โจวหงหลินนั่งลงบนโซฟา เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า "ประธานลู่ดูเหมือนกำลังตามจีบไห่หลิงอยู่""ไม่ใช่ดูเหมือนว่า เขาตามจีบไห่หลิงเหรอ ถ้าเขาไม่สนใจไห่หลิง แล้วทำไมเขาถึงไปที่ร้านของไห่หลิง?"แม่โจวเห็นลูกชายพูดถึงเรื่องนี้ เธอจึงใช้โอกาสนี้โน้มน้าว "หงหลิน ไห่หลิงก็เปิดร้านอาหารเช้าแล้ว และดูจากทักษะการทำอาหารของเธอธุรกิจจะต้องไปได้ดีแน่นอน""เธอเป็นผู้หญิงที่สามารถใช้ชีวิตได้ดี ตอนนี้เธอผอมลงและไม่น่าเกลียดเหมือนแต่ก่อน ดูสิ แม้แต่ประธานใหญ่อย่าง ประธานลู่สนใจเธอเลย นั่แสดงให้เห็นว่า เธอก็ใช้ได้เหมือนกันนะ"“เหตุผลหลักก็คือครอบครัวฝั่งแม่เธอยอดเยี่ยมมาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ ไห่ถงเป็นนายหญิงตระกูลจ้าน และป้าของเธอก็ยังเป็นเศรษฐี แม่ไปได้ยินมาทั่ว เลยรู้ว่าคุณนายซางมีชื่อเสียงอย่างมากในธุรกิจ”"ตราบใดที่ลูกแต่งงานใหม่กับไห่หลิง ไม่ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลจ้านหรือซาง ก็ถือเป็นการได้ติดปีก ลูกยังสามารถเริ่มต้นทำบริษัทของตัวเอง และเป็นเจ้านายของตัวเองได้ด้วย มันดีมากเลยนะ"แม่โจวเพ้อฝัน"ยันเย่คนนั้น เป็นแค่คนรักก็พอแล้ว อายุก็ยังน้อย หน้าตาก็สวย แถมหุ่นก็ดี แต่เธอก็ยังไม่ส
เขาโดยพี่สาวสูบเงินมานานหลายปี โดยที่ไม่รู้ตัวแม่โจว "..."เสียงเปิดประตูดังขึ้นโจวหงหลินไม่ได้คุยกับแม่ต่อ เขาเดาว่าเย่เจียนีกลับมาแล้วหลังจากประตูเปิดออก เย่เจียนีถือถุงอาหารมาสองถุง"ที่รักกลับมาแล้วเหรอ พอดีเลย มากินข้าวกัน ฉันซื้ออาหารมาสองชุด"เย่เจียนีเดินมาพร้อมกับอาหารชุด นั่งลงข้างๆ โจวหงหลิน เปิดถุง หยิบออกมาแล้วส่งให้โจวหงหลิน หลังจากนั้น เธอวางส่วนของตัวเองลงบนโต๊ะหน้าโซฟา และเปิดฝากล่องอาหา เพื่อเริ่มกินโจวหงหลินมองไปที่แม่ของเขา แล้วมองไปที่เย่เจียนีและถามว่า "ที่รัก คุณซื้ออาหารมาสองชุดเหรอ? แล้วพ่อกับแม่ล่ะ?"เย่เจียนีพูดขณะกิน "ฉันไม่ได้ซื้อมาให้ พวกเขาอยากกินอะไร ก็สามารถทำเองได้ นอกจากนี้ยังมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสองห่อที่บ้าน เพียงพอสำหรับพวกเขาที่จะได้แบ่งคนละหนึ่งห่อ มีไข่เหลือสามฟอง ก็พอสำหรับพวกคุณสามคนที่จะได้คนละหนึ่งฟอง"พ่อกับแม่สามีหุงข้าว แต่ใส่ข้าวไม่มาก เวลาแม่สามีตักข้าว ก็จะตักข้าวทัพฟีใหญ่ให้พ่อสามีกับโจวหงหลิน ส่วนของแม่สามีเช่นกัน ตั้งแต่ไหนแต่ไหนแม่สามีไม่เคยตักข้าวให้เธอตอนที่เธอไปตักข้าวในหม้อ ก็เหลือข้าวแค่ช้อนเดียวแม่สามีจงใจทำเ
