ไห่หลิงพูดว่า "ไม่กินอาหารเช้าก่อน แล้วค่อยไป?""ไม่ต้องล่ะ ผมจะไปซื้อข้าวข้างนอกสักชุดก็พอ ตอนเที่ยงผมมีนัดกินข้าว กลับมากินข้าวไม่ได้ คุณกินหยางหยางเถอะ"เมื่อเห็นว่าไห่หลิงแค่ถามและไม่ได้ช่วยเขาหยิบเสื้อโค้ท ถือกระเป๋ามาให้ แล้วออกไปส่งเขาเหมือนส่งฮ่องเต้อย่างแต่ก่อน โจวหงหลินก็รู้สึกไม่พอใจ และรู้สึกว่าไห่หลิงกินของของเขา อาศัยอยู่ในบ้านของเขา แต่ไม่ปรนนิบัติเขาเลยพี่สาวของเขากับพี่เขยนั้นยอดเยี่ยมมาก อาจพูดได้ว่าพี่เขยได้รับการปรนนิบัติดุจฮ่องเต้ แถมพี่สาวก็ยังทํางานหาเงินอีกไห่หลิงอะไรก็ไม่ทำ และยังทำกับเขาไม่ดีอีกเธอไม่สามารถตำหนิได้ว่าเขาที่ไม่รักเธออีกต่อไป เพราะตัวเธอเองก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมโจวหงหลินค้นพบเหตุผลที่สมเหตุสมผลแล้ว สําหรับการนอกใจของเขาเขาไปหยิบเสื้อสูท กระเป๋า และกุญแจรถมาเอง และพูดกับลูกชายอีกครั้งว่า "หยางหยาง พ่อไปทํางานก่อนนะ บ๊ายบาย"รอจนลูกชายโบกมือเล็ก ๆ กลับมาก่อน เขาถึงจะจากไปพอออกจากบ้าน เขาก็ขับรถตรงไปที่โรงแรมกวนเฉิงทันทีไม่คิดว่า เย่เจียนีจะรอเขาอยู่ที่โรงแรมกวนเฉิง"ผู้จัดการโจวคะ"ชุดทำงานของเย่เจียนี แม้จะดูอายุน้อย แต่
"หลังแต่งงาน เธอไม่ได้ทํางาน ไม่มีรายได้ อาศัยผมเลี้ยงดู ของที่อยู่ในบ้านซื้อทุกอย่างด้วยเงินของผม เธอมีคุณสมบัติอะไรที่จะแบ่งแยกทรัพย์สินกับผม" โจวหงหลินคุยโว "ตราบใดที่ผมหย่ากับเธอ เธอจะออกจากบ้านไปตัวเปล่าอย่างแน่นอน ไม่ได้อะไรไปเลยสักอย่าง"ครั้งสุดท้ายที่ไห่หลิงบอกเขาว่า ถ้าต้องการจะหย่า ต้องคืนเงินค่าตกแต่งให้เธอด้วยโจวหงหลินก็พูดแล้วว่า ถ้าจะเอาเงิน จะไม่ให้แม้แต่บาทเดียวตอนนี้ไม่หย่า เพราะเขายังคิดว่าลูกชายยังเล็กอยู่ และต้องการคนดูแลอย่างน้อยไห่หลิงกฌเป็นพี่เลี้ยงแบบฟรีๆ พี่เลี้ยงฟรีคนนี้ดูแลลูกชายอย่างดีที่สุด โดยเขาไม่ต้องกังวลว่าลูกชายจะถูกพี่เลี้ยงทารุณกรรมเลยสิ่งที่เย่เจียนีต้องการพูดคือเงินฝากของเขาก็เป็นทรัพย์สินหลังแต่งงานด้วย เมื่อไห่หลิงถูกฟ้องหย่า เธอสามารถขอแบ่งเงินฝากของเขาได้ครึ่งหนึ่ง แม้แต่เงินที่เขามักจะใช้กับเธออีกด้วย ถ้าไห่หลิงรู้และฟ้องร้อง เธอก็ต้องคืนเงินและสิ่งของเหล่านั้นให้กับไห่หลิงเมื่อนึกถึงไห่หลิงคนนั้น ตอนนี้โจวหงหลินเป็นผู้จัดการมีหน้ามีตาและมีเส้นสายอยู่บ้าง ถ้าในอนาคตจะหย่ากับไห่หลิงจริง ๆ ไห่หลิงก็สู้โจวหงหลินไม่ได้แน่นอน แต่เย่เจี
