แชร์

บทที่ 35

ผู้แต่ง: เอเวอร์กรีน ฉิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
สิบปีต่อมา ร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป มีทุนทรัพย์ร่วม 300 พันล้านและกลายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในแคลิฟอร์เนีย

ความสำเร็จของตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์เกิดขึ้นจากการทำงานหนักของวิลเลียมและบริตทานี

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ก็เตะพวกเขาทั้งคู่ออกจากตระกูล และจอห์นก็สานต่อธุรกิจแม้กระทั่งนายน้อยสปาร์คยังต้องการภรรยาของอเล็กซ์อีกด้วย

ถ้าทั้งหมดนี้เป็นกลอุบายของจอห์นจริง ๆ มันคงต้องเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด

อเล็กซ์กำมือแน่น “แม่ ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าพ่อตายเพราะเป็นแผนของอารอง ผมจะทำให้เขาได้รับบทเรียนอย่างสาสมที่สุด”

อเล็กซ์ตัดสินใจอยู่ค้างที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนแม่แทนที่จะกลับไปแอสเส็กซ์ วิลล่า เขารู้ว่าถ้าเขากลับไป ทุกอย่างคงแย่ลงแน่ ๆ

บริตทานีเพิ่งจะฟื้นขึ้นจากโคม่าซึ่งร่างกายของเธอยังคงอ่อนแอ เธอจึงพล่อยหลับไปไม่กี่นาที

ในทางกลับกัน อเล็กซ์ ไม่สามารถใจเย็นได้

แหวนที่พ่อเขาได้ทิ้งไว้ให้เขา มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ

‘พ่อรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า?’ ในระหว่างที่อเล็กซ์นั่งข้างเตียงเขาก็คิด เขายังสามารถรู้สึกได้ถึงพลังที่ไหลผ่านสู่ทั่วทั้งร่างกายของเขา

‘นี่เป็นพลังชี่ที่บรรพบุรุษให้มาเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 36

    เช้าวันถัดมา อเล็กซ์ตื่นขึ้นข้างเตียงของแม่เขานึกขึ้นได้ว่าเขาฝึนฝนมาตลอดทั้งคืน เลยทำให้เขารู้สึกเหนอะหนะและไม่สบายตัวเขาตกตลึงเมื่อก้มลงมองร่างกายของตัวเองร่างของเขาเต็มไปด้วยน้ำมันสีดำทั่วตัว มันทั้งเหม็นและสกปรกเขารู้ว่าเขาได้ใช้พลังฉีของบรรพบุรุษของเขาในการฝึกฝนพลัง ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่สบายตัวแต่พลังนั้นยังช่วยทำให้เขาได้ชำระล้างร่างกายของเขาได้ ร่างกายและสมองของเขารู้สึกสดชื่นและยังคงรู้สึกกระปี้กระเปร่าจากการฝึนฝนพลังฉีตลอดทั้งคืน เขาหันไปหาบริตทานีและพบว่าเธอยังคงหลับอยู่ แต่ดูเหมือนสุขภาพของเธอจะดีขึ้นจากเดิมมันทำให้เขาเชื่อว่ามันไม่ใช่ฝันเขารีบลุกไปอาบน้ำในห้องน้ำที่อยู่ในห้องของคนไข้ แต่ เสื้อผ้าของเขายังคงสปรกเละเทะ แถมยังส่งกลิ่นเหม็นอีกด้วย“ดูเหมือนว่าจะต้องกลับไปที่แอสเส็กซ์ วิลล่า ซะแล้วสิ!”หลังจากที่บริตทานีตื่น อเล็กซ์ก็นั่งคุยกับแม่ของเขาสักพักและมุ่งหน้าไปยังแอสเส็กซ์ วิลล่าเมื่อไปถึง เขาพบว่ากระเป๋าเดินทางของเขาถูกโยนออกมาจากบ้านของแอสเส็กซ์ แถมคุณนายแคลร์ยังกำลังตัดเสื้อผ้าของเขาเป็นชิ้น ๆ อีกด้วยอเล็กซ์รู้สึกโกรธเหมือนระเบิดกำลังจะประทุอย

