"ประธานลู่มาถึงแล้ว รีบลุกขึ้นแล้วออกไปรับประธานลู่เข้ามา"ไห่ถงพูดขณะที่เธอพลิกตัวลงจากเตียงอีกครั้ง และจ้านหยินต้องการที่จะกอดเธอเอาไว้บนเตียง แต่เธอหลบหลีกได้อย่างชาญฉลาดเขาดูเธอเดินไปที่ห้องลองเสื้อผ้า เพื่อหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา และพูดว่า "ไม่ใช่ฉันที่เป็นคน ขอให้ลู่ตงหมิงมารอหรอกนะ ถ้าเขาต้องการมาหาเอง ก็รอไปเถอะ เมื่อห่าวหยู่มาแล้ว ก็สั่งให้อาชีอกไปพาเข้ามา อาฉีจะได้ไม่ต้องออกไปสองรอบ"ไห่ถงนำเสื้อผ้าออกมาเปลี่ยน และยังช่วยจ้านหยินชุดสูทออกมาให้ด้วย"วันนี้วันหยุด ไม่ต้องใส่สูท"ไห่ถงหันหลังกลับมาพร้อมชุดสูท และช่วยเขาเปลี่ยนชุดใหม่อย่างรวดเร็วเธอเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนจ้านหยินก็เดินถือเสื้อผ้ามาที่ด้านหลังของภรรยา และว่า "ที่รัก พววกเราก็แก่กันแล้ว และได้แต่งงานกันแล้ว ไม่มีอะไรน่าอายที่จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกันหรอกนะ"ไห่ถงเบื่อหน่ายที่จะสนใจเขาปากของผู้ชายคนนี้เริ่มไหลลื่นขึ้นเรื่อยๆ และเขาเริ่มเล่ห์เหลี่ยมมากขึ้นเรื่อยๆเรื่องบางอย่างเกิดได้ตามธรรมชาติของผู้ชาย และสามารถเรียนรู้ได้ตามสัญชาตญาณเมื่อไห่ถงออกมาจากห้องน้ำ จ้านหยินยังคงนั่งอยู่บน
จ้านหยินตอบอย่างใจเย็น “คุณยายไม่ว่า ไม่ชอบฝีมือทำอาหารของฉันเหรอ?”"ใช่ ไม่ชอบ แต่ฉันเป็นยายของแก ไม่ว่าอาหารที่แกทำจะน่ากินแค่ไหน ฉันก็ยังคงทำหน้าชื่นชม เพื่อทำให้แกมั่นใจ"จ้านหยิน "......""ตื๊ดๆ ..."โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาจึงใช้โอกาสนี้รับสาย และไม่โต้เถียงกับคุณยายอีก เพราะเขาไม่เคยโต้เถียงกับคุณยายชนะมาก่อน"พี่ใหญ่ฉันอยู่ทางเข้าชุมชน พี่ไม่ได้ให้บัตรเข้ากับฉัน ดังนั้นฉันจึงเข้าไปไม่ได้ นอกจากนี้ลู่ตงหมิงก็อยู่ที่นี่ด้วย เขาบอกว่าเขารอคุณมาครึ่งชั่วโมงแล้ว"คนที่โทรมาเป็นจ้านห่าวหยูเมื่อคืนนี้คุณยายแจ้งให้พวกเขาทราบในกลุ่มครอบครัวว่า ใครก็ตามที่ออยู่ในกวนเฉิง ต้องกลับไปที่คฤหาสน์วันนี้เพราะญาติของพี่สะใภ้มาเยี่ยมเป็นครั้งแรก พวกเขาจะกลับบ้านไปต้อนรับเธออย่างแน่นอน ซึ่งแสดงถึงความเคารพและให้ความสำคัญต่อเธอซึ่งพี่สะใภ้จะเป็นหัวหน้าครอบครัวในอนาคต และอำนาจของเธอก็จะค่อยๆ มากขึ้น"นายมาเร็วมาก"จ้านหยินพูดอย่างใจเย็น “ฉันจะบอกให้อาชีออกไปพาพวกนายเข้ามา”มันยังเช้ามาก ทั้งอาชีและป้าเหลียงก็ยังไม่ได้ไปช่วยทำอาหารเช้า"ตกลง"จ้านห่าวหยูที่ถูกพี่ชายพูดใส่รั่วๆ มา ก็ไ
