สองวันต่อมา ในโรงพยาบาลผิงอันหลี่ชิงเหยาที่โคม่าตลอด ในที่สุดก็ตื่นขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ สิ่งที่เธอเห็นเป็นห้องที่เรียบง่ายมากมีโต๊ะหนึ่งตัวกับเก้าอี้สองตัวและเตียงอีกเตียงมันคุ้นตาเล็กน้อย เหมือนเธอเคยมาที่นี่มาก่อน"คุณตื่นแล้วเหรอ"ในเวลานี้ ลู่เฉินก็เดินเข้ามาอย่างกะทันหันในมือของเขายังถือโจ๊กเนื้อหมูใส่ผักกวางตุ้งชามหนึ่งไว้แม้ว่ามันจะจืดมาก แต่สําหรับหลี่ชิงเหยาที่หิวมาสองวันแล้ว มันก็น่าดึงดูดมากทีเดียวจนท้องของเธอเริ่มทนไม่ไหวและร้องโครกครากออกมา"คุณเป็นคนช่วยฉันหรอ?"หลี่ชิงเหยาค่อนข้างอึดอัดเลยชิงถามก่อน"คุณได้รับบาดเจ็บ เป็นลมอยู่ข้างถนน ผมเลยไปหิ้วคุณกลับมา" หลู่เฉินตอบอย่างสงบ"หิ้วกลับมา?"หลี่ชิงเหยาขมวดคิ้วและทันใดนั้นเธอก็นึกได้และถามว่า "โอ้ใช่แล้ว ฉันหมดสติไปนานแค่ไหนแล้ว? ตอนนี้ตระกูลจ้าวเป็นไงบ้าง? พ่อแม่ของฉันตกอยู่ในอันตรายหรือเปล่า?"การถามกลับเหมือนยิงปืนเป็นชุด ๆ ทําให้ลู่เฉินรู้สึกเวียนหัวไปพักหนึ่งเขาได้แต่อธิบายทีละข้ออย่างอดทนว่า "คุณอยู่ในอาการโคม่าสองวันสองคืนแล้ว ครอบครัวของคุณปลอดภัยดี สําหรับตระกูลจ้าว ถูกคนอื่นเผาไปหมดแล้ว"
หลังจากผ่านการอดทนทุกข์กลั้นมาได้แล้ว หลี่ชิงเหยาหน้าแดงและเหงื่อออกมากแล้วแววตาที่คับแค้ยใจของเธอนั้น จับจ้องไปที่ลู่เฉินจนเขารู้สึกหวาดกลัวก็แค่ทายาเองไม่ใช่เหรอ?ทำไมเธอดูเหมือนโดนดูหมิ่นล่ะ?"ดูพอหรือยัง? ถ้าดูพอแล้วก็ออกไป!"หลี่ชิงเหยาเอาผ้าห่มมาคลุมตัวเอวที่เรียวบางและสะโพกที่เปล่งปลั่งผสมผสานกันเป็นอย่างดี เป็นส่วนโค้งที่มีเสน่ห์อย่างยิ่ง"ยานี้คุณถือไว้ ทายาตัวนี้ไปสักสามถึงห้าวัน แผลเป็นก็จะหายไป"ลู่เฉินไม่กล้าพูดอะไรมาก หลังจากวางขวดยาลงแล้ว เขาก็ออกจากประตูไปอย่างกินปูนร้อนท้องผ่านไปประมาณสิบกว่านาทีหลี่ชิงเหยาที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกจากห้องไปด้วยเมื่อเทียบกับความอับอายและความโกรธก่อนหน้านี้ ตอนนี้เธอกลับมาเย็นชาอีกครั้งเหมือนในอดีตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย"ยืมโทรศัพท์มือถือให้ฉันหน่อย ฉันจะโทรศัพท์"หลี่ชิงเหยายื่นมือไปที่ลู่เฉินที่กําลังกินโจ๊กอยู่อีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไรสักคํา เขาส่งโทรศัพท์ไปอย่างซื่อ ๆ "ปลดล็อครหัสผ่าน?"หลี่ชิงเหยากล่าวอีกครั้ง"วันเกิดคุณ"ลู่เฉินไม่เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำแต่ประโยคนี้กลับทําให้ร่างกายของหลี่ชิงเหย