วันรุ่งขึ้น เมื่อฟ้าสว่าง ลู่ตงหมิงก็รีบตื่น เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำและออกไปข้างนอก โดยไม่ได้กินอาหารเช้าด้วยซ้ำเพราะจนขึ้นสมองว่า คุณแม่จะให้เขาดูแลหยูหยินหยิน และสั่งให้เขาพาหยูหยินหยินไปเดินเล่นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับแม่ที่คอยเร่งเร้าให้แต่งงานอยู่เสมอ จึงต้องใช้มี 36 กลยุทธ์ตามตำราจีน และถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดลู่ตงหมิงเข้าใจแม่ของเขาจริงๆ เพราะเขาอายุ 36 ปี ไม่ใช่ 26 ปี หลานชายคนโตของเขาก็กำลังจะมีภรรยา เขาเองไม่มีแฟน และจะให้แม่เขาไม่รีบร้อนเหรอ?ออกไปที่หมิงหยวนฮวา การ์เด้นตั้งแต่เช้าตรู่ และโทรหาจ้านหยินที่ทางเข้าชุมชน แต่กลับ——จ้านหยินนอนกอดภรรยาบนเตียง และยังตื่นนอน เมื่อได้รับโทรศัพท์จากเพื่อน สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ และเขารับสายของลู่ตงหมิง พร้อมกับพูดว่า "ไสหัวไปซะ!"ลู่ตงหมิง: "... ต้องโกรธมากขนาดนั้นเลยเหรอ? มิตรภาพของเรายาวนานต้องหลายปี แค่มากินข่าวเช้าบ้านนายไม่ได้เหรอ?""พี่ชาย ตอนนี้กี่โมงกี่ยาม? พี่เล่นวิ่งมากินข้าวเช้าที่นี่ตั้งแต่ไก่โห่ บ้านนายข้าวหมดเหรอ? จึงต้องวิ่งแจ้นมากินข้าวเช้าที่นี่?"จ้านหยินตอบกลับลู่ตงหมิงด้วยความโกรธวันนี้เขาไม่ได้วาแ
"ประธานลู่มาถึงแล้ว รีบลุกขึ้นแล้วออกไปรับประธานลู่เข้ามา"ไห่ถงพูดขณะที่เธอพลิกตัวลงจากเตียงอีกครั้ง และจ้านหยินต้องการที่จะกอดเธอเอาไว้บนเตียง แต่เธอหลบหลีกได้อย่างชาญฉลาดเขาดูเธอเดินไปที่ห้องลองเสื้อผ้า เพื่อหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา และพูดว่า "ไม่ใช่ฉันที่เป็นคน ขอให้ลู่ตงหมิงมารอหรอกนะ ถ้าเขาต้องการมาหาเอง ก็รอไปเถอะ เมื่อห่าวหยู่มาแล้ว ก็สั่งให้อาชีอกไปพาเข้ามา อาฉีจะได้ไม่ต้องออกไปสองรอบ"ไห่ถงนำเสื้อผ้าออกมาเปลี่ยน และยังช่วยจ้านหยินชุดสูทออกมาให้ด้วย"วันนี้วันหยุด ไม่ต้องใส่สูท"ไห่ถงหันหลังกลับมาพร้อมชุดสูท และช่วยเขาเปลี่ยนชุดใหม่อย่างรวดเร็วเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนจ้านหยินก็เดินถือเสื้อผ้ามาที่ด้านหลังของภรรยา และว่า "ที่รัก พววกเราก็แก่กันแล้ว และได้แต่งงานกันแล้ว ไม่มีอะไรน่าอายที่จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกันหรอกนะ"ไห่ถงเบื่อหน่ายที่จะสนใจเขาปากของผู้ชายคนนี้เริ่มไหลลื่นขึ้นเรื่อยๆ และเขาเริ่มเล่ห์เหลี่ยมมากขึ้นเรื่อยๆเรื่องบางอย่างเกิดได้ตามธรรมชาติของผู้ชาย และสามารถเรียนรู้ได้ตามสัญชาตญาณเมื่อไห่ถงออกมาจากห้องน้ำ จ้านหยินยังคงนั่งอยู่บน
