Share

บทที่ 272 เจ้าต้องช่วยข้านะ

Author: ฮวาฮวาน่งหยวี่
เมื่อได้ยินว่าเฉินหวานเดินมา กู้เยว่หวาก็รีบจัดทรงเผ้าผม ใช้มือลูบปอยผมตนเอง แล้วจึงหันหลัง พร้อมเผยรอยยิ้มหวาน "เฉินหวาน ข้ารู้มาว่าผิงโจวเปิดโรงละครใหม่แห่งหนึ่ง เจ้าจะไปดูกับข้าไหม?"

เฉินหวานเดินผ่านหน้านางไปด้วยใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์

กู้เยว่หวากัดริมฝีปากด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ แล้วรีบยื่นมือไปดึงแขนเสื้อของเฉินหวานไว้ ไม่ยอมให้เขาเดินจากไป

ชายหนุ่มหันมา แม้ว่าบนใบหน้าจะไม่มีอารมณ์ใดๆ แต่กลับมีแววเย็นเยือกในดวงตา ทำให้กู้เยว่หวาตกใจจนถอยหลังไปสองก้าว

นางรีบปล่อยมือจากแขนเสื้อของเฉินหวาน และก้มหน้าพูดอย่างน้อยใจว่า "เจ้าอย่าเอาแต่ดุข้าเช่นนี้สิ~"

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำพูดของนางได้ผลหรือไม่ สีหน้าของเฉินหวานถึงผ่อนเบาลงขึ้นเล็กน้อย

เขาพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า "ขอเพียงเจ้าตอบคำถามของข้าสองสามข้อ ข้าจะลองคิดทบทวนเรื่องไปดูละครกับเจ้า"

"คำถามอะไรหรือ?" เมื่อได้ยินว่าเฉินหวานยินดีจะไปกับตนเอง กู้เยว่หวาจะยังหลงเหลือความระแวดระวังเสียที่ไหน แม้แต่ความไม่พอใจเมื่อสักครู่ ก็หายวับไปจนไม่เหลือร่องรอย นางดีใจจนแทบจะกระโดดตัวโยน จ้องมองอีกฝ่ายไม่วาง พร้อมสีหน้าท่าทางร้อนใจ

"เจ้าถามมา ข้ารับรอง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 273 โฆษณาสินค้า

    แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ทันทีที่เข้าไปยังจวนไป๋ ถูซินเยว่ก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติอย่าชัดเจนงานเลี้ยงวันเกิดตามหลักแล้วบรรยากาศน่าจะคึกครื้นและสนุกสนาน แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่น้อยคนนักที่จะยิ้มอย่างมีความสุข สีหน้าแต่ละคนกลับดูมีความตื่นกังวล แม้แต่รอยยิ้มก็ยังฝืดเฝื่อนอย่างมาก"ท่าทางเจ้าจะพูดไม่ผิดงานเลี้ยงวันนี้จัดเพื่อเสริมสิริมงคล มิน่าทุกคนที่นี่ถึงไม่กล้ายิ้ม" ถูซินเยว่พูดอย่างจนปัญญา "คงจะกลัวว่าถ้าตนเองยิ้มอย่างมีความสุขมากไป แล้วคนตระกูลไป๋มาเห็นเข้า จะทำให้ไม่พอใจ"กู้เยว่หวาพยักหน้า พร้อมกว้านสายตามองไปรอบๆ ราวกับอยากดูว่ามีคนที่ตนเองรู้จักอยู่รึไม่ ปากก็พูดไปว่า "ดังนั้นเดี๋ยวพวกเราก็พยายามยิ้มให้ดูเฝื่อนมากที่สุด เพื่อไม่ทำให้คนตระกูลไป๋ไม่พอใจ""วางใจเถอะ" ถูซินเยว่พยักหน้า บ่งบอกว่าตนเองเข้าใจทั้งสองคนเดินขึ้นบันไดมาถึงตรงหน้าหัวหน้าพ่อบ้านที่ต้อนรับอยู่หน้าประตู แล้วยื่นกล่องของขวัญให้กับอีกฝ่าย"คุณหนูตระกูลกู้หรือ? เชิญข้างในขอรับ เสี่ยวจวี๋ เจ้าพาคุณหนูกู้ไปนั่งหน่อย" กู้เยว่หวามีฐานะทางสังคมไม่ธรรมดา การปฏิบัติที่ได้รับจึงแตกต่างออกไป ถูซินเยว่ได้พึ่งบารมีของอีกฝ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 274 พี่หยุนเฉิง

    ในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน ผิวพรรณของพวกนางไม่ได้ดีขนาดนี้ ดังนั้นเมื่อเห็นผิวพรรณอย่างดีของถูซินเยว่ต่างก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย"ถ้าพวกเจ้าอยากบำรุงให้ได้อย่างข้า ลองใช้วิธีของข้าดูก็ได้" ถูซินเยว่เองก็ไม่ใจแคบ เธอแบ่งปันวิธีดูแลผิวของตนเองอย่างใจดีผู้หญิงอยู่ด้วยกันก็ชอบที่จะพูดคุยเรื่องเหล่านี้อยู่แล้วไม่นานนัก คนก็เดินมาล้อมถูซินเยว่มากขึ้น และคอยฟังถูซินเยว่พูดอธิบายหลักการการดูแลผิวพรรณจนกระทั่งงานเลี้ยงเริ่มขึ้น พวกเขาถึงจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์ และสัญญาไว้ว่าครั้งหน้าจะไปซื้อของที่ร้านขายเครื่องประดับดาหลา"ซินเยว่ ข้าว่าเจ้าไม่เห็นต้องการข้าเสียด้วยซ้ำนะ แค่เจ้านั่งอยู่ตรงนี้ ก็เป็นตัวเรียกลูกค้าอย่างดีแล้ว" กู้เยว่หวากินองุ่นไปพลาง พูดจิกกัดไปพลาง"ถ้าไม่ได้เจ้าช่วยดึงดูดความสนใจของพวกเขามาที่ข้า ตอนนี้ต่อให้ข้ามีความสามารถมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้" ถูซินเยว่เทเหล้าผลไม้ให้กู้เยว่หวาแก้วหนึ่ง แล้วก้มหน้าพูดว่า "เจ้าน่ะสุดยอดยิ่งกว่า""คำพูดของเจ้าข้าชอบฟัง แต่หลังจากงานเลี้ยงครั้งนี้ เกรงว่าคงจะมีคนไปที่ร้านของเจ้าไม่น้อย" กู้เยว่หวาพูดอย่างจริงจัง "เจ้าวางใจเถอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 275 ตกทะเลสาบน้ำแข็ง

    กู้เยว่หวาถอยหลังไปสองก้าว ยักคิ้วแล้วยิ้ม สีหน้าได้อกได้ใจเหมือนอย่างที่หลินวานวานดูถูกนางตอนที่อยู่ด้านหลังกำแพงดอกไม้"ข้าไม่ได้พูดอะไรเลยนะ หลินวานวาน ถ้าเจ้าไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีเอง แล้วหยุนเฉิงจะรู้ได้อย่างไร?""เจ้า!" หลินวานวานกัดฟันเดิมทีเป็นแค่การคาดเดา แต่เมื่อเห็นท่าทางได้ใจของกู้เยว่หวา นางแทบจะมั่นใจได้เลยว่า เป็นเพราะนาง พี่หยุนเฉิงถึงได้เย็นชากับตนเองเช่นนี้สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือต้องทำให้พี่หยุนเฉิงเชื่อตนเอง ส่วนนังสารเลวกู้เยว่หวา อนาคตยังมีเวลาให้จัดการเมื่อคิดได้ดังนั้น หลินวานวานก็รีบยื่นมือไปหวังงจะดึงแขนเสื้อของหยุนเฉิง"พี่หยุนเฉิง พี่เชื่อข้านะ ข้า...ข้าจะทำร้ายพี่ได้อย่างไร? ยัยกู้เยว่หวา นังสารเลวกำลังยุแหย่เราอยู่ พี่จะเชื่อคำพูดของนางไม่ได้""ปล่อยข้า" หยุนเฉิงขมวดคิ้ว และสะบัดมือของหลินวานวานออกอย่างรังเกียจเขาถูกขังเอาไว้ในตระกูลหยุนตลอด จึงไม่มีโอกาสพบกู้เยว่หวา แล้วกู้เยว่หวาจะเอาอะไรมายุแหย่กับตนเอง? ทว่าหลินวานวานที่มาถึงก็กัดเยว่หวาไม่ปล่อยต่างหาก ช่างเป็นคนที่ร้ายกาจเสียจริง"เยว่หวา ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า เจ้ามาทางนี้กับข้า"อุตส่าห์แ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 276 ใจสลาย

