"ไห่ถง ไห่หลิง พวกเธอกลับมาได้เวลาพอดี พวกคุณหมายความว่ายังไง? ฉันจะบอกพวกเธอให้นะ หลังจากที่พวกเธอออกจากบ้านหลังนี้และออกจากหมู่บ้านนี้ไป บ้าน ทุ่งนาก็ตกเป็นของพวกเราแล้ว""นี่เป็นบ้านเก่าที่ลูกชายฉันทิ้งไว้ให้เราสองคน เป็นทรัพย์สินเก่าของเราสองคน ฉันอยากจะยกให้ใครก็ให้ แต่ให้ใครก็จะไม่ให้พวกเธอคนนอกที่แต่งเข้ามา"ย่าไห่เมื่อเห็นสองพี่น้องพาคนมากมายมาที่นี่ ในใจรู้สึกเป็นกังวล เมื่อตอนที่เธอนอนอยู่ในโรงพยาบาล เธอก็ได้ยินถึงความเก่งกาจของไห่ถงแล้ว ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าไห่ถง ได้แต่งงานเข้าไปเป็นนายหญิงในตระกูลแสนล้านในใจรู้สึกชะงักเล็กน้อย เพราะพวกเธอใช้กำลังในการบังคับยึดครองบ้านมา อาศัยตอนที่สองพี่น้องอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ ยังไม่มีอำนาจ ก็บังคับให้สองพี่น้องออกจากบ้านไปตอนที่โดนไล่ออกจากบ้าน ไห่ถงดูเหมือนว่าจะอายุเพียงสิบเอ็ดสิบสองปีเท่านั้นหลังจากที่พวกเธอโดนไล่ออกจากบ้านไป ในปีแรกๆยังคงกลับมาที่หมู่บ้านเพื่อไหว้ศพพ่อแม่ และยังคิดจะกลับมาอาศัยอยู่บ้านที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ แต่กลับถูกย่าไห่สองสามีภรรยาใช้ทั้งไม้หนาตี ทั้งด่าทั้งไล่ครั้งแล้วครั้งเล่า ตีสองพี่น้องอย่างรุนแรง เพิ่งไม่กี่
น่าเสียดายที่เธอเป็นแค่หญิงชราคนหนึ่ง ไม่สามารถหลุดรอดจากบอดี้การ์ดทั้งสองคนได้บอดี้การ์ดทั้งสองคนไม่ได้ทำร้ายเธอ เพียงแค่หิ้วเธอออกไปครอบครัวไห่คนอื่น ๆ เห็นจึงรีบวิ่งเข้ามาทันที แต่บอดี้การ์ดของครอบครัวจ้านและชางก็ก้าวไปข้างหน้าในเวลาเดียวกัน ปิดกั้นพวกเขาทั้งหมดไว้ข้างนอก ไม่อนุญาตให้พวกเขาเข้าใกล้"ตีคนแล้ว ตีคนแล้ว!"ย่าไห่เห็นว่าพวกของไห่ถงมีจำนวนมาก เท้าทั้งสองข้างแตะพื้น นั่งลงไปบนพื้น ตบต้นขาไปพลางตะโกนว่าโดนคนตีแล้วแต่ว่า ชาวบ้านเพียงแค่มุงดู แต่ไม่มีใครเข้ามาใกล้และยังมีคนถ่ายวิดีโอไว้ดวงตาของฝูงชนก็เห็นชัดเช่นกัน พวกเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนที่ไห่ถงมาด้วย เพียงแค่พาย่าไห่ออกไปโดย ไม่ได้ทำร้ายเธอแม้แต่ปลายผมย่าไห่คิดจะพึ่งพาคนอื่นละซิคนที่ถ่ายวิดีโอนี้คิดว่าเขาจะบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไว้ ถึงตอนนั้นครอบครัวย่าไห่จะกลับดําเป็นขาว เขาก็จะเผยแพร่วิดีโอออกไปให้ทุกคนได้เห็นอย่างชัดเจน เพื่อกันไม่ให้พวกเขาทำซ้ำเหมือนปีที่แล้ว กลับเรื่องราวจากดำให้เป็นคนขาว ทำร้ายลูกสาวกำพร้าทั้งสองคนภายใต้คําสั่งของไห่ถง ทั้งอิฐ ทราย เศษหินหนึ่งคันรถ ทั้งหมดเทลงบนพื้น
