ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็ก ๆ หลายคนถูกพ่อแม่พามาทิ้งไว้หลินเซียงตัวน้อยอดคิดไม่ได้ว่าเธอเองก็ถูกทิ้งด้วยหรือเปล่า?ในเมื่อให้กำเนิดเธอแล้ว ทำไมถึงไม่เอาเธอไปเลี้ยงด้วยล่ะ?ดังนั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยคิดจะตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงเลยฉินโหย่วหนานมองเห็นสีหน้าที่ดูงุนงงของเธอ แล้วพูดว่า “บางที ครอบครัวของคุณอาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น หรือบางทีคุณอาจจะถูกลักพาตัวไป ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ หลินเซียง คุณอยากตามหาพวกเขาไหม?”หลินเซียงตอบ “ฉันยังไม่คิดเรื่องนั้น”ฉินโหย่วหนาน “งั้นไว้ค่อยคิด ถ้าคิดได้เมื่อไหร่อย่าลืมบอกผมนะ ผมจะช่วยคุณอีกแรง”หลินเซียงมองเขา รู้สึกซาบซึ้ง “พี่หาน ทำไมคุณถึงได้ดีกับฉันขนาดนี้นะ?”ฉินโหย่วหนานมองสายตาที่คุ้นเคยคู่นั้นซึ่งเหมือนกำลังมองพี่ชาย รู้สึกเจ็บแน่นในอก พูดจาติด ๆ ขัด ๆ ว่า “ใครให้ผมเสนอตัวเป็นพี่คุณล่ะ ฮ่า ฮ่า”หลินเซียงส่งยิ้มให้เขา “ไว้ฉันจะลองคิดดูดี ๆ ค่ะ”“อืม”ฉินโหย่วหนานไม่ค่อยอยากคุยเรื่องนี้ต่อแล้วหน้าอย่างเขาสมควรเป็นแค่พี่ชายเท่านั้นเหรอ?เขาหลับตาลง จำฉากตอนที่เธอเห็นเขาครั้งแรกได้เป็นอย่างดี แววตาที่ประทับใจคู่นั้น ทำไมถึงไม
ฟู่จิ่นซิ่วเอื้อมมือลูบขนแขนที่ลุกชันพลางพูดว่า “ฉันได้ยินซ่งซ่งคุยโทรศัพท์กับหลินเซียง น่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดนะ นายทำอะไรลงไป ถึงกับทำให้เธอต้องหนีออกจากเมืองอวิ๋นเฉิง?”“ตู๊ด!”แต่เขาก็ไม่ได้รับคำตอบ ลู่สือเยี่ยนวางสายไปอย่างรวดเร็ว“อารมณ์เสียอะไรนักหนา!”ฟู่จิ่นซิ่วบ่นพึมพำ แล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้าง ๆ ก่อนจะเอนหลังพิงหัวเตียง“ซ่งซ่ง!”เขาตะโกนเรียกออกไปข้างนอกเสียงดัง ทันใดนั้นก็รู้สึกเวียนหัว ไม่สบายไปทั้งตัว!ไม่นานซ่งซ่งก็ผลักประตูเข้ามา โผล่หน้าเข้ามาถาม “มีอะไรคะ?”ฟู่จิ่นซิ่วลืมตาขึ้นครึ่งหนึ่ง พูดว่า “เพิ่มเพื่อนในวีแชทกับฉันหน่อย ผมไม่อยากเรียกคุณบ่อย ๆ เรียกดัง ๆ แล้วปวดหัว”ซ่งซ่ง “คุณโทรมาก็ได้นี่”ฟู่จิ่นซิ่ว “ผมว่ามันยุ่งยากกว่า”ซ่งซ่ง “…”เธอมองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ กดเบอร์แล้วกดโทรออก กับเปิดแอปวีแชทแล้วส่งข้อความ อันไหนมันยุ่งยากกว่ากัน?คนคนนี้กินยาผิดหรือไง?แต่เมื่อนึกถึงว่าอีกหนึ่งสัปดาห์ก็จะหลุดพ้นจากเรื่องนี้แล้ว เธอเลยไม่พูดอะไรมาก เดินเข้ามาแล้วเพิ่มเขาเป็นเพื่อนในวีแชทฟู่จิ่นซิ่วมองรูปโปรไฟล์ของเธอ ถามขึ้นมาทันทีว่า “คุณชอบหิมะเหรอ?”ซ่งซ่งห
