โรงอาหารคณะวิศวะ...
"ว่าไงไอ้ปอร์เช่ รุกยัยแว่นไปถึงไหนแล้ววะ"
และเมื่อปอร์เช่เดินเข้าไปนั่งอยู่ที่โต๊ะ ไทเกอร์ก็ส่งเสียงมาเอ่ยถามทันที ไม่รู้จะอยากสอดรู้สอดเห็นอะไรเรื่องของเขานักหนา ถ้าไม่ติดว่าพนันกับมันไว้ เขาจะไม่บอกอะไรแม้แต่นิดเดียว
"ไม่เสือกสิเกอร์"
ชายหนุ่มยักคิ้วให้เพื่อนอย่างกวนประสาท ขยับตัวนั่งลงตรงข้ามกับแบรี่ ที่ตอนนี้จ้องมองหน้าเขาเหมือนเป็นคนแปลกประหลาด
"มึงเป็นเหี้ยอะไรไอ้แบรี่ ไม่ต้องจ้องขนาดนั้นกูรู้ว่าตัวเองหล่อเว้ย"
เขาเอ่ยออกไปติดตลก แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เพื่อนจะไม่ขำเสียแล้ว
"มึงอย่าไปยุ่งกับเขาเลยปอร์เช่ กูสงสารยัยนั่น ถ้ารัก และหลงมึงจนถอนตัวไม่ขึ้น มันจะเป็นบาปติดตัวมึงเปล่า ๆ"
ทุกคนทั้งโต๊ะจ้องมองไปยังแบรี่ด้วยความทึ่ง เพราะไม่คิดว่าเพื่อนรักจะพูดยาวเหยียดขนาดนี้
"ตั้งแต่คบกันมา วันนี้มึงพูดยาวที่สุดเลยนะเว้ย"
เขาหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน ไม่ได้มีความสำนึกกับสิ่งที่เพื่อนเตือนเลยแม้แต่น้อย มันจะอะไรนักหนา เธอชอบเขา เขาก็สนองให้ไง วิน ๆ ทั้งคู่ ก็แค่อยากได้เบอร์น้องมะปรางเองไหมล่ะ เชื่อเถอะไม่ถลำตัวมากขนาดนั้นหรอก
"เออ! มึงจะทำอะไรก็ทำเถอะ แล้ววันหนึ่งมึงจะเสียใจที่ทำแบบนี้"
แบรี่เอ่ยออกมาก่อนจะก้มหน้ากินข้าวตรงหน้าต่อไม่สนใจใครอีก ส่วนปอร์เช่ก็วางกระเป๋าลงที่โต๊ะ ลุกขึ้นเดินไปซื้อข้าว กำลังคิดอยู่ว่าวันนี้จะกินอะไรดี ก่อนจะชะงักไปเมื่อสบตาเข้ากับยัยแว่นที่ตอนนี้กำลังต่อคิวซื้อน้ำอยู่
"เธอ ๆ"
เขาเดินไปสะกิดแขนยัยแว่น เมื่อเธอเห็นว่าผู้ชายที่ชอบเดินเข้ามาสะกิด ก็เซผงะด้วยความตกใจ ทำตัวดูตลกเหมือนกันนะเนี่ย
"นะ...นายมีอะไรเหรอ"
เธอคุยกับเขาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก แถมยังก้มหน้าลงต่ำไม่ยอมสบตาอีก
"ฉันยังไม่รู้จักชื่อเธอเลย ชื่ออะไรนะ"
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองสบตากับชายหนุ่ม ใบหน้าแดงเถือกไปถึงใบหู ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงสั่น
"เราชื่อหม้อแกง"
แนะนำตัวเสร็จก็ส่งยิ้มมาให้ เอาจริงน่ารักอยู่นะว่าไป แต่ยังไงก็ไม่ใช่สเปค เพราะเขาชอบผู้หญิงอกอึ๋มเซ็กซี่เท่านั้น
"อืม ฉันชื่อปอร์เช่นะ ไปก่อนละแล้วจะทักไลน์หา"
เขาโบกไม้โบกมือให้หญิงสาวก่อนจะเดินไปซื้อข้าวต่อ ดูเหมือนว่าเธอจะทำหน้าเหวออยู่เหมือนกัน คงไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาคุยด้วยละมั้ง ปอร์เช่อมยิ้มออกมาไม่ได้พูดอะไรต่อ และเมื่อซื้อข้าวเสร็จก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะตามเดิม
"เฮ้ย ๆ พวกกูเห็นนะเว้ย"
ไอ้โดมิโนเอ่ยแซวทันทีเพราะเห็นสายตาของเพื่อนดูอินเลิฟเป็นพิเศษ ยิ้มกรุ้มกริ่มเหมือนจะรู้ว่าเพื่อนรักกำลังคิดอะไรอยู่ หึ... นี่มันแค่เริ่มต้นเอง เดี๋ยวมีเยอะกว่านี้อีก
"เสือก!"
เขาเอ่ยออกไปก่อนจะนั่งลงกินข้าวของตัวเอง เหลือบสายตาหันไปมองที่โต๊ะยัยแว่นอีกรอบ ซึ่งตอนนี้เธอก็มองมาทางเขาเช่นกัน และเมื่อสองสายตาซบกันเธอก็รีบเบื่อหน้าหนีไปอีกทาง หึ... แล้วเจอกันยัยแว่น
"ฉันจะทำให้เธอทั้งรักทั้งหลงจนไปไหนไม่รอด"
หลังจากวันนั้นหญิงสาว และชายหนุ่มก็คุยกันมากยิ่งขึ้น ปอร์เช่ทักข้อความมาหาเธอค่อนข้างบ่อย สอบถามเกี่ยวกับการทำรายงาน เรื่องส่วนตัวบ้าง ซึ่งการทำแบบนี้มันเหมือนเป็นการให้ความหวัง ทำให้หม้อแกงเริ่มคิดไปไกลมากขึ้น
"นี่ยัยหม้อแกง ฉันว่าแกเป็นหนักแล้วนะ"
เพนตี้ส่ายหน้าอย่างระอากับอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของเพื่อน จ้องมองเธอที่ตอนนี้กดโทรศัพท์ดูข้อความที่ผู้ชายอีกคนส่งมา
"เฮ้อ"
หญิงสาวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เลื่อนอ่านข้อความ และก็ตอบเขาไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี
(หม้อแกงกินข้าวหรือยัง)
(มีเรียนหรือเปล่าวันนี้)
และข้อความที่เขาเพิ่งส่งมาในตอนล่าสุดก็คือ...
