หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป...
นี่ก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เธอและปอร์เช่ไม่ได้คุยอะไรกันเลย หลังจากวันนั้นเขาก็พยายามส่งข้อความมา โทรศัพท์พยายามที่จะติดต่อ มาหาถึงที่คอนโดแต่ว่าเธอไม่อยากจะข้องเกี่ยวอีก ไม่อยากจะเคลียร์อะไรทั้งนั้น เพราะทุกอย่างมันชัดเจนหมดแล้ว วิชาที่ลงเรียนห้องเดียวกันเธอก็ไม่ได้เข้าไปเรียนเลย
"เฮ้อ! ทำไมฉันถึงเจ็บขนาดนี้เนี่ย"
หม้อแกงกุมหน้าอกตัวเองเอาไว้ก่อนจะเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดมุ่งหมาย แต่ทว่าคนที่พยายามหลบหน้ามาตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เขากำลังยืนอยู่ตรงหน้า แถมยังจ้องมองมายังเธออยู่ ซวยจริง ๆ เลยให้ตายสิ หม้อแกงรีบเบือนหน้าหนีก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้น แต่ก็ถูกมือหนาดึงรั้งเอาไว้ก่อน
"หลบหน้าฉันทำไม"
หญิงสาวนิ่งเงียบไม่พูดอะไรทั้งนั้น และเมื่อถูกแรงบีบที่ข้อมือจึงทำเพียงแค่กัดริมฝีปากเท่านั้น
"ไม่มีปากพูดหรือไงถามทำไมไม่ตอบ"
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจ้องมองสบตากับชายหนุ่ม เขาไม่ควรที่จะมาใช้คำพูดแบบนี้กับเธอด้วยซ้ำ เพราะคนที่ควรจะโกรธคือเธอมากกว่า
"มีอะไรกับฉันไม่ทราบ"
เธอพยายามควบคุมน้ำเสียงตัวเองให้ปกติ ไม่ได้อยากแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นเลย
"เธอกล้ามากเลยนะที่มาบอกเลิกฉัน"
เขาแค่นหัวเราะออกมาด้วยความรู้สึกไม่พอใจมาก ซึ่งหม้อแกงเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขายังกล้ามาพูดจาอวดดีใส่เธออีก
"ต้องการอะไรอีก นายต้องการแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ฉันก็เลิกให้แล้ว นายจะได้ไม่ต้องหาวิธีมาเลิกกับฉัน มันไม่ดีตรงไหน"
เธอเอ่ยออกไปพร้อมกับน้ำตาเริ่มคลอเบ้า และดูเหมือนปอร์เช่จะตกใจไม่น้อยเลย ที่ได้เห็นน้ำตาของผู้หญิงที่เขาคบหามาหลายเดือน
"เอ่อ คือฉัน..."
"พี่ปอร์เช่คะ มารอมะปรางเหรอ แล้วนี่ใครคะ"
ผู้หญิงที่ชื่อมะปรางเดินเข้ามากอดแขนปอร์เช่เอาไว้ ก่อนจะจ้องมองไปยังหม้อแกงตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะแสยะยิ้มใส่
"คงมาตามตื๊อพี่ปอร์เช่สินะ เขามีแฟนแล้วจ้ะ ไปไกล ๆ ได้แล้วนะ"
เธอจีบปากจีบคอจ้องมองมายังหม้อแกง พร้อมกับแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของต่อผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอดีตแฟนของเธอ
"แล้วนายจะเสียใจที่ทำกับฉันแบบนี้ปอร์เช่"
เธอจ้องมองไปยังใบหน้าของเขาด้วยแววตาที่ชายหนุ่มไม่สามารถบรรยายออกมาได้ เธอหันหลังเดินหนีออกไปจากตรงนั้น และหลังจากนี้เธอจะเอาคืนในสิ่งที่เขาทำไว้ ปอร์เช่จะต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่ทำกับเธอ
"หม้อแกงเดี๋ยวสิ มาคุยกันก่อน"
เขาสะบัดมือของมะปรางออกก่อนจะรีบวิ่งตามหญิงสาวไป แต่ทว่าแรงฉุดกระชากของผู้หญิงอีกคนทำให้เขาไม่สามารถเดินออกไปได้
"ปล่อยพี่ก่อนมะปราง"
"จะไปไหนคะ ไม่ได้มาหามะปรางหรือไง"
"โธ่เว้ย!"
หญิงสาวรีบวิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่ที่มาจอดอยู่พอดี เธอจะต้องทำอะไรสักอย่างให้สาสมกับที่เขาทำกับเธอในตอนนี้ หม้อแกงเดินทางกลับมายังคอนโดของตัวเอง ก่อนจะโทรศัพท์หาเพนตี้
(ว่าไงแก)
"เพนตี้แกต้องช่วยฉัน"
(ช่วยอะไร)
"เจอกันที่ห้างได้ไหม ห้างเดิมเลยนะ"
(โอเคได้)
หม้อแกงกดวางสายก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถของตัวเองที่ไม่ค่อยได้ขับสักเท่าไหร่ ไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าเงินไปด้วยก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอนของตัวเองทันที
และเมื่อมาถึงที่ห้างสรรพสินค้า เธอก็เจอเพื่อนกำลังนั่งกดโทรศัพท์อยู่
"รอนานไหมแก"
หม้อแกงเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยความห่วงใย ทั้งที่ตัวเองเป็นคนนัดแท้ ๆ แต่ต้องให้เพื่อนรอ รู้สึกผิดชะมัดเลย
"ไม่หรอก ปะไปกัน"
เพนตี้มองหน้าเพื่อนด้วยความมึนงง ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดจะทำอะไร อยู่ ๆ เขาลากออกมาแบบนี้ มันต้องมีอะไรบางอย่างสิ
"แกคงจะไม่ทำอะไรพิเรนทร์ใช่ไหม"
"พิเรนทร์อะไรกันล่ะ ฉันแค่อยากจะเป็นคนใหม่ไง"
พูดจบหม้อแกงก็ลากเพื่อนรักเข้าไปยังร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนม ช่วยกันเลือกชุดที่บาดใจชายให้มากที่สุด มีทั้งชุดเซ็กซี่ เดรสคุณหนู ชุดกระโปรง เสื้อหลายแบบ ได้มาเกือบ 20 ชุด จากนั้นก็พากันไปซื้อคอนแทกต์เลนส์มา 3 คู่ ไหนจะรองเท้ากระเป๋าใหม่ ชุดนักศึกษา ไม่ลืมที่จะไปสปาหน้าขัดตัว ตัดผมทรงใหม่ให้เข้ากับใบหน้าของเธอมากที่สุด
"แม่งอีหม้อ ทำไมสวยฉิบหายเลยวะ อร๊าย"
เพ้นตี้ดูจะตื่นเต้นไม่น้อยเลย เพราะว่าหลังจากที่เพื่อนรักทำผมเปลี่ยนลุคใหม่ ก็ดูดีอย่างกับคนละคนจนเธอที่เป็นเพื่อนถึงกับตกใจ
"จริงเหรอ สวยจริงเหรอ"
เธอเอ่ยออกมาพร้อมกับหันไปมองกระจก ก่อนจะเบิกตากว้างอย่าตกใจ เอาจริงนะคนในกระจกเป็นใครกัน ทำไมถึงรู้สึกว่าไม่เป็นตัวเองเลย จะว่าไปเธอก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดูดีขนาดนี้ แต่พอทำเหมือนคนอื่นเธอก็พอดูได้นะเนี่ย
"ให้พูดความจริงป่ะ สวยกว่าผู้หญิงคนปัจจุบันที่ไอ้ปอร์เช่มันควงอีก"
และเมื่อได้ยินประโยคนั้นหม้อแกงก็ทำหน้างอขึ้นมาทันที จนเพนตี้ถึงกับหัวเราะแห้ง ยกฝ่ามือขึ้นตีปากตัวเองโทษฐานที่ปากเสีย
"ขอโทษนะแก ว่าแต่พรุ่งนี้เราไปเชิดใส่ไอ้ผู้ชายที่มันไม่เห็นคุณค่าของเรากันนะเพื่อนสาวสุดที่รัก"
"แน่นอนสิจ๊ะ คอยดูเถอะฉันจะทำให้มันอกแตกตายไปเลย ให้มันเสียดายที่ทำกับฉันแบบนี้ แล้วมาดูกัน!"
หม้อแกงกำมือแน่นอย่างรู้สึกเคียดแค้น พาเพื่อนเดินออกมาจากร้านทำผม ภายในใจคิดหาทางที่จะเอาคืนผู้ชายใจร้ายคนนั้น แต่อีกใจหนึ่งก็ยังคงรักและเจ็บปวดมันเศร้าอย่างแปลกประหลาด เฮ้อ!
ช่างเถอะวันนี้เธอกลับคอนโดก่อนดีกว่า และตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป หม้อแกงคนเดิมที่เป็นยัยเฉิ่มสุดเนิร์ด มันได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว...
เช้าวันต่อมา...
วันนี้หม้อแกงเดินทางมาที่มหาวิทยาลัยในลุคใหม่ เธอขับรถมินิคูเปอร์คู่ใจมาเอง ทั้งที่ปกติถ้าไม่เดินขึ้นรถเมล์ ก็จะเป็นเพื่อนรักที่มาส่ง เนื่องจากว่ารถสาธารณะสะดวกสบายกว่า ถึงทำให้เธอใช้ชีวิตแบบติดดิน ทั้งที่ฐานะที่บ้านก็ไม่ได้ยากจนอะไร
"กว่าจะขับมาถึงได้นะ เฮ้อ"
เธอบ่นออกมาก่อนจะเปิดประตูรถคันหรูออกมา จากนั้นหญิงสาวก็มองสำรวจทั่วตัว วันนี้หม้อแกงใส่กระโปรงรัดรูปโชว์ขาอ่อนเนียนผ่อง ความจริงแล้วตัวเธอเองเป็นคนที่ผิวพรรณขาวอยู่แล้ว รูปร่างก็ซ่อนรูป แต่ทว่าชีวิตปกติชอบใส่กระโปรงยาว เสื้อตัวหลวมโคร่ง ไว้ผมถักเปีย ใส่แว่นหนาเตอะ ใช้ชีวิตแบบนั้นเพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาใคร แต่ตอนนี้เธอใกล้เรียนจบแล้ว ขอแรดหน่อยจะเป็นไรไปล่ะ ซึ่งวันนี้เธอมาในชุดนักศึกษารัดรูป กระโปรงทรงเอโชว์สัดส่วนฟิตเปรี๊ยะ ปล่อยผมยาวสลวยไม่ได้สวมใส่แว่นตา ไม่ลืมที่จะแต่งหน้าอ่อน ๆ เพื่อเพิ่มมิติบนใบหน้า