โจวหงหลินได้ยินว่าเป็นนายน้อยจ้าน สีหน้าก็เปลี่ยนฉับพลันทันที และพูดว่า "ไม่แปลกใจทีจะเล่นใหญ่ขนาดนั้น ที่แท้ก็คือนายน้อยจ้าน โอ้ น่าเสียดาย ถ้าฉันรู้ว่าเป็นเขา ต้องเบียดกันข้างหน้าไปชมเชยนายน้อยจ้านแน่ ๆ"ได้ยินมาว่านายน้อยจ้านหน้าตาหล่อเหลามากลุงคนนั้นเอียงมองมาที่โจวหงหลินและหัวเราะว่า "คุณก็หน้าตาไม่แย่ แต่ถ้าคุณเทียบกับนายน้อยจ้าน คุณจะแพ้ยับเยิบ"โจวหงหลิไม่โกรธ "ฉันจะกล้าเปรียบเทียบกับนายน้อยจ้านได้อย่างไร คนอย่างพวกเราที่อยู่ในกวนเฉิงที่สามารถเปรียบเทียบกับนายน้อยจ้านได้น่าคงจะเป็นประธานซางคนเดียว วันนี้ได้เจอกับนายน้อยจ้านโชคของฉันก็ไม่เลวนะ เดี๋ยวไปซื้อลอตเตอรี่สักใบดีกว่า ดูว่าฉันจะถูกรางวัลใหญ่ได้หรือไม่"คําพูดของโจวหงหลินทําให้ลุงคนนั้นหัวเราะออกมาเย่เจียนีมีสีหน้าอิจฉาริษยา หลังจากลุงคนนั้นจากไป เธอก็จูงแขนโจวหงหลินเดินเข้าไปที่ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ของโรงแรม ปากของเธอพูดว่า "นายน้อยเป็นตัวละครที่ใช้ชีวิตเหมือนพระเจ้าในกวนเฉิง และไม่รู้ว่าผู้ชายแบบนี้ สาวสวยคนไหนจะสามารถพิชิตใจเขาได้ค่ะ"ตระกูลจ้านเป็นคนรวยที่สุดในกวนเฉิง นายน้อยจ้านเป็นผู้นำตระกูลในรุ่นนี้ ดูแลจ้านซื
โจวหงหลินนึกถึงครอบครัวของตระกูลจ้าน และฐานะของน้องสะใภ้ของเขา รู้สึกว่าถ้าจ้านหยินเป็นลูกชายคนโตของตระกูลจ้านจริง ต้องโชคดีมากไห่ถงค่อนข้างหน้าตาดี แต่สถานะของเธอในทุกด้านยังด้อยกว่าลูกสาวของตระกูลซางมาก นายน้อยจ้านไม่ชอบสาวของตระกูล ซาง แต่ชอบไห่ถงแทน?หลังจากการเปรียบเทียบเสร็จแล้ว โจวหงหลินก็ละทิ้งความคิดนี้ออกไป และคิดว่าตัวเขาเพ้อเจ้อเองไม่มีทางที่จ้านหยินจะเป็นนายน้อยคนโตของตระกูลจ้านอย่างแน่นอน!"ตาเบลอไปล่ะมั้ง พวกเราไปกินข้าวเช้ากันเถอะครับ"เย่เจียนีหวังว่าโจวหงหลินจะสามารถรู้จักกับนายน้อยจ้านได้ ด้วยวิธีนี้ที่เธอเกาะโจวหงหลินอยู่ ก็สามารถใช้ความสัมพันธ์ผ่านทางโจวหงหลิน เพื่อรู้จักกับนายน้อยจ้านได้ ไม่แน่ว่าอาจจะถูกให้เข้าสู่สังคมชั้นสูงก็ได้แต่เรื่องจริงตบเรียกสติเธออย่างแรง เพราะนั่นมันเป็นไปไม่ได้!เธออย่านอนฝันกลางวันดีกว่าการได้คว้าหัวใจของโจวหงหลินได้ ให้โจวหงหลินหย่าและแต่งงานกับเธอ นั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วของเธอ อย่าคิดอย่างอื่นอีกเลยจ้านหยินไม่ทันสังเกตเห็นโจวหงหลิน แต่อาชีเห็นเขาโชคดีที่โจวหงหลินไม่รู้จักบอดี้การ์ดที่อยู่ข้าง ๆ จ้านหยิน แต่ยั
ไห่หลิงไปหางานทำต่อไห่ถงพาหลานชายของเธอกลับไปที่ร้านเซินเสี่ยวจวินชอบโจวหยางมาก เธอเล่นกับโจวหยางเกือบตลอดเวลา ทำให้ไห่ถงมีเวลาถักไหมพรมของเธอได้เธอก็เตรียมทําเครื่องประดับศีรษะสไตล์วินเทจ เพื่อขายเองในร้านค้าออนไลน์ และจะดูว่ายอดขายเป็นอย่างไร และถ้ากระแสตอบรับดี เธอก็จะเปิดร้านค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นภายใต้ผลกระทบของแพลทฟอร์มออนไลน์ การดําเนินธุรกิจของร้านค้าเป็นเรื่องยากมากตราบใดที่ร้านค้าออนไลน์สามารถทําเงินได้ ไห่ถงยินดีที่จะเปิดร้านค้าออนไลน์เพิ่มอีกเมื่อมาถึงตอนเที่ยง เซินเสี่ยวจวินถามเพื่อนว่า "ถงถง วันนี้คุณยังไปรับคนที่บ้านเธอมากินข้าวอยู่ไหม? ฉันจะไปเอาอาหารทะเลสดจากที่บ้านมา