"ลูพี่คะ คุณขึ้นไปก่อนเถอะ ฉันจะรอเพื่อนคนหนึ่งที่นี่"เมื่อเดินเข้าไปในล็อบบี้ของโรงแรม ถานหงก็หาข้ออ้างให้หลี่ชิงเหยาออกไปเพราะเธอรู้ดีว่ามีตัวถ่วงเช่นนี้อยู่ จะถูกเธอบดบังแสงอย่างสมบูรณ์อย่างนี้เธอจะไปคบหากับผู้มีอํานาจได้อย่างไร? และจะจับผู้ช่ายรวยๆได้ยังไง?"โอเค ฉันจะรอคุณที่ห้องจัดเลี้ยง"หลี่ชิงเหยาไม่ได้คิดมาก เธอขึ้นลิฟต์แล้วก็ขึ้นไปชั้นบนหลังจากที่ไม่มีอะไรที่รัดใจ ถานหงก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้ชมทั้งหมดทันทีเธอจงใจเดินไปเดินมารอบๆล็อบบี้ ทําท่าตุ้งติ้ง ได้ดึงดูดความสนใจไม่น้อยผู้ชายบางคนที่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อคุยด้วย ล้วนถูกเธอปฏิเสธไปทั้งหมด เธอตั้งใจจะเล่นเกมที่แสร้งปล่อยเพื่อจับ"สาวสวยคะ ต่างหูคุณสวยจังเลย ขอถามหน่อยว่าซื้อที่ไหนล่ะคะ""ใช่ ใช่ ฉันไม่เคยเห็นต่างหูที่ประณีตและสดใสเช่นนี้มาก่อนเลย""ทับทิมสองเม็ดใหญ่ขนาดนี้ น่าจะใช้เงินไม่น้อยใช่ไหม?"ไม่ใช่แค่ผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงบางคนก็ล้อมเข้ามาเริ่มถามนี่ถามโน่นสําหรับเครื่องประดับ พวกเธอล้วนปฏิเสธไม่ได้เลย"นี่เป็นต่างหูทับทิมของแพนดอร่า แฟนหนุ่มส่งให้ รุ่นสั่งทําส่วนตัว เป็นเอกลักษณ์ของราชวงศ์ ในทั
ภายในห้องจัดเลี้ยงเมื่อมองเห็นถานหงที่เดินมาอย่างหอบไม่หยุด หลี่ชิงเหยาอดไม่ได้ที่เกิดความร้สึกแปลกๆ ว่า"ถานหง คุณบอกว่ารอเพื่อนไม่ใช่หรือ? แล้วคนล่ะ""เธอพอดีมีธุระ มาไม่ได้แล้วค่ะ"ถานหงยิ้มอย่างอึดอัดแล้วพูดต่อว่า "โอ้ใช่ พี่คะ ขอยืมกระจกแต่งหน้าของคุณให้ฉันใช้หน่อย ฉันจะแต่งหน้าค่ะ""ฉันจําได้ว่าคุณได้พกกระจกแต่งหน้ามานะ" หลี่ชิงเหยากล่าว"กระจกฉันไม่ค่อยดี กระจกของพี่ใช้ดีกว่านะ"ถานหงไม่พูดอะไร เธอหยิบกระเป๋าของหลี่ชิงเหยามาแล้วก็เริ่มค้นหาขึ้นมาสําหรับการกระทํานี้ หลี่ชิงเหยาไม่พอใจมากลูกพี่ลูกน้องของเธอคนนี้ ถูกตามใจมากจริงๆ ไม่มีมารยาทแม้แต่หนิดหนึ่ง"พี่คะ ขอบคุณนะคะ"หลังจากค้นกระจกแต่งหน้าออกมา ถานหงก็โยนกระเป๋ากลับไป แล้วหาข้ออ้างว่าไปที่เข้าห้องน้ำในขณะนี้ ภายในห้องจัดเลี้ยง จู่ๆ ได้เกิดเสียงเอะอะขึ้นจากนั้น ในล้อมรอบด้วยกลุ่มคน หม่าตินหลานก็เดินเข้ามาเหมือนดาวพราวในที่สุด เธอก็ยืนตรงกลางสนาม"ทุกคนขอเงียบก่อนนะคะ ฉันมีเรื่องต้องประกาศ"หม่าตินหลานยกมือขึ้นและทำท่ากดลงทั้งห้องจัดเลี้ยงเลยเงียบลงทันที"วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของฉัน เดิมทีเป็นวันท