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 37

    “แม่!” อเล็กซ์กลับมาที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมแม่ของเขาอีกครั้งซึ่งในขณะนั้นแม่ของเขาตื่นอยู่พอดี ความโกรธที่มากจากครอบครัวแอสเส็กซ์ได้ทุเลาลงเมื่อเขาได้พบหน้าแม่ของเขาหลังจากรักษาบริตทานีด้วยคัมภีร์สุดยอดคัมภีร์แห่งการแพทย์ เขาก็สังเกตุว่าอาการของแม่ของเขาดีขึ้นจากวันก่อนมาก ด้วยความโล่งใจ อเล็กซ์ก็ยิ้มกว้างและพูด “หมอบอกว่าช่วงนี้แม่ทานได้แต่ของอ่อน ๆ ผมเลยแวะซื้อข้าวต้มจากร้านแถวนี้มาให้ เดี๋ยวผมป้อนนะครับ โอเคไหม?”อเล็กซ์รู้สึกจุกอก แม่ของเขาเป็นผู้หญิงที่น่ารักที่สุด แต่กลับกัน คุณนายแคลร์ แม่สะใภ้ของเขากลับปฎิบัติต่อเขาเยี่ยงทาสเขาค่อย ๆ ป้อนข้าวต้มบริตทานี หลังจากนั้นนวดแขนและขาให้เธอบริทตานีซึ่งมีอาการโคม่ามามากกว่าหกเดือน ร่างกายของเธอแทบจะไม่เหลือกล้ามเนื้อเลยแต่อย่างไรก็ตาม กรรมวิธีนวดของอเล็กซ์กลับพิเศษ เขาได้รับการช่วยผ่านการไหลเวียนของพลังฉีอีกด้วยเขารู้ว่าเขาสามารถช่วยแม่ของเขาฟื้นฟูร่างกายและกลับมาเดินได้ภายในสามวัน“สวัสดีค่ะ คุณหมอโคนีย์!” บริตทานีพูดขึ้นทันทีอเล็กซ์หันไปเห็นว่าเชอริลเข้ามาภายในห้องคนไข้แล้วเธอมองด้วยสายตาชวนสงสัยและถาม “วิธีการนวดของคุณ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 38

    คุณนายแคลร์กำลังต่อแถวอยู่ด้านหน้าคลินิกร่วมกับคนไข้คนอื่น ๆ เธออยู่ท้ายสุดของแถวและกำลังพูดคุยอยู่กับผู้หญิงใกล้ ๆ เธอ…“ความเก่งของคุณหมอโคนีย์นี้ที่สุดเลยว่าไหม ขนาดที่ฉันจะต้องขอให้เพื่อนของฉันนัดคิวของคุณหมอให้ นี่ฉันต้องรอตั้งสามเดือนเชียวนะ”“ใช่ ฉันรอคิวมากกว่าสามเดือนเหมือนกัน แต่ก็บ่นไม่ได้หรอก ไม่มีหมอคนไหนเก่งไปกว่าเขาแล้วหล่ะ!”ในขณะที่เธอกับเขาพูดคุยอยู่ คุณนายแคลร์รู้สึกเหมือนกำลังถูกจ้องมองเลยหันไปดู เธอขมวดคิ้วเมื่อรู้ว่านั้นคืออเล็กซ์ “มาทำอะไรที่นี้?”อเล็กซ์ทักทายด้วยความคุ้นชิน “คุณแม่”คุณนายแคลร์ระเบิดอารมณ์ออกมาด้วยความโกรธ “คุณแม่เหรอ หมายความว่ายังไง? ใครแม่แก? ให้ฉันบอกอะไรให้นะ แกมันไร้ค่า ลูกของฉันได้หย่ากับแกแน่ และเราพร้อมจะเฉดหัวแกทิ้ง! หยุดคลานกลับมาได้ละ! หรือว่า แกตามฉันมางั้นเหรอ? แกหาที่จะอยู่ไม่ได้สินะ? แกจะอ้อนวอนฉันให้เพื่อกลับมาใช่ไหมล่ะ?”อเล็กซ์ตะลึงในคำพูดและตอบกลับ “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ คุณป้า ผมมีที่ให้อยู่ครับ พอดีว่าคุณขวางทางอยู่ ขอผ่านหน่อยนะครับ คุณป้า?”“เมื่อกี้แกเรียกฉันว่าอะไรนะ?” คุณนายแคลร์ถูกท้าทายคุณป้ากับคุณนายนั้น ควา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 39