"ยัยหม้อแกงมาทางนี้"
เสียงตะโกนของเพนตี้ทำให้เธอที่กำลังเดินเข้ามาตกเป็นเป้าสายตา จากนั้นก็มีเสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นซึ่งหญิงสาวเองไม่สนใจหรอก
"ใครวะ เด็กใหม่เหรอสวยฉิบหาย"
"แม่ของลูกเว้ย"
"โคตรขาวเลยให้ตาย กูจะตายแล้วเนี่ย"
เธอถอนหายใจออกมาก่อนจะขยับตัวนั่งลงตรงมานั่ง รำคาญพวกเสียงนกเสียงกาจริง ๆ เลย ตอนที่เธอเป็นยัยเฉิ่มสุดเนิร์ดไม่เห็นจะแซวแบบนี้
"กลายเป็นสาวฮอตเลยนะยะ นี่ถ้าแกแต่งแบบนี้ตั้งแต่ปี 1 ตำแหน่งดาวคณะคงเป็นของแกแล้วแหละ ฺ่ฮ่า ๆ"
"เพ้อเจ้อน่า ฉันไม่ทำอะไรไร้สาระแบบนั้นหรอก"
"ไปเรียนกันเถอะแก"
เพนตี้ขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะดึงลากตัวของเพื่อนรักให้เดินตามกันไป เนื่องจากว่าลานจอดรถอยู่ใกล้กับตึกวิศวะ ซึ่งการเดินไปยังคณะมนุษยศาสตร์จะต้องผ่านตึกนี้อยู่แล้ว และตลอดทางมีแต่เสียงเอ่ยแซวของพวกผู้ชาย และด้วยความบังเอิญที่หม้อแกงหันไปทางขวาสบตาเข้ากับกลุ่มเพื่อนของปอร์เช่พอดี
'หึ... ไอ้พวกเห็นแก่ตัว ฉันเกลียดพวกมันทั้งหมดนั่นแหละ'
ทางด้านของปอร์เช่เขากดโทรศัพท์อยู่ กำลังลังเลว่าจะทักไปหายายแว่นสุดเนิร์ดดีหรือเปล่า ยิ่งอยู่ห่างกันเขาก็ยิ่งคิดถึงใบหน้าของเธอ ไหนจะสัมผัสจากริมฝีปาก บอกเลยว่าตอนนี้เขารู้สึกแย่มาก ไม่ได้มีความอยากเลิกกับเธอเลยแม้สักนิดเดียว ส่วนผู้หญิงอีกคนก็แค่ควงเล่นแก้เหงา ไม่ได้มีความคิดพิศวาสอยากจะมีความสัมพันธ์ด้วยเลยแม้แต่น้อย เพราะภายในใจของเขาตอนนี้นึกถึงแต่ผู้หญิงอีกคน โคตรซวยเลยทำไมต้องมาได้ยินประโยคพวกนั้นด้วย เขาไม่น่าปล่อยเธอให้หลุดมือไปจริง ๆ และหลังจากนี้เขาจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เธอกลับคืนมา"ไอ้เหี้ย! นั่นมันนางฟ้านี่หว่า"เสียงของคอปเตอร์ดังขึ้น ซึ่งทำให้เพื่อนคนอื่นรีบหันไปมองเช่นกัน ก่อนจะเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูสวยโดดเด่นกำลังเดินไปยังคณะมนุษยศาสตร์"กินอะไรเข้าไปวะทำไมสวยขนาดนั้น""กูจองโว้ย ไอ้เกอร์มึงไม่ต้องมาแย่งกับพวกกู โน่นเพนตี้ของมึง"เสียงของบรรดาเพื่อนรักตะโกนแย่งผู้หญิงกันเอง ซึ่งแบรี่ และปอร์เช่ได้ยินเพื่อนทะเลาะกัน ก็รีบเงยหน้าขึ้น หันไปมองตามเสียง ซึ่งตรงหน้านั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผิวขาวผ่องใบหน้าสวยดูสดใส ปล่อยผมยาวสลวย ใส่ชุดนักศึกษารัดแน่นเห็นทรวดทรง และ
ถึงแม้ปากบอกว่าจะไปดื่มเหล้า แต่ก็ทำใจไม่ลงจึงกลับมานั่งอยู่หน้าตึกคณะมนุษยศาสตร์ และรอให้หม้อแกงเดินออกมา จะได้ไปเคลียร์กันให้รู้เรื่อง แล้วดูยัยนั่นแต่งตัวสิ เวลาเดินผ่านไอ้พวกบ้ากามแล้วโดนแซว คิดว่าเขาจะปล่อยผ่านได้ลงอย่างนั้นเหรอ หึ... ไม่มีทางโว้ย จะเฝ้าอยู่เนี่ยแหละ"มึงไม่เข้าเรียนแต่มานั่งเฝ้าผู้หญิงเนี่ยนะ"แบรี่เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนนั่งอยู่หน้าตึกคณะมนุษยศาสตร์ได้เกือบชั่วโมงแล้ว ปอร์เช่ได้ยินแบบนั้นก็หันหน้าไปมองเพื่อนด้วยความหงุดหงิด"เออ! มึงไม่อยากอยู่กับกู มึงก็ไปเรียนดิ"พูดจบเขาก็หันไปมองหน้าตึกประตูทางออก จ้องมองไม่ให้คลาดสายตา เผื่อว่ายัยแว่นเดินลงมาเขาจะได้เห็นเธอทันที"ไอ้เกอร์มึงดูแลเพื่อนมึงด้วยนะ กูไปละ""เอ้าไอ้แบรี่ กูไม่ใช่เพื่อนมึงหรือไง!""เพื่อนกูก็เพื่อนมึงนั่นแหละไอ้แบรี่"ไทเกอร์หันไปมองใบหน้าของเพื่อนก่อนจะยักคิ้วใส่ด้วยความกวนประสาท แบรี่ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เหลือบสายตาหันไปมองไทเกอร์ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา"กูทนคบมันไม่ลง นิสัยชั่วช้าเกินจะเป็นเพื่อนของกู ไปละไปเรียนก่อนเดี๋ยวจดเลคเชอร์ให้แล้วกัน"พูดจบแบริ่งก็เดินหนีไปทันที ปล่อยให้
