Share

บทที่ 46 เจอเสือดุ

Author: ฮวาฮวาน่งหยวี่
last update Last Updated: 2023-12-10 20:00:01
ฉงเปาพูดอย่างดูถูก "ที่นี่คือป่าละเมาะ มีต้นพลับแล้วมันน่าแปลกใจตรงไหน แต่ว่าลูกพลับที่นี่เป็นลูกพลับเขียว รสชาติขมฝาด กินไม่ได้"

ตอนถูซินเยว่ได้ยินสิ่งนี้ เธอก็เดินมาถึงใต้ต้นลูกพลับแล้ว เธอย่นจมูกอย่างกลุ้มใจ ถามขึ้นอย่างหดหู่ว่า "ไม่ใช่ม้าง ลูกพลับตั้งเยอะแยะขนาดนี้แต่กินไม่ได้?"

น่าเสียดายแย่

ตรงหน้านี้อย่างน้อยก็ต้องมีสักยี่สิบต้น กิ่งก้านของมันต่างก็มีลูกพลับออกผลอยู่ มองเข้าไปละลานตาเป็นอย่างมาก เธอชูมือขึ้นไปเด็ดลูกพลับมาหนึ่งลูก กัดเข้าไปหนึ่งคำอย่างดื้อดึง แต่ก็ต้อง "ถุย" ทิ้งทันที

“ขมมาก!” ลิ้นเริ่มชาแทบทนไม่ได้ ถูซินเยว่ขมวดคิ้วอย่างห่อเหี่ยว แล้วหยิบกระบอกน้ำออกมากลั้วปากจากตะกร้า รู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย

เดิมทีเธอคิดว่าลูกพลับมากมายขนาดนี้ หากเอาไปขายในตลาด ก็คงได้เงินมาบ้าง แต่ดูเหมือนตอนนี้จะฝันสลาย

"ถ้าลูกพลับเหล่านี้กินได้ จะยังรอให้เจ้ามาเก็บอยู่อีกหรือ ถูกเด็ดไปนานแล้ว" ที่นี่ยังไม่ใช่ใจกลางหุบเขา ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนขึ้นมา ป่าลูกพลับใหญ่ขนาดนี้ ใครล่ะจะไม่อยากมา

ถูซินเยว่ที่ถูกฉงเป่าดูแคลนก็เกิดอาการไม่พอใจ เธอขมวดคิ้วอย่างจนปัญญา จู่ ๆ ก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ ถาม
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 47 มือหนึ่งข้าง

    เมื่อเห็นเสือหมอบลง แต่ไม่ได้กัดเข้าที่ร่างกายของถูซินเยว่ แต่กลับเป็นกระบอกน้ำที่ห้อยอยู่บนเอวของเธอ ราวกับว่าเสือไม่ได้สนใจมนุษย์ตัวเป็น ๆ อย่างถูซินเยว่เลยสักนิด เมื่อกัดเอากระบอกน้ำออกจากเอวของเธอได้ มันก็เปิดฝาออกด้วยกรงเล็บที่แหลมคมของมัน แลบลิ้นออกมาเลียไปที่ด้านในของกระบอกน้ำเห็นอยู่ชัด ๆ ว่านี่คือเสือ แต่เมื่อเห็นรูปร่างลักษณะของอีกฝ่าย ถูซินเยว่ก็รู้สึกว่ามันเหมือนกับลูกสุนัขมากกว่าเมื่อเห็นเสือตั้งหน้าตั้งตาเลียกระบอกน้ำอย่างจริงจัง ถูซินเยว่ก็ค่อย ๆ หดขากลับมา เพื่อเตรียมตัวจะลุกขึ้นและวิ่งหนีไปทันทีที่มีโอกาส แต่ทันทีที่เธอขยับ เสือก็หวาดกลัวราวกับเคยถูกทำร้ายมาก่อน ตะปบขาของเธอด้วยกรงเล็บที่แหลมคมของมัน และไม่ยอมให้เธอเดินไปไหนถูซินเยว่ดิ้นรนไปมาไม่ใช่ว่าเสือตัวนี้จะไม่อยากกินเธอ เพียงแต่มันต้องการเลียน้ำในกระบอกให้หมดเสียก่อน แล้วค่อยจับเธอกินในภายหลังความคิดในสมองของเธอแล่นพล่านไปมา กำลังคิดหาวิธีหลบหนี ขณะเดียวกันม่านตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีดำเข้มและจับตาดูเสือที่อยู่ตรงหน้าเธอพูดได้เลยว่า เสือตัวนี้มีความสง่างามมากลำตัวปกคลุมไปด้วยลวดลายสีน้ำตาลเข้ม เท้าท

