เมื่อช่วงเที่ยง ภายในร้านอาหารไดเนอร์ส"ชิงเหยา คุณดูสิ เมืองหลวงของจังหวัดก็แตกต่างกัน ร้านอาหารใด ๆ ล้วนมีบรรยากาศระดับไฮเอนด์และเกรดสูงขนาดนี้""ผมตัดสินใจแล้ว ต่อไปจะตั้งรกรากอยู่ในเมืองหลวงของจังหวัด ที่นี่ทั้งใหญ่และเจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะทําอะไรก็สะดวก ดีกว่าสถานที่เล็ก ๆ ที่เจียงหลิงมาก"จางชุ่ยฮัวนั่งอยู่บนที่นั่งหรู จ้องมองไปรอบ ๆ และถอนหายใจเป็นครั้งคราวสําหรับเรื่องนี้ หลี่ชิงเหยาก็ดูหมดหนทางเช่นกันเดิมทีเธอตั้งใจจะมารับตําแหน่งที่เมืองหลวงของจังหวัดคนเดียว แต่แม่และน้องชายต้องตามมาบอกว่าญาติอยู่ข้าง ๆ สามารถดูแลกันได้ไม่ถึงกับเวลาป่วยไม่มีคนดูแล"แม่ นาอยู่แถวนี้รึเปล่า" หลี่ห้าวที่อยู่ข้าง ๆ ก็ถามอย่างกะทันหัน"ใช่ ฉันนัดกินข้าวกับป้าน้อยของพวกคุณแล้ว คํานวณเวลาดู น่าจะใกล้ถึงแล้ว" จางชุ่ยฮัวพยักหน้าขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่หน้าร้านอาหาร จู่ๆ มีชาย 3 คนเดินเข้ามาคนที่เดินนําหน้าเป็นหญิงวัยกลางคนแต่งตัวสดใสสร้อยคอทองคำ ต่างหูทอง แหวนทอง ทั้งตัวบนล่าง เรียกได้ว่าเป็นสีทองระยิบระยับ ดูเหมือนจู่ๆ เธอก็รวยขึ้นมาผู้หญิงคนนี้คือน้องสาวของจางชุ่ยฮัว จาง
"ทุกท่าน ในนครเอกของมณฑล ผมนี่ก็ถือว่ามีเส้นสายอยู่บ้างนะครับ ต่อไปถ้าพวกคุณเจอปัญหาอะไร มาหาผมได้เสมอครับ" ซือถูหลางยืนนามบัตรใบหนึ่งให้ทันทีระหว่างพูด ยังแม่งมองไปทางหลี่ชิงเหยาเป็นพิเศษ ดวงตาของเขาเปล่งประกายไปด้วยความปรารถนาในตัวเธอผู้หญิงคนนี้ ช่างสวยมากจริง ๆไม่เพียงรูปร่างและใบหน้าเท่านั้น ส่วนอื่น ๆ ของเธอก็แทบจะหาที่ติไม่ได้แม้แต่น้อย ช่างเป็นของดีในบรรดาของดีจริง ๆเหนือกว่าถานหงผู้ที่อยู่แนวหน้า ซึ่งเหนือกว่าเกินหนึ่งดาวครึ่ง"คุณชายซือถูช่างกล้าได้กล้าเสียจริง ๆ มา ๆ ทุกท่านรีบนั่ง"จางชุ่ยฮัวยิ้มทักทายไปพลางตะโกนไปว่า "พนักงานเสิร์ฟ เสิร์ฟอาหาร!""เดี๋ยวก่อน"ในเวลานี้ หลี่ชิงเหยาก็เอ่ยปากขึ้นว่า "ยังมีอีกคนยังมาไม่ถึง""ห้ะ? มีใครอีกล่ะ"จางชุ่ยฮัวมองซ้ายมองขวา ท่าทีแปลก ๆหลี่ชิงเหยากำลังจะเอ่ยปาก ประตูร้านอาหารก็เปิดอีกครั้งลู่เฉินเดินดุ่ม ๆ เข้ามา"อยู่นี่"หลี่ชิงเหยาลุกขึ้นแล้วโบกมือคนหลายคนหันมองกลับไปแล้วขมวดคิ้วทันที"ชายคนนี้มันมาได้ยังไงกัน?"จางชุ่ยฮัวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเนื่องจากความทรงจำแต่เดิม จนถึงตอนนี้เธอก็ยังคงดูถูกลู่เฉินอยู่เล็