หลังจากที่ไอ้หมาบ้าปอร์เช่ชี้หน้าข่มขู่พี่หมอแล้วก็ถูกเพื่อนรักที่เหลือลากออกไป สถานการณ์ตรงนั้นก็เริ่มสงบสุขลง หม้อแกงหันไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างกาย ดึงแขนเขาพาไปนั่งลงที่มานั่งก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง"พี่หมอเป็นอะไรไหม"เธอเอ่ยถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากว่าเมื่อครู่แอบเห็นว่าพี่หมอถูกผลักอย่างแรงจากผู้ชายอีกคน"พี่ไม่เป็นอะไรหรอก ว่าแต่หมอนั่นกับหม้อแกงเป็นอะไรกันเหรอทำไมดูมันหึงหวงขนาดนั้นล่ะ"พี่หมอจ้องหน้าของเธออย่างคาดคั้นเอาคำตอบ หม้อแกงทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะเอ่ยตัดบท"ไม่มีอะไรหรอกค่ะก็แค่หมาหวงก้าง""ท่าทางมันคงไม่ปล่อยเราหรอก ระวังตัวไว้หน่อยแล้วกันพี่เป็นห่วง"พี่หมอเอ่ยออกมาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ เขาเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เรียนที่เดียวกันมาโดยตลอด แต่ทว่าช่วงหลังเขาสอบเข้าเรียนคณะแพทยศาสตร์ จึงทำให้เราสองคนไม่ค่อยได้เจอกัน"หนูจะระวังตัวแล้วกันค่ะ ถ้าอย่างนั้นวันนี้เรากลับดีไหมน่าจะไม่สนุกแล้ว"พี่หมอพยักหน้าอย่างเห็นด้วย สงสัยวันนี้คงจะไปเที่ยวไม่สนุกแล้วแหละเกิดเรื่องราวขนาดนี้ ทั้งสองคนลุกขึ้นจากม้านั่งเตรียมจะเดินออกไป แต่ทว่าเสียงโทรศัพท
หญิงสาวหยุดชะงักไปด้วยความลังเล ก็พอรู้แหละว่าเขาเป็นคนพูดจริงทำจริง แต่แล้วยังไงล่ะคนอย่างเธอกลัวที่ไหน อีกอย่างเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ปอร์เช่เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะมาหึงหวงเธออีก"ไปกันเถอะค่ะ"เธอทำหูทวนลมก่อนจะควงแขนผู้ชายอีกคนออกไปจากตรงนั้น ปอร์เช่กำมือแน่นอย่างระงับอารมณ์โกรธ และครั้งนี้เขาหมดสิ้นความอดทนแล้ว"เธอท้าทายฉันเองนะหม้อแกง หึ!"เขาตะโกนไล่หลังหญิงสาวไป แต่ทว่าเธอทำหูทวนลมไม่สนใจอีก และเมื่อออกมาถึงหน้าร้านก็รีบบอกปฏิเสธผู้ชายอีกคนอย่างสุภาพ แต่เขาก็ยังยืนยันว่าจะไปส่งให้ได้"เดี๋ยวหนูกลับเองก็ได้ค่ะ""ไม่ได้หรอกมืดค่ำขนาดนี้จะกลับเองได้ยังไง เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่า"เขาพาเธอไปที่รถ ปลดล็อกกุญแจและเปิดประตูผายมือเชิญให้เธอเข้าไปนั่งข้างใน หม้อแกงเองก็รู้สึกกลัวนะ แต่ดูท่าทางเขาก็ไม่ได้มีพิษภัยอะไร คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง"ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ"เธอขึ้นไปนั่งอยู่บนรถ จากนั้นรัฐก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ รีบปิดประตูแล้วก็เดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับ คืนนี้เขามีความหวังว่าจะได้เธอมาครอบครอง แต่การรุกแบบรุนแรงไม่ใช่วิธีของเขาทั้งสองคนเดินทางมาถึงคอนโดของหม้อแกง และเมื่อจอดรถเขาก็เด
หญิงสาวกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้แน่น เธอไม่ยอมที่จะส่งเสียงร้องครางออกไป เพราะมันอาจจะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้เขามีอารมณ์มากยิ่งขึ้น และการทำแบบนั้นทำให้ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกหงุดหงิด ก่อนจะกระแทกท่อนเอ็นเข้าไปไม่ยั้ง จนเธอถึงกับเอามือปิดปากตัวเองเอาไว้ กัดนิ้วตัวเองจนเริ่มบวมแดง"อ๊ะ!""ครางออกมาซื้อหม้อแกง ซี๊ด! ฉันอยากฟังเสียงเธอ"".....""อ้าส์ แน่นสุด!"เขากัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้ ในขณะที่เอวสอบขยับพลางเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น แต่ทว่าหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างกลับเอามือปิดปากตัวเองเอาไว้ไม่ยอมทำตามที่เขาสั่ง"สรุปว่าจะไม่ครางใช่ไหม""เออดี! ไม่ครางก็ไม่ต้องคราง ฉันจะเอาเธอทั้งคืนจนกว่าเธอจะครางชื่อของฉัน"ปอร์เช่นิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะรู้สึกว่าตอนนี้ท่อนเอ็นถูกตอดรัดแน่นจนรู้สึกได้ว่าน้ำสีขาวขุ่นเล็ดเข้าไปในร่องสาว เขาพยายามที่จะไม่ปล่อยมันออกมา แต่ทว่าท้ายที่สุดก็อดทนต่อร่องสาวที่มันตอดรัดท่อนเอ็นไม่ไหว กระตุกเกร็งปล่อยน้ำกามเข้าไปในตัวเธอทุกหยาดหยด"อ้าส์~~ สรุปไม่ครางใช่ไหม... หึ"พูดจบเขาก็ขยับเอวสอบใส่ร่องสาวอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขากระแทกแรงขึ้นกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว หญิงสาวถึงกับหลุดครา