(เย็นนี้ฉันจะไปเตะบอลที่สนามกีฬากลาง ไปดูฉันด้วยนะเข้าใจป่ะ)
เธอเอามือจับผมตัวเองก่อนจะยีจนยุ่งเหยิง เพราะรู้สึกเขินจนไม่รู้ว่าจะไประบายลงที่ไหน อยากจะหลอกตัวเองว่าปอร์เช่เองก็มีใจให้ไม่น้อย แต่ภายในใจมันก็ไม่กล้าคิด ไม่อาจเอื้อมไปถึงเขาได้
"นี่ยัยหม้อ"
"หม้อแกงโว้ย"
หญิงสาวหันขวับไปมองใบหน้าของเพื่อนทันทีด้วยใบหน้าหงุดหงิด เรียกซะรู้สึกแย่เลยเธอออกจะมีชื่อสวยงามขนาดนี้
"เออ! หม้อแกงก็หม้อแกง แกจะไปดูมันเล่นบอลเหรอเย็นนี้"
หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกเหนื่อย ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากไปหาเขาแต่ยิ่งการทำแบบนี้มันทำให้เธอถลำลึกไปจนไม่สามารถถอนตัวทัน
"ถ้าขนาดนี้แกไม่จีบมันเลยล่ะ ดูเหมือนมันจะชอบแกนะ"
หม้อแกงหันไปมองใบหน้าของเพื่อน ภายในใจก็นึกลังเลอยู่เหมือนกัน แต่ว่าเธอเป็นผู้หญิงนะจะให้ไปจีบผู้ชายก่อนเกรงว่ามันจะดูไม่ดี แล้วในชีวิตนี้ไม่เคยมีแฟนซะด้วยสิ จีบใครก็ไม่เป็น
"บ้าน่า"
เธอรีบส่ายหน้าทันที เพราะคิดว่าคนอย่างปอร์เช่ไม่มีทางที่จะหันมาสนใจจะได้หรอก เพราะถ้าเขาชอบเธอจริง ๆ คงไม่ปล่อยเวลานานขนาดนี้
"ฉันก็ดูเหมือนมันสนใจแกนะ ทำไมไม่ลองดูล่ะ นึกซะว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็แยกย้ายไม่เห็นจะยากตรงไหน"
หญิงสาวเริ่มคล้อยตามตามที่เพื่อนพูดออกมา นั่นสินะอย่างน้อยเธอก็ได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ถ้าผิดหวังก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
"เชื่อฉันเถอะอย่างน้อยแกก็จะไม่ได้เสียใจ เหลืออีกแค่เทอมเดียวแกก็ต้องออกไปฝึกงานแล้ว คงไม่มีเวลาไปเจอปอร์เช่หรอก ถ้าไม่จีบตอนนี้แกจะไม่มีโอกาสแล้วนะเว้ย"
หญิงสาวเงียบด้วยความลังเล แล้วก็ตัดสินใจได้แล้วว่าเธอจะลองจีบเขาดู
"โอเคลองดูสักตั้ง"
"เริ่มจากวันนี้เลยเป็นไง ไปหาที่สนามบอลแล้วก็เอาอะไรไปฝากด้วยสิ"
เพื่อนสนิทของเธอเอ่ยแนะนำ แล้วเธอก็คิดเอาไว้ว่าอาจจะซื้อน้ำเย็น ผ้าเย็น แล้วก็ขนมไปฝากดีกว่า พอนึกได้แบบนั้นเธอก็รีบขยับตัวลุกขึ้นทันที
"เอ้าจะไปไหน"
"ก็ไปเตรียมของไงเล่า วันนี้แกต้องไปกับฉันด้วย"
พูดจบหม้อแกงก็ลากแขนเพนตี้ให้ตามไปทันที ซึ่งเธอทำหน้าเซ็งเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเชียร์เพื่อนไว้ขนาดนั้นด้วย...