    Last Updated : 2023-12-10
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 48 เกิดเรื่องกับซินเยว่แล้ว

    เมื่อเห็นว่ามือนั้นกำลังจะตบลงมาบนไหล่ของถูซินเยว่ หญิงสาวหันไปทันทีและยกขวานขึ้นมาเหวี่ยงมันออกไปขวานนั้นแหลมคมมาก เธอต้องใช้มันอย่างระมัดระวัง ดังนั้นจึงใช้ด้านที่เป็นสันขวาน ทันทีที่เหวี่ยงออกไปก็ชนเข้ากับบางสิ่ง ชายที่อยู่ด้านหลังคนนั้นร้องโหยหวนออกมา เขากระโดดหลบออกไปทันที ประคองแขนเอาไว้เกือบจะร้องไห้ออกมา“เจ้า นี่เจ้าจะฆ่าจะแกงกันอย่างนั้น!”ภายใต้ท้องฟ้าสลัว ถูซินเยว่หรี่ตามองไปที่อีกฝ่าย เห็นเพียงชายคนหนึ่งอายุประมาณสามสิบปี มีผิวคล้ำแต่หนวดเคราถูกโกนออกไปจนเกลี้ยงเกลา แต่ทว่าเสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่ง มีรัศมีแห่งความชั่วร้ายแผ่ออกมารอบตัว แม้จะยืนอยู่ไกลขนาดนี้ แต่ถูซินเยว่ก็ยังได้กลิ่นตัวของอีกฝ่ายโชยมา ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นเมื่อก่อนตอนที่เจ้าของร่างเดิมไม่ชอบอาบน้ำ กลิ่นตัวก็เหม็นพอแรงแล้ว นึกไม่ถึงว่ายังมีคนที่ตัวเหม็นกว่าเจ้าของร่างเดิมอีกก่อนหน้านี้เจ้าของร่างเป็นคนสติไม่ดี ไม่สนใจดูแลตัวเอง นางจึงสกปรกมอมแมม แต่ชายคนนี้ออกเสียงพูดได้อย่างชัดเจน และเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเป็นคนปกติธรรมดา คนปกติที่ไหนจะสกปรกได้ขนาดนี้ ทำเอาถูซินเยว่รู้สึกสะอิดสะเอียนเธอจ้องเขม็งไปที

    Last Updated : 2023-12-10
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 49 กลับตาลปัตร

    พวกเขาทั้งหมดเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน นางหยูร้องไห้น้ำมูกน้ำลายไหล แม้ว่าทุกคนจะกลัวหลางฮุย แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วก็ไม่มีใครปฏิเสธหยวนเป่าช่วยพยุงนางหยูลุกขึ้น แล้วประคองภรรยาของตัวเอง พูดขึ้นว่า ให้ภรรยาของข้านำทาง พวกเราไปดูด้วยกัน"คนที่อยู่ด้านหลังก็รีบตามไปด้วย บางคนต้องการไปช่วยจริง ๆ แต่บางคนแค่อยากไปดูด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นว่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินไปที่คันนา ซูเฟิ่งอี๋ที่แอบอยู่หลังบ้านก็โผล่หัวออกมาอย่างเงียบ ๆ ใบหน้าของนางก็เปล่งประกายระยิบระยับด้วยความตื่นเต้นดีอกดีใจนางรีบหันกลับมาอย่างเร็ว และดึงแม่เฒ่าตระกูลซูที่เตรียมตัวกำลังจะนอนให้ออกมา“ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังมีเสียงดังเอะอะอยู่อีกล เกิดอะไรขึ้น” ถูกซูเฟิ่งอี๋ลากแม่เฒ่าให้เดิมตามหลังทุกคนไป แม่เฒ่าตระกูลซูก็ขมวดคิ้วและถามขึ้นอย่างสงสัยซูเฟิ่งอี๋ยิ้มกว้างและพูดว่า "ท่านแม่ ท่านยังไม่รู้ล่ะสิ ได้ยินมาว่าถูซินเยว่วออกไปเจอเข้ากับหลางฮุยกลางดึก และถูกข่มขืนบนคันนานู่น""อะไรนะ?" เมื่อแม่เฒ่าตระกูลซูได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นทันที หลังจากนั้นครู่หนึ่งนางก็พูดขึ้นอย่างโมโหว่า "ขายหน้า ขายหน้า ข

