หลังจากพูดคุยรายละเอียดกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงานของตนเอง หนิงชิงดีใจที่ได้คุยเรื่องนี้กับคนในครอบครัวตั้งแต่เนิ่น ๆ หากนางสอบถามตอนที่ใกล้จะย้ายจริง ๆ แล้วก็คงจะวุ่นวายไม่น้อย เรื่องนี้หนิงชิงจะสอบถามต้าเจียงด้วยว่าเขาเต็มใจจะไปเมืองหลวงกับนางหรือไม่ เพราะเขาจะต้องทิ้งต้าเป่าเอาไว้กับน้องสาวของนางที่นี่ นางเกรงว่าเขาจะไม่อยากจากลูกสาวสุดที่รักของตนเองได้ หรือไม่นางก็อาจให้ต้าเป่าไปด้วย ถ้าน้องสาวนางได้คนที่ร้านสมุนไพรเพิ่มแล้วก็เป็นไปได้เช่นกัน นางเองไม่อยากพรากคนในครอบครัวของใครไปแต่แรก
วันต่อมาหนิงชิงเรียกต้าเป่ากับต้าเจียงมาพูดคุยกัน และก็จริงอย่างที่นางคาดเอาไว้ ต้าเจียงไม่อยากให้ลูกสาวอยู่ที่นี่คนเดียว หนิงชิงเองจึงบอกกับเขาว่ารอให้น้องสาวนางซื้อบ่าวใหม่เสียก่อนก็แล้วกัน อย่างไรการย้ายร้านก็ยังไม่ได้เร่งรีบ นางยังจะรออีกหลายเดือนจึงจะเริ่มย้ายร้าน เรื่องต้าเป่านางจะคุยกับหนิงกุ้ยให้เอง
รุ่งสางวันต่อมา ต้าเจียงเดินทางไปส่งจดหมายให้กับหนิงชิงที่ค่ายทหาร เขากลัวว่าทหารที่ส่งจดหมายจะออกเดินทางเสียก่อนจึงได้รีบไปเช่นนี้ หนิงชิงเห็นว่าต้าเจียงออกไปทำธุระให้นางแล้วก็เบาใจ วันนี้นางมาช่วยน้องสาวที่ร้านขายอาหารเช้าตั้งแต่ยังไม่สว่าง เป็นเพราะนานแล้วที่นางไม่ได้มาทำอาหารเอง หนิงชิงวางแผนที่จะนำผงปรุงรสในคอนโดของนางใส่เอาไว้ในโหลขนาดใหญ่จำนวนมาก เพราะหากนางย้ายไปที่เมืองหลวงแล้ว ด้วยระยะทางที่ไกลเช่นนี้ คงลำบากมากที่จะส่งเครื่องปรุงรสต่าง ๆ มาให้น้องสาวนาง หนิงชิงกะว่าจะใส่เอาไว้ให้น้องสาวทำอาหารไปได้สักหลายปี เมื่อใกล้จะหมดนางค่อยส่งคนนำไปส่งให้น้องสาวอีกครั้งหนึ่ง เพราะหนิงชิงรู้ดีว่าหากนางย้ายไปที่เมืองหลวงแล้วนางคงต้องยุ่งมากแน่ เรื่องนี้หนิงชิงจะต้องจดเอาไว้กันลืมด้วยเช่นกัน ส่วนเครื่องปรุงท่านป้านางก็จะฝากพี่ชายเสี่ยวเจียงเอาไว้ให้เขาจำนวนมากเช่นกัน ไม่อย่างนั้นร้านอาหารเช้าอาจมีปัญหาเรื่องรสชาติได้
