Share

บทที่ 54

Author: เบลล่า
ดูเหมือนโจเอลจะทำตัวลีบในขณะหันไปหามาร์ค แล้วคิ้วขมวดด้วยความสับสน "เพื่อน เราเป็นเพื่อนซี้กันไม่ใช่เหรอ? ฉันนึกว่านายจะเข้าข้างฉันซะอีก" เขาพูดด้วยความไม่เชื่อ

“เราเป็นเพื่อนซี้กัน และฉันก็คอยอยู๋ข้างเสมอ" มาร์คตอบอย่างเฉยเมย จากนั้นก็ยักไหล่แล้วเอามือล้วงกระเป๋า "แต่นี่ก็ภรรยาของฉันเหมือนกัน แล้วเชื่อฉันเถอะ ฉันไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น"

“แล้วนายจะยืนเฉย ๆ อยู่ตรงนั้น แล้วปล่อยให้เมียนายรังแกเราแบบนั้นเหรอ?” โจเอลพึมพำ แววตายังเต็มไปด้วยความผิดหวัง

“ฉันปล่อยให้ซิดนีย์รังแกนายแบบนั้น อย่างนั้นเหรอ?” มาร์คตอบโต้อย่างใจเย็น เขาเลิกคิ้วขึ้น ทำให้โจเอลพูดไม่ออกในขณะมองเขาอ้าปากค้าง มาร์คยักไหล่ "อะไร? ฉันเป็นบอดี้การ์ดของนายหรือไง?”

คำพูดของโจเอลหลั่งไหลออกมาด้วยความหงุดหงิดพลางขึ้นเสียงออกมา "ฉันยั้งมือเอาไว้เพราะเห็นแกนายนะเว้ย!”

"พอซะทีเถอะ" ฉันเผชิญหน้ากับเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม "อย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลย ทำกับฉันให้เหมือนกับทำกับเกรซไปเลย ปล่อยให้นังแพศยานั่นวิ่งเอาเล็บเข้ามาข่วนหน้าฉันอย่างที่มันเป็นนั่นแหละ"

ขากรรไกรของโจเอลดูนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด สายตาเบนไปที่ใครบางคนข้างหลัง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 55

    "ผมจะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณฟังเมื่อเราถึงบ้านแล้ว หยุดก่อเรื่องวุ่นวายแล้วไปกันเถอะ" มาร์คพูดอย่างหงุดหงิด ฉันบอกได้เลยว่าเขากำลังพยายามสงบสติอารมณ์เหมือนในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ถึงยังไงก็ตามเสียงของเขาก็ดังกว่าฉันนิดนึง“บ้านเหรอ? นั่นมันบ้านของคุณ โอเคไหม? นั่นมันบ้านของคุณ ไม่ใช่บ้านของฉัน" ฉันชี้นิ้วไปที่ประตู "ฉันจะไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น และไม่อยากได้ยินคำอธิบายที่คุณแต่งขึ้นมาด้วย!”“ซิดนีย์" เขาขมวดคิ้ว“คุณกับโจเอลต่างกันยังไงเหรอ?” ฉันหัวเราะเยาะพวกเขา "พวกคุณทั้งคู่ต่างเป็นคนเห็นแก่ตัว จอมหลอกลวง ตลบตะแลง! ไม่น่าแปลกใจเลยที่เป็นเพื่อนกันได้!”สีหน้าของมาร์คยิ่งดูมืดมนลงไปอีก "ผมบอกคุณแล้วไง ซิดนีย์ ว่าผมไม่ได้นอนกับเบลล่า ผมไม่ได้ทรยศต่อชีวิตคู่เรา!”“เห็นไหม? คุณยังเป็นคนโกหกอีกต่างหาก" ฉันกล่าวหาเขา เขาเอามือเสยผมด้วยความหงุดหงิด ในขณะที่เอามืออีกข้างท้าวสะโพกอยู่ เขาเริ่มพูดจาติด ๆ ขัด ๆ เสียงของเขาขลุกขลักอยู่ในลำคอ ราวกับกำลังพยายามหาคำพูดที่เหมาะสม "ผมไม่ได้นอนกับ...”เขาหยุดชะงัก จากนั้นก็มองมาที่ฉันแล้วส่ายหัว เขาพยายามอีกครั้งหนึ่ง "ผมไม่ได้นอนกับ...” เขาพูดแ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 56