เราสามารถกินอาหารทะเลมื้อใหญ่ตอนเที่ยงกันได้นะ""ถ้าคุณจ้านมากินข้าวด้วย ฉันจะใส่ข้าวสารลงไปอีกหน่อย"เซินเสี่ยวจวินกำลังจะไปผัดผัก จึงถามเพื่อน กลัวข้าวสารที่จะใส่น้อยเกินไป ทำให้ไม่พอกิน"ถึงฉันจะเรียกเขามา เขาคงไม่มหรอก เสี่ยวจวิน ฉันกับจ้านหยินทำสงครามเย็นกันอยู่"ไห่ถงถักไหมพรมต้นไม้โชคลาภกระถางที่ลูกค้าจองไว้เสร็จแล้ว ก็หยุดถักชั่วคราวเมื่อได้ยินเข้า เสิ่นเสี่ยวจุนถามอย่างห่วงใยว่า "พ
“บางทีเขาอาจจะยังไม่เห็นข้อความที่เธอส่งไป เธอส่งอีกครั้งสิ?”ไห่ถงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และเปิด WeChat เพื่อส่งข้อความถึงจ้านหยิน เธอถามเขาว่า "เที่ยงนี้จะกินข้าวด้วยกันไหมคะ?"เมื่อข้อความถูกส่งออกไป ระบบแจ้งว่าเธอว่าเธอและจ้านหยินไม่ใช่เพื่อนในWeChat ข้อความที่เธอส่งไปนั้น จ้านหยินไม่สามารถรับได้ ให้เพิ่มจ้านหยินเป็นเพื่อนในWeChatก่อนไห่ถงจ้องมองคํแจ้งเตือนบรรทัดนั้นอย่างตั้งใจไม่ใช่เพื่อนใน WeChat ?ตาจ้านหยินได้ลบเธอออกจาก WeChat อีกครั้งนี่เป็นครั้งที่สองที่จะลบเธอ!ครั้งแรก ทั้งสองเพิ่งใบจดทะเบียนสมรสและไม่คุ้นชินต่อกันและกัน เขายิ่งกลับหันหลังและลืมภรรยาที่เพิ่งแต่งงานในสมองอย่างหมดจด และจึงลบเธอไป เรื่องนั้นเธอสามารถเข้าใจได้ตอนนี้ลบเธออีกครั้ง ก็คือคิดว่าเธอทําในสิ่งที่ควรขอโทษเขา เพราะเธอกำลังหาคนมาสร้างครอบครัวใหม่ จึงลบเธอออกจากเพื่อนในWeChatตอนแรก ไห่ถงยังคิดว่า ถ้าเธอคิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อน และคุยกับเขาดี ๆ เกิดปัญหาขึ้นก็แก้ไขเฉพาะหน้า แต่ได้รับผลลัพธ์กลับมาเป็นเช่นนี้ ทำให้ไห่ถงโกรธมากเธอยังไม่ลบเขาเลย แต่เขาล่วงหน้าไปหนึ่งขึ้นและลบเ
แต่ไห่ถงวางแผนอย่างรอบคอบในเรื่องการใช้เงินในอดีต เว้นแต่จะซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายที่เธอใช้ในบ้านเล็ก ๆ ของพวกเขานั้นไม่เกิน 1000 บาทต่อวันในไม่ช้า จ้านหยินก็ขี้เกียจที่จะเอาต่ออย่างไรก็ตาม ให้เงินเธอไป ก็คือให้เธอใช้จ่ายเขาโกรธเธอ ทำแม้กระทั่งลบเธอออกจากเพื่อนในWeChat แต่เขาไม่อยากพลาดไปถึงเรื่องเงินที่เธอใช้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาจะบังคับให้เธอรอจนกว่าข้อตกลงจะถึงกำหนดอายุ จะไม่ยกเลิกข้อตกลงก่อนกำหนด และละเมิดข้อตกลง และชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมากให้กับเธอ10 นาทีต่อมาโทรศัพท์มือถือของจ้านหยิน ได้รับข้อความการใช้จ่ายบัตรอีกครั้งครั้งนี้ใช้เงินไปทั้งหมดแสนกว่าบาทแน่นอนว่าเงินเพียงเล็กน้อยแค่นี้ ไม่มีค่าอะไรสำหรับนายน้อยจ้านเขาแค่อยากจะรู้ว่า จู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ใช้เงินไปมากมายขนาดนี้ เพื่อไปซื้อทองคำหรือเปล่า?หรือว่าเธอรู้ว่าเขาลบเธอ จึงโกรธ และตั้งใจไปซื้อของโดยใช้เงินเขา?ต้องบอกว่า จ้านหยินเดาเก่งจริงๆ และเขาก็เดาได้ถูกต้องเหลือเวลาอีกสิบนาทีก่อนเลิกงาน และการประชุมกำลังจะสิ้นสุดลง จ้านหยินจึงยกเลิกการประชุมก่อนแต่ก่อนหลังจบการประชุมเขาจะออ
