ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านของตระกูลไห่หรือหมู่บ้านใกล้เคียง คนหนุ่มสาวต่างก็ออกมาทำงานนอกบ้าน ในขณะที่คนที่อยู่ในหมู่บ้านมีแต่คนแก่ และไม่สามารถทำการเกษตรได้ และทุ่งนาก็กลายเป็นที่รกร้าง หากมีคนต้องการเช่าที่ดิน จึงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ปฏิเสธไห่ถงกับเซินเสี่ยวจวินได้ยินแบบนี้ ก็มีความสุขซางเสี่ยวเฟยพูดเรื่องความคืบหน้าของโครงการลงทุนเรียบร้อยแล้ว สายตาก็จับจ้องไปที่ไห่ถง หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอจึงพูดกับไห่ถงว่า "หลังจากพูดข่าวดีแล้ว งั้นมาพูดถึงข่าวร้ายกันบ้าง ถงถง ฉันจะให้คนไปคุยเรื่องทำสัญญาที่ดิน และช่วยสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของญาตินิสัยแย่ในบ้านเกิดของเธอในช่วงนี้ด้วย""เรื่องที่พวกเขาทำไม่ได้ทำให้ผู้คนโกรธหรอก เสี่ยวเฟยพูดมาเถอะ ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรมาบ้างในช่วงนี้ ฉันก็รับได้ อยากมากก็แค่พวกเขาเอาหินพวกนั้นไปขาย""วัสดุสร้างบ้านที่เธอสั่งให้รถไปส่งหลายคันนั้น ยังคงวางเรียงไว้อย่างเรียบร้อย และไม่ได้เคลื่อนย้ายหรือถูกพวกขายไป"ไห่ถงพูดว่า "ฉันขู่ไห่จือชินเอาไว้ครั้งหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง"ไห่จือชินไม่ใช่หลานคนโปรดของปู่กับย่าของเขา แต่เขาเป็นหลานคนเล็กสุดท้อง
“ไม่ว่าพวกเขาจะใช้วิธีการไหน เป็นเรื่องที่พวกเราสองพี่น้องก็ตัดสินใจแล้วว่าจะฟ้องศาล พวกเราจะไม่ยอมเสียที่ดินให้กับคนอื่น ถ้าไม่ใช่ขอพวกเรา พวกเราก็จะไม่แย่งมาแม้แต่นิดเดียว”ไห่ถงพูดอย่างแน่วแน่เธอไม่ใช่คนโหดร้าย แต่เธอสามารถโหดร้ายได้ดั่งเหล็กกล้า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับญาตินิสัยแย่ที่บ้านเกิดอาการบาดเจ็บที่เธอได้รับในวัยเด็ก ทำให้เธอต้องใช้เวลารักษาไปตลอดชีวิต"แน่นอน ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ตาม พวกเราจะทำตามกระบวนการที่ถูกต้อง และจะไม่ยอมให้พวกเขาโกง และพวกเราก็ไม่โกงพวกเขาด้วย"ซางเสี่ยวเฟยพูดว่า "ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอคนพวกนั้นไร้ยางอายเท่าพวกนี้มาก่อน ว่าแต่ถงถง พ่อเธอเป็นลูกแท้ๆ ของพวกเขาจริงหรือ?""ฉันคิดว่าเป็นลูกแท้ๆ หากไม่ใช่ลูกแท้ๆ พ่อของฉันจะหน้าตาเหมือนคนแก่นั่นไหม? พวกเขาลำเอียง... พ่อแม่บางคนก็เป็นแบบนั้น รักแต่ลูกคนโตกับคนเล็ก แต่ละเลยลูกคนกลาง""ตอนที่ฟ้องศาล ถ้าพวกเขาบอกว่าพ่อของฉันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพวกเขา ฉันจะขอตรวจ DNA กับพวกเขา เพื่อพิสูจน์ดูว่า มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือไม่ เมื่อผลตรวจออแล้ว จะได้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย""หากพวกเขาไม่เต็มใจที่จะทำการทดสอบค
