ไห่หลิงพูดว่า "ไม่กินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไป?""ไม่ต้องล่ะ ผมจะไปซื้อข้าวข้างนอกสักชุดก็พอ ตอนเที่ยงผมมีนัดกินข้าว กลับมากินข้าวไม่ได้ คุณกินหยางหยางเถอะ"เมื่อเห็นว่าไห่หลิงแค่ถามและไม่ได้ช่วยเขาหยิบเสื้อโค้ท ถือกระเป๋ามาให้ แล้วออกไปส่งเขาเหมือนส่งฮ่องเต้อย่างแต่ก่อน โจวหงหลินก็รู้สึกไม่พอใจ และรู้สึกว่าไห่หลิงกินของของเขา อาศัยอยู่ในบ้านของเขา แต่ไม่ปรนนิบัติเขาเลยพี่สาวของเขากับพี่เขยนั้นยอดเยี่ยมมาก อาจพูดได้ว่าพี่เขยได้รับการปรนนิบัติดุจฮ่องเต้ แถมพี่สาวก็ยังทํางานหาเงินอีกไห่หลิงอะไรก็ไม่ทำ และยังทำกับเขาไม่ดีอีกเธอไม่สามารถตำหนิได้ว่าเขาที่ไม่รักเธออีกต่อไป เพราะตัวเธอเองก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมโจวหงหลินค้นพบเหตุผลที่สมเหตุสมผลแล้ว สําหรับการนอกใจของเขาเขาไปหยิบเสื้อสูท กระเป๋า และกุญแจรถมาเอง และพูดกับลูกชายอีกครั้งว่า "หยางหยาง พ่อไปทํางานก่อนนะ บ๊ายบาย"รอจนลูกชายโบกมือเล็ก ๆ กลับมาก่อน เขาถึงจะจากไปพอออกจากบ้าน เขาก็ขับรถตรงไปที่โรงแรมกวนเฉิงทันทีไม่คิดว่า เย่เจียนีจะรอเขาอยู่ที่โรงแรมกวนเฉิง"ผู้จัดการโจวคะ"ชุดทำงานของเย่เจียนี แม้จะดูอายุน้อย แต่
"หลังแต่งงาน เธอไม่ได้ทํางาน ไม่มีรายได้ อาศัยผมเลี้ยงดู ของที่อยู่ในบ้านซื้อทุกอย่างด้วยเงินของผม เธอมีคุณสมบัติอะไรที่จะแบ่งแยกทรัพย์สินกับผม" โจวหงหลินคุยโว "ตราบใดที่ผมหย่ากับเธอ เธอจะออกจากบ้านไปตัวเปล่าอย่างแน่นอน ไม่ได้อะไรไปเลยสักอย่าง"ครั้งสุดท้ายที่ไห่หลิงบอกเขาว่า ถ้าต้องการจะหย่า ต้องคืนเงินค่าตกแต่งให้เธอด้วยโจวหงหลินก็พูดแล้วว่า ถ้าจะเอาเงิน จะไม่ให้แม้แต่บาทเดียวตอนนี้ไม่หย่า เพราะเขายังคิดว่าลูกชายยังเล็กอยู่ และต้องการคนดูแลอย่างน้อยไห่หลิงกฌเป็นพี่เลี้ยงแบบฟรีๆ พี่เลี้ยงฟรีคนนี้ดูแลลูกชายอย่างดีที่สุด โดยเขาไม่ต้องกังวลว่าลูกชายจะถูกพี่เลี้ยงทารุณกรรมเลยสิ่งที่เย่เจียนีต้องการพูดคือเงินฝากของเขาก็เป็นทรัพย์สินหลังแต่งงานด้วย เมื่อไห่หลิงถูกฟ้องหย่า เธอสามารถขอแบ่งเงินฝากของเขาได้ครึ่งหนึ่ง แม้แต่เงินที่เขามักจะใช้กับเธออีกด้วย ถ้าไห่หลิงรู้และฟ้องร้อง เธอก็ต้องคืนเงินและสิ่งของเหล่านั้นให้กับไห่หลิงเมื่อนึกถึงไห่หลิงคนนั้น ตอนนี้โจวหงหลินเป็นผู้จัดการมีหน้ามีตาและมีเส้นสายอยู่บ้าง ถ้าในอนาคตจะหย่ากับไห่หลิงจริง ๆ ไห่หลิงก็สู้โจวหงหลินไม่ได้แน่นอน แต่เย่เจี