สนามกีฬา NRUตอนนี้ปอร์เช่ และแก๊งเพื่อนกำลังเตะบอลกันอยู่ที่สนาม โดยมีโดมิโน แบรี่ คอปเตอร์ และไทเกอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้ส่งข้อความไปหาหม้อแกง ไม่รู้ว่าเธอจะยอมมาตามที่สั่งหรือเปล่า"เฮ้ย ไอ้ปอร์เช่ ยัยแว่นมาจริงด้วยว่ะ"ไทเกอร์เอ่ยขึ้นมาจึงทำให้เขาละสายตาจากตรงหน้าหันไปมอง ก่อนจะสบตาหม้อแกงที่กำลังมองมาทางเขาเช่นกัน ชายหนุ่มโบกไม้โบกมือส่งยิ้มหวานไปให้ จึงทำให้เธอรีบหลบสายตาก่อนจะเดินไปหาที่นั่ง"ว่าที่เมียกูก็มาว่ะ"ปอร์เช่หันไปมองหน้าเพื่อนที่ตอนนี้กำลังมองไปยังเพนตี้ ซึ่งดูยังไงก็เหมือนหมาเห่าเครื่องบินชัด ๆ"ปากหมาอย่างมึงเขาคงชายตามองแหละ ฮ่า ๆ"คอปเตอร์เอ่ยล้อเลียนไทเกอร์อย่างสนุก ทำให้เขารีบหันไปมองเพื่อน ก่อนจะวิ่งไปเตะทันทีด้วยความหมั่นไส้ วิ่งไล่กันจนทำให้ปอร์เช่รู้สึกรำคาญ จึงเดินไปหายัยแว่นสุดเฉิ่มที่นั่งอยู่แทน"มาจริงด้วย"เขาเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มสดใส ก่อนจะเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาว ซึ่งเธอก็ยื่นของบางอย่างมาให้"หือ"เขาจ้องมองขวดน้ำที่อยู่ในมือเธออย่างมึนงง กำลังสงสัยว่าเธอคิดที่จะทำอะไร"น้ำไง นายไม่เหนื่อยหรือไงเล่า อันนี้ผ้าเย็นนะเช็ดหน้าด้วย"หม้อแกงยิ้มออกมาอย
"หม้อแกงเลือกหน่อยว่าจะดูหนังผีหรือว่าหนังแอ็คชั่น"หญิงสาวจ้องมองไปยังใบหน้าของเขาก่อนจะกะพริบตาปริบ ยิ้มแห้งหัวเราะออกมาทันที"แฮะ! ฉันกลัวผี"และเมื่อชายหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะขำออกมาก่อนจะเปลี่ยนไปซื้อตัวหนังแอคชั่นแทน ก็ยังดีกว่าให้เธอดูหนังผีละมั้ง เอาจริงก็ไม่ใช่แนวเหมือนกันนะ"รอฉันตรงนี้ก่อนเดี๋ยวไปซื้อน้ำกับป๊อปคอร์นให้""หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะไปหาที่นั่งรอ เพียงไม่นานเขาก็เดินมา"เธอถือน้ำนะ ไปกันเถอะน่าจะได้เวลาแล้ว"หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มไปไม่พูดอะไร ปอร์เช่ยื่นตั๋วหนังให้กับเจ้าหน้าที่จากนั้นก็เดินไปที่โรงหนังหมายเลข 1 ซึ่งชายหนุ่มจองเป็นโซฟาแบบส่วนตัว ถ้าเป็นแบบนี้อาจจะได้สวีทกันอยู่สองคนก็ได้"กำลังจินตนาการอะไรอยู่""จินตนาการอะไรเล่า ก็แค่เห็นว่ามันสะดวกดีเฉย ๆ""งั้นเหรอ นั่งเถอะดูหนังกัน"เขาพาเธอไปนั่งลงตรงโซฟา ไม่ลืมที่จะส่งป๊อปคอร์นมาวางไว้ที่ตักของเธอ บอกตามตรงว่าตอนนี้หม้อแกงดูหนังไม่รู้เรื่องเลย เอาแต่มองหน้าชายที่อยู่ข้างกายไม่หยุด แถมมือยังคาอยู่บนถังป๊อปคอร์น ซึ่งมันอยู่บนตักของเธอ"ปอร์เช่นายเอาไปถือเองไหม""ทำไมถือป๊อปคอร์นให้แค่นี้เองไม่ได้ไง
หลังจากที่หญิงสาวเดินออกไปไกล เขาก็วางถุงขนมลงบนโต๊ะ จากนั้นก็หันไปคุยกับเพื่อนไม่ได้สนใจขนมถุงนั้นอีก เนื่องจากว่าเขาไม่ได้ชอบกินขนมไทย มันรู้สึกหวานบาดลิ้นไปหน่อย"มึงไม่กินขนมล่ะไอ้ปอร์เช่ หม้อแกงอุตส่าห์เอามาให้"แบรี่เอ่ยออกมาพร้อมกับจ้องมองไปยังถุงขนมที่วางทิ้งไว้ไม่มีใครสนใจไยดีเลย"ไม่ชอบอ่ะมันหวาน"เขาเอ่ยออกไปก่อนจะหันไปคุยเรื่องอื่นต่อ จนถึงเวลาที่ต้องไปเรียนหนังสือ เขาก็รีบวิ่งขึ้นไปโดยที่ไม่ได้หยิบขนมถุงนั้นไปด้วยทางด้านของหม้อแกงเธอมีเรียนในช่วงเช้า ช่วงบ่ายก็เลยมานั่งรอปอร์เช่ที่ตึก เพราะเขาเลิกเรียนประมาณบ่ายสองโมง จะได้ไปทำรายงานพร้อมกัน"ยัยหม้อแกง นั่นมันถุงขนมร้านแกนี่ ใครเอามาทิ้งไว้ตรงนี้"หม้อแกงหันไปมองตามที่เพื่อนชี้ ก่อนจะเดินเข้าไปหยิบถุงขนมนั้นขึ้นมาดู ซึ่งเธอจำได้ว่าตัวเองเป็นคนหยิบมาให้ปอร์เช่เมื่อช่วงเช้า แต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ หรือว่าเขาจะลืม"ฉันเอามาฝากปอร์เช่เมื่อเช้านะ สงสัยจะลืมหยิบไปหรือเปล่า""ก็ขอให้มันลืมหยิบไปละกัน ไม่ใช่ว่าทิ้งไม่สนใจ"เพนตี้ทำหน้าตาเหมือนไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ ซึ่งประโยคนั้นทำเอาหม้อแกงถึงกับเงียบไปทันที นั่นสิ
