อวิ๋นมูหลันก้าวมาอยู่ที่สวนหิน ใจนั้นเต้นแรงไม่หยุด ก่อนหน้าไม่ได้คิดทำตัวร้ายกาจต่อพี่สาว ทว่าธาตุแท้อีกฝ่ายแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าเป็นภัยใหญ่หลวงต่อชีวิตนาง หากนางยังอ่อนแอคิดเมตตาศัตรูอยู่ร่ำไป อวิ๋นมู่หลันคงไม่อาจรับมือผู้ประสงค์ร้ายต่อตนได้ การเป็นสตรีข้างกายกวนเฉินหลางมิใช่เรื่องง่าย หากอยากมีชีวิตรอด ย่อมต้องมีจิตใจเด็ดเดี่ยว ถึงขั้นอำมหิตในบางครั้ง เมื่อใคร่ครวญให้ดีอวิ๋นมู่หลันจึงแจ้งใจว่า แม้อีกฝ่ายมีสายเลือดเดียวกัน ทว่าอวิ๋นหยวนม่านไม่เคยเห็นน้องสาวคนนี้อยู่ในสายตา น้องหกผู้เร่ร่อนมาอาศัยจวนเจ้าเมืองเช่นนาง เป็นเพียงเบี้ยล่างหรือสิ่งของที่ อวิ๋นหยวนม่านไม่เคยต้องการ และคิดหาทางทำลายทิ้งตลอดมา นิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นสั่งสมความริษยาเอาไว้ในอกย่อมมาจากอนุฉุยสตรีที่มาจากสกุลใหญ่ “เจ้าอย่าหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าข้ามู่หลัน เจ้าเป็นได้แค่ลูกของนักแสดงละครเร่ข้างถนน มีเลือดของบิดาอยู่ในตัวหรือเปล่ายังไม่แน่ชัด อย่าคิดเทียบชั้นข้าเลย” “ตะ… แต่ ข้าเป็นลูกท่านพ่อ!” “ฮึ เจ้าเอาสิ่งใดมาอ้าง แค่จดหมายและตราประ
เสี่ยวเฮยเกี้ยวรัก เย็นวันนี้โจวจื่อเว่ยไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เขาเป็นหนุ่มทั้งแท่งย่อมมีอารมณ์พิศวาสต่อสตรีอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าภาพที่เห็นอย่างไม่ได้ตั้งใจในห้องอาบน้ำ แทนที่จะชวนให้รู้สึกหวามไหวและขาที่สามพองขยาย เขากลับต้องรีบเบือนหน้าหนี เตรียมหุนหันหลบออกไปเพื่อไม่ให้ตนตกอยู่ในสถานการณ์ชวนอึดอัด เรื่องที่เกิดขึ้นนี้สาเหตุมาจากสตรีนางนั้นกำลังแช่ร่างอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเขาอย่างสำราญใจ “อุ๊ย นะ… นั่น ทะ… ท่านกลับมาแล้วหรือ?” “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้เช่นไร!” “โอ้ อ๊ะ ใต้เท้าโจว... ขะ… ข้า ไม่ได้ตั้งใจ” “แต่เจ้าเปลื้องอาภรณ์ อยากให้ข้าต้องเป็นบุรุษไร้ยางอายหรืออย่างไร!” “มิได้ ข้าเพียงแต่เหนียวตัว ที่เรือนของข้าบังเอิญเหลือเกินที่อ่างไม้แตกและยังประตูพัง ข้ามิอาจเปิดเผยเนื้อตัวให้ผู้อื่นเห็น ข้าถามสาวใช้แล้ว นางบอกว่าท่านไปทำงานนอกเมืองอีกสองวันถึงจะกลับ ดังนั้นข้าจึงมาที่นี่” ถึงนางยกเหตุผลมาอ้าง แต่สมควรแล้วหรือที่ต้องมาใช้ถังไม้ร่วม กับเขา ซึ่งหากเขาเหี้ยมโหดและใจคออำมหิตสักหน่อย อวิ
