มะปรางใจเต้นแรงมาก เมื่อเดินเข้ามาในห้อง เธอทิ้งกระเป๋าไว้ที่โซฟา และรีบเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำทันที
“ให้ตายเถอะ เขาจะจำได้ไหมนะ ขอให้จำไม่ได้ด้วยเถอะ แต่ว่า ยังไงก็อยู่คอนโดเดียวกัน ยังไงก็ต้องเจอสักวัน”
กลางดึกคืนนั้น
มะปรางนั่งเขียนงานที่ต้องส่งอาจารย์เสร็จแล้ว เธอจึงเดินออกไปนอกระเบียง เพื่อพักสายตาที่อ่อนล้ามานาน เมื่อเดินออกมาก็ต้องตกใจ เพราะได้ยินบางอย่างดังมาจากห้องข้าง ๆ
“อ๊ะ! พี่ตะวัน…แจงเสียว…อ๊าาส์ มันใหญ่มากเลย อึก!”
“อมให้พี่หน่อยสิน้องแจงคนสวย เดี๋ยวพี่จะเลียให้ เร็วสิ”
“อื้อ…ได้”
มะปรางยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่ระเบียงห้องของตัวเอง ตอนนี้เหมือนกับว่า เธอจะได้ยินเสียงของทั้งคู่ชัดขึ้น เธอขาสั่นจนแทบจะยืนไม่อยู่
ไอ้บ้าเอ๊ย! นี่มันระเบียงห้องนะโว้ย
เธออยากจะตะโกนออกไป แต่อีกฝ่ายเห็นหน้าเธอแล้วก็เลยไม่กล้า เสียงครางของทั้งคู่ก็ยังดังไม่หยุด
“อาา…เสียวฉิบหาย เบาหน่อยอย่ากัดนะ อาาา ค่อย ๆ พี่จะแตกแล้ว”
“อื้อ…หนูก็อยากเสียวบ้าง”
“รอก่อนเดี๋ยวจะจัดให้ อาา…แบบนั้นแหละแจง”
แจง! เธอฟังไม่ผิดแน่ แต่ผู้หญิงที่มาหาเขาตอนเย็นไม่ใช่คนนี้ เพราะคนนั้นดูอายุมาก และแทนตัวเองว่า “บี๋” ไม่ใช่เหรอ
“ครึด!”
มะปรางเผลอเตะกะละมัง ที่เอาไว้ซักชุดชั้นในของตัวเอง เสียงห้องข้าง ๆ เงียบไปแล้ว แต่เธอยังนั่งขุดคู้อยู่ที่ระเบียงมืด ๆ
“อาา…ตื่นเต้นไหมสาวน้อย”
“มากเลยค่ะ”
“งั้นมานี่สิ มีอย่างอื่นที่ตื่นเต้นกว่า”
“อ๊ะ พี่ตะวันจะทำตรงนี้เลยเหรอ”
มะปรางทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เธอรีบเดินเข้าไปในห้อง และปิดประตูกระจกระเบียง ด้วยเสียงที่เบาที่สุดก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องนอนทันที
“ไอ้บ้า! ไอ้โรคจิต หล่อนุ่มอะไร จตุรเทพบ้านพ่องง….ฉิบหาย ไอ้หื่น ไอ้หมาติดสัด!”
