ตอนเที่ยงลู่เฉินนั่งรถมาที่ตระกูลหลี่บ้านนั้นตั้งอยู่ในหมู่บ้านในเมือง พื้นที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก มันมีสนามหญ้าเล็กๆแห่งหนึ่งที่ปลูกดอกไม้อยู่บ้างไว้เมื่อลู่เฉินลงจากรถ สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือหลี่ชิงเหยาที่อยู่หน้าประตูเดิมทีเขาตั้งใจจะทำเป็นไม่เห็นเธอ แต่ก่อนที่เขาจะเข้าประตูไป เขาก็ถูกอีกฝ่ายเรียกหยุดไว้“หยุดนะ ฉันมีเรื่องจะบอก!”"อะไร?"ทั้งสองหันหลังให้กัน ต่างก็หันหน้าไปทางอากาศ“ช่วงนี้สุขภาพของคุณปู่ไม่ค่อยดีนัก ฉันยังไม่ได้บอกเรื่องการหย่าร้างของเรากับเขาเลยเผื่อว่าเขาจะยอมรับไม่ได้”“คุณคิดว่าเรื่องแบบนี้จะปิดได้หรือ?”“หลังผ่านเทศกาล ฉันจะหาโอกาสบอกให้คุณปู่ทราบ แต่ไม่ใช่วันนี้!”“อืม ผมเข้าใจแล้ว มีอะไรอีกไหม?”"ไม่มีแล้ว"พอพูดอย่างเย็นชาจบ หลี่ชิงเหยาก็หันหลังกลับและเข้าไปในบ้านเธอไม่ได้มองไปที่ลู่เฉินแม้แต่แวบเดียวด้วยซ้ำตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งสองคนก็ทำตัวเหมือนเป็นคนแปลกหน้าลู่เฉินหายใจเข้าลึกๆ เขาเดินเข้าไปพร้อมเหล้าทันทีที่เขาเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขาก็พบว่ามีคนมากมายมารวมตัวกันอยู่ข้างในแล้วญาติสายตรงของตระกูลหลี่ที่ควรมาก็ได้มาถึงแล้วมีเพียงลี่เจ
ในไม่ช้า คราฟต์เหล้าสองขวดที่บรรจุภัณฑ์เก่าๆก็ถูกเผยให้เห็นต่อหน้าทุกคน“ฮ่าฮ่า... ผมยังนึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีอะไร ที่แท้เป็นคราฟต์เหล้าสองขวดเท่านั้นเหรอ?”หลี่ห้าวพูดด้วยความดูถูก“คราฟต์เหล้าอย่างนี้ อย่างมากก็แค่ขวดละหมื่นบาท ช่างต่ำต้อยจริงๆ จะเทียบได้กับโรมานี-คอนติของคุณหยางได้อย่างไร?”“ใช่แล้ว คราฟต์เหล้าราคาถูกเกินไป แม้แต่สุนัขก็ไม่ยอมดื่มเลย!” มีคนพูดคล้อยตามที่จริงแล้วคราฟต์เหล้าก็ไม่ได้แย่มาก แต่เมื่อเปรียบเทียบแล้วมันก็ไม่คุ้มที่จะพูดถึงเลย “ฮึ่ม! ไวน์ราคาถูกอย่างนี้แกยังกล้านำมาเหรอ? ช่างน่าอายจริงๆ!” จางชุ่ยฮัวพูดอย่างประชด“เหล้าคราฟต์ถูกชมว่าเป็น'ไวน์ประจำชาติ' มันจะต่ำต้อยได้ยังไง? หรือว่ามีเพียงไวน์จากต่างประเทศเท่านั้นที่สูงส่งหรอ?” ลู่เฉินพูดอย่างสงบ“ขวดไวน์ของคุณหยางมีมูลค่ามากกว่าแสนบาท แต่ของคุณมีราคาเพียงหมื่นบาท มันไม่ต่ำต้อยหรือ?” สีหน้าของหลี่ห้าวเต้มไปด้วยความรังเกียจ“ไวน์ราคาแพงไม่จำเป็นต้องดีเสมอไป จุดที่สำคัญคือตัวเองชอบก็พอ อีกอย่าง คุณรู้ได้อย่างไรว่าไวน์ของผมไม่ได้แพงเท่าของหยางเหว่ยล่ะ” ลู่เฉินโต้กลับ“ความจริงได้เผยอยู่ตรงหน้าแกแล้ว แก