    “ฮะ? เกิดอะไรขึ้น?”“เด็กผู้หญิง! หน้าของเธอซีดเซียว! เธอไม่หายใจแล้ว!”“น่ากลัวจังเลย… คุณหมอโคนีย์จะช่วยเธอได้ไหมนะ?”ผู้คนมากกมายที่มามุงดูต่างหารือกัน พร้อมทั้งเอาใจช่วยจากนั้นชายวัยกลางคนได้อุ้มเด็กหญิงวัยห้าขวบเข้ามาภายในห้อง เขาร้องไห้ฟูมฟาย หน้าของเขาฟ้องว่าเขาเสียขวัญขนาดไหน เขาทรุดตัวลง พร้อมเสียงที่ดังเชอริลรีบเข้าหาเด็กผู้หญิงและตรวจชีพจรทันทีในขณะที่เธอตรวจ เธอเริ่มเปลี่ยนสีหน้า เพราะเด็กผู้หญิงไม่หายใจบวกกับชีพจรที่ไม่เต้นเชอริลรีบทำการปฐมพยาบาลเบี่ยงต้นด้วยการซีพีอาร์ พร้อมกับถามชายวัยกลางคนว่าเกิดอะไรขึ้น“ผมไม่รู้ ผม… กำลังจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ และจากนั้นลูกของผมก็เป็นลมหมดสติลงไป” ชายหนุ่มร้องเจมส์ได้เข้าประชิดตัวเด็กผู้หญิงเช่นกัน พร้อมกับพูด “ส่องดูลำคอของเธอ”เชอริลทำตามทันที แต่เธอก็ไม่พบอะไรติดอยู่ด้านในหลอดลมเลยเจมส์ตบไปที่หลังของเด็กผู้หญิงครั้งสองครั้งเช่นกัน แต่เด็กผู้หญิงก็ไม่สำลักอะไรออกมา ท้ายที่สุด เจมส์ก็ได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับตกตะลึงด้วยความโศกเศร้าชายหนุ่มยังคงทรุดอยู่ที่พื้นและร้องไห้ฟูมฟายมากจากเดิมอเล็กซ์ยืนดูอยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 40

    ทุกคนต่างพากันจ้องไปเด็กหญิงเปลือกตาของเด็กหญิงกระพริบอย่างนุ่มนวลก่อนที่จะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆเธอฟื้นแล้วจริง ๆดวงตาของเชอริลเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เธอไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองแต่หลังจากที่เด็กหญิงฟื้น ตัวเธอดูคล้ายจะรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นัก มือของเด็กหญิงทั้งสองข้างกุมลำคอของเธอคล้ายว่าเธอกำลังจะสำลัก“มีบางอย่างติดอยู่ในคอของเธอ มันยังติดอยู่!” เจมส์พูดขึ้นอยากตื่นตกใจ“ให้ผมจัดการเอง!” อเล็กซ์พูดพร้อมกับกดมือของเขาไปที่อกของเด็กหญิง เขาค่อย ๆ ดันมือของเขาอย่างนุ่มนวลอีกครั้ง มือของเขาคล้ายกับว่ากำลังเล่นดนตรีเครื่องสายอยู่อย่างงั้นเชอริลสังเกตุเห็นวิธีการของเขาคล้ายกับตอนที่เขานวดแขนและขาให้แม่ของเขาอเล็กซ์กดเข้าไปที่อกของเด็กหญิงอีกครั้ง รอบนี้เกิดเสียงอึกดังขึ้น เด็กหญิงสำลักพร้อมกับมีวัตถุปริศนากระเด็นออกมาจากปากของเด็กหญิงวัตถุปริศนานั้นคือ ส้มจี๊ดชายหนุ่มฉุกนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และอธิบาย “มันคือพืชป่า ผมซื้อมันให้โซอี้มาสักพักแล้ว ผมคิดว่าเธอคงจะกินมันหมดแล้ว แต่ก็คิดไม่ถึงว่า…”“มันติดลึกอยู่ในลำคอของเธอ จึงไม่ง่ายเลยที่จะกระทุ้งมันออกมาได้ แต่ไม่เป็น