"อีดอก! กล้ามาอ่อยชายของกูเหรอ? กูจะให้แกอยู่ไม่สู้ตาย!"หม่าตินหลานกรอกไวน์อย่างต่อเนื่อง ต่อหน้าทุกคนทำให้หลี่ชิงเหยาอับอายอย่างเต็มที่การกระทำของเธอหยาบคายและไร้ความปราณีหลังจากกรอกไวน์ไปหนึ่งขวดเสร็จ หลี่ชิงเหยาก็ทรุดลงบนพื้นแล้ว น่าอับอายมากแต่หม่าตินหลานไม่ได้หยุดและจับผมของหลี่ชิงเหยาแล้วดึงหัวของเธอขึ้นมาจากนั้นก็ตบหน้าเธออย่างแรงซ้ำๆ"อีดอก อีดอก!""แม้ผู้ชายของกู แกก็ยังกล้าแตะต้อง ใจกล้าขนาดนี้หรือ?"หม่าตินหลานตบไปด่าไป สีหน้าเธอบ้าคลั่งมากหลังจากตบไปนาน ใบหน้าที่สวยของหลี่ชิงเหยาก็บวมแดงมาก มุมปากเธอก็ไหลเลือดออกแล้ว"ทำไม? ทำไม?" เธอเวียนหัวและอ่อนแอ"แกยังมีหน้ามาถามว่าทำไมหรือ? อีดอก แกทำอะไรไป หรือว่าในใจแกไม่รู้เหรอ?"หม่าตินหลานจับผมของหลี่ชิงเหยาและกระแทกหัวของเธอกับพื้นอย่างรุนแรงทันใดนั้น หัวเธอก็ออกเลือดเลือดผสมกับไวน์ไหลลงมาทีละเล็กทีละน้อยตามแก้มเธอเมื่อหม่าตินหลานมองไปที่หลี่ชิงเหยาที่ล้มลงกับพื้นและลุกขึ้นไม่ได้ เธอไม่เพียงแต่ไม่ได้ใจอ่อน แต่ยังตื่นเต้นมากขึ้นด้วยเธอยกเท้าขึ้นอย่างรุนแรงและเหยียบบนนิ้วของหลี่ชิงเหยาอย่างหนัก"อ๊ะ!"
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะฝนตกขึ้นแล้วในขณะนี้ ในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมตี้หวางยังคงคึกคักเป็นพิเศษมากเรื่องเล็กๆก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดําเนินงานของงานเลี้ยงหม่าตินหลานเป็นเหมือนเจ้าหญิงผู้สูงส่งถูกผู้คนล้อมรอบ และได้รับการประจบสอพลอต่างๆแต่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าสายตาของเธอได้มีแขกผู้มีเกียรติเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีสิทธิ์พูดคุยกับเธอ"คุณหนูครับ คุณชายเฉินกับคุณชายหลิวมาถึงแล้วครับ"ในเวลานี้ พ่อบ้านคนหนึ่งเดินมารายงานด้วยเสียงต่ำหม่าตินหลานมองย้อนกลับไป ได้เห็นชายสองคนที่หน้าตาหล่อเหลากำลังยืนอยู่ที่ประตูห้องจัดเลี้ยงอย่างเงียบ ๆหนึ่งในนั้นคือ เฉินเหยียนของสำนักสวนอู่!ส่วนอีกคนเป็นรุ่นพี่ของเฉินเหยียน หลิวกวงเหนียนหลังทั้งสองคนยังเดินตามสาวใช้อีก 2 คน"คุณชายเฉิน คุณชายหลิวคะ ไม่ได้เจอกันเสียนานแล้วนะคะ"หม่าตินหลานรีบต้อนรับไปด้วยรอยยิ้มทันที"คุณหนูหม่าครับ สุขสันต์วันเกิดนะครับ"เฉินเหยียนและหลิวกวงเหนียนต่างก็มอบของขวัญชิ้นหนึ่งให้เธอ"มันเป็นเกียรติของฉันแล้วที่ทั้งสองท่านมา ทำไมต้องเกรงใจขนาดนี้ล่ะ?" หม่าตินหลานพูดด้วยรอยยิ้ม"มันส
