จ้านหยินไม่ใคร่จะสุงสิงกับโจวหงหลิน เพราะนอกจากโจวหงหลินจะเป็นคนประเภทที่เขาเกลียดแล้ว ไหนจะเรื่องที่หมอนั่นปฏิบัติกับไห่หลิงอีกโจวหยางหิวน้ำ และก็เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าในขวดนมมีน้ำเปล่า ซึ่งมันตั้งอยู่บนโต๊ะตรงหน้าโจวหงหลิน แต่หมอนั่นเลือกที่จะใช้ไห่หลิงมาหยิบขวดนมไปป้อนลูกแทนที่ตัวเองจะเป็นคนหยิบแม้ว่าวันนี้จะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเจอหน้ากัน แต่ระดับสายตาอันเฉียบคมของจ้านหยิน ดูก็รู้ว่าสามีพี่ภรรยาของเขาคนนี้ไม่ได้ให้เกียรติไห่หลิงในฐานะภรรยาแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำคงคิดว่าการที่ไห่หลิงอยู่บ้านเลี้ยงลูกนั้นเป็นเรื่องชิล ๆสไตล์การเลี้ยงดู ไปจนถึงการอบรมสั่งสอนของตระกูลจ้าน ทำให้จ้านหยินรู้สึกเกลียดพวกผู้ชายที่ไม่ให้เกียรติภรรยาของตัวเองระหว่างเขากับไห่ถงเรียกว่าเป็นวิวาห์สายฟ้าแลบ ทั้งคู่เพิ่งเจอหน้ากันตอนจดทะเบียนสมรส ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกรักใคร่อะไรเทือกนั้น แต่เขาก็ปฏิบัติต่อไห่ถงและให้เกียรติในฐานะภรรยามาโดยตลอดไห่ถงได้ยินคำตอบของชายหนุ่มก็หัวเราะเบา ๆ "ในเมื่อคุยไม่ถูกคอก็ไม่เป็นไรค่ะ""น้องรองเป็นคนคุยเก่ง อย่างน้อยก็ให้เขาคุยกับพี่เขยของคุณไป พี่เขยคุณคงไม่คิดว่าเราเพิ
"คุณจ้าน เดี๋ยวฉันทำเองค่ะ"ไห่ถงบอกเป็นนัยให้เขาหลีกทางให้เธอจ้านหยินเงียบไปอึกใจ ก่อนจะยอมถอยพร้อมถอดผ้ากันเปื้อนออกให้ไห่ถงแต่ชายหนุ่มไม่ได้ออกไป เขายืนอยู่ข้าง ๆ ดูไห่ถงล้างจานแล้วพูดว่า "กินข้าวครั้งหน้า ไปกินที่โรงแรมเถอะครับ ไม่ต้องเปลืองแรง""ค่ะ"ไห่ถงไม่ได้เห็นต่าง เพราะวันนี้เป็นการพบปะของทั้งสองครอบครัว เธอต้องโชว์ฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์หน่อย จึงให้ทุกคนมาที่บ้าน"คุณยายพูดอะไรหรอครับ?"จู่ ๆ จ้านหยินก็เอ่ยถามขึ้นทันใดนั้นไห่ถงก็หยุดมือจากสิ่งที่ทำอยู่ แล้วหันไปหาเขาจ้านหยินเองก็มองเธออยู่ จังหวะนั้นสองสามีภรรยาจึงสบตากัน จ้านหยินสัมผัสได้ถึงประกายล้อเลียนในแววตาของหญิงสาว จากนั้นเสียงเล็กก็ดังขึ้น "คุณยายถามฉันว่าเราแยกห้องนอนหรือเปล่า? ท่านบอกว่าเราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว เลยอยากให้ฉันปลุกความกล้าที่จะเป็นฝ่ายรุก จับคุณกด จับคุณถอดเสื้อผ้า แล้วเผด็จศึกคุณซะ"จ้านหยิน "..."นี่เป็นสิ่งที่คุณยายของเขาพูดออกมาเอง"คุณยายยังบอกด้วย ว่าปีหน้าท่านจะได้อุ้มเหลนสาว ท่านเน้นเสียงหนักเลยนะคะว่าต้องเป็นเหลนสาว ท่านบอกว่าถ้าเราได้ลูกชายก็ขอให้มีลูกไปเรื่อย ๆ จนกว่าเป็นเป