รุ่งเช้าหลังอาหาร หนิงชิงออกไปซื้อของกับต้าเจียงเป็นจำนวนมากตามธรรมเนียม ไหนจะผ้าพับ เครื่องประดับ เงินตำลึงที่ต้องแลกอีกจำนวนไม่น้อย กว่าที่หนิงชิงจะซื้อสิ่งของทั้งหมดเสร็จก็เป็นเวลาเกือบจะเย็นแล้ว นี่เป็นเพราะนางต้องทยอยขนของกลับมาเก็บเอาไว้ที่ร้านเสียก่อนตอนเที่ยงพร้อมกับทานข้าว แล้วออกไปต่อตอนบ่าย จึงทำให้ใช้เวลานานเช่นนี้ ส่วนกล่องสำหรับใส่สินเดิมนางก็ให้พวกพี่ชายเจิ้งทั้งสามคนช่วยทำออกมาประมาณสิบกล่องเผื่อเอาไว้ โชคดีที่นางเผื่อเอาไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นนางคงไม่มีกล่องใส่ของมากมายพวกนี้เป็นแน่ ก็ต้าเจียงแทบจะให้นางเหมาร้านผ้า ร้านเครื่องประดับเกือบทั้งหมด เขาบอกว่าสินสอดเจ้าบ่าวกับสินเดิมเจ้าสาวจะต้องมีพอ ๆ กัน ไม่เช่นนั้นจะขายหน้าได้ ต้าเจียงคิดว่าสินสอดของแม่ทัพใหญ่ต้องไม่น้อยเป็นแน่ เขาจึงต้องให้คุณหนูใหญ่ซื้อสิ่งของมากมายเช่นนี้ เดือนนี้ต้าเจียงออกไปตรวจงานก่อนเวลาปกติเพราะต้องเตรียมงานแต่งงานให้หนิงชิง เขานำเงินรายได้จากร้านค้าท
หนิงกวานกับเสี่ยวชุ่ยได้แต่ตกใจที่ฮ่องเต้ทรงเมตตาเจียงเฉิงมากขนาดนี้ พวกเขาไม่รู้หรอกว่าเจียงเฉิงนั้นเป็นหลานชายคนโปรดของทั้งฮ่องเต้และไทเฮาจึงได้แต่ตกอกตกใจกันใหญ่ เจียงเฉิงเห็นว่าว่าที่พ่อตากับแม่ยายของเขาตกใจมาก เขาจึงอธิบายว่าเขาเป็นใคร ยิ่งทำให้หนิงกวานกับเสี่ยวชุ่ยหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก พวกเขากลัวว่าลูกสาวจะทำอะไรที่ผิดพลาดจนถูกฮ่องเต้ลงโทษน่ะสิ แถมนางยังไม่ได้เหมือนกับสตรีทั่วไปที่ฝึกฝนมารยาทอันใด แต่กลับทำแต่งานงก ๆ หนิงชิงเห็นพ่อกับแม่เป็นเช่นนี้ก็ได้แต่ถลึงตาใส่เจียงเฉิงที่เรื่องสำคัญขนาดนี้กลับเพิ่งมาบอกพวกนาง เจียงเฉิงเห็นว่าที่ภรรยาโกรธก็ได้แต่ยิ้มแหย เขาลืมบอกไปจริง ๆ นี่นา ใครใช้ให้นางยุ่งอยู่แต่กับเรื่องงานกันเล่า แถมนางยังไม่เหมือนสตรีทั่วไปที่ทำตัวอ่อนหวานอีกด้วย เจียงเฉิงได้แต่ขอโทษที่เพิ่งจะบอกเรื่องสำคัญเอาป่านนี้ &
เมื่อครบสามวันแล้ว ขบวนของเจียงเฉิงตั้งขบวนที่หน้าจวน ชาวบ้านที่เห็นร้านขายอาหารเช้าปิดร้านมาสองวันก็รู้ว่าจะมีงานมงคล พวกเขาเพิ่งเห็นขบวนของแม่ทัพใหญ่ที่เคยอยู่ในเมืองกังยาวเหยียดนับสิบลี้ก็ได้แต่อิจฉาหนิงชิงที่ได้แต่งงานกับแม่ทัพใหญ่ พวกเขารู้ดีว่างานนี้เป็นงานสำคัญจึงไม่มีใครกล้าก่อความวุ่นวาย กว่าที่ขบวนสินสอดจะมาถึงร้านขายอาหารเช้าก็เกือบจะครึ่งเค่อเข้าไปแล้ว ใครใช้ให้สินสอดมีจำนวนมากเช่นนี้เล่า บ่าวไพร่และนางกำนัลทั้งหลายยังร่วมโปรยขนมให้คนที่มามุงดูขบวนเจ้าบ่าวไปตามทางมาตลอดตามธรรมเนียมเช่นกัน