    อย่างที่คิด กู้เยว่หวายิ้มแย้มเบิกบานในทันที นางพยักหน้าแล้วพูดว่า "เขาเป็นเพื่อนที่ข้ารู้จักที่ชิงเฉิง อืม...เขาเก่งมาก และหล่อมาก..."กู้เยว่หวาพูดไปแล้วก็อดที่จะแสดงความคลั่งไคล้ออกมาไม่ได้ถูซินเยว่ที่ยืนอยู่ข้างๆ แทบไม่อยากหันไปมองหยุนเฉิงเลยหยุนเฉิงมีสีหน้าหม่นหมองลงในทันที เดิมทีใบหน้าเขาก็ดูซีดเซียวมากอยู่แล้ว แต่พอได้ยินคำพูดของกู้เยว่หวาแล้ว ก็ยิ่งซีดขาวจนน่าตกใจเขาขยับปาก อยากพูดอะไรบ้าง แต่กลับถูกกู้เยว่หวาผลักให้ขึ้นรถม้า"ข้างนอกหนาว เจ้ารีบขึ้นไปเถอะ ร่างกายเจ้ายังไม่หายดีเลย ต้องพักฟื้นดีๆ ล่ะ ครั้งหน้าข้าจะพาเขามาแนะนำให้เจ้ารู้จัก..." ก็หวังว่าเมื่อถึงตอนนั้นเฉินหวานจะสนใจนางบ้างเดิมทีหยุนเฉิงไม่อยากขึ้นรถม้า แต่กลับถูกกู้เยว่หวาทั้งผลักทั้งดัน และเมื่อเห็นสีหน้าร้อนใจของกู้เยว่หวา เขาก็พอจะรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายรีบร้อนอยากไปพบกับผู้ชายที่นางพูดถึงมากแค่ไหน"เยว่หวา..." หยุนเฉิงขยับปาก"หืม?""ไม่มีอะไร เจ้าอย่าถูกคนอื่นหลอกก็พอ""วางใจเถอะ เขาไม่หลอกข้าหรอก" กู้เยว่หวายิ้มแย้ม"อื้อ" หยุนเฉิงพยักหน้า เขาพูดตอบรับต่อกันอยู่หลายครั้งถึงได้ขึ้นรถม้าไป แล้วปล่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 277 หยุนเฉิงอาเจียนเป็นเลือด