    Last Updated : 2023-12-11
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 50 นางเป็นปิศาจหรือ

    ถึงแม้ถูซินเยว่จะร่างกายอวบอ้วน แต่เสื้อผ้าของเธอก็สะอาดสะอ้านเรียบร้อย แบกตะกร้าไว้บนหลัง ดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งถูกข่มขืนมาเลยสักนิดทุกคนมีสีหน้าแตกต่างกัน แต่ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจภรรยาของหยวนเป่าก็ยิ่งตื่นตระหนกขึ้นไปอีกพูดขึ้นว่า "นี่ นี่มันเป็นไปไม่ได้ ข้าเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเจ้าถูกหลางฮุยขวางเจ้าไว้ที่บนคันนานี่ ข้ะ ข้าไม่ได้ตาฝาดจริง ๆ นะ!"“พี่สะใภ้หยวนเป่า ตอนนี้มืดมาก หากไม่มีตะเกียงอยู่ในมือของทุกคน เจ้ามองข้าก็คงเห็นเป็นกลุ่มก้อนสีดำ ๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคนที่เจ้าเห็นคือข้าน่ะ"ถูซินเยว่กล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มเดิมทีพี่สะใภ้หยวนเป่าอยากจะโต้แย้งถูซินเยว่ว่านางมองเห็นไม่ผิด แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อเห็นสีหน้ายิ้มแย้มของหญิงสาว นางกลับรู้สึกหวาดกลัวขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล และคำพูดทั้งหมดของนางก็จุกอยู่ในลำคอทันทีหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็พูดขึ้นอย่างยากลำบาก "ถ้าอย่างนั้น ข้าอาจจะจำคนผิดน่ะ"“เจ้า ภรรยาหยวนเป่า ทำไมเจ้าถึงกลับคำพูดเช่นนี้ เมื่อครู่เจ้ายังบอกอยู่เองว่าเห็นถูซินเยว่ถูกข่มขืน!"ซูเฟิ่งอี๋มองดูพี่สะใภ้หยวนเป่าด้วยความโกรธ ไม่ได้เรื่อ

    Last Updated : 2023-12-11
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 51 แม่สามีที่แสนดี