แต่ขอโทษนะ ความเป็นสามีภรรยาระหว่างพวกเขายังไม่ลึกซึ้งถึงขั้นนั้นถึงยังไงพวกเขาก็แค่ต้องใ้ช้ชีวิตด้วยกันให้ผ่านไปได้ในแต่ละวัน ต่อให้เขาจะโกรธเธอจะเป็นจะตายแค่ไหน ตราบใดที่เขาไม่ไล่เธอออกจากบ้าน เธอก็ไม่แคร์หรอกไห่ถงล้างจานชามเสร็จ ก็ทำความสะอาดห้องครัวต่อจนเรียบร้อย จากนั้นจึงออกไปถูบ้าน แล้วจบลงที่เธอออกไปนั่งเก้าอี้ชิงช้าที่ซื้อมาไว้ตรงระเบียง ลมยามค่ำคืนพัดโชยสวนกับเก้าอี้ที่แกว่งเบา ๆ ไห่ถงรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมากตอนนี้ระเบียงของเธอแทบจะกลายเป็นสวนดอกไม้อย่างสมบูรณ์แบบ ยิ่งมองดูต้นไม้ดอกไม้ที่เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพพวกนี้ ไห่ถงก็ต้องถอนหายใจให้กับฝีมือสุดเนี๊ยบของจ้านหยินอย่างช่วยไม่ได้อีกครั้งเสียงฝีเท้าหนักอึ้งดังขึ้น และยิ่งเข้าใกล้ระเบียงมากขึ้นเรื่อย ๆเพียงชั่วอึดใจจ้านหยินก็ปรากฎตัวขึ้นที่ระเบียง เมื่อเห็นไห่ถงกำลังนั่งแกว่งชิงช้าอย่างสบายใจเฉิบ จ้านหยินก็ยิ่งหน้าบึ้งมากขึ้นกว่าเดิมชายหนุ่มเดินเข้ามาหา แล้วยื่นกระดาษส่องแผ่นให้เธอ"อะไรของคุณ?"ไห่ถงถามด้วยความสงสัยจ้านหยินไม่ตอบ แต่แสดงท่าทีชัดว่า อยากรู้ก็ดูซะสิ จะถามเพื่อ?เธอรับกระดาษสองแผ่นนั้นมา ไห
ไห่ถงรับปากกามาไว้ในมือ เธอลุกขึ้น เดินไปยังราวกั้นตรงระเบียงและใช้มันเป็นที่วางรองแผ่นกระดาษก่อนจะเซ็นชื่อจริงของตัวเองลงไปจ้านหยินหยิบหมึก เพื่อให้เธอประทับรอยนิ้วมือลงไปหนังสือสัญญาหนึ่งชุดสองฉบับ สองสามีภรรยาถือไว้คนละฉบับไห่ถงพับสัญญาแผ่นนั้นแบบลวก ๆ แล้วยัดมันลงไปในกระเป๋ากางเกงจ้านหยินเห็นการกระทำนั้นของเธอ ทันใดนั้นความร้อนระอุก็ผุดขึ้นในอก แต่เขาก็ไม่อาจพูดอะไรได้ เพราะถึงยังไงสัญญาที่เขาเขียนขึ้น ข้อตกลงทุกอย่างล้วนเขียนมาเพื่อห้ามปรามเธอ แต่หญิงสาวกลับไม่แม้แต่จะแก้ไขหรือเพิ่มเติมอะไร"วันนี้คุณเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว รีบนอนเถอะ""คุณก็ด้วยค่ะ"ไห่ถงเสริมอีกประโยคด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ "ฉันจะนั่งชมดอกไม้ต่ออีกหน่อย ฉันฝันมาตลอดว่าอยากมีสวนดอกไม้ขนาดย่อมที่ระเบียงบ้านเป็นของตัวเอง ตอนนี้ฝันของฉันเป็นจริงแล้ว ฉันอยากจะดูให้หนำใจ"หญิงสาวไม่ได้เก็บเรื่องสัญญามาใส่ใจเลยแม้แต่น้อยเธอแต่งงานกับเขาโดยที่ไม่ได้หวังอะไรจริง ๆ น่ะหรอ? ทั้งหมดนี้เป็นเขาที่เพ้อเจ้อไปเองคนเดียวหรือไง?ไม่อย่างนั้น ทำไมเธอถึงทำท่าทางเหมือนละทางโลกได้ขนาดนี้ นอกจากจะไม่โกรธแล้วยังยิ้มได้อีกจ้านหยิน