ไห่ถงทักทายด้วยรอยยิ้ม และปิดประตูหลังจากที่ลู่ตงหมิงเข้ามาในบ้านแล้วเมื่อหันกลับไป ก็เห็นว่าคุณยายจ้านนั้นได้เชิญทุกคนมาร่วมรับประทานอาหารเช้าแล้วจ้านหยินหลงรักภรรยามาก และรู้ว่าไห่ทงชอบกินอะไร เขาจึงขอให้จ้านห่าวหยูเอาอาหารทั้งหมดที่ไห่ถงชอบกินให้เขา ซึ่งมีหลากหลายชนิดมาก แม้ว่าจะไม่คิดเพื่อในส่วนของลู่ตงหมิงด้วย แต่ก็ปริมาณเพียงพอที่หลายคนกินพอหลังจากกินอิ่มแล้ว คุณยายจ้านก็สั่งลู่ตงหมิงว่า "ตงหมิง ไปที่บ้านของไห่หลิงตอนนี้ เพื่อรับเธอกับลูก จากนั้นก็ไปที่บ้านของฉันด้วยกัน"ดวงตาของลู่ตงหมิงกะพริบ และไม่นานเขาก็ทำหน้า ทำไมต้องเป็นเขาไปรับด้วย พร้อมกับถามว่า "คุณยายจ้าน คุณเชิญคนมากินปิ้งย่างด้วยกันกี่คนครับ?""ไม่รู้ว่าจะมากันกี่คน? แต่อย่างไรก็ตาม ฉันได้แจ้งในกลุ่มครอบครัวแล้วว่า ใครก็ตามที่อยู่ในกวนเฉิ จะต้องกลับไปคฤหาสน์วันนี้ลู่ตงหมิง:“......”ฟังนะ ดูเหมือนว่าตระกูลจ้า นจะมีการประชุมครอบครัวแล้วเขาแค่อยากจะเชิญเพื่อนสามถึงห้าคนกินปิ้งย่าง ดื่มไวน์ และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของคฤหาสน์ในฤดูใบไม้ผลิ แต่กลับกลายมาเป็นงานรวมตัวของตระกูลจ้านได้อย่างไร?"ไปกันเถอะ ตอนนี้ไม
คฤหาสน์โหย่วโหย่วคือเรือนหอที่คุณตาของจ้านหยิน สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อภรรยาของเขา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่และทิวทัศน์ของคฤหาสน์ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นอย่างประณีต โดยตกแต่งตามที่คุณยายจ้านชอบคุณยายจ้านชื่นชอบสไตล์โบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ จึงสร้างคฤหาสน์โหย่วโหย่วขึ้นมาเหมือนสวนประตูคฤหาสน์าเปิดอยู่เหล่านายน้อยตระกูลจ้าน มักจะอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ของตัวเอง และกลับมาที่คฤหาสน์ เพื่ออยู่กับผู้อาวุโสเพียงไม่กี่วันในช่วงวันหยุดและเป็นเรื่องยาก ที่จะเห็นแม้แต่เงาของพวกเขาวันนี้ นายน้อยเหล่านั้นกลับมาเร็วมาก และบางคนยังไปทานอาหารเช้ากับพ่อแม่ด้วยไม่ว่าพ่อแม่จะนัดใครเมื่อวาน หรือว่าวันนี้จะวางแผนทำอะไร ก็ต้องปฏิเสธและรอคุณยายจ้านกลับมาอย่างอดทนไห่ถงตามจ้านหยินกลับไปที่คฤหาสน์โหย่วโหย่วเป็นครั้งแรก ระหว่างทาง เธอฟังคุณยายจ้านเล่าเกี่ยวกับทิวทัศน์ของคฤหาสน์ ทำให้เธอเริ่มคาดหวังทิวทัศน์นั้นแล้ว"คุณยาย รอฉันกับจ้านหยินแก่ตัวลง พวกเราจะกลับมาอยู่ที่คฤหาสน์ และจะไม่รู้สึกเบื่อเมื่อแก่ตัวลง"จากคำบอกเล่าของคุณยายจ้านนั้น คฤหาสน์โหย่วโหย่วนั้นใหญ่โตและสวยงาม ที่เชิงเขานั้นมีลำธารใส
