ราชันย์สาวเอวสอบเข้าออกอีกสองสามครั้งเพื่อรูดน้ำรักออกจากปากแก่นกายให้หมดสิ้น ก่อนจะผละมือออกจาสะโพกกลมกลึงของกอหญ้า ค่อยๆ ถอดถอนแก่นกายออกจากช่อบุปผาอย่างช้า ๆ น้ำกามสีขาวขุ่นไหลทะลักออกตามมาเป็นทาง ราชันย์ใช้นิ้วแกร่งกรีดไปกลางบุปผาที่บัดนี้เจิ่งนองไปด้วยน้ำกามสีขาว ถูไถขึ้นลงทำให้แขนทั้งสองข้างของเธอหมดแรงฟุบลงกับพื้นเตียง
ยิ่งทำให้กลีบบุปผาของเธอถลาแล่นโผล่เด่นชัดต่อสายตาราชันย์ยิ่งขึ้น นิ้วแกร่งไม่อยู่นิ่งคอยกวาดขึ้นลงช้า ๆ ก่อนจะผลุบหยอกล้อ เข้าออกในโพรงบุปผาอีกครั้ง
“อื้อ!”
ราชันย์ชักนิ้วที่มีน้ำสีขาวขุ่นปะปนกับเมือกสีใสออกมามองตรงหน้า ก่อนจะตบก้นกลมกลึงของกอหญ้าให้นอนราบกับพื้นเตียงนุ่มดี ๆ เดินไปหยิบกระเป๋าเงินในกระเป๋ากางเกงออกมาควักแบงก์สีเทาออกมาหกเจ็ดใบ ก่อนจะโยนไปให้กอหญ้าที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง
“ไปซื้อยาคุมกินซะ แล้วก็ซื้อเสื้อผ้าดี ๆ มาใส่ซะ พรุ่งนี้จะพาไปทำงานที่กาสิโน แล้วคงรู้นะว่าถ้าเธอกล้าหนีไป พ่อเธอจะเป็นยังไง”
กอหญ้าที่ได้ยินว่ากาสิโนก็เด้งตัวลุกขึ้นทันทีแต่อาการแปลบปลาบที่ท้องน้อยรุนแรงกว่า ทำให้เธอลุกขึ้นมาแต่กลับต้องตัวงอเป็นกุ้งลงไปบนที่นอนดังเดิม เธอหันหน้าไปมองราชันย์ที่ตอนนี้ยืนตัวเปล่าเปลือยอยู่ปลายเตียง ก็ต้องเอามือปิดหน้าทันทีที่เห็นเจ้าโลกตัวใหญ่ที่มีท่าทีว่าจะสงบลงบ้างแล้วแต่ก็ยังชูชันตัวใหญ่เด่นสง่าอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ทำเป็นไม่เคย จะเอาอีกสักรอบยังได้นะกอหญ้า มาขัดดอกทั้งทีก็ทำงานให้มันคุ้ม ๆ กับเงินห้าล้านหน่อย เฉพาะค่าตัวเธอเอาทีสองทีคงไม่คิดว่าจะครบห้าล้านไวหรอกนะ”
เขาพ่นคำพูดเหยียดหยามใส่เธอทำให้เธอรู้สึกหน้าชาทันที เธอได้แต่นอนนิ่ง ๆ รับคำดูแคลนจากบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเจ้าหนี้ของพ่อ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้พอเธอได้ยินเสียงราชันย์เดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำให้เธอค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นมาเอื้อมมือหยิบเงินที่เขาโยนให้แล้วค่อย ๆ ก้าวขาลงจากเตียงเก็บเสื้อยืดตัวโตที่เธอสวมขึ้นมาสวมอย่างทุลักทุเล
หยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดคราบน้ำที่ไหลเปอะเปื้อนลงมาตามขาของเธอ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูหลังห้องที่เธอตากชั้นในทิ้งไว้ ก็พบว่ามันยังไม่แห้งดีก่อนที่เธอก็หยิบมันมาสวมอย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอเดินไปหากุญแจห้องกับคีย์การ์ดในกระเป๋ากางเกงของราชันย์ เมื่อได้มันมาตามแล้วเธอก็ค่อย ๆ เดินออกจากห้องปลายทางคือร้านขายยาซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าร้านขายยาอยู่ที่ไหน
เธอเองที่บัดนี้อยู่ในสภาพเสื้อยืดสีขาวตัวโต ด้านในสวมแค่บราเซียกับกางเกงชั้นใน ผมเผ้ารุงรังถูกมัดรวมแบบลวก ๆ กำลังเดินหาร้านยาอยู่นั้นยิ่งตามหาก็ยิ่งไกลจากคอนโดมากขึ้นบรรยากาศรอบตัวก็ยิ่งวังเวงมากขึ้น เธอเดินเข้ามาในซอยที่ไม่ได้มีแสงสว่างมากนักตามคำบอกทางของคนที่เธอเจอเมื่อสักครู่ เธอรู้สึกยิ่งเดินก็ยิ่งเปลี่ยวทำให้เธอตัดสินใจหันหลังเพื่อจะเดินกลับที่เดิม
และก็ต้องตกใจเมื่อด้านหน้าของเธอตอนนี้กลับมีกลุ่มชายฉกรรจ์ สามคนทำหน้าหื่นกระหายจ้องมาที่ร่างกายของเธออย่างปิดไม่มิด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือผู้ชายที่เธอเพิ่งถามทางไปร้านขายยา เธอจำได้ดีและตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าเธอถูกหลอกให้มาในซอยเปลี่ยว กอหญ้าหันซ้ายหันขวาหาลู่ทางหนีแต่ร่างกายก็ไม่อำนวยเท่าไหร่ ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ช่องทางรักมาเป็นระยะปนเปมากับความรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อยทำให้เธอทำหน้าเหยเก
ชายคนหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ทำหน้าหื่นกระหายเดินไล่ต้อนเธอเข้ามา ทำให้เธอค่อย ๆ ถอยหลังไปเรื่อย ๆ อีกสองคนด้านหลังชายฉกรรจ์ก็ค่อย ๆ เดินตามมาอย่างอุกอาจ จนแผ่นหลังของเธอปะทะกับกระเบื้องเย็น ๆ ทำให้กอหญ้าสะดุ้งตัวโยนทันทีฝ่ามือสาก ๆ จากชายฉกรรจ์คนหนึ่งเอื้อมมาลูบไล้ใบหน้าของกอหญ้าอย่างกระหาย ไม่ว่าเธอจะปัดป้องแค่ไหนก็ไม่มีท่าทีว่าจะหลุดพ้นและเมื่อเธอต่อต้านมากยิ่งขึ้นชายอีกสองคนจึงวิ่งกรูมาจับแขนทั้งสองข้างของเธอทันทีที่เธอเริ่มปัดป่ายแรงขึ้น มือหนาของชายฉกรรจ์เริ่มลูบไล้จากใบหน้า ลงมาเรื่อย ๆ
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!!”