ระหว่างเขาสองคนก็เป็นแค่สามีภรรยาในนาม ถึงเขาจะเมา ก็ไม่ได้ต้องการให้เธอมาดูแลอยู่แล้ว ใครจะไปรู้ ดีไม่ดีผู้หญิงคนนั้นอาจจะฉวยโอกาสนี้แตะอั๋งเขาก็ได้อายุก็ปาเข้าไปสามสิบ แต่เขายังไม่เคยเสียแม้แต่จูบแรกเลยด้วยซ้ำอย่าพูดไปถึงเรื่องพรหมจรรย์เขาไม่เคยเชื่อในเรื่องความรักคุณยายจ้านมักจะว่าเขาเป็นพวกไม่มีหัวใจ แต่ก็เป็นเพราะเขาไม่เชื่อเรื่องความรัก ถึงได้ยอมสานฝันให้หญิงชราด้วยการแต่งงานกับไห่ถง หลังจากทนฟังคำบ่นจนหูใกล้จะบอดเต็มทีแต่นี่ก็คลำตั้งแต่หัวจรดเท้า จ้านหยินก็ยังหากุญแจบ้านไม่เจอ เขาเอ่ย "...อาเจ็ด เรียกนายหญิงของพวกนายก็แล้วกัน"ดูเหมือนเขาจะลืมหยิบกุญแจบ้านออกมาบอดี้การ์ดเคาะประตูทันทีไห่ถงหลับไปแล้ว แต่เธอไม่ได้หลับลึกจึงได้ยินเสียงเคาะประตู หญิงสาวตื่นขึ้นมาเงี่ยหูฟังอีกครั้ง ก็พบว่ามีคนเคาะประตูอยู่จริง ๆ จึงรีบลุกขึ้นมาตั้งใจจะไปเปิดประตู ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในชุดนอน เธอคว้าเสื้อคลุมกันหนาวในตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วจึงออกไปเปิดประตูทันทีที่ประตูเปิดออก จ้านหยินและอาเจ็ดเห็นไห่ถงใส่เสื้อกันหนาวตัวหนาเตอะ ต่างก็ชะงักตอนนี้เพิ่งจะเข้าเดือนเจ็ด อย
จริง ๆ แล้ว วันสุดสัปดาห์แบบนี้ที่ร้านไม่ค่อยยุ่ง ตลอดทั้งวันแทบจะไม่มีลูกค้า จะไม่เปิดร้านก็ยังได้ไห่ถงมาที่ร้านก็เพราะที่นี่เงียบดี ทำให้เธอมีสมาธิที่จะทำงานฝีมือที่ขายบนร้านออนไลน์ของตัวเองได้เซินเสี่ยวจวินเองก็มาร้านเหมือนกันเมื่อเห็นไห่ถงอยู่ที่ร้าน เซินเสี่ยวจวินก็ถามด้วยความแปลกใจ "ถงถง วันนี้วันอาทิตย์ทำไมเข้าร้านล่ะ? ปกติเธอต้องพาหลานไปเดินสวนสาธารณะไม่ใช่หรอ""ฉันต้องปล่อยสินค้าตัวใหม่บนออนไลน์น่ะ"ไห่ถงถักงานฝีมือ พร้อมกับเงยหน้ามองเพื่อนสนิท แล้วพูดยิ้ม ๆ "ว่าแต่เธอล่ะ?""อย่าให้พูดเลย ฉันโดนแม่บ่นจนหูชา เลยหนีมาร้านนี่แหละ""คุณป้าบ่นอะไรเธออีก?""จะอะไรได้อีก ก็บ่นที่พวกเราไปงานเลี้ยงคืนนั้น แต่ตกเหยื่อรวย ๆ กลับมาไม่ได้น่ะสิ แม่ฉันคงคิดว่าหาสามีรวยมันง่ายมากมั้ง ไม่ย้อนมองดูสภาพลูกสาวตัวเองบ้างเลย คิดว่าฉันเป็นนางงามจักรวาลหรือไง"ไห่ถงหัวเราะก๊ากคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็แบบนี้แหละ พอลูกตัวเองเริ่มเข้าสู่วัยคานทอง ก็เริ่มเป็นเดือนเป็นร้อนหาคู่ให้ลูกตัวเองอายุยี่สิบห้า ถ้าเป็นสมัยก่อนที่คนแต่งงานมีลูกกันเร็ว ก็คงเรียกว่าวัยขึ้นคานได้แหละ แต่ในยุคสมัยนี้ ถือว่ายัง
