หลินเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจดล็อบบี้ไม่ได้เหรอคะ?”เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “คุณผู้หญิง วันนี้ที่ล็อบบี้คนเยอะ เชิญทั้งสองท่านไปชั้นบนดีกว่า”หลินเซียงเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์รับเรื่องหย่า เห็นว่าคนแน่นจริง ๆอย่างนี้นี่เอง สมัยนี้การแต่งงานส่วนใหญ่คงไปกันไม่รอดสินะ?เธอไม่คิดอะไรมาก รีบตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้นบนในห้องทำงานของนายทะเบียน ทั้งสองคนกรอกเอกสารเพิ่มเติม แล้วก็เข้าสู่เรื่องการแบ่งทรัพย์สินลู่สือเยี่ยนหยิบสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “นี่คือค่าชดเชยให้คุณ”หลินเซียงรับมาดู พอเห็นชื่อบางชื่อ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างบ้านที่เฟิงหลินหย่วน เขากลับยกให้เธอบ้านหลังนั้นเธอขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?เขาซื้อคืนมาเมื่อไหร่?หรือว่าเป็นอีกหลังหนึ่ง?นั่นเป็นบ้านหลังใหญ่หลังแรกที่เขาให้เธอ มีความทรงจำดี ๆ เธอยังคงชอบมันอยู่เธอมองลงไปด้านล่าง ยังมีค่าชดเชยการหย่าอีกห้าสิบล้านเยี่ยมไปเลย เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มีอะไรสงสัยไหม?”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่มีค่ะ”จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเซ็นชื่อไม่นาน นายทะเบียนก็มอบใบหย่าให้ทั้งสองคนแต่ลู่สือเยี่ยนไม
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ
ใครบ้างโตขึ้นมาได้โดยไม่ต้องเอาบางอย่างเข้าแลก?คุณย่าลู่มองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด ครู่ใหญ่จึงถอนหายใจเบาๆ “ก็ได้ ฉันไม่บังคับให้เธอกับหว่านหว่านแต่งงานกันทันทีหรอก แต่สถานะว่าที่คู่หมั้นของหลานกับเธอนั้นเปลี่ยนไม่ได้ แล้วฉันก็ยอมรับแค่เธอคนเดียวเท่านั้นเป็นหลานสะใภ้”ลู่สือเยี่ยน “สะใภ้ของหลานคนไหน?”คุณย่าลู่ขมวดคิ้ว “ตอนนี้ฉันมีหลานชายแค่เธอคนเดียว!”ลู่สือเยี่ยน “งั้น ถ้าตระกูลลู่มีหลานชายเพิ่มอีกคน เธอก็ไม่ต้องแต่งงานกับผมแล้วใช่ไหมครับ?”“แก!”คุณย่าลู่โกรธจนตัวสั่น เครื่องตรวจจับการเต้นของหัวใจเริ่มส่งเสียงดัง สีหน้ายิ่งซีดลงไปเรื่อย ๆลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นยืน “จากนี้ไปงานผมจะยุ่งมาก จะไม่มาทำให้คุณย่าปวดหัวอีก พูดตามตรงแล้ว ตอนที่คุณย่าสติเลอะเลือนเพ้อเจ้อยังน่ารักซะกว่า”พูดจบก็ไม่มองสีหน้าของคุณย่าลู่ เดินจากไปทันทีหมอและพยาบาลวิ่งเข้ามาเป็นกลุ่ม ตรวจสอบอาการของคุณย่าลู่ ช่วยปรับความดันโลหิตให้เธอตอนที่เซี่ยหว่านเข้ามา เห็นคุณย่าลู่หน้าซีด กำลังหายใจหอบ“คุณย่าลู่ เป็นไปคะ?”เธอปรี่เข้าไป วางมือทาบอกของคุณย่าลู่ ถามด้วยความเป็นห่วงคุณย่าลู่เห็นเธอเข้ามาก็คว้ามื
