ตอนที่ 8 กินของอร่อยๆ“ยายครับ หนึ่งตื่นหรือยัง”“มีอะไร จะพาฉันไปไหนอีก” ฉันอยู่บ้านยายมาได้เกือบเดือนแล้วแต่ไม่มีวันไหนที่ฉันจะได้อยู่ติดบ้านเลย เพราะดินมาลากฉันออกจากบ้านได้ทุกวี่ทุกวัน“ฉันจะไปเก็บเงินลูกค้าที่อำเภอข้างๆ ไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ” ตอนแรกฉันนึกว่าหมอนี่ไม่ได้ทำงานอะไรอยู่ใช้เงินที่บ้านเฉยๆ เหมือนฉันซะอีก เพราะเวลาคุยกันผ่านทางโทรศัพท์หรือทางแชทเขาก็ไม่เคยเล่าให้ฟังว่าทำงานอะไร ที่ไหนได้เขารับผิดชอบดูแลอู่รถสิบล้อ พี่เมฆดูแลบริษัทรับเหมาก่อสร้าง พี่ฝนดูแลตลาด พี่น้ำดูแลร้านวัสดุอุปกรณ์ พี่ฟ้าดูแลหอพัก พี่วีพี่ชายฉันก็เป็นรองประธานบริษัทในอนาคตก็จะขึ้นเป็นประธานบริษัทแทนพ่อฉัน ชัดกับส้มก็มีไร่อ้อยกับไร่มันสำปะหลัง สรุปทุกคนมีงานทำยกเว้นฉัน“ถามจริงเมื่อก่อนตอนฉันไม่อยู่นายไปกับใคร”“ไปคนเดียว”“ใช่ งั้นตอนนี้นายก็ไปคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนสิ จะลากฉันไปด้วยทำไม แล้วก็ไม่ต้องเอาค่าจ้างมาอ้าง เก็บไอ้ค่าจ้างอันแสนน้อยนิดของนายไปเถอะ ฉันอยู่บ้านเฉยๆ แล้วขอเงินตากับยายยังได้มากกว่าที่นายให้ฉันอีก”“นี่ตากับยายให้เงินหนึ่งเหรอครับ” เขาหันไปถามตากับยาย ทำไมตากับยายถึงต้องหลบตาหมอนั่
ตอนที่ 9 กินของอร่อยๆ 2หมายความว่ายังไง ที่หมอนั่นบอกจะพามากินอะไรอร่อยๆ คือพามากินข้าวที่บ้านตัวเองหรอกเหรอ ฉันก็นึกว่าจะพาไปร้านอาหารซะอีก“มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะหนูวรรณ” คุณป้าถามขึ้น คงเพราะเห็นฉันจ้องลูกชายท่านเหมือนกำลังจะฆ่ามั้ง“เปล่าค่ะ พอดีดินไม่ได้บอกหนูว่าจะมาพากินข้าวที่บ้าน หนูเลยไม่ได้เอาอะไรมาฝากคุณป้าเลย”“โอ๊ย ไม่ต้องเอาอะไรมาฝากป้าเลย แค่หนูมาหาป้าแค่นี้ก็เป็นของฝากที่ดีที่สุดแล้ว”“ใช่ ขนาดพี่เมฆที่บ้างาน พอรู้ว่าเราจะมากินข้าวที่บ้านก็ถึงกับทิ้งงานมาเลยนะ” พี่น้ำบอก“ทิ้งงานอะไร แค่งานนั้นมันไม่ได้รีบร้อนอะไร แล้วพี่ก็เห็นว่าทุกคนอยู่กันครบจะไม่มามันก็ยังไงอยู่” พี่เมฆอธิบาย“ว่าแต่เราเถอะวรรณ พี่ได้ยินว่าเราถูกแม่ลงโทษเพราะช็อปปิ้งหนักเหรอ” พี่ฝนถาม นี่ทุกคนรู้เรื่องของฉันกันหมดเลยเหรอ“ค่ะ” ฉันตอบรับ เพราะไม่รู้จะปฏิเสธยังไง“เห็นดินบอกว่าป้าวิให้เราหาเงินไปคืนด้วยนี่ ตั้งห้าล้านใช่ไหม” พี่ฟ้าถาม“ยัยวินี่ก็ขี้งกไม่เปลี่ยนเลย เงินแค่ห้าล้านเอง เอาแบบนี้ดีไหม เรามาเป็นลูกสาวป้าสิ เดี๋ยวป้าจัดการแม่เราให้”“จะดีเหรอคะ”“ดีสิ แค่หนูมาเป็นลูกสะใภ้ป้าก็เท่ากับเป็นลูกสาว