ชาวบ้านที่เพิ่งเคยเห็นการแต่งงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ก็นับว่าเป็นบุญตานัก พวกเขาอยากเห็นพิธีการต่าง ๆ จึงได้พากันตามมาดูกันเป็นจำนวนมาก วันนี้เสี่ยวเจียงจะทำหน้าที่พี่ชายหามหนิงชิงไปยังเกี้ยวของแม่ทัพใหญ่ด้วยตัวเอง เขายอมที่จะเสียสละเวลางานในวันนี้ทั้งวันเพื่อน้องสาวสุดที่รักของเขาคนนี้ &
กว่าที่งานเลี้ยงจะจบลงก็เย็นย่ำแล้ว เจียงเฉิงส่งแขกกลับบ้านไปอย่างยินดี อีกเดี๋ยวเขาก็จะได้เข้าหอกับภรรยารักของเขาเสียทีหลังจากรอนางมาหลายปีดีดัก คนหล่ออย่างเขาแน่นอนว่าภรรยาต้องหน้าตาสระสวยเหมาะสมกับเขาแน่นอน หลังจากส่งแขกคนสุดท้ายกลับไปแล้ว เจียงเฉิงก็เดินไปที่ห้องหออย่างอารมณ์ดี วันนี้ถึงแม้เขาจะถูกมอมเหล้า แต่ด้วยคอทองแดงของเขาก็ไม่ทำให้เขาเมาได้ เมื่อไปถึงหน้าห้องแล้วเขาสั่งให้นางกำนัลกลับไปพักผ่อนเพราะเขาจะเข้าหอกับภรรยาแล้ว เขาไม่อยากให้ใครมาเฝ้าเขาเข้าหอหรอกนะ เขากลัวว่าภรรยาตัวน้อยจะอับอาย เจียงเฉิงเปิดประตูเข้าไปเบา ๆ เขากลัวว่าภรรยาจะตกใจ ส่วนหนิงชิงที่นอนหลับอุตุก็ไม่รับรู้เลยว่าเสือตัวใหญ่กำลังจะเข้ามากินกระต่ายตัวน้อยแล้ว เจียงเฉิงปิดประตูแล้วมองหาภรรยา เขากลับเห็นนางนอนอยู่อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เจียงเฉิงจึงเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างกลิ่นเหล้าออกก่อนจะมาปลุกหนิงชิงให
ชีวิตในจวนแม่ทัพของหนิงชิงช่างน่าเบื่อหน่าย นางต้องนั่ง ๆ นอน ๆ ให้เรี่ยวแรงกลับมาแทบทุกวัน ใครใช้ให้เจียงเฉิงเอาแต่รักนางเล่า นางล่ะอยากประท้วงเขานักแต่ก็จนใจที่นางเป็นภรรยาของเขา หากนางไม่ยอมแล้วเขาไปหาสาวอื่นนางคงเสียใจมากกว่านี้ หนิงชิงจึงได้แต่ยอมเขาไป จนกระทั่งวันพรุ่งนี้ที่ครบกำหนดสามวันที่เจ้าสาวต้องไปเยี่ยมบ้านเดิม หนิงชิงเลยบอกให้เขาเพลา ๆ เรื่องบนเตียงบ้าง เพราะนางต้องไปหาครอบครัวในวันพรุ่งนี้แล้ว เจียงเฉิงเพิ่งนึกได้ว่าเขาจะต้องเอาของขวัญกับไปเยี่ยมบ้านเดิมภรรยาในวันที่สามของการแต่งงาน คืนนั้นหนิงชิงจึงได้พักผ่อนอย่างเพียงพอเสียที รุ่งเช้าวันต่อมา กงกงที่เตรียมของขวัญเอาไว้ล่วงหน้าแล้วไปรายงานเจียงเฉิงว่าของขวัญและรถม้าพร้อมแล้ว เจียงเฉิงได้ยินเสียงกงกงก็รู้ว่าเขาจัดการงานรอเขากับภรรยาแล้ว เขาตอบกลับกงกงว่ารู้แล้ว จากนั้นจึงปลุกหนิงชิงที่ยังนอนอุตุอยู่ไปอาบน้ำแต่งตัวจะไ