“ไม่ บอส แม้ว่านายเห็นไห่ถงกินข้าวกับผู้ชายอื่นและคีบอาหารให้ผู้ชายอื่น นายต้องสืบว่าสำหรับเธอเขาเป็นใคร สืบให้ชัดเจน แล้วพวกเขาเป็นญาติกันล่ะ?”จ้านหยินมีสีหน้ามืดมน "จางเหนียนเซิง"ซูหนานถามกลับตามสัญชาตญาณว่า "จางเหนียนเซิงเป็นใคร โอ้ ฉันรู้แล้ว ลูกชายของประธานจางของจางซื่อกรุ๊ป ตอนนี้ได้รับการฝึกฝนในจางซื่อกรุ๊ป เขา... ฉันขอวิเคราะห์ก่อน แม่ของจางเหนียนเซิงแซ่เซิน เพื่อนสนิทของคุณนายก็แซ่เซิน"จ้านหยินพูดออกมาตรง ๆ ว่า "จางเหนียนเซิงเป็นลูกพี่ลูกน้องของเซินเสี่ยวจวิน""ใช่ๆ พวกเขาสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คุณนายกับคุณเซินเป็นเพื่อนสนิทกัน งั้นก็ต้องรู้จักจางเหนียนเซิงมานานแล้ว เธออายุมากกว่าจางเหนียนเซิงหลายปีอยู่มั้ง ไม่แน่เธออาจจะมองจางเหนียนเซิงเป็นแค่น้องชายก็ได้""พวกเขาไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด เป็นแค่น้องชาย แค่น้องชายก็เป็นไม่ได้"ซูหนานสำลักใช่แล้ว ต่อให้ปากบอกว่าเป็นน้องชาย แต่ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด นายก็พูดถูก แค่น้องชายก็เป็นไม่ได้หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง จ้านหยินก็พูดขึ้นว่า "จางเหนียนเซิงแอบชอบไห่ถง"ซูหนาน: “นายรู้ได้อย่างไร?”“ฉันเป็นผู้ชาย และสัญช
"ฉันคิดว่าคุณนายลู่ถ่ายรูปคุณหนูหยูและแสดงให้พี่สาวดูโดยตั้งใจ เพื่อทดสอบว่าเธอมีความรู้สึกกับตงหมิงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือเธอไม่มีความคิดนั้นอย่างแน่นอน เธอไม่เคยคิดอะไรกับตงหมิงเลย ตอนนี้เธอหมกมุ่นอยู่กับร้านอาหารเช้าและต้องการเพียงแค่ประกอบอาชีพและหาเงิน"จ้านหยินก็มองไห่หลิงออกเช่นกัน"ถ้าเธอมีความคิดอะไรกับตงหมิง คุณนายลู่คงจะไม่ยอมให้เธอเปิดร้านที่นั่นต่อไป"ไห่ถงเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีของเธอพูดคุณนายลู่กำลังทดสอบพี่สาวของเธอ พี่สาวของเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ไม่เป็นไร เธอจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ"ที่รัก คุณคิดว่าฉันควรบอกเรื่องพวกนี้กับพี่สาวของฉันไหม?""คุณนายลู่คงทำอะไรไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอเพียงสงสัยเช่นเดียวกับเรา แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพี่สาวของคุณ ฉันแค่ต้องคุยกับตงหมิงและบอกเขาว่าอย่าไปทานอาหารเช้าที่บ้านพี่สาวของเราในอนาคต"จ้านหยินบ่นให้เพื่อนๆ ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ ลู่ตงหมิงต้องรีบไปร้านกินได้ไม่อั้นแต่เช้าเพื่อทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ใช่ไหม"ตกลง"หลังจากจ้านหยินกินและดื่มจนอิ่มแล้ว ไห่ถงก็ยิ้มและถา
