Share

บทที่ 341

Author: เบลล่า
เด็กชายขมวดคิ้วก้มมองน้องสาว เขามองไปรอบ ๆ หาสิ่งที่น้องสาวต้องการ

ฉันมองไปรอบ ๆ และพบว่าไม่มีลูกกวาดเหลืออยู่แล้ว “ลูกกวาดหมดแล้วสินะ” ฉันพึมพำ

“น่าจะมีอยู่ในห้องเก็บของนะ” เดนนิสตอบ

“เดี๋ยวฉันไปเอามาให้ รอนี่นะ แป๊บเดียว” ฉันบอกเดนนิสแล้วเดินออกมา

ไม่กี่วินาทีต่อมาฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ข้างหลัง ฉันมองอ้อมไหล่ไปและส่ายหัวพลางซ่อนรอยยิ้ม

“อะไรเล่า? ผมเองก็อยากได้ลูกกวาดเหมือนกันนะ”

“อ๋อ” ฉันลากเสียงพร้อมหัวเราะ

เมื่อเราเข้าไปในห้องเก็บของ นิ้วมือของเขาก็เกี่ยวรอบข้อมือของฉันและดึงให้ฉันโถมตัวใส่เขา

ขณะที่เราสบตากัน สายตาของเขาก็มองสลับไปมาระหว่างดวงตาและริมฝีปากของฉัน ฉันพูดแหย่ “สงสัยว่าลูกกวาดจะอยู่ในดวงตาฉันละมั้ง”

เขาหัวเราะคิกคักพลางโน้มตัวลงมาผนึกริมฝีปากของเราด้วยจูบอันวาบหวาม

ฉันกำแขนเสื้อสองข้างเขาไว้แน่นพลางเบียดตัวแนบชิดกับเขา

เขาจูบฉันอย่างดูดดื่ม ฉันครางออกมาในตอนที่ร่างกายของเราเสียดสีกัน เขายกตัวฉันขึ้นไว้ในอ้อมแขนของเขา ส่วนฉันเกี่ยวขาของตัวเองไว้รอบสะโพกของเขาทันทีจากนั้นเขาก็ใช้ฝ่ามือประคองบั้นท้ายของฉันไว้พลางนวดเฟ้นและดันให้ตัวฉันแนบแน่นกับเขา

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 342

    อนาสตาเซียใบหน้าของฉันอาบไปด้วยน้ำตาขณะที่ฉันเขย่าตัวเพื่อปลุกเอมี่ ฉันกอดเธอไว้แนบอกและร้องไห้ ฉันสับสนและไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรขณะที่ฉันกำลังร้องไห้ เดนนิสก็รีบเข้ามาในห้อง“เป็นอะไรไป? เกิดอะไรขึ้น?” เขารีบเข้ามาหาฉันจากนั้นก็มองมายังเอมี่และเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทันที เขารู้ว่าจะต้องทำอะไร เขาเข้ามาเอาตัวเอมี่ออกจากแขนอันสั่นเทาของฉันและหยิบกุญแจรถออกมา ขณะที่เขาอุ้มเธอเข้าไปในรถ ฉันเดินตามหลังและยังคงร้องไห้พลางร้องเรียกชื่อเธอเขาขับรถพาเราไปยังโรงพยาบาล ความสนใจครึ่งหนึ่งของเขาอยู่ที่ฉัน “ไม่เป็นไรนะ อาน่า” เขาบีบมือฉัน สายตาจับจ้องไปยังเอมี่ที่อยู่ในอ้อมแขนฉัน “เธอต้องไม่เป็นไร”ในตอนที่เรามาถึงโรงพยาบาล เตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยก็พร้อมรอรับและนำเอมี่เข้าไปยังห้องฉุกเฉิน เราถูกห้ามไม่ให้เข้าไปพร้อมกับเธอฉันร้องไห้ใส่เสื้อของเดนนิสขณะที่เราทั้งคู่รอให้หมอหรือพยาบาลสักคนมาแจ้งอาการของเธอหลังจากนั้นพักหนึ่งก็มีพยาบาลเดินเข้ามาหาเรา “หมอขอพบพวกคุณค่ะ” เธอพูดด้วยรอยยิ้ม“ลูกฉันเป็นยังไงบ้างคะ? เอมี่ของฉันน่ะค่ะ?”“ตอนนี้ปลอดภัยแล้วค่ะ” พยาบาลกล่าวก่อนจะเดินจากไปเดนน