ตอนที่ 10 กระเทียมเป็นเหตุนี่ก็ผ่านมาสามวันแล้วนับตั้งแต่วันที่ฉันไปกินข้าวที่บ้านพ่อแม่ของดิน แล้วฉันก็ทำให้หมอนั่นงอนเพราะไปแบ่งไข่เจียวที่เขาทำให้ฉันให้พี่ฝนกิน ตั้งแต่ตอนที่เขามาส่งฉันที่บ้านวันนั้นจนถึงวันนี้ฉันยังไม่เจอหน้าเขาเลยไม่รู้หายหัวไปไหน ทั้งๆ ที่หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขามาหาฉันที่บ้านและต้องลากฉันออกไปข้างนอกได้ทุกวัน แต่ตอนนี้ฉันกลับนอนกลิ้งอยู่ที่บ้านมาสามวันละ“เห้อ” ฉันนั่งกดรีโมททีวีเพราะไม่รู้จะดูอะไร ทำไมถึงได้ไม่มีรายการอะไรน่าดูเลยเนี่ย น่าเบื่อจัง“คนสวยของยายเป็นอะไร ทำไมถอนหายใจแบบนั้นถ้าเบื่อก็มาช่วยยายปอกหอมปอกกระเทียมนี่” ฉันหันไปมองยายกับตาที่ปูเสื่อนั่งเตรียมเครื่องสำหรับตำพริกแกง ก่อนจะลุกจากโซฟาแล้วเดินไปนั่งที่เสื่อข้างๆ ยาย“เอานี่ปอกกระเทียมนะ ระวังๆ ด้วยละมีดมันคม” ยายยื่นมีดกับกะละมังที่ใส่กระเทียมมาให้ฉัน“ทำไมเยอะจัง นี่ยายจะทำไปขายเหรอ” ฉันถามเพราะตรงหน้าฉันมีของวางเยอะแยะไปหมด“เปล่า ก็ตำไว้ใช้เองนี่แหละเอาไว้ทำกับข้าวแค่นี้ไม่เยอะหรอก” ยายบอก ฉันหยิบกระเทียมขึ้นมาปอกแต่กระเทียมนี่ปอกอยากชะมัดเลยจะเล็กไปไหน แล้วฉันก็ดันเก่งเรื่องพวกนี้มากด้วยซ
ตอนที่ 11 อู่รถ“คุณดิน พวกผมกลับก่อนนะครับ”“ครับ” ดินตอบรับคนงานในอู่รถสิบล้อที่บอกลาก่อนที่คนงานจะเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์แล้วขับรถออกไปหลังจากวันที่ฉันถูกมีดบาดวันนั้นดินพาฉันมาที่อู่รถที่เข้าทำงานและสาเหตุที่เขามอมแมมก็เป็นเพราะวันนั้นเขากำลังซ่อมรถที่พังอยู่ แล้วตอนที่เขากำลังพักเขาเล่นมือถือก็เลยเห็นสตอรี่ที่ฉันอัพพอดีเขาเลยออกไปหาฉันทั้งที่มอมแมมแบบนั้น และตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ฉันก็ถูกเขาลากมาใช้แรงงานที่อู่รถเป็นเวลาเกือบสองอาทิตย์แล้ว“นี่คนงานกลับหมดแล้วนายจะไม่เลิกงานเหรอ” ฉันถามดินที่กำลังนั่งยองๆ ไขน็อตอะไรไม่รู้ที่ล้อรถอยู่“แป๊บนึงนะ ฉันขอทำตรงนี้ให้เสร็จก่อนเธอไปหยิบคีมล็อคให้ฉันหน่อยสิ” เขาสั่ง ฉันเลยเดินไปที่กล่องเครื่องมือที่วางอยู่แถวนั้นก่อนจะหยิบคีมล็อคออกมาแล้วนำไปให้เขา“เก่งหนิ รู้จักด้วย” จะไม่ให้ฉันรู้จักได้ไงก็นายเล่นใช้ฉันไปเอาให้ประจำ ไม่ใช่แค่คีมล็อคหรอกนะ ด้ามบล็อก ไขควงประแจจะเอาเบอร์ไหนฉันดูเป็นหมด เพราะตั้งแต่ที่เขาพาฉันมาที่นี่เขาใช้งานฉันสารพัดทั้งให้ดูบัญชีบ้าง ให้คุยกับลูกค้าบ้าง ขนาดพ่อแม่ฉันยังไม่ใช้ฉันขนาดนี้เลย (ความจริงก็ใช้แหละแต่แค่ไม