ไห่ถง “ใช่ๆ ฉันมีความสุขมาก ฉันเป็นคนที่ยืมความสุขมาใช้ และฉันก็มีความสุขมาก”เพื่อนของเธอถูก จ้านหยินซื้อตัวไปแล้ว และพูดแต่เรื่องดีดีให้เขาแทนเพราะว่าจ้านหยินดีกับเธอมาก"ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะให้ของขวัญอะไรคืนเขาดี"สีใบหน้าของไห่ถงต็มไปด้วยความเศร้าเพื่อนทั้งสองคนคิดว่า เธอกำลังแสดงความรักและทำให้พวกเธอเหม็นความรักเซินเสี่ยวจวินไม่ได้พูดอะไร ซูหนานก็ดีกับเธอมากเช่นกัน ส่วนซางเสี่ยวเฟยยังเป็นโสด และเธอก็อิจฉามากๆ"จ้านหยินไม่ได้ขาดสิ่งใดๆ เลย เขาเคยขาดภรรยา หากเธอแต่งงานกับเขา เขาก็จะไม่ขาดภรรยาอีกต่อไป ตอนนี้เขาขาดเพียงลูกชายกับหญิงสักคู่ เธอควรรีบมีลูกกับเขานะ คลอดลูกแฝดชายและหญิงก็ดีเลย"ซางเสี่ยวเฟยนึกถึงเด็กน้อยน่ารักอย่างหยางหยาง และพูดว่า "ถ้าน่ารักและฉลาดเหมือนหยางหยาง ก็คลอดหลายๆ คนก็ดี เพราะจ้านหยินก็เลี้ยงไหว""ถงถง ยังไม่มีวีแววเลยเหรอ? ถ้ามีข่าวดีก็ต้องรีบบอกฉันเลยนะ เดี๋ยวฉันจะไปเอากำไลทองไปรับขวัญหลาน"เซินเสี่ยวจวินยิ้มให้เธอ "ถ้าถงถงมีข่าวดี แน่นอนว่า คนที่ต้องบอกเป็นคนแรกต้องเป็นนายน้อยจ้าน เธออย่าไปแข่งกับนายน้อยจ้าน และระวังอย่าให้เขาอิจฉาเธอ ไม่งั้นเ
ไห่ถงช็อคแล้วเธอจะทำอะไรได้บ้าง คลอดลูกลิงให้จ้านหยิน โอ้ ถ้าให้กำเนิด ลูก ก็จะกลายเป็นเศรษฐีนีเซินเสี่ยวจวินก็ช็อค พวกเศรษฐีเป็นแบบนี้เองให้กำเนิดลูกก็ได้รับเงินรางวัลมากมาย แค่เงินรางวัลคุณยายจ้าน และยังไม่รวมเงินรางวัลจากคนอื่นอีก"ถงถง เธอคลอดลูกมาหลายๆ คนก็จะกลายเป็นเศรษฐีนีแล้ว"เซินเสี่ยวจวินพูดพร้อมยิ้มซางเสี่ยวเฟยจับมือของเซินเสี่ยวจวิน จากนั้นลูบกำไลหยกที่คุณนายซูมอบให้เธอซ้ำแล้วซ้ำอีก จากนั้นพูดว่า "เสี่ยวจวิน เธอไม่ต้องอิจฉาถงถงหรอก แม่สามีเธอยังให้ของมรดกตกทอดในตระกูลมากับเธอมา ฉันคิดว่า ตอนแรกฉันคิดว่า มองผิดไป แต่หลังจากสังเกตดูมานาน และได้สัมผัสมัน ฉันแน่ใจว่าสิ่งนี้เป็นของมรดกตกทอดในตระกูลของประธานซู"เซินเสี่ยวจวิน “.....”"นี่เป็นของมรดกตกทอดในตระกูลของซูหนานเธอรู้ได้อย่างไร?"เซินเสี่ยวจวินคิดไม่ถึงว่า คุณนายซูจะให้เครื่องประดับตกทอดในตระกูล ในการเจอกันครั้งแรกแค่ครั้งแรกเธอก็ผ่านแล้ว?"คุณแม่พาฉันไป พูดคุยคุณนายของตระกูลซูมาหลายคนแล้ว ซึ่งทุกครั้งก็เห็นคุณนายซูสวมกำไลหยกวงนี้ และสะใภ้ใหญ่ของตระกูลซูก็มีกำไลวงนี้ด้วย กำไลที่สะใภ้ใหญ่ของตระกูลซูสวมใส่