โจวหงหลินได้ยินว่าเป็นนายน้อยจ้าน สีหน้าก็เปลี่ยนฉับพลันทันที และพูดว่า "ไม่แปลกใจทีจะเล่นใหญ่ขนาดนั้น ที่แท้ก็คือนายน้อยจ้าน โอ้ น่าเสียดาย ถ้าฉันรู้ว่าเป็นเขา ต้องเบียดกันข้างหน้าไปชมเชยนายน้อยจ้านแน่ ๆ"ได้ยินมาว่านายน้อยจ้านหน้าตาหล่อเหลามากลุงคนนั้นเอียงมองมาที่โจวหงหลินและหัวเราะว่า "คุณก็หน้าตาไม่แย่ แต่ถ้าคุณเทียบกับนายน้อยจ้าน คุณจะแพ้ยับเยิบ"โจวหงหลิไม่โกรธ "ฉันจะกล้าเปรียบเทียบกับนายน้อยจ้านได้อย่างไร คนอย่างพวกเราที่อยู่ในกวนเฉิงที่สามารถเปรียบเทียบกับนายน้อยจ้านได้น่าคงจะเป็นประธานซางคนเดียว วันนี้ได้เจอกับนายน้อยจ้านโชคของฉันก็ไม่เลวนะ เดี๋ยวไปซื้อลอตเตอรี่สักใบดีกว่า ดูว่าฉันจะถูกรางวัลใหญ่ได้หรือไม่"คําพูดของโจวหงหลินทําให้ลุงคนนั้นหัวเราะออกมาเย่เจียนีมีสีหน้าอิจฉาริษยา หลังจากลุงคนนั้นจากไป เธอก็จูงแขนโจวหงหลินเดินเข้าไปที่ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ของโรงแรม ปากของเธอพูดว่า "นายน้อยเป็นตัวละครที่ใช้ชีวิตเหมือนพระเจ้าในกวนเฉิง และไม่รู้ว่าผู้ชายแบบนี้ สาวสวยคนไหนจะสามารถพิชิตใจเขาได้ค่ะ"ตระกูลจ้านเป็นคนรวยที่สุดในกวนเฉิง นายน้อยจ้านเป็นผู้นำตระกูลในรุ่นนี้ ดูแลจ้านซื
โจวหงหลินนึกถึงครอบครัวของตระกูลจ้าน และฐานะของน้องสะใภ้ของเขา รู้สึกว่าถ้าจ้านหยินเป็นลูกชายคนโตของตระกูลจ้านจริง ต้องโชคดีมากไห่ถงค่อนข้างหน้าตาดี แต่สถานะของเธอในทุกด้านยังด้อยกว่าลูกสาวของตระกูลซางมาก นายน้อยจ้านไม่ชอบสาวของตระกูล ซาง แต่ชอบไห่ถงแทน?หลังจากการเปรียบเทียบเสร็จแล้ว โจวหงหลินก็ละทิ้งความคิดนี้ออกไป และคิดว่าตัวเขาเพ้อเจ้อเองไม่มีทางที่จ้านหยินจะเป็นนายน้อยคนโตของตระกูลจ้านอย่างแน่นอน!"ตาเบลอไปล่ะมั้ง พวกเราไปกินข้าวเช้ากันเถอะครับ"เย่เจียนีหวังว่าโจวหงหลินจะสามารถรู้จักกับนายน้อยจ้านได้ ด้วยวิธีนี้ที่เธอเกาะโจวหงหลินอยู่ ก็สามารถใช้ความสัมพันธ์ผ่านทางโจวหงหลิน เพื่อรู้จักกับนายน้อยจ้านได้ ไม่แน่ว่าอาจจะถูกให้เข้าสู่สังคมชั้นสูงก็ได้แต่เรื่องจริงตบเรียกสติเธออย่างแรง เพราะนั่นมันเป็นไปไม่ได้!เธออย่านอนฝันกลางวันดีกว่าการได้คว้าหัวใจของโจวหงหลินได้ ให้โจวหงหลินหย่าและแต่งงานกับเธอ นั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วของเธอ อย่าคิดอย่างอื่นอีกเลยจ้านหยินไม่ทันสังเกตเห็นโจวหงหลิน แต่อาชีเห็นเขาโชคดีที่โจวหงหลินไม่รู้จักบอดี้การ์ดที่อยู่ข้าง ๆ จ้านหยิน แต่ยั