ตึกวิศวะ...หญิงสาวเดินเข้าไปที่อาคารชั้นล่าง เพราะมีคนบอกว่าเห็นปอร์เช่อยู่ตรงนั้น หม้อแกงเดินไปตามทางก่อนจะต้องชะงักไป เมื่อได้ยินเสียงของผู้ชายที่เป็นแฟนของเธอกำลังคุยกับเพื่อนของเขาอยู่"น้องมะปรางตกลงคบกับมึงแล้วเหรอไอ้ปอร์เช่""เออสิวะ กูว่าคืนนี้จะพาน้องเขาไปฉลองสักหน่อย""พกถุงยางไปสักโหลหนึ่งนะมึง เผื่อว่าจะไม่พอ ฮ่า ๆ""กูแค่พาไปกินข้าวโว้ย พวกมึงนี่จะเชียร์ให้ได้เลยนะ"หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็อึ้งไปมือไม้สั่นไปหมด น้ำตาเอ่อล้นขอบอาบแก้ม ไม่คิดเลยว่าจะได้ยินสิ่งเลวร้ายจากปากของเขา เธอค่อย ๆ ปาดน้ำตายืนรออยู่ตรงนั้น รอคอยว่าปอร์เช่จะพูดอะไรออกมาอีก แต่ทว่าจู่ ๆ ก็มีคนเดินตามมาข้างหลัง"อ่าวหม้อกะ..."เธอรีบยกมือขึ้นปิดปากของแบรี่ ก่อนจะสั่งให้เขาเงียบ เพราะไม่อย่างนั้นเธอจะไม่ได้ยินบางอย่างที่เขาพูดต่อ"แล้วยัยแว่นล่ะ มึงจะบอกเลิกตอนไหน""ถ้าเกิดน้องมะปรางรู้ขึ้นมามึงจะโดนเทนะเว้ย"แบรี่ได้ยินแบบนั้นก็หลับตาลงก่อนจะถอนหายใจออกมา ในใจตอนนี้อยากจะเดินเข้าไปตบหัวไอ้พวกเพื่อนทั้งสี่คน ให้หยุดพูดเรื่องบัดซบพวกนั้นสักที แต่ก็ถูกผู้หญิงตรงหน้าดึงมือไว้ซะก่อน"เดี๋ยวกูค่อยบอกเลิกแล้วกั
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป...นี่ก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เธอและปอร์เช่ไม่ได้คุยอะไรกันเลย หลังจากวันนั้นเขาก็พยายามส่งข้อความมา โทรศัพท์พยายามที่จะติดต่อ มาหาถึงที่คอนโดแต่ว่าเธอไม่อยากจะข้องเกี่ยวอีก ไม่อยากจะเคลียร์อะไรทั้งนั้น เพราะทุกอย่างมันชัดเจนหมดแล้ว วิชาที่ลงเรียนห้องเดียวกันเธอก็ไม่ได้เข้าไปเรียนเลย"เฮ้อ! ทำไมฉันถึงเจ็บขนาดนี้เนี่ย"หม้อแกงกุมหน้าอกตัวเองเอาไว้ก่อนจะเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดมุ่งหมาย แต่ทว่าคนที่พยายามหลบหน้ามาตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เขากำลังยืนอยู่ตรงหน้า แถมยังจ้องมองมายังเธออยู่ ซวยจริง ๆ เลยให้ตายสิ หม้อแกงรีบเบือนหน้าหนีก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้น แต่ก็ถูกมือหนาดึงรั้งเอาไว้ก่อน"หลบหน้าฉันทำไม"หญิงสาวนิ่งเงียบไม่พูดอะไรทั้งนั้น และเมื่อถูกแรงบีบที่ข้อมือจึงทำเพียงแค่กัดริมฝีปากเท่านั้น"ไม่มีปากพูดหรือไงถามทำไมไม่ตอบ"หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจ้องมองสบตากับชายหนุ่ม เขาไม่ควรที่จะมาใช้คำพูดแบบนี้กับเธอด้วยซ้ำ เพราะคนที่ควรจะโกรธคือเธอมากกว่า"มีอะไรกับฉันไม่ทราบ"เธอพยายามควบคุมน้ำเสียงตัวเองให้ปกติ ไม่ได้อยากแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นเลย"เธอกล้ามากเลยนะที่มาบ
ทางด้านของปอร์เช่เขากดโทรศัพท์อยู่ กำลังลังเลว่าจะทักไปหายายแว่นสุดเนิร์ดดีหรือเปล่า ยิ่งอยู่ห่างกันเขาก็ยิ่งคิดถึงใบหน้าของเธอ ไหนจะสัมผัสจากริมฝีปาก บอกเลยว่าตอนนี้เขารู้สึกแย่มาก ไม่ได้มีความอยากเลิกกับเธอเลยแม้สักนิดเดียว ส่วนผู้หญิงอีกคนก็แค่ควงเล่นแก้เหงา ไม่ได้มีความคิดพิศวาสอยากจะมีความสัมพันธ์ด้วยเลยแม้แต่น้อย เพราะภายในใจของเขาตอนนี้นึกถึงแต่ผู้หญิงอีกคน โคตรซวยเลยทำไมต้องมาได้ยินประโยคพวกนั้นด้วย เขาไม่น่าปล่อยเธอให้หลุดมือไปจริง ๆ และหลังจากนี้เขาจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เธอกลับคืนมา"ไอ้เหี้ย! นั่นมันนางฟ้านี่หว่า"เสียงของคอปเตอร์ดังขึ้น ซึ่งทำให้เพื่อนคนอื่นรีบหันไปมองเช่นกัน ก่อนจะเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูสวยโดดเด่นกำลังเดินไปยังคณะมนุษยศาสตร์"กินอะไรเข้าไปวะทำไมสวยขนาดนั้น""กูจองโว้ย ไอ้เกอร์มึงไม่ต้องมาแย่งกับพวกกู โน่นเพนตี้ของมึง"เสียงของบรรดาเพื่อนรักตะโกนแย่งผู้หญิงกันเอง ซึ่งแบรี่ และปอร์เช่ได้ยินเพื่อนทะเลาะกัน ก็รีบเงยหน้าขึ้น หันไปมองตามเสียง ซึ่งตรงหน้านั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผิวขาวผ่องใบหน้าสวยดูสดใส ปล่อยผมยาวสลวย ใส่ชุดนักศึกษารัดแน่นเห็นทรวดทรง และ