ใบหน้าอวิ๋นมู่หลันบึ้งตึง นางกำลังสับสนมิน้อย ตนกำลังขุ่นใจต่อพฤติกรรมเสี่ยวเฮยหรือว่าเป็นกวนเฉินหลางกันแน่! “แต่มันจะเป็นได้เช่นไร เสี่ยวเฮยยังไม่ถึงปีด้วยซ้ำ จะข่มหมาตัวเมียเป็นแล้วหรือ” อวิ๋นมู่หลันเลี้ยงเสี่ยวเฮยมาพักใหญ่ ดูอย่างไรมันก็ซุกซนเฉกเช่นเด็กเล็ก ๆ แต่นั่นแหละ นางอยู่กับเสี่ยวเฮยทุกวัน อาจไม่ทันสังเกตว่ามันตัวโตเกินวัย ตอนนี้หากเทียบอายุคนคงเท่ากับเด็กผู้ชายวัยสิบสี่สิบห้าปี “แม่นางหลัน เสี่ยวเฮยของท่านเป็นหนุ่มแล้วจริง ๆ ตอนนี้น้ำหนักเท่ากับสตรีผู้หนึ่ง ความสูงมากกว่าสามฉื่อ* (1 ฉื่อ* ประมาณ 22.7-23.1 เซนติเมตร)ภายหน้าหากโตเต็มวัย เกรงว่าคงมีตัวเท่า ๆ กับลูกม้าโลหิต และข้าอาจสู้แรงไม่ไหวด้วยซ้ำ” หลิวตงอธิบายให้นางฟัง หน้าที่ตอนนี้ของเขาคือเลี้ยงเสี่ยวเฮยให้ดี พร้อมฝึกให้เป็นสุนัขที่ฉลาดรอบรู้ในการป้องกันภัย ซึ่งเป็นคำสั่งกวนเฉินหลาง อวิ๋นมู่หลันคิดภาพตาม อย่างไรนางแค่ต้องการเลี้ยงแค่สุนัข มิใช่อยากให้เสี่ยวเฮยเป็นนักล่าหรือใช้เพื่อการศึก นางรู้ว่ากวนเฉินหลางมีหน่วยพิเศษฝึกสุนัขไว้เป็นหน่วยลอบโจมตีศัตรู ซึ่งสุนัขเหล่าน
ลูกหมา ลูกข้า และลูกของเรา หญิงสาวอารมณ์ดีจนนางยังประหลาดใจ ถึงพรุ่งนี้กวนเฉินหลางจะแต่งอนุเข้าเรือนนอก และอีกฝ่ายยังเป็นพี่สาวนาง แต่พอรับรู้เรื่องเสี่ยวเฮยอวิ๋นมู่หลันกลับเลิกสนใจการขึ้นเกี้ยวของอวิ๋นหยวนม่านไปเสียนี่ ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลทำให้คนที่กำลังจะได้เป็นเจ้าบ่าวเครียดจัดจนนั่งไม่ติด กวนเฉินหลางร้อนใจ ยิ่งเห็นนางยิ้มและมองเขาราวกับไม่เห็นว่ามีตัวตน หัวใจบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ก็เหมือนถูกเหล็กร้อน ๆ นาบเข้าใส่จนทุกข์ทรมาน “อาหลันไม่สนใจข้าแล้วหรืออย่างไร” กวนเฉินหลางพยายามระงับความฉุนเฉียว เขาเก็บอารมณ์ก็แล้ว แต่ใบหน้ากลับถมึงทึง ดวงตาข้างที่มีพิษโลหิตทมิฬคล้ายจะกำเริบขึ้น ผมสีขาวส่งไอเย็นจัดแผ่ขยาย ยามนี้คำว่าปีศาจกวนยังคงน้อยไปหากใช้ขนานนามเขา ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าไปยังเรือนโจวจื่อเว่ย พอกุนซือหนุ่มเห็นเขาก็พยายามเรียกหาพ่อบ้านและคนของตนมาอยู่ใกล้ ๆ ที่เป็นเช่นนั้นด้วยกลัวจะถูกกวนเฉินหลางหาเรื่องระบายอารมณ์ใส่นั่นเอง “เหตุใดนางถึงเย็นชาต่อข้า!” กวนเฉินหลางถามเสียงเข้ม ก่อนจ้องไปยังคนที่อยู่ในห้องนั้น แสดงออกว่าต้องการคาดคั้นให้ผ
