แชร์

บทที่ 39

ผู้แต่ง: เอเวอร์กรีน ฉิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ฮะ? เกิดอะไรขึ้น?”

“เด็กผู้หญิง! หน้าของเธอซีดเซียว! เธอไม่หายใจแล้ว!”

“น่ากลัวจังเลย… คุณหมอโคนีย์จะช่วยเธอได้ไหมนะ?”

ผู้คนมากกมายที่มามุงดูต่างหารือกัน พร้อมทั้งเอาใจช่วย

จากนั้นชายวัยกลางคนได้อุ้มเด็กหญิงวัยห้าขวบเข้ามาภายในห้อง เขาร้องไห้ฟูมฟาย หน้าของเขาฟ้องว่าเขาเสียขวัญขนาดไหน เขาทรุดตัวลง พร้อมเสียงที่ดัง

เชอริลรีบเข้าหาเด็กผู้หญิงและตรวจชีพจรทันที

ในขณะที่เธอตรวจ เธอเริ่มเปลี่ยนสีหน้า เพราะเด็กผู้หญิงไม่หายใจบวกกับชีพจรที่ไม่เต้น

เชอริลรีบทำการปฐมพยาบาลเบี่ยงต้นด้วยการซีพีอาร์ พร้อมกับถามชายวัยกลางคนว่าเกิดอะไรขึ้น

“ผมไม่รู้ ผม… กำลังจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ และจากนั้นลูกของผมก็เป็นลมหมดสติลงไป” ชายหนุ่มร้อง

เจมส์ได้เข้าประชิดตัวเด็กผู้หญิงเช่นกัน พร้อมกับพูด “ส่องดูลำคอของเธอ”

เชอริลทำตามทันที แต่เธอก็ไม่พบอะไรติดอยู่ด้านในหลอดลมเลย

เจมส์ตบไปที่หลังของเด็กผู้หญิงครั้งสองครั้งเช่นกัน แต่เด็กผู้หญิงก็ไม่สำลักอะไรออกมา ท้ายที่สุด เจมส์ก็ได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับตกตะลึงด้วยความโศกเศร้า

ชายหนุ่มยังคงทรุดอยู่ที่พื้นและร้องไห้ฟูมฟายมากจากเดิม

อเล็กซ์ยืนดูอยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 40

    ทุกคนต่างพากันจ้องไปเด็กหญิงเปลือกตาของเด็กหญิงกระพริบอย่างนุ่มนวลก่อนที่จะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆเธอฟื้นแล้วจริง ๆดวงตาของเชอริลเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เธอไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองแต่หลังจากที่เด็กหญิงฟื้น ตัวเธอดูคล้ายจะรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่นัก มือของเด็กหญิงทั้งสองข้างกุมลำคอของเธอคล้ายว่าเธอกำลังจะสำลัก“มีบางอย่างติดอยู่ในคอของเธอ มันยังติดอยู่!” เจมส์พูดขึ้นอยากตื่นตกใจ“ให้ผมจัดการเอง!” อเล็กซ์พูดพร้อมกับกดมือของเขาไปที่อกของเด็กหญิง เขาค่อย ๆ ดันมือของเขาอย่างนุ่มนวลอีกครั้ง มือของเขาคล้ายกับว่ากำลังเล่นดนตรีเครื่องสายอยู่อย่างงั้นเชอริลสังเกตุเห็นวิธีการของเขาคล้ายกับตอนที่เขานวดแขนและขาให้แม่ของเขาอเล็กซ์กดเข้าไปที่อกของเด็กหญิงอีกครั้ง รอบนี้เกิดเสียงอึกดังขึ้น เด็กหญิงสำลักพร้อมกับมีวัตถุปริศนากระเด็นออกมาจากปากของเด็กหญิงวัตถุปริศนานั้นคือ ส้มจี๊ดชายหนุ่มฉุกนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และอธิบาย “มันคือพืชป่า ผมซื้อมันให้โซอี้มาสักพักแล้ว ผมคิดว่าเธอคงจะกินมันหมดแล้ว แต่ก็คิดไม่ถึงว่า…”“มันติดลึกอยู่ในลำคอของเธอ จึงไม่ง่ายเลยที่จะกระทุ้งมันออกมาได้ แต่ไม่เป็น