จ้านหยินตอบอย่างใจเย็น “คุณยายไม่ว่า ไม่ชอบฝีมือทำอาหารของฉันเหรอ?”"ใช่ ไม่ชอบ แต่ฉันเป็นยายของแก ไม่ว่าอาหารที่แกทำจะน่ากินแค่ไหน ฉันก็ยังคงทำหน้าชื่นชม เพื่อทำให้แกมั่นใจ"จ้านหยิน "......""ตื๊ดๆ ..."โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาจึงใช้โอกาสนี้รับสาย และไม่โต้เถียงกับคุณยายอีก เพราะเขาไม่เคยโต้เถียงกับคุณยายชนะมาก่อน"พี่ใหญ่ฉันอยู่ทางเข้าชุมชน พี่ไม่ได้ให้บัตรเข้ากับฉัน ดังนั้นฉันจึงเข้าไปไม่ได้ นอกจากนี้ลู่ตงหมิงก็อยู่ที่นี่ด้วย เขาบอกว่าเขารอคุณมาครึ่งชั่วโมงแล้ว"คนที่โทรมาเป็นจ้านห่าวหยูเมื่อคืนนี้คุณยายแจ้งให้พวกเขาทราบในกลุ่มครอบครัวว่า ใครก็ตามที่ออยู่ในกวนเฉิง ต้องกลับไปที่คฤหาสน์วันนี้เพราะญาติของพี่สะใภ้มาเยี่ยมเป็นครั้งแรก พวกเขาจะกลับบ้านไปต้อนรับเธออย่างแน่นอน ซึ่งแสดงถึงความเคารพและให้ความสำคัญต่อเธอซึ่งพี่สะใภ้จะเป็นหัวหน้าครอบครัวในอนาคต และอำนาจของเธอก็จะค่อยๆ มากขึ้น"นายมาเร็วมาก"จ้านหยินพูดอย่างใจเย็น “ฉันจะบอกให้อาชีออกไปพาพวกนายเข้ามา”มันยังเช้ามาก ทั้งอาชีและป้าเหลียงก็ยังไม่ได้ไปช่วยทำอาหารเช้า"ตกลง"จ้านห่าวหยูที่ถูกพี่ชายพูดใส่รั่วๆ มา ก็ไ
ไห่ถงทักทายด้วยรอยยิ้ม และปิดประตูหลังจากที่ลู่ตงหมิงเข้ามาในบ้านแล้วเมื่อหันกลับไป ก็เห็นว่าคุณยายจ้านนั้นได้เชิญทุกคนมาร่วมรับประทานอาหารเช้าแล้วจ้านหยินหลงรักภรรยามาก และรู้ว่าไห่ทงชอบกินอะไร เขาจึงขอให้จ้านห่าวหยูเอาอาหารทั้งหมดที่ไห่ถงชอบกินให้เขา ซึ่งมีหลากหลายชนิดมาก แม้ว่าจะไม่คิดเพื่อในส่วนของลู่ตงหมิงด้วย แต่ก็ปริมาณเพียงพอที่หลายคนกินพอหลังจากกินอิ่มแล้ว คุณยายจ้านก็สั่งลู่ตงหมิงว่า "ตงหมิง ไปที่บ้านของไห่หลิงตอนนี้ เพื่อรับเธอกับลูก จากนั้นก็ไปที่บ้านของฉันด้วยกัน"ดวงตาของลู่ตงหมิงกะพริบ และไม่นานเขาก็ทำหน้า ทำไมต้องเป็นเขาไปรับด้วย พร้อมกับถามว่า "คุณยายจ้าน คุณเชิญคนมากินปิ้งย่างด้วยกันกี่คนครับ?""ไม่รู้ว่าจะมากันกี่คน? แต่อย่างไรก็ตาม ฉันได้แจ้งในกลุ่มครอบครัวแล้วว่า ใครก็ตามที่อยู่ในกวนเฉิ จะต้องกลับไปคฤหาสน์วันนี้ลู่ตงหมิง:“......”ฟังนะ ดูเหมือนว่าตระกูลจ้า นจะมีการประชุมครอบครัวแล้วเขาแค่อยากจะเชิญเพื่อนสามถึงห้าคนกินปิ้งย่าง ดื่มไวน์ และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของคฤหาสน์ในฤดูใบไม้ผลิ แต่กลับกลายมาเป็นงานรวมตัวของตระกูลจ้านได้อย่างไร?"ไปกันเถอะ ตอนนี้ไม