เซี่ยหว่านถือกล่องข้าวเดินเข้าไปในห้องทำงานซ่งจั่วเห็นดังนั้น รีบพูดว่า “คุณเซี่ย ข้างในมีแขกอยู่ คุณรอสักครู่แล้วค่อยเข้าไปดีไหมครับ?”เซี่ยหว่านมองเขา สีหน้าของเขาดูมีพิรุธเล็กน้อย แววตาของเธอฉายประกายบางอย่างก่อนพูดขึ้น “เที่ยงแล้ว จะมีแขกที่ไหนอีก?”พูดจบ เธอก็เดินเข้าไปในห้องทำงานทันทีซ่งจั่วมองดูแผ่นหลังของเธอพลางขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ขัดขวางเซี่ยหว่านผลักประตูห้องทำงานเข้าไป เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ลู่สือเยี่ยน กำลังก้มลงพูดอะไรบางอย่างกับเขา ท่าทางของทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมากเซี่ยหว่านเห็นภาพนั้น ดวงตาของเธอก็ลุกวาวไปด้วยความโกรธทันที!“สือเยี่ยน ใครน่ะ?”ลู่สือเยี่ยนสีหน้าเปลี่ยนไป เหลือบมองเซี่ยหว่าน “ทำไมไม่เคาะประตู?”เซี่ยหว่านกำกล่องข้าวแน่น เดินเข้าไปอีกสองก้าวแล้วพูดว่า “สือเยี่ยน อย่าลืมเรื่องที่คุณย่าพูดนะ”ลู่สือเยี่ยนหันไปมองผู้หญิงคนนั้น และบอกว่า “นั่งรอก่อน”เจียงอินอินมองเซี่ยหว่าน รู้สึกได้ถึงความเป็นศัตรูของเซี่ยหว่านที่มีต่อตัวเอง เธอเลิกคิ้วเล็กน้อยเธอรู้จักเซี่ยหว่านก่อนหน้านี้ลู่สือเยี่ยนเคยจะหย่ากับหลินเซียงเพื่อเซี่ยหว่านที่แท้เป็
ไฟถนนสว่างไสว ส่องสว่างครึ่งใบหน้าของลู่สือเยี่ยน คิ้วและดวงตาที่ลึกซึ้งของเขาถูกบดบังด้วยความมืดในรถ ทำให้มองไม่เห็นสีหน้าของเขาในตอนนี้เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “งั้นคืนนี้คุณมีที่อยู่ไหม?”หลินเซียงตอบ “ฉันไปหาซ่งซ่งก็ได้ หรือไปพักโรงแรมก็ได้ เมืองอวิ๋นเฉิงออกจะใหญ่ขนาดนี้ แล้วฉันก็รวยขนาดนี้ จะไม่มีที่อยู่ได้ยังไง”“เหอะ!”ไม่รู้ว่าประโยคไหนทำให้ลู่สือเยี่ยนหัวเราะ เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “เฟิงหลินหย่วนโอนกลับเป็นชื่อของคุณแล้ว คืนนี้คุณกลับไปที่นั่นก็ได้”หลินเซียงประหลาดใจ “ทำเรื่องเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”ลู่สือเยี่ยน “ผมยังใจดีพาคุณไปส่งได้ด้วยนะ”หลินเซียง “ไม่ต้อง”พูดจบเธอก็หันหลังเดินจากไปลู่สือเยี่ยนพูดตามหลังเธอ “เราหย่ากันแล้ว กลัวว่าผมจะจับคุณกินเหรอ?”หลินเซียงไม่หันกลับมา “เราไม่มีความสัมพันธ์กันแล้ว ควรรักษาระยะห่างไว้บ้าง อย่าให้คนเข้าใจผิด แล้วมาโทษฉัน สร้างความเดือดร้อนให้ฉันอีก”ลู่สือเยี่ยนไม่พูดอะไรอีก ดวงตาที่มืดมนจ้องมองแผ่นหลังที่ผอมบางของเธอ จนกระทั่งเธอขึ้นรถกระจกรถของเขาค่อย ๆ เลื่อนขึ้น สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฟู่จิ่น