ตอนที่ 12 ลิปสติก“เมื่อคืนนอนดึกเหรอ ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่านอนดึก” ตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนรถของดินที่กำลังขับไปบ้านของชัด วันนี้ชมพู่มีการแสดงที่โรงเรียนดินกับฉันก็เลยจะไปดูการแสดงด้วย“นายเงียบไปเลยถึงบ้านส้มนายปลุกฉันด้วยก็แล้วกัน ฉันขอนอนก่อนละ” ฉันบอกเขาก่อนจะหลับตาลง เมื่อคืนกว่าฉันจะข่มตาหลับได้เกือบตีหนึ่ง เพราะเอาแต่คิดเรื่องที่ยายพูดนั่นแหละ“หนึ่งถึงแล้ว”“ถึงแล้วเหรอ” ฉันบิดขี้เกียจ รู้สึกเหมือนหลับไปนานมากเลยทั้งๆ ที่บ้านฉันกับส้มถ้าขับรถมาน่าจะไม่ถึงสิบนาที“ไอ้ดินทำไมพึ่งมาว่ะ กูนึกว่ามึงจะเทกูละ ช้าฉิบหาย ไหนมึงบอกว่าออกมาตั้งนานแล้วบ้านวรรณกับกูก็ไม่ได้ห่างกันเท่าไรขับรถแค่สิบนาทีก็ถึง แต่จากตอนที่มึงโทรมานี้เกือบชั่วโมงมึงไปทำเหี้ยไรแถวไหนมาว่ะ” เสียงชัดโวยวายมาแต่ไกล“เออน่าจะโวยวายทำไมว่ะ กูก็มาแล้วเนี่ยแล้วไหนชมพู่กับส้มละ”“นั่นสิหลานฉันอยู่ไหน” ฉันมองหาแต่ก็ไม่เห็นวี่แววสองคนนั้น“อยู่ในบ้านโน่น เข้าไปดูเองละกัน” ชัดพูดด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดี ฉันกับดินเลยรีบวิ่งเข้าไปในบ้านอย่าบอกนะว่าสองคนนั้นเป็นอะไร“ส้ม ชมพู่” ฉันเรียกทั้งสองคนส้มที่นั่งหันหน้ามาทางฉันมองฉันเห
ตอนที่ 13 สร้อย“น้าวรรณขา ชมพู่อยากกินไอศกรีมอันนั้นค่ะ” ฉันหันไปมองไอศกรีมที่ชมพู่ชี้ให้ดู“ได้สิจ้ะ” ฉันจูงมือชมพู่จะเดินเข้าร้านแต่กลับถูกส้มรั้งไว้ก่อน“พอแล้ววรรณเย็นแล้วไม่กินแล้ว อีกเดี๋ยวก็กินข้าวแล้ว”“แค่ไอศกรีมถ้วยเดียวเองไม่เป็นไรหรอกน่า ชมพู่เดี๋ยวเราสั่งไอศกรีมแค่ถ้วยเดียวนะแล้วเรากินด้วยกันได้ไหม”“ได้ค่ะ ชมพู่จะกินกับน้าวรรณ”“ปะ ถ้างั้นเราเข้าไปในร้านกันถ้าแม่เราไม่กินก็ให้รออยู่ข้างนอกนี่แหละ” ฉันจูงมือชมพู่เข้าไปในร้าน ส้มได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะเดินตามเข้ามาในร้าน วันนี้ฉันส้มชมพู่มาเดินห้างเพราะส้มมาซื้อของใช้ฉันเลยขอตามมาด้วย“นี่แกอย่าตามใจชมพู่ให้มากนักสิ” ส้มบ่นฉันทันทีที่เราเขามานั่งในร้าน วันนี้ไม่ใช่แค่ครั้งแรกหรอกที่ฉันถูกส้มบ่นฉันฟังมาทั้งวันแล้ว“เอาน่า แค่นิดหน่อยเองถือว่าวันนี้เรามาฉลองที่เราสามคนได้ออกมาเที่ยวกันก็ได้ ใช่ไหมชมพู่” ฉันหันไปถามชมพู่ที่กำลังตักไอศกรีมเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย“ใช่ค่ะ คุณแม่กินสิคะ อร่อยมากเลยค่ะ” ชมพู่ตักไอศกรีมป้อนส้มก่อนจะพูดต่อ “วันนี้หนูมีความสุขม๊าก มาก เลยค่ะ หนูอยากมาเที่ยวกับน้าวรรณแบบนี้บ่อยๆ”“เห็นไหม ชมพู่มีความสุขข
