ผู้ชายคนนั้น ควรจะหนีให้ไกลเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่าหลังจากจัดการเรื่องข้างนอกเสร็จแล้ว เขาต้องไปพูดกับหลินเซียงให้ดี พอออกจากบ้านพักหรูมายืนที่ประตู ก็เห็นรถคันนั้นพุ่งชนประตูบ้านเขาอีกครั้งครั้งนี้ประตูบ้านรับแรงกระแทกมหาศาลไม่ไหว พังยับเยิน!รถพุ่งเข้ามาตรงหน้าฉินโหย่วหาน ห่างเพียงแค่สามสิบเซนติเมตรก็จะชนเขาแล้ว!เสียงหวีดร้องโดยรอบดังขึ้นแต่บนใบหน้าหล่อเหลาเย้ายวนของฉินโหย่วหานกลับไม่มีความรู้สึกอะไรเปลี่ยนแปลง“ลู่สือเยี่ยน คุณนี่ไม่มีมารยาทเอาซะเลย”ลู่สือเยี่ยนเปิดประตูรถออกมา ลมหนาวพัดโชยมาทั่วตัว เขาเดินมาตรงหน้าฉินโหย่วหาน แล้วถามเสียงเย็นชาว่า “หลินเซียงอยู่ไหน?”ฉินโหย่วหานตอบว่า “ผมไม่รู้”สีหน้าลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไปทันที เดินเข้าไปในบ้านพักหรูแต่ฉินโหย่วหานกลับยื่นมือมาขวางเขาไว้รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าของฉินโหย่วหาน เขาจ้องมองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “คุณลู่ ก่อนหน้านี้ก็ชนประตูบ้านผมพัง ตอนนี้ยังจะบุกรุกบ้านผมอีก คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”สายตาเย็นชาของลู่สือเยี่ยนจ้องมองใบหน้าของเขา ดวงตาเรียวเล็กฉายแววเย็นยะเยือก “พาหลินเซียงออกมา แล้วเรื่องอื่น ๆ
หลินเซียงดิ้นรนอย่างแรงแต่เขามีแรงมาก เหมือนจะบิดข้อมือเธอให้หัก!ใบหน้าเธอซีดเผือดเพราะเจ็บปวด!เธอก้มลงกัดแขนเขา!การกระทำของลู่สือเยี่ยนหยุดลง แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยเธอ เขามองเธอขณะที่เธอกำลังกัดเขาอยู่กลิ่นคาวเลือดอบอวลอยู่ในปาก หลินเซียงหมดแรง หายใจหอบหนัก ดวงตาใสกลับแดงก่ำขณะมองเขา “ลู่สือเยี่ยน คุณมาเป็นบ้าอะไรที่นี่? ฉันไม่อยากเจอหน้าคุณ ปล่อยฉัน!”“หลินเซียง ลืมตัวตนของคุณไปแล้วเหรอ?”ลู่สือเยี่ยนออกแรงเล็กน้อย ดึงเธอเข้ามาตรงหน้า มืออีกข้างบีบคอเธอ ดวงตาเรียวเล็กฉายแววเย็นชา“ผมบอกแล้ว ผมไม่ยอมให้คุณเป็นแค่เมียในนามของผมไปตลอดชีวิต ยังไม่หย่ากันแต่กลับไปอยู่บ้านผู้ชายคนอื่น อยากตายหรือไง?”หลินเซียงดิ้นรนอย่างแรงแต่เธอเพิ่งหายไข้ ยังไม่ได้กินอะไรด้วยซ้ำ ร่างกายไม่มีแรงเลยเธอโกรธจนหน้าแดง“ลู่สือเยี่ยน ฉันไม่ใช่จำเลยของคุณ! เรายังไม่หย่ากันก็จริง แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน!”เขาน่ะเหรอไม่มีสิทธิ์?ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเยาะ “วันนี้ผมจะทำให้คุณดูว่าผมมีสิทธิ์หรือเปล่า!”เขาอุ้มเธอจนตัวลอยขึ้นจากพื้นอย่างรุนแรง แล้วเดินออกไป“พี่หาน… แค่ก… แค่ก…”ฉินโหย่วหานฟื้นขึ