“เรียกไปก็ไม่มีใครมาช่วยหรอก ตรงนี้ถิ่นพวกพี่นะน้องสาว”
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย!!”
ตุ๊บ! ตุ๊บ!
“มาเดินอ่อยผู้ชายอะไรแถวนี้”
“เห้ย! มึงเป็นใครวะ! มายุ่งอะไรเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ”
“ผัว เมีย?”
“เออ! นังนี่มันเมียกู มันอยากสวิงกิ้งแบบเอาทดอร์กูเลยพามันมาจัดสักหน่อย”
“ไม่ยักกะรู้ ว่าเธอเป็นเมียมัน? ..แล้วที่เอากันมาเมื่อกี้ ฉันก็เป็นชู้นะสิ”
“คุณราชันย์ช่วยกอหญ้าด้วย ปล่อยมือฉัน! มันเจ็บ!!”
“ราชันย์?”
“มีปัญหาอะไรกับชื่อฉัน?”
‘ใช่ว่ะ ราชันย์เจ้าของกาสิโนที่มึงทำงานไง เหี้ยแล้วไหมมึง เล่นใครไม่เล่น เล่นเด็กมาเฟีย กูไปละเว้ย’
หลังจากที่พวกมันกระซิบกระซาบกันสักพัก อยู่ ๆ พวกมันก็พากันวิ่งกรูออกไปทันทีดั่งกับผึ้งแตกรัง ทิ้งไว้แค่กอหญ้าที่หมดแรงร่างกายร่วงหล่นไปกองที่พื้น ดั่งดอกไม้ที่ร่วงหล่นจากต้น จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก จะสมน้ำหน้าตัวเองก็ไม่เต็มปาก ชีวิตที่ต้องมาพบเจอแต่เรื่องบัดซบอะไรแบบนี้ มันทำให้เธอจมดิ่งอยู่กับที่ ความรู้สึกที่สลายแทบทุกอย่าง แม้จะรับรู้ว่าราชันย์ไม่ได้มองเธอในมุมที่ดีมากเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยเธอก็ยังสบายใจที่เขามาช่วยได้ทันพอดี
เธอนึกไม่ออกเลยว่าถ้าเขาไม่เดินเข้ามา เธอจะต้องตกอยู่ในสภาพไหน เธอไม่ได้แหงนมองหน้าเขา และไม่รู้ว่าเขาทำตัวแบบไหน สายตายังไง ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสักพัก ก่อนที่จะได้ยินเสียงจุดไฟแช๊กหนึ่งครั้ง กับกลิ่นบุหรี่ที่ลอยตามลมมา ไม่ต้องเดาเลยว่าเขาคงไม่สบอารมณ์มาก ๆ อาจจะเป็นเพราะเธอสร้างปัญหา ในเมื่อไม่อยากให้เขาต้องโมโหแล้วไปลงที่พ่อของเธอ เธอจึงค่อย ๆ พยุงตัวเองให้ยืนขึ้นเพื่อจะเดินตามหาร้านขายยาอีกครั้ง
แต่เมื่อเธอลุกขึ้นมาได้แล้วด้วยสภาพเซไปเซมา มือหนาก็ตะปบเข้าที่แขนของเธออย่างแรงทำให้ร่างกายและจิตใจที่เสียขวัญสะดุ้งตกใจจนน้ำตาไหลร่วงมาทันที เมื่อเธอหันไปมองเห็นว่าเป็นมือของราชันย์เธอถึงรู้สึกสงบขึ้นมานิดหน่อย ราชันย์ที่เห็นใบหน้าและแววตาตื่นตระหนกของเธอก็ค่อย ๆ คลายมือลงก่อนจะโยนบุหรี่ในมือทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี ค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้กอหญ้าเล็กน้อยก่อนจะแบมือไปที่ตรงหน้ากอหญ้า
“คะ?”