หลินเซียงได้ยินดังนั้นก็ประหลาดใจเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ไม่ต้องแล้วค่ะพี่หาน ฉันกินข้าวเรียบร้อยแล้ว”ฉินโหย่วหานลอกว่า “งั้นไปกินของว่างก็ได้ หลินเซียง ผมดีใจกับคุณจริง ๆ”หลินเซียงกล่าวว่า “งั้นก็รอให้ทุกคนมีเวลาก่อน แล้วเราค่อยไปกินข้าวด้วยกันเถอะค่ะ”นั่นหมายความว่า เธอจะไม่กินข้าวกับฉินโหย่วหานตามลำพังฉินโหย่วหานเงียบไปชั่วขณะครู่ใหญ่จึงพูดว่า “หลินเซียง คุณไม่จำเป็นต้องปฏิเสธความหวังดีของคนอื่นอย่างเด็ดขาด ทุกอย่างควรจะเผื่อลู่ทางไว้บ้าง”ใจของหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย พูดไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร เธอยิ้มรับ “พี่หาน ฉันรู้ค่ะ”ฉินโหย่วหาน “อืม ถ้าอยากผ่อนคลายก็ไปที่บาร์ของผมได้ เหล้าที่นั่นคุณดื่มได้ไม่อั้น”หลินเซียง “ได้ค่ะ ไว้ฉันจะไปกับซ่งซ่ง แล้วดื่มเหล้าของคุณให้หมดบาร์!”ฉินโหย่วหาน “ยินดีเลย”ทั้งสองคนคุยกันสักพัก แล้ววางสายหลินเซียงนั่งอยู่บนโซฟา มองเพดานที่สวยงาม รู้สึกอยากดื่มขึ้นมาจริง ๆแต่ซ่งซ่งยุ่งกลับมากเธอเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วถึงกับอึ้งไปเห็นว่าในตู้เย็นเต็มไปด้วยวัตถุดิบสดใหม่ เป็นของที่เธอชอบทั้งนั้น มือที่จับขอบประตูตู้เย็นของเธอกำแน่นขึ้นค
หลินเซียงโมโหจนอยากจะเตะคน!“ปล่อย!”ลู่สือเยี่ยนก้มมองเธอ เดินเข้าไปพร้อมกับพูดว่า “ไม่ปล่อย ถ้าปล่อยเดี๋ยวคุณก็ตีผมสิ”หลินเซียงมองเขาด้วยความโมโห ไม่ใช่แค่ “เดี๋ยวก็” แต่เป็น “แน่ ๆ!”ผู้ชายคนนี้น่าทุบจริงๆ!เขาเดินสำรวจไปรอบ ๆ บ้านก็ไม่พบผู้ชายแปลกหน้าคนไหน ความเย็นชาของลู่สือเยี่ยนก็ลดลง เขาโอบหลินเซียงไปที่ห้องครัว เมื่อเห็นกับข้าวบนโต๊ะอาหารก็เลิกคิ้วเล็กน้อยเขาบีบเอวเธอเบา ๆ กระซิบว่า “คุณไม่ได้บอกว่าไม่ได้ทำกับข้าวหรือไง?”หลินเซียง “ฉันแค่ไม่อยากให้คุณเข้ามา ไม่อยากให้คุณกิน ฟังไม่ออกหรือไง?”ลู่สือเยี่ยน “ฟังออก แต่ผมไม่ทำตาม”หลินเซียง “…”น่าโมโหมาก!ผู้ชายคนนี้หน้าด้านจริง ๆ!เมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเธอ อารมณ์ของลู่สือเยี่ยนกลับดีขึ้นโดยไม่รู้ตัว เขาปล่อยเธอ แล้วดึงเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ หยิบตะเกียบขึ้นมากินช้อนส้อมนั้นเป็นของหลินเซียงข้าวในนั้น เธอกินไปคำหนึ่งแล้วด้วยซ้ำเมื่อเห็นท่าทางที่ไม่เกรงใจของเขา หลินเซียงกอดอก ถามว่า “ลู่สือเยี่ยน คุณหมายความว่ายังไง?”“หืม?”ลู่สือเยี่ยนกินข้าวไปด้วย เงยหน้ามองเธอ เหมือนกับว่าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเธอหมายความว่าอ