ถึงแม้ปากบอกว่าจะไปดื่มเหล้า แต่ก็ทำใจไม่ลงจึงกลับมานั่งอยู่หน้าตึกคณะมนุษยศาสตร์ และรอให้หม้อแกงเดินออกมา จะได้ไปเคลียร์กันให้รู้เรื่อง แล้วดูยัยนั่นแต่งตัวสิ เวลาเดินผ่านไอ้พวกบ้ากามแล้วโดนแซว คิดว่าเขาจะปล่อยผ่านได้ลงอย่างนั้นเหรอ หึ... ไม่มีทางโว้ย จะเฝ้าอยู่เนี่ยแหละ"มึงไม่เข้าเรียนแต่มานั่งเฝ้าผู้หญิงเนี่ยนะ"แบรี่เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนนั่งอยู่หน้าตึกคณะมนุษยศาสตร์ได้เกือบชั่วโมงแล้ว ปอร์เช่ได้ยินแบบนั้นก็หันหน้าไปมองเพื่อนด้วยความหงุดหงิด"เออ! มึงไม่อยากอยู่กับกู มึงก็ไปเรียนดิ"พูดจบเขาก็หันไปมองหน้าตึกประตูทางออก จ้องมองไม่ให้คลาดสายตา เผื่อว่ายัยแว่นเดินลงมาเขาจะได้เห็นเธอทันที"ไอ้เกอร์มึงดูแลเพื่อนมึงด้วยนะ กูไปละ""เอ้าไอ้แบรี่ กูไม่ใช่เพื่อนมึงหรือไง!""เพื่อนกูก็เพื่อนมึงนั่นแหละไอ้แบรี่"ไทเกอร์หันไปมองใบหน้าของเพื่อนก่อนจะยักคิ้วใส่ด้วยความกวนประสาท แบรี่ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เหลือบสายตาหันไปมองไทเกอร์ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา"กูทนคบมันไม่ลง นิสัยชั่วช้าเกินจะเป็นเพื่อนของกู ไปละไปเรียนก่อนเดี๋ยวจดเลคเชอร์ให้แล้วกัน"พูดจบแบริ่งก็เดินหนีไปทันที ปล่อยให้
หลังจากที่ไอ้หมาบ้าปอร์เช่ชี้หน้าข่มขู่พี่หมอแล้วก็ถูกเพื่อนรักที่เหลือลากออกไป สถานการณ์ตรงนั้นก็เริ่มสงบสุขลง หม้อแกงหันไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างกาย ดึงแขนเขาพาไปนั่งลงที่มานั่งก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง"พี่หมอเป็นอะไรไหม"เธอเอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากว่าเมื่อครู่แอบเห็นว่าพี่หมอถูกผลักอย่างแรงจากผู้ชายอีกคน"พี่ไม่เป็นอะไรหรอก ว่าแต่หมอนั่นกับหม้อแกงเป็นอะไรกันเหรอทำไมดูมันหึงหวงขนาดนั้นล่ะ"พี่หมอจ้องหน้าของเธออย่างคาดคั้นเอาคำตอบ หม้อแกงทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะเอ่ยตัดบท"ไม่มีอะไรหรอกค่ะก็แค่หมาหวงก้าง""ท่าทางมันคงไม่ปล่อยเราหรอก ระวังตัวไว้หน่อยแล้วกันพี่เป็นห่วง"พี่หมอเอ่ยออกมาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ เขาเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เรียนที่เดียวกันมาโดยตลอด แต่ทว่าช่วงหลังเขาสอบเข้าเรียนคณะแพทยศาสตร์ จึงทำให้เราสองคนไม่ค่อยได้เจอกัน"หนูจะระวังตัวแล้วกันค่ะ ถ้าอย่างนั้นวันนี้เรากลับดีไหมน่าจะไม่สนุกแล้ว"พี่หมอพยักหน้าอย่างเห็นด้วย สงสัยวันนี้คงจะไปเที่ยวไม่สนุกแล้วแหละเกิดเรื่องราวขนาดนี้ ทั้งสองคนลุกขึ้นจากม้านั่งเตรียมจะเดินออกไป แต่ทว่าเสียงโทรศัพท
หลังจากที่กลับมาเขาก็พาเธอไปนอนพักผ่อน คงจะคิดมากทั้งวันจึงทำให้เหนื่อยล้าและสลบไสลไปในที่สุดและในช่วงเช้าของวันต่อมาปอร์เช่ปลุกให้หม้อแกงลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ จูบหน้าผาก จั๊กจี้ที่เอวก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะลืมตาขึ้น เขาจึงเลื่อนมือเข้าไปในชุดนอนจากนั้นก็ค่อย ๆ ใช้มือบีบเคล้นเนินปทุมถัน ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ใช้ลิ้นร้อนดูดเม้มเม็ดทับทิมสีชมพู"อื้อ ปะ...