ส่งตัวไปบ้านบรรพบุรุษ กวนเฉินหลางเอ่ยถามแล้วแต่นางแสร้งถลึงตาโต ๆ ใส่เขา ขำอยู่หรอก และหญิงสาวรู้สึกซ่านใจมิน้อย ด้วยกวนเฉินหลางเป็นบุรุษที่ทำให้ว้าวุ่นใจได้ตลอดเวลา “สำหรับแม่ทัพกวน คงมีสตรีหลายคนที่อยากทำหน้าที่นั้นมิขาด” อวิ๋นมู่หลันไม่ได้อยากเป็นสตรีงี่เง่าคอยหาเรื่องทะเลาะคนรัก แต่จะมีผู้หญิงสักกี่คนเมื่อรู้ว่าชายที่ตนมอบใจให้กำลังจะแต่งงาน นอกเหนือจากนั้นดวงใจเขายังเคยมีหญิงสาวที่แสนเพียบพร้อม และเขารักปักใจนางมาเนิ่นนาน สตรีที่เป็นถึงพระชายาเอกรัชทายาท ซึ่งยามนี้ฝ่ายนั้นได้ทะลายกรงทองแล้วหลบหนีออกจากเมืองหลวงเพื่อมาหากวนเฉินหลาง! “เหลวไหล ข้ามีแต่อาหลันในใจเท่านั้น” คำพูดเขาสร้างความมั่นใจแก่นาง ว่ากวนเฉินหลางต้องการให้นางเป็นสตรีของเขาจริง ๆ กระนั้นนางยังอดระแวงและสงสัยใคร่รู้ไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องเจียงเฟย ด้วยอวิ๋นมู่หลันพอจะมีหูมีตาคอยรายงานเรื่องต่าง ๆ ซึ่งมั่นใจว่าเจียงเฟยกำลังหาทางเรียกร้องความสนใจจากแม่ทัพหนุ่ม “พรุ่งนี้ท่านต้องแต่งอนุเข้าเรือน” “เจ้าสมควรกล่าวให้ถูก แต่งนางตามคำสั่งรัชทายาทและหยวนม่านจะถูกส่งต
หนึ่งนางเสือ หนึ่งหงส์งาม อวิ๋นมู่หลันไม่ได้ไปส่งพี่รองขึ้นเกี้ยว นางให้สาวใช้มอบของบางสิ่งแก่อีกฝ่าย เป็นเครื่องประดับ ผ้าแพร ขนมมงคล จากนั้นก็มีสิ่งที่ต้องการซื้อหาในตลาด ทั้งยังอยากเปิดหูเปิดตา เนื่องจากช่วงเวลานี้มีเรือสินค้าเข้ามาเทียบท่า “แม่นางหลัน จะขนทั้งหมดนี้กลับเรือนเลยหรือขอรับ” หญิงสาวยิ้มก่อนส่ายหน้าช้า ๆ นางมีเงินและตั๋วแลกเงินที่กวนเฉินหลางมอบไว้ให้ รวมถึงสองวันก่อนโจวจื่อเว่ยบอกว่า ในฐานะน้อง สาวบุญธรรมนางย่อมต้องมีกินมีใช้อย่างสมฐานะ ดังนั้นเขาจึงมอบหลายสิ่งแก่นาง โดยเฉพาะตำลึงเงินและทองแท่ง ซึ่งออกจะมากเกินไป ดังนั้นนางจึงอยากแบ่งปันผู้อื่น หลังจากได้ยินพ่อบ้านเอ่ยถึง เด็ก ๆ ที่ยากไร้ และคนที่อยู่ด้านนอกกำแพงเมืองที่อพยพมาจากอำเภออื่น ช่วงนี้มีปัญหาภัยน้ำป่าไหลเข้าสู่เมืองเนื่องจากเขื่อนแตก และยังถูกซ้ำเติมด้วยโจรป่า “ข้าเพียงแค่อยากแจกจ่ายของให้ชาวบ้าน พวกเขาคงคลายหนาวและอิ่มท้องขึ้นกว่าเดิม” “แม่นางหลันหมายถึงเสื้อผ้าแล้วก็อาหารแห้งพวกนี้” “ถูกต้อง แบ่งให้ทุกคนได้กินและสวมใส่ ข้าช่วยได้ไม่มาก ท