ตอนที่ 14 เก็บกระเป๋า“ตื่นได้แล้วสายแล้ว” เสียงใครมาปลุกฉันตั้งแต่เช้าเนี่ยน่ารำคาญจัง ฉันพลิกตัวหนีเสียงที่ปลุกฉัน“หนึ่ง ตื่นได้แล้ว ถ้ายังไม่ตื่นเธอสายแน่” หืม เรียกฉันเหรอคนเดียวที่จะเรียกฉันว่าหนึ่งมีแค่คนเดียวก็คือไอ้บ้าดินเหนียว อะไรนะ หนึ่งงั้นเหรอ ฉันสะดุ้งลุกขึ้นนั่งสุดตัวก่อนจะหันไปมองข้างหลัง“กรี๊ด.......” ฉันกรี๊ดเสียงดังก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวแล้วขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ไอ้บ้าดินเหนียวหมอนั่นมาอยู่ในห้องนอนของฉันได้ยังไง“เอ้า ตื่นแล้วก็ลุกไปอาบน้ำสิ จะเอาผ้ามาคลุมไว้ทำไม” หมอนั่นบอกไม่พอยังมาดึงผ้าห่มฉันอีก แต่ฉันก็จับผ้าไว้แน่นยังไงก็ไม่มีทางหลุดได้ง่ายๆ หรอก“นายมาอยู่ในห้องของฉันได้ยังไง ใครอนุญาตให้นายเข้ามา” ฉันถามเสียงดังใต้ผ้าห่ม“ยายเธอเป็นคนอนุญาตให้ฉันเข้ามาแถมยังช่วยเปิดประตูห้องเธอให้ด้วย” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหมอนั่นจะตอบฉันด้วยสีหน้าแบบไหน คงจะยิ้มหน้าบานอยู่แน่ๆ แล้วยายฉันก็นะ ทำไมถึงได้กล้าปล่อยให้ผู้ชายที่ขโมยจูบแรกของหลานตัวเองเข้ามาปลุกฉันในห้องได้เนี่ย ไม่กลัวว่าฉันจะถูกหมอนี่จับกินหรือไง แล้วทำไมฉันต้องคิดถึงภาพเหตุการณ์วันนั้นด้วยเนี่ย รีบๆ ลืม ไปเลยนะย
ตอนที่ 15 เลือกห้อง“เป็นยังไง ที่พักที่ฉันจองสวยไหม ดูสิมีห้องครัว ห้องนอนสองห้อง ห้องนั่งเล่นแล้วที่สำคัญคือนี่” ฉันเดินไปเปิดผ้าม่านหน้าต่างที่ปิดอยู่ตรงห้องนั่งเล่นให้เปิดออกเพื่อให้เห็นวิวข้างนอก“มีสระว่ายน้ำด้วย คุณแม่ขา น้าวรรณขา ชมพู่อยากเล่นน้ำ” ชมพู่เขย่ามือของส้มแล้วชี้ไปที่สระว่ายน้ำ“ได้สิเดี๋ยวน้าพาไปเล่น” ฉันเรียกชมพู่แล้วชี้มือออกไปที่ข้างนอกหน้าต่าง “แล้วชมพู่อยากไปเล่นน้ำที่ไหนละ สระน้ำหรือว่าน้ำทะเล” ฉันชี้ให้ชมพู่มองไปที่ทะเลที่อยู่เลยสระน้ำไป“อยากเล่นทั้งสองที่เลยค่ะ” ชมพู่บอกด้วยรอยยิ้ม เห็นชมพู่มีความสุขแบบนี้ฉันก็มีความสุขตามไปด้วยคุ้มจริงๆ กับค่าที่พักที่เสียไปตอนนี้พวกเรามาถึงทะเลหัวหินแล้วหลังจากนั่งรถมาเกือบๆ เจ็ดชั่วโมง เมื่อยก้นเป็นบ้า รู้แบบนี้นั่งเครื่องมาดีกว่าเพราะไอ้บ้าชัดคนเดียว หมอนั่นไม่กล้านั่งเครื่องเพราะกลัวความสูงฉันเลยต้องมาเมื่อยแบบนี้ มันน่าทิ้งให้อยู่บ้านจริงๆ“ก่อนที่จะไปเล่นน้ำมาเราแบ่งห้องกันก่อนดีไหม จะได้เอาของเข้าไปเก็บ” เป็นอีตาดินเหนียวที่พูดขึ้นมา“ใช่ มีสองห้องนอนใช่ไหม แล้วเราจะนอนกันยังไง” ส้มถาม“ง่ายๆ ผู้ชายห้อง ผู้หญิงห้อ
ตอนพิเศษ 2ชื่อของเธอคือหนึ่ง ชื่อของนายคือดินเหนียว“คุณแม่ขา ทำไมเราต้องไปบ้านคุณตาคุณยายด้วยคะ เราให้คุณตาคุณยายมาหาเหมือนทุกที ไม่ได้เหรอ” เด็กหญิงวรัญญาในวัยเก้าขวบถามขึ้น ตอนนี้เธอกำลังไปที่บ้านเกิดของแม่เธอซึ่งก็คือบ้านที่ตายายของเธออยู่ตอนนี้“เพราะแม่จะไปทำธุระที่ที่ดินด้วยไง อีกอย่างลูกๆ ก็ปิดเทอมแม่ก็เลยพามาเล่นบ้านตายายไม่ดีเหรอ”“ดีครับผมอยากไปเล่นบ้านตายาย” พี่วี พี่ชายเธอพูดด้วยความตื่นเต้น“ไม่ดี วรรณไม่อยากไป”“ดี”“ไม่ดี