ปอร์เช่ทำอะไรเนี่ย"เสียงร้องครางของหม้อแกงทำเอาความเป็นชายตื่นตัว ก็ต้องอดทนไว้ก่อนเพราะว่าเมียท้องอยู่ไม่อยากจะทำรุนแรงมากนัก"อ้าส์! เช่จ๋า"ในตอนนี้ความอดทนของเขาเริ่มจะหมดลงแล้ว จัดการถอดกางเกงของตัวเองที่ตอนนี้ความเป็นชายชี้โด่ออกมา ดีนะที่ของหญิงสาวเป็นกระโปรงถอดง่าย ถึงไม่ต้องอะไรให้มากความ"เมียจ๋าขอแป๊บหนึ่งนะ เช่จะทำเบา ๆ เลย"เขาเอ่ยอ้อนภรรยาเพื่อขออนุญาต ไม่ใช่ว่าจะทำได้เลยนะเดี๋ยวจะพานโกรธอีก เดี๋ยวก็ได้ง้อกันยาว"ห้ามทำแรงนะ"เขาพยักหน้าทันทีก่อนจะจับแก่นกายความเป็นชายสอดใส่เข้าไป ทั้งสองคนกัดริมฝีปากก่อนจะครางออกมาในลำคอ นาน ๆ จะได้มีความสุขด้วยกันแบบนี้ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะเพราะถ้าเกิดหลังจากที่เธอคลอดลูกคนแรกออกม
ปอร์เช่หยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาเพื่อนรักก่อน เพราะว่าไทเกอร์เป็นคนเดียวที่มีเบอร์ของเพนตี้ กดโทรไปเพียงไม่นานเขาก็รับสายฉันที(ไงปอร์เช่)"ขอเบอร์เพนตี้หน่อย"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเร่งรีบเป็นอย่างมาก แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับแสดงความหึงหวงจนออกนอกหน้า(ยุ่งอะไรกับเมียกู)"ใช่เวลาที่มึงจะมาหึงหวงไหม เมียกูหายเนี่ย"(อ้าวกูก็นึกว่ามึงจะมาจีบเมียกูนี่ เออ... เดี๋ยวส่งไลน์ไปให้รอแป๊บหนึ่ง"พูดจบเขาก็กดวางสายทันที มองโทรศัพท์อย่างใจจดใจจ่อ สักพักก็มีข้อความเด้งเข้ามาLINETiger : 08928xxxxxเมื่อได้เบอร์โทรศัพท์เขาก็ไม่รอช้ารีบกดติดต่อไปยังปลายสายทันที และเพียงไม่นานเธอก็กดรับสาย(สวัสดีค่ะเพนตี้พูดสายค่ะ)"เพนตี้นี่ปอร์เช่เองนะ หม้อแกงอยู่ที่นั่นหรือเปล่า"เพนตี้เหลือบสายตาหันไปมองหม้อแกงที่ตอนนี้นอนหลับอยู่ตรงโซฟา และเสียงปลายสายทำให้เธอไม่กล้าพูดอะไรออกไป เพราะกลัวว่าคนที่อยู่ตรงนี้จะรู้สึกไม่ดี"หม้อแกงเดี๋ยวฉันไปหารุ่นพี่แป๊บหนึ่งนะ เขาเอาของมาให้""ไปเถอะฉันอยู่ตรงนี้แหละ"หม้อแกงเอ่ยออกมาก่อนจะหลับตาลงด้วยความรู้สึกเสียใจ เพนตี้เห็นแบบนั้นก็รีบเดินออกไปจากคอนโดของตัวเอง เพราะจำเป็นจะต้องไปคุยโท
สองสัปดาห์ต่อมา...ช่วงนี้หม้อแกงค่อนข้างจะทำตัวติดสามี ตามไปทำงานแทบจะทุกวัน แล้ววันนี้ก็เช่นกันช่วยงานแปลเอกสารทำทุกอย่างเพื่อแบ่งเบาภาระของเขา แต่ทว่าคนเป็นสามีกลับไม่อยากให้แตะต้องอะไรทั้งนั้น เพราะกลัวว่าจะเครียดมากเกินไปส่งผลกระทบถึงเจ้าตัวเล็กในท้องได้"ตัวเองเดี๋ยวเช่ลงไปคุยกับลูกค้าข้างล่างนะ อยู่ในห้องนี้รอไปก่อน"หญิงสาวเหลือบสายตาหันไปมองคนรักก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยอย่างรับทราบ"รีบมานะไม่อยากอยู่คนเดียว""จ๊ะ"ชายหนุ่มซื้อแฟ้มเอกสารขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินมาลูบศีรษะของคนรักเอาไว้จากนั้นก็เดินออกไปทันที ส่วนหม้อแกงเธอก็วางโทรศัพท์ลงทำนั่นนี่นิดหน่อย แต่ทว่าเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาเลย เธอเองก็เริ่มหิวคิดว่าจะลงไปหาอะไรกินในระหว่างรอเขา เมื่อนึกได้แบบนั้นเธอก็วางทุกอย่างลงจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์แล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ว่าแต่ปอร์เช่อยู่ชั้นไหนนะ..."คุณจีคะ คุณปอร์เช่คุยงานอยู่ชั้นไหนคะ""อยู่ชั้น 14 ค่ะ ตรงร้านกาแฟค่ะคุณหม้อแกง"เธอเอ่ยถามเลขาที่อยู่หน้าห้อง แล้วเมื่อได้คำตอบก็เอ่ยขอบคุณก่อนจะเดินตรงไปยังลิฟต์ จากนั้นก็เก็บปลายทางไปยังชั้น 1