"เพื่อน เงินเดือนเท่านี้น่ะ มันไม่ต่ำแล้วนะ ถ้าคุณทําตัวดี อาจจะได้ทิปนิดหน่อยด้วยก็เป็นได้" ซือถูหลางพูดติดตลก"ลู่เฉิน การได้เป็นคนขับรถให้แฟนฉันน่ะมันเป็นบุญของคุณมากแล้ว พลาดโอกาสนี้ไป คุณเสียใจภายหลังก็ไม่ทันแล้วนะ" ถานหงมีสีหน้าหยิ่งผยอง"ถูกต้อง! ซือถูหลางเป็นผู้จัดการของฟู่กุ้ยกรุ๊ป อนาคตไกล คุณตามเขาเนี่ย ได้ดิบได้ดีแน่ ทําไมไม่ทําล่ะ" จางหงเหมยก็แสดงความเห็นด้วย"ฟู่กุ้ยกรุ๊ปเก่งมากเลยงั้นเหรอ?" ลู่เฉินไม่หวั่นไหวแม่แต่น้อย"ฟู่กุ้ยกรุ๊ปคุณยังไม่รู้อีกเหรอ? นั่นเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ระดับหลายแสนล้านเชียวนะ! ถอนขนมาสักเส้นก็เพียงพอสําหรับให้คุณกินดื่มไปตลอดชีวิตแล้ว!" จางหงเหมยแสดงสีหน้าดูถูกคนบ้านนอกยังไงก็เป็นคนบ้านนอกวันยันค้ำ ไม่เข้าใจอะไรซะเลย"ขอโทษที ไม่เคยได้ยินมาก่อน" ลู่เฉินส่ายหัวอีกครั้งสำหรับเรื่องธุรกิจในนครเอกของมณฑล เขาไม่เข้าใจอะไรเลย"ฟู่กุ้ยกรุ๊ปไม่เคยได้ยิน เทพเจ้าโชคลาภซุนที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองเจียงหนานคนนั้น คุณน่าจะรู้ใช่ไหม?" ซือถูหลางยิ้มมุมปาก"เทพเจ้าโชคลาภซุน?" ลู่เฉินเลิกคิ้ว "แน่นอนว่าต้องรู้สิ""รู้ก็ดี บอกความจริงกับคุณให้นะ ฟู่กุ้ยก
"จําผมไว้แล้วยังไง? คุณจะทําอะไรผมได้?"ซือถูหลางยิ้มติดตลก เขาไม่ได้ตระหนักเลยว่าภัยพิบัติครั้งใหญ่กําลังจะมาถึง"ผมคือซุนฟู่กุ้ย คุณทํางานภายใต้กรุ๊ปของผม คุณว่าผมจะทําอะไรคุณได้ล่ะ?" ซุนฟู่กุ้ยพูดอย่างเย็นชา"แสดง แสดงให้ผมดูต่อไปเถอะ คุณคิดว่าผมจะเชื่อคําพูดซี้ซั้วเหล่านี้ของคุณเหรอ?" ซือถูหลางหัวเราะเยาะ"ซือถูหลาง ตอนนี้ผมจะแจ้งให้คุณทราบอย่างเป็นทางการว่าคุณถูกไล่ออกจากฟู่กุ้ยกรุ๊ปแล้ว พรุ่งนี้ไม่ต้องมาบริษัทอีกแล้ว" ซุนฟู่กุ้ยขี้เกียจพูดต่อกลอนกับเรื่องไร้สาระ"ฮ่า ๆ ๆ... ไล่กูออกงั้นเหรอ? คุณนี่มันช่างกล้าดีจริง ๆ นะ"ซือถูหลางหัวเราะอย่างกําเริบเสิบสาน "บอกความจริงกับมึงให้นะ ผมมีคนเป็นแบ็คในฟู่กุ้ยกรุ๊ป แม้แต่ทพเจ้าโชคลาภซุนเองก็ไม่มีสิทธิ์ไล่กูออก นับประสาอะไรกับของปลอมอย่างมึง?""อย่างนั้นเหรอ? งั้นผมต้องถามกลับว่า แบ็คของคุณที่ว่าเนี่ย คือใคร?" ซุนฟู่กุ้ยกล่าวอย่างเย็นชาคนประเภทนี้ยังสามารถเป็นผู้จัดการได้ ดูเหมือนว่าฟู่กุ้ยกรุ๊ปต้องทำการปรับปรุงให้ดี ๆ แล้ว"แบ็คของผมคือใคร มึงมันยังไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้ พูดง่าย ๆ ก็คือ สถานภาพของผม เป็นอะไรที่มึงไม่สามารถรุกร