เสียงหัวเราะเยาะเย้ยไร้ความปรานีของลู่สือเยี่ยนดังก้องข้างหู เขาบีบกรามเธอ บังคับให้เธอมองตาเขาโดยตรง “เจ็บปวดขนาดนี้ งั้นผมจัดการเขาให้ตายไปเลยดีไหม? คราวนี้คุณจะได้ร้องไห้ให้เต็มที่ไปเลย”หลินเซียงสั่นด้วยความโกรธ “ลู่สือเยี่ยน ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะไปกับคุณแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก?”ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เห็นคุณร้องไห้เพราะเขา ผมก็ยิ่งโมโห บอกมาสิว่าผมจะเอาอะไร?”หลินเซียงหลับตาลง บังคับตัวเองให้สงบ“แบบนี้สิถึงจะดี”เมื่อเห็นว่าเธอหยุดร้องไห้ ลู่สือเยี่ยนก็ยิ้มอย่างพอใจ อุ้มเธอขึ้นแล้วออกจากวิลล่าไปทั้งอย่างนั้นฉินโหย่วหานมองพวกเขาจากไป ดวงตาแดงก่ำ พลางกัดฟันแน่นไม่นานรถพยาบาลก็มาถึง คนรับใช้พยุงเขาขึ้นรถพยาบาลแต่ทันทีที่ขึ้นไป คนรับใช้ก็ได้รับโทรศัพท์ ใบหน้าถึงกับเปลี่ยนสีทันที“คุณชายครับ คนจากตระกูลใหญ่ได้ข่าวมาจากไหนไม่ทราบ ดึงนักลงทุนที่คุณชายติดต่ออยู่ไปแล้วครับ”ฉินโหย่วหานเจ็บไปทั้งตัว เมื่อได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเยาะ “งานไวจริง ๆ”คนรับใช้บอกว่า “คุณชายครับ นั่นเป็นโครงการที่คุณชายพยายามติดต่อมานานแล้ว ไม่รู้ว่าใครใจจืดใจดำถึงได้ทำเรื่องแบบนี้”ฉินโห
“เผียะ!”ลู่สือเยี่ยนตบก้นเธอหนึ่งที ก่อนจะพูดเสียงเย็นว่า “อยู่นิ่ง ๆ!”หลินเซียงทั้งอายทั้งโกรธ ในดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเขาหลังจากเข้าไปในวิลล่า ลู่สือเยี่ยนโยนเธอลงบนเตียงในห้องนอนชั้นสองเมื่อมองเห็นอารมณ์ในดวงตาของเธอ ดวงตาของเขาก็เย็นชาลงไปอีก“หลินเซียง ก่อนหน้านี้ผมดีกับคุณมากเกินไป ทำให้คุณกล้าวางแผนตลบหลังผม ครั้งนี้คุณอยู่ที่นี่เถอะ เมื่อไหร่ที่รู้ว่าตัวเองผิด เลิกคิดเรื่องหย่า ผมถึงจะปล่อยคุณไป”หลินเซียงเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินแบบนั้น “นี่จะขังฉันเหรอ?”ลู่สือเยี่ยนมองดูเธอที่ซีดเซียวและผอมบาง พูดเสียงเย็นยะเยือก “จะคิดอย่างนั้นก็ได้ แต่นี่เป็นเพราะคุณทำตัวเอง!”พูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไปแต่หลินเซียงตกใจ ลุกจากเตียง “ไม่ได้ ทำแบบนี้ไม่ได้นะ! ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร!”เธอพยายามจะวิ่งออกไป แต่ลู่สือเยี่ยนก็ดึงเธอไว้“หลินเซียง ความอดทนผมมีจำกัด อย่ามายั่วผม!”ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างมืดมน เมื่อนึกถึงเรื่องที่เธอให้เซี่ยหว่านมาหาเขา เขาก็อยากจะบีบคอเธอให้ตาย!ผู้หญิงคนนี้ช่างน่ารำคาญ!แต่สุดท้ายเขาก็ทำไม่ลง!ใบหน้าของหลินเซียงแสดง
ลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่ในรถ มือเรียวสวยคีบบุหรี่ ควันสีเทาอ่อนลอยคลอเคลียอยู่เบื้องหน้า บดบังอารมณ์เย็นชาในดวงตาของเขาเมื่อนึกถึงความรู้สึกที่เขามีต่อเธอในช่วงเวลานี้ เขารู้สึกขบขัน!ในใจของเธอไม่มีเขาเลยสักนิด!แถมยังอยากให้ผู้หญิงคนอื่นขึ้นเตียงกับเขาอีก!เธอช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน!ลู่สือเยี่ยนสูบบุหรี่อย่างแรง พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก "อยู่ไหน?"