ลู่สือเยี่ยนจ้องมองใบหน้าที่ยังแดงก่ำของเธอด้วยดวงตาที่ลึกและมืดมน “ได้ งั้นผมจัดการเอง”พูดจบ เขาก็เปิดหัวเข็มขัดทันทีเสียงดังกรุ๊งกริ๊ง ลมหายใจของหลินเซียงสั่นสะท้าน รู้สึกว่าอากาศในรถไม่เพียงพอรู้สึกปากคอแห้งในวินาทีถัดไป มือของเธอก็ถูกดึงไป“อะไรเนี่ย?”หลินเซียงตกใจ ขัดขืนโดยไม่รู้ตัวดวงตาเรียวเล็กของลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างล้ำลึก “ก็ช่วยตัวเองไง”“คุณ…” หลินเซียงยังอยากจะพูดอะไรอีก ใบหน้าก็แดงก่ำขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นิ้วมือหดกำแน่น แต่รับรู้สึกถึงความร้อนลูกกระเดือกของลู่สือเยี่ยนกลืนลงอย่างแรง ยังคงจ้องมองเธอ ลมหายใจหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆหลินเซียงหันหน้าหนี ไม่สนใจแล้ว!อย่างไรก็ตาม เธอไม่ช่วยเขาแน่!“คุณใจร้ายจริง ๆ” เสียงทุ้มต่ำของลู่สือเยี่ยนดังขึ้นข้างหู ล่อลวงประสาทของเธอหลินเซียงกัดริมฝีปากเบา ๆ พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ส่งเสียงไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ช่วย เธอก็รู้สึกถึงความอ่อนล้าของนิ้วมือ แต่บรรยากาศในรถก็ยิ่งอึดอัดและคลุมเครือมากขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะจบลง“จะทำอย่างนี้ไปถึงเมื่อไหร่?” หลินเซียงทนไม่ไหวแล้วพูดออกมาลู่สือเ
ฉินโหย่วหานก้มหน้าลง อารมณ์ในดวงตาของเขาปั่นป่วน คล้ายกับฟิล์มดำที่ไม่สามารถหลอมละลายได้สงบอารมณ์อยู่นานจึงขับรถออกไปชั้นบนฟู่จิ่นซิ่วนั่งกอดซ่งซ่งอยู่พักใหญ่“ไหวหรือเปล่าเนี่ย?”ซ่งซ่งถูกเขากดจนหายใจไม่ออก!ผู้ชายคนนี้ กอดเธอไม่ยอมปล่อย!ฟู่จิ่นซิ่วนิ่วหน้า “พูดอีกครั้งสิ”ซ่งซ่งสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของเขา จึงไม่กล้าตะโกนต่อ ใครใช้ให้เธอถูกเขาคร่อมอยู่ล่ะอย่าให้โอกาสเธอได้ลุกขึ้นเชียว ไม่งั้นเธอจะต้องต่อยฟันหน้าเขาให้หลุดแน่!“พวกเขากลับไปหมดแล้ว คุณก็ควรกลับไปได้แล้ว” ซ่งซ่งพูดเธอได้ยินเสียงข้างนอกอย่างชัดเจนถึงแม้จะอึดอัด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ฟู่จิ่นซิ่วเงยหน้าขึ้น มองใบหน้าของเธอที่แดงระเรื่อ รูปลักษณ์ที่งดงามไร้เครื่องสำอาง บริสุทธิ์ราวกับไข่ต้มปอกเปลือก ดวงตาเป็นประกายสดใส แต่กลับมีสีแดงระเรื่อ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกตื่นเต้นฟู่จิ่นซิ่วก้มหน้าลงเล็กน้อยซ่งซ่ง “จะทำอะไร? ไม่ได้คิดจะจูบฉันใช่ไหม?”ฟู่จิ่นซิ่วนิ่งเงียบ…ท่าทางของเขาหยุดชะงักทันทีใช่ เขาทำอะไรอยู่?เมื่อมองดูเธอในสภาพแบบนี้ ทำไมเขาถึงอดใจไม่ไหวจนอยากจูบ?ซ่งซ่งหน้านิ่ง “ทำ