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 41

    อเล็กซ์เดินออกไปจาก คลินิกอการ์โนเดอร์ม่า อย่างช้า ๆ‘อาการของแม่จะหายภายในสองวัน แต่ตอนนี้เราไม่มีที่ให้อาศัยอยู่ บวกกับที่โดนคุณนายแคลร์ไล่ออกมา ทำให้ไม่มีที่ไหนให้พักอาศัยอยู่ ทำให้หน้าที่ของฉันต่อไปคือการซื้อบ้าน’ อเล็กซ์คิดแต่จากการที่เขาได้ยินจากท่านเล็กซ์ ว่าพ่อปกปิดเรื่องกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ ไว้ไม่ให้แม่รู้‘ควรจะบอกแม่ดีไหมนะ?’ เขาคิดแต่เขาก็จะไม่สามารถใช้เงินของเขาได้ถ้าเขาไม่หาคำอธิบายที่เหมาะสมให้แก่เธอเขาตัดสินใจเก็บเรื่องนี้เป็นความลับต่อไปกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานใต้ดิน ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่มองว่าพวกเขาเป็นมาเฟียหรือว่าอันธพาล เหตุผลนี้พ่อเลยเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับโดยที่ไม่ได้บอกแม่มันคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีถ้าจะบอกความจริงตอนนี้ ‘งั้น...อเอาเป็นอพาร์ทเม้นต์เล็ก ๆ ก่อนก็แล้วกัน และบอกว่าเงินที่ได้มามาจากเงินที่เก็บออม’เขาตัดสินใจตามนี้ในขณะที่อเล็กซ์กำลังเรียกแท็กซี่เพื่อไปยังโรงพยาบาล คุณหมอเชอริลก็ได้ตะโกนมาหาเขาและพูดว่า “อเล็กซ์ อเล็กซ์! ให้ตายเถอะ! จะรีบไปไหนของคุณเนี่ย?”เชอริลซึ่งกำลังวิ่งตามเขาอยู่อเล็กซ์หั

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 42

    อเล็กซ์แสดงออกเย็นชากว่าเดิม “ใครส่งแกมา?”สคาร์เฟซเยาะเย้ย “อยากรู้จริง ๆ เหรอ? คุกเข่าและตบหน้าตัวเองสิ ถ้าแสดงออกมาดี ฉันอาจจะจะเปลี่ยนใจบอกแกก็ได้”อเล็กซ์พยักหน้า “เอาแบบนี้แทนไหมล่ะ? พวกแกคุกเข่าลงและตบหน้าตัวเองร้อยที และจากนั้นฉันจะพิจารณาปล่อยพวกแกไป”“แกว่าไงนะ?” พวกอันธพาลดูสับสนกับสิ่งที่พวกเขาได้ยินก่อนหน้านี้ พวกเขาได้ยินว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรดีเลย เขาไม่ได้รับอนุญาตให้เจอกับภรรยาของเขาด้วยซ้ำไปและมิหนำซ้ำยังตกเป็นทาสให้แม่สะใภ้ของเขาอีกต่างหากคนไร้ค่ากล้าดียังไงถึงกล้าพูดแบบนี้ออกมา?เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?“กล้าดีนี่ ดูเหมือนว่าเด็กเหลือขออย่างแกจะต้องบอกลาท่อนล่างและแขนของตัวเองซะแล้วสิ!” สคาร์เฟซยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และยกอาวุธของเขาขึ้นเหนือหัวและกำลังฟาดลงไปที่ขาของอเล็กซ์หลังจากนั้นก็มีเสียงแตกหักดังออกมากระบองถูกหักครึ่งหลังจากฟาดลงไปที่หน้าแข้งของอเล็กซ์“อ๊า! หยุดนะ!” เชอริลกรีดร้องด้วยความกลัวในขณะนั้น มีบางอย่างดูแปลกประหลาดกระบองนั้นถูกหักแบ่งเป็นสองท่อน แต่ทำไมอเล็กซ์ดูยังใจเย็นอยู่ เขายืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่แสดงอาการและไม่ขยับกล้ามเนื้อของเขาสักน