ไห่ถงรู้สึกโชคดีอีกครั้ง เธอได้แต่งงานกับผู้ชายที่แม้จะแสดงอาการงอแงเล็กน้อยเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี เขาไม่เคยใช้ความรุนแรงในครอบครัวกับเธอ และเขาไม่ต้องกังวลว่าเขาจะนอกใจด้วยกุญแจสำคัญอยู่ที่การเลี้ยงดูของเขา บ้านสามีที่่ใจกว้างและมีเมตตาอย่างแม่สามีตระกูลจ้าน เป็นสิ่งที่หาได้ยากในตระกูลที่ร่ำรวยเมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อคุณยายจ้านบอกกับเธอว่าเธอช่วยชีวิตอีกฝ่ายไว้และจะไม่แนะนำหลานชายที่ไม่ดีให้เธอรู้จักที่จริงแล้ว หลานชายทุกคนในครอบครัวของหญิงชราอย่างเธอนั้นนั้นดีมากจ้านหยินเป็นหลานชายคนโต และหญิงชราก็เลือกที่จะจับคู่เธอกับหลานชายที่ดีที่สุด"คุณนายลู่ได้ช่วยประธานลู่หาภรรยาที่เหมาะสมแล้ว เธอคือคุณหนูหยูหยินหยิน ทั้งสาว สวย และดูเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคนที่อยู่ในแวดวงชั้นสูงมายาวนาน ความมั่นใจและรัศมีแห่งความสง่างามที่แผ่ออกมาจากทุกการเคลื่อนไหว ท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอมาจากภูมิหลังที่ร่ำรวยหรือสูงศักดิ์ นั่นสามารถทำให้คุณนายลู่ชอบเธอได้โดยไม่ต้องลำบากอะไร""ฉันรู้"จ้านหยินพูดขณะกิน "เป็นเพราะคุณนายลู่เลือกภรรยาที่เหมาะสมกับตงหมิง
"ไม่ต้องพูดถึงว่าเราทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ แม้ว่าในอนาคตเราจะเกษียณ เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะตื่นขึ้นทุกวันและพบกันเมื่อเราลืมตาขึ้น"มีคนตื่นก่อนเสมอ และมีคนตื่นทีหลังเสมอจ้านหยินรู้ว่าเขาสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล"ป้าเหลียงบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าว คุณหิวไหม ออกไปกินข้าวกันเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณ"ไห่ถงรู้ว่าการยืดเวลาการสนทนาออกไปอาจทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างพวกเขามากขึ้นหลีกเลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้ง เพราะอาจทำให้ทั้งคู่โกรธกันได้"อืม"จ้านหยินพยักหน้าแล้วปล่อยภรรยาที่รักของเขาจากอ้อมแขนไห่ถงดึงเขาออกมาป้าเหลียงเตรียมอาหารเช้าของจ้านหยินไว้บนโต๊ะอาหารแล้วนายน้อยชอบทำตัวจุกจิกจู้จี้ แต่ต่อหน้านายหญิง เขามักจะต้องก้มหัวและประนีประนอมอยู่เสมอป้าเหลียงไม่กังวลเลยว่าอาหารเช้าที่เธอทำจะเสียเปล่า"ทำไมคุณไม่พาหยางหยางมาล่ะ?"จ้านหยินทานอาหารเช้ากับภรรยา และอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น เขาเลิกทำหน้าเย็นชาและถามถึงเจ้าตัวน้อย"พี่สาวของฉันบอกว่าวันนี้เธอจะปิดร้านเร็วและปล่อยให้หยางหยางเล่นในร้าน เธอจะพาหยางหยางกลับบ้านเร็วๆ นี้ จ้าน...ที่รัก พาหยางหยางมาอยู่ที่นี่กันเถ