“คีย์การ์ด”ราชันย์ตอบสั้น ๆ ก็ทำให้กอหญ้านึกขึ้นได้ว่าตอนที่เธอขัดขืนกลุ่มชายฉกรรจ์ เธอโยนทิ้งซึ่งทุกอย่าง ก่อนจะหันหลังไปควานหาในความมืดอย่างรีบร้อน เธอได้ยินเสียงราชันย์ถอนหายใจเบา ๆ เดาได้เลยว่าเขาต้องหงุดหงิดมาก มันยิ่งทำให้เธอรีบร้อนหามากยิ่งขึ้น แต่ด้วยความมืดของพื้นที่ที่ค่อนข้างเปลี่ยนและไร้ซึ่งแสงสว่างที่เพียงพอ ยิ่งหาเท่าไหร่ก็ยิ่งมองไม่เห็น ราชันย์เปิดไฟฉายจากมือถือให้เธอหาอีกครั้งก็พบว่ามีกุญแจตกอยู่ไม่ไกลมากนัก เธอรีบร้อนไปหยิบมาแล้วยื่นให้เขาทันที ก่อนที่เขาจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้“ใครใช้ให้แต่งตัวแบบนี้ออกมาเดินเพ่นพ่าน”“คือ...”“เลิกคือ แล้วกลับห้องได้ละ”“คือกอหญ้าอยากไปร้านขายยาค่ะคุณราชันย์”“ร้านขายยา?”“ค่ะ”“ตอนจะตีหนึ่ง?”“เอ่อ..ค่ะ..”“ที่ไหนเขาจะเปิดให้เธอ”“แต่ว่า..”“เธอมีปัญหาอะไรอีก”“กอหญ้าอยากได้ยาคุมค่ะ”“เอาแค่ทีสองทีคงไม่ท้องหรอกกอหญ้า ป่านนี้เขาไปหลับไปนอน ฝันหวานกันหมดละ”“แต่..”ราชันย์ถอนหายใจฟึดฟัด ก่อนจะลากข้อมือน้อย ๆ ของกอหญ้าออกมาจากซอยแคบ ๆ ที่ไร้ซึ่งแสงสว่างนั่น เมื่อออกมาถึงปากซอยก็พบกับรถสปอร์ตคันหนึ่งจอดอยู่ ราชันย์กดปลดล็อกประตูก่อนจ
บทที่ 5...“ไปทำอะไรให้กินหน่อย หิว”“ในตู้มีแต่อาหารแช่แข็งนะคะ”“อืม”อาการมึนหัวที่ยังไม่หายดี ตีวนไปมาแทบคลื่นไส้ แต่เธอก็ลุกขึ้นเดินออกไปเปิดตู้เย็นหยิบอาหารแช่แข็งมาสองกล่อง ก่อนจะเอาเข้าไมโครเวฟจัดการอุ่นเป็นที่เรียบร้อย เทออกจากกล่องใส่จาน นำมาวางให้ราชันย์พร้อมน้ำเปล่าอีกหนึ่งแก้ว ราชันย์ที่เดินมามองอาหารในจาน สลับกับใบหน้าของกอหญ้าเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ แล้วนั่งลงทานอาหารเงียบ ๆ กอหญ้า ค่อย ๆ นั่งลงตักอาหารในจานทานเงียบ ๆ เช่นกัน“ทุกวันตอนเช้าทำอาหารด้วย หน้าที่เก็บกวาดห้องเป็นของเธอ ทุกอย่างที่แม่บ้านทำเธอเอาไปทำทั้งหมด”“ค่ะ”“ช่วงค่ำไปที่กาสิโน เดี๋ยวจะมีคนสอนงานเธอเอง”“ค่ะ”“แล้วอย่าทำให้ฉันโมโห อย่าคิดหนี อย่าทำตัวน่ารำคาญ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”“ค่ะ”เขาพูดก่อนจะเดินไปหยิบโน๊ตบุ๊คมานั่งที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้อง พอเห็นโซฟาตัวนั้น หน้าขอเธอก็แดงระเรื่อขึ้นสมองพรางนึกไปถึงค่ำคืนอันเร่าร้อนที่ราชันย์ปรนเปรอเธอ เขาหันมามองเธอและขมวดคิ้วสงสัยที่เธอยืนนิ่ง ๆ แล้วมีอาการหน้าแดงก่อนที่เขาจะหลุบตาลงไปมองที่โซฟาแล้วหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธออีกครั้ง“มาทบทวนความหลังกับโซฟาตัวนี้หน่อ
หลังจากที่ซื้อของมาครบเรียบร้อยตามที่ต้องการ ทั้งราชันย์และกอหญ้าก็พากันหอบหิ้วพะรุงพะรังเปิดประตูเข้ามาในคอนโด ก็ต้องตกใจเมื่อพบธันวาที่นั่งทำหน้าตกใจราวกับเห็นผีอยู่ที่โซฟา เมื่อเห็นเช่นนั้นราชันย์ก็ตั้งสติและทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เดินเอาของที่ไปวางที่บาร์ในครัว กอหญ้าเองก็ทำตัวลีบ ๆ ค่อย ๆ เดินตามไปโดยที่ทุกคนไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาแม้แต่คำเดียว“กูตาฝาดปะวะ”“เปล่า ก็งานทุกอย่างเธอต้องจัดการ แล้วห้องกูไม่มีอะไรเลย แค่พาไปซื้อ จะได้ประหยัดค่าแม่บ้าน”“อ๋อ หรอ”“ว่าแต่มึงเหอะ เดี๋ยวนี้เข้าห้องกูตามใจชอบเชียวนะ”“ก็กูลืม ว่ามึงไม่ได้อยู่คนเดียว..แล้วสภาพน้องเขาคือ?”“เพิ่งไปซื้อเสื้อผ้ามา”“เออ ๆ กูเอาเสื้อมาให้ละ มึงจะให้ไปเมื่อไหร่”“วันนี้กูไม่ว่าง มึงจัดการด้วยแล้วกัน”“เออ ๆ”ณ กาสิโนใต้ดินที่มีอิทธิพลของราชันย์ ผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม ใบหน้าขาวผ่องตัดกับชุดเดรสรัดรูปสั้นเสมอหูสีแดงเลื่อม โชว์ส่วนเว้า ส่วนโค้งสีผิวขาวจั๊วะตัดกับแสงสีในกาสิโน ผมสั้นประบ่าหยักศกสีน้ำตาลคาราเมลบัดนี้ถูกมัดรวบเผยให้เห็นลำคอระหงน่าเจี๊ยะ ปากสีพีชแบบธรรมชาติที่ไม่ถูกเติมแต่งกับรองเท้าส้นสูงหกนิ้วสีเดียวก