ซ่งซ่งก้มมองไปด้วย หัวใจแทบจะหลุดออกมาแย่แล้ว!ถูกจับได้แน่!แต่เมื่อเธอก้มลงดู เธอก็พบว่าหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองตกแตกไปแล้ว!หน้าจอดำสนิท!ชั่วขณะนั้น เธอไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้หรือหัวเราะดีฟู่จิ่นซิ่วขมวดคิ้ว “ตกใจอะไรหนัก?”ซ่งซ่งมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “จะไม่ให้ตกใจได้ไง คุณน่ะสิ ทำไมต้องมาทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ข้างหลังฉันด้วย? จะมาลอบโจมตีฉันเหรอ?”ฟู่จิ่นซิ่ว “…”เขามองเธอด้วยสีหน้าที่หมดคำจะกล่าว พูดว่า “ผมแค่มาดูว่าคุณทำเสร็จหรือยัง หิวจะแย่อยู่แล้ว”ซ่งซ่งยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉย “ทีอย่างนี้ทำไมไม่ส่งวีแชทมาถามฉันล่ะคะ? เพิ่งเพิ่มเพื่อนในวีแชทกันไปเองนี่? เดินมาเองแบบนี้ ถ้าพลาดสะดุดล้มลุกคลุกคลานขึ้นมาจะทำยังไง? จะโทษฉันอีกหรือเปล่า?”ฟู่จิ่นซิ่ว “…”ผู้หญิงคนนี้กินยาผิดขนานหรือเปล่า?เขาเอามือลูบขมับ “ขี้เกียจเถียงกับคุณแล้ว”พูดจบก็เดินออกจากครัวไปเมื่อเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องอาหาร นั่งลงบนเก้าอี้ ซ่งซ่งก็รีบผ่อนลมหายใจออกอย่างโล่งอกฟู่ว!เมื่อกี้ทำให้เธอตกใจแทบแย่!คิดว่าเขาจับได้แล้วเชียว!ดูเหมือนว่าครั้งต่อไปเธอต้องระวังให้มากกว่านี้ ยังหลอกเขาเล่นไม่จุใ
สายตาคมกริบของลู่สือเยี่ยนฉายแววโกรธแค้นจนแทบกัดฟันกรอด ตอนนี้เขาอยากจะคว้าตัวหลินเซียงมาบีบคอให้ตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด!บ้านหลังนั้นที่เฟิงหลินหย่วน เขาเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบให้เธอแล้วเธอกล้าขายมันทิ้งได้อย่างไร?ความกดดันในห้องเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ความเย็นยะเยือกในอากาศราวกับจะกลายเป็นน้ำแข็งได้ทุกเมื่อฉินโหย่วหานเลิกคิ้วขึ้น มองสีหน้าดุร้ายราวกับจะฆ่าคนของลู่สือเยี่ยน รู้สึกกังวลใจกับหลินเซียงขึ้นมาทันทีไอ้บ้าคนนี้ คงไม่คิดจะฆ่าหลินเซียงจริง ๆ หรอกใช่ไหมเขาต้องรีบแจ้งให้หลินเซียงรู้ เธอต้องหนีไปให้เร็วที่สุดสายตาเย็นชาของลู่สือเยี่ยนทอดมองไปที่ฉินโหย่วหาน น้ำเสียงเย็นยะเยือกดังขึ้น “คุณฉินคงไม่ขัดสนเรื่องที่อยู่อาศัยหรอกมั้ง ตั้งราคาสิ ผมจะซื้อคืน”ฉินโหย่วหานทำท่าเหมือนได้ยินเรื่องตลก “ลู่สือเยี่ยน ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? คุณจะซื้อบ้านหลังนี้คืน? คนอย่างคุณนี่มีเงินเหลือใช้จนไม่รู้จะเอาไปทำอะไรแล้วรึไง?”ลู่สือเยี่ยนแสดงสีหน้าเย่อหยิ่ง “ผมจะให้คนติดต่อคุณ ภายในสามวัน ผมหวังว่าคุณจะย้ายออกไปจากที่นี่ซะ” พูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปจากเฟิงหลินหย่วน มุ่งตรงไปยังที่พักป