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 41

    อเล็กซ์เดินออกไปจาก คลินิกอการ์โนเดอร์ม่า อย่างช้า ๆ‘อาการของแม่จะหายภายในสองวัน แต่ตอนนี้เราไม่มีที่ให้อาศัยอยู่ บวกกับที่โดนคุณนายแคลร์ไล่ออกมา ทำให้ไม่มีที่ไหนให้พักอาศัยอยู่ ทำให้หน้าที่ของฉันต่อไปคือการซื้อบ้าน’ อเล็กซ์คิดแต่จากการที่เขาได้ยินจากท่านเล็กซ์ ว่าพ่อปกปิดเรื่องกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ ไว้ไม่ให้แม่รู้‘ควรจะบอกแม่ดีไหมนะ?’ เขาคิดแต่เขาก็จะไม่สามารถใช้เงินของเขาได้ถ้าเขาไม่หาคำอธิบายที่เหมาะสมให้แก่เธอเขาตัดสินใจเก็บเรื่องนี้เป็นความลับต่อไปกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานใต้ดิน ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่มองว่าพวกเขาเป็นมาเฟียหรือว่าอันธพาล เหตุผลนี้พ่อเลยเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับโดยที่ไม่ได้บอกแม่มันคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีถ้าจะบอกความจริงตอนนี้ ‘งั้น...อเอาเป็นอพาร์ทเม้นต์เล็ก ๆ ก่อนก็แล้วกัน และบอกว่าเงินที่ได้มามาจากเงินที่เก็บออม’เขาตัดสินใจตามนี้ในขณะที่อเล็กซ์กำลังเรียกแท็กซี่เพื่อไปยังโรงพยาบาล คุณหมอเชอริลก็ได้ตะโกนมาหาเขาและพูดว่า “อเล็กซ์ อเล็กซ์! ให้ตายเถอะ! จะรีบไปไหนของคุณเนี่ย?”เชอริลซึ่งกำลังวิ่งตามเขาอยู่อเล็กซ์หั

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 42

    อเล็กซ์แสดงออกเย็นชากว่าเดิม “ใครส่งแกมา?”สคาร์เฟซเยาะเย้ย “อยากรู้จริง ๆ เหรอ? คุกเข่าและตบหน้าตัวเองสิ ถ้าแสดงออกมาดี ฉันอาจจะจะเปลี่ยนใจบอกแกก็ได้”อเล็กซ์พยักหน้า “เอาแบบนี้แทนไหมล่ะ? พวกแกคุกเข่าลงและตบหน้าตัวเองร้อยที และจากนั้นฉันจะพิจารณาปล่อยพวกแกไป”“แกว่าไงนะ?” พวกอันธพาลดูสับสนกับสิ่งที่พวกเขาได้ยินก่อนหน้านี้ พวกเขาได้ยินว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรดีเลย เขาไม่ได้รับอนุญาตให้เจอกับภรรยาของเขาด้วยซ้ำไปและมิหนำซ้ำยังตกเป็นทาสให้แม่สะใภ้ของเขาอีกต่างหากคนไร้ค่ากล้าดียังไงถึงกล้าพูดแบบนี้ออกมา?เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?“กล้าดีนี่ ดูเหมือนว่าเด็กเหลือขออย่างแกจะต้องบอกลาท่อนล่างและแขนของตัวเองซะแล้วสิ!” สคาร์เฟซยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และยกอาวุธของเขาขึ้นเหนือหัวและกำลังฟาดลงไปที่ขาของอเล็กซ์หลังจากนั้นก็มีเสียงแตกหักดังออกมากระบองถูกหักครึ่งหลังจากฟาดลงไปที่หน้าแข้งของอเล็กซ์“อ๊า! หยุดนะ!” เชอริลกรีดร้องด้วยความกลัวในขณะนั้น มีบางอย่างดูแปลกประหลาดกระบองนั้นถูกหักแบ่งเป็นสองท่อน แต่ทำไมอเล็กซ์ดูยังใจเย็นอยู่ เขายืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่แสดงอาการและไม่ขยับกล้ามเนื้อของเขาสักน