บทที่ 6...อื๊อ~“เอ๊ะ! คุณราชันย์”“ทำไมไม่อาบน้ำ”ราชันย์ไม่พูดเปล่า มือหนาที่ซุกซนกำลังลูบไล้เรียวขาของเธอไปด้วย ทำให้กอหญ้ามีอาการประหม่าเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ดันตัวเองลุกจากที่นอนมานั่งมึน ๆ นิ่ง ๆ“ฉันเผลอหลับไปค่ะ คุณราชันย์หิวไหมคะเดี๋ยวฉันไปทำอะไรให้ทาน”“หิว..แต่เหมือนว่าผมจะไม่ได้หิวข้าวนะ คุณพอจะช่วยเลี้ยงอาหารมื้อพิเศษนี้ให้ผมได้ไหมกอหญ้า”สายตาที่ราชันย์มองหญิงสาวตรงหน้ามันช่างเร่าร้อนจนแทบจะสามารถแผดเผาให้คนที่อยู่ตรงหน้าละลายไปกับที่นอนได้อย่างง่ายดาย เธอหน้าแดงราวกับสีของผลเชอรี่สุกอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่ทุกครั้งที่เธอมองราชันย์ร่างกายของเธอก็รู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ อย่างควบคุมไม่ได้ทุกครั้ง ยิ่งทำให้ความคิดไม่รักดีผุดเรื่องราวน่าอับอายขึ้นมาอีกหลายต่อหลายฉาก ก่อนที่ทุกอย่างจะเตลิดไปมากกว่านี้เธอจึงต้องสลัดความฟุ้งซ่านนี้ออกไป“เอ่อ..เดี๋ยวฉันไปทำอะไรให้ทานนะคะ”พูดจบเธอก็เด้งตัวโดดลงจากที่นอนมุ่งหน้าเดินไปเข้าครัวทันทีโดยไม่สนใจบุคคลด้านหลังแต่อย่างใด ราชันย์ที่เห็นการกระทำของเธอก็ได้แต่ยิ้มเล็ก ๆ อย่างขบขันกับท่าทางของหญิงสาวตรงหน้า หากมีคนอื่นมาเห
‘โอเค พักผ่อนเยอะ ๆ นะ’‘อื้อ ขอบคุณนะ’‘มีอะไรทักมาบอกเราได้เลยนะ’กอหญ้าปิดหน้าจอมือถือวางไว้บนโต๊ะทันที ก่อนจะหันไปมองถุงข้าวของที่ซื้อมาห้าหกถุง อย่างเหนื่อยใจแต่ถึงอย่างนั้นมือน้อย ๆ ของเธอก็เอื้อมไปหยิบของในถุงออกมาอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเริ่มปฏิบัติการแม่บ้านในวันนี้ก๊อก ก๊อก“มาแล้วค่ะ”เธอที่คิดว่าคนที่เคาะห้องอาจจะเป็นราชันย์ จึงรีบเปิดประตูออกโดยที่ไม่ได้ดูว่าใครมา และเมื่อประตูเปิดออกเธอก็เห็นว่าบุคคลนี้ไม่ใช่ราชันย์ แต่เป็นคนที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับราชันย์มาก ๆ ความหล่อเทียบกันได้แบบสูสีเลยก็ว่าได้ เพียงแต่คุณคนนี้จะมีสีผิวที่เข้มกว่าราชันย์นิดหน่อยเท่านั้น“เอ๊ะ!! นี่ไม่ใช่ห้องเจ้าราชันย์หรอ”“เข้าห้องผิดหรอคะเฮียมังกร”“เอ่อ..ไม่ทราบว่ามาหาใครคะ”“มาหาราชันย์ครับ ไม่ทราบว่าคุณคือ..”“คุณราชันย์ไม่อยู่ค่ะ เอ่อ..ให้บอกว่าใครมาหาดีคะ”“มังกรครับ เป็นพี่ชายเจ้าราชันย์ ขอเข้าไปรอในห้องได้ไหม”“อ่อ .. ได้ค่ะ เชิญค่ะ”“ว่าแต่ เราเป็นแม่บ้านคนใหม่ของเจ้าราชันย์หรอ”“คะ? อ่อใช่ค่ะ..ตามสบายเลยนะคะ เดี๋ยวไปหยิบน้ำให้ค่ะ”"รบกวนด้วยนะ ขอบคุณครับ""เอ่อ .. แล้วของพวกนี้เอาวางที่
บทที่ 7...“ทำไมต้องอยากรู้อะไรที่ไม่เกี่ยวกับงานด้วยวะ”“ก็กูตื่นเต้น ว่ากูกำลังจะมีน้องสะใภ้หรือเปล่านี่หว่า”“ไม่ใช่แม่บ้าน”“เห้ย! งั้นก็น้องสะใภ้!”“นั่นก็ไม่ใช่”“อ่าว! เหี้ยไรเนี่ย”“จะบอกว่าไง ก็ไม่ได้เป็นอะไรที่สำคัญขนาดนั้น.. พอดีลูกหนี้กูไม่มีเงินใช้ แล้วเอาตัวลูกสาวมาใช้หนี้ .. เธอก็มีฐานะแบบนั้นแหละ”“กูไม่โอเคนะราชันย์ ถ้ามึงจะทำกับผู้หญิงแบบนี้ มึงขืนใจเขาหรอ”“กูไม่เคยขืนใจใคร มึงก็รู้”“แล้วมึงจะทำไงต่อไป มึงก็รู้ว่าคนแบบพวกเราศัตรูเยอะขนาดไหน”“แต่เธอไม่ใช่จุดอ่อนของกูไงมังกร เธอก็เป็นแค่นางบำเรอถึงเวลาก็หายไป ก็เท่านั้น กูไม่ได้คิดอะไรมากกว่านี้”“พูดเรื่องอะไรกันอยู่หรอเฮีย”ทั้งราชันย์และมังกรที่กำลังคุยกันโดยที่ไม่ได้ยินเสียงการเปิดประตูเข้ามาของพราวฟ้าและกอหญ้า ต่างก็ชะงักและกลืนน้ำลายลงคอทั้งคู่ที่รับรู้ว่าไม่ได้มีแค่เขาสองคน กอหญ้าที่ยืนเฉย ๆ อยู่ด้านหลังพราวฟ้าไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เธอได้ยินเกือบทุกคำที่ทั้งคู่คุยกัน แม้จะได้ยินแค่ช่วงท้าย ๆ เพราะพราวฟ้าบอกว่าลืมกระเป๋าเงินไว้ขอขึ้นมาเอาก่อนแม้จะรู้ว่าฐานะของตัวเองคืออะไรแต่เมื่อได้ยินกับปากของเขา มันทำให้ห
