Share

บทที่ 215

Penulis: จิ้งซิง
หลังจากเข้ามาในจินโจวแล้ว ทุกคนก็รู้สึกถึงคลื่นความร้อนที่เข้ามาปะทะใบหน้า

ทั้ง ๆ ที่สถานที่อื่น ๆ จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงและเย็นลงแล้ว แต่จินโจวกลับยังคงเหมือนกับช่วงที่ร้อนที่สุดของฤดูร้อน ทั่วทั้งพื้นที่มีอากาศร้อนจนแทบทนไม่ไหว

และจินโจวในเวลานี้นั้นแห้งแล้งมาสามเดือนแล้ว ไม่มีฝนตกเลยสักเม็ด

ด้วยเหตุนี้ทุ่งนาที่ควรปลูกธัญพืชจึงแห้งแล้งแตกเป็นแขนง ไม่มีผลให้เก็บเกี่ยว ท้องน้ำเห็นไปถึงก้น ป่าไม้โดยรอบรกร้าง ทั่วทุกแห่งหนไร้ระเบียบอย่างแสนสาหัส

ตามขอบทางจะเห็นได้เป็นครั้งคราว ว่ามีประชาชนจำนวนมากอิดโรย ร่างกายผอมซูบ บางคนคุกเข่าขอทานอยู่ริมถนน ในขณะที่บางคนขุดรากไม้เพื่อหาอาหาร

เมื่อเห็นขบวนรถเสบียงและข้าวของที่เวินซื่อและพวกกำลังลำเลียง ก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาตาร้อน เดินโซซัดโซเซเข้ามาใกล้

แต่สุดท้ายภายใต้การข่มขู่ของกองทัพธงดำ ก็ไม่มีการกระทำที่บุ่มบ่ามเกิดขึ้น

เมื่อเห็นสถานการณ์ในพื้นที่เช่นนี้ ทุกคนก็เร่งฝีเท้าขึ้นอย่างรู้กัน

ไม่ใช่เพื่อหลีกเลี่ยงผู้ประสบภัยเหล่านี้ แต่ในขณะนี้ทุกคนตระหนักแล้วว่า ทำไมผู้ว่าการจินโจวถึงรีบร้อนที่จะจัดพิธีขอฝนครั้งนี้ขึ้น

หากยังไม่ทำการปลอบประโลม
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 216

    เวินซื่อไม่คาดคิดว่าหวังโฉ่วอันจะคุกเข่าทำความเคารพนางทันทีที่เข้ามานางรีบยื่นมือออกไปทำท่าประคองหลังจากที่หวังโฉ่วอันลุกขึ้นมาแล้ว นางก็ถามถึงเรื่องที่เป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้“แท่นบูชาในพิธีขอฝนตั้งเสร็จแล้วหรือยัง?”หวังโฉ่วอันพยักหน้าซ้ำ ๆ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์โปรดวางใจ หลังจากได้ข่าวว่าท่านและท่านอ๋องออกเดินทางมาที่จินโจว พวกข้าก็พาคนมาในคืนนั้นเลย ตั้งแท่นบูชาทั้งหมดเสร็จตั้งแต่ก่อนคืนวานแล้ว วันนี้ได้ส่งคนไปตรวจสอบทุกแห่ง พรุ่งนี้ท่านสามารถเริ่มจัดพิธีขอฝนได้เลยขอรับ”เป่ยเฉินหยวนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กล่าวว่า “อู๋โยว ตอนนี้ท่านไปพักผ่อนเถอะ พิธีขอฝนในวันพรุ่งนี้จะเหน็ดเหนื่อยมาก ท่านต้องรีบหาเวลาพักผ่อนเอาแรง ที่เหลือมอบหมายให้ข้าจัดการเอง”“ตกลง”เวินซื่อก็ไม่ได้บ่ายเบี่ยงและเกรงใจเช่นกันการเร่งเดินทางต่อเนื่องหลายวันที่ผ่านมานั้นเหนื่อยมาก โชคดีที่หวังโฉ่วอันได้จัดเตรียมสถานที่พักผ่อนไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วหลังจากมาถึงห้องพักแล้ว ยังผ่านการตรวจสอบจากเกาเย่าและคณะอีกด้วยเป่ยเฉินหยวนได้มอบหมายให้เกาเย่าอยู่ข้างกายเวินซื่อ ในฐานะองครักษ์ในที่แจ้งงานที่ติดต่อกับภายนอกก็มีเกาเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 217