    แม้ว่าจะไม่มีใครตอบคำถามภรรยาของต้าจู้ แต่ในใจของทุกคนต่างก็รู้ดีว่าที่หลางฮุยถูกทำร้ายเป็นฝีมือของถูซินเยว่ตอนแรกมีข่าวลือในหมู่บ้านว่า หลังจากหายจากอาการสติไม่ดีถูซินเยว่ก็กลายเป็นคนใจคอโหดเหี้ยม แม้จะได้ยินมาเช่นนี้ แต่ทุกคนก็ยังไม่เชื่อ ผู้หญิงคนเดียว มันจะโหดร้ายได้ถึงขนาดไหนกันเชียวแต่วันนี้เมื่อได้ประจักษ์กับกับตาตัวเอง ทุกคนต่างก็ต้องประหวั่นพรั่นพรึงเป็นดังที่ข่าวลือว่า ถูซินเยว่ใจคอเหี้ยมโหดจริง ๆถูซินเยว่ไม่ใส่ใจว่าใครจะคิดเช่นไร ระหว่างทางที่พานางหยูกลับบ้าน ก็เห็นว่านางหยูดูหวาดกลัวและเป็นกังวล เธอเม้มริมฝีปากแน่นแล้ววางตะกร้าที่อยู่บนหลังลง คุกเข่าลงต่อหน้านางนางหยูตกใจ รีบเอื้อมมือมาประคองถูซินเยว่ ขมวดคิ้วพลางพูดขึ้นว่า "ซินเยว่ ทำอะไรของเจ้า ลุกขึ้น ๆ !"ถูซินเยว่ส่ายหน้า มองนางหยูอย่างจริงจัง แล้วพูดขึ้นว่า "ข้าอยากจะสารภาพบางอย่างกับท่านแม่"นางหยูชะงัก มองไปที่ถูซินเยว่ด้วยความสับสนเมื่อครู่บนคันนา นางรู้สึกหวาดหวั่นกับความโหดร้ายของถูซินเยว่ แต่มองดูถูซินเยว่ในตอนนี้ นางกลับรู้ศึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก“อยากพูดอะไรก็ลุกขึ้นมาพูดเถอะ ที่นี่อากาศหนาว เ

    Last Updated : 2023-12-11
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 52 คนใจร้าย

    “ซินเยว่ แม่รู้สึกแปลก ๆ”“มีอะไรแปลกไปหรือ?” ซินเยว่ถามขณะบีบมือนางหยูพร้อมกับเงยหน้าขึ้น“ไม่รู้ทำไมหมอหลี่บอกว่ามือของข้าใช้งานไม่ได้แล้ว แต่ตอนที่เจ้ากดเช่นนี้ บางทีข้าก็รู้สึกชาขึ้นมาที่แขน ราวกลับว่าจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้งนางหยูรู้สึกสับสนถูซินเยว่กลั้นรอยยิ้มของเธอไว้ เธอใช้วิธีนี้นวดนี้ให้กับนางหยู เมื่อชาติที่แล้วเธอไปเรียนมากับแพทย์แผนจีนผู้เฒ่ามาโดยเฉพาะ การบาดเจ็บในกองทัพถือเป็นเรื่องปกติ เธอในฐานะแพทย์ทหารมักจะนวดคนไข้เพื่อช่วยให้พวกเขาฟื้นตัว และตอนนี้วิธีนวดนี้เรียกได้เป็นขั้นสุดของการนวดเพื่อรักษาโรคแล้วแม้ว่าจะไม่มีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ แต่เธอก็อาศัยวิธีการนวดของเธอ หากนวดไปเรื่อย ๆ นางหยูก็จะดีขึ้นเอง ตอนนี้มีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เข้ามาช่วย มือของนางหยูก็ต้องดีขึ้นเป็นธรรมดา ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงครึ่งเดือนมือของนางหยูก็เริ่มมีความรู้สึกขึ้นมาแล้ว“หลังจากนี้ไป ข้าจะนวดให้ท่านแม่ทุกวัน มือของท่านจะหายดีอย่างแน่แนน!”“เจ้าเด็กน้อยเอ๊ย” นางหยูยิ้มแล้วใช้นิ้วแตะไปที่หน้าผากของเธอหลังจากที่นางหยูเข้านอนแล้ว ถูซินเยว่ก็เช็ดเนื้อเช็ดตัวหลังจากใช้ความพยายามอย่างหนักข

    Last Updated : 2023-12-12
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 53 เพื่อนคนหนึ่ง