หลังจากทานอาหารเที่ยงกันแล้ว หนิงชิงก็ให้เจิ้งเปาไปเรียกต้าเจียงมาหานางก่อนเพื่อคุยเรื่องการย้ายร้าน หนิงชิงยังบอกเจิ้งจิงไปเรียกน้องสาวนางกับสามีมาคุยเรื่องคนงานที่นางให้ไปซื้อแต่พวกเขายังไม่ว่างไปซื้อเสียที นางอยากให้พวกเขาเตรียมคนให้พร้อมก่อนนางจากไป นางจะได้วางใจว่าน้องสาวจะไม่ลำบากหากไม่มีนางกับพ่อแม่อยู่ช่วยงาน เจียงเฉิงเห็นว่าภรรยายุ่งอีกแล้ว เขาเองอยากรู้ว่านางจะจัดการเรื่องราวอย่างไรจึงนั่งอยู่เป็นเพื่อนนางกับท่านพ่อตา แม่ยายเช่นกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่หากจะย้ายไปเมืองหลวงเขาก็มีจวนว่างให้เช่าอยู่ไม่น้อย เพียงแค่เลือกจวนว่างสักจวนให้พ่อตากับแม่ยายอยู่นั้นเขาไม่ลำบากสักนิด ในเมื่อเขาทั้งหล่อทั้งรวยนี่นา เมื่อต้าเจียงกับหนิงกุ้ยและสามีมาถึงแล้ว หนิงชิงก็ไม่รอช้าที่จะบอกกำหนดการการย้ายร้านให้พวกเขารู้ว่าในอีกเจ็ดวันถัดไป ทุกคนจะต้องย้ายไปเมืองหลวงแล้ว เนื่องจากระยะทางไกล หนิงชิงจำเป็นต้องรีบเดินทางก่อน
ต้าเจียงรับคำสั่งจากหนิงชิงแล้วก็จากไปคุยกับทุกคนที่ร้านขายของแปลกก่อนจะไปเอาอาหารตามคำสั่งคุณหนูใหญ่ในอีกครึ่งชั่วยาม คนอื่นๆ พอฟังว่าอีกเจ็ดวันต้องย้ายร้านแล้วก็ได้แต่ตกใจว่าเร็วขนาดนั้นเลยหรือ แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีข้อโต้แย้งอันใดสำหรับเรื่องนี้ ในเมื่อพวกเขารู้มาสักพักใหญ่แล้วว่าคุณหนูจะพาย้ายไปที่เมืองหลวง หลังทานอาหารกันเสร็จแล้วหนิงชิงกับเจียงเฉิงก็เข้าไปนอนในห้องเก่าของหนิงชิง พวกเขาไม่กล้าทำเสียงดังจึงได้แต่นอนเฉย ๆ กันไปจนกระทั่งเช้า เจียงเฉิงเองก็รู้กาละเทศะ เขาเพียงนอนกอดภรรยาตัวน้อยเอาไว้ในอ้อมแขนเท่านั้น หนิงชิงเองก็เริ่มจะชินที่จะนอนในอ้อมกอดอุ่นของสามีตัวโตคนนี้ของนางแล้วเช่นเดียวกัน รุ่งเช้าวันต่อมาหนิงชิงก็ไปช่วยที่ครัว นางเห็นคนงานใหม่ที่หนิงกุ้ยซื้อมาก็ได้แต่สอบถามน้องสาวว่าได้คนที่รู้เรื่องสมุนไพรมาบ้างหรือไม่ โชคดีที่หนิงกุ้ยได้พบกับทาสใหม่ที่เพิ่งเข้ามา เขาเคยทำ