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 343

    ฉันพยักหน้า “ฉันเป็นแม่แท้ ๆ ของเธอค่ะ แต่เขาไม่ใช่”เขาส่ายหัว “ครับ คุณสามารถเป็นผู้บริจาคได้ถ้าไขกระดูกของคุณเข้ากันได้กับของเอมี่ แต่ผมต้องบอกไว้ก่อนว่า เป็นเรื่องยากมากที่พ่อแม่แท้ ๆ จะเข้ากันได้ ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ได้ยอมแพ้ง่ายนะครับ คุณต้องเข้ารับการตรวจหาความเข้ากันได้ก่อนครับ”เขาเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มมาจากกองเอกสารบนโต๊ะ “คุณพร้อมตรวจหาความเข้ากันได้ตอนนี้เลย หรือว่าอยากให้เรานัดวันกันทีหลังล่ะ?”“ตอนนี้เลยเถอะค่ะ” ฉันเช็ดน้ำตาออกจากหน้าและยืดหลังนั่งตัวตรงเขาเปิดแฟ้มเอกสารออกมาและถามคำถามหลายข้อ ระหว่างนั้นเขาก็อธิบาย “เราต้องการข้อมูลทั้งหมดนี้เพื่อดูโอกาสประสบความสำเร็จและผลการทดสอบที่แม่นยำ”“ค่ะ ฉันเข้าใจ” ฉันพยักหน้า เขาถามคำถามและฉันก็ตอบในทันที“โอเค คุณไปตรวจให้เสร็จได้เลยเถอะนะ” เขาลุกจากที่นั่งและมองมายังเดนนิสที่ลุกตามฉันมา ฉันจับมือของเดนนิสไว้ “ฉันอยากให้เขาไปด้วย”หมอพยักหน้าและพาเราไปยังห้องทดสอบประมาณยี่สิบนาที พวกเขาก็ได้ตัวอย่างที่พวกเขาต้องการจากฉันครบ“ผลตรวจออกมาเมื่อไหร่ เราจะติดต่อไปหาคุณทันทีนะครับ” หมอบอกกับเราเดนนิสและฉันอยู่ข้าง ๆ เอมี

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 344

    เดนนิสผมยังคงนิ่งเงียบฟังหมอบอกเราถึงหนทางเดียวที่ทั้งปลอดภัยและแน่นอนในการรักษาเอมี่ท่ามกลางสิ่งที่พากันตะโกนในหัวมากมาย ผมได้ยินตัวเองตั้งคำถาม “นั่นเป็นวิธีเดียวเหรอครับ?”“ไม่ใช่ครับ แต่นี่เป็นวิธีเดียวที่ปลอดภัยและแน่นอน วิธีอื่นมีแต่ทำให้คุณเสียเวลา เพราะสุดท้ายแล้วพวกคุณก็ต้องกลับมาที่จุดเดิม คือ การให้เด็กอีกคนมาช่วยอยู่ดี”ผมกลืนน้ำลาย ตั้งแต่ที่หมอพูดถึงพ่อแท้ ๆ ของเอมี่ขึ้นมา ผมก็เอาแต่กังวล ถึงอาน่าจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้ แต่ระหว่างที่เรารอผลตรวจ ผมก็ไม่สามารถสลัดคำแนะนำของหมอออกได้เลย ผมถึงขั้นค้นหาข้อมูลด้วยซ้ำ แต่ผมก็ปลอบใจตัวเองด้วยความหวังว่าเซลล์ตัวอย่างของอาน่าจะเข้ากันได้กับเอมี่แต่ตัวอย่างของเธอก็เข้ากันไม่ได้ และวิธีเดียวก็เหลือเพียงการมีลูกอีกคนมาช่วยเอมี่หมออธิบายเพิ่มเติมถึงเรื่องที่เอมี่ต้องรับเคมีบำบัดในขนาดยาที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยระหว่างรอเก้าเดือน แต่บทสนทนาทั้งหมดก็เหมือนลมผ่านหูซ้ายทะลุหูขวาก็เท่านั้นผมได้สติกลับมาก็ในตอนที่หมอปรบมือของเขาเข้าด้วยกัน “เยี่ยมเลยครับ งั้นพวกุณสามารถไปหาเธอได้แล้วล่ะครับ ผมคิดว่าเธอน่าจะตื่นแล้ว”“ขอบคุณค่ะ คุณหมอ”

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 345

    ตอนแรก ฉันไม่ได้คิดว่ามันเป็นเพียงหนทางเดียว แต่พอฟังสิ่งที่หมออธิบายวิธีการทั้งหมดให้ฟัง ฉันก็หวังให้ตัวเองได้ยินผิดไปฉันออกมาจากชีวิตของไอเดนและก้าวไปข้างหน้าได้ด้วยตัวเองแล้วเพื่อที่เขาจะได้กลับมาปรากฏตัวในชีวิตอีกครั้ง ชีวิตตอนนี้เกือบสมบูรณ์แบบเหมือนความฝันที่กลายเป็นจริง ฉันมีผู้ชายที่รักและใส่ใจทั้งฉันและลูก แต่ตอนนี้เขาต้องมามองดูฉันอุ้มท้องลูกของไอเดนอีกครั้ง ชายคนนั้นคงทำได้เพียงต้องเป็นคนที่เข้มแข็งมากฉันหลับตาลงเพื่อกำจัดภาพของตัวเองที่กำลังนั่งตรงหน้าหมอโดยมีไอเดนอยู่ข้าง ๆ แต่เมื่อฉันลืมตาขึ้นอีกครั้ง ฉันก็โดนร่างกายเล็ก ๆ ของเอมี่ย้ำเตือน ภายในระยะเวลาไม่กี่วันดูเหมือนเธอจะน้ำหนักลดไปมากฉันทนนิ่งดูดายเห็นเธอทรุดโทรมลงไม่ได้ในเมื่อฉันยังมีหนทางอยู่ และฉันก็ไม่สามารถทนดูเดนนิสเจ็บปวดได้ด้วยเช่นกัน แต่นี่ก็เป็นหนทางเดียวในการช่วยลูกสาวของฉัน หมอได้บอกชัดเจนแล้วฉันต้องทำ ฉันตัดสินใจอย่างนั้นแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำปล่อยให้น้ำตาไหลอาบหน้าเพื่อหอบเอาความเจ็บปวดในหัวใจออกมา แต่ถึงอย่างนั้นความเจ็บวดก็ยังคงปรากฏแน่นในอกโดยไม่สลายไปโดยง่าย หลังจากนั้นพักหนึ่ง ฉันก็เช็