ไห่ถงยิ้มอย่างเย็นชา "เมื่อสิบหกปีก่อน ตอนที่พ่อแม่ของฉันเสียชีวิต ได้รับเงินชดเชยการตายกว่า 5 ล้าน ย่ากับปู่พาลูกหลาน คนจำนวนมาก เบียดเสียดจนบ้านเราไม่มีที่จะจอดรถ""พวกคุณบังคับให้เราสองพี่น้องนำเงินออกมา บอกว่าเงินเหล่านั้นพวกคุณมีส่วนแบ่ง คุณและปู่ล้วนมีส่วนแบ่ง แต่พวกคุณเอาไปเท่าไหร่?""ตอนแรก พวกคุณเพื่อจะเอาเงินชดเชยการตายของพ่อแม่พวกเรามากขึ้น เคยพูดไว้ว่า หากพวกคุณยังมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องการให้เราพี่น้องเลี้ยงพวกคุณแทนพ่อแม่ ตอนตาย พวกเราก็ไม่จําเป็นต้องฝังพวกคุณแทนพ่อ อยู่ก็ไม่ต้องเลี้ยงตายก็ไม่ต้องฝัง ได้เขียนไว้เป็นตัวอักษรชัดเจน""บางทีส่วนของพวกคุณอาจจะถูกทำลายไปแล้ว แต่อีกส่วนหนึ่งที่อยู่กับพี่สาวของฉันยังเก็บรักษาไว้อย่างดี และฉันเชื่อว่ายังมีสำเนาที่คณะกรรมการหมู่บ้านเก็บรักษาไว้ เจ้าหน้าที่หมู่บ้านที่เป้นพยานในเหตุการณ์ครั้งนั้น ตอนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่ เราควรเรียกพวกเขามายืนยันกับพวกคุณดีไหม?""บ้านเป็นของพวกคุณหรือเปล่า? โฉนดของบ้านหลังนี้ยังเป็นชื่อพ่อของฉันอยู่มรดกที่พ่อแม่ของฉันทิ้งเอาไว้ คุณและปู่สามารถแบ่งรับมรดกบางส่วนได้ แต่พวกคุณไม่สามารถรับมรดกทั้งหมดได้ ฉั
ตอนนี้สองพี่น้องล้วนมีความสามารถแล้ว ได้กลับมายึดทรัพย์สินของพ่อแม่คืนป้าอาหยูก็ยกมือทั้งสองข้างเห็นด้วย“นั่นซิ ตอนนั้นชัดเจนว่าพวกคุณพูดแบบนั้น บอกว่าตอนอยู่ไม่ต้องเลี้ยงดู ตอนตายไม่ต้องฝัง พวกคุณไม่ได้เลี้ยงดูไห่หลิงสองพี่น้อง แต่ยังต้องการเงินของพวกเธอ? ลูกชายและหลานชายของคุณพวกนั้น ได้รับประโยชน์มากมายขนาดนั้น ทำไมคุณไม่ขอเงินจากพวกเขา?”“ครอบครัวใหญ่เกิดเหตุน่าสลดแล้ว รังแกลูกสาวกำพร้า พวกคุณทำเกินไปแล้ว คุณต่างหากที่ควรโดนฟ้าผ่า อายุตั้งมากแล้ว จะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี? ไม่กลัวว่าตายแล้วจะต้องลงขุมสิบแปดนรกหรือ ชั่วชีวิตไม่ได้สงบสุข”คนในหมู่บ้าน แม้จะคิดว่าลูกสาวที่แต่งแล้วออกไปไม่ควรกลับมาแย่งชิงทรัพย์สินของครอบครัว แต่พวกเขาก็รู้สึกว่าย่าไห่พวกเขาทำเกินไป อดไม่ได้ที่จะพูดแทรกเข้ามา"ครอบครัวของพวกเขาเป็นคนไร้ยางอายอยู่แล้ว แต่ละคนร่ำรวยขนาดนั้น อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ ขับรถหรู เงินเดือนประจําปีของไห่จื้อเหวินเป็นล้าน ตอนป้าคนที่สองป่วย ไม่อยากจ่ายเงินแม้แต่คนเดียว อยากให้สองพี่น้องไห่หลิงเป็นคนจ่ายเงิน""มีผลประโยชน์ ก็รู้จักแต่ยึดครอง พอมีเรื่องก็ให้สองพี่น้องคนแบกรั