    ฉันเดินกระแทกเท้าออกมาจากบาร์แห่งนั้นเพื่อรีบกลับไปยังโรงพยาบาล หนีจากมนุษย์ที่น่ารังเกียจเหล่านี้ และกลับไปหาเกรซเมื่อฉันเดินเข้าใกล้รถประมาณสิบฟุต ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินตามมาอย่างรวดเร็ว เขาเดินตามฉันทันแล้วเอามือมาจับไหล่ฉัน“ซิดนีย์ ใจเย็น ๆ รอก่อน"ฉันกลอกตา เขาเองนั่นแหละ ไม่มีใครจะหยิ่งผยองจนไม่ยอมให้ฉันเดินจากเขาไป หรือหัวแข็งพอจะเดินตามแล้วบอกให้ฉันใจเย็น ๆ หรอก!ฉันปัดมือนั้นออกจากไหล่ แล้วเดินอาจ ๆ ไปข้างหน้าต่อ เขาตามฉันทันแล้วจับไหล่ฉันอีกครั้ง "ไม่เอาน่า!” เขากัดฟันแน่น “งั้นก็ได้ แต่ให้ผมพาคุณกลับบ้านนะ หงุดหงิดแบบนี้ไม่ควรขับรถเองหรอก"หงุดหงิด! ฉันทำเสียงไม่พอใจแล้วสะบัดไหล่ออกจากมือเขาอย่างแรงอีกครั้ง ฉันมองไปข้างหน้าอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงรถแล้ว และจะได้ขับหนีออกไปจากเจ้าหมอนี่สักที“ซิดนีย์ คุณตั้งใจจะขับรถไปทั้ง ๆ ที่หงุดหงิดอยู่แบบนี้เหรอ? มันอันตรายนะ"ฉันยังคงทำเมินเฉยต่อเขา ทำไมถึงอยากขับรถพาฉันกลับบ้านขนาดนั้น? ก็เพราะเขาจะได้มัดฉันไว้และไม่ปล่อยให้ไปไหนได้ เหตุการณ์อย่างนั้นจะไม่วันเกิดขึ้นหรอก แล้วฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะไม่ได้หุ้นจากคุณยายด้วยฉัน

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 57

    "ไปโรงพยาบาลค่ะ!” ฉันตะโกนบอกเสียงดึงกึกก้องท่ามกลางเสียงลมกรรโชกและเสียงบีบแตร เมื่อลุยจิขับแซงหน้าพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว“ครับ คุณผู้หญิง" เขาตะโกนตอบกลับมาต่อจากนั้น เขาก็ชะลอความเร็วลง และฉันรู้สึกไม่จำเป็นต้องเกาะท้องของเขาอีกต่อไป "ปล่อยมือได้แล้ว" เขาหัวเราะคิกคัก "ไม่ร่วงลงไปหรอก"“ฮ่า ฮ่า ฮ่า" ฉันหัวเราะกลับไปอย่างประชดประชันฉันรู้สึกถึงความสั่นไหวของร่างกาย เขาหัวเราะคิกคัก "ทำตัวสบาย ๆ เถอะ ผมไม่ใช่มาร์ค" เขาพูดขึ้นและฉันปล่อยมือฉันไม่ได้พูดอะไรกับเขา เพียงแต่หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาทนายความทันที ในขณะที่ฉันกดหมายเลขโทรศัพท์อยู่นั้น ฉันรู้สึกว่าความโกรธได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ไอ้พวกนั้น! แล้วจะได้เห็นดีกันทนายความรับสาย แล้วฉันออกคำสั่งเสียงดังลั่นทันที "ฉันอยากยื่นฟ้องโจเอลกับแซนดร้า ไอ้พวกนั้น! เตรียมตัวให้พร้อม"ปลายสายอีกด้านหนึ่งเงียบไปจนฉันสงสัยว่าเขาวางสายไปหรือเปล่า ฉันดึงโทรออกจากหูเพื่อเช็คดู แต่เขายังไม่ได้วางสายไป ฉันกำลังจะต่อว่าเขาที่เงียบไปดื้อ ๆ ตอนที่เขาพูดขึ้นมาเขาทวนชื่อของคนพวกนั้นพร้อมกับนามสกุลอย่างลังเล "คุณหมายถึงสองคนนั้นเหรอครับ?”“ใช่"