หลินเซียงรู้สึกหงุดหงิดมากเธอไม่เข้าใจเลยเขาจะโทรมาหาเธอทำไม?มีอะไรต้องคุยกันอีก?ท่าทีของเขาชัดเจนแล้ว เขาอยู่ฝ่ายเซี่ยหว่าน แล้วจะมาวุ่นวายกับเธอทำไม?จะทำตัวเป็นผู้ชายเลว ๆ แบบนี้จริงเหรอ?แต่เธอก็ไม่มีอารมณ์จะเล่นเกมกับเขา! หลินเซียงปิดเครื่อง แล้วข่มตานอนเธอคิดว่าตัวเองอาจจะนอนไม่หลับแต่เหมือนมีเรื่องอื่นเข้ามาแทนที่ในใจ เธอเลยไม่ค่อยคิดถึงลู่สือเยี่ยนเท่าไหร่นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืนเมืองอวิ๋นเฉิงวิลล่าตระกูลลู่ลู่สือเยี่ยนได้ยินเสียงแจ้งเตือนเย็นชาของระบบดังมาจากโทรศัพท์ เขาโมโหจนทุบโทรศัพท์จนแตกละเอียด!ร่างกายของเขาทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นยะเยือก!หลินเซียงหนีไปแล้ว!เธอช่างกล้าหาญนัก!คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะหนีพ้นจากทุกอย่างได้เหรอ?คิดอะไรตื้น ๆ!ลู่สือเยี่ยนสงบอารมณ์ลง แล้วส่งข้อความไปหาซืออวี่ลู่สือเยี่ยน [ตรวจสอบตำแหน่งของหลินเซียงให้หน่อย]ซืออวี่ [พรุ่งนี้ได้ไหม วันนี้ผมง่วง]ลู่สือเยี่ยน [ตรวจสอบเดี๋ยวนี้!]ซืออวี่ [ดุจัง นิสัยแบบนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบหรอกนะ]ซืออวี่ [ตำแหน่ง]เหมือนกลัวลู่สือเยี่ยนจะโมโห ซืออวี่ส่งข้อความแปลก ๆ จากนั
หลินเซียงยิ้มบาง ๆ “นายเองก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ ถ้าไม่เรียก ฉันคงจำไม่ได้หรอก”ทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกันที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตอนเด็ก ๆ ความสัมพันธ์ยังแน่นแฟ้นกันดีอยู่ แต่หลังจากเกิดเรื่องบางอย่าง พวกเขาก็เริ่มห่างเหินกันไปหลินเซียงออกไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย ทำให้ขาดการติดต่อกับพวกเขาฉีจื่อเหิงถาม “งั้นเหรอ? เธอกลับมาเยี่ยมพวกเรารึเปล่า?”“ใช่”หลินเซียงพยักหน้า เดิมทีเธอตั้งใจจะพักใจสักหน่อยก่อนกลับไป แต่ดูเหมือนจะทำไม่ได้แล้วดวงตาของฉีจื่อเหิงเป็นประกาย “ดีเลย หลินเซียง ถ้ากลับไป คุณแม่ผู้อำนวยการต้องดีใจแน่ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่านคิดถึงเธอตลอดเลยนะ”หลินเซียงยิ้ม “ฉันจะไปซื้อของหน่อย ไปด้วยกันไหม?”“ได้สิ”ฉีจื่อเหิงพยักหน้าต่อมา หลินเซียงรู้ว่าฉีจื่อเหิงเพิ่งจบการศึกษา ยังไม่มีงานทำ กลับมาที่เทศมณฑลอันเพื่อหางานที่มั่นคง เพื่อจะได้กลับมาช่วยงานที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้บ่อย ๆหลินเซียงแค่ยิ้มและรับฟัง แต่แววตาของเธอดูเรียบเฉยหลังจากซื้อของเสร็จ เธอยกของขึ้นรถ แล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ กลับกันได้แล้ว”ฉีจื่อเหิงเปิดประตูรถ พูดด้วยความรู้สึก “พูดถึงเรื่องนี้ ในบรร