"เมื่อไหร่คุณยายจะกลับมา? ฉันคิดถึงเธอมาก"ไห่ถงคิดถึงวันที่คุณยายจ้านเคยอยู่ที่นี่มากป้าเหลียงพูด: "เมื่อฉันรู้ตัวว่าต้องเตือนนายหญิง มันก็สายเกินไปเสียแล้ว คุณผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปแล้ว"ไห่ถงถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า "ฉันจะไปล้างมือ"เธอล้างมือสองครั้งด้วยสบู่และกลับไปที่ห้องที่เธอเคยอยู่ เธอหยิบชุดเสื้อผ้าที่สะอาดจากตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนชุด แล้วกลับไปที่ห้องนอนใหญ่"ที่รัก ฉันล้างมือและฆ่าเชื้อสองครั้ง ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขนแมวติดตัวของฉัน"ไห่ถงเดินไปข้างหลังจ้านหยิน และขณะที่เธอพูด เธอก็เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของเขา"ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันลืมไปจริงๆ ว่าฉันกำลังอุ้มแมวอยู่เมื่อกี้ จริงๆ แล้วพวกมันน่ารักมาก คุณให้ฉันเลี้ยงพวกมัน และพวกมันก็มีค่าสำหรับฉันทั้งหมด คุณพูดว่า ถ้าฉันให้หญ้าคุณหนึ่งกำมือ คุณจะถือว่ามันเป็นสมบัติ ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่าคุณจะให้อะไรกับฉัน ฉันก็จะรักมันมาก"จ้านหยินไม่หันหลังกลับและปล่อยให้เธอโอบเอวของเขาเขากล่าว: "ฉันตื่นมาแล้วไม่เห็นคุณ ฉันถามป้าเหลียงแล้วเธอก็บอกว่าคุณออกไปแต่เช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุณทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เมื่อคุ
ไห่ถงก้มตัวลงและอุ้มแมวขึ้นมา"นายหญิง คุณไปง้อนายน้อยก่อนเถอะ นายน้อยเพิ่งตื่นและยังไม่ได้กินข้าว"ป้าเหลียงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเมื่อจู่ๆ นายน้อยของเธอกลายเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยถ้าเธอไม่มาทำงาน เธอคงไม่รู้ว่านายน้อยจะมีด้านที่คิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ไห่ถงลูบแมวแล้วถามป้าเหลียง: "ป้าเหลียง คุณต้องบอกฉันว่าทำไมเขาถึงโกรธ ฉันถึงจะง้อได้ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ป้าเหลียงกระซิบ: "ฉันเดาว่านายน้อยคงโกรธที่คุณออกไปข้างนอกแต่เช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ นายน้อยพักผ่อนที่บ้านและหวังว่านายหญิงจะอยู่กับเขา"ไห่ถง: "... ฉันแค่ไปช่วยงานพี่สาวของฉัน แม้ว่าจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่โรงงานหลายแห่งไม่มีวันหยุดและยังต้องทำงาน ดังนั้นร้านอาหารเช้าของน้องสาวฉันจึงยังคงยุ่งมาก ฉันออกไปเร็วแต่ก็กลับมาเร็วเช่นกัน ฉันยังกลับมาก่อน 10 โมง"เธอไม่เคยคิดว่าจ้านหยินจะกลายเป็นคนใจแคบเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ป้าเหลียงก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเหมือนกัน"ฉันจะเข้าไปง้อเขา"ไห่ถงซึ่งรู้ดีว่าสามีของเธอเป็นคนแบบไหน เดินเข้าไปในห้องอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับแมวของเธอในอ้อมแขนหลังจากที่เธอผลักประตูเปิดและเข้าไป ป้าเหลียงก็จำ