"แปลกจัง พวกเขามาทางนี้ได้ยังไง? ดูท่าทางที่ดุร้ายนั่นสิ อย่างบอกนะว่ามาหาเรื่องเรา ไม่ใช่หรอกมั้ง?"จางชุ่ยฮัวกลัวจนคอหดไป ท่าทีเครียด เกร็งเล็กน้อย"พวกเขามาตามจัดการผมเอง"ลู่เฉินพูดอย่างเย็นชาออกมาประโยคหนึ่ง"จัดการคุณ? คุณไปรุกรานคนอื่นอีกแล้วเหรอคะ?"หลี่ชิงเหยาขมวดคิ้วทันใดนั้นเธอก็พบว่าช่วงนี้อีกฝ่ายนั้นดูเหมือนจะมีปัญหาต่าง ๆ มากมาย"ไม่นับว่าเป็นการรุกรานนะครับ ผมก็แค่ชกต่อยเขาไปทีนึง ถือโอกาสสอนการปฏิบัติตัวเป็นคนดีให้เขาบ้าง" ลู่เฉินพูดนิ่ง ๆ"ที่นี่ไม่น้อยหน้าไปกว่าเมืองเจียงหลิง มีคนที่หลบซ่อนความสามารถของตนอยู่ทุกหนทุกแห่ง บางคน กระทั่งว่าเป็นกลุ่มคนที่พวกเราไปรุกรานไม่ได้เลย!" หลี่ชิงเหยาพูดเสียงต่ำแม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นประธานของไป่ยี่กรุ๊ป แต่ก็ยังส่งมอบไม่เสร็จสิ้น หนึ่งคือไม่มีเงินทุน สองคือคอนเนคชั่น และสามคือไม่มีพื้นฐานช่วงเวลานี้ แน่นอนว่าคือช่วงการหาเพื่อนเป็นหลักตามปกติต้องทำตัวเงียบ ๆ หลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา นี่สิ ถึงเป็นวิธีการเอาตัวรอด"คุณชิงเหยาครับ คุณไม่ต้องกังวลไป มีผมอยู่ทั้งคน วันนี้ไม่มีใครกล้ามาทำเก่ง ลองดีในนี้แน่นอนครับ"ซือถูหล
"เพี้ยะ!"ต่งซือจี๋ตบเข้าที่ใบหน้าของซือถูหลางพลังมหาศาลที่พุ่งตรงไป ทำเอาอีกฝ่ายเซไปข้างหลังจนเกือบล้มเลยทีเดียวรอยนิ้วมือทั้งห้านิ้วบนใบหน้าก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน"ห้ะ?"เมื่อเห็นซือถูหลางถูกตี ถานหงและคนอื่น ๆ ต่างก็งงงวยพวกเธอไม่คาดคิดว่านักเลงหลายคนนั้นจะกล้าได้ขนาดนี้ แม้แต่ผู้จัดการของฟู่กุ้ยกรุ๊ปยังกล้าลงมือหรือนี่ พวกมันอยากขึ้นสวรรค์กันแล้วงั้นเหรอ!"คุณ... คุณกล้าดียังไงมาตีกู?"ซือถูหลางปิดหน้า เขาไม่อยากจะเชื่อเลย “คุณรู้ไหมว่ากูเป็นใคร ผมเป็นผู้บริหารระดับสูงของฟู่กุ้ยกรุ๊ปเชียวนะ!""ฟู่กุ้ยกรุ๊ปแล้วยังไง?"ต่งซือจี๋ไม่พูดอะไรสักคําแล้วตบหน้าซือถูหลางไปอีกแรง และด่าขึ้นว่า “ถ้าซุนฟู่กุ้ยมา ผมก็พอจะไว้หน้าให้บ้าง แต่ไอ้แค่ผู้จัดการกระจอก ๆ คนนึง คุณคิดว่ามึงเป็นใคร ใหญ่มาจากไหนวะ?!”"ไอ้พวกสวะ! คุณตายแน่! กล้าตีผมงั้นเหรอ? ผมจะให้มึงได้ชดใช้แน่!"ซือถูหลางที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมโทรเรียกคน"เย็ดแม่คุณสิ!"ต่งซือจี๋ถีบซือถูหลางล้มลงกับพื้นและด่าว่า “ความตายใกล้มาเยือนแล้วยังกล้าเหิมเกริมขนาดนี้อีก จัดการมัน! ตีให้ตาย!"ตามด้วย