สามวันต่อมา ราชโองการลงโทษจวนอดีตเสนาบดีกรมพิธีการสั่งการให้คนที่กระทำความผิดถูกประหารรวมทั้งบ่าวไพร่ที่ร่วมมือด้วยก็เช่นเดียวกัน ส่วนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้เนรเทศไปชายแดนเหนือและห้ามเข้ารับราชการอีกตลอดชีวิต เสนาบดีกรมอาญาน้อมรับราชโองการและแจ้งวันประหารในอีกสามวันถัดไป เพราะพวกเขาต้องคัดคนที่จะถูกเนรเทศออกไปก่อนจึงต้องใช้เวลาสักหน่อยก่อนที่จะแยกออกได้ เจียงเฉิงที่ทำหน้าที่ของตนเองเสร็จแล้วก็กลับไปทำงานที่ค่ายทหารเช่นเคย หนิงชิงยังเคยบอกเจียงเฉิงว่าดีที่ตอนนี้ไม่มีศึกสงคราม ทำให้แคว้นพัฒนาไปได้มาก อีกทั้งนางยังไม่ต้องแยกจากสามีด้วยสี่เดือนต่อมา ฮ่องเต้ที่คิดถึงเหลนชายตัวอ้วนก็มีรับสั่งให้คนในจวนแม่ทัพเข้าเฝ้าเป็นกรณีพิเศษ วันนี้เจียงเฉิงพอได้รับข่าวก็รีบมาจากค่ายทหารแล้วพาทุกคนในครอบครัวเข้าไปในวัง แ
ไม่ถึงสามวัน คนที่เจียงเฉิงส่งไปสืบเรื่องราวก็รู้ว่าเป็นฮูหยินกับบุตรสาวของเสนาบดีกรมพิธีการที่ทำเรื่องเช่นนี้จริง ๆ เจียงเฉิงพอรู้ว่าเกี่ยวข้องกับเสนาบดีกรมพิธีการก็ยิ่งแค้นนัก เขาหรือก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวที่เสนาบดีกรมพิธีการกระทำมาก่อน ตอนนี้เขากลับกล้ามาแตะเกล็ดย้อนของเขา คนพวกนี้ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขารักภรรยามากจึงได้ทำเช่นนี้ เจียงเฉิงนั่งคิดอยู่พักใหญ่ จากนั้นเขาจึงให้คนของเขาไปหาหลักฐานการทุจริตหรือการทำชั่วต่าง ๆ ที่คนในจวนเสนาบดีเคยทำมาให้หมด ในเมื่อเป็นเสนาบดีดีดีไม่ชอบ เจียงเฉิงก็จะให้เขากลายเป็นนักโทษไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ถือว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู จะได้ไม่มีใครกล้ามาทำเช่นนี้อีก หลังรับคำสั่งแล้วคนของเจียงเฉิงมากกว่ายี่สิบคนก็แยกกันออกไปตามหาเบาะแสเรื่องของเสนาบดีกรมพิธีการทันที พวกเขารู้ดีว่านายน้อยใจร้อนมากเพียงใด หากพวกเขามัวแต่ชักช้า นายน้อยคงสั่งลงโท
คืนนี้หนิงชิงจึงได้นอนหลับอย่างสบายโดยที่สามีไม่ก่อกวนนางจริง ๆ เจียงเฉิงที่ได้แต่กอดภรรยานอน เขาอดหมั่นเขี้ยวคนตัวเล็กไม่ได้ จึงแอบหอมแก้มนางฟอดใหญ่ก่อนจะหลับไปพร้อมกับความอ่อนเพลียเช่นกัน จวนแม่ทัพเลี้ยงดูเด็ก ๆ ได้เกือบห้าเดือนแล้ว ช่วงนี้กลับมีข่าวลือว่าแม่ทัพใหญ่ไปติดพันลูกสาวเสนาบดีกรมพิธีการเสียได้ หนิงชิงไม่รู้ว่าข่าวนี้ใครเป็นคนปล่อย