ขณะที่ยุ่งอยู่ตรงนี้ จ้านหยินก็ตื่นขึ้นตามปกติ ก่อนที่เขาจะลืมตา เขาหันข้างและเหยียดแขนยาวของเขาออกไปเพื่อกอดภรรยาที่รักของเขา แต่สุดท้ายก็คว้าลมนั่นคือตอนที่เขาลืมตาขึ้นแน่ล่ะ ไห่ถงไม่อยู่ในห้องอีกต่อไปเมื่อมองดูท้องฟ้าภายนอก พระอาทิตย์กำลังขึ้นสูงจ้านหยินหันกลับมาและหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา"ตอนนี้เก้าโมงแล้ว!"จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นนั่งแม้กระทั่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาก็ไม่เคยเข้าตื่นสายขนาดนี้มาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะว่าเขากลับบ้านดึกเมื่อคืนก่อนเขารีบอาบน้ำและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลอง โดยตั้งใจเลือกชุดที่ไห่ถงซื้อมาให้เขาเมื่อเขาเปิดประตู เขาก็เห็นป้าเหลียงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้และดูทีวี เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด เธอจึงหันไปมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม “นายน้อย คุณตื่นแล้ว คุณอยากกินอาหารเช้าไหม?”"ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว"จ้านหยินบ่นพึมพำขณะเดินออกไป“ถึงจะเก้าโมงกว่าแล้ว ก็ยังควรกินอะไรนะ นายหญิงได้สั่งเราไว้ก่อนที่เธอจะออกไป ให้เตือนนายน้อยว่าควรกินอาหารเช้าเมื่อเขาตื่นนอน”"นายหญิงของคุณอยู่ที่ไหน? เธอตื่นและออกไปข้างนอกตั้ง
หยูหยินหยินก็ไม่ได้โกรธเช่นกันเธอและลู่ตงหมิงรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้จักกันดีนักเขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ"คุณหนูหยู นี่อาหารเช้าของคุณ"หลังจากไห่หลิงทำอาหารเช้าให้หยูหยินหยินแล้ว เธอก็เอามาวางไว้ตรงหน้าเธอ ด้วยรอยยิ้ม เธอกล่าวกับหยูหยินหยินว่า "คุณหนูหยู ทานให้อร่อยนะคะ"หยูหยินหยินตอบด้วยรอยยิ้มไห่หลิงกลับไปที่นั่งและนั่งลง"พี่ คุณเจอเธอเมื่อไหร่?"ไห่ถงกระซิบกับพี่สาวของเธอ"คุณนายลู่แวะมาวันก่อนและเข้ามานั่งคุยกับฉัน ขณะที่คุยกับฉัน เธอบอกฉันว่าเธอต้องการจับคู่คุณหนูหยูกับประธานลู่ และแสดงรูปถ่ายของคุณหนูหยูให้ฉันดู ฉันก็เลยจำเธอได้"ไห่หลิงตอบน้องสาวของเธอด้วยเสียงต่ำและกระซิบ: "เห็นไหม พวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ คุณหนูหยูก็ให้ความรู้สึกสบายใจมากเช่นกัน โดยไม่มีความรู้สึกห่างเหินแบบทายาทเศรษฐี"ไห่ถงมองน้องสาวอย่างละเอียด จากนั้นก้มหัวลงเพื่อกินบะหมี่และกระซิบว่า "เข้ากันได้ดีทีเดียว"ป้าเคยพูดว่าคุณนายลู่เข้ากับคนยากมากจ้านหยินก็พูดเช่นกันเนื่องจากคุณนายลู่ม