นอกระเบียง
“พี่ตะวันคะ”
เขานิ่งไปทันที เมื่อได้ยินเสียงประตูกระจกของห้องข้าง ๆ ปิดลงไป
“พอแล้ววันนี้หมดอารมณ์ กลับไปเถอะ”
“เอ๊ะ แต่ว่า…จะให้แจงค้างอยู่แบบนี้เหรอคะ”
“สามพันพอไหม”
“พี่ตะวัน แจงไม่ใช่เด็กเอ็นฯ นะคะ”
“ห้าพัน”
“เงินสดหรือโอนคะ"
ตะวันเบ้ปากยิ้มออกมา เขาเดินเข้าไปในห้องทันที พร้อมกับกดที่มือถือเพื่อโอนเงิน
“โอนแล้ว ลองเช็กดูสิ”
เสียงมือถือของเธอดังขึ้น บอกให้รู้ว่าเงินห้าพันนั้นถูกโอนเข้ามาแล้วผ่านเบอร์พร้อมเพย์ของเธอ ไม่มีประโยชน์ที่จะตอแยเขา เธอรู้ดีว่าคนอย่างตะวันไม่ใช่คนที่จะล้อเล่นได้
"ถ้างั้นวันไหนพี่เหงา ก็เรียกแจงนะคะ”
“ออกไปเถอะ”
สาวตัวเล็กหันไปใส่เสื้อผ้า และเดินออกจากห้องเขาไปทันที ตะวันเดินไปล็อกประตู และหันมาเห็นพวงกุญแจของคนที่อยู่ข้างห้องของเขา จึงยิ้มออกมาพร้อมกับแผนร้ายในใจ
“เด็กคณะมนุษย์ น่ากินทุกคนจริง ๆ สินะ”
วันต่อมา
มะปรางจะเดินออกจากห้อง เมื่อล้วงเข้าไปในกระเป๋าเธอกลับไม่พบกุญแจห้องที่ปกติจะเก็บอยู่ในนี้
“หายไปไหนแล้วล่ะ”
แต่เธอก็นึกไม่ออก และตอนนี้ก็เริ่มสายแล้ว อีกอย่างต้องรีบเข้าเรียนเพราะคาบแรก เธอต้องนำเสนองานกลุ่ม
“แจ้งนิติเอาไว้ก็แล้วกัน ไม่มีเวลาแล้ว”
เมื่อเธอเดินออกมาจากห้องก็ต้องตกใจ เพราะคนที่อยู่ห้องข้าง ๆ ก็พึ่งจะเดินออกมาพอดี เขามองเธอที่ทำท่าทางแปลก ๆ
“มีอะไรให้ช่วยไหม”
“ไม่มีค่ะ ขอบคุณค่ะ”
เธอตัดสินใจใช้กุญแจสายยู คล้องล็อกห้องเอาไว้ชั่วคราว เพียงแค่ได้ยินเสียงล็อกสายยูของเธอ ตะวันที่เดินมาก่อนก็ยิ้มออกมาทันที
น่าสนุกนี่ แกล้งสักหน่อยดีกว่า
เขากดลิฟต์รอเธออยู่ มะปรางทำสีหน้าแปลก ๆ ที่ต้องลงลิฟต์ไปกับเขา แต่ถ้าเธอรออีก ก็จะสายจริง ๆ แล้ว
“ไม่มาเหรอ เดี๋ยวไปไม่ทันนะ”
“ไปค่ะ”
ตะวันแค่หันไปมองคนที่ยืนเกร็ง และหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ ก็รู้ทันทีว่าเมื่อคืนนี้เธอคงได้ยินเสียงอะไรที่ระเบียงแน่นอน เผลอ ๆ อาจจะได้ยินมาตลอดก็ได้ เขาเลยอยากลองหยั่งเชิงดู
“เมื่อวานนี้…”
“ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ ไม่ว่ารุ่นพี่จะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับฉัน”
“เอ๊ะ ทำไมถึงพูดแบบนั้นละ พี่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยนะ”
“คะ คือว่า คือ…”
ตะวันกลั้นขำ เมื่อเห็นเธอล่อกแล่กและหาทางหนี แต่ในลิฟต์ไม่มีที่ให้ดิ้นสักเท่าไหร่
“พี่แค่จะบอกว่าเมื่อวานนี้ เราทำของตกหน้าห้อง พี่เป็นคนเก็บได้”
“อะ เอาคืนมานะคะ”