“พ่อไม่ได้ล้อเล่นมั้ง? นี่เป็นคราฟต์เหล้าที่เก็บมาหลายปีจริงๆเหรอ?”หลี่ห้าวเบิกตากว้างๆและเขาไม่อยากจะเชื่อ“ใช่นะหลี่เจิ้น! เหล้านี้ทั้งเหลืองทั้งขุ่น ไม่ใช่ของปลอมเหรอ?”จางชุ่ยฮัวก็ดูตกใจเช่นกัน“พวกคุณไม่รู้หรอก คราฟต์เหล้าที่เก็บมาหลายปีล้วนเป็นสีนี้หรอก และยิ่งเหล้ามีอายุมาก สีก็จะยิ่งเข้มขึ้น คนที่รู้จักเหล้าจะรู้เรื่องนี้กัน” หลี่เจิ้นอธิบายหลังจากได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนเป็นแปลกไปก่อนหน้านี้พวกเขาเอาแต่พูดว่ามันเป็นเหล้าปลอม แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะถูกท้วงติงในชั่วพริบตาถ้าคนอื่นพูดแบบนี้พวกเขาก็อาจจะไม่เชื่อแต่หลี่เจิ้นซึ่งเป็นคนที่ดื่มเหล้ามากที่มีประสบการณ์และความรู้ที่กว้างขวาง เขาไม่อาจตัดสินผิดได้เลย“ผมเคยไปทานข้าวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงและเคยได้รับเกียรติให้ดื่มคราฟต์เหล้าครั้งหนึ่ง ผมจึงจำได้ชัดเจนมาก ขนาดเหล้าแก้วนี้ก็ยังหอมและเนียนนุ่มกว่าที่ผมเคยดื่มมานั้นมาก ผมเดาว่ามันคงได้เก็บมามากกว่าห้าสิบปีแล้ว!”หลี่เจิ้นเม้มริมฝีปาก ดูเหมือนว่าเขายังไม่หนำใจเลย“เหล้าที่มีอายุมากกว่าห้าสิบปีหรอ? มันจะมีมูลค่าเท่าไหร่หรือครับ?” หลี่ห้าวถามโดยไม่รู้
ทันใดนั้นหยางเหว่ยก็เคาะโต๊ะแล้วพูดด้วยเสียงดังว่า "ท่านผู้อาวุโสและเพื่อนๆทั้งหลาย ผมขอบอกข่าวดีแก่พวกคุณหน่อยนะ เภสัชกรรมตระกูลหยางเรากำลังวางแผนที่จะเพิ่มทุนในเมื่อเร็วๆนี้ ไม่รู้ว่ามีใครในนี้สนใจที่จะเข้าร่วมหรือไม่"“เพิ่มทุน?”เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งนี้ สายตาของพวกเขาก็หันไปทางเขากันหมดเภสัชกรรมตระกูลหยางเป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยมนะมันอยู่ในระดับไม่ที่หนึ่งก็ที่สองในอุตสาหกรรมการแพทย์ของเมืองเจียงหลิงในเมื่อก่อนที่อยากจะลงทุนก็ยากมากเลย แต่ปัจจุบันจู่ๆก็ต้องเพิ่มการลงทุน เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจจริงๆ“คุณหยางครับ ทำไมอยู่ดีๆจะต้องเพิ่มการลงทุนล่ะ? เป็นเพราะขาดเงินทุนหรือ?” หลี่ชิงเหยาถามอย่างอยากรู้อยากเห็น“ไม่ใช่แน่นอนสิ เหตุผลที่เราตัดสินใจแบบนี้ก็เพราะว่าบริษัทเราจะพัฒนาเป็นบริษัทมหาชนจำกัดแล้ว”หยางเหว่ยยิ้มและอธิบายว่า "ทุกคนรู้ดีว่าเภสัชกรรมตระกูลหยางเรามีรากฐานและความสามารถมาก การเพิ่มทุนครั้งนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อให้ผลประโยชน์แก่พนักงานเก่าบางคน"“เนื่องจากมันมีจำนวนจำกัด จึงไม่ได้ประกาศต่อสาธารณะชน หากพวกคุณสนใจ ผมให้จำนวนส่วนของโอกาศที่ลงทุนแก่พวกคุณได้”ทันที
