ไห่ถงไม่ได้รับข้อความตอบกลับจากจ้านหยิน จึงพูดกับพี่สาวว่า "จ้านหยินอาจเล่นกับเพื่อน ๆ อยู่ ฉันส่งข้อความไปหาเขา เขาไม่ได้ตอบกลับมาเลย""พรุ่งนี้เธอไม่ต้องมาพี่ที่นี่ หาเวลาอยู่กับจ้านหยินหน่อย"การแต่งงานของไห่หลิงเองไม่ค่อยดีแล้ว เธอหวังว่าการแต่งงานของน้องสาวจะดีและยาวนานกว่าของตัวเองหน่อยเธอยังคงยอมรับน้องเขยอย่างจ้านหยินเป็นอย่างดี แถมยังจริงใจต่อน้องสาว ซึ่งดีกว่าโจวหงหลินมาก เธอกับโจวหงหลินตกหลุมรักกันตั้งแต่รู้จักกันจนถึงแต่งงาน ตอนนี้เขามีเงินเล็กน้อยแล้ว แทบรอไม่ไหวที่จะซื้อรถให้เธอสักคันรถจักรยานไฟฟ้าน้องสาวเป็นคนซื้อให้"พี่ ฉันเข้าใจแล้ว""ใช่แล้ว คนจากบ้านเกิดพวกนั้นยังมาหาเรื่องเธออีกไหม ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง คุณย่าควรได้รับการผ่าตัดแล้วมั้ง"ไห่หลิงถามถึงคนบ้านเกิดพวกนั้น"ก็คือครั้งที่แล้วมาหาเพื่อขอคืนดี หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีก คงเกรงใจมั้ง อีกอย่างการค้นหาร้อนนั้นก็จมอยู่ในค้นหาร้อนใหม่ไปนานแล้ว ไม่เห็นแม้แต่ร่องรอย ผลกระทบต่อพวกเขาก็คงถึงขีดจำกัดแล้ว คงจะไม่หามาอีก"สิ่งที่ไห่ถงไม่รู้คือจ้านหยินช่วยเธอแก้ปัญหา และทำให้คิดว่าพวกคนที่บ้านเ
จ้านหยินพ่นคําออกมาอย่างเย็นชาไห่ถงถูกเขาพ่นคำจนปวดใจคิดว่าเธออยากแคร์เขาเหรอ?แต่เพื่อประโยชน์ของสามีและภรรยา เธอจึงถามอย่างใส่ใจไห่ถงหันหลังแล้วเดินจากไปจ้านหยินเห็นเธอก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ และไม่ได้วางแผนที่จะดูแลเขาแล้ว ก็เดินจากไปทั้งแบบนั้นอีก อารมณ์ของเขายิ่งเลวร้ายลงมากยิ่งขึ้น"ต่อไปห้ามไปเปิดประตูทั้งชุดนอน!"ไห่ถงเดินไปที่ห้องครัว"ฉันใส่เสื้อใน"ตอนนี้เธอจะถอดออกเมื่อต้องเข้านอน เพื่อหลบเลี่ยงสถานการณ์แบบนั้นอีก และต้องไปเปิดประตูให้เขา"ฉันจะแต่งตัวยังไง ดูเหมือนว่าก็บังคับไม่ได้นะ ฉันจําได้ว่าในข้อตกลงที่เขียนโดยคุณจ้าน เราสองคนไม่สามารถมาจุ้นจ้านในเรื่องส่วนตัวของกันและกันได้"จันหยินมีสีมืดมนและไม่พูดอะไรข้อตกลงที่เขียนในตอนแรกนั้นเรียกได้ว่าเขาป็นคนคิดพิจารณาทั้งหมด กฎ กติกา ล้วนแต่เป็นการร้องขอเธอ ผูกมัดเธอ ทําไมตอนนี้ถึงรู้สึกว่าเขาถูกผูกมัดแทน?ไห่ถงเข้าไปในห้องครัว เทน้ําอุ่นแก้วหนึ่งให้เขา รอให้อุณหภูมิของน้ําเย็นลง จึงเติมน้ําผึ้งลงไป หลังจากใช้ช้อนคนให้เข้ากัน และจึงถือน้ําผึ้งแก้วนั้นออกไปจ้านหยินพิงโซฟาและไม่ได้นอนหลับ เมื่อเห็นไห่ถงเดินออกมา