“เอ๊ะ อะไรกันเราเป็นรุ่นน้องไม่ใช่เหรอ ทำไมพูดแบบนี้ละ ไม่ขอดี ๆ แล้วยังขู่ด้วย แบบนี้ก็สนุกสิ”
“รุ่นพี่คะ ฉันว่าเราไม่เคยรู้จักกัน ถ้าเก็บของคนอื่นได้ และรู้ว่าเจ้าของคือใคร เป็นคนปกติก็ต้องคืนสิคะ”
เขาหันมามองเธอ และใช้มือกดประตูลิฟต์เอาไว้ให้หยุดที่ชั้น 4 มะปรางตกใจ และหันมามองเขาอีกครั้ง
“รุ่นพี่คะ ถอยไปหน่อย”
“ไม่ถอย พี่ยังพูดไม่จบ เมื่อกี้นี้เหมือนจะโดนใส่ร้ายว่าเป็นขโมย”
“ฉันเปล่านะคะ ฉันก็แค่…”
"เราบอกว่าถ้าเป็น “คนปกติ” ก็จะต้องคืน แต่ว่าบังเอิญ พี่ไม่ใช่คนปกติเสียด้วยสิ"
“แล้วจะเอายังไง”
“อืม นั่นสิ เอายังไงดีนะ”
“นิสัยไม่ดี”
“โอ้วว… ปากดีเสียด้วย ถ้าอยากได้ก็ตามมาดี ๆ เถอะ”
“ปะ ไปไหน”
ตะวันกดลิฟต์ให้เลื่อนต่อจนถึงชั้น 1 เมื่อประตูเปิดออก เขาก็หันมายิ้มด้วยสีหน้าที่ทำเอาคนที่เห็นใจสั่นอีกครั้ง
“จะไปไหนได้ละ ก็ไปมหาลัยน่ะสิ รีบ ๆ เข้าเถอะ เดี๋ยวไปเข้าเรียนสายนะ ไม่อยากได้แล้วเหรอกุญแจน่ะ”
“แต่ว่า”“จะเอาไหม กุญแจห้องน่ะ”เธอเดินตามเขาไปที่รถสปอร์ตหรู แต่พอมานึกดูอีกที เพื่อนเธอบอกว่าเขาเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทรถหรูนี่นา เมื่อเดินไปถึงเขาก็กดกุญแจปลดล็อกทันที“ขึ้นไปสิไม่ต้องกลัว พี่ไม่เอาเราไปขายหรอก ถึงจะรูปร่างดีหน้าตาน่ารัก แต่ก็…”“หยาบคาย!”เขายกพวงกุญแจกระต่ายขึ้นมา นั่นยิ่งทำให้เธอโกรธจนหน้าแดง แต่กลับทำให้ตะวัน รู้สึกอยากแกล้งเธอมากขึ้นไปกว่าเดิม“ขึ้นรถสิ ถ้าไม่ไปตอนนี้จะสายจริง ๆ แล้วนะ ได้ข่าวว่าที่คณะถ้าไปสาย จะถูกตัดคะแนนความประพฤติด้วยนี่ อย่าเสี่ยงจะดีกว่า”มะปรางยอมขึ้นรถไปทันที เธอตั้งใจปิดประตูด้วยเสียงที่ดังเกินปกติ จนคนที่ยืนอยู่ ถึงกับหลับตาและขำออกมา“ช่างรุนแรง จนน่าจะจับไปทำอย่างอื่นจริง ๆ”เมื่อเขาสตาร์ทรถและเริ่มขยับเกียร์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะแอบกลืนน้ำลาย เขาไม่เพียงแค่หล่อแต่ยังเซ็กซี่ด้วย รูปร่างที่สมส่วนกับความสูงเกือบ 190 เซนติเมตรนี้ ที่ทำให้สาว ๆ คลั่งไคล้ แต่ใครจะคิดว่าคนเงียบ ๆ แบบนี้ เวลาพูดออกมาจะกวนขนาดนี้ อีกทั้ง….“กรี๊ด!!! พี่จะรีบไปหาพ่อพี่เหรอ”“ฮ่า ๆ ไม่ต้องรีบขนาดนั้น ยังต้องเรียนกันอยู่เลย เรื่องอนาคตค่อยว่ากันเถอะ”“ไอ้บ้า! ข