รอยยิ้มของหยางเหว่ยแข็งทื่อไป เขาสงสัยว่าเขาได้ยินผิดไปแล้ว“ผมบอกว่า ผมไม่สนใจบริษัทที่กำลังจะล้มละลาย” ลู่เฉินพูดซ้ำ"ล้มละลาย?"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้พูดออกไป ทุกคนก็ตกตะลึงและบางคนก็ไม่ได้ตอบสนอง“คุณ คุณเพ้อเจ้อ!”หยางเหว่ยตกใจ และเขาปฏิเสธอย่างรวดเร็ว "เภสัชกรรมตระกูลหยางเราสร้างรายได้มหาศาลทุกวัน กำลังเจริญรุ่งเรืองอยู่ เราจะล้มละลายได้อย่างไร? แกอย่ามาปล่อยข่าวลือเขย่าขวัญประชาชน!"“จะเป็นข่าวลือหรือไม่ ผมเชื่อว่าคุณเองรู้ดีในใจ ยังไงผมเพิ่งได้รับข่าวว่า เภสัชกรรมตระกูลหยางถูกตรวจสอบและอายัดอย่างสมบูรณ์เนื่องจากการขายยาปลอม ที่มันจะล้มละลายมันเป็นเพียงเรื่องของเวลา” ลู่เฉินกล่าวอย่างน่าประหลาดใจ“ขายยาปลอม? ถูกตรวจสอบและอายัด?”ในขณะนี้ ทุกคนยิ่งงงมากขึ้นดวงตาของพวกเขามองไปที่หยางเหว่ยโดยไม่รู้ตัว"ไร้สาระ! ไร้สาระอย่างแน่นอน!"“ลู่เฉิน ผมขอเตือนคุณว่าอย่าแพร่ข่าวลือที่นี่! ตระกูลหยางเราปฏิบัติตามกฎหมาย จะถูกตรวจสอบและอายัดได้อย่างไร? ระวังว่าผมจะฟ้องคุณในข้อหาใส่ร้ายป้ายสีนะ!”หยางเหว่ยพูดอย่างดุเดือดแม้ว่าคำพูดของเขาจะทรงพลังมาก แต่ในใจเขาก็เต็มไปด้วยความประหม่า
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้พูดออกมา สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปมีโอกาสที่จะหาเงินมหาศาลได้อย่างไม่ง่ายดาย พวกเขาจะปล่อยมันไปอย่างง่ายๆได้อย่างไร?“หยางเหว่ย! คุณอย่าถือสาเขาเลยนะ เขาอิจฉาคุณอย่างเห็นได้ชัด เราไม่เหมือนกับเขาเลย เราทุกคนเชื่อในตัวคุณนะ!” จางชุ่ยฮัวรีบส่อให้เห็นทัศนคติของเธอ“ใช่ๆๆ คุณหยางครับ เรื่องการเพิ่มทุนนั้นลืมไปไม่ได้นะ เมื่อกี้คุณได้สัญญากับเราแล้วนะ”ทุกคนต่างก็พูดคล้อยตามในขณะที่พวกเขาพูด ดวงตาของพวกเขาก็หันไปมองลู่เฉิน และพวกเขาต่างก็เริ่มดุร้ายขึ้น“ลู่เฉิน! ฉันเตือนคุณนะ อย่าขวางพวกเราไม่ให้รวย! ไม่อย่างนั้นฉันจะหยาบคายกับคุณแล้วนะ!”“นั่นนะสิ! ถ้าแกยังกล้าพูดเรื่องไร้สาระอีก แกก็ออกไปจากที่นี่ซะ!”ทุกคนต่างก็ดุด่าลู่เฉินขึ้นในความเห็นของพวกเขา ลู่เฉินจงใจใส่ร้ายหยางเหว่ย แลอยากขัดขวางวิธีการหาเงินของพวกเขาช่างเป็นคนใจดำจริงๆ!“พวกคุณเชื่อหยางเหว่ยขนาดนั้นเลยเหรอ? พวกคุณเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าเขาโกหกจะทำยังไงดี?” ลู่เฉินขมวดคิ้วและถาม“มันไม่ใช่เกี่ยวกับคุณ! เราอยากทำอะไรก็ได้!” หลี่ห้าวขึงตาใส่เขา“ใช่! แม้ว่าเราจะถูกหลอก แต่เราเต็มใจทำมัน มันไม่เกี่ยว