    หลังจากเปลี่ยนเป็นชุดพิธีการแล้ว เวินซื่อก็สวมผ้าคลุมหน้าโปร่งบางสีขาว คลุมศีรษะด้วยผ้าโปร่งบางสีขาว แล้วเดินออกไปข้างนอกภายใต้การนำทางของบรรดาสาวใช้หวังโฉ่วอันที่มองจนตะลึงถูกเกาเย่ากระแทกใส่“ข้าว่านะผู้ว่าการหวัง ธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ออกไปแล้ว ท่านยังมัวยืนอึ้งอยู่ที่นี่ทำไม? ยังไม่รีบตามไปอีก”หวังโฉ่วอันที่เพิ่งได้สติกลับมาก็รีบวิ่งตามไป “อา! ธิดาศักดิ์สิทธิ์รอข้าน้อยด้วย ข้าน้อยจะนำทางให้ท่านเอง!”……“เร็วหน่อยสิ เร็ว ๆ ๆ ถ้ายังไม่รีบอีกจะไม่มีที่นั่งเหลือแล้ว!”“มาเลย ๆ มาเดี๋ยวนี้เลย!”“อะไรกัน? นี่กำลังทำอะไรกัน?”“พวกเจ้าจะไปไหนกัน?”ทั้งในและนอกเมืองจินโจว ประชาชนนับไม่ถ้วนจากทั่วสารทิศกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกันหลังจากประสบภัยแล้งในเดือนสาม พวกเขาเกือบจะหมดหวังแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้ ว่ากันว่าผู้ว่าการของพวกเขาได้เรียนเชิญธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่ฝ่าบาททรงพระราชทานยศให้เป็นการส่วนพระองค์ มาเพื่ออธิษฐานขอฝนให้กับประชาชนชาวจินโจวเวลาเพียงชั่วข้ามคืน ข่าวนี้ก็แพร่กระจายออกไปนอกเมืองจินโจวแล้วยังมีประชาชนจำนวนมากพากันรีบรุดเข้ามาเพื่อดูพิธีขอฝน หรือไม่ก็เพื่อเข้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 218

    หลังจากนั้นเสียงเหล่านั้นก็หายไปเกือบทั้งหมดเวินซื่อยืนอยู่บนแท่นสูง เสียงด้านล่างเหล่านั้นไม่สามารถเข้าถึงหูของนางได้ดังนั้นตั้งแต่ต้นจนจบนางจึงไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ หลังจากผ่านการเซ่นไหว้ไปได้อย่างราบรื่น ก็ถึงเวลาที่ต้องขอฝนแล้วเวินซื่อเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้านางแย้มพระโอษฐ์ จากนั้นเสียงอันเพริศพริ้งเสนาะหูก็ออกมาจากปากของนาง เข้าไปถึงหูของประชาชนด้านล่างทั้งหมดพวกเขาฟังอย่างตั้งใจ ได้ยินนางเอ่ยกับสวรรค์“ดินแดนสามัญแห่งราชวงศ์ต้าหมิง ประวัติศาสตร์เพียงสิบเดือน อู๋โยวเด็กสาวชาวบ้าน นามฝูหมิง เป็นตัวแทนของพสกนิกรชาวจินโจว ขอฝนตามฤดูกาลต่อเทพปฐพีทั้งห้า เทพธัญพืชทั้งห้า สวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ ส่องแสงแก่แผ่นดิน จิตวิญญาณผู้รวบรวมดินแดน ขอทวยเทพจงหลั่งฝนตามฤดูกาล สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง สมดังใจปรารถนา เทพยดาเท่านั้นที่ฟังความปรารถนาของปวงชน พวกเรารอคอยเป็นอย่างยิ่ง ขอวิงวอนอย่างสุดซึ้ง!”คำต่อคำ เอ่ยออกมาทีละตัวอักษรอย่างชัดเจน บริสุทธิ์จริงใจจากนั้น เสียงกลองก็ดังสนั่นใต้แท่นบูชาชายหญิงแต่ละคนสวมชุดพิธีการร่ายรำสักการะขอฝน รายล้อมแท่นบูชาแล้วเริ่มร่ายรำ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 219