คอนโด RTS“นี่กุญแจห้องค่ะ ถ้ามีอะไรก็โทรมาหาพี่ได้เลยนะคะ”“ขอบคุณค่ะ”“มะปราง” สาวน้อยนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ปีสอง ค่อย ๆ ทยอยขนของเข้ามาในห้องที่เธอพึ่งตัดสินใจเช่า หลังจากย้ายออกมาจากหอพักเดิม ก่อนย้ายเข้ามา เจ้าของห้องเดิมก็สั่งให้ทำความสะอาดรอเอาไว้แล้ว เหลือแค่เก็บของเข้าที่ก็พักได้แล้ว เมื่อเก็บของเสร็จแล้ว มะปรางจึงได้นั่งพักที่โซฟาซึ่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอมองไปรอบห้องและพูดขึ้นมา“สวัสดีชีวิตใหม่ วันนี้ฉันจะ….”เสียงบางอย่างที่ห้องข้าง ๆ ดังขึ้น เธอตกใจเพราะไม่คิดว่ามันจะดังขนาดนี้ นี่มันไม่ปกติเพราะเธอคิดว่าเลือกห้องที่เก็บเสียงและอยู่ชั้นสูงแล้ว แต่ก็ยังได้ยิน เมื่อเอาหูแนบไปที่ผนังห้องก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น“อ๊า! สะ เสียว..อ๊าา”มะปรางใจสั่น เมื่อเสียงของผู้หญิงห้องข้าง ๆ ร้องดังขึ้น แต่เธอไม่ได้ยินเสียงของคนที่ทำ ถึงจะเบาแต่เมื่อเอาหูแนบก็พอจะได้ยิน“เอาอีกไหม ชอบความรุนแรงขนาดนี้เชียว”“อ๊าาส์…ตะวันคะ อ๊าาา”“ตะวัน” ชื่อที่ผู้หญิงซึ่งกำลังครวญครางเสียงกระเส่าพูดออกมา มะปรางรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกใจสั่น เธอไม่เคยได้ยินเสียงอะไรแบบนี้มาก่อน และไม่รู้ว่าเพื่อนบ้าน
เมื่อเขาเข้าไปในห้องแล้ว เธอก็รีบเดินกลับมาและรีบวิ่งเข้าห้องของตัวเองทันที “เป็นเขาหรอกเหรอ”เธอต้องจำเขาได้แน่นอน เพราะรุ่นพี่คณะวิศวะคนนี้ ค่อนข้างจะเสน่ห์แรง และดังในหมู่สาว ๆ แต่เธอจำไม่ได้เลยว่าเขาเป็นคนแบบนี้“ไหนบอกว่าเขาเป็นเด็กเนิร์ด ๆ เงียบและรักสงบไม่ใช่เหรอ”“ตะวัน” หนุ่มคณะวิศวะ ที่แต่งกายถูกระเบียบทุกกระเบียดนิ้ว เขาเป็นคนเงียบ ๆ แม้ว่าจะมีกลุ่มเพื่อนสนิทที่คบหากันอยู่ไม่กี่คน แต่พวกเขาก็โดดเด่น จนที่มหาลัยเรียกพวกเขาว่า “จตุรเทพคณะวิศวะ” เพราะนอกจากความหล่อแล้ว พวกเขายังเรียนเก่งอีกด้วย“แกว่ายังไงนะ จะ…จตุรเทพวิศวะงั้นเหรอ คนไหนละ”“คนที่ชื่อตะวัน”“พี่ตะวัน หล่อนุ่มเหมือนคอร์กเทลมาร์ตินี่น่ะเหรอ”“นุ่มเหรอ เนตรนี่แกเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”เธอนั่งคุยกับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ม้าหินอ่อน หน้าคณะของตัวเอง หลังเลิกเรียนแล้วรุ่นน้องก็เริ่มทยอยกลับ วันนี้พวกเธอเลยแวะนั่งคุยกันก่อนกลับ “ไม่ผิดนะ พี่ตะวันคนที่หล่อ ๆ เนี้ยบ ๆ หน่อยเป็นลูกชายเจ้าของธุรกิจขายรถยนต์หรู เงียบ นิ่งเหมือนเจ้าชาย”“เหอะ เจ้าชายกะผีน่ะสิ”สองคืนก่อน“อ๊าาส์ ตะวันคะเบาหน่อย รูจะแหกอยู่แล้ว อ๊าาส์…”เสียงร้
