ยกเว้นพี่เขยบัดซบและนักเรียนมัธยมต้น พวกเขาต่างก็ไม่ใส่สูทหรือเนคไท ฉันไม่มีประสบการณ์จริงๆ และเรียนรู้จากอินเทอร์เน็ต ฉันไม่รู้ว่าจะทำมันได้หรือเปล่า ถ้าฉันรัดคอคุณก็โปรดยกโทษให้ฉันด้วยนะ”จ้านหยินฟังความคิดที่ไม่มั่นใจของเธอ ดวงตาของเขาสั่นไหวด้วยความดีใจเธอไม่มีประสบการณ์เธอไม่เคยช่วยผู้ชายคนไหนผูกเน็คไทมาก่อนแถมเธอยังต้องเปิดอินเตอร์เน็ตเพื่อดูขั้นตอนผูกเน็คไทเขาอีกความจริงเรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากแม้ว่าไห่ถงจะดูขั้นตอนบนอินเตอร์เน็ตสองครั้ง แต่เธอก็ยังไม่สามารถผูกเน็คไทได้อย่างถูกต้อง เพราะมันดูง่าย แ
ออกไปทำงานหาเงิน แต่ไม่มีเวลาให้กับเขาไห่หลิงสูดน้ำมูกและไม่หันหลังมองกลับไป ขี่รถออกไปด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นถ้าไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกชายก็คงจะดีกว่าไห่ถงอุ้ใหยางหยางแล้วเข้าไปในรถ ปลอบเขาสักพักก่อนที่เด็กน้อยจะหยุดร้องไห้แต่เขาปฏิเสธที่จะนั่งด้วยตัวเองและซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของไห่ถง โดยยังคงจับไห่ถงไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง เขาถามอย่างน้อยใจว่า "... ไม่ต้องการหยางหยางเหรอ?"เขาพูดไม่ชัดนัก และไห่ถงก็ไม่ได้ยินสิ่งที่เจ้าตัวเล็กพูดในตอนแรกเธอค่อย ๆ ผละเด็กน้อยออกและก้มศีรษะลงเพื่อถามเบา ๆ “หยางหยางพูดว่าอะไรนะ”หยางหยางเงยหน้าขึ้นมองไห่ถง แล้วถามว่า: "แม่ไม่ต้องการหยางหยางอีกแล้วเหรอ?"“ใครพูดอย่างนั้น แม่แค่ไปทำงาน ไม่ใช่ว่าแม่ไม่ต้องการหยางหยางแล้ว แม่กลับมาอยู่กับหยางหยางทุกคืน”หยางหยางพูดอย่างน้อยใจ “พ่อพูดแบบนั้น”ไห่ถงอยากจะด่าแรงๆ ออกไปไอ้สวะโจวหงหลินคนนั้น ไม่อยากให้พี่เธอไปทำงาน เลยพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าหยางหยาง โดยหวังว่าจะใช้หยางหยางเป็นเครื่องมือ เพื่อหยุดพี่สาวไม่ให้ไปทำงาน“หยางหยาง พ่อกำลังโกหก แม่จะไม่มีวันไม่ต้องการหยางหยางหรอก แม่บอก
หลังจากออกจากโรงเรียนมัธยกวนเฉิงด้วยรถพาณิชย์ จ้านหยินก็แวะจอดรถที่ประจำของเขาและปล่อยให้บอดี้การ์ดขับรถไปทำงาน จากนั้นเขาก็ขึ้นชบวนรถพิเศษโรลส์-รอยซ์ระหว่างทางไปบริษัท เขาโทรหาลุงหมิงและขอให้ส่งคนเอาคาร์ซีทสำหรับเด็กมาให้จ้านหยินประหลาดใจ ซางเสี่ยวเฟยรออยู่ที่ทางเข้าบริษัทอีกครั้ง แต่ไม่ได้ขวางทางเขาอีกต่อไปเธอยืนเงียบ ๆ อยู่ข้างๆ มองดูขบวนรถพิเศษของเขาขับเข้ามาในบริษัทซางเสี่ยวเฟยพบว่าเป็นการยากที่จะตัดใจจากความรักที่เธอมีต่อจ้านหยิน เธอบอกตัวเองให้กลับมาพบเขาอีกครั้งในวันนี้และจะไม่กลับมาอีกในอนาคตเว้นเสียแต่ว่าเธอรู้ว่าเขาสวมแหวนเพื่อทำให้เธอตัดใจและไม่ได้แต่งงานจริงๆ เธอก็จะกลับมาประตูของจ้านซื่อกรุ๊ปถูกปิดอย่างรวดเร็วหลังจากขบวนรถพิเศษของจ้านหยินเข้ามาในบริษัทรถโรลส์-รอยซ์ที่ซางเสี่ยวเฟยจ้องมองก็ลับสายตาไป เธอยืนสักพักก่อนจะหันหลังและกลับไปที่รถอย่างหดหู่หลังจากนั้นไม่นาน ซางเสี่ยวเฟยก็เริ่มขับรถในที่สุด ในตอนแรกได้ขับอย่างช้าๆ แต่ทันใดนั้นมันก็เริ่มเร่งความเร็ว และขับหายไปไกลทันทีเมื่อเธออารมณ์ไม่ดี ซางเสี่ยวเฟยจะไปซื้อของบางอย่างสองชั่วโมงต่อมา รถของเธอก็จอด
"พวกเธอรับไปแล้ว ก็แปลว่าช่วยฉันแล้ว ขอร้องพวกเธอช่วยฉันด้วยเถอะ"ซางเสี่ยวเฟยทำท่าทางขอร้องกึ่งขี้เล่นสิ่งที่ตระกูลชางมีมากมายก็คือเงิน แต่คุณแม่เติบโตมาในบ้านเด็กกำพร้า ต่อให้แต่งเข้าตระกูลมหาเศรษฐีมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงรู้จักประหยัดเก็บเงินไม่ชอบเวลาที่เห็นเธอใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเป็นที่สุดไห่ถง ...มีเงิน จะทำอะไรก็ได้!เซินเสี่ยวจวินรู้สึกว่าปกติแล้วของที่เธอซื้อก็แพงอยู่หรอก แต่ถ้าเทียบกับคนรวยของจริงอย่างซางเสี่ยวเฟยแล้วล่ะก็ ไม่ต่างอะไรกับเอามดไปเทียบกับช้าง"ไห่ถง ป้าคนนี้คือ?"ซางเสี่ยวเฟยถามไห่ถงพร้อมกับมองไปที่ป้าเหลียง"ฉันขอให้มาช่วยดูแลหยางหยางน่ะ ฉันกับเสี่ยวจวินบางทีก็ยุ่ง กลัวหยางหยางจะวิ่งเล่นออกไปข้างนอก ขอให้ใครสักคนมาช่วยดู พวกเราก็สบายใจไปได้บ้าง"ช่วยคนอื่นเลี้ยงเด็ก ต่อให้จะเป็นหลานชายแท้ๆของตัวเองก็ตาม แต่ความรับผิดชอบก็หนักหน่วงเอาการสำหรับไห่ถงแล้ว เรื่องที่ต้องดูแลหยางหยาง เธอไม่กล้าชะล่าใจเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว"ก็จริง"ซางเสี่ยวเฟยไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับป้าเหลียงอีกไห่ถงถามเธออย่างเป็นห่วง "ทำไมคุณหนูซางถึงอารมณ์ไม่ดีล่ะ?""ไห่
ไห่ถงตบหลังมือของเธอ แล้วปลอบใจ "เสี่ยวเฟย เธอเป็นผู้หญิงที่ดีมาก ปล่อยมือจากผู้ชายที่ไม่ได้เป็นของเธอ ต่อไปจะต้องได้เจอกับความสุขแน่"ซางเสี่ยวเฟยเม้มปาก ขอบตาแดงระเรื่อ เธอปาดน้ำตาตรงหางตาอย่างดื้อรั้น แล้วพูดแบบฝืนยิ้มออกมา "ใช่ คนอย่างซางเสี่ยวเฟยแค่อยากแต่งงาน ก็มีผู้ชายตั้งมากมายต่อแถวกันมาสู่ขอ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปแย่งผู้ชายกับคนอื่น!"เซินเสี่ยวจวินพูดแทรกขึ้นมา "อยู่คนเดียว อิสระจะตาย ไม่ดีตรงไหน?"เธอยังไม่เคยได้ลิ้มรสการหลงรักผู้ชายสักคน จึงไม่เข้าใจความรักที่ไม่ถูกรักตอบแบบที่ซางเสี่ยวเฟยเผชิญอยู่มันทุกข์ยังไงซางเสี่ยวเฟยมองเธอ แล้วก็นึกอะไรได้ ขอบตายังแดงอยู่ แต่กลับยิ้มออกมาแล้วพูดว่า "คุณเซินอยู่ในงานเลี้ยงคุณนายต้วนรอบนึง ก็เป็นที่รู้จักในแวดวงไฮโซของกวนเฉิงแล้วนะ""ฉันยังพูดว่าเธอเมามาก ตอนนี้มาคิดดูเธอตั้งใจใช่ไหม? ได้ยินว่าเธอถูกคนที่บ้านเร่งให้แต่งงานหนักเลยนี่"เซินเสี่ยวจวินหัวเราะคิกคัก "ตอนนี้หูของฉันสะอาดกิ๊งเลย แม่กับป้าของฉันจะไม่รวมหัวกันจู้จี้จะให้ฉันแต่งเข้าตระกูลคนรวยที่ไหนอีกแล้วล่ะ"ซางเสี่ยวเฟยหัวเราะ "วิธีของเธอเทพจริง ดูท่าทางป้าของเธอคงไม่ย