ไอ้ผู้ชายบ้าคนนี้เป็นหมูหรือไง?กินเก่งขนาดนี้เลยเหรอ?นั่นกับข้าวสองอย่างกับซุปอีกชามเลยนะ!อาหารสำหรับสองวันของเธอถูกเขากินหมดแล้ว!หลินเซียงยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ พรุ่งนี้ต้องไปเปลี่ยนรหัสที่ชั้นล่าง ไม่ให้เขาขึ้นมาได้!แล้วก็เปลี่ยนลูกบิดประตูด้วย!ตอนนี้เธอมีเงินเหลือเฟือ!หลินเซียงโมโหมาก เดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อดูสภาพ แล้วก็เห็นกับข้าวที่อุ่นไว้บนเตาความโมโหของหลินเซียงชะงักไปชั่วขณะหึ!เธอยิ้มเยาะ แล้วหยิบกับข้าวที่อุ่นไว้มากินต่อเธอหิวจริง ๆ…วันรุ่งขึ้นหลินเซียงจ้างช่างมาเปลี่ยนลูกบิดประตู เปลี่ยนรหัสลิฟต์ แล้วค่อยไปทำงานวันนี้ซืออวี่มาเร็วมาก แต่กลับดูอิดโรยหลินเซียงถามด้วยความสงสัย “เป็นอะไรคะ? ช่วงนี้นอนไม่หลับเหรอ?”ซืออวี่หาว “ใช่แล้ว สองวันนี้ยุ่งมาก ฮอร์โมนแปรปรวนหมด ไม่สวยแล้ว”หลินเซียงหัวเราะ “งั้นก็กลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ”ซืออวี่ส่ายหัว “ไม่ อยู่ที่นี่ก็พักได้”หลินเซียง “…”สุดยอดเลยเธอดึงเก้าอี้นั่งลง มีนมกล่องหนึ่งอยู่ตรงหน้า พอมองขึ้นไปก็เห็นสวี่ซิงเย่ยิ้มเขินอายเล็กน้อย“ผมซื้อนมมา แต่ลืมไปว่าตัวเองแพ้นม ถ้าคุณไม่รังเกียจก็ช่วยผมดื่มใ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?
ช่างน่าขันอะไรอย่างนี้?สิ่งที่ตัวเองวางแผนไว้ วิธีการลงโทษคนอื่น สุดท้ายก็เหมือนกับการชกเข้ากับปุยนุ่นอ่อนปวกเปียก ไร้เรี่ยวแรงถูกแล้วแม้แต่ความโกรธของเธอก็ยังไร้เรี่ยวแรง เพราะคนที่เธอเผชิญหน้าคือลู่สือเยี่ยนเธอไม่สามารถต่อต้านเขาได้เลย!ตราบใดที่เขาต้องการ เขาสามารถปิดกั้นเส้นทางทั้งหมดของเธอได้จ้าวข่ายก่อนหน้าก็เป็นแบบนี้ เซี่ยหว่านในตอนนี้ก็ลงเอยแบบนี้เธอเข้าไปพัวพันกับคนแบบไหนมานานขนาดนี้กันนะ?สายตาของหลินเซียงเหม่อลอยไปเล็กน้อย มองไปยังความมืดด้านหน้าอย่างงุนงง ราวกับเหวลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุดกำลังค่อย ๆ ปกคลุมเธอเข้าไปฉินโหย่วหานจับมือเธอ “หลินเซียง ไม่เป็นไรนะ?”“ฉัน…ไม่เป็นไรค่ะ” หลินเซียงขยับริมฝีปากพูดเธอสบายดี เธอไม่เป็นอะไร แค่ล้มเหลวเท่านั้น ไม่เป็นไรน้ำตาที่เงียบงันไหลลงมาจากแก้ม รู้สึกเพียงแค่ความเย็นเยียบที่แก้ม พอยื่นมือไปสัมผัส มองลงไปก็เห็นคราบน้ำใสบนนิ้วร้องไห้ทำไม?มีอะไรให้ร้องกัน?ควรรู้ตัวตั้งนานแล้วต่างหาก!ความคิดของเขา เธอคาดเดาไม่ได้เลย!แต่เธอยังกล้าที่จะต่อสู้กับเขา?หึ ฮ่าฮ่าฮ่า!หลินเซียงหัวเราะเยาะตัวเอง แต่ไม่รู้ทำไม น้ำต