"นังบ้า! กูจะฆ่าแกตาย!"ผู้บริหารเทียนลูบใบหน้าที่ร้อนแรงของเขา แล้วเขาโกรธจัดและกระโจนเข้าหาเธอทันทีหลี่ชิงเหยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว เธอยกขาขึ้นและเตะที่เป้ากางเกงของผู้บริหารเถียนอย่างแรง"อ้าว!"ผู้บริหารเถียนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขากุมเป้ากางเกงเขาทันทีและนั่งยองๆหน้าของเขาแดงขึ้นมาทันที "น่าขยะแขยง!"หลี่ชิงเหยาส่งเสียงฮึ่มหนึ่งทีแล้วก็หันหลังเดินออกไปเธอได้ชนกับลู่เฉินที่แอบฟังอยู่หน้าประตูพอดี เธอพูดอย่างหงุดหงิดว่า "คุณทําอะไรอยู่?""ไม่มีอะไร ผมกลัวว่าคุณจะเสียเปรียบ" ลู่เฉินยักไหล่เมื่อเขามองไปที่ผู้บริหารเถียนที่ร้องด้วยความเจ็บปวดบนพื้น แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของเขาโชคดีที่หลี่ชิงเหยาเอาชนะในเมื่อกี้ ไม่งั้นถ้าถึงตาเขาที่ลงมือ มือทั้งสองข้างของไอ้อ้วนคนนี้จะต้องหักอย่างแน่นอน"เสร็จธุระแล้ว เราไปกันเถอะ"หลี่ชิงเหยาขี้เกียจพูดอะไรเยอะและเดินออกไปข้างนอกด้วยรองเท้าส้นสูงอารมณ์เธอไม่ดีอย่างมาก"แกแม่งหยุดเดี๋ยวนี้นะเว่ย!"ในเวลานี้ ผู้บริหารเถียนลุกขึ้นด้วยสีหน้าที่ดุร้าย "เตะคนแล้วยังอยากจะวิ่งหนีไปอีกเหรอ? คุณเห็นผมเป็นอะไร?"ด้วยคําสั่งของเขา เจ้าหน้าท
"ใครหน้าไหนมันกล้ามาก่อเรื่องในถิ่นของกู อยากตายหรือไง?"จ้าวหมั่งคาบซิการ์และเดินเข้ามาอย่างหยิ่งผยองถิ่นที่เขาเดินผ่าน ฝูงชนก็รีบแยกย้านกันไป กลัวว่าจะทําให้คนชั่วร้ายคนนี้ขุ่นเคืองแม้แต่หลี่ชิงเหยา สีหน้าของเธอก็เคร่งขรึมขึ้นแม้ว่าจ้าวหู่จะเสียชีวิตแล้ว แต่จ้าวหมั่งยังคงสืบทอดอิทธิพลของจ้าวหู่ทั้งหมด และเขาดูเหมือนจะรุ่งโรจน์มากขึ้นกว่าเดิมประกอบกับมีหม่าเทียนหาวผู้ยิ่งใหญ่ที่คอยสนับสนุนเขาอยู่ มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถยั่วยุเขาได้เลย"คุณออกไปทางประตูด้านข้าง ฉันจะกันตรงนี้ไว้เอง!"หลี่ชิงเหยาก้าวไปข้างหน้าและเอาตัวมาบังลู่เฉินมีตัวตนของเธอค้ำไว้อยู่นี่ แม้ว่าจ้าวหมิ่งจะบ้าบิ่นแค่ไหน เขาก็คงไม่กล้าทําอะไรกับเธอหรอกแต่ลู่เฉินไม่เหมือนกัน เขาไม่มีตัวตนไม่มีภูมิหลัง ในเมื่อเขาตกอยู่ในมือของจ้าวหมั่ง ที่เขาไม่ตายก็จะต้องพิการแน่ ๆ "ไป? ไปไหนล่ะ?""คุณหมั่งมาถึงแล้ว วันนี้ต่อให้พระเจ้าจะลงมา ก็ไม่สามารถช่วยมึงได้หรอก รอตายเถอะ"หลังจากผู้บริหารเถียนหัวเราะอย่างเย็นชา เขาก็ไปต้อนรับอย่างประจบทันที"คุณหมั่งครับ! ในที่สุดท่านก็มาแล้วหรือ? ท่านดูหน้าผมสิ โดนคนอื่นต่อยจนเ
