เมื่อเขาเข้าไปในห้องแล้ว เธอก็รีบเดินกลับมาและรีบวิ่งเข้าห้องของตัวเองทันที
“เป็นเขาหรอกเหรอ”
เธอต้องจำเขาได้แน่นอน เพราะรุ่นพี่คณะวิศวะคนนี้ ค่อนข้างจะเสน่ห์แรง และดังในหมู่สาว ๆ แต่เธอจำไม่ได้เลยว่าเขาเป็นคนแบบนี้
“ไหนบอกว่าเขาเป็นเด็กเนิร์ด ๆ เงียบและรักสงบไม่ใช่เหรอ”
“ตะวัน” หนุ่มคณะวิศวะ ที่แต่งกายถูกระเบียบทุกกระเบียดนิ้ว เขาเป็นคนเงียบ ๆ แม้ว่าจะมีกลุ่มเพื่อนสนิทที่คบหากันอยู่ไม่กี่คน แต่พวกเขาก็โดดเด่น จนที่มหาลัยเรียกพวกเขาว่า “จตุรเทพคณะวิศวะ” เพราะนอกจากความหล่อแล้ว พวกเขายังเรียนเก่งอีกด้วย
“แกว่ายังไงนะ จะ…จตุรเทพวิศวะงั้นเหรอ คนไหนละ”
“คนที่ชื่อตะวัน”
“พี่ตะวัน หล่อนุ่มเหมือนคอร์กเทลมาร์ตินี่น่ะเหรอ”
“นุ่มเหรอ เนตรนี่แกเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”
เธอนั่งคุยกับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ม้าหินอ่อน หน้าคณะของตัวเอง หลังเลิกเรียนแล้วรุ่นน้องก็เริ่มทยอยกลับ วันนี้พวกเธอเลยแวะนั่งคุยกันก่อนกลับ
“ไม่ผิดนะ พี่ตะวันคนที่หล่อ ๆ เนี้ยบ ๆ หน่อยเป็นลูกชายเจ้าของธุรกิจขายรถยนต์หรู เงียบ นิ่งเหมือนเจ้าชาย”
“เหอะ เจ้าชายกะผีน่ะสิ”
สองคืนก่อน
“อ๊าาส์ ตะวันคะเบาหน่อย รูจะแหกอยู่แล้ว อ๊าาส์…”
เสียงร้องขอชีวิตของอีกฝ่าย เหมือนจะไม่ได้ทำให้คนที่กระแทกอยู่สนใจเลย เพราะคืนนั้นมะปรางแทบจะไม่ได้นอน เสียงของคนที่อยู่ข้างห้องทำให้เธอใจสั่นทั้งคืน ไม่ใช่ว่าอยากรู้ แต่เพราะเธอก็เคยมีแฟนมาก่อน พอได้ยินเสียงแบบนี้ ก็ทำให้รู้สึกเปลี่ยวขึ้นมา จนนอนไม่หลับเท่านั้นเอง
“แม่งเอ๊ย! จะย้ายห้องก็เสียดายค่าประกัน!”
เสียงครางของผู้หญิง และเสียงขู่ของผู้ชายที่ดังเป็นระยะ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะแอบฟัง และนี่เป็นเหตุผล ที่เธอไม่อยากให้เพื่อนมานอนค้างที่ห้อง
“อิจฉาแกจังเลย ที่มีเพื่อนข้างห้องหล่อ ๆ แบบนั้น เอาไว้ฉันแวะไปนอนค้างกับแกดีกว่า”
“อย่าเลย ฉัน…”
“ไอ้ทรายแกก็รู้ว่า มะปรางมันโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบอยู่กับใคร แค่ครั้งก่อนมันมีแฟนอย่างไอ้… ว่าแล้วก็มาเชียวนะ”
“จักรกฤษ” อดีตแฟนเก่าของมะปราง เดินมาพร้อมกับสาวคนใหม่ พวกเธอหันไปมองทั้งคู่ที่เดินผ่านไป แต่ตอนนี้มะปรางไม่รู้สึกอะไรแล้ว เพราะเธอทนมานานเกินพอแล้ว กับนิสัยไม่รู้จักพอของเขา
“รู้สึกโชคดีจังแฮะ ที่ไม่ได้อยู่ในจุดที่ต้องทนแล้ว”
“ดีใจกับแกด้วยจริง ๆ”
“ขอบใจมากอันตรา ฉันกลับก่อนดีกว่า เอาไว้โทรหานะ”
“รายงานกลุ่มที่ต้องพรีเซ็น อีกสองวันค่อยนัดกันทำก็แล้วกัน วันนี้ฉันมีนัดไปก่อนละ”