“พี่ฟ้าจะให้หญ้าใส่ชุดนี้จริง ๆ หรอคะ”“ใช่แล้ว ไหน ๆ ก็มาทั้งที น้องสาวพี่ก็ต้องสวย ๆ ซิ”เมื่อกอหญ้าเห็นว่าไม่น่าจะขัดและห้ามสายตาแน่วแน่ของพราวฟ้าได้ เธอจึงเลยตามเลย สวมชุดที่ซื้อล่าสุดชุดนี้ จ่ายเงินแล้วเดินออกมาสวย ๆ จากร้านทันที ชุดกระโปรงสีฟ้าลุคคุณหนูใส ๆ กระโปรงฟู ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเจ้าหญิง เสื้อเกาะอกสีขาวถูกปิดทับด้วยเสื้อคลุมผืนบางสีฟ้าเข้ากันกับชุด รองเท้าสีฟ้าเข้าชุด พร้อมกับการแต่งหน้าทำผมอ่อน ๆ ยิ่งทำให้เธอดูสวยเป็นที่สะดุดตาของใครหลายคนที่เดินผ่าน“พี่ฟ้า มันเยอะเกินไปแล้วหรือเปล่าคะ เรากลับกันดีกว่าไหม”“กอหญ้า เราไม่ได้มาด้วยกันสองคนแบบนี้บ่อย ๆ นะเราต้องเที่ยวให้คุ้มสิ”“งั้นเราไปต่อร้านไหนดีคะ อิอิ”“ต้องแบบนี้ซิ ถึงจะเหมาะกับเป็นน้องสาวพี่ .. หิวหรือยัง”“นิดหน่อยค่ะ พี่ฟ้าหิวหรือยังคะ เราไปหาอะไรทานกันไหม”“ดีเหมือนกัน งั้นไปร้านนั้นดีกว่า ป่ะ!”ทั้งคู่พากันเดินเข้ามาในร้านปิ้งย่างชื่อดัง เลือกที่นั่งและรอสั่งอาหาร เมื่อทั้งคู่สั่งอาหารจนเต็มโต๊ะ ก็ได้เวลาลิ้มรสชาติอันโอชะอย่างเอร็ดอร่อย เขาว่ากันว่าผู้หญิงกับความสุขในการกินมันคือของคู่กัน และมันก็ถูกต้องเช่น
บทที่ 8...‘ความรู้สึกอึดอัดนี้มันคืออะไรเนี่ย แล้วทำไมคุณราชันย์ต้องมายืนทำหน้ายักษ์จ้องเขม็งแบบนี้ด้วย ไม่เห็นจะเข้าใจเลย’เธอลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินไปห้องน้ำ เพราะเริ่มจะรับไม่ไหวกับบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ ทันทีที่เธอลุกขึ้นนั้น สายตาดุ ๆ ก็หันขวับมาจ้องเธอทันที ทำให้กอหญ้าได้แต่ลุกขึ้นมายืนนิ่ง ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาออกจากตรงนั้น“จะไปไหน”“ไปห้องน้ำค่ะ”“ไปสิ”ทันทีที่เธอได้ยินการอนุญาตจากบุคคลตรงหน้า เท้าน้อย ๆ ก็รีบก้าวฉับ ๆ ออกมาอย่างไม่คิดชีวิต เธอก้าวเท้าด้วยความเร็วเพื่อที่จะออกมาจากที่ตรงนั้นเดินตรงดิ่งมาที่ห้องน้ำหญิงที่อยู่ไม่ไกลมาก เมื่อเธอเข้ามาทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว มือน้อย ๆ ก็ควักมือถือออกมาเช็กนิดหน่อย ก็เห็นว่ามีข้อความจากปอร์เช่เธอเดินออกจากห้องน้ำโดยที่มือของเธอก็ยังง่วนอยู่กับการตอบข้อความของเพื่อนสนิท ทันทีที่เธอเดินพ้นประตูห้องน้ำออกมาเล็กน้อยก็ต้องชะงักเท้าเล็ก ๆ เพราะสายตาที่จ้องมือถือนั้นเห็นเท้าของผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนขวางทางอยู่เบื้องหน้า กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อน ๆ นี้ไม่ผิดแน่ เธอเงยหน้าออกจากจอมือถือเล็กน้อยก็ต้องหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงห
กอหญ้าคลานขึ้นมาบนเตียงที่มีราชันย์นอนหน้ามุ่ยคอหักดั่งปลาทูแม่กลอง ก่อนจะมุดเข้าไปในผ้านวมผืนหนา มือเล็กลูบไล้ขาแกร่งของราชันย์อย่างเบามือ รับรู้ได้ว่าราชันย์เองก็เกร็งขาเป็นระยะ แต่ยังทำท่าทีไม่สนใจเมียเหมือนเดิมมือเล็กของกอหญ้าเลื่อนไปปลดเข็มขัดของเขาออก ปลดกระดุมกางเกงช้า ๆ รูดซิปออกก่อนจะดึงกางเกงของผู้ชายใต้ร่างของเธอออกอย่างง่ายดาย เหลือเพียงกางเกงในสีขาวแบรนด์ดังที่บัดนี้ปิดเจ้าโลกไว้ไม่มิดด้วยซ้ำ ราชันย์น้อยที่หัวเห็ดขนาดใหญ่โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงใน ผงกหัวราวกับกำลังเชิญชวนให้เธอมาทำมิดีมิร้าย แต่เจ้าตัวกลับยังทำหน้ามุ่ยไม่สนใจ เพียงแค่ปลายนิ้วชี้ของเธอกระตุกทั้งกางเกงนอกกางเกงในของราชันย์ก็ถูกถอดออกโยนไปกองที่พื้นโดยที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่ขัดแม้แต่น้อยของเขามือเล็กของเธอกำเข้ากับเจ้าโลกที่ขยายเต็มที่ หัวเห็ดบานยั่วเย้าเหล่าแมลงมีน้ำหวานผุดออกมาจากปลายหัวเห็ดให้นิ้วชี้ของกอหญ้าได้ไล้วน สร้างความเสียวซ่านกระตุกถี่ กอหญ้าใช้ลิ้นอุ่น ๆ ไล้เลียไปที่หัวเห็ดบานจนทั่วยิ่งเธอวนรอบหัวมากเท่าไหร่ น้ำหวานที่ไหลเยิ้มก็ยิ่งผลิตออกมามากเท่านั้น ไล้เลียรอบหัวจนพอใจลิ้นของเธอก็ค่อย