ไม่!ไม่มีทาง!ทันทีที่หลี่ชิงเหยาพึ่งมีความคิดอย่างนี้ขึ้นมา แล้วก็ถูกเธอเองปฏิเสธไปลู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา เขานอกจากหน้าตาหล่อแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถอื่นเลยส่วนจ้าวหมั่ง เขาไม่เพียงได้รับช่วงต่อจากคุณหู่ แต่ยังได้คุมต้าฟากรุ๊ปด้วย แถมยังควบคุมลูกน้องไว้อีกหลายร้อยคน อย่างงี้เขาจะกลัวคนที่ไม่มีความสามารถอะไรอย่างลู่เฉินได้อย่างไรเธอเองคิดมากไปแล้วแน่ ๆ จ้าวหมั่งยังคงเตะต่อยไม่หยุด จนให้ผู้บริหารเถียนเลือดพุ่งเลยทีเดียวถ้าไม่ต่อยก็ไม่ได้ เขากลัวลู่เฉินโกรธจริง ๆ พอพูดไม่ถูกใจหน่อยก็จะฆ่าเขาไปเลย“คุณหมั่งครับ! ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว หยุดต่อยเถอะครับ... ผมขอร้องล่ะ!”ผู้บริหารเถียนตะโกนและร้องอย่างเศร้าโศกจ้าวหมั่งแวะแอบเหลือบมองลู่เฉินและพบว่าสีหน้าของอีกฝ่ายค่อย ๆ คลายลงแล้ว เขาถึงจะหยุดต่อยโชคดีที่ยังมีคนที่ให้เขาระบายอารมณ์ ไม่งั้นจะอันตรายแน่ๆ “มึงมาขอโทษกูจะมีประโยชน์อะไร ถ้าคุณหลี่ไม่ให้อภัยแก วันนี้แกก็จะตายที่นี่!” จ้าวหมั่งด่าด้วยเสียงดัง“คุณหลี่ครับ......ผมขอโทษด้วยครับคุณหลี่!”“ผมผิดเอง ผมสมควรที่จะตาย ผมจะไม่กล้าทำแบบนั้นอีกแล้ว โปรดยกโทษให้ผมด้วยคร
เมื่อช่วงเที่ยง ภายในเทียนเซียงหยวนฉาวซวนเฟยกําลังชิมชาอยู่กับหวางตง“ซวนเฟย คุณยังจําสัญญาเดิมพันก่อนหน้านี้ของเราได้ไหม? ตอนนี้เวลาสามวันก็มาถึงแล้ว ผมยังคงปลอดภัย คุณควรทําตามสัญญาแล้วใช่ไหม?”หวางตงจิบชาและพูดด้วยรอยยิ้ม“ลุงตง คุณจะรีบร้อนอะไร? อีกครึ่งวันแหนะถึงจะถึงสามวันเต็มตามที่เราพนันสัญญากันนะ” สีหน้าของฉาวซวนเฟยสงบมาก“ฮ่าฮ่า... คุณคงจะเชื่อไอ้เจ้าคนโกหกนั่นจริง ๆ แล้วหรือ?”หวางตงรู้สึกว่ามันตลกมาก “ผมฝึกศิลปะการต่อสู้มาหลายปี ร่างกายตัวเองเป็นอย่างไร ผมจะไม่รู้ได้ยังไงเหรอ? คุณดูผมตอนนี้ ผมเหมือนเป็นป่วยงั้นเหรอ?”"ที่เหมือนหรือไม่ ฉันไม่รู้หรอก แต่ฉันเชื่อในการสันนิษฐานของลู่เฉิน" ฉาวซวนเฟยยิ้มเล็กน้อย“ฮึ! ไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้านักต้มตุ๋นคนนั้นมันใส่ยาเสน่ห์อะไรให้คุณ ทําไมคุณถึงได้เชื่อใจเขาได้ขนาดนี้?”หวางตงไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก“ใครจะรู้ล่ะ? นี่อาจเป็นโชคชะตาก็ได้มั้ง...”เมื่อฉาวซวนเฟยนึกถึงหน้าตาของลู่เฉิน เธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กน้อย “ยังไงก็ยังมีเวลาอีกครึ่งวัน ถ้าก่อนมืด ลุงตงยังคงสบายดี ฉันก็จะยอมแพ้ในการพนันโดยดี!”"ได้! ผมจะให้เวลาคุณอีกครึ่งวัน!