    "องค์ชายสาม พูดตามตรงเจ้าก็เห็นว่าทุกวันนี้ข้าป่วยจวนเจียน หมอก็บอกว่าข้าคงอยู่ไม่พ้นฤดูใบไม้ผลิแล้ว เจ้าจะเสียเวลาอยู่ที่ตัวข้าทำไม"ไป๋อี้หรันมีสีหน้าซีดเซียวไร้ชีวิตชีวา เพียงแต่เฉินหวานไม่คิดว่าจะเป็นผลลัพธ์เช่นนี้ไป๋อี้หรันเป็นอัจฉริยะด้านการบริหารธุรกิจ มีมันสมองเป็นเลิศและเจ้าแผนการ แม้ร่างกายจะอ่อนแอตั้งแต่เด็ก แต่หลายปีมานี้ก็ใช้ยายื้อจนอยู่มาถึงทุกวันนี้แล้วทำไมตอนนี้ถึงไปต่อไม่ได้?เฉินหวานสูดหายใจลึกๆ จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "ข้าชื่นชมเจ้ามาก ไม่ว่าอย่างไรก็หวังว่าตระกูลไป๋จะไม่ช่วยเสด็จทำการชั่วร้าย"หลังจากพูดจบประโยคนี้ เฉินหวานก็มองอีกฝ่ายด้วยสายตาเรียบเฉย และจากไปไป๋อี้หรันนั่งพิงบนเก้าอี้ที่คลุมด้วยหนังหมี และมองไปที่แผ่นหลังของเฉินหวานอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็พูดพิมพำว่า "องค์ชายใหญ่ไม่ใช่กษัตริย์ปรีชา แล้วเจ้าจะใช่กษัตริย์ปรีชาไหม?"เสียงของชายหนุ่มเบามาก ลมหนาวพัดผ่านนอกหน้าต่าง และพัดเอาเสียงของเขาหายไปในทันทีคนรับใช้ที่อยู่ด้านล่างรีบไปปิดหน้าต่าง และเมื่อมองเห็นคุณชายของตนเองนอนอยู่บนฟูกนอนก็รู้สึกปวดใจ "คุณชาย ท่านก็ปล่อยวางสักหน่อยเถิด! อย่าได้กั

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 278 ข้าช่วยเจ้าได้

    ถูซินเยว่มอบหมายงานในร้านให้กับลูกน้อง แล้วมาถึงหน้าจวนหยุนพร้อมกันกับกู้เยว่หวา"ท่านลุงหยุน ท่านป้าหยุน นี่เป็นอาหารบำรุงเล็กน้อยที่ข้านำมาให้พี่หยุนเฉิงบำรุงร่างกายเจ้าค่ะ" กู้เยว่หวาวางโสมที่นำมาจากคลังที่บ้านไว้บนโต๊ะฮูหยินหยุนมองไปที่กล่องผ้าอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็พูดอย่างเย็นชาว่า "โสมของเจ้า จวนหยุนเราไม่กล้ารับเอาไว้หรอก หากหยุนเฉิงกินเข้าไปแล้วเกิดอะไรขึ้นมา เจ้าจะรับผิดชอบไหวรึ?"กู้เยว่หวาสีหน้าชะงักงัน"ฮูหยิน พูดจาเกรงใจหน่อย" โชคดีที่พ่อเฒ่าหยุนรู้ว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะฉีกหน้ากัน จึงไม่ได้สร้างความลำบากใจให้กับหญิงสาวตัวเล็กๆฮูหยินหยุนไม่พอใจทันที ส่งเสียงฮึดฮัดว่า "พ่อเฒ่า ถ้าหากไม่ใช่เพราะนาง เฉิงเอ๋อร์ของเราก็ไม่ต้องกลายมาเป็นเช่นนี้ เป็นเพราะนางเฉิงเอ๋อร์ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ แล้วตอนนี้ท่านยังจะพูดจาเกรงอกเกรงใจนางอีก" "ก่อนหน้านี้เฉิงเอ๋อร์อยากพบใคร ใช่ว่าเจ้าจะไม่รู้" พ่อเฒ่าหยุนถอนหายใจ แล้วพูดเสียงเบาอย่างจนปัญญาว่า "เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้าก็อย่าพูดอะไรที่จะสร้างปัญหาอื่นอีกเลย เมื่อวานเจ้าก็รับปากเฉิงเอ๋อร์แล้วมิใช่หรือ?""ก็ได้" แม้ฮูหยินหยุนจะไม่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 279 นางไม่ใช่นักบุญ