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 58

    เมื่อฉันเข้าไปในห้องคนไข้ของเกรซ ใบหน้าของเธอดูซีดเผือดและริมฝีปากแห้งผาก เธอยังนอนหลับอยุ่เหมือนกับตอนที่ฉันออกไป! ฉันสอบถามพยาบาลที่เข้ามาวัดอุณหภูมิและดูอาการของเธอ“เธอถามถึงฉันบ้างไหมตอนที่ฉันไม่อยู่?" ฉันถามด้วยความหวังจะได้รับการยืนยันว่าใช่ แต่เธอกลับส่ายหัวปฏิเสธ "เปล่าค่ะ ตั้งแต่คุณออกไปเธอก็หลับตลอดเลยค่ะ"ในขณะที่ลำคอของฉันตีบตันด้วยความตื่นตระหนก ฉันก็รีบออกไปพบหมอซึ่งกำลังออกมาจากห้องผู้ป่วยอีกห้องหนึ่ง ฉันวิ่งไปหาเขา "ทำไมเธอยังหลับอยู่คะ? ฉันไม่ได้อยู่กับเธอพักใหญ่ ๆ แล้ว!” ฉันไม่พูดพล่ามทำเพลงอะไร แล้วรีบยิงคำถามที่ทำให้ฉันต้องมายืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้เขาเลิกคิ้วขึ้น "คนไข้ในห้องเจ็ดเหรอ?” ฉันพยักหน้า จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างใจเย็น "ไมต้องเป็นห่วงนะ เธอสบายดี"ฉันรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย รอยยิ้มของหมอช่วยยืนยันได้ แต่เมื่อฉันนั่งลงข้าง ๆ เกรซ แล้วฟังเสียงหายใจหอบถี่ของเธอ ฉันก็อดเป็นกังวลไม่ได้ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ เหรอ? ไอ้พวกนั้นเล่นงานเธอหนักมาก ฉันกัดฟันและกำมือแน่น นี่เป็นความผิดของพวกมัน!นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่ฉันลุกขึ้นนั่งแบบปุปปับแล้วขยี้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 59

    จู่ ๆ ฉันก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้รับการแจ้งเตือนเรื่องการหักเงินในบัญชีเงินฝากเลย ทำไมล่ะ? ฉันรีบตรวจสอบยอดเงินและพบว่ายังมีจำนวนเท่าเดิม ยังไม่มีการหักเงิน ทำไมเขายังไม่ถอนเงินออกไปล่ะ? ฉันไม่อยากคิดเรื่องนี้ให้รกสมอง บัตรธนาคารอยู่ที่เขาแล้ว เขาจะถอนออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา รถแท็กซี่ก็มาจอดอยู่ที่ว่าการอำเภอ ถึงแม้ว่าฉันจะโอนเงินให้คนขับแท็กซี่แล้ว ก็อดจะกวาดสายตามองหามาร์คไม่ได้ฉันเดินไปยังทางเขาแล้วก้าวเข้าไปยังฝ่ายต้อนรับ บางทีเขาอาจเบื่อที่จะรออยู่ข้างนอก จึงตัดสินใจเข้ามารอในนี้ แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ที่นี่เช่นกันฉันกลั้นความโกรธเกรี้ยวที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เอาไว้ สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตั้งสติ ก่อนจะหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งฝ่ายต้อนรับ ฉันพบว่าตัวเองนั่งอยู่ข้าง ๆ คู่รักที่น่ารักคู่หนึ่ง ซึ่งทำให้ฉันสงสัยว่าพวกเขามาที่นี่ทำไมฉันนั่งเคาะเท้าข้างหนึ่งบนพื้นรัว ๆ อยู่ตรงฝ่ายต้อนรับ ปลดล็อคหน้าจอโทรศัพท์เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ แล้วถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด และเมื่อฉันมองดูเวลาก็ทำให้ฉันรู้สึกโกรธมากขึ้นตอนนี้เป็นเวลา 8:30 น.! ฉันนั่งรอมาครึ่งชั่วโ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 60

    ฉันนั่งแท็กซี่อีกคันหนึ่งมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ของตะกูลตอร์เรสพร้อมกับถอนหายใจด้วยความรู้สึกยอมแพ้ ฉันรู้ว่าคุณยายดอริสจะอยู่ที่นั่น คฤหาสน์หลังนี้เป็นของคุณยายมากกว่าจะเป็นของโรสแต่เนื่องจากคุณยายดอริสไม่ค่อยได้อยู่บ้าน นิสัยแสนมีชีวิตชีวาของท่านทำให้ไม่ชอบจะติดแหงกอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ท่านไม่ยอมให้อายุหรือความรับผิดชอบมาทำให้โบยบินไปโน่นมานี่ไม่ได้ คฤหาสน์หลังนี้จึงตกอยู่ภายใต้การดูแลของโรสแต่เพียงผู้เดียว เพราะมาร์คก็ไม่ได้พักอยู่นั่น ส่งผลให้โรสมีโอกาสเดินไปเดินมาในบ้าน พร้อมกับตะโกนด่าและออกคำสั่งกับคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยของเธอนั่นแหละเมื่อฉันเดินเข้าไปบริเวณคฤหาสน์ของตระกูลตอร์เรส ก็เห็นรถที่ฉันทิ้งไว้ที่มิลิ บาร์จอดอยู่ในโรงจอดรถ มาร์คน่าจะเป็นคนขับกลับมาไว้ที่นี่ ดีเลย วันนี้ฉันจะได้ขับกลับบ้านไปจิตใจของฉันยังคงหมกหมุ่นอยู่กับการจะได้พบคุณยายและสิ่งที่ท่านจะต้องพูดออกมา แล้วก็มีเสียงแหลมสูงของคุณยายดึงฉันออกไปจากห้วงความคิดนั้น“ซิดนีย์!” ถึงแม้ว่าเสียงของท่านจะฟังดูอ่อนแรง แต่ร่างกายไม่ได้ดูอ่อนแอเลย ฉันเฝ้ามองความสุขและความชื่นชมไหลเวียนอยู่ในตัวฉัน ในขณะที่คุณยายดอริ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 61