"อ้าวไอ้เนตร ไปเลยเหรอวะ เหลือแกกับฉันแล้วอันตรา"
“แกอยากจะลองคาเฟ่ร้านใหม่ หน้ามหาลัยไม่ใช่เหรอ ไปสิ”
“อันตรา ฉันรักแกที่สุดเลย”
ทรายกับอันตราแยกไปที่ร้านคาเฟ่ของมหาลัย ระหว่างนั้นเธอก็เห็นคนที่พึ่งพูดถึง เดินออกมาจากคณะวิศวะ เพราะทางที่ต้องไปต้องเดินผ่านคณะของพวกเขา
“นั่นพวกเขาแหละ ดูสิมีแต่คนกรี๊ด เลี่ยงไปทางอื่นเหอะอัน”
“ได้สิ”
อันตราหันไปมองพวกเขาอีกครั้ง หนึ่งในนั้นเองก็เหมือนจะจำเธอได้เช่นกัน อันตรารีบเดินหลบเขาไปทันที
“รีบเดินเถอะทราย เดี๋ยวร้านก็ปิดหรอก”
“เออ ๆ แล้วทำไมแกต้องหน้าแดงด้วยละ”
“ไม่มีอะไรรีบไปเถอะ”
คอนโด
มะปรางมาถึงคอนโดแล้ว เธอกดลิฟต์ไปที่ชั้น 8 ตามปกติ แต่เมื่อเดินออกมา ก็เห็นว่ามีผู้หญิงเดินมาก่อนเธอ ซึ่งน่าจะใช้ลิฟต์อีกตัวหนึ่ง
กลิ่นโชยแรงขนาดนี้อาบมาหรือไงยะ
มะปรางบ่นในใจแต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นว่าเธอหยุดอยู่หน้าห้องข้าง ๆ เธอจึงรีบกดรหัสเข้าห้องตัวเองทันที แต่ก็ไม่ทันเพราะเจ้าของห้องข้าง ๆ เปิดประตูออกมาและเห็นเธอเข้าพอดี
“เปิดประตูช้าจังเลยนะคะที่รัก บี๋เข้าไปได้หรือยัง”
มะปรางทันเห็นสายตาของตะวัน ก่อนจะรีบเข้าห้องไปทันที หัวใจเต้นแรงจนมือสั่น กุญแจห้องของเธอ หล่นที่หน้าห้องแต่กลับไม่รู้ตัว
“เข้าไปก่อนสิ”
“ได้ค่ะ”
ตะวันเดินออกมา และเก็บกุญแจห้องของเธอ เขาจำเธอได้เพราะเคยขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันเมื่อหลายวันก่อน
“พวงกุญแจกระต่ายน้อยเหรอ น่ารักไม่เบาเลยนี่”
มะปรางใจเต้นแรงมาก เมื่อเดินเข้ามาในห้อง เธอทิ้งกระเป๋าไว้ที่โซฟา และรีบเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำทันที“ให้ตายเถอะ เขาจะจำได้ไหมนะ ขอให้จำไม่ได้ด้วยเถอะ แต่ว่า ยังไงก็อยู่คอนโดเดียวกัน ยังไงก็ต้องเจอสักวัน”กลางดึกคืนนั้นมะปรางนั่งเขียนงานที่ต้องส่งอาจารย์เสร็จแล้ว เธอจึงเดินออกไปนอกระเบียง เพื่อพักสายตาที่อ่อนล้ามานาน เมื่อเดินออกมาก็ต้องตกใจ เพราะได้ยินบางอย่างดังมาจากห้องข้าง ๆ“อ๊ะ! พี่ตะวัน…แจงเสียว…อ๊าาส์ มันใหญ่มากเลย อึก!”“อมให้พี่หน่อยสิน้องแจงคนสวย เดี๋ยวพี่จะเลียให้ เร็วสิ”“อื้อ…ได้”มะปรางยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่ระเบียงห้องของตัวเอง ตอนนี้เหมือนกับว่า เธอจะได้ยินเสียงของทั้งคู่ชัดขึ้น เธอขาสั่นจนแทบจะยืนไม่อยู่ ไอ้บ้าเอ๊ย! นี่มันระเบียงห้องนะโว้ยเธออยากจะตะโกนออกไป แต่อีกฝ่ายเห็นหน้าเธอแล้วก็เลยไม่กล้า เสียงครางของทั้งคู่ก็ยังดังไม่หยุด“อาา…เสียวฉิบหาย เบาหน่อยอย่ากัดนะ อาาา ค่อย ๆ พี่จะแตกแล้ว”“อื้อ…หนูก็อยากเสียวบ้าง”“รอก่อนเดี๋ยวจะจัดให้ อาา…แบบนั้นแหละแจง”แจง! เธอฟังไม่ผิดแน่ แต่ผู้หญิงที่มาหาเขาตอนเย็นไม่ใช่คนนี้ เพราะคนนั้นดูอายุมาก และแทนตัวเองว่า “บี๋” ไม่ใช่เ
