"ไม่นะ พวกเราก็ไม่ได้เจอกันบ่อยครั้ง คุณจะทำให้ผมขุ่นเคืองได้ยังไง?"แม้ว่าเธอจะทำให้เขาขุ่นเคือง เขาก็จะทนได้ เพราะยังไงเขาก็จะทนเธอไปตลอดชีวิตเขาจะไม่โต้เถียงกับเธอ"ฉันไม่ได้ทำให้นายน้อยสองจ้านขุ่นเคือง แล้วทำไมคุณชายรองถึงโทรหาฉันแล้วขอให้ฉันนำช่อดอกไม้มาให้คุณ แถมคุณยังขอให้ฉันมาคนเดียวและไม่ยอมให้ใครพาไปด้วย"จ้านอี้เฉินพูด: "คุณน่าจะมาที่นี่บ่อยๆ ในอนาคต ผมหวังว่าคุณจะจำเส้นทางที่จะมาหาผมได้ เมื่อคุณคุ้นเคยกับผมแล้ว คุณจะไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ"หนิงอวิ๋นชู: “…”ทำไมเธอถึงต้องมาหาเขา?แล้วทำไมต้องมาบ่อยๆ?"กระถางต้นไม้บางต้นในบริษัทตาย อาจเป็นเพราะคอมพิวเตอร์มากเกินไปและรังสีที่มากเกินไป ต้นไม้สีเขียวพวกนั้นตายเร็วมาก ผมต้องการช่วยทุกคนเปลี่ยนกระถางต้นไม้"ในตอนนี้ จ้านอี้เฉินหยุดพูดและมองไปที่หนิงอวิ๋นชูหนิงอวิ๋นชู: .....นี่มันดีลใหญ่มาก!"ก็ได้ คราวหน้าฉันจะขึ้นรถบัสเอง เมื่อไปถึงทางเข้าบริษัทของคุณ ฉันจะรู้ทาง การเดินทางครั้งเดียวคือทั้งหมดที่ฉันต้องจำเส้นทาง ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณจ้านอี้เฉินต้องรอ"“นายน้อยสอง หากบริษัทของคุณต้องการต้นไม้กระถางใหม่ เชิญแวะที่ร้านด
"นายน้อยสอง?" หนิงอวิ๋นชูอุทานด้วยความสับสน"ผมไม่ชอบช่อดอกไม้และผมก็ไม่มีแฟน ผมขอให้คุณนำช่อดอกไม้มาให้ผม แต่ก็แค่ให้คุณคุ้นเคยกับเส้นทางที่จะมาหาผม ซึ่งจะสะดวกกว่าในอนาคต"จ้านอี้เฉินอธิบายด้วยรอยยิ้ม "แต่ท่าทางที่โง่เขลาของคุณมันทำให้ผมตลกมาก เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับความบันเทิง ผมจะเลี้ยงข้าวคุณ ไปกันเถอะ"หนิงอวิ๋นชูสาปแช่งในใจ: 'คุณต่างหากที่ซื่อบื่อ!'แนวทางที่แหวกแนวของเขาทำให้เธอสับสนเล็กน้อยการแสดงออกของหนิงอวิ๋นชูกลับมามีสีหน้าสงบ และปฏิเสธคำเชิญไปกินข้าวเย็นของจ้านอี้เฉินอย่างสุภาพในขณะที่เดินตามเขาไป"หลังจากที่คุณกลับไป คุณควรสั่งอาหารเดลิเวอรี่สินะ การกินอาหารเดลิเวอรี่มากเกินไปมันไม่ดี ผมจะเลี้ยข้าวคุณเอง หรือคุณสามารถเลี้ยงข้าวผมก็ได้ ผมอุตส่าห์ให้ข้อเสนอใหญ่สองดีลแก่คุณ และเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะเลี้ยงข้าวผม"หนิงอวิ๋นชูสำลักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูด "ฉันมีเงินติดตัวไปไม่กี่ร้อยหยวน บางทีฉันอาจจะเลี้ยงอาหารนายน้อยสองไม่ได้"เขาคือคุณชายรองของตระกูลจ้าน และที่ที่เขาไปทานอาหารเป็นประจำก็คือโรงแรมกวนเฉิง ซึ่งเป็นโรงแรมของครอบครัวเขาด้วย เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะทานอาห
"พี่ใหญ่"จ้านอี้เฉินเรียกจ้านหยินอีกครั้งหลังจากเหลือบมองหนิงอวิ๋นชูและช่อดอกไม้ที่เธอถืออยู่ในอ้อมแขน สายตาของจ้านหยินก็หันกลับมาที่น้องชายของเขา หลังจากพึมพำเบาๆ เขาก็โอบเอวของไห่ถงและพูด:"พี่สะใภ้ของนายกับฉันไปก่อนนะ"โดยไม่รอให้น้องชายตอบ เขาโอบไห่ถงแล้วจากไปไห่ถงหันศีรษะและมองขณะที่เธอเดินจ้านหยินจับตัวเธอให้ตรงด้วยมือของเขาและพูดด้วยเสียงต่ำว่า "ฉันดูดีกว่าอี้เฉิน""ฉันไม่ได้มองอี้เฉิน ฉันกำลังมองอวิ๋นชู ไม่ สิ่งที่คุณพูดทำมันดูหึงหวงจัง""มองดูผู้ชายคนอื่น ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นน้องชายของฉัน ฉันก็จะหึง"ไห่ถง: "... ถ้าในอนาคตเรามีลูกชาย ฉันจะปฏิบัติกับเขาอย่างดี คุณก็จะหึงเหมือนกันไหม?""ถ้าเรามีลูกสาว ฉันจะไม่รู้สึกหึงอีกต่อไป"ไห่ถงยิ้มและพูดว่า "ฉันก็อยากมีลูกสาวเหมือนกันและทำลายตำนานวัดชายในตระกูลของคุณ ฉันไม่รู้ว่าฉันจะมีชะตากรรมแบบเดียวกันนั้นหรือเปล่า ฉันยังเตรียมตัวที่จะมีลูกชายอยู่ ถ้าคุณอยากหึงของลูกชาย ก็เตรียมตัวหึงไปตลอดชีวิตได้เลย"จ้านหยินมีสีหน้าเคร่งขรึมและดูไม่มีความสุขมากคิดว่าถ้าทั้งสองสามีภรรยามีลูกในอนาคตและลูกยังเป็นลูกชายอยู่ มันจะเบ
เมื่อคิดว่าตระกูลของพวกเขาเป็นเหมือนโรงเรียนชายล้วนมากกว่าตระกูลจวินในเมือง A จ้านหยินจึงแอบสาบานว่า จะหาปรมาจารย์ซินแส มาช่วยตระกูลตรวจสอบฮวงจุ้ยไหนบ้าง ที่ขัดขวางไม่ให้พวกเขามีลูกสาว"ที่รัก คุณคิดว่าตอนนี้อี้เฉินกับอวิ๋นชูไปถึงไหนกันแล้ว? ฉันคิดว่าอี้เฉินกำลังจะหาเรื่องตาย"ไห่ถงเปลี่ยนเรื่องเพื่อป้องกันไม่ให้สามีหมกมุ่นเรื่องการมีลูกสาว และนั่นทำให้เธอกดดันมาก"เข้ากันได้ดี ตราบใดที่ดวงตาของคุณหนูหนิงกลับมาสดใสอีกครั้ง พวกเขาก็จะเข้ากันได้ดียิ่งขึ้น ทำไมอี้เฉินถึงทำอย่างหุนหันพลันแล่นแบบนี้?"จ้านหยินยังคงไม่รู้ว่าน้องชายของเขาทำอะไรไปไห่ถงบอกเขา: "เขาโทรไปที่ร้านดอกไม้และขอให้อวิ๋นชูเอาช่อดอกไม้มาให้เขาโดยเฉพาะ เขาไม่ยอมให้ใครพาอวิ๋นชูไปและเรียกร้องให้อวิ๋นชูต้องไปเอง เขาไม่เข้าใจหรือไงว่าอวิ๋นชูมองไม่เห็น“ถ้านั่นไม่ใช่ความหายนะ ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร ฉันรู้สึกว่าเขาจะต้องเผชิญกับบทเรียนที่ยากลำบากในอนาคต”การพูดถึงบทเรียนที่ยาก ทำให้ใบหน้าของจ้านหยินรู้สึกแสบร้อนเล็กน้อยเขาทำเรื่องขายหน้ามามากมาย“ถ้าเขาต้องการเดินไปตามเส้นทางนั้น นั่นก็เป็นทางเลือกของเขา เขาก็มีฉัน