ทางด้านของหม้อแกงก่อนหน้านี้ที่เธอออกมาจากคอนโด ก็รีบเดินทางกลับไปที่บ้าน สภาพของตัวเองเหมือนถูกรุมโทรมมายังไงอย่างนั้น เพราะไอ้หมาบ้าปอร์เช่คนเดียวเลย คอยดูเถอะจะเอาคืนให้สาสมเลย"เลิกแล้วไปไหนต่อแก"เพนตี้ที่กำลังเก็บของเตรียมตัวจะออกจากห้องเรียนเอ่ยถามเพื่อน"ฉันจะกลับบ้าน ช่วงนี้กลับไปอยู่ที่บ้านสักพักก่อน""แกจะหนีมันไปเรื่อย ๆ แบบนี้เหรอ"เพนตี้เอ่ยถามตามความจริง มันไม่ได้สนุกเลยนะกับการที่ต้องวิ่งหนีใครสักคน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คืออดทนมาเรียนอีกแค่เทอมเดียว เพราะหลังจากที่เธอได้ไปฝึกงาน เราสองคนคงไม่ได้เจอกันอีก"ทนอีกเดือนเดียวก็จะฝึกงานแล้ว จะได้ไม่ต้องเจอกันอีก"เธอถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ มหาวิทยาลัยเขาให้ทุกสาขาฝึกงานตอนเทอมสุดท้ายก่อนจบ เพราะบางที่เขาจะรับเข้าทำงานเลย จะได้ไม่เสียเวลากลับมาเรียนที่มหาวิทยาลัยอีกเทอม แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะว่าไหมล่ะหม้อแกงเดินออกจากประตูมาได้สักพักก็เจอกับผู้ชายที่หนีมาก่อนหน้านี้ เฮ้อ จะตามให้ได้เลยหรือไงเนี่ย คราวนี้มาดักรอหน้าห้องเลยเหรอมันจะเกินไปแล้ว"ว่าไงเมียจ๋า ตื่นทำไมไม่ปลุกผัวเลย"เสียงซุบซิบรอบข้างดังขึ้นเมื่อได้ย
และเมื่อเธอได้น้ำเย็นเรียบร้อยก็หยิบไปวางไว้บนถาด ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องรับรอง"น้ำมาแล้วค่ะ"เธอวางน้ำไว้ให้พวกท่านทั้งสองคนก่อนจะยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม"สวัสดีค่ะ""หนูหม้อแกงไม่เจอกันนานเลยนะดูสวยขึ้นเยอะเลย อร๊าย! แม่มีลูกชายนะยังโสดอยู่ นี่ยัยแก้มฉันจองลูกสาวเธอให้ลูกชายฉันนะ"หม้อแกงถึงกับยิ้มแห้งไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ควรจะถามกันหน่อยไหมว่าอยากรู้จักกับลูกชายของท่านหรือเปล่า พวกผู้ใหญ่นี่เป็นอะไรกันก็ไม่รู้ชอบคลุมถุงชนเก่งจริง ๆ"แกพูดแล้วนะ ถ้าอย่างนั้นก็ไปหาฤกษ์แต่งงานเลย ฮ่า ๆ"เธอหันไปมองคุณแม่ก่อนจะอ้าปากค้างอย่างตกใจ ก็นึกว่าจะปฏิเสธกลับเล่นด้วยเฉยเลย เฮ้อ!"ขอโทษที่มาช้าครับ พอดีว่าผมหาที่จอดรถไม่ได้"หม้อแกงรู้สึกคุ้นเคยกับน้ำเสียงที่พึ่งมาใหม่ จึงรีบหันหลังกลับไปมองก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ และชายหนุ่มเองก็ดูตกใจไม่น้อยเหมือนกัน"เฮ้ย ปอร์เช่ นะ...นาย""หม้อแกง!"หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองซวยมากเมื่อเจอเขาที่นี่ อุตส่าห์หนีไม่ไปเจอ ยิ่งได้มาเจอกันเรื่อย ๆ แล้วดูตอนนี้สิ ยิ้มกริ่มทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ ซึ่งผู้ใหญ่ก็มองมาทางเราสองคนอย่างรู้สึกสงสัย"รู้จักกันเหรอลูก"คุณแม่ขอ
คอนโด...หญิงสาวเดินทางกลับมาที่คอนโด เนื่องจากว่าถูกปอร์เช่ข่มขู่เอาไว้ จึงต้องกลับมานอนค้างที่นี่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเด็นคือเขาจะมานอนกับเธอเนี่ยสิ เฮ้อ! ทำยังไงดีล่ะทีนี้ก๊อก ก๊อกหม้อแกงเดินไปเปิดประตูก่อนจะเจอไปหน้าของปอร์เช่ที่ยิมแป้นดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เธอถึงกับถอนหายใจใส่ก่อนจะเดินกลับเข้าไป นั่งกดโทรศัพท์อยู่ตรงโซฟาทำเหมือนไม่สนใจเขา"หม้อแกงจ๋า"อยู่ ๆ เขาก็เดินมาดึงโทรศัพท์ของเธอไปวางลงที่โต๊ะ ขยับตัวเดินลงมานั่งเบียดก่อนจะอุ้มเธอขึ้นไปนั่งลงบนตักของเขา"ต้องการอะไรปอร์เช่""คิดถึงที่สุดเลยรู้ไหม"เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ยื่นมือมาเกลี่ยแก้มนวลอย่างหลงใหล ทำไมเธอถึงรู้สึกหัวใจเต้นรัวขนาดนี้ก็ไม่รู้ ทั้งที่เขาทำเธอเจ็บช้ำขนาดนั้น"ทำมาบอกคิดถึง แล้วแฟนนายล่ะอยู่ที่ไหน ไม่ไปบอกรักกันเหรอไง"หญิงสาวเอ่ยออกไปอย่างประชดประชัน แต่ทว่าชายหนุ่มใช้นิ้วมาจิ้มอยู่ตรงหน้าผากของเธอ ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกวนประสาท"นี่ไงแฟนของเช่อ่ะ""เช่บ้าเช่บออะไรจะอ้วก แฟนนายที่ฉันหมายถึงก็คือน้องมะปรางคนนั้นไง ชอบมากไม่ใช่เหรอ อยากได้เขานี่"หญิงสาวเบ้ปากใส่ก่อนจะทำท่าทางเหมือนอยาก