“แต่ว่า”“จะเอาไหม กุญแจห้องน่ะ”เธอเดินตามเขาไปที่รถสปอร์ตหรู แต่พอมานึกดูอีกที เพื่อนเธอบอกว่าเขาเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทรถหรูนี่นา เมื่อเดินไปถึงเขาก็กดกุญแจปลดล็อกทันที“ขึ้นไปสิไม่ต้องกลัว พี่ไม่เอาเราไปขายหรอก ถึงจะรูปร่างดีหน้าตาน่ารัก แต่ก็…”“หยาบคาย!”เขายกพวงกุญแจกระต่ายขึ้นมา นั่นยิ่งทำให้เธอโกรธจนหน้าแดง แต่กลับทำให้ตะวัน รู้สึกอยากแกล้งเธอมากขึ้นไปกว่าเดิม“ขึ้นรถสิ ถ้าไม่ไปตอนนี้จะสายจริง ๆ แล้วนะ ได้ข่าวว่าที่คณะถ้าไปสาย จะถูกตัดคะแนนความประพฤติด้วยนี่ อย่าเสี่ยงจะดีกว่า”มะปรางยอมขึ้นรถไปทันที เธอตั้งใจปิดประตูด้วยเสียงที่ดังเกินปกติ จนคนที่ยืนอยู่ ถึงกับหลับตาและขำออกมา“ช่างรุนแรง จนน่าจะจับไปทำอย่างอื่นจริง ๆ”เมื่อเขาสตาร์ทรถและเริ่มขยับเกียร์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะแอบกลืนน้ำลาย เขาไม่เพียงแค่หล่อแต่ยังเซ็กซี่ด้วย รูปร่างที่สมส่วนกับความสูงเกือบ 190 เซนติเมตรนี้ ที่ทำให้สาว ๆ คลั่งไคล้ แต่ใครจะคิดว่าคนเงียบ ๆ แบบนี้ เวลาพูดออกมาจะกวนขนาดนี้ อีกทั้ง….“กรี๊ด!!! พี่จะรีบไปหาพ่อพี่เหรอ”“ฮ่า ๆ ไม่ต้องรีบขนาดนั้น ยังต้องเรียนกันอยู่เลย เรื่องอนาคตค่อยว่ากันเถอะ”“ไอ้บ้า! ข
คอนโด RTS“นี่กุญแจห้องค่ะ ถ้ามีอะไรก็โทรมาหาพี่ได้เลยนะคะ”“ขอบคุณค่ะ”“มะปราง” สาวน้อยนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ปีสอง ค่อย ๆ ทยอยขนของเข้ามาในห้องที่เธอพึ่งตัดสินใจเช่า หลังจากย้ายออกมาจากหอพักเดิม ก่อนย้ายเข้ามา เจ้าของห้องเดิมก็สั่งให้ทำความสะอาดรอเอาไว้แล้ว เหลือแค่เก็บของเข้าที่ก็พักได้แล้ว เมื่อเก็บของเสร็จแล้ว มะปรางจึงได้นั่งพักที่โซฟาซึ่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอมองไปรอบห้องและพูดขึ้นมา“สวัสดีชีวิตใหม่ วันนี้ฉันจะ….”เสียงบางอย่างที่ห้องข้าง ๆ ดังขึ้น เธอตกใจเพราะไม่คิดว่ามันจะดังขนาดนี้ นี่มันไม่ปกติเพราะเธอคิดว่าเลือกห้องที่เก็บเสียงและอยู่ชั้นสูงแล้ว แต่ก็ยังได้ยิน เมื่อเอาหูแนบไปที่ผนังห้องก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น“อ๊า! สะ เสียว..อ๊าา”มะปรางใจสั่น เมื่อเสียงของผู้หญิงห้องข้าง ๆ ร้องดังขึ้น แต่เธอไม่ได้ยินเสียงของคนที่ทำ ถึงจะเบาแต่เมื่อเอาหูแนบก็พอจะได้ยิน“เอาอีกไหม ชอบความรุนแรงขนาดนี้เชียว”“อ๊าาส์…ตะวันคะ อ๊าาา”“ตะวัน” ชื่อที่ผู้หญิงซึ่งกำลังครวญครางเสียงกระเส่าพูดออกมา มะปรางรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกใจสั่น เธอไม่เคยได้ยินเสียงอะไรแบบนี้มาก่อน และไม่รู้ว่าเพื่อนบ้าน