เสียงของฟู่จิ่นซิ่วค่อนข้างเหนื่อยล้า "อยู่เมืองถงเฉิง มีอะไรหรือเปล่า?"ลู่สือเยี่ยนกล่าว "ทำไมถึงถ่อสังขารไปไกลขนาดนั้น?"ฟู่จิ่นซิ่วนั้นตอบ "ก็เพื่อช่วยนายกักตัวซ่งซ่งไง ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?"ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ "ไม่ต้องกักตัวซ่งซ่งแล้ว ฉันไม่คิดจะปล่อยไปหรอก""หืม?" ฟู่จิ่นซิ่วประหลาดใจ "ดูท่าทางหลินเซียงแล้ว เธออยากจะหย่ากับนายอยู่ทุกวัน นายไม่ยอมปล่อย ไม่กลัวว่าเธอจะเกลียดนายเหรอ?"ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเยาะ "เธอทำให้ฉันไม่พอใจก่อน ฉันจะยอมให้เธอสมหวังได้ยังไง?"ฟู่จิ่นซิ่วได้กลิ่นข่าวซุบซิบบางอย่างจึงรีบถาม "เกิดอะไรขึ้นอีก? เล่าให้ฟังหน่อย ฉันอยากรู้""ไสหัวไปซะ"ลู่สือเยี่ยนตอบกลับไปอย่างไม่ใยดี แล้วพูดต่อ "รีบ
ไม่ได้เขาไม่จะใจอ่อนไม่ได้ทั้งกายและใจของเขาเป็นของเสี่ยวเสวี่ยเท่านั้นสีหน้าของฟู่จิ่นซิ่วเย็นชาในทันที พูดว่า "ซ่งซ่ง คุณช่วยผมบังกระสุน ผมรู้สึกขอบคุณคุณมาก ดังนั้นผมจะให้สัญญากับคุณว่า ในอนาคตไม่ว่าคุณต้องการอะไร ผมจะช่วยคุณ แต่เรื่องอื่น ๆ อย่าคิดไปไกลกว่านั้น เพราะผมคงไม่รับปาก"หืม?ซ่งซ่งเอียงหัวเล็กน้อย มองเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามเขากำลังพูดอะไร?ฟู่จิ่นซิ่วลุกขึ้น "พักผ่อนให้ดี ผมต้องไปแล้ว"แล้วก็ออกจากห้องผู้ป่วยไปทันทีซ่งซ่ง “…”เธอนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้างงงวย ไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นผู้ชายคนนี้ ช่วงนี้กินยาผิดหรือเปล่า?ขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เป็นวีแชทแอคเคาท์รองของเธอเธอหยิบขึ้นมาดู อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลงคนโง่ฟู่:[ช่วงนี้ยุ่งอยู่กับอะไรหรือเปล่า? ไม่ยอมมาหาพี่เลย ไม่กลัวพี่จะโดนคนอื่นแย่งไปเหรอ?]คนโง่ฟู่:[ช่วงนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งตามพี่ตลอด เธอช่วยพี่ไว้เยอะมาก พี่ก็เลยสัญญากับเธอไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเธอจะชอบพี่]คนโง่ฟู่:[เสี่ยวเสวี่ย หนูว่าน่าปวดหัวไหมล่ะ?]เสี่ยวเสวี่ย:[พี่ฟู่ใจดีขนาดนี้ มีสาวมาชอบพี่ก็เป็นเรื่อ
ปวดหัวร้าวจนเหมือนจะระเบิด!หลินเซียงมองไปรอบ ๆ ห้องที่แปลกตา แล้วนึกขึ้นได้ว่าตัวเองถูกลู่สือเยี่ยนขังไว้เธอเอื้อมมือไปเคาะประตู แต่มือที่ยกขึ้นกลับตกลงมา เธอไออย่างรุนแรงพยายามลุกขึ้นอย่างยากลำบาก แล้วเอนตัวพิงกับประตูหลังจากพักหายใจเล็กน้อย เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยนเธอไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองถูกขังไว้ที่นี่ได้เธอไม่ได้ทำอะไรผิด“ตู๊ด… ตู๊ด… ตู๊ด…”เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นสามครั้ง แล้วก็ถูกตัดสายไปหลินเซียงโทรไปอีก อีกฝ่ายก็ตัดสายอีก สุดท้ายอีกฝ่ายปิดเครื่องไปเลยหลินเซียงไอออกมาสองสามครั้ง เจ็บปวดทรมานมาก!ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เสียงของเสี่ยวเยว่ดังขึ้น “คุณผู้หญิงคะ อาหารกลางวันเสร็จแล้ว ฉันจะเอาเข้าไปให้ค่ะ”พูดจบ ก่อนที่หลินเซียงจะทันได้ตอบอะไร เสี่ยวเยว่ก็เปิดประตูเข้ามาทันที“โอ๊ย!”หลินเซียงร้องเสียงหลงสั้น ๆ มือของเธอยังวางอยู่บนพื้น ประตูที่เปิดออกครูดผ่านนิ้วมือของเธอไป!เสี่ยวเยว่ตกใจ “คุณผู้หญิง มานั่งอยู่บนพื้นทำไมคะ?”หลินเซียงดึงมือตัวเองออก มองรอยเลือดบนปลายนิ้ว พลางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ฉันอยากเจอลู่สือเยี่ยน”เสี่ย
หงเหมยเห็นเหตุการณ์นี้ก็ตกใจจนหน้าซีด “เสี่ยวเยว่ ฉันบอกแล้วไงว่าคุณผู้หญิงไม่ปกติ ดูเหมือนเธอจะหมดสติ คราวนี้ต้องทำยังไง คุณผู้ชายจะตำหนิเราไหม?”เสี่ยวเยว่ก็กังวลเช่นเดียวกัน มือมีแต่เหงื่อไหลออกมาเธอกลืนน้ำลาย แล้วพูดว่า “ไม่หรอก ก็เธอไม่ยอมบอกว่าป่วยนี่ เป็นเพราะเธอเองที่ไม่ยอมสารภาพผิด คุณผู้ชายไม่ตำหนิเราหรอก แต่จะตำหนิเธอมากกว่าที่ไม่ยอมดูแลตัวเอง!”หงเหมยยังคงกังวลไม่หาย “แต่ฉันกลัว…”เสี่ยวเยว่หันไปมองเธอ ก่อนจะพูดว่า “ทำตามที่ฉันบอก เราไม่เป็นอะไรแน่!”หงเหมยตัวสั่นเทา เธอเป็นคนขี้กลัว พอถูกเสี่ยวเยว่พูดเสียงดังใส่แบบนั้น เธอก็พยักหน้าทันที “ได้ เข้าใจแล้ว”…โรงพยาบาลหมอตรวจร่างกายให้หลินเซียง และเริ่มให้น้ำเกลือ เธอมีไข้สูงถึง 40 องศา ถ้ามาช้ากว่านี้อีกหน่อย ก็คงช่วยชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว!ลู่สือเยี่ยนนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองหลินเซียงที่หมดสติด้วยสายตาเย็นชา ใจเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความอึดอัดทรมานร่างกายขนาดนี้ ทำไมไม่ยอมพูดอะไรเลย?เวลาผ่านไปทีละนาที ทีละวินาที จนถึงเที่ยงคืนหลินเซียงก็ฟื้นขึ้นมา เธอไอสองสามครั้ง แล้วยกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว“อย่าขยับ!”แต่มือของเธ
หลินเซียงได้ยินดังนั้นก็ประหลาดใจเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ไม่ต้องแล้วค่ะพี่หาน ฉันกินข้าวเรียบร้อยแล้ว”ฉินโหย่วหานลอกว่า “งั้นไปกินของว่างก็ได้ หลินเซียง ผมดีใจกับคุณจริง ๆ”หลินเซียงกล่าวว่า “งั้นก็รอให้ทุกคนมีเวลาก่อน แล้วเราค่อยไปกินข้าวด้วยกันเถอะค่ะ”นั่นหมายความว่า เธอจะไม่กินข้าวกับฉินโหย่วหานตามลำพังฉินโหย่วหานเงียบไปชั่วขณะครู่ใหญ่จึงพูดว่า “หลินเซียง คุณไม่จำเป็นต้องปฏิเสธความหวังดีของคนอื่นอย่างเด็ดขาด ทุกอย่างควรจะเผื่อลู่ทางไว้บ้าง”ใจของหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย พูดไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร เธอยิ้มรับ “พี่หาน ฉันรู้ค่ะ”ฉินโหย่วหาน “อืม ถ้าอยากผ่อนคลายก็ไปที่บาร์ของผมได้ เหล้าที่นั่นคุณดื่มได้ไม่อั้น”หลินเซียง “ได้ค่ะ ไว้ฉันจะไปกับซ่งซ่ง แล้วดื่มเหล้าของคุณให้หมดบาร์!”ฉินโหย่วหาน “ยินดีเลย”ทั้งสองคนคุยกันสักพัก แล้ววางสายหลินเซียงนั่งอยู่บนโซฟา มองเพดานที่สวยงาม รู้สึกอยากดื่มขึ้นมาจริง ๆแต่ซ่งซ่งยุ่งกลับมากเธอเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วถึงกับอึ้งไปเห็นว่าในตู้เย็นเต็มไปด้วยวัตถุดิบสดใหม่ เป็นของที่เธอชอบทั้งนั้น มือที่จับขอบประตูตู้เย็นของเธอกำแน่นขึ้นค
