ไห่ถงไม่ได้รับข้อความตอบกลับจากจ้านหยิน จึงพูดกับพี่สาวว่า "จ้านหยินอาจเล่นกับเพื่อน ๆ อยู่ ฉันส่งข้อความไปหาเขา เขาไม่ได้ตอบกลับมาเลย""พรุ่งนี้เธอไม่ต้องมาพี่ที่นี่ หาเวลาอยู่กับจ้านหยินหน่อย"การแต่งงานของไห่หลิงเองไม่ค่อยดีแล้ว เธอหวังว่าการแต่งงานของน้องสาวจะดีและยาวนานกว่าของตัวเองหน่อยเธอยังคงยอมรับน้องเขยอย่างจ้านหยินเป็นอย่างดี แถมยังจริงใจต่อน้องสาว ซึ่งดีกว่าโจวหงหลินมาก เธอกับโจวหงหลินตกหลุมรักกันตั้งแต่รู้จักกันจนถึงแต่งงาน ตอนนี้เขามีเงินเล็กน้อยแล้ว แทบรอไม่ไหวที่จะซื้อรถให้เธอสักคันรถจักรยานไฟฟ้าน้องสาวเป็นคนซื้อให้"พี่ ฉันเข้าใจแล้ว""ใช่แล้ว คนจากบ้านเกิดพวกนั้นยังมาหาเรื่องเธออีกไหม ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง คุณย่าควรได้รับการผ่าตัดแล้วมั้ง"ไห่หลิงถามถึงคนบ้านเกิดพวกนั้น"ก็คือครั้งที่แล้วมาหาเพื่อขอคืนดี หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีก คงเกรงใจมั้ง อีกอย่างการค้นหาร้อนนั้นก็จมอยู่ในค้นหาร้อนใหม่ไปนานแล้ว ไม่เห็นแม้แต่ร่องรอย ผลกระทบต่อพวกเขาก็คงถึงขีดจำกัดแล้ว คงจะไม่หามาอีก"สิ่งที่ไห่ถงไม่รู้คือจ้านหยินช่วยเธอแก้ปัญหา และทำให้คิดว่าพวกคนที่บ้านเ
จ้านหยินพ่นคําออกมาอย่างเย็นชาไห่ถงถูกเขาพ่นคำจนปวดใจคิดว่าเธออยากแคร์เขาเหรอ?แต่เพื่อประโยชน์ของสามีและภรรยา เธอจึงถามอย่างใส่ใจไห่ถงหันหลังแล้วเดินจากไปจ้านหยินเห็นเธอก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ และไม่ได้วางแผนที่จะดูแลเขาแล้ว ก็เดินจากไปทั้งแบบนั้นอีก อารมณ์ของเขายิ่งเลวร้ายลงมากยิ่งขึ้น"ต่อไปห้ามไปเปิดประตูทั้งชุดนอน!"ไห่ถงเดินไปที่ห้องครัว"ฉันใส่เสื้อใน"ตอนนี้เธอจะถอดออกเมื่อต้องเข้านอน เพื่อหลบเลี่ยงสถานการณ์แบบนั้นอีก และต้องไปเปิดประตูให้เขา"ฉันจะแต่งตัวยังไง ดูเหมือนว่าก็บังคับไม่ได้นะ ฉันจําได้ว่าในข้อตกลงที่เขียนโดยคุณจ้าน เราสองคนไม่สามารถมาจุ้นจ้านในเรื่องส่วนตัวของกันและกันได้"จันหยินมีสีมืดมนและไม่พูดอะไรข้อตกลงที่เขียนในตอนแรกนั้นเรียกได้ว่าเขาป็นคนคิดพิจารณาทั้งหมด กฎ กติกา ล้วนแต่เป็นการร้องขอเธอ ผูกมัดเธอ ทําไมตอนนี้ถึงรู้สึกว่าเขาถูกผูกมัดแทน?ไห่ถงเข้าไปในห้องครัว เทน้ําอุ่นแก้วหนึ่งให้เขา รอให้อุณหภูมิของน้ําเย็นลง จึงเติมน้ําผึ้งลงไป หลังจากใช้ช้อนคนให้เข้ากัน และจึงถือน้ําผึ้งแก้วนั้นออกไปจ้านหยินพิงโซฟาและไม่ได้นอนหลับ เมื่อเห็นไห่ถงเดินออกมา