“แต่ว่า”“จะเอาไหม กุญแจห้องน่ะ”เธอเดินตามเขาไปที่รถสปอร์ตหรู แต่พอมานึกดูอีกที เพื่อนเธอบอกว่าเขาเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทรถหรูนี่นา เมื่อเดินไปถึงเขาก็กดกุญแจปลดล็อกทันที“ขึ้นไปสิไม่ต้องกลัว พี่ไม่เอาเราไปขายหรอก ถึงจะรูปร่างดีหน้าตาน่ารัก แต่ก็…”“หยาบคาย!”เขายกพวงกุญแจกระต่ายขึ้นมา นั่นยิ่งทำให้เธอโกรธจนหน้าแดง แต่กลับทำให้ตะวัน รู้สึกอยากแกล้งเธอมากขึ้นไปกว่าเดิม“ขึ้นรถสิ ถ้าไม่ไปตอนนี้จะสายจริง ๆ แล้วนะ ได้ข่าวว่าที่คณะถ้าไปสาย จะถูกตัดคะแนนความประพฤติด้วยนี่ อย่าเสี่ยงจะดีกว่า”มะปรางยอมขึ้นรถไปทันที เธอตั้งใจปิดประตูด้วยเสียงที่ดังเกินปกติ จนคนที่ยืนอยู่ ถึงกับหลับตาและขำออกมา“ช่างรุนแรง จนน่าจะจับไปทำอย่างอื่นจริง ๆ”เมื่อเขาสตาร์ทรถและเริ่มขยับเกียร์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะแอบกลืนน้ำลาย เขาไม่เพียงแค่หล่อแต่ยังเซ็กซี่ด้วย รูปร่างที่สมส่วนกับความสูงเกือบ 190 เซนติเมตรนี้ ที่ทำให้สาว ๆ คลั่งไคล้ แต่ใครจะคิดว่าคนเงียบ ๆ แบบนี้ เวลาพูดออกมาจะกวนขนาดนี้ อีกทั้ง….“กรี๊ด!!! พี่จะรีบไปหาพ่อพี่เหรอ”“ฮ่า ๆ ไม่ต้องรีบขนาดนั้น ยังต้องเรียนกันอยู่เลย เรื่องอนาคตค่อยว่ากันเถอะ”“ไอ้บ้า! ข
มะปรางใจเต้นแรงมาก เมื่อเดินเข้ามาในห้อง เธอทิ้งกระเป๋าไว้ที่โซฟา และรีบเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำทันที“ให้ตายเถอะ เขาจะจำได้ไหมนะ ขอให้จำไม่ได้ด้วยเถอะ แต่ว่า ยังไงก็อยู่คอนโดเดียวกัน ยังไงก็ต้องเจอสักวัน”กลางดึกคืนนั้นมะปรางนั่งเขียนงานที่ต้องส่งอาจารย์เสร็จแล้ว เธอจึงเดินออกไปนอกระเบียง เพื่อพักสายตาที่อ่อนล้ามานาน เมื่อเดินออกมาก็ต้องตกใจ เพราะได้ยินบางอย่างดังมาจากห้องข้าง ๆ“อ๊ะ! พี่ตะวัน…แจงเสียว…อ๊าาส์ มันใหญ่มากเลย อึก!”“อมให้พี่หน่อยสิน้องแจงคนสวย เดี๋ยวพี่จะเลียให้ เร็วสิ”“อื้อ…ได้”มะปรางยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่ระเบียงห้องของตัวเอง ตอนนี้เหมือนกับว่า เธอจะได้ยินเสียงของทั้งคู่ชัดขึ้น เธอขาสั่นจนแทบจะยืนไม่อยู่ ไอ้บ้าเอ๊ย! นี่มันระเบียงห้องนะโว้ยเธออยากจะตะโกนออกไป แต่อีกฝ่ายเห็นหน้าเธอแล้วก็เลยไม่กล้า เสียงครางของทั้งคู่ก็ยังดังไม่หยุด“อาา…เสียวฉิบหาย เบาหน่อยอย่ากัดนะ อาาา ค่อย ๆ พี่จะแตกแล้ว”“อื้อ…หนูก็อยากเสียวบ้าง”“รอก่อนเดี๋ยวจะจัดให้ อาา…แบบนั้นแหละแจง”แจง! เธอฟังไม่ผิดแน่ แต่ผู้หญิงที่มาหาเขาตอนเย็นไม่ใช่คนนี้ เพราะคนนั้นดูอายุมาก และแทนตัวเองว่า “บี๋” ไม่ใช่เ