ไฟถนนสว่างไสว ส่องสว่างครึ่งใบหน้าของลู่สือเยี่ยน คิ้วและดวงตาที่ลึกซึ้งของเขาถูกบดบังด้วยความมืดในรถ ทำให้มองไม่เห็นสีหน้าของเขาในตอนนี้เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “งั้นคืนนี้คุณมีที่อยู่ไหม?”หลินเซียงตอบ “ฉันไปหาซ่งซ่งก็ได้ หรือไปพักโรงแรมก็ได้ เมืองอวิ๋นเฉิงออกจะใหญ่ขนาดนี้ แล้วฉันก็รวยขนาดนี้ จะไม่มีที่อยู่ได้ยังไง”“เหอะ!”ไม่รู้ว่าประโยคไหนทำให้ลู่สือเยี่ยนหัวเราะ เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “เฟิงหลินหย่วนโอนกลับเป็นชื่อของคุณแล้ว คืนนี้คุณกลับไปที่นั่นก็ได้”หลินเซียงประหลาดใจ “ทำเรื่องเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”ลู่สือเยี่ยน “ผมยังใจดีพาคุณไปส่งได้ด้วยนะ”หลินเซียง “ไม่ต้อง”พูดจบเธอก็หันหลังเดินจากไปลู่สือเยี่ยนพูดตามหลังเธอ “เราหย่ากันแล้ว กลัวว่าผมจะจับคุณกินเหรอ?”หลินเซียงไม่หันกลับมา “เราไม่มีความสัมพันธ์กันแล้ว ควรรักษาระยะห่างไว้บ้าง อย่าให้คนเข้าใจผิด แล้วมาโทษฉัน สร้างความเดือดร้อนให้ฉันอีก”ลู่สือเยี่ยนไม่พูดอะไรอีก ดวงตาที่มืดมนจ้องมองแผ่นหลังที่ผอมบางของเธอ จนกระทั่งเธอขึ้นรถกระจกรถของเขาค่อย ๆ เลื่อนขึ้น สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฟู่จิ่น
เซี่ยหว่านถือกล่องข้าวเดินเข้าไปในห้องทำงานซ่งจั่วเห็นดังนั้น รีบพูดว่า “คุณเซี่ย ข้างในมีแขกอยู่ คุณรอสักครู่แล้วค่อยเข้าไปดีไหมครับ?”เซี่ยหว่านมองเขา สีหน้าของเขาดูมีพิรุธเล็กน้อย แววตาของเธอฉายประกายบางอย่างก่อนพูดขึ้น “เที่ยงแล้ว จะมีแขกที่ไหนอีก?”พูดจบ เธอก็เดินเข้าไปในห้องทำงานทันทีซ่งจั่วมองดูแผ่นหลังของเธอพลางขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ขัดขวางเซี่ยหว่านผลักประตูห้องทำงานเข้าไป เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ลู่สือเยี่ยน กำลังก้มลงพูดอะไรบางอย่างกับเขา ท่าทางของทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมากเซี่ยหว่านเห็นภาพนั้น ดวงตาของเธอก็ลุกวาวไปด้วยความโกรธทันที!“สือเยี่ยน ใครน่ะ?”ลู่สือเยี่ยนสีหน้าเปลี่ยนไป เหลือบมองเซี่ยหว่าน “ทำไมไม่เคาะประตู?”เซี่ยหว่านกำกล่องข้าวแน่น เดินเข้าไปอีกสองก้าวแล้วพูดว่า “สือเยี่ยน อย่าลืมเรื่องที่คุณย่าพูดนะ”ลู่สือเยี่ยนหันไปมองผู้หญิงคนนั้น และบอกว่า “นั่งรอก่อน”เจียงอินอินมองเซี่ยหว่าน รู้สึกได้ถึงความเป็นศัตรูของเซี่ยหว่านที่มีต่อตัวเอง เธอเลิกคิ้วเล็กน้อยเธอรู้จักเซี่ยหว่านก่อนหน้านี้ลู่สือเยี่ยนเคยจะหย่ากับหลินเซียงเพื่อเซี่ยหว่านที่แท้เป็