พี่วีว่าดีก็ไปคนเดียวสิ วรรณไม่ได้อยากไปสักหน่อย”“ทำไมเราถึงไม่อยากไปบ้านตายายเหรอ” แม่ถาม“ก็คุณตาเล่าให้ฟังว่าที่บ้านคุณตามีควายตัวใหญ่มาก แล้วยังมีเป็ดมีไก่ แล้วคุณตาก็ยังเคยบอกว่าตอนคุณตาไปเก็บไข่ไก่คุณตาเคยถูกไก่ตีด้วย คุณแม่ว่าไม่น่ากลัวเหรอคะ”“ไม่น่ากลัวหรอก ถ้าเราไม่ไปยุ่งกับเขา เขาก็ไม่ยุ่งกับเราหรอก แล้วพวกนั้นก็ไม่ได้อยู่ใกล้บ้านเราสักหน่อย ต้องไปที่สวนต่างหากถึงจะเจอ” แม่เธออธิบาย“อ้าว ไม่ได้อยู่ในบ้านคุณตาหรอกเหรอคะ”“ไม่ได้อยู่จ้ะ ที่บ้านคุณตามีแค่แมวตัวเดียวที่ลูกไม่อยากไปเพราะเรื่องนี้เหรอ”“ค่ะ ก็คุณตาบอกว่าที่บ้านมี วรรณเลยคิดว่า
ตอนพิเศษ 1สองขีด- ดิน –“ไอ้ชัด มึงห่อให้ดีๆ หน่อย นั่นของชำร่วยงานแต่งกูนะเว้ย ตั้งใจทำหน่อยดิวะ”“กูก็ตั้งใจทำอยู่เนี่ย มึงไม่แหกตาดูวะ แต่กูมีปัญญาทำได้แค่นี้คนอุตส่าห์มาช่วยแม่งยังบ่นอีก เดี๋ยวก็ปล่อยให้ทำคนเดียวหรอก”“เออๆ ไม่บ่นแล้วทำให้ดีหน่อยก็แล้วกัน”“จะมีเมียทั้งทีลำบากเพื่อนจริงนะมึง” ชัดยังบ่นไม่เลิก ตอนนี้พวกเรามารวมตัวที่บ้านของผมเพื่อมาเตรียมของชำร่วยสำกหรับงานแต่งของผมกับหนึ่งที่จะถึงในอาทิตย์หน้า นี้ก็ผ่านมาตั้งสามเดือนแล้วจากวันที่ผมขอหนึ่งแต่งงาน ในที่สุดเราก็จะเป็นสามีภรรยากันสักที“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด” เสียงกรี๊ดของหนึ่งดังมาจากในห้องน้ำ ผมรีบทิ้งงานทั้งหมดแล้วตรงไปทางห้องน้ำทันที“หนึ่งเป็นอะไร เปิดประตู” ผมถามเสียงดังด้วยความตกใจพร้อมกับทุบประตูห้องน้ำด้วยความร้อนใจ “หนึ่งเปิดประตู”“จะเรียกทำไมเสียงดัง แล้วอยากได้ประตูห้องน้ำใหม่หรือไงถึงได้ทุบแรงขนาดนั้น” หนึ่งที่เปิดประตูออกมาบ่นผมทันที“ก็ฉันได้ยินเสียงเธอกรี๊ด เธอเป็นอะไรหรือเปล่า”“เปล่า” หนึ่งตอบพร้อมกับยื่นของบางอย่างให้ผม “ที่ฉันกรี๊ดเพราะอันนี้มันขึ้นสองขีดนะ”“สองขีด” ผมมองเจ้าสิ่งนั้นที่หนึ่งยื่นให้
บทส่งท้าย หนึ่งเดียวของดิน“นายพาฉันมาบ้านนายทำไม” หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จดินก็บอกว่าให้ฉันช่วยไปกับเขาหน่อย เขามีอะไรจะให้ฉันดูฉันก็นึกว่าเขาจะพาฉันไปไหนที่แท้ก็พามาบ้านของเขาที่อยู่ที่อู่รถนั่นเอง“เข้ามาข้างในก่อนสิ” ฉันเดินเข้ามาในบ้านตามที่เขาบอกก่อนที่จะรู้สึกแปลกๆ“นายจัดบ้านใหม่เหรอ” ที่ฉันรู้สึกแปลกๆ เพราะเขาจัดบ้านใหม่นี่เอง “นี่เหรอที่นายบอกว่าอยากให้ฉันดู แค่นายจัดบ้านใหม่เนี่ยนะ”“ไม่ใช่ตรงนี้ ที่ฉันอยากให้เธอดูคือข้างบนต่างหาก” เขาชี้ไปที่ชั้นสอง ฉันเลยมองเขาด้วยความระแวงหมอนี่ไม่ได้คิดจะหลอกให้ฉันขึ้นไปข้างบนแล้วทำอะไรแปลกๆ ใช่ไหม “ไม่ต้องมองฉันระแวงแบบนั้นหรอกน่า