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 346

    อนาสตาเซียฉันกัดริมฝีปากแน่นขณะที่จ้องมองอาคารตรงหน้าบริษัทนวัตกรรมเทสต์เทค ฉันอ่านตัวอักษรหนาบนตึก ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยตั้งแต่วันที่ฉันจากมาเลยแน่อยู่แล้ว ฉันคาดหวังอะไรอยู่ล่ะ? มันก็แค่ไม่กี่เดือนเอง ทำเป็นว่าผ่านไปหลายปีอย่างนั้นฉันสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อพยายามปลอบโยนตัวเอง ก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างในตัวอาคารเพื่อพบกับไอเดน เวลาไม่คอยท่าอีกแล้วฉันใช้เวลาถึงสองวันเต็มกว่าจะสามารถติดต่อกับไอเดนได้ ตอนแรกเลขาของเขาแจ้งว่าเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร“ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร และคุณก็มาถามหาเจ้านายของฉันแบบนี้ไม่ได้ด้วย คุณต้องการอะไร?”ฉันถอนหายใจ “ฉันต้องการคุยกับเจ้านายของคุณจริง ๆ ได้โปรดเถอะค่ะ”“หางานเหรอ? ไม่มีตำแหน่งว่างหรอกนะ” แล้วสายก็ตัดไปแต่ฉันไม่ยอมแพ้ ฉันโทรกลับไปทันที แม้กระทั่งตอนเที่ยงคืน ฉันก็ยังคงโทรติดกันเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งเขาบล็อกเบอร์ฉัน ฉันจึงใช้เบอร์ของเดนนิสโทรไปแทน และแล้วในคืนวันที่สอง ในที่สุด เขาก็รับสาย ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ อย่างหงุดหงิด “คุณบอกว่าคุณชื่อะไรนะ?”“อนาสตาเซีย”“โอเค แล้วจะติดต่อไป”จากนั้นหนึ่งชั่วโมงต่อมา ฉันก็ได้รับอีเมลนัดพบระห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 347

    ฉันเงยหน้าขึ้น คิ้วของเขาขมวดแน่น ความสับสนและกังวลผสมวนกันอยู่ในดวงตาของเขาขณะมองมายังฉันเหมือนเห็นคนสติไม่ดี“อาน่า ไหวนะ?” เขาถามอย่างเป็นห่วง “เอมี่คือใคร?”“ลูกสาวคุณค่ะ”ความห่วงกังวลหายไป คิ้วของเขาเรียบตรง แต่ดวงตาปกคลุมไปด้วยความสับสน“ลูกสาวเหรอ? ผมมีลูกสาวด้วยเหรอ?”ฉันกลืนน้ำลายลงคอ ตั้งแต่วันที่ให้กำเนิดเอมี่ ฉันเคยจินตนาการถึงวันที่ต้องเผชิญหน้ากับเขาแบบนี้มานับพันครั้ง และทุกครั้งก็เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น ทุกอย่างดูยิ่งเลวร้ายเมื่อโชคชะตาพลิกกลับให้เขากลายมาเป็นเจ้านาย ฉันมักจะกังวลอยู่เสมอว่าเขาจะรู้ความจริงเข้าแล้วพรากเธอไปจากฉัน แต่หลังจากที่ฉันแต่งงานกับเดนนิส ฉันก็เชื่อมาตลอดว่าไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว แต่ฉันน่าจะรู้ดีกว่านี้ฉันกลืนน้ำลายแล้วพยักหน้า “ค่ะ”สายตาของเขาดูไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ขณะเดียวกันเขาก็อ้าปากค้าง“ผมมีลูกสาวเหรอ?” เขากล่าวซ้ำหลังจากเงียบไปนาน “อาน่า นี่อำกันเล่นหรือเปล่า?”เสียงของฉันสั่น “ฉันมีลูกสาวค่ะ ไอเดน แล้วคุณก็คือพ่อของเด็กคนนั้น”ดวงตาของเขามีความโกรธ ความเจ็บปวด...“ฉันขอโทษจริง ๆ ค่ะ” ฉันกระซิบแผ่ว สายตามองไปยังนิ้วมือต