ลู่สือเยี่ยนขับรถกลับไปที่วิลล่าตระกูลลู่ทันทีหลินเซียงรู้สึกงงมากพูดว่าจะไปซื้อของ แต่เป็นการหลอกลวงเธอนี่เองเธอทำหน้านิ่งก้าวลงจากรถ เดินเข้าไปข้างใน“ไปไหน?”ลู่สือเยี่ยนจับแขนเธอไว้หลินเซียงพูดว่า “มันดึกแล้ว ควรพักผ่อนเถอะ”ลู่สือเยี่ยนพูดว่า “พักผ่อนทีหลังก็ได้”พูดจบ เขาก็พาเธอไปอีกทางหนึ่งวิลล่าตระกูลลู่มีขนาดใหญ่ มีหลายที่ที่หลินเซียงไม่เคยไปมาก่อน พอมาถึงหน้าประตู ลู่สือเยี่ยนเปิดประตูออก ก็เห็นของสะสมต่าง ๆ มากมายในห้องหลินเซียงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “นี่อะไรเหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดว่า “เลือกสักชิ้นไปให้คุณย่า”หลินเซียงเดินเข้าไป ของทั้งหมดอยู่ในตู้กระจก แสงไฟส่องลงมากระทบในห้องนี้มีทั้งของสะสมโบราณ ภาพเขียน หยก เครื่องประดับ ฯลฯ…ใต้ของแต่ละชิ้นมีการระบุราคาไว้บางชิ้นซื้อมา บางชิ้นประมูลมาราคาแต่ละชิ้นแพงมาก!หลินเซียงแค่เห็นเลขศูนย์หลายตัวหลังตัวเลขก็อดที่จะตกใจไม่ได้น่ากลัวจัง!ลู่สือเยี่ยนยืนอยู่ที่ประตู และพูดว่า “ชอบอันไหนก็โอนเงินเข้าบัญชีผมได้เลย”หลินเซียงมองเขาด้วยความประหลาดใจ “คุณจะขายให้ฉันเหรอ?”ลู่สือเยี่ยนเลิกคิ้ว “ไม่งั้นล่ะ?”
เธอกำลังคิดว่าจะหย่าให้เร็วที่สุดได้เมื่อไหร่ลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาหาเธอแล้วยื่นมือออกไปหลินเซียงสวมชุดราตรีสีดำ ดูสง่างามและมีรสนิยม ใบหน้าที่งดงามถูกแต่งแต้มอย่างประณีต ดวงตาเป็นประกาย ความบริสุทธิ์อ่อนโยนแผ่ซ่านออกมาเอวบาง สะโพกโค้งเว้าอย่างเป็นธรรมชาติหลินเซียงวางมือลงบนมือเขาลู่สือเยี่ยนจับมือเธอแน่น อารมณ์ในดวงตาของเขากระเพื่อมอย่างรุนแรง พูดเสียงต่ำว่า “เซียงเซียง คุณสวยมาก”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย “ขอบคุณค่ะ เพิ่งรู้เหรอคะ”ลู่สือเยี่ยน “…”เขารู้สึกหมดหนทาง แต่ไม่ได้โกรธ ความอ่อนโยนในดวงตาของเขาทวีคูณขึ้นเขาเชื่อคำพูดของฟู่จิ่นซิ่ว แสดงความอ่อนโยนอย่างสูงสุด ถึงแม้หลินเซียงจะยังคงต่อต้านเขาอยู่ แต่สองวันนี้พวกเขาก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขถ้าเป็นแบบนี้ตลอดไป ชีวิตคงไม่เลวร้ายเกินไปทั้งสองคนออกจากวิลล่าตระกูลลู่ ขึ้นรถไปทันทีงานเลี้ยงวันเกิดของคุณย่าลู่จัดขึ้นที่บ้านหลังเก่าของตระกูลลู่ เชิญแขกผู้มีเกียรติจากตระกูลชั้นสูงของเมืองอวิ๋น ดาราหญิงแถวหน้าเป็นเพียงแค่ตัวประกอบงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ พอลงจากรถก็เห็นพรมแดงทอดยาวจากประตูไปจนถึงลานบ้านทุกแห่งในลานบ้านถูก