แอ๊ดดดดดดเสียงประตูห้อง VIP ถูกเปิดออก เป็นปอร์เช่นั่นเองที่มา แถมยังหิ้วของอร่อยหลายอย่างติดมือมาด้วยอีก"สวัสดีครับทุกคน ตัวเองเป็นยังไงบ้าง อาการดีขึ้นหรือเปล่าหมอว่าไงบ้าง"ชายหนุ่มเอ่ยทักทายผู้ใหญ่ก็เดินเข้าไปนั่งลงเคียงข้างคนรัก หม้อแกงโอบรอบเอวว่าที่สามี จากนั้นก็จ้องมองไปทางผู้ใหญ่ด้วยสีหน้าน้อยใจ"เช่จ๋า หม้อแกงอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วย ช่วยคุยกับคุณพ่อคุณแม่แล้วก็คุณลุงให้หน่อยนะ"ชายหนุ่มเองก็ลำบากใจไม่น้อยเลย ก็พอรู้ว่ามันเป็นการเดินทางไกลและเป็นอันตรายได้ ซึ่งดูจากสีหน้าเขาในตอนนี้หม้อแกงก็พอจะดูออกว่าเขาก็คงเป็นห่วงเธอไม่น้อยเหมือนกัน"ตอนนี้ตัวเองกับลูกต้องดูแลตัวเองนะ เค้ากลัวว่าถ้าเดินทางไกลมันจะอันตราย เข้าใจกันเถอะ"เขาพยายามพูดปลอบใจซึ่งหญิงสาวรู้สึกน้อยใจมากเมื่อถูกทุกคนห้าม เบือนหน้าหนีหันไปมองทางอื่น หยิบผ้าห่มมาคลุมโปงไม่ยอมคุยกับใคร ทำเอาผู้ใหญ่ทุกคนที่อยู่ภายในห้องรวมถึงปอร์เช่ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจเอาจริงเขาเป็นห่วงคนรักมาก การเดินทางไปต่างประเทศจะต้องนั่งนานเป็นพิเศษ ทุกคนไม่มีใครอยากให้เธอลำบากหรอก อีกอย่างหนึ่งร่างกายเธอไม่ค่อยแข็งแรงด้วย นิดหน่อย
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ทว่าชายหนุ่มก็ยังคงตกใจไม่หาย เมื่อนึกถึงตอนที่มีเลือดไหลออกมาตามร่องขาของคนรัก อาจจะเป็นเพราะว่าแรงกระแทกก่อนหน้านี้ หน้าท้องเธอไปชนกับราวเหล็ก จึงทำให้กระทบกระเทือน แต่ก็ยังงงว่าทำไมเลือดถึงออกได้แอ๊ด!ในที่สุดประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออก เขาได้สติรีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนเพราะอดเป็นห่วงคนรักไม่ได้"คุณหมอครับเมียผมเป็นยังไงบ้าง""ใจเย็นก่อนนะครับ ตอนนี้คุณแม่ปลอดภัยดีแล้ว ส่วนเด็กในท้องหมอต้องขอดูอาการอีกสักหน่อยเพราะว่าค่อนข้างจะเสียเลือดเยอะมาก ว่าแต่ไปทำอะไรมาครับทำไมถึงตกเลือดขนาดนั้น"จบประโยคของคุณหมอทำเอาเขาช็อกจนแทบพูดอะไรไม่ออก นี่หม้อแกงกำลังตั้งครรภ์อย่างนั้นเหรอ หมายความว่าเขากำลังเป็นพ่อใช่รึเปล่า ณ เวลานี้เขาควรจะดีใจมากด้วยซ้ำ แต่ทำไมกลับรู้สึกเศร้ายังบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินว่าเด็กน้อยยังคงไม่ปลอดภัย ความผิดของเขาคนเดียวแท้ ๆ เลยที่ดูแลเธอไม่ดีพอ"ลูกของผมจะปลอดภัยใช่ไหมครับ เท่าไหร่ผมก็ยอมจ่ายแต่ลูกผมต้องรอดนะครับหมอเข้าใจหรือเปล่า เขาจะต้องอยู่กับผม!"ปอร์เช่เดินเข้าไปใกล้คุณหมอก่อนจะคุกเข่าขอร้อง ซึ่งคุณห
และแล้ววันหยุดก็มาถึง ปอร์เช่รับปากกับคนรักไว้ว่าจะพามาเที่ยวสวนสนุกดรีมเวิลด์ตามที่เธอต้องการ ตอนแรกก็นึกว่าลืมเสียแล้ว ไม่คิดว่าจะจำได้แล้วพามาตามสัญญา ปลุกให้หม้อแกงตื่นนอนตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า เร่งรีบออกมาเพราะกลัวว่าจะมีเวลาน้อย"เช่จ๋า เค้าอยากไปเมืองหิมะ ไปกัน"หญิงสาวกุมมือคนรักเอาไว้จากนั้นก็ลากเข้าไปตรงประตูทางเข้าบ้านหิมะ เปลี่ยนชุดรองเท้าเสื้อกันหนาวให้เรียบร้อยจากนั้นก็วิ่งเข้าไปข้างใน บรรยากาศภายในนั้นเย็นสบายค่อนไปทางหนาว ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเล่นด้วยความสนุกสนาน"หม้อแกงอย่าวิ่งเดี๋ยวล้ม"เขาพยายามเตือนคนรักไม่ให้ซุกซนมากจนเกินไป เพราะพื้นค่อนข้างจะลื่น ใจเย็นสาวกำลังสนุกจึงไม่ฟังเสียงตักเตือนเลยแม้แต่น้อย"ปอร์เช่เดี๋ยวรอรับอยู่ตรงนี้นะ เค้าจะไปอยู่ตรงโน้นแล้วก็สไลด์ลงมา โอเคนะคะที่รัก"พูดจบก็รีบวิ่งขึ้นไปข้างบนทันที จากนั้นก็เตรียมพร้อมที่จะสไลด์ลงมาจากข้างบนลงไปยังช่องที่ปอร์เช่กำลังยืนรออยู่"อร๊าย!"หม้อแกงกรีดร้องออกมาอย่างสนุกสนาน แต่ทว่าผู้ชายอีกคนกลับทำหน้าบึ้งบูดเหมือนจะไม่ค่อยชอบใจ ที่เธอเล่นอะไรรุนแรงแบบนี้ ไม่เห็นจะหนักตรงไหนเลยก็แค่สไลด์หิมะเล่นเอง จนในที