"ไอ้คนนี้กล้าคบคุณหนูหม่าเหรอ? กล้าหาญจริง ๆ""บ้าไปแล้ว ไอ้เด็กคนนี้บ้าไปแล้วแน่ๆ!""ก่อเรื่องในที่สาธารณะ แถมยังตบหน้าคุณหนูหม่าอีก วันนี้แม้แต่เทพเจ้าก็ช่วยเขาไม่ได้เลย"เนื่องจากพฤติกรรมของลู่เฉิน ทำให้เกิดความโกลาหลในห้องบางคนตกใจ บางคนตกตะลึง บางคนชื่นชมนับถือและบางคนไม่กล้าเชื่อเพราะในจิตใต้สำนึกของพวกเขา จะมีแต่กรณีของหม่าตินหลานที่รังแกคนอื่น ที่เธอโดนตบหน้าเช่นนี้พวกเขา ไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลย"ฆ่าเขาไปเลย ฆ่าเขาให้ฉัน!"เมื่อหม่าตินหลานลุกขึ้นอีกครั้ง เธอก็เป็นบ้าไปแล้วหน้าเธอดุร้ายจนน่ากลัว"ฆ่า!"กลุ่มบอดี้การ์ดที่อยู่รอบ ๆในที่สุดก็ฟื้นตัวได้พวกเขาพากันหยิบกระบองเหล็กยืดหดออกมารุมกันลู่เฉินไม่เปลี่ยนสีหน้า เขาลงมือเร็วเหมทอนสายฟ้าแลบ ต่อยทีละคน จนจ่อยให้บอดี้การ์ดล้มลงกับไปหมดกระบวนการทั้งหมดนั้นง่ายและตรงไปตรงมาโดยไม่มีอุปสรรคใด ๆเมื่อมองไปที่บอดี้การ์ดที่ล้มลงและร้องครวญกับพื้น ทุกคนก็ตกใจอีกครั้งคนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ยอดฝีมือของตระกูลหม่า ปกติจะตีห้าคนด้วยคนเดียว ก็ไม่มีปัญหาเลยแต่ผู้ยอดฝีมืออย่างนี้ เพียงแค่เผชิญหน้าก็ถูกลู่เฉินตีจนล้มลงทั้งหมด
"กล้าตีคนของสำนักสวนอู่เหรอ? ไม่รู้ที่ตายจริง ๆ"สายตาของหลิวกวงเหนียนกลายเป็นไม่ดีมากพวกเขามีสายสัมพันธ์เป็นเหมือนพี่น้องกัน กล้าตบศิษย์น้องเขา ก็คือการตบหน้าเขาอยู่"ช่วยฉัน...ช่วยฉันด้วย!"หม่าตินหลานเหมือนจะได้เห็นผู้ช่วยให้รอด และเธอก็ติ่นเต้นขึ้นอย่างกะทันหัน"คุณหนูหม่าวางใจได้เลยครับ มีผมกับศิษย์พี่อยู่ วันนี้ไอ้เด็กคนนี้ทำร้ายคุณไม่ได้หรอก" เฉินเหยียนมั่นใจมากเขาเพิ่งพูดจบ ลู่เฉินก็ตบอีกครั้ง ตบให้หม่าตินหลานบินออกไปโดยตรงเขาไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระใดๆ แต่ตบหน้าด้วยการกระทำจริงโดยตรง"แก..."เฉินเหยียนโกรธอยู่พักหนึ่งเขาปรับตัวกับจู่โจมอย่างฉับพลันของลู่เฉินไม่ได้เล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด"ไอ้สัตว์ แกตายแน่... ทั้งครอบครัวแกจะตายแน่!""สองคนนี้เป็นผู้ยอดฝีมือของสำนักสวนอู่ ต่อหน้าพวกเขา แกมันเป็นแค่ไอ้ขยะ!""กูจะให้พวกเขาหักมือและเท้าของแก แล้วค่อยทรมานแก!"หม่าตินหลานยืนขึ้นอย่างโซซัดโซเซ เธอหอบหายใจหนัก กัดฟันและดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความแค้น"สำนักสวนอู่?"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็เกิดความปั่นป่วนขึ้นอีกครั้งในห้องจัดเลี้ยงชื่อเสียงของสำนักสวนอู่ ทุกคนในที่เกิด