ฉันสัญญากับพ่อกับพี่ชายเธอไว้แล้วว่าจะไม่ทำอะไรเธอเด็ดขาด”“นายจะรักษาสัญญาใช่ไหม” ฉันถามย้ำเพื่อความมั่นใจถึงจะรู้ว่าเขาเป็นคนรักษาสัญญามากแค่ไหนก็ตาม นี่แหละมั้งพ่อกับพี่ฉันเลยวางใจให้ฉันคบกับเขา“อืม ถ้าเธอไม่ทำให้ฉันตบะแตก” พอเขาพูดจบฉันก็หันหลังเดินลงบันไดทันทีจนเขาต้องรีบขว้าไว้ “เดี๋ยวสิหนึ่งใจเย็นๆ ฉันพูดเล่น ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก”“นายแน่ใจนะ”“แน่ใจสิ” ฉันมองตาเขาก่อนจะยอมเดินตามเขาขึ้นชั้นสองไป ดิน
ตอนที่ 29 กลับมาอีกครั้ง“ถ้าลูกไม่มีความสุขต้องรีบบอกพ่อนะ พ่อจะไปรับลูกกลับมาทันที”“นี่คุณลูกแค่กลับไปอยู่บ้านตายายจะไม่มีความสุขอะไร ไม่ได้ไปลำบากอะไรสักหน่อย”“ไม่ต้องไปฟังแม่นะลูก ถ้าลูกอยากกลับมาบอกพ่อได้เสมอเลยพ่อจะรีบไปรับ”“เอะ นี่คุณกล้าพูดแบบนี้กับฉันเหรอ ทีตอนเราเป็นแฟนกันคุณก็ยังอยากให้ฉันไปอยู่ใกล้ๆ ไม่ใช่เหรอ ขนาดพ่อฉันเอาปืนไล่ยิงคุณยังไม่กลัวเลย จะพาฉันมาอยู่ด้วยให้ได้ ทีตอนนี้ทำเป็นร้องไห้ฟูมฟาย” ฉันพึ่งเคยได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย คุณตาฉันก็แสบใช่เล่นเหมือนกันนะเนี่ยก็อย่างว่าแหละแม่ฉันออกจะสวย“โธ่คุณ อย่าพูดเรื่องอดีตสิมันไม่เหมือนกันสักหน่อย”“ไม่เหมือนยังไง ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าตอนนั้นพ่อฉันรู้สึกยังไง”“รู้สึกแล้วค้าบ” พ่อฉันตอบเสียงอ่อย“รู้แล้วก็ดี แล้วก็รู้ใช่ไหมว่าทำแบบนี้ลูกจะลำบากใจ” แม่ฉันถามเสียงดุ“รู้”“ถ้ารู้แล้วจะทำทำไม จะเลิกทำให้ลูกลำบากใจไหม”“เลิกแล้ว” แล้วพ่อฉันก็ต้องยอมแม่อีกตามเคย แม่ฉันนี่สุดยอดไปเลย“ดี” แม่ฉันบอกกับพ่อก่อนจะหันมาพูดกับดิน “ดินเราจำได้ใช่ไหมว่าสัญญาอะไรกับป้าไว้”“จำได้ครับ”“ดี งั้นก็ไปเถอะเดี๋ยวตากับยายจะรอ”
ตอนที่ 28 ถูกเท“เรียบร้อยแล้วค่ะ” พี่ปุ้มปุ้ยช่างประจำตัวฉันบอกก่อนจะก็บเครื่องสำอางใส่กระเป๋า ฉันมองสำรวจตัวเองก่อนจะขอบคุณ“ขอบคุณมากค่ะ พี่ปุ้มปุ้ย แล้วพี่วีเสร็จหรือยังคะ” ฉันถามถึงพี่ชาย ที่จะไปร่วมงานกับฉันคืนนี้“คุณวีไปด้วยเหรอคะ คุณวีไม่ได้บอกพี่ พี่เลยไม่ได้เตรียมช่างมาให้ นี่พี่มาคนเดียวนะคะ” หมายความว่ายังไง ไหนวันนั้นตกลงกันแล้วว่าพี่จะไปเป็นเพื่อนฉัน อย่าบอกนะว่าจะเทฉันนะฉันโกรธจริงๆ ด้วยนะ“พี่วี พี่วีอยู่ไหน” ฉันส่งเสียงเรียกพี่วีเสียงดังลงมาจากชั้นสองของบ้าน ดังขนาดที่ต่อให้พี่ชายฉันไปแอบในท่อระบายน้ำก็ต้องได้ยิน ถึงพี่ชายฉันจะไม่ไปแอบที่นั่นก็ตาม“เสียงดังอะไรตัวเล็ก พี่อยู่นี้” พี่ชายฉันเดินออกมาจากทางห้องรับแขก แล้วจากชุดที่ใส่ก็เป็นชุดอยู่บ้านจริงๆ“ไหนพี่บอกว่าจะไปกับฉัน แล้วทำไมยังไม่แต่งตัว อย่าบอกนะว่าพี่จะเทฉัน ฉันโกรธจริงๆ นะ” ฉันเดินโวยวายลงบันไดมา“เดินช้าๆ สิเดี๋ยวก็ตกบันไดหรอก” พี่วีรีบเดินมารับฉันที่บันได “พี่ก็อยากไปกับเรานะ แต่มีคนมาขออาสาไปเป็นเพื่อนเราแทนพี่นะสิ ตอนแรกพี่ก็ไม่ยอมหรอก แต่แม่นะสิอนุญาตแล้ว พี่เลยทำอะไรไม่ได้เลยต้องยอมถอย”“ใคร”“ไปดู