    “อา ๆ ๆ ๆ”“ฝนตกแล้ว!”“ฝนตกแล้วจริง ๆ!”“ฮือ ๆ ๆ! ภัยธรรมชาติสิ้นสุดลงแล้ว!”“ท่านพ่อ ท่านแม่! พวกท่านเห็นแล้วหรือยัง?! ภัยธรรมชาติสิ้นสุดลงแล้ว!”ประชาชนทั้งในและนอกเมืองจินโจววิ่งกรูออกมาเหมือนเสียสติไปแล้วพวกเขายืนตากฝนอย่างตื่นเต้น เห็นคุณค่าฝนตกหนักครานี้ที่พวกเขารอคอยอย่างใจจดใจจ่อเป็นเวลาสามเดือนเต็ม ๆ“เป็นเพราะธิดาศักดิ์สิทธิ์!”“ใช่แล้ว ธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงขอฝนตกใหญ่ครั้งนี้มาให้พวกเรา”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงเป็นพระโพธิสัตว์!”“นางคือธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่ฝ่าบาทพระราชทานยศให้ด้วยพระองค์เอง นางสวดขอพรเพื่อบ้านเมืองและประชาชน! เป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา!”เวินซื่อในวันนั้นไม่รู้เลยว่า ทุกคนในจินโจวกำลังตะโกนเรียกชื่อนางท่ามกลางฝนที่ตกหนักนั้นธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงธิดาศักดิ์สิทธิ์พระองค์แรกของราชวงศ์ต้าหมิงมีเพียงนางเท่านั้นที่เป็นพร……เจ็ดวันต่อมา ในที่สุดเวินซื่อและคณะก็กลับมาถึงเมืองหลวง“จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?”ก่อนเข้าเมือง เป่ยเฉินหยวนชี้ไปที่เวินเยวี่ยที่หมดสติแล้วถามขึ้นเวินซื่อครุ่นคิดสักครู่ “มอบนางให้ข้าจัดการเถอะ”“จะดูไหวหรือ? จินซือ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 220

    เวินซื่ออดหัวเราะไม่ได้ “เพราะว่าครั้งนี้ข้าเดินทางไกล อาจารย์ต้องเป็นห่วงแน่นอน หากวันหลังศิษย์พี่หญิงต้องเดินทางไกล อาจารย์ก็ต้องเป็นห่วงท่านเช่นกัน”ม่อโฉวซือไท่ที่จูงมือนางไปไม่พูดจาใด ๆนางเพียงแค่บ่นพึมพำในใจประโยคหนึ่งเงียบ ๆไม่เหมือนกันนางอาจจะเป็นห่วงอู๋ขู่ แต่จะไม่เหมือนกับความเป็นห่วงที่มีต่ออู๋โยวสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตั้งแต่จื่อจวินล่วงลับไป นานแค่ไหนแล้วที่นางไม่ได้มีความรู้สึกเช่นเดียวกับในช่วงเวลานี้หม้อนั้นต้มน้ำแกงบำรุงไว้เป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าม่อโฉวซือไท่ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง หลังจากมอบชามใหญ่ให้เวินซื่อเพียงคนเดียวแล้ว ส่วนที่เหลือก็แบ่งให้คนอื่นเวินซื่อถือชามน้ำแกง ดื่มอย่างยิ้มแย้มพลางเอ่ยว่า “ขอบคุณอาจารย์ น้ำแกงนี่อร่อยจริง ๆ เจ้าค่ะ”“ชอบก็ดีแล้ว เมื่อก่อนข้าก็ตุ๋นน้ำแกงบำรุงให้แม่ของเจ้าบ่อย ๆ นางมักจะบอกว่าชอบน้ำแกงที่ข้าตุ๋นมากที่สุด”เมื่อพูดถึงมารดาของเวินซื่อ สีหน้าของม่อโฉวซือไท่ก็อดเผยรอยยิ้มออกมาไม่ได้เพียงแต่ยังมีความเศร้าโศกที่ยากจะสังเกตเห็นได้ซ่อนอยู่ในดวงตาเวินซื่อนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ไม่พูดจาใด ๆ“บ้าจริง ดูข้าสิ ทำไมถึงพูด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 221