กวนเฉินหลางได้รับขนมแป้งนุ่มที่ผสมฟักทอง ส่วนไส้ข้างในเป็นถั่วเหลืองกับหัวผักกาด รสชาติกลมกล่อมหอมกลิ่นน้ำมันงาทั้งยังทำให้เขานึกถึงความหลัง “ไม่ใช่ของอาหลันหรอกรึ แล้วเหตุใดรสชาติถึงคุ้นลิ้นนัก” ชายหนุ่มถามคนที่นำเข้ามาซึ่งก็คือหลิวอู้ อีกฝ่ายมีสีหน้ายุ่งยากใจ เขารอหลานชายนำของมาจากเรือนใต้เท้าโจว ทว่าวันนี้ไม่ทราบว่าเหตุใดถึงล่าช้า และจู่ ๆ มีพ่อบ้านผู้หนึ่งมาแจ้งเขา พร้อมของฝากพิเศษมอบให้กวนเฉินหลาง คราแรกเขาไม่คิดจะนำมาให้แม่ทัพหนุ่ม กวนเฉินหลางไม่ชอบรับสิ่งของใดจากผู้อื่นตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาห่วงเรื่องนี้จะนำพาความยุ่งยากมาให้ แต่เมื่อรู้ว่าคนที่ส่งมาจากสกุลเตียว ตัวหลิวอู้ก็เคยรับใช้ที่นั่นมาก่อนเขาจึงจำใจนำอาหารมาให้ผู้เป็นนาย “มิได้ขอรับท่านแม่ทัพ เป็นสิ่งที่สกุลเตียวฝากมา” สีหน้ากวนเฉินหลางเครียดขรึม ก่อนถามด้วยเสียงที่เข้มกว่าปกติ “เจ้ามีหน้าที่เป็นธุระให้ผู้อื่นตั้งแต่เมื่อใด” ยังไม่ทันที่กวนเฉินหลางจะได้ดุหลิวอู้เสียงฝีเท้าโจวจื่อเว่ยซึ่งแจ้งให้คนได้ยินรู้ว่าเขากำลังร้อนใจก็ดังขึ้น พร้อมการปร
บุรุษย่อมไม่เขินอายสตรี เรือนหลังเล็กนั้นมีกลิ่นอับอยู่สักหน่อย และร่างสตรีนั่งอยู่ข้างเสามีบาดแผลหลายแห่ง กระนั้นก็เริ่มตกสะเก็ด ทั้งได้รับการรักษาที่ดี ทั้งหมดเกิดขึ้นจากการที่นางหลบหนีบุรุษร้ายกาจหลวนคุน ก่อนที่โชคชะตาจะพลิกผันเมื่อมีคนผู้หนึ่งยื่นมือเข้าช่วยไว้ อวิ๋นหยวนม่านกรีดร้องราวกับคนเสียสติ ด้วยยังไม่หายตื่นตกใจเมื่อมีคนก้าวมายืนตรงหน้า แต่น้ำเสียงอีกฝ่ายทั้งการที่เขาให้คนดูแลนางอย่างดีเป็นสิ่งที่ทำให้นางรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้โหดร้ายจนเกินไป “หึ ๆ ๆ แต่เจ้าไม่ใช่นาง ไม่มีความคล้ายคลึงสักนิด!” เขาเอ่ยแล้วจึงสั่งให้คนดูแลอวิ๋นหยวนม่าน ซึ่งเป็นหมอที่ท่าทางแปลก ๆ ใส่ยาบนแผลนาง และสั่งสตรีอีกสองคนที่มือหนักทั้งหยาบกร้านช่วยเช็ดเนื้อตัว “ช่วยข้าไว้ด้วยเหตุใด” นางเอ่ยถามคนพวกนั้น สายตาจ้องบุรุษที่โดดเด่นท่ามกลางคนแปลกหน้า “เจ้าไม่สมควรตายด้วยน้ำมือผู้อื่น ชีวิตนี้จงอยู่เพื่อทดแทนบุญคุณที่มู่หลัน... ไม่ใช่สิ หลันเอ๋อร์ที่ดีต่อเจ้าเถิด” “รู้จักน้องหกด้วยหรือ และท่าทางเจ้าเหมือนคนต่างแคว้น ท
“กินสิ มีวิธีกินตั้งหลายอย่างที่จะทำให้อาหลัน สนุกไปด้วย” แก้มนวลใสของนางแต้มสีแดงระเรื่อ พอเขาจูบแรง ๆ ที่ซอกคอ อวิ๋นมู่หลันก็เผลอส่งเสียงคราวหวานล้ำ “ท่านพี่... อายไป๋อิงบ้าง” อวิ๋นมู่หลันเอ่ยไม่ทันจบดี เสี่ยวเฮยก็โผล่เข้ามาก่อกวนอีกตัว ชายหนุ่มหัวเราะเสียงทุ้ม เขาชอบใจทั้งยังเป็นสุข ชีวิตเช่นนี้คือสิ่งที่ตามหามานาน ภาพในวัยเด็กย้อนกลับคืนให้เห็น เขาชอบธรรมชาติ เลี้ยงสุนัขหลายตัวและสนุกกับการวาดรูปเขียนกลอน “เสี่ยวเฮยคงอิจฉาข้าที่จะทำให้อาหลันมีทายาท เป็นเจ้าก้อนแป้งขาว ๆ อวบ ๆ แสนน่ารักก่อนมัน” “มิได้ สตรีย่อมตั้งครรภ์แปดถึงเก้าเดือน” “นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม หากเราเริ่มจากวันนี้ ปลายปี ข้าก็จะได้อุ้มลูกชายที่ทั้งกล้าหาญและเฉลียวฉลาด” “หากเป็นเด็กผู้หญิงเล่า ท่านพี่จะพึงใจหรือไม่” “ไม่ว่าชายหรือหญิง ขอให้เกิดจากสตรีที่ชื่ออวิ๋นมู่หลัน นับว่าเป็นสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้แก่สกุลกวน” เมื่อเขาบอกด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขนางยิ่งขวยเขินกว่าเดิม “เอ เมื่อครู่อาหลันบอกว่า กินอ
บุรุษย่อมไม่เขินอายสตรี เรือนหลังเล็กนั้นมีกลิ่นอับอยู่สักหน่อย และร่างสตรีนั่งอยู่ข้างเสามีบาดแผลหลายแห่ง กระนั้นก็เริ่มตกสะเก็ด ทั้งได้รับการรักษาที่ดี ทั้งหมดเกิดขึ้นจากการที่นางหลบหนีบุรุษร้ายกาจหลวนคุน ก่อนที่โชคชะตาจะพลิกผันเมื่อมีคนผู้หนึ่งยื่นมือเข้าช่วยไว้ อวิ๋นหยวนม่านกรีดร้องราวกับคนเสียสติ ด้วยยังไม่หายตื่นตกใจเมื่อมีคนก้าวมายืนตรงหน้า แต่น้ำเสียงอีกฝ่ายทั้งการที่เขาให้คนดูแลนางอย่างดีเป็นสิ่งที่ทำให้นางรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้โหดร้ายจนเกินไป “หึ ๆ ๆ แต่เจ้าไม่ใช่นาง ไม่มีความคล้ายคลึงสักนิด!” เขาเอ่ยแล้วจึงสั่งให้คนดูแลอวิ๋นหยวนม่าน ซึ่งเป็นหมอที่ท่าทางแปลก ๆ ใส่ยาบนแผลนาง และสั่งสตรีอีกสองคนที่มือหนักทั้งหยาบกร้านช่วยเช็ดเนื้อตัว “ช่วยข้าไว้ด้วยเหตุใด” นางเอ่ยถามคนพวกนั้น สายตาจ้องบุรุษที่โดดเด่นท่ามกลางคนแปลกหน้า “เจ้าไม่สมควรตายด้วยน้ำมือผู้อื่น ชีวิตนี้จงอยู่เพื่อทดแทนบุญคุณที่มู่หลัน... ไม่ใช่สิ หลันเอ๋อร์ที่ดีต่อเจ้าเถิด” “รู้จักน้องหกด้วยหรือ และท่าทางเจ้าเหมือนคนต่างแคว้น ท
กวนเฉินหลางได้รับขนมแป้งนุ่มที่ผสมฟักทอง ส่วนไส้ข้างในเป็นถั่วเหลืองกับหัวผักกาด รสชาติกลมกล่อมหอมกลิ่นน้ำมันงาทั้งยังทำให้เขานึกถึงความหลัง “ไม่ใช่ของอาหลันหรอกรึ แล้วเหตุใดรสชาติถึงคุ้นลิ้นนัก” ชายหนุ่มถามคนที่นำเข้ามาซึ่งก็คือหลิวอู้ อีกฝ่ายมีสีหน้ายุ่งยากใจ เขารอหลานชายนำของมาจากเรือนใต้เท้าโจว ทว่าวันนี้ไม่ทราบว่าเหตุใดถึงล่าช้า และจู่ ๆ มีพ่อบ้านผู้หนึ่งมาแจ้งเขา พร้อมของฝากพิเศษมอบให้กวนเฉินหลาง คราแรกเขาไม่คิดจะนำมาให้แม่ทัพหนุ่ม กวนเฉินหลางไม่ชอบรับสิ่งของใดจากผู้อื่นตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาห่วงเรื่องนี้จะนำพาความยุ่งยากมาให้ แต่เมื่อรู้ว่าคนที่ส่งมาจากสกุลเตียว ตัวหลิวอู้ก็เคยรับใช้ที่นั่นมาก่อนเขาจึงจำใจนำอาหารมาให้ผู้เป็นนาย “มิได้ขอรับท่านแม่ทัพ เป็นสิ่งที่สกุลเตียวฝากมา” สีหน้ากวนเฉินหลางเครียดขรึม ก่อนถามด้วยเสียงที่เข้มกว่าปกติ “เจ้ามีหน้าที่เป็นธุระให้ผู้อื่นตั้งแต่เมื่อใด” ยังไม่ทันที่กวนเฉินหลางจะได้ดุหลิวอู้เสียงฝีเท้าโจวจื่อเว่ยซึ่งแจ้งให้คนได้ยินรู้ว่าเขากำลังร้อนใจก็ดังขึ้น พร้อมการปร