คุณนายซางพูดต่อว่า “วันนี้ฉันมาที่นี่ ไม่ได้อยากโต้เถียงกับพวกคุณ ฉันแค่อยากจะพาหลานสาวสองคนของฉันกลับมาดู ฉันเองก็อยากเห็นที่ที่น้องสาวของฉันเคยอาศัยอยู่มาก่อน ฉันจะบอกพวกคุณไว้นะ ถ้าคุณย้ายออกไปโดยสมัครใจ ปัญหาต่างๆ ก็จะลดลงได้ ถ้ายังยืนกรานไม่ย้ายออกไป พวกเราจะฟ้องร้องพวกคุณและยึดบ้าน""สู้คดีในชั้นศาล ก็ต้องเอาบ้านกลับมา ถึงตอนนั้นศาลจะตัดสินอย่างไรก็แล้วแต่ ของของหลานสาวสองคนของฉัน พวกคุณอย่าคิดจะยึดครอง ไม่ใช่ของหลานสาวฉัน พวกเขาก็ไม่อยากได้ของพวกคุณ"คนหมู่บ้านไห่เจียพวกคุณมองมาที่ฉัน ฉันดูคุณ ที่แท้พี่สาวแท้ๆ ของหงเจียฮุ่ยพบสองพี่น้องไห่ถงแล้วเมื่อรู้ว่าคุณนายซางเป็นป้าแท้ๆ ของไห่ถงและเป็นคนของตระกูลไห่ พวกเขาย่อมไม่พูดเรื่องนี้ในหมู่บ้านสําหรับตระกูลไห่ พี่สาวแท้ๆ ของหงเจียฮุ่ยจํานับญาติกับสองพี่น้องไห่ถง ถือเป็นสิ่งเลวร้ายและทำให้พวกเขาเสียเรื่อง ไห่จื้อเหวินตอนแรกไม่ใช่ว่าเป็นผู้บริหารของบริษัทย่อยของชางซื่อกรุ๊ปหรือ?ได้ยินว่าไห่จื้อเหวินตกงาน ก็เพราะไปล่วงเกินคุณหนูบริษัทพันล้าน จึงถูกไล่ออกจากบริษัท เสียเงินเดือนปีละล้านไปอีกทั้งหลังจากนั้น ไห่จื้อเหวินก็ยังหางาน
เรื่องเมื่อปีก่อนหลานคนเล็กของเธอเพราะไห่ถงไม่ยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ จึงพาพวกไปหยุดรถของไห่ถง ต้องการจะสั่งสอนไห่ถงซักหน่อย แต่กลับโดนไห่ถงตีจนร้องไห้ตะโกนเรียกพ่อแม่ สุดท้ายหลานคนเล็กของเธอยังต้องเข้าไปสถานีตํารวจและถูกควบคุมตัวเป็นเวลาสิบห้าวันแต่ไห่ถงกลับไม่เป็นอะไรเลยทั้งๆที่คนลงมือเป็นไห่ถงคนเหล่านั้นกลับบอกว่าไห่ถงนั้นมีเหตุผล บอกว่าไห่ถงแค่ป้องกันตัวเองหลังจากที่ย่าไห่ได้รู้ว่าหลานของเธอติดคุกและยังโดนไห่ถงเล่นงาน เธอก็รู้สึกปวดใจมาก จึงเกลียดไห่ถงอย่างมาก"แม่ รอพ่อกลับมาก่อนค่อยว่ากันเถอะ""ย่า อย่าวู่วาม อย่าวู่วามนะ"คนอื่น ๆ ก็เตือนย่าไห่พวกเขาล้วนไม่มีเหตุผลย่าไห่ชั่วร้ายและไม่มีเหตุผล เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนายน้อยจ้านที่มีอํานาจและคุณนายซางบุคคลระดับนั้น นั่นไม่มีประโยชน์เลยจริง ๆคุณนายซางก็พูดออกมาแล้วว่าจะฟ้องร้องย่าไห่อาจจะไม่รู้เรื่องกฎหมาย แต่พวกเขารู้ดีเมื่อฟ้องร้องคดีกันแล้ว พวกเขาไม่มีโอกาสชนะ สองสามีภรรยาย่าไห่จะได้มรดกส่วนหนึ่งที่เป็นของไห่หยู่ แต่ไม่สามารถยึดครองบ้านหลังนี้ได้อย่างสมบูรณ์ถ้าเกิดย่าไห่ลงมือ แล้วไห่ถงเอาเรื่องขึ้นมา ยังต
