จ้านหยินเห็นสายตาของไห่ถง ที่เพ่งไปยังโทรศัพท์มือถือ ทำให้ต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้า เพื่อแย่งโทรศัพท์มือถือของเธอมาโชคดีที่เขาควบคุมตนเองได้ดี และไม่ได้ทำอย่างนั้นเพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์แย่กว่าเดิมเขาเข้ามาใกล้มากขึ้น ยืนหยุดอยู่ตรงหน้าไห่ถง และเรียกด้วยเสียงแผ่วเบา: "ภรรยา""ตุ้บ!"ไห่ถงตกใจมากกับคำว่า "ภรรยา" ของเขาจนโทรศัพท์หล่นลงพื้นเธอรีบก้มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เมื่อเห็นว่าหน้าจอโทรศัพท์แตก เธอก็จึงรู้สึกเป็นทุกข์มากและพูดว่า "เคสโทรศัพท์ของฉันราคา 500 บาท"จ้านหยินหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาดู มันค่อนข้างน่าเกลียด และเมื่อได้ยินเธอพูดอย่างไม่พอใจเกี่ยวกับเคสโทรศัพท์ เขาพูดว่า "ฉันจะจ่ายให้เธอสิบเท่า"“จ่ายเพิ่มอีกสักนิด กลังว่าถ้าโกรธแล้วเรียกฉันว่าภรรยาอีก เคสโทรศัพท์ฉันจะพังอีกไม่รู้กี่ครั้ง”มุมปากของจ้านหยินกระตุก เขามองเธออย่างเงียบ ๆ อยู่สักพักจากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ ว่า "ไห่ทง พวกเรายังคงเป็นสามีภรรยากัน"เขาเรียกเธอว่าภรรยา ซึ่งเป็นเรื่องของธรรมดาและสมเหตุสมผลไห่ถงดึงโทรศัพท์คืน แล้วถามติดตลกว่า "บอกฉันมาหน่อยสิคะ คุณอยากจะพูดอะไรอีก? ตอนจากนี้แค่เรียกฉันด
จ้านหยิน: "...คุณไม่เห็นอารมณ์ในดวงตาของฉันเหรอ? 9vo จางเหนียนเซิงมองคุณ เขาก็มองคุณเหมือนที่ฉันทำอยู่ ฉันเป็นผู้ชายและเข้าใจผู้ชายด้วยกัน เขาชอบคุณ และเขาแอบชอบคุณมานาน”ก็แค่หญิงสาวโง่คนหนึ่ง ที่คิดว่าเขาเป็นแค่น้องชายอย่างโง่เขลาจางเหนียนเซิงไม่ต้องการเป็นน้องชาย แต่เขาต้องการเป็นผู้ชายของเธอสำหรับไห่ถงที่ได้หยอกล้อเขาอีก จึงเอาเปรียบจ้านหยินไม่หยุดหย่อน“ดวงตาของคุณมีอารมณ์? ฉันสัมผัสได้เพียงความหนาวเย็นเท่านั้น”จ้านหยินมีเส้นสีดำบนใบหน้าของเขาการแสดงของเขาไร้ผลสัมฤทธิ์ไห่ถงยิ้มอย่างร่าเริง: "อาจเป็นเพราะคุณแสดงออกได้ไม่ดีพออารมณ์ในดวงตาของคุณนั้นไม่ได้มาจากใจจริง คุณไม่ได้รักฉัน ดังนั้นจึงไม่มีอารมณ์ปรากฏในดวงตา"จ้านหยินยกมือขึ้นสุดท้ายเขาก็สะบัดมือเธอออก"คุณจ้านคะ""ว่าไง"“ฉัน เอ่อ ฉันคิดว่าอยากจูบคุณจริงๆ ค่ะ”จ้านหยินหน้าบูดบึ้ง และมองเธอด้วยดวงตาสีเข้มไห่ถงแกล้งอีกครั้ง "คุณหล่อมาก"หลังจากที่พวกเขาจูบกัน เธอก็คิดถึงวิธีเผด็จการของเขาเดี๋ยวนะ?เธอจะไม่กระโจนเข้าใช่มั้ย?"คุณไม่เต็มใจก็ช่างเถอะ คุณรีบไปทำธุระต่อเถอะ ฉันจะดูร้านต่อ"ไห่ถงพูดพร้อมกับ