หนึ่งนางเสือ หนึ่งหงส์งาม อวิ๋นมู่หลันไม่ได้ไปส่งพี่รองขึ้นเกี้ยว นางให้สาวใช้มอบของบางสิ่งแก่อีกฝ่าย เป็นเครื่องประดับ ผ้าแพร ขนมมงคล จากนั้นก็มีสิ่งที่ต้องการซื้อหาในตลาด ทั้งยังอยากเปิดหูเปิดตา เนื่องจากช่วงเวลานี้มีเรือสินค้าเข้ามาเทียบท่า “แม่นางหลัน จะขนทั้งหมดนี้กลับเรือนเลยหรือขอรับ” หญิงสาวยิ้มก่อนส่ายหน้าช้า ๆ นางมีเงินและตั๋วแลกเงินที่กวนเฉินหลางมอบไว้ให้ รวมถึงสองวันก่อนโจวจื่อเว่ยบอกว่า ในฐานะน้อง สาวบุญธรรมนางย่อมต้องมีกินมีใช้อย่างสมฐานะ ดังนั้นเขาจึงมอบหลายสิ่งแก่นาง โดยเฉพาะตำลึงเงินและทองแท่ง ซึ่งออกจะมากเกินไป ดังนั้นนางจึงอยากแบ่งปันผู้อื่น หลังจากได้ยินพ่อบ้านเอ่ยถึง เด็ก ๆ ที่ยากไร้ และคนที่อยู่ด้านนอกกำแพงเมืองที่อพยพมาจากอำเภออื่น ช่วงนี้มีปัญหาภัยน้ำป่าไหลเข้าสู่เมืองเนื่องจากเขื่อนแตก และยังถูกซ้ำเติมด้วยโจรป่า “ข้าเพียงแค่อยากแจกจ่ายของให้ชาวบ้าน พวกเขาคงคลายหนาวและอิ่มท้องขึ้นกว่าเดิม” “แม่นางหลันหมายถึงเสื้อผ้าแล้วก็อาหารแห้งพวกนี้” “ถูกต้อง แบ่งให้ทุกคนได้กินและสวมใส่ ข้าช่วยได้ไม่มาก ท
ส่งตัวไปบ้านบรรพบุรุษ กวนเฉินหลางเอ่ยถามแล้วแต่นางแสร้งถลึงตาโต ๆ ใส่เขา ขำอยู่หรอก และหญิงสาวรู้สึกซ่านใจมิน้อย ด้วยกวนเฉินหลางเป็นบุรุษที่ทำให้ว้าวุ่นใจได้ตลอดเวลา “สำหรับแม่ทัพกวน คงมีสตรีหลายคนที่อยากทำหน้าที่นั้นมิขาด” อวิ๋นมู่หลันไม่ได้อยากเป็นสตรีงี่เง่าคอยหาเรื่องทะเลาะคนรัก แต่จะมีผู้หญิงสักกี่คนเมื่อรู้ว่าชายที่ตนมอบใจให้กำลังจะแต่งงาน นอกเหนือจากนั้นดวงใจเขายังเคยมีหญิงสาวที่แสนเพียบพร้อม และเขารักปักใจนางมาเนิ่นนาน สตรีที่เป็นถึงพระชายาเอกรัชทายาท ซึ่งยามนี้ฝ่ายนั้นได้ทะลายกรงทองแล้วหลบหนีออกจากเมืองหลวงเพื่อมาหากวนเฉินหลาง! “เหลวไหล ข้ามีแต่อาหลันในใจเท่านั้น” คำพูดเขาสร้างความมั่นใจแก่นาง ว่ากวนเฉินหลางต้องการให้นางเป็นสตรีของเขาจริง ๆ กระนั้นนางยังอดระแวงและสงสัยใคร่รู้ไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องเจียงเฟย ด้วยอวิ๋นมู่หลันพอจะมีหูมีตาคอยรายงานเรื่องต่าง ๆ ซึ่งมั่นใจว่าเจียงเฟยกำลังหาทางเรียกร้องความสนใจจากแม่ทัพหนุ่ม “พรุ่งนี้ท่านต้องแต่งอนุเข้าเรือน” “เจ้าสมควรกล่าวให้ถูก แต่งนางตามคำสั่งรัชทายาทและหยวนม่านจะถูกส่งต