พอได้ยินคําพูดของลู่เฉิน คนหลายคนตรงนั้นก็ตกตะลึงกันอยู่พักหนึ่งไม่มีใครคาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเย่อหยิ่งขนาดนี้ แบบว่าไม่ได้มองพวกเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด“ไอ้เด็ก! แกรู้หรือไม่ว่าแกกําลังพูดอะไรอยู่?”หวางตงกัดฟันแน่น สีหน้าของเขาดุร้ายด้วยความเจ็บปวดอย่าว่าแต่ในเมืองเจียงหลิงเล็ก ๆ นี้เลย แม้แต่มณฑลหนานทั้งมณฑล เขาก็นับว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่มีหน้ามีตาคนหนึ่งแต่ตอนนี้ ไอ้ผู้ชายแมงดาคนหนึ่งยังกล้ามาพูดกับเขาแบบนี้งั้นเหรอ?นี่มันช่างขวัญกล้าเทียมฟ้าจริง ๆ “แน่นอนว่าผมรู้ว่าตัวเองกําลังพูดอะไรอยู่ แต่คุณนั่นแหละ ที่ยังไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหา โรคของคุณ มีแค่ผมเท่านั้นที่จะรักษาให้หายได้!" ลู่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา“ไอ้เด็กน้อย! อย่าคิดว่าแกพอรู้กลการหลอกลวงหน่อย แกก็ถือว่าตัวเองเป็นหมอวิเศษแล้ว! ถือโอกาสที่กูยังไม่ได้โกรธมาก แกรีบเจียมตัวไว้จะดีกว่า" หวางตงตะโกน“ใช่! ถ้าแกไม่รักษาให้เจ้านายกู วันนี้กูก็จะจัดการแกซะ!” บอดี้การ์ดขู่“จัดการผมงั้นเหรอ? คุณลองได้นะ” ลู่เฉินหัวเราะอย่างเย็นชา“ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆ ”บอดี้การ์ดโมโหแล้ว ทันใดนั้นเขาก็ก้า
ขุมทรัพย์เงินทองหรืออะไร ลู่เฉินไม่สนใจสักอย่างแต่เมื่อพูดถึงยาวิเศษที่หายากนี้ กลับเป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในขณะนี้ร่างกายของตาแก่ติดเหล้าที่นับวันยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ และเขาอาจจะทนไม่ไหวถึงสิ้นปีนี้เขาต้องรวบรวมยาวิเศษที่เหลืออีก5ต้นให้เร็วที่สุด ถึงจะได้รักษาอาการเจ็บป่วยของอีกฝ่าย“ผมจู้จี้จุกจิกเรื่องสมุนไพรมาก ของที่คุณสะสมไว้เหล่านั้น มันอาจจะไม่ได้มีประโยชน์กับผมนะ" ในที่สุดลู่เฉินก็ไม่ยืนหยัดขยาดนั้น"ไม่ว่าคุณจะต้องการสมุนไพรอะไร ผมก็สามารถหามาให้คุณจนได้" หวางตงพูดรับประกันขึ้นทันที“ลูกดำแดง คุณมีไหม?” ลู่เฉินถาม“อันนี้... ไม่มี” หวางตงส่ายหัว“ดอกคริสตัลเลือดล่ะ?”“ไม่มีเหมือนกัน”“ถ้างั้น เห็ดหลินจือหลากสี?”“น้องลู่ สมุนไพรที่คุณพูดเหล่านี้ ผมไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ” สีหน้าของหวางตงขมขื่น“โสมอายุห้าร้อยปีกับบัวสีฟ้าอายุพันปี คุณน่าจะเคยได้ยินบ้างแหละ?” ลู่เฉินหรี่ตา“เคยได้ยิน ๆ สมุนไพรสองชนิดนี้ผมรู้” หวางตงพยักหน้าแม้ว่าทั้งสองอย่างนี้จะเป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็เคยได้ยิน“แล้วคุณมีไหม?” ลู่เฉินถาม“บัวสีฟ้าอายุพันปีผมไม่รู้