“แต่ว่า”“จะเอาไหม กุญแจห้องน่ะ”เธอเดินตามเขาไปที่รถสปอร์ตหรู แต่พอมานึกดูอีกที เพื่อนเธอบอกว่าเขาเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทรถหรูนี่นา เมื่อเดินไปถึงเขาก็กดกุญแจปลดล็อกทันที“ขึ้นไปสิไม่ต้องกลัว พี่ไม่เอาเราไปขายหรอก ถึงจะรูปร่างดีหน้าตาน่ารัก แต่ก็…”“หยาบคาย!”เขายกพวงกุญแจกระต่ายขึ้นมา นั่นยิ่งทำให้เธอโกรธจนหน้าแดง แต่กลับทำให้ตะวัน รู้สึกอยากแกล้งเธอมากขึ้นไปกว่าเดิม“ขึ้นรถสิ ถ้าไม่ไปตอนนี้จะสายจริง ๆ แล้วนะ ได้ข่าวว่าที่คณะถ้าไปสาย จะถูกตัดคะแนนความประพฤติด้วยนี่ อย่าเสี่ยงจะดีกว่า”มะปรางยอมขึ้นรถไปทันที เธอตั้งใจปิดประตูด้วยเสียงที่ดังเกินปกติ จนคนที่ยืนอยู่ ถึงกับหลับตาและขำออกมา“ช่างรุนแรง จนน่าจะจับไปทำอย่างอื่นจริง ๆ”เมื่อเขาสตาร์ทรถและเริ่มขยับเกียร์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะแอบกลืนน้ำลาย เขาไม่เพียงแค่หล่อแต่ยังเซ็กซี่ด้วย รูปร่างที่สมส่วนกับความสูงเกือบ 190 เซนติเมตรนี้ ที่ทำให้สาว ๆ คลั่งไคล้ แต่ใครจะคิดว่าคนเงียบ ๆ แบบนี้ เวลาพูดออกมาจะกวนขนาดนี้ อีกทั้ง….“กรี๊ด!!! พี่จะรีบไปหาพ่อพี่เหรอ”“ฮ่า ๆ ไม่ต้องรีบขนาดนั้น ยังต้องเรียนกันอยู่เลย เรื่องอนาคตค่อยว่ากันเถอะ”“ไอ้บ้า! ข
มะปรางใจเต้นแรงมาก เมื่อเดินเข้ามาในห้อง เธอทิ้งกระเป๋าไว้ที่โซฟา และรีบเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำทันที“ให้ตายเถอะ เขาจะจำได้ไหมนะ ขอให้จำไม่ได้ด้วยเถอะ แต่ว่า ยังไงก็อยู่คอนโดเดียวกัน ยังไงก็ต้องเจอสักวัน”กลางดึกคืนนั้นมะปรางนั่งเขียนงานที่ต้องส่งอาจารย์เสร็จแล้ว เธอจึงเดินออกไปนอกระเบียง เพื่อพักสายตาที่อ่อนล้ามานาน เมื่อเดินออกมาก็ต้องตกใจ เพราะได้ยินบางอย่างดังมาจากห้องข้าง ๆ“อ๊ะ! พี่ตะวัน…แจงเสียว…อ๊าาส์ มันใหญ่มากเลย อึก!”“อมให้พี่หน่อยสิน้องแจงคนสวย เดี๋ยวพี่จะเลียให้ เร็วสิ”“อื้อ…ได้”มะปรางยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่ระเบียงห้องของตัวเอง ตอนนี้เหมือนกับว่า เธอจะได้ยินเสียงของทั้งคู่ชัดขึ้น เธอขาสั่นจนแทบจะยืนไม่อยู่ ไอ้บ้าเอ๊ย! นี่มันระเบียงห้องนะโว้ยเธออยากจะตะโกนออกไป แต่อีกฝ่ายเห็นหน้าเธอแล้วก็เลยไม่กล้า เสียงครางของทั้งคู่ก็ยังดังไม่หยุด“อาา…เสียวฉิบหาย เบาหน่อยอย่ากัดนะ อาาา ค่อย ๆ พี่จะแตกแล้ว”“อื้อ…หนูก็อยากเสียวบ้าง”“รอก่อนเดี๋ยวจะจัดให้ อาา…แบบนั้นแหละแจง”แจง! เธอฟังไม่ผิดแน่ แต่ผู้หญิงที่มาหาเขาตอนเย็นไม่ใช่คนนี้ เพราะคนนั้นดูอายุมาก และแทนตัวเองว่า “บี๋” ไม่ใช่เ