คุณยายจ้านได้รับงานฝีมือของไห่ถงซึ่งถักด้วยผ้าไหมทองแดง ฝีมือการถักทอของเธอนั้นสวยเสมือนงานแท้ หญิงชราถึงขนาดวางเอาไว้ตามจุดเตะตาต่าง ๆ ในบ้าน แม้ว่าของพวกนั้นจะไม่ได้มีราคาแพง แต่เป็นความตั้งใจของหลานสะใภ้ของเธอเวลามีลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าเหล่านั้นที่ร้าน ต่างก็ชมฝีมือการถักของไห่ถงเป็นเสียงเดียวกัน คุณยายจ้านเองก็ถือโอกาสช่วยไห่ถงขายงาน ทำให้ลูกค้าหลายคนที่เข้ามาต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วยตลอด จนกลายเป็นเพิ่มยอดขายในร้านออนไลน์ไปด้วยแบบไม่รู้ตัว"คุณยายจ้าน ดื่มน้ำก่อนค่ะ"เซินเสี่ยวจวินรินน้ำให้คุณยายจ้านแก้วนึง"ขอบคุณจ้า วันนี้หนูจวินก็อยู่ร้านด้วยหรอ""เฮ้อ ถ้าไม่ใช่เพราะโดนคุณแม่บ่นเรื่องแต่งงาน หนูก็คงไม่หนีมาหลบภัยที่ร้านหรอกค่ะ เอะอะก็นัดให้หนูไปดูตัวอยู่นั่นแหละ ตอนนี้หนูเริ่มรู้สึกตัวเองเป็นแค่สินค้ายังไงก็ไม่รู้ เดี๋ยวเย็นนี้จะให้หนูไปนัดบอดที่ร้านกาแฟXXอีกแล้วนะคะ นี่หนูก็กำลังตื๊อให้ถงถงไปเป็นเพื่อนอยู่ค่ะ"ทันใดนั้นแววตาของคุณยายจ้านก็เปล่งประกาย รอยยิ้มประหลาดผุดขึ้น "แต่ยายเข้าใจคุณแม่ของเรานะ เพราะยายเองก็กำลังปวดหัวที่หลานชายคนอื่น ๆ ยังไม่มีแฟนแต่งงาน
คุณยายจ้านหัวเราะ "อายอะไรลูก? เราสองคนเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าอาจ้านไม่เริ่ม หนูก็ต้องเป็นฝ่ายรุกก่อน ยายอยากอุ้มเหลนจะแย่แล้ว"ไห่ถงพูดไปหน้าแดงไป "คุณยาย หนูพูดตรง ๆ แบบไม่กลัวคุณจะโกรธเลยนะคะ แต่แค่เห็นหน้าเคร่งขรึมของหลานชายคุณยาย หนูก็หมดอารมณ์แล้วล่ะค่ะ"คุณยายจ้าน "..."จ้านหยินเหมือนปู่ของเขา คือเป็นผู้ชายนิสัยเย็นชาแต่กำเนิด สมัยคุณยายจ้านสาว ๆ พอรู้ว่าตัวเองตกหลุมรักคุณปู่ ก็เดินหน้าจีบอยู่หลายปี พยายามทำทุกวิถีทางจนได้เขาเป็นสามีในที่สุด"แค่คิดว่าถ้าหนูต้องจูบเขา คงไม่ต่างอะไรกับจูบกะโหลกอายุร้อยปีที่ทั้งแข็งทั้งเย็นเฉียบ มีหวังริมฝีปากของหนูได้เปื่อยก่อนพอดี"คุณยายจ้าน "...""เรื่องระหว่างหนูกับจ้านหยิน คุณยายอย่ากังวลเกินไปเลยค่ะ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่านะคะ"เพราะถึงยังไงเธอกับเขาก็ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันทุกวันทุกคืนคุณยายจ้านลอบตำหนิ จะให้คนแก่อย่างเธอไม่กังวลได้ยังไง ในเมื่อเด็กสาวตรงหน้าเป็นหลานสะใภ้คนโปรด และก็ต้องมาแต่งงานโดยที่เจ้าตัวไม่ได้เต็มใจเพราะถูกบังคับ ถ้าไห่ถงต้องใช้ชีวิตหลังแต่งงานโดยไม่มีความสุข เธอจะรู้สึกโทษตัวเองไปจนตลอ