หลังจากที่กลับมาเขาก็พาเธอไปนอนพักผ่อน คงจะคิดมากทั้งวันจึงทำให้เหนื่อยล้าและสลบไสลไปในที่สุดและในช่วงเช้าของวันต่อมาปอร์เช่ปลุกให้หม้อแกงลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ จูบหน้าผาก จั๊กจี้ที่เอวก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะลืมตาขึ้น เขาจึงเลื่อนมือเข้าไปในชุดนอนจากนั้นก็ค่อย ๆ ใช้มือบีบเคล้นเนินปทุมถัน ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ใช้ลิ้นร้อนดูดเม้มเม็ดทับทิมสีชมพู"อื้อ ปะ...ปอร์เช่ทำอะไรเนี่ย"เสียงร้องครางของหม้อแกงทำเอาความเป็นชายตื่นตัว ก็ต้องอดทนไว้ก่อนเพราะว่าเมียท้องอยู่ไม่อยากจะทำรุนแรงมากนัก"อ้าส์! เช่จ๋า"ในตอนนี้ความอดทนของเขาเริ่มจะหมดลงแล้ว จัดการถอดกางเกงของตัวเองที่ตอนนี้ความเป็นชายชี้โด่ออกมา ดีนะที่ของหญิงสาวเป็นกระโปรงถอดง่าย ถึงไม่ต้องอะไรให้มากความ"เมียจ๋าขอแป๊บหนึ่งนะ เช่จะทำเบา ๆ เลย"เขาเอ่ยอ้อนภรรยาเพื่อขออนุญาต ไม่ใช่ว่าจะทำได้เลยนะเดี๋ยวจะพานโกรธอีก เดี๋ยวก็ได้ง้อกันยาว"ห้ามทำแรงนะ"เขาพยักหน้าทันทีก่อนจะจับแก่นกายความเป็นชายสอดใส่เข้าไป ทั้งสองคนกัดริมฝีปากก่อนจะครางออกมาในลำคอ นาน ๆ จะได้มีความสุขด้วยกันแบบนี้ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะเพราะถ้าเกิดหลังจากที่เธอคลอดลูกคนแรกออกม
ปอร์เช่หยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาเพื่อนรักก่อน เพราะว่าไทเกอร์เป็นคนเดียวที่มีเบอร์ของเพนตี้ กดโทรไปเพียงไม่นานเขาก็รับสายฉันที(ไงปอร์เช่)"ขอเบอร์เพนตี้หน่อย"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเร่งรีบเป็นอย่างมาก แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับแสดงความหึงหวงจนออกนอกหน้า(ยุ่งอะไรกับเมียกู)"ใช่เวลาที่มึงจะมาหึงหวงไหม เมียกูหายเนี่ย"(อ้าวกูก็นึกว่ามึงจะมาจีบเมียกูนี่ เออ... เดี๋ยวส่งไลน์ไปให้รอแป๊บหนึ่ง"พูดจบเขาก็กดวางสายทันที มองโทรศัพท์อย่างใจจดใจจ่อ สักพักก็มีข้อความเด้งเข้ามาLINETiger : 08928xxxxxเมื่อได้เบอร์โทรศัพท์เขาก็ไม่รอช้ารีบกดติดต่อไปยังปลายสายทันที และเพียงไม่นานเธอก็กดรับสาย(สวัสดีค่ะเพนตี้พูดสายค่ะ)"เพนตี้นี่ปอร์เช่เองนะ หม้อแกงอยู่ที่นั่นหรือเปล่า"เพนตี้เหลือบสายตาหันไปมองหม้อแกงที่ตอนนี้นอนหลับอยู่ตรงโซฟา และเสียงปลายสายทำให้เธอไม่กล้าพูดอะไรออกไป เพราะกลัวว่าคนที่อยู่ตรงนี้จะรู้สึกไม่ดี"หม้อแกงเดี๋ยวฉันไปหารุ่นพี่แป๊บหนึ่งนะ เขาเอาของมาให้""ไปเถอะฉันอยู่ตรงนี้แหละ"หม้อแกงเอ่ยออกมาก่อนจะหลับตาลงด้วยความรู้สึกเสียใจ เพนตี้เห็นแบบนั้นก็รีบเดินออกไปจากคอนโดของตัวเอง เพราะจำเป็นจะต้องไปคุยโท
สองสัปดาห์ต่อมา...ช่วงนี้หม้อแกงค่อนข้างจะทำตัวติดสามี ตามไปทำงานแทบจะทุกวัน แล้ววันนี้ก็เช่นกันช่วยงานแปลเอกสารทำทุกอย่างเพื่อแบ่งเบาภาระของเขา แต่ทว่าคนเป็นสามีกลับไม่อยากให้แตะต้องอะไรทั้งนั้น เพราะกลัวว่าจะเครียดมากเกินไปส่งผลกระทบถึงเจ้าตัวเล็กในท้องได้"ตัวเองเดี๋ยวเช่ลงไปคุยกับลูกค้าข้างล่างนะ อยู่ในห้องนี้รอไปก่อน"หญิงสาวเหลือบสายตาหันไปมองคนรักก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยอย่างรับทราบ"รีบมานะไม่อยากอยู่คนเดียว""จ๊ะ"ชายหนุ่มซื้อแฟ้มเอกสารขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินมาลูบศีรษะของคนรักเอาไว้จากนั้นก็เดินออกไปทันที ส่วนหม้อแกงเธอก็วางโทรศัพท์ลงทำนั่นนี่นิดหน่อย แต่ทว่าเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาเลย เธอเองก็เริ่มหิวคิดว่าจะลงไปหาอะไรกินในระหว่างรอเขา เมื่อนึกได้แบบนั้นเธอก็วางทุกอย่างลงจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์แล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ว่าแต่ปอร์เช่อยู่ชั้นไหนนะ..."คุณจีคะ คุณปอร์เช่คุยงานอยู่ชั้นไหนคะ""อยู่ชั้น 14 ค่ะ ตรงร้านกาแฟค่ะคุณหม้อแกง"เธอเอ่ยถามเลขาที่อยู่หน้าห้อง แล้วเมื่อได้คำตอบก็เอ่ยขอบคุณก่อนจะเดินตรงไปยังลิฟต์ จากนั้นก็เก็บปลายทางไปยังชั้น 1