ลูกหมา ลูกข้า และลูกของเรา หญิงสาวอารมณ์ดีจนนางยังประหลาดใจ ถึงพรุ่งนี้กวนเฉินหลางจะแต่งอนุเข้าเรือนนอก และอีกฝ่ายยังเป็นพี่สาวนาง แต่พอรับรู้เรื่องเสี่ยวเฮยอวิ๋นมู่หลันกลับเลิกสนใจการขึ้นเกี้ยวของอวิ๋นหยวนม่านไปเสียนี่ ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลทำให้คนที่กำลังจะได้เป็นเจ้าบ่าวเครียดจัดจนนั่งไม่ติด กวนเฉินหลางร้อนใจ ยิ่งเห็นนางยิ้มและมองเขาราวกับไม่เห็นว่ามีตัวตน หัวใจบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ก็เหมือนถูกเหล็กร้อน ๆ นาบเข้าใส่จนทุกข์ทรมาน “อาหลันไม่สนใจข้าแล้วหรืออย่างไร” กวนเฉินหลางพยายามระงับความฉุนเฉียว เขาเก็บอารมณ์ก็แล้ว แต่ใบหน้ากลับถมึงทึง ดวงตาข้างที่มีพิษโลหิตทมิฬคล้ายจะกำเริบขึ้น ผมสีขาวส่งไอเย็นจัดแผ่ขยาย ยามนี้คำว่าปีศาจกวนยังคงน้อยไปหากใช้ขนานนามเขา ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าไปยังเรือนโจวจื่อเว่ย พอกุนซือหนุ่มเห็นเขาก็พยายามเรียกหาพ่อบ้านและคนของตนมาอยู่ใกล้ ๆ ที่เป็นเช่นนั้นด้วยกลัวจะถูกกวนเฉินหลางหาเรื่องระบายอารมณ์ใส่นั่นเอง “เหตุใดนางถึงเย็นชาต่อข้า!” กวนเฉินหลางถามเสียงเข้ม ก่อนจ้องไปยังคนที่อยู่ในห้องนั้น แสดงออกว่าต้องการคาดคั้นให้ผ
ใบหน้าอวิ๋นมู่หลันบึ้งตึง นางกำลังสับสนมิน้อย ตนกำลังขุ่นใจต่อพฤติกรรมเสี่ยวเฮยหรือว่าเป็นกวนเฉินหลางกันแน่! “แต่มันจะเป็นได้เช่นไร เสี่ยวเฮยยังไม่ถึงปีด้วยซ้ำ จะข่มหมาตัวเมียเป็นแล้วหรือ” อวิ๋นมู่หลันเลี้ยงเสี่ยวเฮยมาพักใหญ่ ดูอย่างไรมันก็ซุกซนเฉกเช่นเด็กเล็ก ๆ แต่นั่นแหละ นางอยู่กับเสี่ยวเฮยทุกวัน อาจไม่ทันสังเกตว่ามันตัวโตเกินวัย ตอนนี้หากเทียบอายุคนคงเท่ากับเด็กผู้ชายวัยสิบสี่สิบห้าปี “แม่นางหลัน เสี่ยวเฮยของท่านเป็นหนุ่มแล้วจริง ๆ ตอนนี้น้ำหนักเท่ากับสตรีผู้หนึ่ง ความสูงมากกว่าสามฉื่อ* (1 ฉื่อ* ประมาณ 22.7-23.1 เซนติเมตร)ภายหน้าหากโตเต็มวัย เกรงว่าคงมีตัวเท่า ๆ กับลูกม้าโลหิต และข้าอาจสู้แรงไม่ไหวด้วยซ้ำ” หลิวตงอธิบายให้นางฟัง หน้าที่ตอนนี้ของเขาคือเลี้ยงเสี่ยวเฮยให้ดี พร้อมฝึกให้เป็นสุนัขที่ฉลาดรอบรู้ในการป้องกันภัย ซึ่งเป็นคำสั่งกวนเฉินหลาง อวิ๋นมู่หลันคิดภาพตาม อย่างไรนางแค่ต้องการเลี้ยงแค่สุนัข มิใช่อยากให้เสี่ยวเฮยเป็นนักล่าหรือใช้เพื่อการศึก นางรู้ว่ากวนเฉินหลางมีหน่วยพิเศษฝึกสุนัขไว้เป็นหน่วยลอบโจมตีศัตรู ซึ่งสุนัขเหล่าน