คุณยายจ้านตีหลังมือของไห่ถง ขณะที่เธอพูด"หลานกับอาจ้านยังไม่ได้จัดงานแต่งงานกันเลย รอจัดงานแต่งเสร็จแล้ว ค่อยมีลูกก็ยังไม่สายเกินไป ในช่วงนี้พวกหลานควรใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีความสุขไปก่อน"ตราบใดที่ทั้งคู่ไม่มีการคุมกำเนิด พวกเขาก็จะต้องมีลูกเร็ว ๆ อย่างแน่นอนไห่ถงตอบกลับอืม เธอไม่รีบร้อน และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ"อาจ้าน"คุณยายจ้านถามจ้านหยิน ที่กำลังขับรถอยู่ทันทีว่า "อี้เฉินได้ลงมือแล้วหรือยัง?""ฉันไม่รู้ ฉันสนใจแค่ว่า เขาทำอะไรในบริษัท แต่หลังเลิกงาน ฉันไม่สนใจว่าเขาทำอะไร เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กอายุสามขวบ ดังนั้นฉันจำเป็นต้องเป็นพี่ใหญ่ ที่คอยดูแลเขา"คุณยายจ้านแทบสำลัก"คุณยาย คุณหมายถึงหนิงอวิ๋นชูใช่ไหม?"ไห่ถงถามคุณยายจ้านว่า “ฉันเคยเธอมาแล้วค่ะ”คุณยายจ้านรู้มานานแล้วว่า ไห่ถงกับหนิงอวิ๋นชูเคยเจอกันมาก่อน รวมถึงที่ไห่ถงเคยช่วยหนิงอวิ๋นชูไว้ในครั้งแรกที่งานเลี้ยงด้วยอีกด้วย เธอรู้เรื่องนี้ แต่ไห่ถงไม่ได้เอ่ยปากบอกเธอ ดังนั้นเธอจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้เป็นเพราะไห่ถงยืนหยัดช่วยเหลือหนิงอวิ๋นชูในงานเลี้ยง วันรุ่งขึ้น จึงมีคนโทรหาถังจวินเย่ เพื่อยุย
คุณยายจ้านเห็นประตูคฤหาสน์เปิดออก สีหน้าของเธอก็พึงพอใจเธอหันศีรษะไปด้านหลัง และเห็นรถของลู่ตงหมิงไห่หลิงกับลูกชายอยู่ในรถของเขาด้านหลังรถของลู่ตงหมิง เป็ณรถของคุณท่านซางกับรอบครัวอีกสามคนซางหวู่เหิงต้องมาเป็นเพื่อนภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ ตอนนี้หลานจิงเองก็ตั้งครรภ์ เธออาเจียนทุกอย่างที่กินเข้าไปและนอนบนเตียงทุกวัน โดยไม่ได้ขยับตัวเลย และทำให้ไม่สะดวกที่จะออกไปข้างนอกนายน้อยสองซางไม่ค่อยอยู่บ้าน และคุณนายซางก็ไม่ได้เรียกลูกชายคนเล็กให้กลับมา แค่เธอและสามีมาก็พอแล้วจ้านหยินนำขบวนรถไปจอดรถในลานจอดรถที่เปิดโล่งลุงหยาง พ่อบ้านของคฤหาสน์ทักทายด้วยรอยยิ้มเมื่อจ้านหยินเปิดประตูรถเพื่อลงจากรถ ลุงหยางก็ช่วยคุณยายจ้านเปิดประตูและยื่นมือไปช่วยจับเธอลงจากรถ แต่คุณยายจ้านผลักมือของเขาออกไป และไม่ต้องการความช่วยเหลือจากลุงหยางนั่นจะทำให้เธอดูอ่อนแอ เพราะเธอยังอยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่เลย"คุณท่าน"ลุงหยางทักทายความเคารพ พร้อมกับรอยยิ้มคุณยายจ้านรอให้ไห่ถงเดินเข้ามาหา แล้วพูดว่า "ถงถง นี่ลุงหยาง หัวหน้าคนดูแลคฤหาสน์ เขาทำงานที่คฤหาสน์มานานกว่ายี่สิบปีแล้ว และคอยดูเหล่าน้องๆ ของจ้านหยิ