จ้านหยินจับมือทั้งสองข้างของเธอและใช้แรงตรึงแขนไขว้เหนือศรีษะเธอ และเขาปิดปากเธออย่างรวดเร็วจูบนี้ไม่อ่อนโยนสักนิดเดียวราวกับเขากําลังระบายความโกรธอยู่ทั้งบดทั้งกัดเป็นการบังคับทั้งสิ้นไห่ถงที่ถูกการกระทําของเขาโกรธมาก กัดริมผีปากของเขาด้วยความโกรธและกัดจนเลือดออก หลังจากเขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวด ก็ปล่อยเธอไปในขณะที่เขากำลังงงงวงย ไห่ถงรีบผลักเขา และผลักเขาล้มลงกับพื้น เธอลุกขึ้น กระโดดออกไปสองสามก้าวและมองเขาอย่างหวาดระแวงจ้านหยินค่อย ๆ คลานลุกขึ้น และเช็ดเลือดบนริมฝีปากสีหน้าของเขาตอนนี้ดูไม่ได้"จ้านหยิน เป็นประสาทอะไร? ดื่มเหล้าไปสองสามแก้วแล้วเหล้าคลั่งมากใช่ไหม?"จ้านหยินจ้องมองเธออย่างมืดมนพูดอย่างเย็นชา "ไห่ถง ผมจะถามคุณอีกครั้ง วันนี้คุณอยู่ที่บ้านพี่สาวคุณจริงๆ ใช่ไหม?""ฉันก็อยู่บ้านพี่......”ไห่ถงหยุดพูดชะงักจ้านหยินยิ้มเย็นชา "อะไร นึกออกแล้วเหรอ? คุณกับจางเนียนเซิงกินข้าวที่ร้านอาหารฝู พวกคุณสองคนคุยกันและหัวเราะคิกคัก แถมคุณยังคีบผักให้เขากินอีก สนิทสนมกันมากกว่าเราสองคนที่เป็นสามีภรรยากันซะอีก ไห่ถง ฉันเคยบอกว่าในช่วงระยะเวลาการแต่งงานที่ตกลงกันไว้
เขาชอบทุบข้าวของก็ทุบข้าวของไป ยังไงบ้านนี้ก็เป็นของเขา ทุบพังไปก็เงินเขาเองจันหยินกวาดเศษถ้วยน้ําผึ้งนั้น และกลับไปที่ห้องแ รีบเข้าไปในห้องน้ํา เปิดใส่น้ําเย็นเต็มอ่างอาบน้ำเอาตัวเองแช่ในน้ําเย็นเพื่อให้ตัวเองมีสติขึ้นมาเขาดื่มเหล้าไปไม่น้อย แต่จริง ๆ แล้วคือไม่ได้เมาไม่ได้สติ แค่ดื่มมากเกินไปและหุนหันพลันแล่นได้ง่ายไฟในห้องโถงยังเปิดไว้ ไห่ถงจึงออกมาปิดทีหลังช่วยเขาประหยัดไฟคืนนี้ทั้งคู่พลิกไปพลิกมา นอนไม่หลับและโกรธกันไห่ถงโกรธจ้านหยินที่ตั้งคําถามกับเธอจ้านหยินโกรธที่เธออยู่กับจางเหนียนเซิง และเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เห็นคือความจริง เธอบอกว่าเธอและจางเหนียนเซิงรู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้ว หรือกล่าวได้ว่าเธอเห็นจางเหนียนเซิงเติบโตขึ้นมา เธอและเซินเสี่ยวจวินเป็นเพื่อนกัน และจางเหนียนเซิงเป็นลูกพี่ลูกน้องของเซินเสี่ยวจวิน จ้านหยินเชื่อว่าเธอและ จางเหนียนเซิงรู้จักกันมานานกว่าสิบปีแล้วเธอบอกว่าเธอถือว่าจางเหนียนเซิงเป็นน้องชาย แต่จางเนียนเซิงก็ไม่ใช่น้องชายของเธอ พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันแม้แต่น้อยนอกจากนี้ สายตาที่จางเนียนเซิงมองเธอนั้นแอบซ่อนความรักไว้ จางเหนียนเ