อากาศในเดือนตุลาคมของเมืองกวนเฉิงยังร้อนจัด มีเพียงตอนเช้าและตอนเย็นเท่านั้นที่สามารถทําให้ผู้คนรู้สึกถึงความเย็นของปลายฤดูใบไม้ร่วงได้หลังจากไห่ถงตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและทําอาหารเช้าให้ครอบครัวพี่สาวทั้งสามคนแล้ว เธอก็หยิบทะเบียนบ้านและจากไปอย่างเงียบ ๆ"จากนี้ไปเราจะใช้ระบบAAกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพหรือค่าผ่อนรถและผ่อนบ้าน ทุกอย่างก็ต้องAAกัน! น้องสาวคุณมาอยู่ที่บ้านเรา ก็ต้องบอกให้เธอช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งด้วยแค่ให้เงินมา 10,000 บาทละเดือนเอาไปใช้อะไรได้? มันจะไปต่างอะไรกับมากินฟรีอยู่ฟรีล่ะ?"นี่คือสิ่งที่ไห่ถงได้ยินพี่เขยของเธอพูด ตอนที่พี่สาวและพี่เขยทะเลาะกันเมื่อคืนนี้เธอต้องย้ายออกจากบ้านของพี่แต่มีทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้พี่วางใจก็คือแต่งงานเธออยากจะรีบแต่งงานไปให้เร็ว แต่ว่าแม้แต่แฟนก็ยังไม่มี เธอจึงตัดสินใจรับคำขอของคุณยายจ้าน หญิงชราที่เธอได้ช่วยเหลือไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ เธอจะแต่งงานกับหลานชายคนโตของคุณยายจ้านซึ่งชื่อจ้านหยินที่การแต่งงานเป็นเรื่องยากยี่สิบนาทีต่อไป ไห่ถงก็ลงจากรถหน้าประตูสํานักงานเขต"ไห่ถง"ทันทีที่ลงจากรถ ไห่ถงก็ได้ยินเสียงตะโก
"หากตัดสินใจแล้ว ฉันก็จะไม่เปลี่ยนใจค่ะ"ไห่ถงคิดไตร่ตรองอยู่สองสามวันก่อนตัดสินใจ และตอนนี้เธอตัดสินใจดีแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่คืนคำเมื่อจ้านหยินได้ยินเธอพูดแบบนั้น เขาจึงไม่ได้พูดอะไรออกไปเพื่อให้เธอเปลี่ยนใจ แต่หยิบเอกสารของตัวเองออกมา แล้วมอบแก่เจ้าหน้าที่ไห่ถงก็หยิบเอกสารของตัวเองออกมาเช่นกันพวกเขาจดทะเบียนสมรสเสร็จอย่างรวดเร็ว ทั้งกระบวนการใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 นาทีเมื่อไห่ถงรับทะเบียนสมรสมาจากเจ้าหน้าที่ จ้านหยินล้วงกุญแจที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้ไห่ถงพร้อมกับพูดว่า "บ้านที่ผมซื้อไว้อยู่ที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้น ได้ยินคุณยายบอกว่าคุณเปิดร้านขายหนังสืออยู่ที่ประตูหน้าโรงเรียนมัธยมกวนเฉิง บ้านของผมไม่ไกลจากร้านขายหนังสือของคุณ ถ้านั่งรถเมล์ก็ใช้เวลาเพียงสิบกว่านาทีเท่านั้น""คุณมีใบขับขี่รถยนต์ไหมครับ? ถ้ามีใบขับขี่ผมสามารถจ่ายเงินดาวน์รถยนต์ให้ได้ครับ แต่คุณต้องผ่อนชำระงวดรถยนต์ทุกเดือน เมื่อมีรถยนต์แล้วคุณก็จะสะดวกในการเดินทางไปทำงานแล้วก็กลับบ้าน"“งานของผมยุ่งมาก ผมออกจากบ้านเช้าตรู่กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึก บางครั้งก็ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด
"คุณยายคะ หนูไม่เป็นไรแน่นอนค่ะ"ไห่ถงตอบกลับแบบปัดๆถึงแม้ว่าคุณยายจ้านจะดูแลเธอดี แต่ทว่าจ้านหยินเป็นหลานแท้ๆ เธอเป็นเพียงแค่หลานสะใภ้ หากเราทั้งคู่มีปัญหาขัดแย้งกันจริงๆ ครอบครัวจ้านจะเข้าข้างเธอหรือไม่?ไม่ใช่ว่าไห่ถงไม่เชื่อแต่อาจเหมือนกับพ่อแม่สามีของพี่สาวเธอก่อนแต่งงานพ่อแม่สามีดูแลพี่สาวดีมาก ดีมากจนทำให้ลูกสาวแท้ๆ ของพวกเขาอิจฉาริษยาหลังจากแต่งงานพวกเขากลับกลายเป็นคนละคน ทุกครั้งที่พี่สาวกับสามีมีปัญหาขัดแข้งกัน แม่สามีจะตั้งใจกล่าวหาว่าเป็นเพราะพี่สาวทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่ดีสุดท้ายแล้วลูกชายยังไงก็คือลูกในไส้ของพวกเขา แต่ลูกสะใภ้ก็ยังเป็นคนนอกวันยันค่ำ"หลานทำงานไปก่อนนะ ยายไม่รบกวนล่ะ เดี๋ยวตอนเย็นยายจะเรียกอาหยินมารับหลานมาบ้านมากินข้าวเย็นด้วยกัน""คุณยายคะ หนูปิดร้านดึก น่าจะไม่สะดวกไปทานข้าวเย็นด้วยค่ะ แต่ถ้าเลื่อนเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์นี้แทนได้ไหมคะ?"เพราะว่าโรงเรียนจะหยุดสุดสัปดาห์ ร้านหนังสือของพวกเขาต้องพึ่งพาโรงเรียนในการทำรายได้ เมื่อโรงเรียนหยุด ธุรกิจของพวกเขาก็จะซบเซา แล้วบางครั้งอาจจะไม่เปิดร้านเลย เธอจึงมีเวลาว่าง"ได้จ้ะ"คุณยายจ้านพูดอย่างเห็น
"พี่คะ แบบนั้นไม่ได้นะ นั้นเป็นทรัพทย์สินของเขาก่อนแต่งงาน ฉันไม่ได้ออกเงินช่วยซื้อสักบาท แล้วจะให้เขาเพิ่มในใบครอบครองทรัพย์สินร่วมกันอีกได้อย่างไร เรื่องนี้เราจะไม่พูดกันอีกนะคะ"เมื่อได้รับใบทะเบียนสมรสมา จ้านหยินก็มอบกุญแจบ้านให้ ทำให้เธอสามารถย้ายเข้าบ้านนั้นได้ทันที ปัญหาเรื่องบ้านก็ได้รับการแก้ไขเรียบร้อย แค่นี้ก็ดีมากแล้วเธอจะไม่ขอให้จ้านหยินเพิ่มชื่อเธอในใบครอบครองทรัพย์สินร่วมกัน ถ้าเขาต้องการเพิ่มชื่อของเธอในใบครอบครองทรัพย์สินเอง เธอก็จะไม่ปฏิเสธในฐานะสามีภรรยาที่ตัดสินใจว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตไห่หลิงแค่พูดแบบไปนั้น เพราะรู้ว่าน้องสาวพึ่งพาตนเองก่อนและไม่โลภมาก เธอจึงหยุดกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้หลังจากที่ถูกพี่สาวสอบถามทุกเรื่องแล้ว ไห่ถงจึงสามารถย้ายออกจากบ้านพี่สาวได้สำเร็จพี่สาวต้องการไปส่งเธอที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้น แต่ทันใดนั้นหลานชายโจวหยางตื่นขึ้นพอดี เจ้าตัวเล็กตื่นขึ้นมาก็ร้องไห้และมองหาแม่ของเขา"พี่คะ พี่ไปดูแลหยางหยางก่อน สัมภาระของฉันไม่เยอะ ฉันไปคนเดียวได้"ไห่หลิงต้องป้อนข้าวลูกชาย เมื่อป้อนข้าวเสร็จแล้วก็ต้องเตรียมอาหารกลางวันต่อ เพราะสามีตอนเที่ยง