ไม่คิดว่านายน้อยจ้านกับคุณจ้านจะเป็นคนเดียวกัน"ถงถง เรื่องนั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว ตอนที่จ้านหยินเรียกฉันว่าพี่ ฉันไม่เหลือภาพเดิมของเขาอีกต่อไป มีหลายอย่างที่เขาทำเพื่อเธอได้ และเขาไม่เคยทำอะไรให้ฉันเลย เขาไม่เคยอยากคุยกับฉันด้วยซ้ำ"ซางเสี่ยวเฟยปล่อยวางความรู้สึกที่เธอมีต่อจ้านหยิน ไม่ใช่เพราะไห่ถงเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเธอเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนของการมีความรู้สึกและไม่มีความรู้สึก"พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว เรื่องราวของเพื่อนรักฉันค่อนข้างจะคล้ายกับของเธอ เพียงแต่ว่า เธอรับบทเป็นจ้านหยิน เธอปกปิดตัวตนและตกหลุมรักแฟนหนุ่มของเธอ แต่สุดท้ายเขากลับทอดทิ้งเธอ และไปกอดขาของคนอื่นที่ใหญ่กว่า พร้อมบอกว่าสามารถต่อสู้ได้ อย่างน้อยสามสิบปี"ไห่ถง: "… เธอควรจะรู้สึกขอบคุณ ที่ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของอีกฝ่ายก่อนจะแต่งงาน""ฉันก็แนะนำเธอไปแบบนั้น"ซางเสี่ยวเฟยหยิบกุญแจรถขึ้นมา แล้วพูดว่า "ถงถง ฉันไปก่อนนะ คุณมีเวลาร่างสัญญาไหม ถ้าไม่มีเวลา ฉันจะขอให้เลขาของพี่ชายฉันช่วยร่างให้ เพราะฉันใจร้อนกับเรื่องพวกนี้มาก ข้อเสนอครั้งที่แล้วฉันใช้เวลาไปทั้งคืนเลย""ฉันทำเอง"ไห่ถงอาสารับหน้าที่นี้ และไ
ไห่ถงพูดว่า "ฉันสบายดี และฉันก็ยังสามารถมานั่งอยู่ที่นี่ได้ แต่รถพัง ดังนั้นวันนี้ จ้านหยินเลยจึงเป็นคนส่งฉันมาทำงาน"ไห่หลิงถามด้วยความกังวล "ใคร? คนพวกนั้นอีกแล้วเหรอ?"เธอคิดว่าเป็นญาตินิสัยแย่จากบ้านเกิด"ไม่ใช่ เป็นตระกูลหนิง เป็นน้องสาวของคุณหนูใหญ่หนิงที่ฉันเคยช่วยไว้ครั้งที่แล้ว พวกเรามีปากเสียงกันสองครั้ง เธอจ้างอันธพาลมาจัดการกับฉัน""บ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแปเหรอ!"ไห่หลิงสาปแช่ง"แจ้งตำรวจยัง?""อืม"ไห่ถงมองหลานชายในอ้อมแขนของพี่สาว แล้วพูดว่า "พี่สาว ฉันไม่เป็นไร จ้านหยินส่งบอดี้การ์ดสองคนให้ติดตามฉัน และปกป้องความปลอดภัย ที่ฉันบอกพี่เรื่องนี้ เพราะฉันกลัวว่า พี่กับหยางหยางอาจจะโดนลูกหลงไปด้วย""พี่ ย้ายมาอยู่กับพวกเราเถอะ แบบนี้จะได้ดูแลกันได้ และปลอดภัยขึ้นด้วย"ไห่หลิงพูดว่า "บ้านที่ฉันเช่าอยู่ก็ปลอดภัยมาก เธอได้แจ้งตำรวจแล้วเพื่อดำเนินการ พวกเขาได้เรียนรู้บทเรียน และไม่กล้าทำอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังอีก เพราะนี่เป็นบ้านเมืองที่มีกฎหมาย"หลังจากคิดสักครู่ ไห่หลิงก็พูดต่อ "ร้านฉันมีห้องเก็บของเล็กๆ ฉันวางแผนจะซื้อเตียง แล้ววางไว้ที่นั่น จากนั้นก็จะยกเลิกสัญญาเช่