สีหน้าของจ้านหยินกลายเป็นเย็นชาเหมือนน้ำแข็งทันทีเขาเดินออกจากแคชเชียร์ด้วยสีหน้าไม่แยแสไห่ถงยืนตัวตรง รวบผมที่ยุ่งเล็กน้อยของเธอ เมื่อเธอเห็นจ้านหยินทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอก็สาปแช่งเขาหลายร้อยครั้งในใจจากนั้นเธอก็นั่งลงและรอให้พวกญาติๆ หน้าด้านเหล่านั้นให้เข้ามาคนที่ตะโกนเธอแบบนั้น ต้องเป็นญาติชั้นยอดในบ้านเกิดของเธอแน่ ๆในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีต่อมา ไห่อ้ายและภรรยาของเขาเข้ามาด้วยท่าทางโกรธจัดที่ตามหลังทั้งคู่มาคือลุงสองคน และป้าอีกสองคนมุมปากของไห่ถงยกขึ้น ดูเหมือนว่าคนจะมากันครบแล้วเมื่อไห่อ้ายและภรรยาบุกเข้ามา ห็นไห่ถงนั่งอยู่ในแคชเชียร์ พวกเขาก็กำลังจะรีบกรู่เข้ามา แต่ถูกจ้านหยินขวางไว้จ้านหยินสูงใหญ่โปร่งและหล่อเหลา แต่กลับเย็นชาผิดมาก ยืนอยู่ที่นั่น ปล่อยรัศออกมารอบตัวอย่างความสูงส่งและความเย็นชา ทําให้คนหดตัวโดยไม่รู้ตัวไห่อ้ายและภรรยาของเขาตะลึงกับจ้านหยินที่เย็นชาถอยหลังสองก้าวโดยสัญชาตญาณ"แก แกเป็นใคร ยืนอยู่ตรงนี้อยากทําให้คนตกใจกลัวจนตายเหรอ?"ไห่อ้ายถามจ้านหยินเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง เม้มริมฝีปากแน่นแต่ไม่พูดอะไรเขารังเกียจที่จะพูดคุยกับคน
ไห่หมินเชิง:“......”ไห่ถงเป็นเด็กนรก ซึ่งว่ารับมือได้ยากแล้ว ไม่ได้คาดคิดว่าการเธอแต่งงานกับผู้ชายแล้ว จะทำให้รับมือได้ยากเช้นกันจ้านหยินเอนตัวไปที่แคชเชียร์และมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงไห่ถงตาเป็นประกาย ว้าว ท่าทางของเขาเท่มาก!แค่กๆ นี่ไม่ใช่เวลาชื่นชมหนุ่มหล่อนะไห่ถงรีบมองพวกลุงและป้าของเธออย่างจริงจัง"เอาเถอะ พวกคุณให้ไห่ถงออกมาแล้วคิดจะทําอะไร? ทุบตีเธอเพราะคุณมีคนเยอะกว่า? หรืออาศัยคนจำนวนมากข่มขู่และล่อลวงเธอ บังคับให้เธอเอาเงินจํานวนมากมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้หญิงชราของพวกคุณ หรือต้องช่วยพวกคุณจ่ายค่าบ้าน ค่าน้ํามันรถ ค่าทางด่วนด้วย?"“ด้วยนิสัยอารมณ์ร้ายของเธอ เราจะเอาชนะเธอได้ไหม?”ป้าไห่พูดด้วยความโมโห เพราะเธอมาที่นี่คิดบัญชีกับไห่ถงหลังจากรู้ว่าลูกชายของเขาไห่จือชินถูกควบคุมตัว ทั้งครอบครัวจึงตัดสินใจประกันตัวไห่จือชินนออกมาก่อน แล้วค่อยหาทางคิดบัญชีไห่ถงใครจะรู้ว่าตอนที่พวกเขาไปประกันตัวไห่จือชิน พวกเขากลับถูกบอกว่าไม่สามารถประกันตัวได้ป้าไห่ทั้งรีบร้อนทั้งโกรธและปวดใจเธอยังไม่เห็นลูกชายของเธอด้วยซ้ำเธอสงสัยว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังไห่ถง ไม่อย่างน