วิลล่าห่าวถิงเป็นเขตวิลล่าระดับหรูของกวนเฉิง คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นเศรษฐีก่อนที่จ้านหยินและไห่ถงจะได้จดทะเบียนสมรส เขากลับไปอยู่ที่นี่เกือบทุกวัน และบางครั้งคราวเท่านั้นที่จะกลับไปที่บ้านเก่าเพื่อใช้เวลาร่วมกับผู้อาวุโสวิลล่าที่เขาอาศัยอยู่เดิมเป็นวิลล่าเล็ก ๆ หลายหลังรวมกัน หลังจากที่เขาซื้อมา เขาจึงสั่งทุบวิลล่าเล็กๆ เพื่อสร้างวิลล่าหลังใหญ่ขึ้นใหม่ มีทั้งสวนด้านหน้าและด้านหลัง แม้ว่าจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับบ้านเก่า แต่เขาอาศัยอยู่แค่คนเดียวก็กว้างขวางมากแล้วลุงหมิง พ่อบ้านรู้ว่าจะกลับมาที่นี่ และกลับมาทั้งที่ท้องหิวอยู่ จึงขอให้ทางห้องครัวเตรียมอาหารกลางวันไว้ล่วงหน้าจ้านหยินตื่นสาย ตอนนี้เลยกินอาหารกลางวันรวมกับอาหารเช้ากลับบ้านมายังหลังเล็ก ๆ ที่เขาคุ้นเคย หลังจากที่กินและดื่มจนอิ่มแล้ว อารมณ์ที่ไม่ดีของจ้าหยินก็ดีขึ้นเล็กน้อยนั่งบนโซฟา เขาโทรศัพท์หาซูหนานซูหนานยังไม่ตื่น เมื่อวานเขาและลู่ตงหมิงยอมเป็นเพื่อนปรับทุกข์ดื่มเหล้ากับจ้านหยิน จ้านหยินคอแข็ง เขาไม่ได้เมามาก แต่ซูหนานเมาจนต้องให้คนของโรงแรมไปส่งเขากลับบ้านฃลู่ตงหมิงคอแข็งมากกว่าจ้านหยิน เขาไม่เมาเลย แต่
เมื่อนั่งมองแล้ว เธอง่วงนอนจึงพิงเก้าอี้ชิงช้า คิดว่าอยากงีบหลับสักสองนาที แต่พองีบหลับไปก็นอนยาวจนถึงตีห้ากว่า ๆ เมื่อตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าก็เกือบจะสว่างแล้วเธอนอนอยู่นอกระเบียงหนึ่งคืนเต็มเมื่อสะดุ้งตื่นขึ้นมา ไห่ถงก็รู้ว่าจ้านหยินไม่ได้กลับบ้านมาตลอดทั้งคืนเมื่อคืน ไม่อย่างงั้นเขาคงปลุกเธอแล้วผู้ชายคนนั้น แม้จะเย็นชาแต่ไม่ได้แปลว่าหัวใจจะเย็นชา แต่กับเธอมากเขาใจดี มอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ภรรยาควรมีให้เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ชิงช้า กลับไปที่ห้องนั่งเล่น เปิดไฟและเห็นไหมพรมถักสองชิ้นที่นํากลับมายังคงวางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟาที่เดิน ไห่ถงเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเดินไปที่ห้องของหยินจ้านประตูถูกล็อคไว้ เธอไม่มีกุญแจจึงไม่สามารถเปิดประตูได้เขาคงไม่ได้กลับมาหรอกมั้งวันนี้เป็นวันจันทร์ เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่แม้ว่าจ้านหยินจะไม่กลับบ้านมาทั้งคืน และไห่ถงก็ไม่ได้โทรหาเขาแต่อย่างใด เขายังคงโกรธเธอ ทําไมเธอต้องหาเหาใส่หัวด้วย?กล้าพูดเลยว่า ถ้าเธอโทรหาเขา เขาไม่รับสายแน่นอนจ้านหยินไม่อยู่บ้าน ไห่ถงก็ไม่ได้กินอาหารเช้าที่บ้าน รอจนฟ้าสาง เธอถือกุญแจรถลงไปชั้นล่าง ตั้งใจจะออกหาอาหารเช้ากินข้างน