ลู่สือเยี่ยนหันไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่เย็นชาของเธอ ดวงตารูปทรงอัลมอนด์ที่งดงามคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความเยือกเย็นดั่งน้ำแข็งถ้าตอนนี้เขาบอกให้เธอไปตอนนี้ เธอคงไม่ลังเลและเดินจากไปทันทีใบหน้าหล่อเหลาของลู่สือเยี่ยนดูเคร่งขรึม เขาพูดเสียงต่ำว่า “ไม่ต้องสนใจความคิดของคนอื่น”หลินเซียงมองเขา ยิ้มมุมปาก แต่รอยยิ้มนั้นแผ่ไปไม่ถึงดวงตา “ลู่สือเยี่ยน สิ่งที่ฉันเจอล้วนเป็นเพราะคุณ คุณต้องชดใช้”ลู่สือเยี่ยน “…จะคิดเงินอีกเหรอ?”หลินเซียงยกไหล่ “ฉันไม่ต้องการความรักแล้ว จะขอเงินแทนไม่ได้หรือไง?”ได้ยินดังนั้น สีหน้าของลู่สือเยี่ยนยิ่งแย่ลง บรรยากาศรอบตัวก็เย็นลงหลินเซียงหันไปมอง ก่อนจะถามว่า “คุณย่าอยู่ไหน?”ลู่สือเยี่ยนหันไปมองรอบ ๆ บรรยากาศรอบตัวถึงอ่อนลง เขากำลังสงบสติอารมณ์ไม่ต้องการความรักแล้วเหรอ?มันเป็นสิ่งที่พูดแล้วก็ทิ้งง่าย ๆ ได้หรือไง?ลู่สือเยี่ยนพาเธอเดินขึ้นไปชั้นบนพอมาถึงห้องหนึ่งบนชั้นสอง ประตูเปิดอยู่ มีคนอยู่หลายคน ฟู่จิ่นซิ่วยืนอยู่ข้าง ๆ พูดเรื่องตลกเพื่อทำให้คุณย่าลู่อารมณ์ดี“คุณย่า”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปใบหน้าของหลินเซียงเผยรอยยิ้ม “คุณย่า”คุณย่าลู่เ
“นั่นภรรยาของลู่สือเยี่ยนนี่นา สวยไม่เบาเลยนะ!”“ก็เพราะว่าเธอมีดีที่หน้าตา ถึงได้ตามติดลู่สือเยี่ยนมาตลอด ข่าวลือบอกว่าเธอช่วยลู่สือเยี่ยนที่เป็นโรคความจำเสื่อมไว้ แล้วก็แต่งงานกับเขา พอความจำของลู่สือเยี่ยนกลับคืนมา เธอก็ไม่ยอมหย่า”“ชิชะ จับต้นไม้เงินต้นไม้ทองได้แล้ว จะปล่อยไปได้ยังไงล่ะ?”“พวกคุณคอยดูเถอะ ตระกูลลู่โดนผู้หญิงคนนี้รุมทึ้งแน่!”“…”เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นรอบ ๆสายตาของทุกคนมองหลินเซียงด้วยความสงสัย หรือไม่ก็ดูถูก ไม่มีใครมองเธอด้วยความเมตตาหลินเซียงเห็นทุกอย่าง เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย ได้แต่ยิ้มตามมารยาทคำอวยพรอันยาวนานจบลง งานเลี้ยงก็เริ่มขึ้นคุณย่าลู่จับมือหลินเซียงไว้ไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมไปกินข้าวด้วยอวิ๋นหลานจึงพูดว่า “หลินเซียง งั้นเธออยู่กับคุณย่าสักพักนะ? พวกเราต้องไปทักทายแขกก่อน”“ค่ะ”หลินเซียงพยักหน้าเธออยากจะหนีออกจากงานเลี้ยงนี้ให้เร็วที่สุดเธอเข็นคุณย่าลู่ออกจากลานบ้าน ไปที่สวน ที่นั่นไม่มีคน เงียบสงบมาก“ไม่ชอบ”คุณย่าลู่พูดขึ้นมาอย่างกะทันหันหลินเซียงงุนงง เดินไปหาเธอ ก้มตัวลงถามว่า “คุณย่า คุณย่าพูดว่าอะไรคะ?”คุณย่าลู่บ่นพึมพำ “ฉั