ไห่หลิงไปหางานทำต่อไห่ถงพาหลานชายของเธอกลับไปที่ร้านเซินเสี่ยวจวินชอบโจวหยางมาก เธอเล่นกับโจวหยางเกือบตลอดเวลา ทำให้ไห่ถงมีเวลาถักไหมพรมของเธอได้เธอก็เตรียมทําเครื่องประดับศีรษะสไตล์วินเทจ เพื่อขายเองในร้านค้าออนไลน์ และจะดูว่ายอดขายเป็นอย่างไร และถ้ากระแสตอบรับดี เธอก็จะเปิดร้านค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นภายใต้ผลกระทบของแพลทฟอร์มออนไลน์ การดําเนินธุรกิจของร้านค้าเป็นเรื่องยากมากตราบใดที่ร้านค้าออนไลน์สามารถทําเงินได้ ไห่ถงยินดีที่จะเปิดร้านค้าออนไลน์เพิ่มอีกเมื่อมาถึงตอนเที่ยง เซินเสี่ยวจวินถามเพื่อนว่า "ถงถง วันนี้คุณยังไปรับคนที่บ้านเธอมากินข้าวอยู่ไหม? ฉันจะไปเอาอาหารทะเลสดจากที่บ้านมา เราสามารถกินอาหารทะเลมื้อใหญ่ตอนเที่ยงกันได้นะ""ถ้าคุณจ้านมากินข้าวด้วย ฉันจะใส่ข้าวสารลงไปอีกหน่อย"เซินเสี่ยวจวินกำลังจะไปผัดผัก จึงถามเพื่อน กลัวข้าวสารที่จะใส่น้อยเกินไป ทำให้ไม่พอกิน"ถึงฉันจะเรียกเขามา เขาคงไม่มหรอก เสี่ยวจวิน ฉันกับจ้านหยินทำสงครามเย็นกันอยู่"ไห่ถงถักไหมพรมต้นไม้โชคลาภกระถางที่ลูกค้าจองไว้เสร็จแล้ว ก็หยุดถักชั่วคราวเมื่อได้ยินเข้า เสิ่นเสี่ยวจุนถามอย่างห่วงใยว่า "พ
“บางทีเขาอาจจะยังไม่เห็นข้อความที่เธอส่งไป เธอส่งอีกครั้งสิ?”ไห่ถงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และเปิด WeChat เพื่อส่งข้อความถึงจ้านหยิน เธอถามเขาว่า "เที่ยงนี้จะกินข้าวด้วยกันไหมคะ?"เมื่อข้อความถูกส่งออกไป ระบบแจ้งว่าเธอว่าเธอและจ้านหยินไม่ใช่เพื่อนในWeChat ข้อความที่เธอส่งไปนั้น จ้านหยินไม่สามารถรับได้ ให้เพิ่มจ้านหยินเป็นเพื่อนในWeChatก่อนไห่ถงจ้องมองคํแจ้งเตือนบรรทัดนั้นอย่างตั้งใจไม่ใช่เพื่อนใน WeChat ?ตาจ้านหยินได้ลบเธอออกจาก WeChat อีกครั้งนี่เป็นครั้งที่สองที่จะลบเธอ!ครั้งแรก ทั้งสองเพิ่งใบจดทะเบียนสมรสและไม่คุ้นชินต่อกันและกัน เขายิ่งกลับหันหลังและลืมภรรยาที่เพิ่งแต่งงานในสมองอย่างหมดจด และจึงลบเธอไป เรื่องนั้นเธอสามารถเข้าใจได้ตอนนี้ลบเธออีกครั้ง ก็คือคิดว่าเธอทําในสิ่งที่ควรขอโทษเขา เพราะเธอกำลังหาคนมาสร้างครอบครัวใหม่ จึงลบเธอออกจากเพื่อนในWeChatตอนแรก ไห่ถงยังคิดว่า ถ้าเธอคิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อน และคุยกับเขาดี ๆ เกิดปัญหาขึ้นก็แก้ไขเฉพาะหน้า แต่ได้รับผลลัพธ์กลับมาเป็นเช่นนี้ ทำให้ไห่ถงโกรธมากเธอยังไม่ลบเขาเลย แต่เขาล่วงหน้าไปหนึ่งขึ้นและลบเ