    สิ่งที่ซูเฟิ่งอี๋กล่าวมานั้น ถูซินเยว่เคยทำเช่นนั้นจริงไม่ผิด แต่เรื่องราวเหล่านั้นต่างก็เป็นสิ่งที่ถูซินเยว่ก่อขึ้นในตอนที่เธอยังสติไม่ดีอยู่ ดังนั้นจึงไม่ควรนำมานับรวมตอนนี้ถูซินเยว่หายสติไม่ดีแล้ว พวกเขายังขุดเรื่องเดิมขึ้นมาพูดอีก ก็ดูจะทำเกินไปหน่อยแต่สิ่งที่ทำให้พี่สะใภ้หยวนเป่าโกรธมากขึ้นไปอีกก็คือไม่มีใครยืนเคียงข้างนางและเชื่อว่าซินเยว่เป็นผู้บริสุทธิ์เมื่อมีคนรวมกลุ่มกันกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อต่อต้านถูซินเยว่ ขอเพียงแค่มีหนึ่งคนใส่น้ำมันลงในกองไฟ กลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มนี้ก็จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายก็จะถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้อีกต่อไปพี่สะใภ้หยวนเปาขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดีในตอนนี้ ซูเฟิ่งอี๋ก็พูดขึ้นเสียงเย็น "ถูซินเยว่เป็นคนโหดเหี้ยม ไม่รู้ว่าเจ้าจะปกป้องนางไปทำไมนักหนา หากเจ้าเก่งนัก ก็ไปซักผ้าข้าง ๆ นางเลยสิ ไม่ต้องมาอยู่กับพวกเรา"“นั่นสิ ๆ พวกเราไม่ชอบถูซินเยว่ แล้วเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร หากเจ้าอยากจะปกป้องถูซินเยว่นัก งั้นเจ้าก็ออกไป แต่หากเจ้าสำนึกผิดแล้ว เจ้าก็หุบปากไปซะ"ด้านข้างมีคนช่วยซูเฟิ่งอี๋กล่าวเสริมขึ้นอย่างกลมเกลียวพี่สะใภ้หยวนเป่านึกไม่ถึ

    Last Updated : 2023-12-12
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 54 เสี่ยวหวงผู้แสนรู้

    ถูซินเยว่ลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว หลังจากที่ภรรยาของหยวนเป่าพูดขึ้น เธอก็จำมันได้ทันทีครั้งที่แล้ว ดูเหมือนเธอจะช่วยภรรยาของหยวนเป่าที่ริมแม่น้ำไว้ได้จริง ๆ แต่จากเหตุการณ์นี้ ทั้งครอบครัวของพวกเขาก็ได้ซดน้ำแกงงูแสนอร่อย จึงไม่จำเป็นต้องสนใจคำขอบคุณอะไรทั้งนั้น“ไม่เป็นไรหรอก” ถูซินเยว่พูดด้วยรอยยิ้ม “มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย อย่ากังวลไปเลย”เมื่อสัมผัสได้ถึงความมีน้ำใจของถูซินเยว่ ภรรยาของหยวนเป่าก็ประหลาดใจอย่างมาก แม้ว่านางจะอยู่เคียงข้างถูซินเยว่ แต่ลึก ๆ แล้วนางก็แอบกลัวว่าถูซินเยว่จะโหดร้ายดังที่เขาว่าแต่ตอนนี้ ภรรยาของหยวนเป่ารู้แล้วว่าสิ่งที่ตนเข้าใจถูซินเยว่ในตอนแรกนั้นเป็นเพียงแค่อคติอันที่จริงถูซินเยว่เป็นเช่นนี้ ไม่เคยทำร้ายใครก่อน ดีมาก็ดีกลับ ร้ายมาก็ร้ายกลับ เธอจะไม่แสดงความเมตตาใด ๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนเลว และจะไม่ดูถูกผู้บริสุทธิ์โดยไม่มีเหตุผลหลังจากที่ทั้งสองคุยกันเรื่องนี้ ถูซินเยว่ก็พูดคุยมากขึ้น และยังแบ่งผงสบู่ของเธอให้กับกับภรรยาของหยวนเป่าอีกด้วย"ผงสบู่นี้ไม่กัดมือนะ แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วย ลองดูสิ"ถูซินเยว่หันไปยิ้มให้อีกฝ่ายภรรยาของหยวนเป่าร

    Last Updated : 2023-12-12

Latest chapter

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

DMCA.com Protection Status