    หลังจากป้อนยาสลบให้เวินเยวี่ยเป็นจำนวนมาก และปิดหูปิดตาปิดปากนางทั้งหมดแล้ว จึงมัดแขนมัดขาทั้งสองคู่อย่างแน่นหนา แล้วโยนเข้าไปในมิติของหยกของนางแม้นางจะไม่อยากให้เวินเยวี่ยเข้ามาเลยสักนิด เพราะทำให้มิติของนางแปดเปื้อนแต่ไม่มีวิธีอื่น มีเพียงอยู่ในนี้เท่านั้นถึงจะไม่ถูกจินซือถูหาตัวพบแน่นอนเวินซื่อขังเวินเยวี่ยไว้ที่บ้านหลังเล็กภายในมิติจากนี้แค่ลากนางออกมาข้างนอก แล้วป้อนน้ำป้อนข้าว จากนั้นค่อยโยนกลับเข้าไปก็พอแล้วเมื่อเสร็จสิ้น เวินซื่อหันมองพื้นที่ในมิติซึ่งแต่เดิมคือที่วางกองสมุนไพรมากมายที่ไปกว้านซื้อมาสมุนไพรที่เดิมทีวางไว้ตรงนั้น ล้วนบริจาคให้จินโจวพร้อมกับสิ่งของรอบนั้นไปหมดแล้วแม้จินโจวฝนตกแล้ว แต่ผลข้างเคียงที่ภัยธรรมชาตินำมาให้ไม่ได้จบลงอย่างง่ายดายสมุนไพรเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่ใช้ดีและใช้บ่อยที่สุด มอบให้ราษฎรชาวจินโจวเหมาะสมที่สุดเวินซื่อหันหลัง เท้าสะเอวมองดูแปลงสมุนไพรผืนใหญ่ล้ำค่าของนางเดิมทีสมุนไพรหายากที่อยู่ภายในซึ่งถูกเก็บไปแล้ว เมื่อนางใช้น้ำในลำธารรดริน มันเติบโตขึ้นใหม่ตามที่คาดการณ์ขณะนี้นางต้องเลือกของขวัญสองชิ้นชิ้นหนึ่งมอบให้อาจารย์ส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 222

    หากนางดูไม่ผิด สิ่งที่บรรจุอยู่ภายในคือต้นเห็ดหลินจือร้อยปี!เวินซื่อหัวเราะพร้อมกล่าว “เพราะอาจารย์ดีกับข้ามากเจ้าค่ะ ดังนั้นข้าจึงอยากมอบของขวัญที่ดีให้อาจารย์สักชิ้น”นางบอกเล่าความเป็นห่วงและกังวลของตนให้ม่อโฉวซือไท่ฟัง “ท่านเองก็รู้ดีว่าสรรพคุณของเห็ดหลินจือเป็นเช่นไร ความจริงศิษย์เป็นห่วงอาการทางหัวใจของท่านมาตลอด ดังนั้นจึงเตรียมของขวัญเช่นนี้ให้ หวังว่าท่านจะไม่ละเลยอาการของหัวใจท่าน ขอให้รักษามันให้หายดีอย่างจริงจังเจ้าค่ะ”นางเชื่อในวิชาแพทย์ของอาจารย์ หากนางยอมรักษา ปัญหาเล็กน้อยแค่นั้นเกรงว่าคงรักษาหายนานแล้วส่วนสิ่งที่นางมอบให้ในวันนี้ เป็นเพียงความห่วงใยของศิษย์เท่านั้นไม่ได้ล้ำค่า เพียงอยากส่งมอบม่อโฉวซือไท่นึกไม่ถึงว่าเวินซื่อจะเป็นห่วงเรื่องนี้อยู่ตลอดหลังจากนิ่งเงียบไปหลายวินาที นางถึงได้บอกเล่าสาเหตุที่ตนไม่ยอมรักษาอย่างจริงจัง“ยามนั้นเมื่อมารดาของเจ้าเสียชีวิต ข้าเสียใจอยู่นานมาก จมอยู่กับความทุกข์ตลอดจึงทำให้เกิดโรคเล็กน้อยขึ้น เมื่อก่อนไม่รักษาเพราะไม่ต้องการ แต่ยามนี้เมื่อมีศิษย์รักอย่างเจ้าอยู่เคียงข้าง อีกทั้งยังไม่อยากให้เจ้าคอยเป็นห่วง ข้าสมควรรั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 223

    “หญ้าคืนวสันต์หรือ?”หลินจื่อฟูหันขวับมองเวินซื่อในทันทีทันใด “มี! ย่อมมีแน่นอน!”เขากล่าวอย่างตื้นตัน “ครั้งที่แล้วหลังจากธิดาศักดิ์สิทธิ์ได้มอบเห็ดหลินจือสีม่วงร้อยปีให้ท่านอ๋อง ตำรับยาของท่านอ๋องขาดเพียงสมุนไพรหายากสองชนิดเท่านั้น หนึ่งในนั้นก็คือหญ้าคืนวสันต์!”บังเอิญขนาดนี้เชียว?เวินซื่ออ้าปากอย่างแปลกใจยังไม่ทันที่นางจะได้พูด หลินจื่อฟูพูดอย่างกระตือรือร้น “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ ท่านถามเรื่องนี้ทำไมหรือ? หรือในมือท่านมีหญ้าคืนวสันต์อยู่จริงขอรับ?”เวินซื่อกล่าว “ข้ามีหญ้าคืนวสันต์อยู่ต้นหนึ่งจริง เพราะครั้งที่แล้วอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนคุ้มกันข้าไปจินโจว ช่วยข้าต้านภัยอันตรายไม่น้อย ดังนั้นครั้งนี้จึงมาเพื่อขอบคุณเขา”นางยื่นกล่องไม้ใบนั้นไปตรงหน้าหลินจื่อฟูรีบรับมาอย่างอดรนทนไม่ไหว เมื่อเปิดออกดู เป็นหญ้าคืนวสันต์จริง!หนำซ้ำต้นนี้ต้องมีอายุร้อยปีแน่นอน!หลินจื่อฟูดีใจจนอยากกระโดดโลดเต้น “ดีเหลือเกิน ดีมากจริงๆ ตำรับยาของท่านอ๋องมีสมุนไพรหายากเพิ่มมาอีกหนึ่งชนิดแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ารู้อยู่แล้วว่าในมือธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องมีหญ้าคืนวสันต์ร้อยปีแน่ๆ เกาเย่าเจ้าดูสิ ข้าบอกแล้วว