เมื่อเขาเข้าไปในห้องแล้ว เธอก็รีบเดินกลับมาและรีบวิ่งเข้าห้องของตัวเองทันที “เป็นเขาหรอกเหรอ”เธอต้องจำเขาได้แน่นอน เพราะรุ่นพี่คณะวิศวะคนนี้ ค่อนข้างจะเสน่ห์แรง และดังในหมู่สาว ๆ แต่เธอจำไม่ได้เลยว่าเขาเป็นคนแบบนี้“ไหนบอกว่าเขาเป็นเด็กเนิร์ด ๆ เงียบและรักสงบไม่ใช่เหรอ”“ตะวัน” หนุ่มคณะวิศวะ ที่แต่งกายถูกระเบียบทุกกระเบียดนิ้ว เขาเป็นคนเงียบ ๆ แม้ว่าจะมีกลุ่มเพื่อนสนิทที่คบหากันอยู่ไม่กี่คน แต่พวกเขาก็โดดเด่น จนที่มหาลัยเรียกพวกเขาว่า “จตุรเทพคณะวิศวะ” เพราะนอกจากความหล่อแล้ว พวกเขายังเรียนเก่งอีกด้วย“แกว่ายังไงนะ จะ…จตุรเทพวิศวะงั้นเหรอ คนไหนละ”“คนที่ชื่อตะวัน”“พี่ตะวัน หล่อนุ่มเหมือนคอร์กเทลมาร์ตินี่น่ะเหรอ”“นุ่มเหรอ เนตรนี่แกเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”เธอนั่งคุยกับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ม้าหินอ่อน หน้าคณะของตัวเอง หลังเลิกเรียนแล้วรุ่นน้องก็เริ่มทยอยกลับ วันนี้พวกเธอเลยแวะนั่งคุยกันก่อนกลับ “ไม่ผิดนะ พี่ตะวันคนที่หล่อ ๆ เนี้ยบ ๆ หน่อยเป็นลูกชายเจ้าของธุรกิจขายรถยนต์หรู เงียบ นิ่งเหมือนเจ้าชาย”“เหอะ เจ้าชายกะผีน่ะสิ”สองคืนก่อน“อ๊าาส์ ตะวันคะเบาหน่อย รูจะแหกอยู่แล้ว อ๊าาส์…”เสียงร้
คอนโด RTS“นี่กุญแจห้องค่ะ ถ้ามีอะไรก็โทรมาหาพี่ได้เลยนะคะ”“ขอบคุณค่ะ”“มะปราง” สาวน้อยนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ปีสอง ค่อย ๆ ทยอยขนของเข้ามาในห้องที่เธอพึ่งตัดสินใจเช่า หลังจากย้ายออกมาจากหอพักเดิม ก่อนย้ายเข้ามา เจ้าของห้องเดิมก็สั่งให้ทำความสะอาดรอเอาไว้แล้ว เหลือแค่เก็บของเข้าที่ก็พักได้แล้ว เมื่อเก็บของเสร็จแล้ว มะปรางจึงได้นั่งพักที่โซฟาซึ่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอมองไปรอบห้องและพูดขึ้นมา“สวัสดีชีวิตใหม่ วันนี้ฉันจะ….”เสียงบางอย่างที่ห้องข้าง ๆ ดังขึ้น เธอตกใจเพราะไม่คิดว่ามันจะดังขนาดนี้ นี่มันไม่ปกติเพราะเธอคิดว่าเลือกห้องที่เก็บเสียงและอยู่ชั้นสูงแล้ว แต่ก็ยังได้ยิน เมื่อเอาหูแนบไปที่ผนังห้องก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น“อ๊า! สะ เสียว..อ๊าา”มะปรางใจสั่น เมื่อเสียงของผู้หญิงห้องข้าง ๆ ร้องดังขึ้น แต่เธอไม่ได้ยินเสียงของคนที่ทำ ถึงจะเบาแต่เมื่อเอาหูแนบก็พอจะได้ยิน“เอาอีกไหม ชอบความรุนแรงขนาดนี้เชียว”“อ๊าาส์…ตะวันคะ อ๊าาา”“ตะวัน” ชื่อที่ผู้หญิงซึ่งกำลังครวญครางเสียงกระเส่าพูดออกมา มะปรางรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกใจสั่น เธอไม่เคยได้ยินเสียงอะไรแบบนี้มาก่อน และไม่รู้ว่าเพื่อนบ้าน