    ฉันหัวเราะ "หนูแน่ใจค่ะคุณยายดอริส แค่เอ่ยชื่อคุณยายครั้งเดียว พวกนั้นก็หัวหดกันหมดแล้ว"ท่านพยายามอย่างมากที่จะเบนสายตาออกจากมาร์ค แล้วพึมพำขึ้นมาว่า "ก็ควรจะทำแบบนั้น"มีคนรับใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องไวน์สามกล่องวางอยู่ในถาด แล้วอีกคนก็วางแก้วทรงสูงไว้ตรงหน้าเราแต่ละคน แล้วจากนั้นก็รินน้ำส้มให้พวกเราทุกคนความเงียบปกคลุมไปทั่วห้องเมื่อเธอยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ เธอเบะปากแล้วจ้องมองพวกเราแต่ละคน "โอ๊ย อย่ามองอย่างเดียวสิ" ท่านชี้ไปที่แก้วของเรา "ดื่มกันให้เต็มที่ไปเลย"พวกเราต่างยกแก้วขึ้นมาดื่มกันอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักบรรยากาศตึงเครียดภายในห้องทำให้ฉันรู้ได้เลยว่า คุณยายดอริสกำลังจะขจัดมันออกไป ท่านกำลังจะพูดในเรื่องการหย่าร้าง และไม่ได้แค่พูดนะ ท่านจะต้องพยายามยับยั้งไม่ให้ฉันต้องหย่ากับหลานชายแน่ฉันให้ความเคารพคุณยายดอริสมาก แต่ไม่สามารถยอมทำตามนั้นได้ ฉันไม่สามารถละความพยายามที่จะยุติในเรื่องนี้ แล้วใช้ชีวิตอยู่กับมาร์คได้ ฉันไม่อาจทำร้ายตัวเองอย่างไม่จบสิ้น และไม่อาจใช้ชีวิตแบบนี้ได้อีกต่อไป ทุกครั้งที่ฉันเห็นมาร์คหรือเบลล่า ฉันก็จะนึกถึงภาพของสองคนนั้นนอนทับกันอยู่บนเตี

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 62

    ฉันกับคุณยายดอริสเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น พร้อมกับสายตาที่กำลังจับจ้องของโรสกับมาร์ค และรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองเราอย่างพินิจพิเคราะห์ เมื่อประตูห้องนั้นปิดลงเราเดินออกไปยังลานหน้าบ้านอันเงียบสงบ โดยเดินผ่านลานบ้านเข้าไปในสวน แล้วความเงียบสงบในสวนแห่งนี้ก็โอบล้อมเราไว้ มีแต่เสียงใบไม้พลิ้วไหวและเสียงนกกระพือปีกเบา ๆ ที่ทำลายความความเงียบสงบนั้นเป็นครั้งคราว มีดอกไม้หลากสีสันชูช่ออย่างกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ กลีบดอกไม้พลิ้วไหวอย่างงดงามในสายลมอ่อน ๆ พร้อมกับมีเหล่าผีเสื้อหลากสีสันไม่แพ้กัน ทั้งในขนาดและรูปร่างที่ต่างกัน ต่างบินว่อนไปมาอยู่ในสวน ทำให้พื้นที่แห่งนั้นดูสวยงามราวกับเทพนิยายฉันเดินชมหมู่ดอกไม้และผีเสื้อเหล่านั้นพร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ ถ้าชีวิตของฉันมีความเรียบง่ายเหมือนความงามของพวกมันก็คงจะดีไม่น้อยคุณยายดอริสเอามือไขว้กันไว้ทางด้านหลังในระหว่างที่เดินไปตามทางเดินในสวน ฉันรู้สึกเจ็บปวดที่จะต้องปฏิเสธคุณยายดอริส แต่ฉันก็จำเป็นต้องทำ“ซิดนีย์" ในที่สุดคุณยายดอริสก็เรียกชื่อฉัน น้ำเสียงของท่านแสนจะฟังรื่นหู "หนูยังรักมาร์คอยู่ไหม?”ฉันครุ่นคิดกับคำถามของท่าน ฉันรักมา

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status