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 390

    สมุนไพรทั้งหมดนี้ในที่ดินกุยอวิ๋น เป็นสิ่งที่นางได้ตกลงไว้แล้วว่าจะมอบให้กับเป่ยเฉินหยวนเป็นสมุนไพรสำหรับทหารในกองทัพธงดำที่ออกรบเพื่อราชวงศ์ต้าหมิงมาหลายปี จนสุดท้ายร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล พิการ และเจ็บปวดบัดนี้ สมุนไพรที่ปลูกไว้ได้หนึ่งเดือนแล้วกลับถูกพวกเขาทำลายไปกว่าครึ่ง แถมยังไม่เว้นแม้แต่แปลงสมุนไพรร้ายกาจถึงเพียงนี้ นางจะกลืนความโกรธแค้นนี้ลงไปได้อย่างไรนางจะไม่ปล่อยคนที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไป และคนร้ายตรงหน้าเหล่านี้ นางก็จะไม่ปล่อยไปเช่นกัน“ท่านลุงหลาน ต้องรับพวกเขาให้ดี”ผู้เฒ่าหลานไม่คิดว่าเวินซื่อจะมีด้านนี้ด้วยเดิมทีเขาคิดว่าปกติแล้วคุณหนูน้อยผู้อ่อนโยนและใจดีมาโดยตลอดนั้น จะเหมือนกับคุณหนูใหญ่มากแต่คาดไม่ถึงว่า ภายใต้ความอ่อนโยนของคุณหนูน้อย จะยังมีด้านที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ซ่อนอยู่ช่าง...เหมือนกับนายท่านในตอนนั้นไม่มีผิด!ดวงตาที่แก่ชราของผู้เฒ่าหลานฉายแววเฉียบคม จ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาร้อนแรง ราวกับว่าเขามองเห็นภาพของเจ้าบ้านสกุลหลานในอดีตในตัวของนางมองจนหัวใจที่สงบนิ่งมานานหลายปีของเขาถึงกับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานายท่าน สกุลหลานของพวกเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 389

    “รบกวนลุงหลานเริ่มจัดหาคนในวันพรุ่งนี้ ช่วงสองสามวันนี้ลำบากท่านแล้ว”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ลำบากหรอก เพียงแต่ว่าคนร้ายที่วางยาพิษยังจับตัวไม่ได้ หากพวกเราแก้ไขตอนนี้ เกรงว่าคนร้ายนั่นจะกลับมาอีก”เวินซื่อย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีนางยิ้มเล็กน้อย “ลุงหลานวางใจได้ พรุ่งนี้ท่านจัดหาคนได้เลย คืนนี้พวกเราจะจับคน”......คืนนั้นควรจะเป็นเวลาที่เข้าสู่ห้วงนิทรา แต่กลับมีคนจำนวนหนึ่งถือถังไม้คนละใบ หลบเลี่ยงคนลาดตระเวนเหล่านั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาแอบเข้าไปในที่ดินกุยอวิ๋นอีกครั้งอย่างชำนาญ“หัวหน้า เมื่อวานพวกเราสาดยาพิษที่แปลงสมุนไพรทางตะวันออก ทางใต้ก็สาดไปหลายแห่งแล้ว คืนนี้จะเปลี่ยนไปสาดทางตะวันตกหรือทางเหนือดี?”“ได้ ไปดูทางตะวันตกก่อนก็แล้วกัน ถึงอย่างไรคุณชายสามก็บอกว่าต้องสาดให้หมด ต้องทำหมดทุกทาง”ดังนั้น คนร้ายที่ปิดบังใบหน้าทั้งเจ็ดแปดคนจึงอ้อมผ่านไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกไม่นานนัก พวกเขาก็วิ่งมาถึงที่หมาย“เจ้าสอง เจ้าสาม พวกเจ้าสองคนไปดูต้นทาง มีอะไรก็รีบเป่านกหวีด เจ้าสี่ เจ้าห้า เจ้าหก พวกเจ้าสามคนไปตักน้ำ เจ้าเจ็ด เจ้ามาทำลายสมุนไพรกับข้า”“ได้เลย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 388