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 348

    ไอเดนอาน่าและผมมองไปทางประตูแล้วเห็นชารอนที่ยืนอยู่ด้วยดวงตาเบิกกว้างที่กำลังมองอาน่าอยู่“เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นเนี่ย? ทำไมเธอถึงมาอยู่นี่ได้? เธอพึ่งพูดว่าไงนะ?” เธอถามทุกคำถามพร้อมเดินเข้ามาในห้อง “แล้วไง? ฉันไม่อยากจะรู้ว่าตัวเองได้ยินอะไรละ ช่างเหอะ เธอออกไปเดี๋ยวนี้เลย” เธอผายมือไปทางประตูและดวงตาของอาน่าก็เบิกกว้างเธออ้าปากและปิดลงราวกับไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้แล้วเธอก็หันมาขอความช่วยเหลือจากผมแต่ผมไม่ได้พูดอะไรออกไป รวมถึงไม่ได้ทำอะไรด้วย ผมยังโกรธเธออยู่ และผมอาจจะอยากให้เธอไปให้พ้นหน้าด้วย แบบนั้นผมถึงจะคิดและประมวลผลทุกอย่างได้เหมาะสมสิ่งสำคัญที่สุดคือ ผมต้องการอยู่คนเดียวเพื่อมีเวลาใช้ความคิดเงียบ ๆ ในหัวผมยังเต็มไปด้วยเรื่องที่ว่าตัวเองมีลูกสาวอายุหกขวบ ผู้ได้รับกรรมพันธุ์มาจากผมและชีวิตกำลังยืนอยู่ปากเหวระหว่างความเป็นกับความตายจากโรคที่เธอต้องต่อสู้เพื่อมีชีวิตอยู่“ได้โปรดเถอะนะคะ” เสียงของอาน่าสั่นเครือขณะที่พยายามอธิบายเหตุผลกับชารอน ผมเห็นความรักแบบคนเป็นแม่ออกมาจากดวงตาคู่นี้ ความรักและความห่วงใยที่เธอเคยรังเกียจที่จะมีให้ลูกของเธอ... ลูกของเราผมไม่รู้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 349

    “เป็นลูกคุณแล้วยังไง? จากเรื่องที่เกิดขึ้น เธอโกหกไม่เป็นหรือไง?”“เธอจะโกหกไปทำไม? เด็กคนนั้นเป็นลูกของผม ผมมั่นใจ”“ฉันไม่สนว่าเป็นลูกคุณไหม” เธอตะโกนพลางจ้องผมเสียงสั่นขณะเดียวกันเธอก็ควานหากระเป๋าที่เธอวางไว้บนโซฟา “ฉันไม่สนนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ไอเดน คุณห้ามทำแบบนั้น ถ้าคุณทำ คุณจะไม่ชอบสิ่งที่ฉันจะทำเหมือนกัน”จากนั้นเธอก็เดินกระทืบเท้าออกไปแล้วปิดประตูตามหลังเสียงดัง ผมได้แต่หวังว่าเธอจะไม่ตามอาน่าไปเหมือนเมื่อครั้งที่แล้วผมนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นกับระเบิดที่อาน่าเพิ่งโยนใส่อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าควรรู้สึกอย่างไร ดีใจที่มีลูกกับอาน่า? หรือเศร้าและโกรธที่เธอเป็นต้นเหตุให้ผมไม่มีตัวตนอยู่ในชีวิตของลูก? ความรู้สึกของผมสับสนวุ่นวาย ผมรู้สึกไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องการมีลูกอีกคนเพื่อช่วยชีวิตอีกคน โดยเฉพาะในเวลานี้ที่ผมพยายามอย่างหนักเพื่อให้ชีวิตคู่ของผมกับชารอนดำเนินต่อไปได้ ผมพยายามลืมอาน่า พยายามเก็บเธอไว้ในอดีต แต่แล้วเธอก็ปรากฏตัวขึ้นทำลายทุกความพยายามของผมทิ้ง และที่แย่ไปกว่านั้น คือ เธอกลับมาพร้อมกับลูกหนึ่งคน และมาเสนอให้มีเพิ่มอีกคนหนึ่งตลอดเวลาที่ผ่

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status