แอ๊ดดดดดดเสียงประตูห้อง VIP ถูกเปิดออก เป็นปอร์เช่นั่นเองที่มา แถมยังหิ้วของอร่อยหลายอย่างติดมือมาด้วยอีก"สวัสดีครับทุกคน ตัวเองเป็นยังไงบ้าง อาการดีขึ้นหรือเปล่าหมอว่าไงบ้าง"ชายหนุ่มเอ่ยทักทายผู้ใหญ่ก็เดินเข้าไปนั่งลงเคียงข้างคนรัก หม้อแกงโอบรอบเอวว่าที่สามี จากนั้นก็จ้องมองไปทางผู้ใหญ่ด้วยสีหน้าน้อยใจ"เช่จ๋า หม้อแกงอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วย ช่วยคุยกับคุณพ่อคุณแม่แล้วก็คุณลุงให้หน่อยนะ"ชายหนุ่มเองก็ลำบากใจไม่น้อยเลย ก็พอรู้ว่ามันเป็นการเดินทางไกลและเป็นอันตรายได้ ซึ่งดูจากสีหน้าเขาในตอนนี้หม้อแกงก็พอจะดูออกว่าเขาก็คงเป็นห่วงเธอไม่น้อยเหมือนกัน"ตอนนี้ตัวเองกับลูกต้องดูแลตัวเองนะ เค้ากลัวว่าถ้าเดินทางไกลมันจะอันตราย เข้าใจกันเถอะ"เขาพยายามพูดปลอบใจซึ่งหญิงสาวรู้สึกน้อยใจมากเมื่อถูกทุกคนห้าม เบือนหน้าหนีหันไปมองทางอื่น หยิบผ้าห่มมาคลุมโปงไม่ยอมคุยกับใคร ทำเอาผู้ใหญ่ทุกคนที่อยู่ภายในห้องรวมถึงปอร์เช่ถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจเอาจริงเขาเป็นห่วงคนรักมาก การเดินทางไปต่างประเทศจะต้องนั่งนานเป็นพิเศษ ทุกคนไม่มีใครอยากให้เธอลำบากหรอก อีกอย่างหนึ่งร่างกายเธอไม่ค่อยแข็งแรงด้วย นิดหน่อย
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ทว่าชายหนุ่มก็ยังคงตกใจไม่หาย เมื่อนึกถึงตอนที่มีเลือดไหลออกมาตามร่องขาของคนรัก อาจจะเป็นเพราะว่าแรงกระแทกก่อนหน้านี้ หน้าท้องเธอไปชนกับราวเหล็ก จึงทำให้กระทบกระเทือน แต่ก็ยังงงว่าทำไมเลือดถึงออกได้แอ๊ด!ในที่สุดประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออก เขาได้สติรีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนเพราะอดเป็นห่วงคนรักไม่ได้"คุณหมอครับเมียผมเป็นยังไงบ้าง""ใจเย็นก่อนนะครับ ตอนนี้คุณแม่ปลอดภัยดีแล้ว ส่วนเด็กในท้องหมอต้องขอดูอาการอีกสักหน่อยเพราะว่าค่อนข้างจะเสียเลือดเยอะมาก ว่าแต่ไปทำอะไรมาครับทำไมถึงตกเลือดขนาดนั้น"จบประโยคของคุณหมอทำเอาเขาช็อกจนแทบพูดอะไรไม่ออก นี่หม้อแกงกำลังตั้งครรภ์อย่างนั้นเหรอ หมายความว่าเขากำลังเป็นพ่อใช่รึเปล่า ณ เวลานี้เขาควรจะดีใจมากด้วยซ้ำ แต่ทำไมกลับรู้สึกเศร้ายังบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินว่าเด็กน้อยยังคงไม่ปลอดภัย ความผิดของเขาคนเดียวแท้ ๆ เลยที่ดูแลเธอไม่ดีพอ"ลูกของผมจะปลอดภัยใช่ไหมครับ เท่าไหร่ผมก็ยอมจ่ายแต่ลูกผมต้องรอดนะครับหมอเข้าใจหรือเปล่า เขาจะต้องอยู่กับผม!"ปอร์เช่เดินเข้าไปใกล้คุณหมอก่อนจะคุกเข่าขอร้อง ซึ่งคุณห
และแล้ววันหยุดก็มาถึง ปอร์เช่รับปากกับคนรักไว้ว่าจะพามาเที่ยวสวนสนุกดรีมเวิลด์ตามที่เธอต้องการ ตอนแรกก็นึกว่าลืมเสียแล้ว ไม่คิดว่าจะจำได้แล้วพามาตามสัญญา ปลุกให้หม้อแกงตื่นนอนตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า เร่งรีบออกมาเพราะกลัวว่าจะมีเวลาน้อย"เช่จ๋า เค้าอยากไปเมืองหิมะ ไปกัน"หญิงสาวกุมมือคนรักเอาไว้จากนั้นก็ลากเข้าไปตรงประตูทางเข้าบ้านหิมะ เปลี่ยนชุดรองเท้าเสื้อกันหนาวให้เรียบร้อยจากนั้นก็วิ่งเข้าไปข้างใน บรรยากาศภายในนั้นเย็นสบายค่อนไปทางหนาว ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเล่นด้วยความสนุกสนาน"หม้อแกงอย่าวิ่งเดี๋ยวล้ม"เขาพยายามเตือนคนรักไม่ให้ซุกซนมากจนเกินไป เพราะพื้นค่อนข้างจะลื่น ใจเย็นสาวกำลังสนุกจึงไม่ฟังเสียงตักเตือนเลยแม้แต่น้อย"ปอร์เช่เดี๋ยวรอรับอยู่ตรงนี้นะ เค้าจะไปอยู่ตรงโน้นแล้วก็สไลด์ลงมา โอเคนะคะที่รัก"พูดจบก็รีบวิ่งขึ้นไปข้างบนทันที จากนั้นก็เตรียมพร้อมที่จะสไลด์ลงมาจากข้างบนลงไปยังช่องที่ปอร์เช่กำลังยืนรออยู่"อร๊าย!"หม้อแกงกรีดร้องออกมาอย่างสนุกสนาน แต่ทว่าผู้ชายอีกคนกลับทำหน้าบึ้งบูดเหมือนจะไม่ค่อยชอบใจ ที่เธอเล่นอะไรรุนแรงแบบนี้ ไม่เห็นจะหนักตรงไหนเลยก็แค่สไลด์หิมะเล่นเอง จนในที