เมื่อเขาเข้าไปในห้องแล้ว เธอก็รีบเดินกลับมาและรีบวิ่งเข้าห้องของตัวเองทันที “เป็นเขาหรอกเหรอ”เธอต้องจำเขาได้แน่นอน เพราะรุ่นพี่คณะวิศวะคนนี้ ค่อนข้างจะเสน่ห์แรง และดังในหมู่สาว ๆ แต่เธอจำไม่ได้เลยว่าเขาเป็นคนแบบนี้“ไหนบอกว่าเขาเป็นเด็กเนิร์ด ๆ เงียบและรักสงบไม่ใช่เหรอ”“ตะวัน” หนุ่มคณะวิศวะ ที่แต่งกายถูกระเบียบทุกกระเบียดนิ้ว เขาเป็นคนเงียบ ๆ แม้ว่าจะมีกลุ่มเพื่อนสนิทที่คบหากันอยู่ไม่กี่คน แต่พวกเขาก็โดดเด่น จนที่มหาลัยเรียกพวกเขาว่า “จตุรเทพคณะวิศวะ” เพราะนอกจากความหล่อแล้ว พวกเขายังเรียนเก่งอีกด้วย“แกว่ายังไงนะ จะ…จตุรเทพวิศวะงั้นเหรอ คนไหนละ”“คนที่ชื่อตะวัน”“พี่ตะวัน หล่อนุ่มเหมือนคอร์กเทลมาร์ตินี่น่ะเหรอ”“นุ่มเหรอ เนตรนี่แกเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”เธอนั่งคุยกับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ม้าหินอ่อน หน้าคณะของตัวเอง หลังเลิกเรียนแล้วรุ่นน้องก็เริ่มทยอยกลับ วันนี้พวกเธอเลยแวะนั่งคุยกันก่อนกลับ “ไม่ผิดนะ พี่ตะวันคนที่หล่อ ๆ เนี้ยบ ๆ หน่อยเป็นลูกชายเจ้าของธุรกิจขายรถยนต์หรู เงียบ นิ่งเหมือนเจ้าชาย”“เหอะ เจ้าชายกะผีน่ะสิ”สองคืนก่อน“อ๊าาส์ ตะวันคะเบาหน่อย รูจะแหกอยู่แล้ว อ๊าาส์…”เสียงร้
คอนโด RTS“นี่กุญแจห้องค่ะ ถ้ามีอะไรก็โทรมาหาพี่ได้เลยนะคะ”“ขอบคุณค่ะ”“มะปราง” สาวน้อยนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ปีสอง ค่อย ๆ ทยอยขนของเข้ามาในห้องที่เธอพึ่งตัดสินใจเช่า หลังจากย้ายออกมาจากหอพักเดิม ก่อนย้ายเข้ามา เจ้าของห้องเดิมก็สั่งให้ทำความสะอาดรอเอาไว้แล้ว เหลือแค่เก็บของเข้าที่ก็พักได้แล้ว เมื่อเก็บของเสร็จแล้ว มะปรางจึงได้นั่งพักที่โซฟาซึ่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอมองไปรอบห้องและพูดขึ้นมา“สวัสดีชีวิตใหม่ วันนี้ฉันจะ….”เสียงบางอย่างที่ห้องข้าง ๆ ดังขึ้น เธอตกใจเพราะไม่คิดว่ามันจะดังขนาดนี้ นี่มันไม่ปกติเพราะเธอคิดว่าเลือกห้องที่เก็บเสียงและอยู่ชั้นสูงแล้ว แต่ก็ยังได้ยิน เมื่อเอาหูแนบไปที่ผนังห้องก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น“อ๊า! สะ เสียว..อ๊าา”มะปรางใจสั่น เมื่อเสียงของผู้หญิงห้องข้าง ๆ ร้องดังขึ้น แต่เธอไม่ได้ยินเสียงของคนที่ทำ ถึงจะเบาแต่เมื่อเอาหูแนบก็พอจะได้ยิน“เอาอีกไหม ชอบความรุนแรงขนาดนี้เชียว”“อ๊าาส์…ตะวันคะ อ๊าาา”“ตะวัน” ชื่อที่ผู้หญิงซึ่งกำลังครวญครางเสียงกระเส่าพูดออกมา มะปรางรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกใจสั่น เธอไม่เคยได้ยินเสียงอะไรแบบนี้มาก่อน และไม่รู้ว่าเพื่อนบ้าน