    “คนร้ายกระจอกๆ พวกนั้นจับตัวได้หรือไม่?”“พวกที่มาครั้งแรกจับได้แล้วขอรับ แต่ไม่กี่วันต่อมา ก็มีมาอีกสองสามคน แถมยังระมัดระวังตัวยิ่งกว่า เจ้าเล่ห์มาก พิษที่เทในแปลงสมุนไพรก็เป็นฝีมือของพวกที่มาครั้งที่สองนี้”เวินซื่อเอ่ยถาม “มีคนได้รับผลกระทบบ้างหรือไม่?”ผู้เฒ่าหลานส่ายหน้า “ยาพิษที่เทนั้นดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่แปลงสมุนไพรของเราเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนมากนัก”เวินซื่อแค่นหัวเราะ “หากวางยาพิษคน เรื่องนี้คงไม่ง่ายดายเช่นนี้แล้ว”หลังจากที่นางทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็กำชับว่า “รบกวนลุงหลานเดินทางรอบนี้ ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืด ข้าจะไปดูที่ดินกุยอวิ๋นก่อน”ม่อโฉวซือไท่ก็อยู่ด้วยพอดี นางได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์จะไปกับพวกเจ้าด้วย ไปดูสักหน่อย”“ข้าก็ไปด้วยๆ !”ฉางเสี่ยวหานรีบยกมือออกจากอารามสุ่ยเยว่ ก็มีรถม้าเรียบง่ายคันหนึ่งจอดรออยู่ด้านนอกนี่เป็นสิ่งที่เวินซื่อสั่งให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาระยะทางระหว่างที่ดินกุยอวิ๋นถึงอารามสุ่ยเยว่ก็ไม่ถือว่าใกล้ จะให้พ่อบ้านหลานที่อายุมากแล้วเดินไปเดินมาก็คงไม่ได้ดังนั้น เวินซื่อจึงให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 387

    เป่ยเฉินหยวนไม่คิดว่านางจะยังจำเรื่องนี้ได้ และยังจัดสรรที่ดินไว้ให้เขาแล้วเขารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งอู๋โยวที่ดีเช่นนี้ เขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?เพียงแต่ว่าคนสกุลอันนั่นพูดถูก เขามีความคิดต่ำทราม หากถูกคนอื่นรู้เข้า นั่นก็เท่ากับทำลายการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น ทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของผู้อื่น เป็นเรื่องที่เลวทรามอย่างยิ่งดังนั้น เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้จึงทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้อย่างระมัดระวังเมื่อไม่มีอันหลันซิน ขบวนก็ไม่ได้ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ไม่นานก็ออกเดินทางต่อสองวันต่อมา ขบวนที่เดินทางไกลไปยังลู่โจวในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองหลวงแล้วครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ฝ่าบาททรงนำเหล่าขุนนางมาต้อนรับที่ประตูเมืองหลวงด้วยพระองค์เองสถานการณ์ยิ่งใหญ่เอิกเกริกเช่นนี้ ทำเอาเวินซื่อตกใจไม่น้อยภายหลังเวินซื่อถึงได้รู้ว่า ที่แท้ข่าวคราวจากลู่โจวก็แพร่เข้ามาถึงในเมืองหลวงแล้วหลังจากขอฝนที่จินโจวแก้ปัญหาภัยแล้งได้แล้ว เวินซื่อก็มีชื่อเสียงเรื่องการสวดอธิษฐานขอพรให้ผู้ประสบภัยพิบัติที่ลู่โจวเพิ่มขึ้นมาอีกตอนนี้ชื่อเสียงของนางไม่ได้เลื่องลือแค่ในเมืองหลวงและจินโจวสองแห่งเท่าน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 386