เขาโชว์ผ้าเช็ดตัวขึ้นอีกครั้งก่อนจะปาทิ้งติดกำแพงอีกฝั่ง จ้องมองมายังคนรักก่อนจะยิ้มกรุ้มกริ่ม ทั้งที่เธอทำงานเหนื่อยขนาดนี้ เขาก็ยังเอาแต่รังแกไม่หยุด ไม่รู้ว่าไปเอาแรงมาจากไหนขนาดนั้น"หยุดมองเดี๋ยวนี้เลยนะ"หม้อแกงเอามือทั้งสองข้างปิดหน้าอกของตัวเองเอาไว้ ต้องมองไปยังผ้าเช็ดตัวที่อยู่ติดกำแพง ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหยิบ แต่ทว่าถูกชายหนุ่มใช้มือโอบรอบเอวกว่าจะดึงเข้าหาตัว เราสองคนมองสบตากันนิ่ง และเธอรู้สึกเลยว่าตอนนี้มีอะไรบางอย่างทิ่มแทงตรงเรียวขา และแน่นอนว่าท่อนเอ็นขนาดใหญ่กำลังแข็งตัวทะลุออกจากผ้าเช็ดตัว"อร๊าย! ตาบ้า อย่ามาโรคจิตแถวนี้"หญิงสาวยื่นมือไปทุบหน้าอกของเขา แต่ทว่าน้ำเสียงถูกกลืนหายไปด้วยรสจูบอันเร่าร้อนของผู้ชายตรงหน้า"อื้อ"หญิงสาวหลับตาลงรักสัมผัสอันหอมหวานจากคนรัก เอาเถอะห้ามตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เพราะฉะนั้นเออออตามน้ำไปก็แล้วกัน"อาบน้ำอีกรอบดีกว่า"และเมื่อเขาผละออกก็อุ้มคนรักกลับไปยังอ่างอาบน้ำตามเดิม เริ่มลวนลามตั้งแต่บีบเคล้นตรงหน้าอก ลากไล่ไปยังช่วงล่าง บีบสะโพกถูไถตรงร่องสาว เล่นเอาเหนื่อยไปตามกัน กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็ผ่านไปหลายนาที จากนั้นก็ล้างแล้วล้างตัวให้เรี
เขายืนกอดอกจ้องมองไปยังทั้งสองคน เอาจริงเลยนะถ้าไม่ติดว่าต้องร่วมงานกัน เขาอยากจะต่อยหน้ามันไปสักทีหนึ่ง โคตรหน้าด้านเลย ทั้งที่รู้ว่าผู้หญิงมีคู่หมั้นอยู่แล้วยังคิดจะเคลมเมียคนอื่น ฝันอยู่หรือไงกัน ทำไมเขาถึงรู้นะเหรอ... ก็เพราะว่าที่ผ่านมาหมอนี่มันพูดภาษาอังกฤษได้ แต่กวนประสาทใช้ภาษาบ้านเกิดของตัวเองคุยกับคู่หมั้นของเขา เพื่อไม่ให้คนกลางฟังเข้าใจ โคตรกวนประสาทเลย และดูเหมือนว่าหม้อแกงจะหันมาเห็นคนรักพอดีก็เลยส่งยิ้มมาให้"อ้าวปอร์เช่มาได้ยังไง""ก็ถ้าเมียจะสนใจกันสักนิดก็คงจะรอมากินข้าวด้วยกันแล้วแหละ ไอ้เราทำงานเสร็จก็รีบไปหาที่ห้องกลัวว่าจะหิว นี่นะเหรอสิ่งที่ได้ตอบแทนโคตรน้อยใจเลย"เขาตัดพ้อใส่สาวยังไม่ปิดบัง ความจริงก็ไม่ได้อะไรเยอะหรอกแค่อยากจะให้เมียง้อก็เท่านั้น แถมยังหมั่นไส้ไอ้ผู้ชายตรงหน้าด้วย ถ้าไม่ติดว่าเป็นหุ้นส่วนถีบตกตึกไปนานแล้ว"ไม่เอาสิปอร์เช่มานั่งด้วยกันนี่มา เดี๋ยวเค้าสั่งของอร่อยให้กินนะ"หญิงสาวกวักมือเรียกคนรักให้มานั่งดูด้วยกัน ปอร์เช่ทำหน้างอแต่ก็ยอมเดินไปนั่งลงข้างหม้อแกง ถึงแม้ว่าเขาจะเล่นตัวแต่ก็มีขอบเขตอยู่"ที่รักจะกินอะไรดีคะ"ทีแบบนี้ทำมาเรียกที่รงที
ชายหนุ่มรีบส่ายหน้าปฏิเสธพัลวัน ตั้งแต่ที่เราสองคนมีปัญหากัน เขาไม่เคยไปยุ่งวุ่นวายกับน้องมะปรางอีกเลย และหัวใจของปอร์เช่มีแต่หม้อแกงคนเดียวเท่านั้นไม่คิดมีใครอื่นอีก"เลิกยุ่งนานแล้วเว้ย อย่านะ อย่ามองด้วยสายตาแบบนั้นสิ เอ๊ะ หรือว่าหึงผัวใช่ไหมล่ะ"เขาเอ่ยแซวหญิงสาวทันทีก่อนจะยิ้มมุมปากออกมากรุ้มกริ่ม และทำให้หม้อแกงที่รู้สึกตัวรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที"เปล่าสักหน่อย ใครเขาจะหึงกันเล่า รีบกินเดี๋ยวนี้เลยนะ จะได้กลับบ้าน"หม้อแกงรีบขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะกลับไปนั่งตรงข้ามเขาที่เดิมทันที ใช้ตะเกียบคีบแซลมอนมากินแต่ก็ยังรู้สึกเจ็บใจที่ตัวเองเผลอแสดงความรู้สึกส่วนตัวออกไป จนทำให้ปอร์เช่ได้ใจหัวเราะคิกคักอยากมีความสุข"ไม่ไปเลือกแหวนแต่งงานแล้วเหรอที่รัก""ไอ้บ้าปอร์เช่ บอกให้หยุดพูดไงเล่า""ฮ่า ๆ เอากี่กะรัตดีครับเมีย""ไอ้..."สองเดือนผ่านไป...เวลาผ่านไปหม้อแกงและปอร์เช่ได้หมั้นใหม่กันเรียบร้อยประมาณเดือนที่แล้ว ซึ่งตอนนี้เธอได้เข้ามาฝึกงานที่บริษัทอย่างเต็มตัว เก็บเสื้อผ้าไปอยู่ที่คอนโดของชายหนุ่มเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ไม่ใช่ความคิดของตัวเองหรอก เพราะว่ารายนั้นเป็นคนจัดแจงทุกอย่าง และให้เหต