คนที่มาถึงก่อนชี้ไปที่หลินเซียง และพูดว่า “ตอนที่ฉันมาถึง ฉันก็เห็นเธออยู่ข้างๆ คุณย่า คุณย่าเอาแต่ร้องไห้ตลอดเวลา”สายตาของทุกคนมองไปที่หลินเซียง“เธอที่พาคุณย่าออกไป คิดจะแกล้งคุณย่าเหรอ?”“ฉันว่าคุณย่าชอบเธอ น่าจะไม่ใช่”“คุณจะไปรู้อะไร? ผู้หญิงแบบนี้ เก่งเรื่องหลอกลวงผู้ชาย ยิ่งเก่งเรื่องหลอกลวงคนแก่ ใครจะรู้ว่าเธอแอบทำอะไรกับคุณย่าบ้าง”“…”ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียง ถามด้วยหน้าตาเคร่งขรึม “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”หลินเซียงหายใจเข้าลึก เล่าเรื่องราวทั้งหมด สุดท้ายพูดว่า “ถ้าไม่เชื่อ ก็ไปดูกล้องวงจรปิดได้ค่ะ”ลู่เจิ้งหรงมองพ่อบ้าน พ่อบ้านรีบไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดห้านาทีต่อมา พ่อบ้านกลับมา ใบหน้าดูซับซ้อน และพูดว่า “ท่านประธาน คุณหนูสามพาคุณย่าไปที่มุมอับของกล้องวงจรปิด เลยไม่สามารถบันทึกภาพได้ครับ”ใบหน้าของลู่เจิ้งหรงยิ่งแย่ลง “หลินเซียง เธอทำอะไรกับคุณย่า? ทำไมใจร้ายขนาดนี้? รู้ทั้งรู้ว่าคุณย่าเป็นโรคสมองเสื่อม ยังกล้าทำร้ายท่านอีกเหรอ?”หลินเซียงส่ายหัว “ฉันไม่ได้ทำนะคะ!”เธอมองไปที่คุณย่าลู่ทันที หวังว่าอีกฝ่ายจะช่วยเป็นพยานให้เธอแต่คุณย่าลู่ดูเหมือนจะตกใจมาก ถึงแม้จะหย
ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “อืม”ปากพูดรับคำ แต่ก็ไม่ได้เดินขึ้นไปชั้นบน กลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหลินเซียงถึงแม้จะรู้ว่าเธอออกไปจะสบายใจกว่า แต่ก็ควรจะบอกเขาสักคำ หายไปเงียบ ๆ แบบนี้ ไม่ใช่ว่าไม่ได้เห็นแก่หน้าเขาเลยเหรอ?โทรศัพท์ต่อสาย แต่กลับได้ยินเสียงแจ้งว่าหมายเลขที่ท่านเรียกปิดเครื่องอยู่ปิดเครื่องแล้วเหรอ?คิ้วของลู่สือเยี่ยนขมวดเข้าหากันคนใช้เห็นว่าเขายังไม่ขยับ จึงพูดว่า “คุณชายสาม ท่านประธานเรียกคุณไปคุยเรื่องคุณชายรอง คุณรีบไปเถอะค่ะ”ดวงตาสีเข้มของลู่สือเยี่ยนเต็มไปด้วยความเย็นชา แรงกดดันอย่างหนักตกอยู่บนคนใช้ หัวของคนใช้ก้มลงต่ำเขาวางโทรศัพท์ลงเมื่อนึกถึงท่าทีที่เย็นชาของหลินเซียงที่มีต่อเขา ดวงตาของเขาก็แฝงไปด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยบางทีเธออาจจะตั้งใจปิดเครื่อง ไม่อยากให้เขาหาเจอ!ความหงุดหงิดเพิ่มขึ้นในอก ใบหน้าของเขาเย็นชาสุดขีด เดินไปที่ห้องทำงานเขาไม่เคาะประตู เดินเข้าไปทันที ผลก็คือเห็นลู่เจิ้งหรงนั่งอยู่บนเก้าอี้ คนใช้หญิงคนหนึ่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา โต๊ะทำงานบังทุกอย่างไว้ แต่ฉากแบบนี้ ไม่ยากที่จะจินตนาการว่ากำลังทำอะไรอยู่ใบหน้าของลู่
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?