คฤหาสน์โหย่วโหย่วคือเรือนหอที่คุณตาของจ้านหยิน สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อภรรยาของเขา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่และทิวทัศน์ของคฤหาสน์ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นอย่างประณีต โดยตกแต่งตามที่คุณยายจ้านชอบคุณยายจ้านชื่นชอบสไตล์โบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ จึงสร้างคฤหาสน์โหย่วโหย่วขึ้นมาเหมือนสวนประตูคฤหาสน์าเปิดอยู่เหล่านายน้อยตระกูลจ้าน มักจะอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ของตัวเอง และกลับมาที่คฤหาสน์ เพื่ออยู่กับผู้อาวุโสเพียงไม่กี่วันในช่วงวันหยุดและเป็นเรื่องยาก ที่จะเห็นแม้แต่เงาของพวกเขาวันนี้ นายน้อยเหล่านั้นกลับมาเร็วมาก และบางคนยังไปทานอาหารเช้ากับพ่อแม่ด้วยไม่ว่าพ่อแม่จะนัดใครเมื่อวาน หรือว่าวันนี้จะวางแผนทำอะไร ก็ต้องปฏิเสธและรอคุณยายจ้านกลับมาอย่างอดทนไห่ถงตามจ้านหยินกลับไปที่คฤหาสน์โหย่วโหย่วเป็นครั้งแรก ระหว่างทาง เธอฟังคุณยายจ้านเล่าเกี่ยวกับทิวทัศน์ของคฤหาสน์ ทำให้เธอเริ่มคาดหวังทิวทัศน์นั้นแล้ว"คุณยาย รอฉันกับจ้านหยินแก่ตัวลง พวกเราจะกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์ และจะไม่รู้สึกเบื่อเมื่อแก่ตัวลง"จากคำบอกเล่าของคุณยายจ้านนั้น คฤหาสน์โหย่วโหย่วนั้นใหญ่โตและสวยงาม ที่เชิงเขานั้นมีลำธารใส
คุณยายจ้านตีหลังมือของไห่ถง ขณะที่เธอพูด"หลานกับอาจ้านยังไม่ได้จัดงานแต่งงานกันเลย รอจัดงานแต่งเสร็จแล้ว ค่อยมีลูกก็ยังไม่สายเกินไป ในช่วงนี้พวกหลานควรใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีความสุขไปก่อน"ตราบใดที่ทั้งคู่ไม่มีการคุมกำเนิด พวกเขาก็จะต้องมีลูกเร็ว ๆ อย่างแน่นอนไห่ถงตอบกลับอืม เธอไม่รีบร้อน และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ"อาจ้าน"คุณยายจ้านถามจ้านหยิน ที่กำลังขับรถอยู่ทันทีว่า "อี้เฉินได้ลงมือแล้วหรือยัง?""ฉันไม่รู้ ฉันสนใจแค่ว่า เขาทำอะไรในบริษัท แต่หลังเลิกงาน ฉันไม่สนใจว่าเขาทำอะไร เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กอายุสามขวบ ดังนั้นฉันจำเป็นต้องเป็นพี่ใหญ่ ที่คอยดูแลเขา"คุณยายจ้านแทบสำลัก"คุณยาย คุณหมายถึงหนิงอวิ๋นชูใช่ไหม?"ไห่ถงถามคุณยายจ้านว่า “ฉันเคยเธอมาแล้วค่ะ”คุณยายจ้านรู้มานานแล้วว่า ไห่ถงกับหนิงอวิ๋นชูเคยเจอกันมาก่อน รวมถึงที่ไห่ถงเคยช่วยหนิงอวิ๋นชูไว้ในครั้งแรกที่งานเลี้ยงด้วยอีกด้วย เธอรู้เรื่องนี้ แต่ไห่ถงไม่ได้เอ่ยปากบอกเธอ ดังนั้นเธอจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้เป็นเพราะไห่ถงยืนหยัดช่วยเหลือหนิงอวิ๋นชูในงานเลี้ยง วันรุ่งขึ้น จึงมีคนโทรหาถังจวินเย่ เพื่อยุย