ตอนนี้สามทุ่มกว่างานเลี้ยงจะเลิกยังเหลืออีกต้องสองชั่วโมงนายน้อยจ้านมาเพื่อรับภรรยา และพาเธอกลับบ้านประธานเจียงยิ้มและพูดว่า "เป็นเรื่องยากที่นายน้อยจ้านจะมาที่นี่ นี่เป็นงานเลี้ยงวันเกิดอายุครบ 80 ปีของคุณแม่ฉัน นายน้อยจ้านไว้หน้าและเข้ามานั่งหน่อย?"จ้านหยินไม่ตอบประธานเจียง แต่กลับตะโกนด้วยเสียงทุ้มลึกว่า "อาชี"อาฉีมอบของขวัญวันเกิดที่จ้านหยินจัดเตรียมเอาไว้จ้านหยินพูดอย่างใจเย็น "ขอโทษที่รบกวนคุณ นี่เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่ฉันเตรียมไว้ให้คุณท่าน ฉันขอให้ผู้อาวุโสมีความสุขเหมือนทะเลตะวันออก และมีอายุยืนยาวเหมือนภูเขาทางใต้"เขาไม่ได้เข้าไป แต่ก็เอาของขวัญวันเกิดมาให้คุณยายเจียงอาชียื่นของขวัญให้กับประธานเจียง และได้รับของขวัญ จากนั้นขอบคุณจ้านหยินซ้ำแล้วซ้ำเล่าจ้านหยินยืนอยู่ที่นั่น ด้วยสง่างาม ช่อดอกไม้นั้นเปล่งประกายเป็นพิเศษภายใต้แสงไฟยามค่ำคืนเมื่อเห็นว่าเขาไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าไปในบ้าน ประธานเจียงจึงไม่สามารถบังคับได้แ ละต้องขอให้ใครสักคนช่วยตามไห่ถงมาไม่จำเป็นต้องให้ประธานเจียงสั่งคนไปตาม การมาถึงของจ้านหยินทำให้เกิดความฮือฮาอย่างมาก ไห่ถงซึ่งกำลังเพลิ
คุณนายซางยืนอยู่หน้าคฤหาสน์ตระกูลเจียง มองดูรถยนต์โรลส์-รอยซ์คันคุ้นเคย ขับออกไปพร้อมกับเหล่าคุณนายอีกหลายคน"คุณนายซาง นายน้อยจ้านดีกับหลานสาวของคุณมาก เขามารับระหว่างงานเลี้ยง เพื่อกลับบ้าน"คุณนายซางยิ้ม "จ้านหยินดีต่อถงถงมาก ดีขนาดที่แม้แต่คนแก่อย่างพวกเรายังอิจฉาเธอเลย"ผู้หญิงอีกคนที่อยู่ข้างๆ เธอถามอย่างลังเลว่า "เมื่อไหร่นายน้อยจ้านกับหลานสาวของคุณจะจัดงานแต่งงาน? พวกเราทุกคนกำลังรอดื่มฉลองงานแต่งงานของพวกเขาอยู่"คุณนายซางยิ้มและพูดว่า "เมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันกับสามี รวมทั้งหลานสาวของฉันไปที่คฤหาสน์โหย่วโหย่ว เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงาน พวกเราเลือกฤกษ์แต่งงานหลังฤดูใบไม้ร่วง ทำให้ทุกคนต้องรออีกครึ่งปี ไม่ต้องกังวลไป พวกเธอจะไม่พลาดดื่มไวน์แต่งงานอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลาก็เตรียมอั่งเปาซองหนาๆ เอาไว้"ทุกคนหัวเราะแล้วพูดว่า “แน่นอน”หากตระกูลจ้านยินดีที่จะเชิญพวกเขา ก็เป็นการแสดงว่ายังให้เกียรติกันอยู่ และไม่มีใครจะพลาดโอกาสในการผูกมิตรกับตระกูลจ้านจริงๆ แล้ว หลายคนก็อยากถามว่า ไห่ถงกับถังจวินเย่เข้ากันได้ดีไหม เพราะไห่ถงมักจะไปร่วมงานเลี้ยงกับคุณนายซางเสมอ เป็นเพ