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 43

    ระหว่างงานงานเลี้ยงเฉลิมฉลองประจำปีของตระกูลแอสเส็กซ์ สปาร์คตกใจเป็นอย่างมากที่ท่านเล็กซ์ กันเธอร์จากกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ ยืนหยัดเพื่ออเล็กซ์ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมท่านเล็กซ์ถึงเขาข้างคนไร้ประโยชน์อย่างอเล็กซ์ถ้าท่านเล็กซ์อยากจะเอาคืนปู่ของเขาจริง ๆ บิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ สิ่งที่สปาร์คจะทำได้คือแค่มองดูเท่านั้น เขาคงไม่กล้าที่จะแสดงความโกรธแค้นใด ๆ ให้เขาเห็นแน่ ๆนั่นรวมถึงเขาจะไม่สามารถแก้แค้นอเล็กซ์ที่กล้ามาทำเขาบาดเจ็บที่แขนได้นอกจากนี้ ร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป ดูจะยังกังวลว่ากลุ่มบริษัทในเครือ เธาซันด์ ไมล์ จะกำลังหาทางแก้แค้นพวกเขาอยู่อย่างไรก็ตาม เขาพบว่าท่านเล็กซ์ติดหนี้บุญคุณวิลเลี่ยมอยู่ แต่ว่าตอนนี้เขาชดใช้มันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขาไม่มีอะไรติดค้างกับตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น อเล็กซ์พยายามจะติดต่อท่านะเล็กซ์ครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายก็จบด้วยการโดยด่าและขู่เข่นสปาร์คไม่มีอะไรต้องกังวลต่อไปอีกแล้ว!ดังนั้นเขาเลยจ้างคนกลุ่มหนึ่งเพื่อจัดการกับอเล็กซ์ทันทีกริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง…ในขณะนั้น นางแบบสาวที่กำลังนวดให้สปาร์คอยู่ในคลับแห่งหนึ่ง เมื่อสปาร์คได้ร

บทล่าสุด

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 194

    สตีเวนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับคำรามออกมา เขาปลุกพละกำลังภายในที่น่ากลัวและชั่วร้ายออกมาอย่างฉับพลัน พร้อมกับแสงสีแดงที่กะพริบระยิบระยับในดวงตา ระหว่างที่มิเชลล์กำลังจะฟาดฝ่ามือลงไปที่สตีเวน เขาก็พลันตอบโต้การโจมตีด้วยฝ่ามือของตัวเองเช่นกัน ตู้ม! เสียงระเบิดดังก้องกังวานไปทั่วห้องโถง สตีเวนเองก็ได้เก็บซ่อนพลังพิเศษไว้ที่ในฝ่ามือของตัวเอง พลังนั้นพุ่งทะลุผ่านฝ่ามือของมิเชลล์ไป มันเป็นทักษะอันทรงพลังในฐานะจ้าวแห่งเงามรณะเลยก็ว่าได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะแห่งการล่อลวง เพราะเหตุนั้น สตีเวนจึงไม่สนใจการโจมตีมิเชลล์มากนัก เพราะเขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วตนจะต้องชนะอย่างแน่นอน ในตอนนั้นเอง เขาพลันดีดนิ้วและกล่าวคำพูดขึ้นมา “หยุด!” ทว่า ทักษะแห่งชัยชนะทั้งหมดของสตีเวนกลับไม่มีผลอะไรเลยในวันนี้ มิเชลล์พุ่งเข้าใส่สตีเวนด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและเฉียบแหลม เธอยกขาขึ้นแล้วกระแทกไปยังศีรษะของสตีเวนอย่างแรง "อะไรกัน?" อึก! สตีเวนล้มลงไปนอนกับพื้น เขาพลันกลอกตาไปมาและรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ทันทีที่สติเริ่มจางหาย ความคิดสุดท้ายของสตีเวนก็พลันปรากฏขึ้นมาในหัว “มันจะเป็นไปได้ยังไง