ซือเยี่ยนค่อนข้างลนลาน “คุณเซี่ย อย่าร้องไห้เลย ไม่มีใครอยากให้คุณตาย อย่าร้องไห้…”เซี่ยหว่านมองเขาด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา “แต่นายมาช่วยฉัน ถ้านายมาไม่ทันล่ะ? ฉันคงตายไปแล้ว!”ซือเยี่ยน “อ่า…คือว่า”เซี่ยหว่านกำแขนเขาแน่น “นายช่วยฉันได้ไหม? ฉันไม่อยากตายจริง ๆ…”ซือเยี่ยนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คุณเซี่ย อยากให้ผมทำอะไรครับ?”แววแห่งความภาคภูมิใจฉายวาบในดวงตาของเซี่ยหว่าน จากนั้นก็พูดว่า “ช่วยปกป้องฉันได้ไหม?”ซือเยี่ยนขมวดคิ้ว “ไม่ได้ครับ ผมทำตามคำสั่งของท่านประธานลู่เท่านั้น”เซี่ยหว่านก้มหน้าลงด้วยความผิดหวัง “แต่ถ้านายไม่ปกป้องฉัน ฉันก็จะตาย เธอต้องฆ่าฉันแน่ ๆ เพราะฉันแย่งสือเยี่ยนไป…”ซือเยี่ยนขมวดคิ้ว รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คือ…ผมขอคิดดูก่อนได้ไหมครับ? แล้วก็คุณเซี่ย ที่นี่ไม่ปลอดภัย ผมส่งคุณกลับไปก่อนดีกว่า”เซี่ยหว่านพยักหน้า “ได้”รถแล่นออกไปในความมืด บนถนนเล็ก ๆนิ้วของฉินโหย่วหานวางอยู่บนพวงมาลัย มองไปที่หลินเซียงอย่างนึกสนใจ “คุณเห็นหมดแล้วใช่ไหม?”สีหน้าของหลินเซียงดูเหม่อลอยเล็กน้อย “เห็นแล้ว…”ฉินโหย่วหานพูดว่า
ดวงตาของซือเยี่ยนเป็นประกายขึ้นทันที รีบวิ่งไปที่ตู้คอนเทนเนอร์นั้น พลางตะโกนถาม “คุณเซี่ย ใช่คุณหรือเปล่า คุณเซี่ย?”“ปัง ๆ!”เสียงดังออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์นั้นอีกครั้ง ถือเป็นการตอบรับซือเยี่ยนดีใจมาก จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบกุญแจของตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์แถวนี้ถูกทิ้งร้าง กุญแจจึงไม่ใช่แบบพิเศษอะไร เขาหาหินมาทุบสิบกว่าครั้ง จนกุญแจพังเขาเปิดตู้คอนเทนเนอร์ ก็เห็นเซี่ยหว่านถูกมัดมือมัดเท้านอนอยู่ข้างใน ตอนนี้น้ำทะเลไหลเข้ามาถึงหูของเซี่ยหว่านแล้วเมื่อเซี่ยหว่านเห็นซือเยี่ยนก็ร้องไห้ออกมาซือเยี่ยนเข้าไปพยุงเซี่ยหว่านขึ้น จากนั้นก็แกะเชือกที่มัดตัวเธอออก แล้วดึงเทปที่ปิดปากเธอออก“อ๊ะ…”เซี่ยหว่านอุทานออกมาสั้น ๆ จากนั้นก็พูดทั้งน้ำตาว่า “หลินเซียง! ต้องเป็นนังหลินเซียงแน่ ๆ ที่จงใจเล่นงานฉัน ต้องเป็นเธอที่ส่งคนมามัดฉันไว้ที่นี่!”ซือเยี่ยนชะงักไป “แต่ผมติดตามคุณหลินตลอด เธอไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นเลยนะครับ”เซี่ยหว่านจับแขนเขา “ซือเยี่ยน ฉันช่วยสือเยี่ยนไว้ แต่หลินเซียงกลับจะฆ่าฉัน นายต้องช่วยฉันแก้แค้นนะ!”ซือเยี่ยนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่ท