เขาโชว์ผ้าเช็ดตัวขึ้นอีกครั้งก่อนจะปาทิ้งติดกำแพงอีกฝั่ง จ้องมองมายังคนรักก่อนจะยิ้มกรุ้มกริ่ม ทั้งที่เธอทำงานเหนื่อยขนาดนี้ เขาก็ยังเอาแต่รังแกไม่หยุด ไม่รู้ว่าไปเอาแรงมาจากไหนขนาดนั้น"หยุดมองเดี๋ยวนี้เลยนะ"หม้อแกงเอามือทั้งสองข้างปิดหน้าอกของตัวเองเอาไว้ ต้องมองไปยังผ้าเช็ดตัวที่อยู่ติดกำแพง ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหยิบ แต่ทว่าถูกชายหนุ่มใช้มือโอบรอบเอวกว่าจะดึงเข้าหาตัว เราสองคนมองสบตากันนิ่ง และเธอรู้สึกเลยว่าตอนนี้มีอะไรบางอย่างทิ่มแทงตรงเรียวขา และแน่นอนว่าท่อนเอ็นขนาดใหญ่กำลังแข็งตัวทะลุออกจากผ้าเช็ดตัว"อร๊าย! ตาบ้า อย่ามาโรคจิตแถวนี้"หญิงสาวยื่นมือไปทุบหน้าอกของเขา แต่ทว่าน้ำเสียงถูกกลืนหายไปด้วยรสจูบอันเร่าร้อนของผู้ชายตรงหน้า"อื้อ"หญิงสาวหลับตาลงรักสัมผัสอันหอมหวานจากคนรัก เอาเถอะห้ามตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เพราะฉะนั้นเออออตามน้ำไปก็แล้วกัน"อาบน้ำอีกรอบดีกว่า"และเมื่อเขาผละออกก็อุ้มคนรักกลับไปยังอ่างอาบน้ำตามเดิม เริ่มลวนลามตั้งแต่บีบเคล้นตรงหน้าอก ลากไล่ไปยังช่วงล่าง บีบสะโพกถูไถตรงร่องสาว เล่นเอาเหนื่อยไปตามกัน กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็ผ่านไปหลายนาที จากนั้นก็ล้างแล้วล้างตัวให้เรี
เขายืนกอดอกจ้องมองไปยังทั้งสองคน เอาจริงเลยนะถ้าไม่ติดว่าต้องร่วมงานกัน เขาอยากจะต่อยหน้ามันไปสักทีหนึ่ง โคตรหน้าด้านเลย ทั้งที่รู้ว่าผู้หญิงมีคู่หมั้นอยู่แล้วยังคิดจะเคลมเมียคนอื่น ฝันอยู่หรือไงกัน ทำไมเขาถึงรู้นะเหรอ... ก็เพราะว่าที่ผ่านมาหมอนี่มันพูดภาษาอังกฤษได้ แต่กวนประสาทใช้ภาษาบ้านเกิดของตัวเองคุยกับคู่หมั้นของเขา เพื่อไม่ให้คนกลางฟังเข้าใจ โคตรกวนประสาทเลย และดูเหมือนว่าหม้อแกงจะหันมาเห็นคนรักพอดีก็เลยส่งยิ้มมาให้"อ้าวปอร์เช่มาได้ยังไง""ก็ถ้าเมียจะสนใจกันสักนิดก็คงจะรอมากินข้าวด้วยกันแล้วแหละ ไอ้เราทำงานเสร็จก็รีบไปหาที่ห้องกลัวว่าจะหิว นี่นะเหรอสิ่งที่ได้ตอบแทนโคตรน้อยใจเลย"เขาตัดพ้อใส่สาวยังไม่ปิดบัง ความจริงก็ไม่ได้อะไรเยอะหรอกแค่อยากจะให้เมียง้อก็เท่านั้น แถมยังหมั่นไส้ไอ้ผู้ชายตรงหน้าด้วย ถ้าไม่ติดว่าเป็นหุ้นส่วนถีบตกตึกไปนานแล้ว"ไม่เอาสิปอร์เช่มานั่งด้วยกันนี่มา เดี๋ยวเค้าสั่งของอร่อยให้กินนะ"หญิงสาวกวักมือเรียกคนรักให้มานั่งดูด้วยกัน ปอร์เช่ทำหน้างอแต่ก็ยอมเดินไปนั่งลงข้างหม้อแกง ถึงแม้ว่าเขาจะเล่นตัวแต่ก็มีขอบเขตอยู่"ที่รักจะกินอะไรดีคะ"ทีแบบนี้ทำมาเรียกที่รงที
ชายหนุ่มรีบส่ายหน้าปฏิเสธพัลวัน ตั้งแต่ที่เราสองคนมีปัญหากัน เขาไม่เคยไปยุ่งวุ่นวายกับน้องมะปรางอีกเลย และหัวใจของปอร์เช่มีแต่หม้อแกงคนเดียวเท่านั้นไม่คิดมีใครอื่นอีก"เลิกยุ่งนานแล้วเว้ย อย่านะ อย่ามองด้วยสายตาแบบนั้นสิ เอ๊ะ หรือว่าหึงผัวใช่ไหมล่ะ"เขาเอ่ยแซวหญิงสาวทันทีก่อนจะยิ้มมุมปากออกมากรุ้มกริ่ม และทำให้หม้อแกงที่รู้สึกตัวรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที"เปล่าสักหน่อย ใครเขาจะหึงกันเล่า รีบกินเดี๋ยวนี้เลยนะ จะได้กลับบ้าน"หม้อแกงรีบขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะกลับไปนั่งตรงข้ามเขาที่เดิมทันที ใช้ตะเกียบคีบแซลมอนมากินแต่ก็ยังรู้สึกเจ็บใจที่ตัวเองเผลอแสดงความรู้สึกส่วนตัวออกไป จนทำให้ปอร์เช่ได้ใจหัวเราะคิกคักอยากมีความสุข"ไม่ไปเลือกแหวนแต่งงานแล้วเหรอที่รัก""ไอ้บ้าปอร์เช่ บอกให้หยุดพูดไงเล่า""ฮ่า ๆ เอากี่กะรัตดีครับเมีย""ไอ้..."สองเดือนผ่านไป...เวลาผ่านไปหม้อแกงและปอร์เช่ได้หมั้นใหม่กันเรียบร้อยประมาณเดือนที่แล้ว ซึ่งตอนนี้เธอได้เข้ามาฝึกงานที่บริษัทอย่างเต็มตัว เก็บเสื้อผ้าไปอยู่ที่คอนโดของชายหนุ่มเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ไม่ใช่ความคิดของตัวเองหรอก เพราะว่ารายนั้นเป็นคนจัดแจงทุกอย่าง และให้เหต