ใครบ้างโตขึ้นมาได้โดยไม่ต้องเอาบางอย่างเข้าแลก?คุณย่าลู่มองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด ครู่ใหญ่จึงถอนหายใจเบาๆ “ก็ได้ ฉันไม่บังคับให้เธอกับหว่านหว่านแต่งงานกันทันทีหรอก แต่สถานะว่าที่คู่หมั้นของหลานกับเธอนั้นเปลี่ยนไม่ได้ แล้วฉันก็ยอมรับแค่เธอคนเดียวเท่านั้นเป็นหลานสะใภ้”ลู่สือเยี่ยน “สะใภ้ของหลานคนไหน?”คุณย่าลู่ขมวดคิ้ว “ตอนนี้ฉันมีหลานชายแค่เธอคนเดียว!”ลู่สือเยี่ยน “งั้น ถ้าตระกูลลู่มีหลานชายเพิ่มอีกคน เธอก็ไม่ต้องแต่งงานกับผมแล้วใช่ไหมครับ?”“แก!”คุณย่าลู่โกรธจนตัวสั่น เครื่องตรวจจับการเต้นของหัวใจเริ่มส่งเสียงดัง สีหน้ายิ่งซีดลงไปเรื่อย ๆลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นยืน “จากนี้ไปงานผมจะยุ่งมาก จะไม่มาทำให้คุณย่าปวดหัวอีก พูดตามตรงแล้ว ตอนที่คุณย่าสติเลอะเลือนเพ้อเจ้อยังน่ารักซะกว่า”พูดจบก็ไม่มองสีหน้าของคุณย่าลู่ เดินจากไปทันทีหมอและพยาบาลวิ่งเข้ามาเป็นกลุ่ม ตรวจสอบอาการของคุณย่าลู่ ช่วยปรับความดันโลหิตให้เธอตอนที่เซี่ยหว่านเข้ามา เห็นคุณย่าลู่หน้าซีด กำลังหายใจหอบ“คุณย่าลู่ เป็นไปคะ?”เธอปรี่เข้าไป วางมือทาบอกของคุณย่าลู่ ถามด้วยความเป็นห่วงคุณย่าลู่เห็นเธอเข้ามาก็คว้ามื
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ
หลินเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจดล็อบบี้ไม่ได้เหรอคะ?”เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “คุณผู้หญิง วันนี้ที่ล็อบบี้คนเยอะ เชิญทั้งสองท่านไปชั้นบนดีกว่า”หลินเซียงเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์รับเรื่องหย่า เห็นว่าคนแน่นจริง ๆอย่างนี้นี่เอง สมัยนี้การแต่งงานส่วนใหญ่คงไปกันไม่รอดสินะ?เธอไม่คิดอะไรมาก รีบตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้นบนในห้องทำงานของนายทะเบียน ทั้งสองคนกรอกเอกสารเพิ่มเติม แล้วก็เข้าสู่เรื่องการแบ่งทรัพย์สินลู่สือเยี่ยนหยิบสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “นี่คือค่าชดเชยให้คุณ”หลินเซียงรับมาดู พอเห็นชื่อบางชื่อ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างบ้านที่เฟิงหลินหย่วน เขากลับยกให้เธอบ้านหลังนั้นเธอขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?เขาซื้อคืนมาเมื่อไหร่?หรือว่าเป็นอีกหลังหนึ่ง?นั่นเป็นบ้านหลังใหญ่หลังแรกที่เขาให้เธอ มีความทรงจำดี ๆ เธอยังคงชอบมันอยู่เธอมองลงไปด้านล่าง ยังมีค่าชดเชยการหย่าอีกห้าสิบล้านเยี่ยมไปเลย เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มีอะไรสงสัยไหม?”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่มีค่ะ”จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเซ็นชื่อไม่นาน นายทะเบียนก็มอบใบหย่าให้ทั้งสองคนแต่ลู่สือเยี่ยนไม
หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอสวี่ซิงเย่เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเธอ จึงถามว่า “หลินเซียง คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?”หลินเซียงส่ายหัว “เปล่า อาจจะแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ”สวี่ซิงเย่กังวลเล็กน้อย “ยังมีอะไรที่ยังทำไม่เสร็จอยู่ไหมครับ? ให้ผมช่วยก็ได้ ผมจะช่วยคุณเอง”หลินเซียง “ไม่มีแล้ว ขอบคุณมาก”สวี่ซิงเย่ยังอยากจะพูดอะไรอีก ซืออวี่ก็เดินเข้ามา “เสี่ยวสวี่ ออกไปข้างนอกกับฉันหน่อย!”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ได้ครับ”ช่วงนี้ ซืออวี่มักจะพาสวี่ซิงเย่ออกไปข้างนอก เขามีความสามารถ แถมยังดื่มเหล้าเก่ง ถนัดการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจมากมาย ด้วยความสามารถของเขาทำให้ดึงดูดทรัพยากรได้มาก ตอนนี้เริ่มทำแบบร่างโครงการด้วยตัวเองแล้วหลินเซียงมองตามพวกเขาออกไป ในใจเกิดความสงสัยเล็กน้อยช่วงนี้งานเลี้ยงเยอะเกินไปหรือเปล่า?ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยสวี่ซินหรานพูดขึ้นมาทันที “หึ ก่อนหน้านี้บอสมักจะพาเธอออกไป ให้ความสำคัญกับเธอมาก ตอนนี้เป็นไงล่ะ ดูเหมือนความสามารถของสวี่ซิงเย่จะโดดเด่นกว่าเธอนะ”หลินเซียง “งั้นเธอมีดีอะไรบ้างล่ะ?”สวี่ซินหรานอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะโต้กลับหลินเซียงมองเธออย่
คุณย่าลู่ขู่จะตาย! สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไปทันทีเซี่ยหว่านรีบเข้าไป พร้อมกับร้องไห้พูดว่า “คุณย่าลู่ค่ะ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณแล้วค่ะ เราไปตรวจกันก่อนดีไหมคะ?”คุณย่าลู่มองเธอด้วยความปลื้มปิติ “หว่านหว่าน เธอนี่เป็นเด็กดีจริง ๆ ตระกูลลู่เป็นหนี้เธอมากเกินไปแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง สู้ตายไปยังไม่เจ็บช้ำเท่า”เซี่ยหว่านร้องไห้จนพูดไม่ออก!สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันทีลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ยิ่งหน้าซีดลงเรื่อย ๆ เธอจับจ้องราวกับจะคาดคั้นรอการตัดสินใจของเขาหลินเซียงเดินเข้าไป มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “เราไปหย่ากันก่อนเถอะ สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”คุณย่าลู่มองลู่สือเยี่ยนด้วยความกระวนกระวายลู่สือเยี่ยนหันไปมองหลินเซียงอย่างรวดเร็ว กระตุกมุมปาก “ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คุณคงพอใจแล้วใช่ไหม?”หลินเซียงเม้มริมฝีปาก พูดว่า “แต่สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”ลู่สือเยี่ยนพยักหน้า “ได้ หย่าก็หย่า”คุณย่าลู่ก็โล่งใจขึ้นมาทันที นอนลงบนเตียงแล้วหลับไปหมอและพยาบาลพาคุณย่าลู่ไปห้องตรวจเซี่ยหว่านเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “สือเยี่
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้