ไห่อ้ายได้สติเป็นคนแรก เขาหันหลังและวิ่งออกไปหาภรรยาของเขา"ภรรยา คุณเป็นอะไรไหม?"ป้าไห่ถูกจ้านหยินลากออกไป ถูกผลักและล้มลงกับพื้นและไม่ได้รับความเจ็บปวดใดๆ อย่างไรก็ตาม เธอรู้สึกอับอายมากและก็รู้สึกว่าใบหน้าของเธอจัดกดถูกับพื้นโดยจ้านหยิน“คุณตายแล้วเหรอ? คุณทำกับฉันเหมือนผู้ชายได้ยังไง? เห็นเมียโดนลากออกไป ไม่คิดจะหยุดหรือช่วยฉันหรือช่วยอะไรเลยเหรอ เห็นเขาลากฉันออกมาและผลักฉันลงไปกับพื้น นี่มันการรังแกคน!"หลังจากป้าไห่ถูกสามีพยุงตัวขึ้นมา ก็รีบผลักสามีออกไป และชี้หน้าด่าสามีแ"หลังจากรังแกลูกชายฉัน แล้วก็มารังแกฉันอีก ยังมีเหตุผลอยู่ไหม โอ้พระเจ้า ท่านแหกตาดูสิ คนอกตัญญูและเลวทรามที่ไม่เคารพญาติผู้ใหญ่ รีบส่งสายฟ้าฟาดมาให้พวกมันตายๆ ไปสักที!"ไห่อ้ายเป็นน้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมด เขาได้รับความรักจากพ่อแม่และพี่น้องเสมอมา หลังจากที่ภรรยาแต่งงานกับเขาแล้ว เธอก็ได้รับความรักจากครอบครัวแม่สามีด้วย แม้ว่าครอบครัวของไห่อ้ายจะยากจนที่สุดแล้ว แต่ด้วยความช่วยเหลือจากพี่น้อง ก็สามารถอาศัยอยู่ในคฤหาสน์เล็กๆ ที่สร้างขึ้นด้วยตัวเองป้าไห่ใช้ชีวิตอย่างราบรื่นตั้งแต่เธอแต่งงานกับตร
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขากินตามใจปากมากเกินไปและอ้วนท้วมสมบูรณ์ ทุกการเคลื่อนไหวทำให้รู้สึกหอบ และไม่มีแรงที่จะสู้กับคู่สามีถรรยาไห่ถงได้เลยจริงๆ แถมไห่ถงยังเคยฝึกกังฟูมาปีนั้นก็ไม่รู้ว่าไห่หลิงเลี้ยงน้องสาวยังไง คิดไม่ถึงว่าไห่ถงจะเรียนรู้มวยและศิลปะการต่อสู้หลายแขนงโชคดีที่พวกเขามองการณ์ไกล และนําค่าชดเชยการเสียชีวิตของพี่น้องคนที่สามมาเก็บไว้ ไม่อย่างนั้นจะถูกไห่หลิงและน้องขู่รีดพวกเขาได้"ไห่ถง อย่ารังแกคนมากเกินไป ฉันจะบอกแกว่า ถ้าแกไม่ไปช่วยจือชินออกมา แล้วเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของฉันในนั้น ฉันกับแกจบกันไม่สวยแน่ อย่าคิดว่าแกมีสามีแล้วฉันจะกลัวแก!"ป้าไห่ชี้ไปที่ไห่ถงและสาปแช่งจ้านหยินล้างมือเสร็จก็บิดศีรษะ แววตาที่เฉียบคมและเย็นชากวาดมองไป เสียงด่าของป้าไห่ก็อ่อนลงทันทีเธอกลัวผู้ชายที่เย็นชาและไม่ชอบพูดคนนี้มาก"ไห่ถง"ไห่หมินเชิงพูด "อย่างไรก็ตาม การลงไม้ลงมือก็ไม่ถูกต้อง เธอบอกให้สามีของเธอขอโทษป้า เราเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว เราไม่เก็บใส่ใจหรอก""ที่แท้ลุงก็รู้ว่าการลงไม้ลงมือนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ไห่จือชินยกพวกพวกอันธพาลมาในตอนกลางคืน ถือท่อนเหล็กขวางท