    ภายในป่า เงียบสงบไปครู่หนึ่ง ถึงมีเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ ดังขึ้น“เจ้าพูดถูก ข้าไม่คู่ควร”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเย็นชา สายตาเย็นเยียบ “แต่เจ้าไม่คู่ควรยิ่งกว่า”“เจ้าอยากจะใช้คนร้ายที่หลบหนีไปได้มาบีบบังคับข้า น่าเสียดาย ข้าไม่หลงกลเจ้า”เป่ยเฉินหยวนพูดจบก็ยกมือขึ้น กองทัพธงดำจำนวนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นทันที ล้อมอันหลันซินเอาไว้อันหลันซินตกใจทันที ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี“ท่านคิดจะทำอะไร?”เป่ยเฉินหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ขอบคุณอู๋โยวให้ดีเถอะ หากมิใช่เพราะนาง หัวของเจ้าคงถูกข้าตัดเอาไปเตะเล่นนานแล้ว”พูดจบเขาก็หันหลังกลับไปออกคำสั่ง “เอาตัวไป มัดให้แน่นแล้วส่งไปให้หนิงหย่วนโหว ให้เขาเฝ้าไว้ให้ดีๆ ขอแค่ไม่ตาย จะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าคนหนีไป ข้าจะเอาเรื่องกับเขา”“พ่ะย่ะค่ะ!”กองทัพธงดำหลายนายรีบเข้ามาทันทีไม่!ไม่ได้!นางจะถูกพาตัวไปไม่ได้!นางอุตส่าห์รอโอกาสนี้มาอย่างยากลำบาก หากถูกพาตัวไปแล้ว ต่อไปนางจะกลับมาหาอาซื่อได้อย่างไร!อันหลันซินเห็นท่าไม่ดี อ้าปากกำลังจะร้องตะโกน“อึก...”น่าเสียดายที่นางเพิ่งจะส่งเสียงออกมา ฝักกระบี่ก็ฟาดลงบนคอของนางอย่างแรงทำให้นางสลบไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 385

    คนที่ปรากฏตัวอยู่ด้านนอกรถม้าของเป่ยเฉินหยวนคืออันหลันซิน“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน หม่อมฉันจะทำอะไรท่านได้ ท่านจะระแวงหม่อมฉันขนาดนี้ไปทำไมเพคะ?”อันหลันซินยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้นเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้ว สายตาไม่พอใจ “มีธุระก็พูด ไม่มีธุระก็ไสหัวไป”ท่าทีที่ไม่เกรงใจเมื่อเทียบกับรอยยิ้มที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อครู่ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆอันหลันซินแค่นเสียงหัวเราะในใจเสแสร้งอะไรกันตอนนี้รู้จักปฏิบัติต่อสตรีอื่นอย่างแตกต่างเพราะอาซื่อ แต่ต่อไปความพิเศษเช่นนี้ไม่แน่ว่าจะตกไปอยู่กับสตรีอื่นอย่างไรเสีย บุรุษในโลกนี้ก็เหมือนกันหมดอันหลันซินระงับความรังเกียจในใจ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน “เอาละ รู้ว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ชอบหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันมีข้อแลกเปลี่ยน อยากจะคุยกับท่านสักหน่อยเพคะ”นางพูดเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนกลับไม่มองนางแม้แต่น้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก “อย่างเจ้า มีคุณสมบัติอะไรมาทำข้อตกลงกับข้า?”“ที่ข้ายอมให้เจ้าอยู่ในขบวนนี้จนถึงตอนนี้ ก็เพียงเพราะเห็นแก่หน้าอู๋โยว”รอยยิ้มบนใบหน้าของอันหลันซินแข็งค้าง กัดฟันเล็กน้อย“เหอะๆ หม่อมฉั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 384

    เป่ยเฉินหยวนนอนเอนกายอย่างสบายอารมณ์อยู่ในรถม้า ในขณะเดียวกันก็นอนอยู่ข้างกายเวินซื่อ หลับตาพริ้มขยับศีรษะอย่างมีความสุข ตอบคำถามของนางทีละประโยค“ได้ ไม่แรง ไม่ได้ดึงเลย ปวดนิดหน่อย เพราะซื่อเอ๋อร์ลูบให้ หัวก็เลยไม่ปวดมากแล้ว”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่นางยังจำตำแหน่งกดจุดต่างๆ บนศีรษะที่อาจารย์ม่อโฉวสอนได้ ผสมผสานกับวิธีการนวด แล้วนวดให้เป่ยเฉินหยวน ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะดีเลยทีเดียวเวินซื่อที่คิดว่าได้ผลจริงๆ ก็ยังคงตั้งใจจ้องมองศีรษะของเป่ยเฉินหยวน จดจ่ออยู่กับการผสมผสานวิธีการนวดและกดจุดต่างๆ ของนางหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในรถม้าดูเหมือนจะเงียบสงบลงอย่างสิ้นเชิงเงียบจนแม้ว่าภายนอกจะมีเสียงล้อรถดังอยู่ ก็ยังได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอภายในรถม้าเวินซื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป่ยเฉินหยวนไม่รู้ว่าหลับตาลงตั้งแต่เมื่อไรแล้วเวินซื่อเห็นดังนั้น มือที่วางอยู่บนศีรษะของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง จนกระทั่งพอสมควรแล้ว นางถึงได้ชักมือกลับก้มหน้าลงมองสีหน้าที่อ่อนล้าระหว่างคิ้วของเป่ยเฉินหยวน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เวินซื่อก็หยิบขวดน้ำทิพย์ออกมาจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 383