ตอนนี้ยังคงนั่งร่วมกันไม่ได้ถังจวินเย่จับมือไห่หลิงอย่างรักใคร่และยิ้ม "ไห่หลิง ครั้งหน้ามาก็ได้ต้องอะไรมานะ เสียดายเงิน"ไห่หลิงยิ้มและพูดว่า "ฉันไม่ได้ซื้ออะไรมาเลยค่ะ แค่ของเล็กๆ น้อยๆ"ถังจวินเย่มองหยางหยางที่กำลังถูกไห่ถงอุ้มไว้ และยิ้ม "หยางหยางอยากให้ฉันอุ้มไหม?"ลู่ตงหมิงซึ่งกำลังช่วยถือของอยู่ ทั้งถุงใบใหญ่และเล็ก ก็พูกขึ้นว่า “คุณป้า หยางหยางเลือกคนเก่งมาก เขาไม่ให้ผมอุ้ม”ถังจวินเย่เห็นว่าลู่ตงหมิงถือถุงใบใหญ่และเล็กอยู่ในมือทั้งสองข้าง เหมือนกับคนขนของของไห่หลิง ในความเป็นจริง ลุงหยางจะต้องออกไปต้อนรับเขาเป็นคนแรก ไม่ว่าไห่หลิงและคุณนายซางจะซื้อของมาเท่าไหร่ ลุงหยางก็จะจัดการสั่งคนมาถือเข้าไปในบ้าน และไม่จำเป็นต้องให้ลู่ตงหมิ งซึ่งเป็นแขกทำอะไรเลยลู่ตงหมิงกำลังแสดงอยู่หรือเปล่า?คนฉลาดจะไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้ ถังจวินเย่ยิ้มและพูดกับลู่ตงหมิง" ตงหมิง หยางหยางไม่อยากให้คุณอุ้มเขา นั่นเป็นเพราะคุณทำให้คนอื่นกลัว คุณควรฟังคำแนะนำของแม่และไปลบรอยแผลเป็นนั้นออกซะ"ตระกูลจ้านกับตระกูลู่สนิทกันมาก ถังจวินเย่รู้ว่าคุณนายลู่ แนะนำให้เขาเข้ารับการศัลยกรรมตกแต่งหลายครั้งต่อห
เพื่อที่จะได้คุยกันสะดวก คุณนายซางเข้ามาในห้องก่อน จากนั้นไห่หลิงก็เข้ามานั่งด้วยกันคุณนายซางรับกระดาษสีแดงที่คุณยายจ้านยื่นมาให้ มองดูพร้อมกับไห่หลิง ในที่สุดหลานสาวกับหลานชายก็เลือกวันที่ไม่เร็วไปและนานไป"วันนี้แล้วกันค่ะ ไม่เร็วไปและไม่นานไป จะได้มีเวลาเตรียมตัวทั้งสองฝ่าย"คุณนายซางชี้ถึงวันที่เธอและไห่หลิงเลือก และบอกผู้อาวุโสของตระกูลจ้านน้องสาวไม่อยู่ที่นี่ด้วย คุณนายซางทำหน้าที่ช่วยจัดงานแต่งงานของหลานสาวจะให้ไห่ถงแต่งงานกับตระกูลจ้านที่สง่างาม ก็ไม่ควรให้ใครมาดูถูกไห่ถงได้คุณยายจ้านกับถังจวินเย่ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ กับวันที่คุณนายซางเลือก ไม่ว่าญาติฝ่ายสะใภ้จะเลือกวันไหน ก็เป็นฤกษ์งามยามดีที่คุณยายจ้านเลือกมาอย่างดีสุดท้าย ถึงจะขอความเห็นจากจ้านหยินกับไห่ถงไห่ถงไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ จ้านหยินครุ่นคิดในใจอย่างเงียบๆ ขณะที่กำลังเฝ้าดูผู้อาวุโสของทั้งสองตระกูลเลือกฤกษ์ งานแต่งงานจัดขึ้นในช่วงที่ไห่ถงเป็นวันนั้นของเดือน ซึ่งไม่เอื้อต่อการห้องหอของเขาดังนั้น นายน้อยจ้านจึงคัดค้านและพูดว่า "วันนี้ไม่ได้ เปลี่ยนเป็นวันอื่นเถอะ"คุณยายจ้านถามด้วยความสับสน "ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?