โจวหงหลินหันหน้าไปดูในบ้าน เขากลับมาด้วยตัวเองเมื่อคืนถูกพ่อแม่และพี่สาวแนะนำมา ดังนั้นเขาถึงกลับมาเอง ไม่อย่างงั้นเขาคงยังอยากอยู่บ้านพ่อแม่อีกสักสองสามวัน และสามารถกระหนุงกระหนิงกับเย่เจียนีได้ต่อไปอย่างไร้ยางอายปกติแล้วไห่หลิงจะไม่ไปบ้านพ่อแม่ของสามี ทุกครั้งที่มามักจะถูกแม่สามีและพี่สะใภ้ตำหนิต่อว่าหลายครั้ง จนเธอรู้สึกรําคาญในใจ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็จะไม่ไปบ้านพ่อแม่สามี โจวหงหลินจึงกล้าออกหน้าออกตากระหนุงกระหนิงกับเย่เจียนีอย่างไม่อายฟ้าไม่อายดินหลายวันที่เขาลาพักฟื้นอยู่ที่บ้าน เย่เจียนีจะมาดูแลเขาทันทีหลังเลิกงาน ซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้เขา ซื้ออาหารอร่อย ๆ มามากมาย ดังนั้นความรู้สึกของทั้งสองจึงพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เจียนียืนยันที่จะรอเขาหย่าก่อน และไม่ยอมปล่อยไปตามอารมณ์ ไม่อย่างนั้นพวกเขาสองคนคงอยู่ร่วมชายคากันแล้วแม้ว่าจะยังจะไม่ได้เห็นขาอ่อน แต่โจวหงหลินก็ดีกับเย่เจียนีมากกว่าอะไรที่ได้มายาก มักจะดีที่สุดเย่เจียนีเข้าใจเหตุผลนี้เป็นอย่างดี แม้ว่าเธอจะสนิทกับโจวหงหลินเหมือนสามีภรรยาแล้ว แต่เธอก็คงเว้นระยะห่างไว้อยู่ เพื่อไม่ให้โจวหงหลินได้ครอบคร
ไห่หลิงพูดว่า "ไม่กินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไป?""ไม่ต้องล่ะ ผมจะไปซื้อข้าวข้างนอกสักชุดก็พอ ตอนเที่ยงผมมีนัดกินข้าว กลับมากินข้าวไม่ได้ คุณกินหยางหยางเถอะ"เมื่อเห็นว่าไห่หลิงแค่ถามและไม่ได้ช่วยเขาหยิบเสื้อโค้ท ถือกระเป๋ามาให้ แล้วออกไปส่งเขาเหมือนส่งฮ่องเต้อย่างแต่ก่อน โจวหงหลินก็รู้สึกไม่พอใจ และรู้สึกว่าไห่หลิงกินของของเขา อาศัยอยู่ในบ้านของเขา แต่ไม่ปรนนิบัติเขาเลยพี่สาวของเขากับพี่เขยนั้นยอดเยี่ยมมาก อาจพูดได้ว่าพี่เขยได้รับการปรนนิบัติดุจฮ่องเต้ แถมพี่สาวก็ยังทํางานหาเงินอีกไห่หลิงอะไรก็ไม่ทำ และยังทำกับเขาไม่ดีอีกเธอไม่สามารถตำหนิได้ว่าเขาที่ไม่รักเธออีกต่อไป เพราะตัวเธอเองก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมโจวหงหลินค้นพบเหตุผลที่สมเหตุสมผลแล้ว สําหรับการนอกใจของเขาเขาไปหยิบเสื้อสูท กระเป๋า และกุญแจรถมาเอง และพูดกับลูกชายอีกครั้งว่า "หยางหยาง พ่อไปทํางานก่อนนะ บ๊ายบาย"รอจนลูกชายโบกมือเล็ก ๆ กลับมาก่อน เขาถึงจะจากไปพอออกจากบ้าน เขาก็ขับรถตรงไปที่โรงแรมกวนเฉิงทันทีไม่คิดว่า เย่เจียนีจะรอเขาอยู่ที่โรงแรมกวนเฉิง"ผู้จัดการโจวคะ"ชุดทำงานของเย่เจียนี แม้จะดูอายุน้อย แต่