ตอนที่ 27 เด็กฝึกงาน“เมื่อกี้เราพูดว่าอะไรนะตัวเล็ก”“ฉันบอกว่า ฉันจะไปช่วยงานพี่ที่บริษัท” ฉันพูดย้ำอีกครั้งชัดๆ ช้าๆ“พี่หูฝาดไป หรือว่าเราไม่สบายกันแน่” พี่วีเอามือแคะหูก่อนจะเอาอีกมือมาแตะที่หน้าฝากฉัน “ตัวก็ไม่ได้ร้อนหูพี่ก็ยังปกติดี หรือว่าตอนที่อยู่ที่นู้นหัวเราไปกระแทกอะไรมาหรือเปล่า”“นี่ ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย พี่อย่าเวอร์ฉันแค่เบื่อที่จะอยู่บ้านนี่ก็อยู่เฉยๆ มาตั้งหลายวันแล้ว” ฉันเดินเข้าไปเกาะแขนพี่วีแล้วเอนหัวไปซบที่แขน พี่ชายใครเนี่ยทำไมแขนแน่นแบบนี้ “อีกอย่างที่ผ่านมาพี่กับพ่อก็อยากให้ฉันไปลองฝึกงานที่บริษัทไม่ใช่เหรอ ก็ถือโอกาสตอนนี้ให้ฉันไปฝึกเลยไม่ดีเหรอ”“เอาจริงเหรอ” พี่วีถามอีกครั้ง“จริง” ฉันตอบเสียงหนักแน่นและแล้วเช้าวันที่ฉันต้องไปทำงานที่บริษัทก็มาถึง ฉันแต่งตัวเสร็จก็เดินฮัมเพลงลงมาข้างล่างด้วยความอารมณ์ดี“อารมณ์ดีขนาดนั้นเลยเหรอที่จะได้ไปทำงานน่ะ” แม่ถาม“ใช่ค่ะ” ฉันตอบก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะทานข้าวที่พ่อกับแม่ แล้วก็พี่วีนั่งรออยู่ก่อนแล้ว นี่ฉันว่าฉันรีบแล้วนะแต่ก็ยังช้ากว่าทั้งสามคนอยู่ดี“ถ้าลูกไม่อยากไปไม่ต้องฝืนใจไปทำก็ได้นะ ลูกสาวคนเดียวพ่อเลี้ยงได้
ตอนที่ 26 เปลี่ยนไป“ป้าแจ่มหยิบไขควงเบอร์หกให้ผมหน่อย ที่อยู่ในกล่องเครื่องมือ”“มันอันไหนวะ อันนี้ไหม” ป้าแจ่มโชว์ไขควงให้น้อยคนขับรถของที่บ้านฉันดู“ไม่ใช่ป้าอีกอัน อันที่มันใหญ่กว่านี้อันนั้นนะที่อยู่ข้างๆ” น้อยพยายามชี้ให้ป้าแจ่มดู“อันนี้เหรอ” แต่ป้าแจ่มก็ยังหยิบผิดอันอยู่ดี“ไม่ใช่ป้า อีกอัน”“อันนี้ค่ะป้า” ฉันที่ยืนมองอยู่สักพักแล้วรู้สึกทนไม่ไหวเลยเดินเข้าไปหยิบไขควงเบอร์ที่น้อยต้องการส่งให้ป้าแจ่ม“ขอบคุณค่ะ คุณหนู” ป้าแจ่มขอบคุณฉันก่อนจะหันไปถามน้อย “อันนี้ใช่ไหม”“ใช่ป้า ใช่อันนั้นแหละ” น้อยรับไขควงไปก่อนจะหันไปสนใจงานตรงหน้าต่อ“คุณหนูต้องการอะไรหรือเปล่าคะ เดี๋ยวป้าจัดการให้” ป้าแจ่มหันมาถามฉัน เพราะปกติฉันไม่ค่อยเข้ามาบริเวณห้องครัว เพราะกลัวกลิ่นอาหารจะติดเสื้อผ้า“วรรณจะมาถามนะคะว่ามีใครเห็นคุณแม่บ้างไหม วรรณเดินหาจนทั่วบ้านแล้วแต่ก็หาไม่เจอ”“อ่อ คุณผู้หญิงไปบ้านคุณดวงค่ะ พอดีคุณลูกหนูเธอกลับมาบ้านแล้วก็ยังพาลูกๆ ของเธอมาด้วยคุณผู้หญิงเลยไปเล่นกับเด็กๆ นะคะ”“พี่ลูกหนูคลอดลูกคนที่สองแล้วเหรอคะ”พี่ลูกหนูที่ฉันพูดถึงคือลูกสาวคนเล็กของบ้านหฤทัยรัตน์ที่แต่งงานกับพี่ธันแ