“ค่ะเฮีย หญ้าได้ยินแล้ว เฮียดีใจเสียงดังไปแล้วค่ะ”“คุณแม่ฝากครรภ์เลยไหมคะ”“ฝากเลยค่ะ”“ได้เลยค่ะ”คนที่ดูจะตื่นเต้นสุดเหมือนจะเป็นผู้ชายข้าง ๆ มากกว่าเธอเสียอีก กอหญ้าที่เห็นราชันย์ดีใจมากก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเด็กผู้หญิงที่ครอบครัวล้มละลาย จะได้มีครอบครัวที่มีความสุขขนาดนี้ ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแต่จะรีบให้หมดเวลาสัญญา ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอตกหลุมรักเขาโดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง ผู้ชายที่เธอไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมายืนเคียงข้างเธอเป็นครอบครัวของเธอจริง ๆ“เฮีย”“ว่าไงจ๊ะเมียจ๋า”“หญ้ารักเฮียนะ”“เฮียก็รักหญ้า รักมาก ๆ รักที่สุดเลย”“แต่หญ้าเหม็นหน้าเฮียมากนะ”“…”“หญ้าว่าจนกว่าจะคลอด อยากให้เฮียอยู่ห่าง ๆ หญ้าหน่อยจะได้ไหมคะ”“แต่เฮียอะ..อยากอยู่กับหญ้าตลอดเวลาเลยจริง ๆ นะ”“อะแห่ม! เดี๋ยวเรื่องนั้นยังไงค่อยกลับไปตกลงกันเนอะ แต่ตอนนี้เรามาทำประวัติฝากครรภ์กันก่อนดีกว่าน๊า”ถึงแม้คุณหมอจะพูดแบบนั้น แต่แก้มหมอกลับยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นความมุ้งมิ้งของสองสามีภรรยานี้ ยิ่งทำให้หมอยิ้มแก้มแทบปริ กอหญ้าเองก็ลืมตัวว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาล ทำ
กอหญ้าไม่ได้พูดเล่น แต่เธอรู้สึกว่าราชันย์นั้นมีกลิ่นตัวที่ผิดจากปกติ เป็นกลิ่นที่เตะจมูกแบบแปลกกว่าที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังคงใช้แชมพูกลิ่นเดิม ครีมอาบน้ำกลิ่นเดิม และน้ำหอมก็ยังคงกลิ่นเดิม แต่สองสามวันมานี้เวลาเจอราชันย์กลับมีกลิ่นที่แปลกไป แต่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกกับเขา กลัวว่าผู้เป็นสามีของตนจะน้อยใจแต่พอยิ่งเห็นเขา อาการเหม็นกลิ่นตัวเขาก็ยิ่งจุกในอกมากขึ้นจนบางครั้ง ก็อยากที่จะเดินหนีเขาให้พ้น ๆ ต่างกันกับราชันย์ที่มีความต้องการที่อยากจะคลอเคลียนัวเนียกับผู้เป็นภรรยาตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากจะไปไหนมาไหนทำอะไรด้วย เขารู้สึกว่ากลิ่นกายของกอหญ้าหอมเป็นพิเศษ และเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่รู้สึกคลื่นไส้เวลาพบเจอและเพียงแค่เขาออดอ้อนเมียได้ไม่นานนัก ความมวนท้องก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ยังไม่ทันที่จะได้เดินออกจากหน้าห้องน้ำ ราชันย์ก็หันหลังตรงดิ่งเจ้าไปกอดคอชักโครกสุดที่รักเช่นเดิม กอหญ้าเองถึงแม้จะเห็นความทรมานของราชันย์ก็เถอะ แต่พอเธอจะก้าวขาเข้าไปลูบหลังก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อเห็นหน้าราชันย์เธอเองกลับรู้สึกคลื่นไส้มาเสียอย่างนั้น
พิเศษ ตอนที่ 3...“หม่ำ หม่ำ”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเศษ ที่กำลังนั่งเก้าอี้รอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ โดยที่เก้าอี้ข้างกันนั้นยังมีเด็กชายพี่น้องฝาแฝดที่ทำหน้านิ่งมองหน้าอลิซที มองหน้าผู้เป็นพ่อที และเด็กน้อยก็รอเพียงไม่นานผู้เป็นแม่อย่างกอหญ้าก็เดินมาพร้อมกับอาหารสีสันสดใสน่ารับประทานนำมาวางไว้ที่เก้าอี้ ส่งผลให้เด็กน้อยอารมณ์ดีอย่างอลิซปรบมือดีใจยกใหญ่“หม่ำ หม่ำ”“โอเค ข้าวมาแล้วลูกสาวป๊าจะได้กินข้าวแล้ว”“อาร์เดนหิวข้าวมั้ยลูก”“…”ไม่มีเสียงตอบรับจากลูกชายของเธอมีเพียงตาตาที่ดุราวกับเสือร้ายที่จดจ้องมองไปที่จานข้าวอย่างไม่ละสายตา