เมื่อย่าไห่เห็นลูกสะใภ้และหลานๆ ของเธอ ล้วนชักชวนไห่ถงไปนั่งที่บ้านอย่างแข็งขัน นอกจากนี้เธอยังก่อเรื่องมาตั้งนาน เธอไม่เพียงแต่ไม่ได้รับประโยชน์เท่านั้น แต่ยังถูกชาวบ้านหัวเราะเยาะอีกด้วยเธอทำหน้าดีขึ้นและพูดว่า “ไห่หลิง ไห่ถง ป้าสะใภ้ของพวกเธอพูดถูก พวกเรายังไงก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ถ้ามีเรื่องอะไร ก็เข้าไปนั่งคุยกันข้างในบ้านอย่างช้าๆ ก็ได้”"ย่าก็ไม่อยากโต้เถียงกับพวกเธอแล้ว รอเมื่อปู่ของเธอเขากลับมาค่อยว่ากัน อย่างไรก็ตาม บ้านของย่าก็คือบ้านของย่า"ไห่ถงยิ้มเย็นชา "ฉันก็ไม่อยากโต้เถียงกับย่า ไม่อยากทะเลาะกับพวกคุณ พวกเราไปเจอกันที่ศาลแล้วกัน"การฟ้องร้องคือการกําหนดส่วนแบ่งมรดกที่ถูกต้องที่สุด จากคําพูดของป้าใหญ่ บ้านหลังนี้เป็นทรัพย์สินร่วมของพ่อแม่ของเธอหลังจากแต่งงาน ครึ่งหนึ่งเป็นทรัพย์สินของแม่ของเธอ อีกครึ่งหนึ่งถึงเป็นทรัพย์สินของพ่อเธอทรัพย์สินของพ่อของเธอแบ่งกันเท่าๆ กันระหว่างสองพี่น้องกับปู่ย่า บ้านของเธอมีพื้นที่ 100 ตารางเมตร โดยครึ่งหนึ่งเป็นของแม่เธอ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือแบ่งกันเท่าๆ กันระหว่างสองพี่น้องและผู้อาวุโสสองคน ซึ่งเท่ากับผู้อาวุโสทั้งสองสามารถแ
"ฟ้องศาล พวกเราไม่มีทางชนะ?"ย่าไห่พูดว่า “บ้านหลังนี้อาสามแกเป็นคนสร้าง และฉันเป็นแม่แท้ๆ ของเขา ฉันก็ไม่สามารถครอบครองได้เหรอ?”"สามารถครอบครองได้ แต่ย่าไม่ครอบครองมรดกได้ทั้งหมด เหมือนฉันเพิ่งบอกย่าไป ย่าสามารถได้รับส่วนแบ่งมรดกของอาสามได้แค่หนึ่งในสี่ และปู่เองก็ได้รับมรดกหนึ่งในสี่เช่นกัน"ไห่จือชินอธิบายเรื่องให้ย่าฟังอย่างอดทน เพราะเขาเกรงว่าเธอจะทะเลาะกับไห่ถงอีก"ฉันไม่สน ยังไงบ้านนี้ก็ของฉันกับปู่ของแก แน่นอนว่ามันเป็นของพวกเรา และพวกเราก็จะยกให้ใครก็ได้ที่ต้องการ ถ้าแพ้คดีแล้ว สามารถไล่ฉันออกจากบ้านได้ไหม?"ไห่จือชินทำให้ย่าตกใจ "ถ้าศาลออกหมายมาบังคับใช้ ก็จะไล่ปู่และย่าออกจากบ้านทันที และหากย่ายังก่อเรื่อง ก็ได้ไปกินข้าวแดงฟรีในคุกล่ะ ซึ่งเหมือนกับตอนที่ฉันถูกส่งไปกักตัวครั้งล่าสุด ย่า การเข้าไปข้างในน่ากลัวมาก เป็นการดีกว่าสำหรับที่พวกเราจะทำตามกฎหมายนะ"เขาถูกคุมขังเป็นเวลาสิบห้าวัน เมื่อมีประสบการณ์แล้ว ไห่จือชินไม่มีความกล้าที่จะให้ทำเรื่องน่าเกียจอีก"แต่พวกไห่ถงเป็นผู้หญิง ผู้หญิงจะเป็นทายาทได้ยังไง?""ตามกฎหมายมรดก ลูกสาวก็มีสิทธิได้รับมรดกเช่นกัน""นังตัวดี