เขาไม่มีอะไรจะคุยกับไห่ถงมากนักและด้วยไห่ถงที่อยู่ที่นี่ ลู่ตงหมิงและไห่หลิงก็ไม่ได้พูดอะไรมากนักลูกค้าก็เริ่มทยอยเข้ามาเพื่อกินเกี๊ยวนึ่ง ผู้ช่วยร้านเป็นคนจัดการรับออเดอร์ พนักงานจะเสิร์ฟอาหารเช้าให้พวกเขาแทนไห่หลิงซึ่งเป็นเถ้าแก่เนี้ยเองเธอสามารถนั่งลงในที่เดิมและกินบะหมี่ต่อไปได้"พี่ลู่"คำว่าพี่ลู่นั้น ทำให้ลู่ตงหมิงหมดความอยากอาหารทันทีพี่น้องไห่มองไปที่หญิงสาวสวยที่เปิดประตูกระจกและเดินเข้ามา ไห่ถงไม่เคยรู้จักหยูหยินหยิน แต่ไห่หลิงเคยเห็นภาพของหยูหยินหยิน เมื่อมองไปหยูหยินหยินที่เข้ามา เธอคิดว่าหยูหยินหยินสวยกว่าในรูปเข้ากันได้ดีกับลู่ตงหมิง"คุณหนูหยู คุณอยากทานอาหารเช้าไหม?"ไห่หลิงวางตะเกียบลงและยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับแขกสายตาของหยูหยินหยินละสายตาจากลู่ตงหมิงและจ้องมองไปที่ไห่หลิง เธอเคยเห็นไห่หลิงหลายครั้งจากไกลๆ แต่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกับตาตัวเอง เมื่อมองดูไห่หลิงอย่างดีๆแล้ว หยูหยินหยินรู้สึกว่าไห่หลิงเป็นหญิงสาวที่สวยมาก“ฉันได้ยินมาว่าอาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ฉันจะทานเหมือนกับพี่ลู่ ขอบคุณ”หยูหยินหยินเดินไปที่โต๊ะของลู่ตงหมิง วางกระเ
"ตกลง"น้องของเธออยากกินบะหมี่เครื่องในหมู ไห่หลิงยังต้มบะหมี่เครื่องในหมูสองชามด้วย เธอไม่ชอบผักชี ดังนั้นจึงมีแต่ชามน้องของเธอเท่านั้นที่ใส่ผักชีในชามของเธอ"บะหมี่เสร็จแล้ว"ไห่หลิงเรียกน้อฃให้มาเอาบะหมี่ที่ปรุงแล้วไห่ถงหยุดงาน ล้างมือ แล้วเดินไปหยิบชามบะหมี่ของเธอสองพี่น้องนั่งลงที่โต๊ะ ไห่ถงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเป็นนิสัยและเตรียมกินบะหมี่ไปพร้อมกับอ่านข่าวไปด้วย"เวลากิน อย่ามัวแต่ดูโทรศัพท์ข เก็บโทรศัพท์ของเธอลงไป"ไห่หลิงไม่ยอมให้เธอกินในขณะที่เล่นโทรศัพท์ของเธอแบบนี้"ฉันแค่จะดูมันเฉยๆ"ไห่ถงพูด แต่ก็เก็บโทรศัพท์ของเธอกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเชื่อฟัง"ต่อไปนี้ กินข้าวอยู่ห้ามเล่นโทรศัพท์ไปด้วย""เข้าใจแล้ว"ต่อหน้าพี่สาวของเธอ ไห่ถงไม่กล้าที่จะดื้อรั้น นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์ขณะกินอาหารก็เป็นนิสัยที่ไม่ดีจริงๆ“พี่ คืนนี้พี่จะไม่ไปงานเลี้ยงกับฉันจริงๆ เหรอ”"ไม่ไป""พี่ ฉันคิดว่าคุณควรออกไปเปิดโลกบ้าง"ไห่หลิงค่อยๆ กินบะหมี่ที่เพิ่งปรุงเสร็จและร้อนมาก"ฉันไม่จำเป็นต้องไปดูโลกแล้ว ฉันยังไปไม่ถึงระดับนั้น เธอแตกต่าง เธอเป็นนายหญิงคนโตของตระกูลจ้าน เธอต้