หลินเซียงก้มหน้าลงเล็กน้อย ไม่พูดอะไรจริง ๆ แล้วเธอตั้งใจจะให้เงินหลิวอวี้เฟินเหมือนกันแต่พอเห็นท่าทางแบบนี้ เธอก็รู้สึกหมดความสนใจไปทันทีบางทีตอนที่เธอก่อตั้งสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี้ หลิวอวี้เฟินอาจจะสงสารเด็ก ๆ จริง ๆ ตอนเด็กหลินเซียงก็เคยได้รับความอบอุ่นบ้างแต่หลังจากนั้น พอมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกอย่างก็ไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปหลินเซียงดึงเก้าอี้มานั่งหลิวอวี้เฟินมองเธอด้วยความไม่พอใจฉีจื่อเหิงรีบพูด “คุณแม่ผู้อำนวยการครับ หลินเซียงตกงานอยู่นะครับ เธอจะเอาเงินมาจากไหนล่ะครับ”หลิวอวี้เฟินหัวเราะเยาะ “ไปอยู่เมืองอวิ๋นเฉิงตั้งหลายปี สุดท้ายกลับตกงานเนี่ยนะ? หลินเซียง ตอนนี้เธอคงนึกเสียใจแล้วที่ไม่เชื่อฟังฉันใช่ไหม? ถ้าเธอเชื่อฟังฉันซะ ตอนนี้เธอคงเป็นคุณนายรวยอู้ฟู่ไปนานแล้ว!”ฉีจื่อเหิงมองหลินเซียงด้วยสีหน้าอึดอัด รีบเปลี่ยนเรื่องทันที “คุณแม่ผู้อำนวยการครับ เด็กคนอื่น ๆ ล่ะครับ? ไปโรงเรียนกันหมดแล้วเหรอ?”หลิวอวี้เฟินตอบอย่างเย็นชา มองเขา “เธอเองก็ด้วย หางานได้หรือยัง? ค่าใช้จ่ายเดือนนี้เกินงบแล้วนะ รีบหาเงินมาคืนด้วย”ฉีจื่อเหิงยิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่“ผู้อำนวยกา
เสียงเซวียนเซวียนดังขึ้น “เธอกลับมาทำไม? หรือว่าหายโกรธเรื่องตอนนั้นแล้ว?”หลิวอวี้เฟินตอบ “ฉันเองก็ไม่คิดว่าเธอจะกลับมา เซวียนเซวียน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะคิดถึงเรื่องนี้ ถ้าเธอค้นพบอะไรขึ้นมาจะทำยังไง?”เซวียนเซวียนยิ้ม “ไม่หรอกค่ะ คุณแม่ผู้อำนวยการ เธอไม่รู้เรื่องนี้แน่ แต่เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คุณแม่ผู้อำนวยการก็สานต่อในสิ่งที่ยังทำไม่สำเร็จในตอนนั้นได้เลยนะคะ”ดวงตาของหลิวอวี้เฟินเป็นประกาย “ได้ ฉันเข้าใจแล้ว!” แล้วเธอก็ถาม “เซวียนเซวียน เธอจะกลับมาเมื่อไหร่? นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้กลับมาเยี่ยมฉันเลย”น้ำเสียงของเซวียนเซวียนเย็นลงเล็กน้อย “คุณแม่ผู้อำนวยการคะ ฉันติดธุระนิดหน่อย ต้องไปจัดการก่อน เดี๋ยวฉันโอนเงินให้ห้าแสน คุณแม่ผู้อำนวยการเอาไปซื้อของอร่อยกินนะคะ”“จ้ะ ได้เลย เซวียนเซวียนของฉันนี่ฉลาดที่สุด ไม่เหมือนหลินเซียง กลับมาก็ซื้อแต่ของไร้สาระ ใครอยากได้กันล่ะ!”หลังวางสายแล้ว ดวงตาของหลิวอวี้เฟินเป็นประกาย เธอมองโทรศัพท์ ค้นหาเบอร์เบอร์หนึ่งแล้วกดโทรออก“สวัสดีค่ะ? คุณชายเผิงใช่ไหมคะ? คุณยังจำหลินเซียงได้ไหม?”…หลังออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วฉีจื่
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?