จ้านหยินจับมือทั้งสองข้างของเธอและใช้แรงตรึงแขนไขว้เหนือศรีษะเธอ และเขาปิดปากเธออย่างรวดเร็วจูบนี้ไม่อ่อนโยนสักนิดเดียวราวกับเขากําลังระบายความโกรธอยู่ทั้งบดทั้งกัดเป็นการบังคับทั้งสิ้นไห่ถงที่ถูกการกระทําของเขาโกรธมาก กัดริมผีปากของเขาด้วยความโกรธและกัดจนเลือดออก หลังจากเขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวด ก็ปล่อยเธอไปในขณะที่เขากำลังงงงวงย ไห่ถงรีบผลักเขา และผลักเขาล้มลงกับพื้น เธอลุกขึ้น กระโดดออกไปสองสามก้าวและมองเขาอย่างหวาดระแวงจ้านหยินค่อย ๆ คลานลุกขึ้น และเช็ดเลือดบนริมฝีปากสีหน้าของเขาตอนนี้ดูไม่ได้"จ้านหยิน เป็นประสาทอะไร? ดื่มเหล้าไปสองสามแก้วแล้วเหล้าคลั่งมากใช่ไหม?"จ้านหยินจ้องมองเธออย่างมืดมนพูดอย่างเย็นชา "ไห่ถง ผมจะถามคุณอีกครั้ง วันนี้คุณอยู่ที่บ้านพี่สาวคุณจริงๆ ใช่ไหม?""ฉันก็อยู่บ้านพี่......”ไห่ถงหยุดพูดชะงักจ้านหยินยิ้มเย็นชา "อะไร นึกออกแล้วเหรอ? คุณกับจางเนียนเซิงกินข้าวที่ร้านอาหารฝู พวกคุณสองคนคุยกันและหัวเราะคิกคัก แถมคุณยังคีบผักให้เขากินอีก สนิทสนมกันมากกว่าเราสองคนที่เป็นสามีภรรยากันซะอีก ไห่ถง ฉันเคยบอกว่าในช่วงระยะเวลาการแต่งงานที่ตกลงกันไว้
เขาชอบทุบข้าวของก็ทุบข้าวของไป ยังไงบ้านนี้ก็เป็นของเขา ทุบพังไปก็เงินเขาเองจันหยินกวาดเศษถ้วยน้ําผึ้งนั้น และกลับไปที่ห้องแ รีบเข้าไปในห้องน้ํา เปิดใส่น้ําเย็นเต็มอ่างอาบน้ำเอาตัวเองแช่ในน้ําเย็นเพื่อให้ตัวเองมีสติขึ้นมาเขาดื่มเหล้าไปไม่น้อย แต่จริง ๆ แล้วคือไม่ได้เมาไม่ได้สติ แค่ดื่มมากเกินไปและหุนหันพลันแล่นได้ง่ายไฟในห้องโถงยังเปิดไว้ ไห่ถงจึงออกมาปิดทีหลังช่วยเขาประหยัดไฟคืนนี้ทั้งคู่พลิกไปพลิกมา นอนไม่หลับและโกรธกันไห่ถงโกรธจ้านหยินที่ตั้งคําถามกับเธอจ้านหยินโกรธที่เธออยู่กับจางเหนียนเซิง และเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เห็นคือความจริง เธอบอกว่าเธอและจางเหนียนเซิงรู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้ว หรือกล่าวได้ว่าเธอเห็นจางเหนียนเซิงเติบโตขึ้นมา เธอและเซินเสี่ยวจวินเป็นเพื่อนกัน และจางเหนียนเซิงเป็นลูกพี่ลูกน้องของเซินเสี่ยวจวิน จ้านหยินเชื่อว่าเธอและ จางเหนียนเซิงรู้จักกันมานานกว่าสิบปีแล้วเธอบอกว่าเธอถือว่าจางเหนียนเซิงเป็นน้องชาย แต่จางเนียนเซิงก็ไม่ใช่น้องชายของเธอ พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันแม้แต่น้อยนอกจากนี้ สายตาที่จางเนียนเซิงมองเธอนั้นแอบซ่อนความรักไว้ จางเหนียนเ