ตอนที่พี่ยังไม่ได้มารับช่วงต่อชางซื่อกรุ๊ป คำสั่งของคุณพ่อยังไม่เป็นประกาศิตเท่าคำสั่งของคุณแม่ด้วยซ้ำ ลูกน้องทุกคนในบริษัทต่างก็ยอมไว้หน้าคุณแม่ของเธอมากกว่าจะเห็นได้ว่าคุณแม่ของเธอมีบทบาทมากขนาดไหนในชางซื่อกรุ๊ป"ใช่ๆ ฉันก็เห็นด้วยกับที่เสี่ยวเฟยพูด"เซินเสี่ยวจวินรู้สึกว่าตัวเองกับซางเสี่ยวเฟยคิดเห็นตรงกันแม่กับป้าของเธอเอาแต่อยากจะส่งเธอบินขึ้นฟ้า แปลงร่างจะอีกาเป็นหงส์ไห่ถงพูดยิ้มๆ "เพราะแบบนั้นฉันถึงได้หาผู้ชายที่สถานะพอๆกัน แล้วไม่เคยคิดจะแต่งเข้าตระกูลคนรวยเลยไง"เงินเดือนของจ้านหยินมากกว่ารายได้ของเธอนิดหน่อย แต่ก็ยังเป็นลูกจ้างของคนอื่นอยู่ ดังนั้นจึงถือว่าเป็นคนระดับเดียวกัน"ในเมื่อพวกเธอพูดกันขนาดนี้แล้ว ไห่ถง เธอให้สามีเธอช่วยจัดการนัดวันให้หน่อย ฉันจะไปเจอเพื่อนร่วมงานของเขาสักที ไม่แน่นะอาจจะเป็นเนื้อคู่ของฉันก็ได้""ได้เลย"ได้ช่วยให้เพื่อนเจอเนื้อคู่แล้วมีความสุข ไห่ถงก็มีความสุขไปด้วยป้าเหลียงฟังประเด็นแต่งงานที่ทั้งสามคนคุยกันอยู่ห่างๆ ก็เห็นด้วยกับวิธีคิดของซางเสี่ยวเฟยเมื่อเห็นซางเสี่ยวเฟยกับนายหญิงของเธอเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ไม่ได้วางท่าเป็นค
"ยิ้มหวานซะขนาดนี้ หลัวของเธอส่งข้อความมาล่ะสิ?"เซินเสี่ยวจวินแซวเพื่อนสาวเห็นเพื่อนรักกับคุณจ้านเริ่มก่อความรักขึ้นนิดๆแล้ว เซินเสี่ยวจวินก็รู้สึกดีใจแทน รอก็แต่ให้ทั้งสองคนจัดงานแต่ง เชิญเธอไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว ดื่มเหล้ามงคล"ห้องรับแขกที่บ้านเรายังขาดเตียงกับตู้ สองวันนี้เขาได้โบนัสมาก้อนนึง โอนมาเจ็ดหมื่นห้าให้ฉันไปซื้อเตียง ชุดผ้าปูที่นอนกับตู้เสื้อผ้า แล้วก็ของอย่างอื่น ป้าเหลียงกินข้าวเที่ยงเสร็จ รอให้หยางหยางนอนกลางวันแล้ว ฉันจะพาป้าไปช็อปปิ้ง ของที่ป้าต้องใช้ เลือกเองได้เลยค่ะ"ป้าเหลียงพูดยิ้มๆ "ป้าเป็นคนง่ายๆ ไม่เลือกมาก ขอแค่มีที่นอนก็พอแล้วค่ะ""จะเลือกแบบลวกๆไม่ได้หรอกค่ะ ยังไงก็ต้องให้ป้าอยู่สบายหน่อย เจ้านายของป้าให้เงินมาซื้อของ เราไม่ต้องประหยัดหรอกนะคะ เลือกที่คุณภาพดีๆแล้วกัน"ไห่ถงยังคิดอยู่ด้วยซ้ำว่าถ้าป้าเหลียงทำงานดี ก็จะให้ทำด้วยกันนานๆ อาศัยอยู่ด้วยกันเหมือนคนในครอบครัว จะไม่ให้ป้าเหลียงต้องลำบากดูเวลาแล้ว ไห่ถงก็ถามซางเสี่ยวเฟย "เสี่ยวเฟย อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนไหม?"ซางเสี่ยวเฟยคิดได้ว่าตัวเองคงไม่ไปนั่งเฝ้านายน้อยจ้านที่โรงแรมกวนเฉิงอีกแล้ว แล้วก็ไ