"ป้า เร็วเข้า ขอบคุณฉันสิ ซื้อของขวัญให้ฉันเยอะๆ ดีกว่า ขอบคุณฉันที่ช่วยลูกชายคุณอีกครั้ง"ประโยคนั้นของไห่ถงทําให้ปากญาติผู้ใหญ่จากตระกูลไห่บิดเบี้ยวป้าไห่โกรธจนตาโต เส้นเเลือดเขียวปูดออกมา มีสีหน้าดุร้ายแต่ก็ไม่กล้าลงมือจ้านหยินมองไห่ถง ไม่จำเป็นลงมือใดๆ ก็หุบปากผู้อาวุโสจนพูดไม่ออก แววตาของเขาแผงไปด้วยรอยยิ้ม ผู้หญิงคนนี้มีไหวพริบจริงๆ"ไห่ถง"ป้าของไห่ถงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "เราไม่ได้บอกว่าแกผิด จือชินผิด ก็คือพวกแกเป็นลูกพี่ลูกน้อง มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทางสายเลือด เป็นครอบครัวเดียวกัน ความขัดแย้งนิดหน่อย จัดการภายในบ้านก็พอ แค่แกบอกเรามา เราจะดุด่าจือชินแน่นอน ไม่จําเป็นต้องส่งเขาไปสถานีตำรวจหรอก""พวกเราอยากไปประกันตัวเขาออกมา แต่ก็ถูกปฏิเสธ แกบอกผู้สนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังแก ไม่ให้พวกเราประกันตัวจือชินออกมาใช่ไหม? ไห่ถง ฉันรู้เรื่องเมื่อปีนั้น พวกแกสองคนคงเกลียดพวกเรามาก แต่ถึงอย่างไรพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ยังไงก็นามสกุลเดียวกัน ก็อย่าให้คนนอกมายุ่งเรื่องครอบครัวของเราเลย"ความหมายคือการขอให้ไห่ถงอย่าบอกทุกสิ่งกับผู้สนับสนุนสนับสนุนของเธอ และใช้ผู้สนับสนุนของเธอ
ตัวไห่ถงยังคงมีเหตุผลและเคารพผู้ใหญ่มาก แน่นอนว่าเงื่อนไขคือผู้ใหญ่เหล่านั้นต้องมีท่าทางเหมือนผู้ใหญ่ เธอถึงจะเคารพ"ไห่ถง เมื่อกี้คนพวกนี้เป็นญาติที่บ้านเกิดของเธอใช่ไหม? พวกเขามาหาเรื่องเธออีกแล้วเหรอ? ยังให้คุณจ่ายค่ารักษาพยาบาลของคุณอีกใช่ไหม คนพวกนั้นก็ไร้ยางอายจริง ๆ พวกเขาขับรถเล็ก ๆ อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ มีเงินเก็บหลายแสนหรือหลายล้าน แม่ของตัวเองป่วยและไม่อยากจ่ายเงิน แต่ต้องบังคับให้หลานสาวที่พ่อแม่เสียชีวิตมาจ่ายเงิน""เคยเห็นคนไร้ยางอายมาตั้งมาก ไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายเหมือนพวกเขา ทําให้มุมมองสามด้านของฉันสดชื่นจริง ๆ""ก็คือ พ่อแม่ไห่ถงเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ค่าชดเชยที่ได้รับก็ถูกพวกเขาแบ่งกัน 3 ล้านเมื่อสิบห้าปีก่อน มันมีค่ามาก พวกเขาสามารถมีชีวิตพอกินพอใช้ได้ในทุกวันนี้ ล้วนอาศัยค่าชดเชยการเสียชีวิตของพ่อแม่ไห่ถง ปลิงดูดเลือด ยังต้องมารังแกไห่ถงด้วย""ไห่ถง เธอใจอ่อนเกินไป จัดการกับคนไร้ยางอายแบบนี้ เธอควรใช้ไม้กวาดตีพวกเขาไป ไม่ต้องพูดกับเขามาก คนเหล่านั้นไม่ว่าจะทําผิดอะไร พวกเขาก็คิดว่าตัวเองถูกเสมอ คิดว่าพวกเขามีเหตุผล คิดว่ามันเป็นความผิดของคนอื่น""ไห่ถง คราวหน้าพวก
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้