"เชี่ย! เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?"เมื่อมองไปที่สาวใช้สองคนที่ดาบหักและได้รับบาดเจ็บ ทุกคนก็ตกตะลึงอยู่พักหนึ่งพวกเขายังคิดว่าลู่เฉินจะซวยแล้ว แต่ไม่คิดว่าหลังจากสู้ไปกระบวนท่าเดียวแล้ว ผู้ยอดฝีมือของสำนักสวนอู่กลับได้รับบาดเจ็บสาหัสและพ่ายแพ้ผลลัพธ์นี้เกินความคาดหมายของพวกเขาจริง ๆ"ไอ้หมอนี่ จะเก่งขนาดนี้หรือ?"ตาของเฉินเหยียนกระตุก ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจครั้งที่แล้วยังสามารถอธิบายได้ด้วยการไม่ได้เตรียมตัว แต่ครั้งนี้ ก็คือความแตกต่างของความแข็งแกร่งจริง ๆ แล้ว"มีความสามารถจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่กล้าโหยกเหยกที่นี่"หลิวกวงเหนียนหรี่ตาลง มุมปากเขายกรอยยิ้มที่มีความหมายแฝงอยู่ความแข็งแกร่งของอาหลานและอาจวี๋แม้ว่าจะน้อยกว่าเขามาก แต่ก็เพียงพอที่จะจัดการกับนักรบทั่วไปแล้วอีกฝ่ายจะสามารถเอาชนะทั้งสองคนนี้ได้อย่างง่ายดาย พูดได้แค่ว่าเขามีความสามารถจริง ๆแต่ไม่มาก"คุณชายเฉินคะ! คุณบอกว่าไม่มีปัญหาไม่ใช่เหรอ" หม่าตินหลานตะคอดด้วยเสียงต่ำใบหน้าที่เปลี่ยนไปของเธอ ตอนนี้ดูเหมือนดุร้ายเหมือนผีร้าย"เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยแล้ว"เฉินเหยียนยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนและอธิบาย
"อู้!"ลมแรงพัดเข้าหา พัดจนใบหน้าของหลิวกวงเหนียนเหยไปแล้วเขาจ้องมองอย่างตั้งใจ โดยพบว่าหมัดของลู่เฉินหยุดอยู่ที่หน้าอกของเขาพอดีแม้ว่าระยะทางจะเหลืออีกไม่กี่เซนติเมตร แต่ลมหมัดที่น่ากลัวนั้นยังคงกระแทกจนเขาตัวสั่นแล้วเขาก็พ่นเลือดออกมาด้วยเสียง “พรวดดด”แค่ลมหมัดก็สามารถทำให้เขาบาดเจ็บภายในได้ สามารถจินตนาการได้ว่าถ้าหมัดนี้ต่อยที่ร่างกายเขา ผลจะร้ายแรงแค่ไหนโชคดีที่เมื่อกี้เขาคุกเข่าได้ทัน ไม่งั้นเขาจะตายไปแล้ว"ขอท่านปรมาจารย์ไว้ชีวิตผมด้วยครับ!"หลิวกวงเหนียนกลัวจนเหงื่อออกมาก เขาคุกเข่าขอความเมตตาอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีบารมีก่อนหน้านี้อีกแล้วเมื่อเทียบกับความตกใจแล้ว ตอนนี้ข้างในใจเขาเป็นความกลัวมากกว่าเพราะในช่วงเวลาที่หมัดและฝ่ามือชนกัน ลมปราณภายในที่เขาภาคภูมิใจถูกกระแทกจนแตกโดยตรงราวกับว่ามันทำด้วยกระดาษ ไม่มีความสามารถในการต้านทานใด ๆแม้แต่เส้นลมปราณทั่วร่างกายของเขาก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักมีเพียงเมื่อความแข็งแกร่งต่างไปหลายระดับ ถึงจะเกิดสภาพนี้ได้ดังนั้น เมื่อลู่เฉินลงมืออีกครั้ง เขาเลือกที่จะขอความเมตตาอย่างเด็ดขาดผู้ชายแท้ๆรู้ว่าเมื่อใดควรยอมและเมื