วันรุ่งขึ้น ช่วงเช้าตรู่ภายในวิลล่าเทียนหาวหม่าเทียนหาวในฐานะคนที่รวยเป็นอันดับหนึ่งในเมืองเจียงหลิง กำลังดื่มชาอย่างสบายๆ กับชายชราร่างผอมคนหนึ่ง“อาจารย์ฟางครับ ครั้งนี้น่าเสียดายจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นตื่นตัวเกินไปและจากไปก่อนที่ยาจะออกฤทธิ์ ไม่เช่นนั้น วันนี้ผมคงปราบเธอได้แล้ว!” หม่าเทียนหาวพูดด้วยความเสียดาย“คุณหม่าไม่ต้องกังวลหรอก เธอไม่สามารถแก้พิษที่ผมวางให้ ถ้าเธอไม่อยากตาย เธอต้องริเริ่มมาขอร้องคุณ จากนั้นคุณจะได้ลิ้มรสเธอตามสบายแล้วครับ”อาจารย์ฟางซึ่งเป็นชายชราร่างผอมคนนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม"จริงเหรอ? เยี่ยมมากเลย!" ดวงตาของหม่าเทียนหาวเป็นประกายเขาอยากจะได้ฉาวซวนเฟยซึ่งสวยเหมือนเป็นดอกกุหลาบที่มีหนามมาเป็นเวลานานแล้วพอเขาคิดว่าจะได้เล่นกับคนงามอันน่าทึ่งแบบนี้บนเตียงตามสบาย ใจเขาก็เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้“คุณหม่าครับ...”ในเวลานี้ จู่ๆบอดี้การ์ดคนหนึ่งเดินก็เข้ามาและกระซิบในข้างหูของหม่าเทียนหาว“อะไรนะ? จ้าวหู่ตายแล้วเหรอ?!”หลังจากได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของหม่าเทียนหาวก็มืดลง "ใครเป็นคนทำ? กล้ามาแตะต้องคนของผมหรือ!"จ้าวหู่เป็นมือขวาของเขา ซึ่งทำเรื่องร้ายที่ลึก
“ผู้นำของสามผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองเจียงหลิง—หม่าเทียนหาว!” หลี่ชิงเหยากล่าว“อะไรนะ? คุณหม่า หม่าเทียนหาวหรือ?!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้พูดออกมา เลขาจางก็เบิกตากว้างๆราวกับว่าเธอได้เห็นผีใครก็รู้ว่าในทั้งเขตตงเฉิง คุณหม่าเป็นใหญ่จ้าวหู่เป็นเพียงเจ้าพ่อในเขตตงเฉิง แต่คุณหม่าถึงจะเป็นจักรพรรดิใต้ดินที่แท้จริงของเจียงหลิง!อำนาจของเขายิ่งใหญ่มากจนบอกได้ว่าสามารถปกปิดท้องฟ้าได้ด้วยเขาเองเลย!ไม่ว่าจะในด้านธุรกิจ การเมือง หรือการทหาร เขาล้วนมีสายสัมพันธ์เป็นอย่างดีหากใครทำให้คุณหม่าขุ่นเคือง มันจะน่ากลัวกว่าความตายเลย!“คุณหลี่คะ คุณอย่าบอกฉันนะ ว่าคุณหม่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย?” เลขาจางกลืนน้ำลาย“มันไม่แน่นะ จ้าวหู่เป็นลูกน้องของคุณหม่า ตอนนี้จ้าวหู่เสียชีวิตอย่างกะทันหัน คุณ หม่าจะเริ่มการสอบสวนอย่างแน่นอน ถ้าเป็นฝีมือของลู่เฉินจริงๆ มันจะแย่แล้ว!” สีหน้าของหลี่ชิงเหยาดูเคร่งขรึม“แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่ก็เป็นความผิดของลู่เฉินเอง คงไม่เกี่ยวอะไรกับเราใช่ไหม?” เลขาจางถามอย่างไม่มั่นใจ“ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณหม่าจะเข้าใจอย่างไร ถ้าเขาคิดว่ามันเกี่ยวข้องกับเรา งั้นเราก็จะหนีรอดไ