แต่สามีนางน่าจะรู้เรื่องนี้แล้วกระมัง ขนาดนางที่อยู่แต่ในจวนยังรู้เลย เขาที่ไปทำงานทุกวันจะไม่รู้ได้อย่างไร อีกทั้งข่าวลือยังบอกอีกว่าฮ่องเต้สนับสนุนให้แม่ทัพใหญ่มีฮูหยินรองเพื่อจะได้มีทายาทสืบทอดเพิ่มขึ้นอีก ทั้งสัปดาห์มีแต่ข่าวลือเรื่องนี้ ด้านเจียงเฉิงได้แต่โกรธแค้นว่าใครกันเป็นคนปล่อยข่าวบ้า ๆ นี่ออกมา เขาที่ทำงานที่ค่ายทหารงก ๆ จะเอาเวลาที่ไหนไปยุ่งกับหญิงอื่น อีกทั้งเขายังรักภรรยาคนเดียวด้วย จะมีหญิงใดที่เขาชายตามองในเมืองหลวงบ้างเ
สัปดาห์ต่อมาหลังจากเจียงเฉิงเริ่มจับทางเจ้าอ้วนน้อยทั้งสองได้แล้วว่าจะนอนตอนไหน แผนการเผด็จศึกภรรยาสุดที่รักก็เริ่มขึ้นทันที คืนนั้นเจียงเฉิงอาบน้ำให้ภรรยาพร้อมกับใส่ชุดให้นางแล้วอุ้มไปที่เตียงทันที หนิงชิงเองก็งงกับสามีตัวดีว่าจะทำอันใด ปกตินางก็เดินไปนอนเองอยู่แล้วหลังเขาใส่เสื้อผ้าให้ แต่วันนี้สามีนางมาแปลก เมื่อถึงเตียงแล้วเจียงเฉิงก็เริ่มปฏิบัติการเล้าโลมภรรยาตัวน้อยทันที หนิงชิงที่กว่าจะตั้งสติได้ก็ตอนที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยหมดแล้ว นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดสามีตัวดีจึงได้ทำตัวแปลก ๆ ที่แท้เขาก็กำลังคิดเรื่องบนเตียงอยู่นั่นเอง หนิงชิงได้แต่กลัวว่าลูกจะตื่นจึงได้บอกเขาทั้งที่นางเองก็พร้อมให้กับสามีที่กำลังเล้าโลมนางอยู่ไม่น้อย เจียงเฉิงกระซิบบอกภรรยาที่รักของเขาว่าลูก ๆ จะยังไม่ตื่นจนกว่าจะอีกหนึ่งชั่วยาม เขาที่จับตาดูลูกมาตลอดหนึ่งสัปดาห์มั่นใจมาก หนิงชิงที่ได้ยินเช่นนั้นได้แต่บ่นสามีในใจว่าเขาถึงกับดูกิจวัตรประจำวันของเจ้าอ้วนน้อยทั้งสอ
กว่างานเลี้ยงจะเลิกก็เกือบเย็นแล้ว ครอบครัวเจียงเฉิงกับหนิงชิงพากันส่งแขกร่วมกันที่หน้าจวนจนกระทั่งแขกกลับกันหมดแล้ว หนิงกวานก่อนจะกลับจวนเช่นกันก็มอบของเล่นเอาไว้ให้หลาน ๆ เสียหลายอย่าง พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงได้แต่ขอบคุณท่านตาของหลานพวกเขาที่สละเวลาทำของเล่นออกมาเสียมากมาย หนิงกวานได้แต่หัวเราะและบอกว่าพวกเขาเป็นหลานชายตัวอ้วนที่พวกเขามี หากมีสิ่งใดดี ๆ เขาก็อยากมอบให้หลาน ๆ มากกว่าที่จะให้กับคนอื่น หลังจากร่ำลากันได้สักพักพวกหนิงกวานก็ขึ้นรถม้าจากไป ตอนนี้จวนแม่ทัพกลับมาเงียบสงบดังเดิมแล้ว