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 193

    ตุ๊บ! ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมของฝูงชน มิเชลล์ก็กระโดดข้ามราวขึ้นไปบนเวทีประลอง ระหว่างที่มิเชลล์ขึ้นไปยืนบนเวทีประลอง หน้าอกขนาดมหึมาของเธอก็พลันกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ทุกคนต่างตกตะลึงและเบิกตากว้าง โดยเฉพาะเหล่านักเรียนชาย พวกเขาต่างก็ยิ่งอิจฉาอเล็กซ์มากกว่าเดิมทันทีที่เห็นเช่นนั้น มิเชลล์รีบคว้าตัวพริสซิลล่าและลากเธอมาหลบอยู่ด้านหลัง มิเชลล์จ้องไปยังชายวัยกลางคนจอมหยิ่งผยองและกล่าวคำพูดขึ้น “ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ของนายเอง!” พริสซิลล่าในตอนนี้ไม่กล้าที่จะอยู่บนเวทีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น เธอจึงรีบวิ่งออกไปจากลานประลอง พร้อมกับกุมมือตัวเองด้วยความหวาดกลัว อเล็กซ์ตบไหล่ของพริสซิลล่าและเผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “เธอทำดีมาก ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องชนะ” “ฉัน... ฉันชนะการประลองจริง ๆ เหรอ?” “...” หลายต่อหลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มจ้องมองไปที่พริสซิลล่าและกลอกตา แอนนาลิสเองก็ขมวดคิ้วและจ้องไปยังพริสซิลล่าเช่นกัน เธอไม่เข้าใจความสามารถที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของพริสซิลล่าเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้น เธอก็คิดเองเออเองว่าเทรเวอร์น่าจะใช้พลังของตัวเองมากเกินไป แอนนาลิสคิดหาวิธีอื่

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 192

    “พูดบ้าอะไรของเธอกัน?!” ระหว่างกำลังคิดว่านี่คงเป็นแผนของชมรมซาตานที่ต้องการส่งใครสักคนขึ้นมาบนเวทีประลอง เทรเวอร์ก็รู้สึกโกรธไม่น้อย ทันใดนั้น เทรเวอร์ก็พุ่งเข้าไปหาพริสซิลล่าและฟาดฝ่ามือใส่เธอ เทรเวอร์ต้องการสยบพริสซิลล่าด้วยฝ่ามือ นั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงพละกำลังและความยิ่งใหญ่ในฐานะประธานชมรมมังกรหยก "อ๊าย!" พริสซิลล่าพลันกรีดร้องและยกมือขึ้นมาตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณ ทันใดนั้น กระแสพลังฉีพลันพุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ ตุบ! เทรเวอร์พลันฟาดลงไปยังข้อมือพริสซิลล่า ทว่า เขากลับสัมผัสได้ถึงกระแสพลังจำนวนมหาศาลพุ่งตรงเข้ามา ฟิ้ว! ทันใดนั้น ร่างกายของเทรเวอร์ก็ลอยละล่องขึ้นไปกลางอากาศเหนือเวทีประลองและล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง พร้อมกับผมที่ตั้งชูอยู่เหนือศีรษะ ร่างกายของเทรเวอร์สั่นเทา เขาอ้าปากค้างราวกับมีหมอกพิษทมิฬลอยออกมาจากปาก ทุกคนในห้องโถงต่างก็เงียบไปด้วยความตกใจ พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ มิเชลล์เองก็เบิกตากว้างเช่นกัน เธอจ้องมองดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตาของแอนนาลิสพลันเบิกกว้าง เธออ้าปากค้างทันใด เธอแทบจะไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ท

DMCA.com Protection Status