เสี่ยวเฮยเกี้ยวรัก เย็นวันนี้โจวจื่อเว่ยไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เขาเป็นหนุ่มทั้งแท่งย่อมมีอารมณ์พิศวาสต่อสตรีอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าภาพที่เห็นอย่างไม่ได้ตั้งใจในห้องอาบน้ำ แทนที่จะชวนให้รู้สึกหวามไหวและขาที่สามพองขยาย เขากลับต้องรีบเบือนหน้าหนี เตรียมหุนหันหลบออกไปเพื่อไม่ให้ตนตกอยู่ในสถานการณ์ชวนอึดอัด เรื่องที่เกิดขึ้นนี้สาเหตุมาจากสตรีนางนั้นกำลังแช่ร่างอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเขาอย่างสำราญใจ “อุ๊ย นะ… นั่น ทะ… ท่านกลับมาแล้วหรือ?” “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้เช่นไร!” “โอ้ อ๊ะ ใต้เท้าโจว... ขะ… ข้า ไม่ได้ตั้งใจ” “แต่เจ้าเปลื้องอาภรณ์ อยากให้ข้าต้องเป็นบุรุษไร้ยางอายหรืออย่างไร!” “มิได้ ข้าเพียงแต่เหนียวตัว ที่เรือนของข้าบังเอิญเหลือเกินที่อ่างไม้แตกและยังประตูพัง ข้ามิอาจเปิดเผยเนื้อตัวให้ผู้อื่นเห็น ข้าถามสาวใช้แล้ว นางบอกว่าท่านไปทำงานนอกเมืองอีกสองวันถึงจะกลับ ดังนั้นข้าจึงมาที่นี่” ถึงนางยกเหตุผลมาอ้าง แต่สมควรแล้วหรือที่ต้องมาใช้ถังไม้ร่วม กับเขา ซึ่งหากเขาเหี้ยมโหดและใจคออำมหิตสักหน่อย อวิ
อวิ๋นมูหลันก้าวมาอยู่ที่สวนหิน ใจนั้นเต้นแรงไม่หยุด ก่อนหน้าไม่ได้คิดทำตัวร้ายกาจต่อพี่สาว ทว่าธาตุแท้อีกฝ่ายแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าเป็นภัยใหญ่หลวงต่อชีวิตนาง หากนางยังอ่อนแอคิดเมตตาศัตรูอยู่ร่ำไป อวิ๋นมู่หลันคงไม่อาจรับมือผู้ประสงค์ร้ายต่อตนได้ การเป็นสตรีข้างกายกวนเฉินหลางมิใช่เรื่องง่าย หากอยากมีชีวิตรอด ย่อมต้องมีจิตใจเด็ดเดี่ยว ถึงขั้นอำมหิตในบางครั้ง เมื่อใคร่ครวญให้ดีอวิ๋นมู่หลันจึงแจ้งใจว่า แม้อีกฝ่ายมีสายเลือดเดียวกัน ทว่าอวิ๋นหยวนม่านไม่เคยเห็นน้องสาวคนนี้อยู่ในสายตา น้องหกผู้เร่ร่อนมาอาศัยจวนเจ้าเมืองเช่นนาง เป็นเพียงเบี้ยล่างหรือสิ่งของที่ อวิ๋นหยวนม่านไม่เคยต้องการ และคิดหาทางทำลายทิ้งตลอดมา นิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นสั่งสมความริษยาเอาไว้ในอกย่อมมาจากอนุฉุยสตรีที่มาจากสกุลใหญ่ “เจ้าอย่าหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าข้ามู่หลัน เจ้าเป็นได้แค่ลูกของนักแสดงละครเร่ข้างถนน มีเลือดของบิดาอยู่ในตัวหรือเปล่ายังไม่แน่ชัด อย่าคิดเทียบชั้นข้าเลย” “ตะ… แต่ ข้าเป็นลูกท่านพ่อ!” “ฮึ เจ้าเอาสิ่งใดมาอ้าง แค่จดหมายและตราประ