ดูท่าทางแล้วเขาจะได้ลูกชายที่ค่อนข้างเงียบมากมาคนหนึ่งแน่นอน กอหญ้าไม่ลีลาให้ลูกต้องรอนาน เธอส่งสัญญาณให้ราชันย์เริ่มป้อนข้าวลูกได้ ถึงแม้อาร์เดนจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่พอเธอป้อนข้าวให้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะไม่ทาน ผ่านไปเพียงไม่นานข้าวผัดสีสันสดใสก็หมดเกลี้ยงจานทั้งคู่ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก“หม่ำ”และยังคงเป็นเช่นนี้ อาร์เดนจะส่งเสียงร้องขอก็ต่อเมื่อเห็นจานผลไม้เท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกชายของเขาแลดูจะชอบผลไม
“ยังเลย”“ทำไมเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้”“ทำอย่างกับนายไม่ตื่นเต้น”“ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่นะ”เพียงไม่นานประตูห้องคลอดก็ถูกเปิดออกโดยมีกลุ่มคุณหมอเดินออกมาสามสี่คน ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที“คุณหมอคะ คนไข้ที่เพิ่งเข้าไปเป็นยังไงบ้างคะ คลอดหรือยังคะ”“คุณแม่ยังไม่คลอดนะคะ ปากมดลูกยังไม่เปิด”“เธอเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แต่เบื้องต้นอายุครรภ์ยังไม่ถึงกำหนด คลอดออกมาเด็ก ๆ อาจจะต้องเข้าตู้อบก่อนนะคะ”“ขอบคุณมากค่ะ”เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะคลอด ทั้งธันวาและเว่ยเอินเองก็สลับกันลุกนั่ง วนอยู่หน้าห้องคลอด และไม่มีท่าทีจะคลอดง่าย ๆ ยิ่งทำให้เว่ยอินและธันวารู้สึกกังวลเพิ่มขึ้น“ไอ้ธัน”“มาสักที”“กอหญ้าเป็นไงบ้าง นานแล้วนะยังไม่คลอดอีกหรอ”“ยังเลย”“คุณเป็นใครคะ”“อ่อ..คนนี้เว่ยเอินที่เคยเล่าให้ฟัง..ส่วนนี่ราชันย์”“สวัสดีครับ”ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ทำความรู้จักกัน ก็มีกลุ่มคุณหมอสามสี่คนรีบวิ่งมาที่หน้าห้องคลอด ทำให้ราชันย์เองก็ตกใจไปด้วยเขาคว้าข้อมือของหมอผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้“เกิดอะไรขึ้นครับ”“คุณแม่มีภาวะครรภ์เป็นพิษครับ หมอขอตัวก่อนนะคร
เขาอุ้มกอหญ้าและเดินช้าๆ ให้เข้าไปนั่งรอในรถ ทางด้านเว่ยเอินเองเธอก็รีบวิ่งมาหอบหิ้วข้าวของอย่างพะรุงพะรังเข้าไปยัดไว้ในรถเช่นเดียวกัน ก่อนที่เธอกระโดดขึ้นรถด้วยความเร็วแสง เคาะเบาะรถเบา ๆ ให้ธันวานั้นขับรถออกไปอย่างรวดเร็วปลายทางคือโรงพยาบาล ถึงแม้โรงพยาบาลจะอยู่ไม่ไกลมากนักแต่ช่วงเวลานี้ รถบนท้องถนนย่อมมีมากกว่าปกติเพราะเป็นช่วงเวลาทำงานพอดีนั่นจึงทำให้รถของเขาที่กำลังจะมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลนั้นเกิดการล่าช้าอย่างช่วยไม่ได้ ธันวาที่พยายามเหยียบคันเร่งรถอย่างเต็มที่เพื่อให้ไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด ก็ต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคบนท้องถนน คนข้างๆ เขาเองก็ต้องฝ่าอุปสรรคความเจ็บปวดที่รู้สึกได้เลยว่ามดลูกกำลังบีบตัวลง และเวลาต่อมาก็ยิ่งทำให้เธอตกใจเข้าไปอีก เมื่อเธอรู้สึกว่าเบาะที่เธอนั่งนั้นตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน จะบอกว่าเธอฉี่แตกก็ไม่น่าจะใช่ เธอไม่รู้สึกเลยว่ามันไหลออกมาตอนไหน เมื่อรู้ตัวอีกทีมันก็เปียกชุ่มไปหมดแล้ว"น้ำเปียกเบาะหมดแล้ว""ห๊ะ! เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งคลอดนะ บนรถอันตราย""คุณธันวาขับเร็วกว่านี้ได้ไหม เห็นไหมพี่หญ้าหน้าซีดหมดแล้ว""ฉันก็กำลังรีบอยู่"ใ