วิลล่าห่าวถิงเป็นเขตวิลล่าระดับหรูของกวนเฉิง คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นเศรษฐีก่อนที่จ้านหยินและไห่ถงจะได้จดทะเบียนสมรส เขากลับไปอยู่ที่นี่เกือบทุกวัน และบางครั้งคราวเท่านั้นที่จะกลับไปที่บ้านเก่าเพื่อใช้เวลาร่วมกับผู้อาวุโสวิลล่าที่เขาอาศัยอยู่เดิมเป็นวิลล่าเล็ก ๆ หลายหลังรวมกัน หลังจากที่เขาซื้อมา เขาจึงสั่งทุบวิลล่าเล็กๆ เพื่อสร้างวิลล่าหลังใหญ่ขึ้นใหม่ มีทั้งสวนด้านหน้าและด้านหลัง แม้ว่าจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับบ้านเก่า แต่เขาอาศัยอยู่แค่คนเดียวก็กว้างขวางมากแล้วลุงหมิง พ่อบ้านรู้ว่าจะกลับมาที่นี่ และกลับมาทั้งที่ท้องหิวอยู่ จึงขอให้ทางห้องครัวเตรียมอาหารกลางวันไว้ล่วงหน้าจ้านหยินตื่นสาย ตอนนี้เลยกินอาหารกลางวันรวมกับอาหารเช้ากลับบ้านมายังหลังเล็ก ๆ ที่เขาคุ้นเคย หลังจากที่กินและดื่มจนอิ่มแล้ว อารมณ์ที่ไม่ดีของจ้าหยินก็ดีขึ้นเล็กน้อยนั่งบนโซฟา เขาโทรศัพท์หาซูหนานซูหนานยังไม่ตื่น เมื่อวานเขาและลู่ตงหมิงยอมเป็นเพื่อนปรับทุกข์ดื่มเหล้ากับจ้านหยิน จ้านหยินคอแข็ง เขาไม่ได้เมามาก แต่ซูหนานเมาจนต้องให้คนของโรงแรมไปส่งเขากลับบ้านฃลู่ตงหมิงคอแข็งมากกว่าจ้านหยิน เขาไม่เมาเลย แต่
เมื่อนั่งมองแล้ว เธอง่วงนอนจึงพิงเก้าอี้ชิงช้า คิดว่าอยากงีบหลับสักสองนาที แต่พองีบหลับไปก็นอนยาวจนถึงตีห้ากว่า ๆ เมื่อตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าก็เกือบจะสว่างแล้วเธอนอนอยู่นอกระเบียงหนึ่งคืนเต็มเมื่อสะดุ้งตื่นขึ้นมา ไห่ถงก็รู้ว่าจ้านหยินไม่ได้กลับบ้านมาตลอดทั้งคืนเมื่อคืน ไม่อย่างงั้นเขาคงปลุกเธอแล้วผู้ชายคนนั้น แม้จะเย็นชาแต่ไม่ได้แปลว่าหัวใจจะเย็นชา แต่กับเธอมากเขาใจดี มอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ภรรยาควรมีให้เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ชิงช้า กลับไปที่ห้องนั่งเล่น เปิดไฟและเห็นไหมพรมถักสองชิ้นที่นํากลับมายังคงวางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟาที่เดิน ไห่ถงเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเดินไปที่ห้องของหยินจ้านประตูถูกล็อคไว้ เธอไม่มีกุญแจจึงไม่สามารถเปิดประตูได้เขาคงไม่ได้กลับมาหรอกมั้งวันนี้เป็นวันจันทร์ เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่แม้ว่าจ้านหยินจะไม่กลับบ้านมาทั้งคืน และไห่ถงก็ไม่ได้โทรหาเขาแต่อย่างใด เขายังคงโกรธเธอ ทําไมเธอต้องหาเหาใส่หัวด้วย?กล้าพูดเลยว่า ถ้าเธอโทรหาเขา เขาไม่รับสายแน่นอนจ้านหยินไม่อยู่บ้าน ไห่ถงก็ไม่ได้กินอาหารเช้าที่บ้าน รอจนฟ้าสาง เธอถือกุญแจรถลงไปชั้นล่าง ตั้งใจจะออกหาอาหารเช้ากินข้างน