ตอนที่ 25 เหตุผล“โอ๊ย เมื่อไรจะถึงเนี่ย ทำไมรถถึงได้ติดแบบนี้นะ” ฉันบ่นเรื่องรถติดเป็นรอบที่เท่าไรแล้วไม่รู้ ก็จะไม่ให้ฉันบ่นได้ยังไงก็รถมันติดชนิดที่ช้ายิ่งกว่าเต่าเดินอีก“บ่นไปก็ไม่ได้อะไรหรอกน่า เลิกบ่นเถอะทีเมื่อก่อนนะพี่ไม่เห็นเราจะเคยบ่นเรื่องรถติด”“นั่นมันเมื่อก่อนนี้ ตอนนี้ฉันเริ่มแปลกใจตัวเองแล้วสิเมื่อก่อนฉันทนรถติดแบบนี้ได้ยังไง มันน่าเบื่อมากเลยนะเสียเวลาสุดๆ เลยด้วย” ฉันยังคงบ่นไม่เลิก“ลูกกลัวเสียเวลาด้วยเหรอ ไหนเมื่อก่อนลูกบอกว่าลูกมีเวลาว่างเยอะแยะเรื่องแค่นี้ไม่ส่งผลอะไรกับลูกหรอก” ฉันเคยพูดแบบที่แม่บอกด้วยเหรอ“ใช่ แม่พูดถูกเวลาพ่อบ่นเรื่องรถติดแล้วทำให้เสียเวลา ลูกยังบอกพ่ออยู่เลยเสียเวลานิดหน่อยจะเป็นอะไรแค่นี้เอง” พ่อเองก็กับเขาด้วยเหรอ“นี่สรุปหนูผิดเหรอ ก็ที่บ้านตาไม่มีรถติดแบบนี้นี่ ไปไหนมาไหนก็แป๊บเดียวขนาดที่ไกลๆ ยังแป๊บเดียวเลย แต่นี้อะไรอีกแค่แปดโลก็ถึงบ้านเราแต่เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่ถึงเลย” คิดดูก็แล้วกันกับอีแค่แปดโลแต่นี่เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังแปดโลเหมือนเดิมจะไม่ให้ฉันบ่นได้ยังไง อีกชั่วโมงจะถึงบ้านหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย เผลอๆ เดินไปอาจจ
ตอนที่ 24 หายหัว“มานั่งทำอะไรตรงนี้มืดๆ คนเดียว ไฟก็ไม่เปิด ยุงไม่กัดเหรอ” ฉันนั่งเล่นมือถืออยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน แม่คงเห็นว่าฉันนั่งอยู่นานแล้วมั้งตั้งแต่เย็นๆ จนตอนนี้พระอาทิตย์ตกดินแล้วก็ยังไม่ยอมเข้าบ้านสักทีแถมยังไม่ยอมเปิดไฟอีก ดีที่ยังมีพัดลมที่ตาเอามาเปิดให้ไม่งั้นมีหวังได้ถูกยุงกัดทั้งตัวแบบที่แม่บอกแน่ๆ“พ่อกับพี่ล่ะ” ฉันไม่ตอบแต่ถามแม่กลับ ทั้งที่ก็รู้แหละว่าสองคนนั้นอยู่ไหน แค่อยากเปลี่ยนเรื่อง“คุยอยู่กับตายายอยู่ข้างในไง แล้วจะบอกแม่ได้ยังว่ามานั่งทำไมคนเดียวตรงนี้”“เปล่าค่ะ แค่มานั่งเล่นเฉยๆ”“จริงเหรอ ไม่ใช่ว่ารอใครอยู่เหรอ”“หนูจะรอใคร ไม่มีสักหน่อยแค่มานั่งเล่นเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“จ้า จ้า นั่งเล่นก็นั่งเล่น แล้วไม่ร้อนเหรอ ปกติเราขี้ร้อนจะตายไม่ใช่เหรอ” ใช่ ปกติฉันเป็นพวกความอดทนต่อความร้อนต่ำมาก แต่ตอนนี้กลับนั่งอยู่หน้าบ้านโดยมีแต่พัดลมตัวเดียวถึงที่นี่จะเป็นต่างจังหวัดที่อากาศดีกว่ากรุงเทพ แต่ก็เป็นต่างจังหวัดในช่วงกลางเดือนเมษาของประเทศไทยไม่มีที่ไหนที่จะไม่ร้อนจ้า ถึงจะเป็นเวลาค่ำแล้วก็ตาม“สงสัยชินแล้วมั้ง”“สงสัยการที่แม่ส่งเรามาอยู่ที่นี่จะได้ผลจริงๆ อย่างน้อ