พิเศษ ตอนที่ 2 | เจ้าแฝดของป๊ามาเฟีย...ในฤดูหนาวของช่วงปลายปี อากาศยามเช้าที่สดชื่นเป็นพิเศษ หลังจากที่เมื่อคืนได้ผ่านพายุหิมะที่ถล่มจนแทบมองไม่เห็นพื้น ต้อนรับยามเช้าที่สดใสด้วยดอกกุหลาบ และดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่หญิงสาวได้ลงมือลงแรงปลูกเองกับมือ กำลังบานสะพรั่งต้อนรับแสงตะวัน แม้กลีบดอก กลีบใบบางส่วนจะยังคงถูกปกคลุมด้วยเกล็ดหิมะบางจุดอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็มิสามารถปกปิดความงามของดอกไม้ไว้ได้ลมจากทะเลสาบที่ขยันจะพัดโชยตลอดเวลา กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของทะเลลอยเข้ามาแตะจมูก สร้างความสดชื่นให้กับผู้คนที่อยู่ละแวกนั้น ในห้องนอนของหญิงสาวที่อายุครรภ์ใกล้ครบกำหนดคลอดเข้ามาทุกที กำลังนั่งพับเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้เตรียมคลอด พร้อมกับทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างมองดอกไม้ที่อยู่ด้านนอกอย่างสบายอารมณ์ ความสวยงามของธรรมชาติที่เธอบรรจงสร้างขึ้น ถือเป็นความสบายใจของเธอเป็นอย่างมาก ทางด้านของธันวาเองก็ยังคงรายงานสถานการณ์ให้กับราชันย์ทราบอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ราวกับว่าราชันย์เองยืนอยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ ด้วยอย่างไรอย่างนั้น ทางด้านของเด็กสาวอารมณ์ดีอย่างเว่ยเอินก็นั่งนับนอนนับวันรอแล้วรอเล่า ตั
“...”“คุณราชันย์ขา เรามาต่อกันดีกว่าค่ะ อย่าแกล้งมาหยาแบบนี้สิคะ”“ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไป”“คะ?”“ฉันบอกว่าให้ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไป”“คุณจะมาทำแบบนี้กับมาหยาไม่ได้นะคะ!!”กริ๊ก!ราชันย์ที่ได้ยินเสียงประตูหน้าห้องด้านนอกถูกเปิดออก และคนที่จะมาคงไม่พ้นผู้หญิงที่ทำให้เขาหงุดหงิดจนถึงตอนนี้ เขามองสภาพห้องนอนที่บัดนี้มีเสื้อผ้ากระจัดกระจายไปทั่วห้อง“ใส่เสื้อผ้าซะ”ราชันย์ไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่น้ำเสียงแสดงออกได้ถึงความหงุดหงิด มาหยาที่ยังมึนงงกับการกระทำของเขาและถูกราชันย์ทิ้งกลางอากาศก็ยิ่งทำให้หงุดหงิด แต่ก็ยอมไปเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาสวมอย่างลวก ๆ“พี่พราว”“…..”“พี่พราวหรือเปล่าคะ”“…..”เธอได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเรียกชื่อใครสักคนที่ไม่เคยได้ยิน เธอหันมาค้อนตามองราชันย์อย่างขอความเห็นว่าเธอควรทำอะไร แต่ราชันย์เองก็ไม่ได้สะทกสะท้านหรือมีท่าทีจะสนใจทั้งตัวเธอหรือเสียงด้านนอก เธอจึงสวมเสื้อผ้าที่เก็บมาสวมอย่างลวก ๆ กระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไปอย่างไม่สบอารมณ์“แกเป็นใคร เข้ามาในห้องราชันย์ได้ยังไง”“คุณต่างหาก เป็นใครคะ”“แกก็ถามแปลก ฉันเดินออกมาจากห้องนอนราชันย์ ก็ต้องเป็นแฟนราชันย์อยู่แ
เธองัดมารยาหญิงที่มีออกมาสุดฤทธิ์เพื่อที่จะปลุกอารมณ์ของผู้ชายเบื้องหน้า เขาเองก็ไม่ให้เธอต้องรอนาน ราชันย์เดินตรงมาหาเธอที่นอนแผ่หลารออยู่บนเตียงอย่างไม่รีบร้อนร่างกายที่กำยำของเขาค่อย ๆ โน้มลงไปคร่อมเธอเอาไว้ ผ้าเช็ดตัวผืนน้อยที่จะหลุดแหล่มิหลุดแหล่ ถูกนิ้วมือของเธอกระตุกเพียงแค่ครั้งเดียว ก็หลุดออกตามแรงกระชากของเธอมาโดยง่าย เผยให้เห็นจ้าวโลกที่ลุกขึ้นมาชี้หน้าเธออย่างเดือดดาล พร้อมที่จะกระโจนลงถ้ำอย่างไม่ต้องร้องขอเขายังไม่ทันได้ขยับตัวไปไหน นั่นยิ่งปลุกให้อารมณ์สวาทที่กำลังมาของเธอยิ่งพลุ่งพล่านเข้าไปอีก มาหยาไม่รอให้ราชันย์ได้คิดนาน เธอตวัดเรียวแขนโอบกอดรอบคอของเขา ก่อนจะดันให้ร่างที่เปลือยเปล่าของราชันย์นั้นล้มลงไปนอนแผ่หลาโชว์จ้าวโลกที่เตียงคิงไซต์แทนเธอใช้ความรวดเร็วเข้าประชิดเขาด้วยความช่ำชอง เผลอแค่พริบตาเดียว เธอนั้นก็ได้พาร่างเล็กขึ้นไปนั่งคร่อมทับบดขยี้บนแก่นกายของราชันย์เรียบร้อยแล้ว ชุดเดรสรัดติ้วสีดำที่เธอสวมมา จากที่ว่าสั้นเสมอหูอยู่แล้ว บัดนี้มันถูกเรียวขาที่อ้าออกคร่อมราชันย์ไว้รั้งร่นไปกองอยู่ที่สะโพกของเธออย่างช่วยไม่ได้ เผยให้เห็นชั้นในลายลูกไม้ตัวจิ๋วสีดำที่