"ห้ะ...!"ตามด้วยเสียงกรีดร้อง อันธพาลต่างตั้งตัวไม่ทัน พวกมันล้มลงกับพื้นและกลิ้งด้วยความเจ็บปวดไปมาในพริบตา บนพื้นก็กองเต็มไปด้วยพวกอันธพาลที่ขาของทุกคนก็ถูกตะเกียบเสียบอยู่ โดยที่จะดึงก็ดึงออกไม่ได้"ห้ะ?"เมื่อเห็นฉากนี้ ต่งซือจี๋ถึงกับอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงต้องรู้ว่า อันธพาลเหล่านี้ เป็นคนที่เขาเลือกมาอย่างพิถีพิถันเองเชียวนะทุกคนได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพและมีฝีมือที่ดีมากตามปกติแล้ว สิบรุมหนึ่ง มันน่าจะเป็นการบดขยี้อย่างไม่ต้องสงสัยนี่แต่แล้ว เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าแค่จ้องหน้ากัน คนของเขาก็ล้มลงไปทั้งหมดแล้วแค่ตะเกียบไม่กี่อันเท่านั้น มันมีพลังทําลายล้างมากขนาดนี้เชียวเหรอ?"ไม่ใช่แล้วมั้ง? ผู้ชายคนนี้เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?"เมื่อมองไปที่ลู่เฉินที่เฉย ๆ เหมือนกำลังยืนกืนลมชมวิวนั้น จางหงเหมยก็อดตกใจไม่ได้ในความทรงจำของเธอ อีกฝ่ายเป็นแค่ไอ้คนกระจอก ๆ ที่ไม่มีคนรู้จักทําไมถึงมีฝีมือได้ขนาดนี้?"แม่งเอ้ย! ที่แท้ก็เคยฝึกมา? ทําไมไม่ลงมือให้เร็วกว่านี้ล่ะ!"ซือถูหลางกัดฟัน เขารู้สึกเพียงปวดเมื่อยตามตัวเท่านั้นถ้าอีกฝ่ายช่วยเร็วกว่านี้ เขาก็จะโดนตีฟรี ๆ แบบนี้ได้ย
"ชายคนนี้ เขามาจากไหนกันแน่? คาดไม่ถึงเลยว่าจะเชิญพ่อลูกตระกูลกวนมาได้?!"เมื่อมองดูกวนเถี่ยกวนถงที่เดินเข้ามา ซือถูหลางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนังศีรษะชาสองคนนี้ต่างเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงในสังคมเลยแค่ใครคนนึงในสองคนก็สามารถส็ศัตรูเป็นร้อยได้ปกติไม่เคยออกเคลื่อนไหวง่าย ๆ การจะเชิญสองคนนี้ออกหน้าเลยไม่ใช่เรื่องง่าย"พี่หลาง พ่อลูกตระกูลกวนเป็นใคร มาจากไหน? พวกเขาเก่งมากเหรอ?" ถานหงถามอยู่ข้าง ๆ"ไม่ใช่แค่เก่งเท่านั้น ชายสองคนนี้ สําหรับคนธรรมดาแล้ว นั่นถือว่าเป็นคือภัยน้ำท่วมหรือสัตว์ประหลาดเลยก็ว่าได้!""โดยเฉพาะคนที่ชื่อกวนเถี่ย เขายิ่งน่ากลัวแบบผิดปกติ เพราะเขานั้นฆ่าคนอย่างกับค้นข้าวของ""คนที่ตายด้วยมือของเขามีไม่ถึงร้อย ก็มีถึงแปดเก้าสิบเลย"ซือถูหลางมีสีหน้าเคร่งขรึมในฐานะที่เป็นกำลังสำคัญของฟู่กุ้ยกรุ๊ป สําหรับเรื่องในสังคมนี้นั้น เขาย่อมรู้มาบ้าง"ห้ะ? น่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ?!"ถานหงหดคอลงและไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังซือถูหลางทันทีแม้ว่าจางชุ่ยหัวและคนของเธอจะไม่พูดอะไรสักคํา แต่พวกเขาก็ไปยืนอยู่ไกล ๆ กลัวว่าจะพลอยโดนไปด้วยสังคงสังคมอะไร พวกเธอน่าจะมองภาพไม่ออก