    “ปวดหัวหรือ? เกิดอะไรขึ้น? ปวดเป็นพักๆ หรือว่าปวดมากตลอดเวลา?”พอเวินซื่อได้ยินเป่ยเฉินหยวนบอกว่าตนเองปวดหัว ก็ไม่ทันได้ใส่ใจกับคำเรียกที่ดูเหมือนจะสนิทสนมเกินไปนั่น รีบถามอย่างกระวนกระวาย“ปวดเป็นพักๆ เหมือนกับมีคนมากมายพูดอยู่ในหัวของข้า หนวกหูมาก ปวดเหลือเกิน”เป่ยเฉินหยวนมองนางอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มผู้ซึ่งปกติแล้วสูงใหญ่และพึ่งพาได้เสมอ เวลานี้กลับดูอ่อนแอเหมือนหมาป่าตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำได้เพียงส่งเสียงร้องครางกับคนตรงหน้าเพื่อระบายความเจ็บปวดของตนเวินซื่อไม่เคยเห็นเป่ยเฉินหยวนในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้มาก่อนแม้แต่ครั้งแรกที่เห็นเขาป่วยที่ริมลำธารเล็กๆ หลังภูเขานั่น เป่ยเฉินหยวนในตอนนั้นก็ยังคงสติไว้ได้บ้างแต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้ กลับเหมือนแสดงด้านที่อ่อนแอยามเจ็บป่วยออกมาให้นางเห็นอย่างไม่มีปิดบังเวินซื่อจึงลูบหน้าผากเขาด้วยความสงสารทันที แล้วจับชีพจร “ไม่ปวดแล้วๆ ตอนนี้ข้าจะสวดมนต์ให้ท่านอ๋องเดี๋ยวนี้ ท่านนั่งฟังดีๆ อีกเดี๋ยวก็จะไม่ปวดแล้ว”แต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้กลับเหมือนจะมีความคิดต่อต้านขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเวินซื่อที่กำลังจะชักกลับ เอ่ยด้วยน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 382

    นางมองเวินซื่อด้วยความอาลัยอาวรณ์หางตากลับเหลือบไปมองเป่ยเฉินหยวนและเด็กสาวที่อยู่ข้างโต๊ะนั่นอย่างเย็นชาเพิ่มมาอีกคนแล้วแต่ไม่เป็นไร ยังไม่จบหรอกหลังจากที่นายท่านสกุลผังกลับไปแล้ว ไม่นานก็ส่งสัญญาขายตัวมาให้ตามคาด ทั้งยังเขียนหนังสือหย่าอนุภรรยาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมาหนึ่งฉบับจริงๆเมื่อได้สัญญาขายตัวและหนังสือหย่าอนุภรรยา อันหลันซินก็ไปจากที่นี่เวินซื่อให้จู๋เยวี่ยติดตามไประยะหนึ่งแน่นอนว่าเพื่อจับตาดู“เป็นอย่างไรบ้าง?”หลังจากที่จู๋เยวี่ยกลับมา เวินซื่อก็เอ่ยถาม“ดูเหมือนว่าจะมีเศษเงินที่ซ่อนเอาไว้ ซื้อของกินเล็กน้อย ห่อไว้แล้วก็ออกจากเมืองไป ดูท่าทางน่าจะกลับเมืองหลวง”กลับเมืองหลวง...จินโจวอยู่ห่างจากเมืองหลวงขนาดนี้ นางคิดจะเดินเท้ากลับไปหรือ?แล้วยังมีบิดาของนางในเมืองหลวง ทั้งภรรยาเอกและพี่สาวต่างมารดาพวกนั้น คงจะไม่ปล่อยนางไปกระมัง?ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคิดจะกลับไป?เวินซื่อขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คลายปมคิ้วไม่สิ นางจะเป็นห่วงอันหลันซินทำไมกัน?ต่อจากนี้ไปอันหลันซินจะเป็นตายร้ายดีก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางที่นางช่วยครั้งนี้ก็เพราะเห็นแก่คว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status