บ่าวไพร่เองต่างก็ช่วยกันเก็บข้าวของเพื่อให้บริเวณงานเลี้ยงสะอาดสะอ้านเหมือนก่อนที่จะจัดงาน พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงที่เหนื่อยมาทั้งวันต่างชวนกันไปพักผ่อน วันนี้พวกเขาเสียเรี่ยวแรงไปมากจริง ๆ เอาไว้พรุ่งนี้พวกเขาค่อยไปเล่นกับหลาน ๆ ก็ยังไม่สาย อย่างไรหลานของพวกเขาก็อยู่ด้วยกันที่จวนอยู่แล้วด้วย ฟากฝ
สิ่งของสำหรับเลือกในครั้งนี้มีทั้งอุปกรณ์การช่างที่หนิงชิงเป็นคนวาง ตำราที่ฮ่องเต้ให้ขันทีวางลงไป ก้อนเงินที่ฮองเฮาประทาน ส่วนของไทเฮานั้นเป็นกุญแจอายุยืนที่นางสั่งร้านเครื่องประดับทำขึ้นมา สิ่งของอื่น ๆ ก็ยังมีของเล่นที่หนิงกวานทำมา มีดไม้แกะสลักก็ยังมี ไหนจะดาบของเล่นที่เจียงเฉิงเป็นคนวางอีกเล่า ยังไม่รวมสิ่งของอื่น ๆ อีกนับสิบอย่างที่มีคนมาวางเอาไว้ให้คุณชายน้อยทั้งสองเลือกอีก เมื่อถึงเวลาเลือกของแล้ว หนิงชิงกับเจียงเฉิงก็วางลูกลงบนกองสิ่งของแล้วให้พวกเขาเลือกมาสักหนึ่งอย่าง ด้านโหย่วเฉียงและคงหมิงได้แต่มองกันตาปริบ ๆ พวกเขารู้เพียงว่าอยากได้สิ่งของมาเล่นเท่านั้น จึงทำให้ทั้งคู่คลานต้วมเตี้ยมวน ๆ หาดูว่าจะเอาสิ่งใดมาเล่นดี โหย่วเฉียงที่เห็นดาบของเล่นก็ชอบใจ เขาเลือกดาบและตำราโดยนำดาบมาฟันตำราเล่นเสียอย่างนั้น การกระทำของเขาทำเอาแขกทั้งหลายมีแต่เสียงหัวเราะเอ็นดูเด็กน้อยกันทั้งนั้น ส่วนคงหมิงนั้นเลือกก้อนเงินและอุปกรณ์แปลก ๆ ของหนิงชิง &nb
เมื่อหนิงชิงอยู่ไฟครบเดือนแล้ว เจียงเฉิงก็ออกอาการเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ ทำเอาหนิงชิงได้แต่ระอา หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนจะครบการอยู่ไฟ เป็นเจียงเฉิงที่พาลูก ๆ มากินนมกับนาง เขาได้แต่ถามว่านมอร่อยไหมอยู่นั่นแหละ แถมยังคิดจะชิมนมจากอกนางเสียอีก จนนางได้แต่บ่นว่าเขาว่าเป็นพ่อประสาอะไรจะมาแย่งลูกกินนม เจียงเฉิงจึงได้แต่ต้องสงบเสงี่ยมเพราะหนิงชิงขู่ว่าจะไม่ให้เขาพาลูกเข้ามาอีกหากยังเอาแต่พูดว่าจะกินนม วันต่อมา หนิงชิงออกไปทานอาหารร่วมกับพ่อแม่สามีดังเช่นปกติ ตอนนี้นางกินทุกอย่างได้เหมือนเดิมแล้ว หนิงชิงดีใจมาก นางเบื่อที่จะต้องกินแต่อาหารรสเปรี้ยวเสียเหลือเกิน ในเมื่อวันนี้เป็นวันแรกที่นางมาร่วมโต๊ะกับทุกคน หนิงชิงก็กินข้าวพร้อมรอยยิ้ม“หนิงชิงจะต้องเข้าร้านอีกหรือเปล่าลูก แม่ว่ารอให้เด็ก ๆ โตกันเสียก่อนดีหรือไม่ เจ้าค่อยเข้าร้าน”“ได้เจ้าค่ะท่านแม่ ข้าเองก็อยากเลี้ยงเขาด้วยตนเองอยู่เหมือนกัน หา
พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงพอได้ยินเช่นนี้ก็พากันดีใจที่หนิงชิงไม่กลัวว่าเต้านมจะบิดเบี้ยวหรือเสียรูปหากให้นมลูกเอง นางกลับยินดีที่จะให้นมเด็ก ๆ จากใจจริง ทำให้พวกเขาที่เป็นปู่กับย่ามือใหม่ได้แต่ยิ้มให้ลูกสะใภ้อย่างขอบคุณที่นางมอบหลานชายอ้วน ๆ ให้พวกเขาถึงสองคน ส่วนเจียงเฉิงที่รู้ว่าเขาต้องแยกห้องนอนกับภรรยาก็งอแงและยินดีจะมาอยู่ไฟเป็นเพื่อนภรรยา หนิงชิงจึงได้แต่เอ็ดสามีตัวดีว่านั่นจะได้อย่างไร นางก็แค่อยู่ไฟเดือนเดียว เขาก็นอนอยู่ห้องข้าง ๆ ไม่เห็นจะมีปัญหาอันใด หากเขาคิดถึงนางก็ไปเล่นกับลูกแทนนางที่ต้องอยู่ไฟเสียก็สิ้นเรื่อง เจียงเฉิงฟังภรรยารักเช่นนี้ก็ได้แต่คอตก เขาอดกอดภรรยาถึงหนึ่งเดือนเลยนะไม่ใช่หนึ่งวัน เจียงเฉิงโอดครวญในใจอย่างไม่ยินยอม แต่จะให้เขาทำอย่างไรได้ หากเขาแอบเข้าห้องภรรยายามค่ำคืนแล้วถูกจับได้ล่ะก็ เขาต้องถูกภรรยาโกรธเป็นแน่ เจียงเฉิงคิดแล้วไม่คุ้มกับการถูกภรรยารักโกรธเคือง
หลังจากเสียงร้องครั้งแรกดังออกไป เสียงร้องอีกครั้งก็ตามมาติด ๆ หนิงชิงอดทนไม่ไหวจริง ๆ กว่าที่จะคลอดเด็กอ้วนท้วนทั้งสองคนออกมาได้ นางรู้สึกโล่งท้องแปลก ๆ อาจเป็นเพราะเด็ก ๆ ทั้งสองอยู่ในท้องนางมานานจนนางเคยชินกระมัง หมอตำแยกับหมอหลวงต่างรีบให้นางกำนัลนำคุณชายน้อยทั้งสองไปทำความสะอาดเพื่อนำออกไปให้คนที่รออยู่ข้างนอกดู ส่วนนางกำนัลอีกส่วนหนึ่งก็ช่วยกันทำความสะอาดภายในห้อง หมอตำแยทั้งสองช่วยกันทำแผลให้กับหนิงชิงอย่างเบามือ หนิงชิงที่หมดสิ้นเรี่ยวแรงได้แต่หลับไปอย่างไม่รู้ตัว หมอหลวงเองก็เข้าไปตรวจว่านางเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อพบว่านางเพียงแต่อ่อนเพลียเท่านั้นเขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หมอตำแยทั้งสองยังคุยกันว่านางคลอดง่ายมากจริง ๆ แสดงว่านางดูแลร่างกายได้เป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นการคลอดลูกแฝดแบบนี้ต้องใช้เวลานานกว่าเด็กจะออกมาได้ หมอหลวงได้ยินเข้าก็ได้แต่นึกถึงสารพัดยาบำรุงครรภ์ที่ฮ่องเต้ทรง