โจวหงหลินหันหน้าไปดูในบ้าน เขากลับมาด้วยตัวเองเมื่อคืนถูกพ่อแม่และพี่สาวแนะนำมา ดังนั้นเขาถึงกลับมาเอง ไม่อย่างงั้นเขาคงยังอยากอยู่บ้านพ่อแม่อีกสักสองสามวัน และสามารถกระหนุงกระหนิงกับเย่เจียนีได้ต่อไปอย่างไร้ยางอายปกติแล้วไห่หลิงจะไม่ไปบ้านพ่อแม่ของสามี ทุกครั้งที่มามักจะถูกแม่สามีและพี่สะใภ้ตำหนิต่อว่าหลายครั้ง จนเธอรู้สึกรําคาญในใจ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็จะไม่ไปบ้านพ่อแม่สามี โจวหงหลินจึงกล้าออกหน้าออกตากระหนุงกระหนิงกับเย่เจียนีอย่างไม่อายฟ้าไม่อายดินหลายวันที่เขาลาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน เย่เจียนีจะมาดูแลเขาทันทีหลังเลิกงาน ซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้เขา ซื้ออาหารอร่อย ๆ มามากมาย ดังนั้นความรู้สึกของทั้งสองจึงพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เจียนียืนยันที่จะรอเขาหย่าก่อน และไม่ยอมปล่อยไปตามอารมณ์ ไม่อย่างนั้นพวกเขาสองคนคงอยู่ร่วมชายคากันแล้วแม้ว่าจะยังจะไม่ได้เห็นขาอ่อน แต่โจวหงหลินก็ดีกับเย่เจียนีมากกว่าอะไรที่ได้มายาก มักจะดีที่สุดเย่เจียนีเข้าใจเหตุผลนี้เป็นอย่างดี แม้ว่าเธอจะสนิทกับโจวหงหลินเหมือนสามีภรรยาแล้ว แต่เธอก็คงเว้นระยะห่างไว้อยู่ เพื่อไม่ให้โจวหงหลินได้ครอบคร
ไห่หลิงพูดว่า "ไม่กินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไป?""ไม่ต้องล่ะ ผมจะไปซื้อข้าวข้างนอกสักชุดก็พอ ตอนเที่ยงผมมีนัดกินข้าว กลับมากินข้าวไม่ได้ คุณกินหยางหยางเถอะ"เมื่อเห็นว่าไห่หลิงแค่ถามและไม่ได้ช่วยเขาหยิบเสื้อโค้ท ถือกระเป๋ามาให้ แล้วออกไปส่งเขาเหมือนส่งฮ่องเต้อย่างแต่ก่อน โจวหงหลินก็รู้สึกไม่พอใจ และรู้สึกว่าไห่หลิงกินของของเขา อาศัยอยู่ในบ้านของเขา แต่ไม่ปรนนิบัติเขาเลยพี่สาวของเขากับพี่เขยนั้นยอดเยี่ยมมาก อาจพูดได้ว่าพี่เขยได้รับการปรนนิบัติดุจฮ่องเต้ แถมพี่สาวก็ยังทํางานหาเงินอีกไห่หลิงอะไรก็ไม่ทำ และยังทำกับเขาไม่ดีอีกเธอไม่สามารถตำหนิได้ว่าเขาที่ไม่รักเธออีกต่อไป เพราะตัวเธอเองก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมโจวหงหลินค้นพบเหตุผลที่สมเหตุสมผลแล้ว สําหรับการนอกใจของเขาเขาไปหยิบเสื้อสูท กระเป๋า และกุญแจรถมาเอง และพูดกับลูกชายอีกครั้งว่า "หยางหยาง พ่อไปทํางานก่อนนะ บ๊ายบาย"รอจนลูกชายโบกมือเล็ก ๆ กลับมาก่อน เขาถึงจะจากไปพอออกจากบ้าน เขาก็ขับรถตรงไปที่โรงแรมกวนเฉิงทันทีไม่คิดว่า เย่เจียนีจะรอเขาอยู่ที่โรงแรมกวนเฉิง"ผู้จัดการโจวคะ"ชุดทำงานของเย่เจียนี แม้จะดูอายุน้อย แต่
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้