แต่ไห่ถงวางแผนอย่างรอบคอบในเรื่องการใช้เงินในอดีต เว้นแต่จะซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายที่เธอใช้ในบ้านเล็ก ๆ ของพวกเขานั้นไม่เกิน 1000 บาทต่อวันในไม่ช้า จ้านหยินก็ขี้เกียจที่จะเอาต่ออย่างไรก็ตาม ให้เงินเธอไป ก็คือให้เธอใช้จ่ายเขาโกรธเธอ ทำแม้กระทั่งลบเธอออกจากเพื่อนในWeChat แต่เขาไม่อยากพลาดไปถึงเรื่องเงินที่เธอใช้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาจะบังคับให้เธอรอจนกว่าข้อตกลงจะถึงกำหนดอายุ จะไม่ยกเลิกข้อตกลงก่อนกำหนด และละเมิดข้อตกลง และชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมากให้กับเธอ10 นาทีต่อมาโทรศัพท์มือถือของจ้านหยิน ได้รับข้อความการใช้จ่ายบัตรอีกครั้งครั้งนี้ใช้เงินไปทั้งหมดแสนกว่าบาทแน่นอนว่าเงินเพียงเล็กน้อยแค่นี้ ไม่มีค่าอะไรสำหรับนายน้อยจ้านเขาแค่อยากจะรู้ว่า จู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ใช้เงินไปมากมายขนาดนี้ เพื่อไปซื้อทองคำหรือเปล่า?หรือว่าเธอรู้ว่าเขาลบเธอ จึงโกรธ และตั้งใจไปซื้อของโดยใช้เงินเขา?ต้องบอกว่า จ้านหยินเดาเก่งจริงๆ และเขาก็เดาได้ถูกต้องเหลือเวลาอีกสิบนาทีก่อนเลิกงาน และการประชุมกำลังจะสิ้นสุดลง จ้านหยินจึงยกเลิกการประชุมก่อนแต่ก่อนหลังจบการประชุมเขาจะออ
“ไม่ บอส แม้ว่านายเห็นไห่ถงกินข้าวกับผู้ชายอื่นและคีบอาหารให้ผู้ชายอื่น นายต้องสืบว่าสำหรับเธอเขาเป็นใคร สืบให้ชัดเจน แล้วพวกเขาเป็นญาติกันล่ะ?”จ้านหยินมีสีหน้ามืดมน "จางเหนียนเซิง"ซูหนานถามกลับตามสัญชาตญาณว่า "จางเหนียนเซิงเป็นใคร โอ้ ฉันรู้แล้ว ลูกชายของประธานจางของจางซื่อกรุ๊ป ตอนนี้ได้รับการฝึกฝนในจางซื่อกรุ๊ป เขา... ฉันขอวิเคราะห์ก่อน แม่ของจางเหนียนเซิงแซ่เซิน เพื่อนสนิทของคุณนายก็แซ่เซิน"จ้านหยินพูดออกมาตรง ๆ ว่า "จางเหนียนเซิงเป็นลูกพี่ลูกน้องของเซินเสี่ยวจวิน""ใช่ๆ พวกเขาสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คุณนายกับคุณเซินเป็นเพื่อนสนิทกัน งั้นก็ต้องรู้จักจางเหนียนเซิงมานานแล้ว เธออายุมากกว่าจางเหนียนเซิงหลายปีอยู่มั้ง ไม่แน่เธออาจจะมองจางเหนียนเซิงเป็นแค่น้องชายก็ได้""พวกเขาไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด เป็นแค่น้องชาย แค่น้องชายก็เป็นไม่ได้"ซูหนานสำลักใช่แล้ว ต่อให้ปากบอกว่าเป็นน้องชาย แต่ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด นายก็พูดถูก แค่น้องชายก็เป็นไม่ได้หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง จ้านหยินก็พูดขึ้นว่า "จางเหนียนเซิงแอบชอบไห่ถง"ซูหนาน: “นายรู้ได้อย่างไร?”“ฉันเป็นผู้ชาย และสัญช