    "ซินเยว่ เจ้าสามารถช่วยหยุนเฉิงได้จริงหรือ?" กู้เยว่หวาถามด้วยความประหลาดใจ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ดูเหมือนจะคิดได้อีกครั้งและพูดอย่างผิดหวัง "แต่เจ้าไม่ใช่ผู้หญิงชาวนาธรรมดาเหรอ? เป็นวิชาแพทย์ได้ยังไงกัน?"ในใจของกู้เยว่หวา หญิงชาวนามักจะขุดดินเป็นเท่านั้น ถูซินเยว่ถือว่าเป็นคนที่เก่งมากคนหนึ่ง นึกไม่ถึงว่ายังสามารถทําธุรกิจกับน้าหลินได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าถูซินเยว่จะมีวิชาแพทย์เป็นด้วยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง กู้เยว่หวาก็ยังถามอีกครั้งอย่างสงสัย "เจ้าแน่ใจนะ ที่เจ้าพูดเป็นความจริง เจ้าสามารถช่วยพี่หยุนเฉิงได้จริง ๆ เหรอ?""แน่นอน" ถูซินเยว่พยักหน้าแล้วพูดด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยน "ถ้าพวกเจ้าเชื่อข้า ข้าก็สามารถช่วยได้"กู้เยว่หวาหันหน้ากลับไปสบตากับอวิ๋นเฉิงบนเตียง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ก็พยักหน้าให้หยุนเฉิงในความเป็นจริง นางก็ไม่กล้าเอาชีวิตของหยุนเฉิงมาล้อเล่น แต่ตอนนี้หมอในผิงโจวไม่กล้ารักษาอวิ๋นเฉิงกันเลย ในเวลานี้การขอความช่วยเหลือจากถูซินเยว่ก็เป็นเหมือนเสี่ยงดวงเอาถ้ารักษาหายแล้ว งั้นหยุนเฉิงก็รักษาชีวิตกลับมาได้ ถ้ารักษาไม่หาย... ถุย ๆ ๆ กู้เยว่หวารีบตัดความคิดในใจของตัวเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 280 นางช่วยหยุนเฉิงได้จริง ๆ

    ถูซินเยว่สะบัดมือของฮูหยินหยุนและพูดเรียบ ๆ ว่า "ข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนี้ไม่ใช่ว่าข้าต้องช่วยลูกชายของท่าน ท่านเข้าใจสถานการณ์ของตัวท่านหน่อย หมอผิงโจวเหล่านี้นั้นก็ได้กล่าวไว้แล้วว่าคุณชายหยุนตอนนี้ไร้ทางรักษาแล้ว ถ้าท่านไม่ให้ข้าช่วย งั้นท่านก็คงจะต้องผมหงอกส่งผมดำเท่านั้น ท่านอยากจะเลือกแบบไหน ท่านตัดสินใจเอาเองแล้วกัน"ฮูหยินหยุนอึ้งตะลึงไป ไม่รู้ว่าเพราะถูกท่าทางของถูซินเยว่ทําให้ตกใจ หรือว่ากลัวขึ้นมาจริง ๆ ว่าความดื้ิอรั้นของตนจะพรากความหวังที่ลูกชายตัวเองจะรอดชีวิต"ข้า..." ฮูหยินหยุนขยับปากถูซินเยว่ก็ไม่รีบร้อน เธอเลิกคิ้วขึ้นและมองอีกฝ่ายอย่างเฉยชาผ่านไปชั่วครู่ ในที่สุดฮูหยินหยุนก็ยอมแพ้ภายใต้สายตาอันแหลมคมของถูซินเยว่ นางถอนหายใจอย่างจนใจแล้วพูดว่า "ก็ได้ ข้าจะเชื่อคําพูดของเจ้า เจ้ารีบไปต้มยาเถอะ ถ้าเจ้ารักษาเฉิงเอ๋อร์ให้หายได้จริง ๆ ทุกคนในจวนหยุนของเราจะขอบคุณเจ้า ถ้าเจ้ารักษาไม่ได้... ไม่สิ เจ้าต้องรักษาให้ได้"ถูซินเยว่พยักหน้าและกล่าวเพียงว่า "ท่านวางใจเถอะ" จากนั้นก็หันหลังเดินไปยังห้องยาเดินไปได้สองก้าว ถูซินเยว่ก็พบว่าเด็กรับใช้ที่นําทางยังยืนงงอยู่

Latest chapter

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status