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 43

    ระหว่างงานงานเลี้ยงเฉลิมฉลองประจำปีของตระกูลแอสเส็กซ์ สปาร์คตกใจเป็นอย่างมากที่ท่านเล็กซ์ กันเธอร์จากกลุ่มบริษัทในเครือเธาซันด์ ไมล์ ยืนหยัดเพื่ออเล็กซ์ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมท่านเล็กซ์ถึงเขาข้างคนไร้ประโยชน์อย่างอเล็กซ์ถ้าท่านเล็กซ์อยากจะเอาคืนปู่ของเขาจริง ๆ บิล ร็อคกี้เฟลเลอร์ สิ่งที่สปาร์คจะทำได้คือแค่มองดูเท่านั้น เขาคงไม่กล้าที่จะแสดงความโกรธแค้นใด ๆ ให้เขาเห็นแน่ ๆนั่นรวมถึงเขาจะไม่สามารถแก้แค้นอเล็กซ์ที่กล้ามาทำเขาบาดเจ็บที่แขนได้นอกจากนี้ ร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป ดูจะยังกังวลว่ากลุ่มบริษัทในเครือ เธาซันด์ ไมล์ จะกำลังหาทางแก้แค้นพวกเขาอยู่อย่างไรก็ตาม เขาพบว่าท่านเล็กซ์ติดหนี้บุญคุณวิลเลี่ยมอยู่ แต่ว่าตอนนี้เขาชดใช้มันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขาไม่มีอะไรติดค้างกับตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น อเล็กซ์พยายามจะติดต่อท่านะเล็กซ์ครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายก็จบด้วยการโดยด่าและขู่เข่นสปาร์คไม่มีอะไรต้องกังวลต่อไปอีกแล้ว!ดังนั้นเขาเลยจ้างคนกลุ่มหนึ่งเพื่อจัดการกับอเล็กซ์ทันทีกริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง…ในขณะนั้น นางแบบสาวที่กำลังนวดให้สปาร์คอยู่ในคลับแห่งหนึ่ง เมื่อสปาร์คได้ร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 44

    หมัดของเขานั้นเต็มไปด้วยอนุภาพของพลังฉี มันสร้างความเสียหายให้กับระบบของอวัยวะสืบพันธุ์ เมื่อเวลาผ่านไปและภายในหนึ่งเดือน เขาจะสูญเสียความสามารถในการมีเพศสัมพันธ์โดยสมบูรณ์อเล็กซ์กลับออกมาจากบ้านร้างและพบกับคุณหมอเชอร์ริลที่กำลังรอเขาอยู่ภายในร้านอาหารเพื่อจะทานทานอาหารกลางวันด้วยกันก่อนที่จะจัดการกับสปาร์ค อเล็กซ์ได้ให้คุณหมอเชอริลสั่งอาหารก่อนระหว่างรอเขาไว้แล้วในขณะที่เขามองอเล็กซ์เดินออกไป สปาร์คก็ได้ตะโกนดุด่าสคาร์เฟซ “ไอเวร! ไอสคาร์เฟซ ไอคนทรยศ! ฉันตกลงที่จะจ่ายเงินแกตั้งมากมายและแกกลับหักหลังฉันเนี่ยนะ? แกเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอว่าแกเก่งที่สุดในถนนทีลแห่งนี้? แกจะเก่งอย่างที่พูดมาได้ยังในเมื่อแกเอาชนะไอเด็กเมื่อวานซืนนั่นไม่ได้น่ะฮะ?”ด้วยความโกรธของสการ์เฟซ บวกกับความเจ็บปวดที่หน้าแข็งของเขา “แกกล้าด่าฉันได้ยังไง? แกบอกเองว่ามันไม่มีน้ำยา! แต่มันกลับแข็งแรงและดูคล่องแคล่วด้วย เขาสามารถหักแขนแกได้ง่าย ๆ ด้วยมือเปล่าด้วยซ้ำ! แกรู้อะไรไหม? ฉัน สคาร์เฟซคนนี้จะไม่ปล่อยให้เรื่องมันจบลงแบบนี้แน่นอน พี่ใหญ่ของฉันจะกลับมาภายในสองวัน เราจะจัดการกับมันเอง!”ในขณะเดียวกัน เบียทริซก็

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 45

    “ป๊ะป๋า ทำไมคนพวกนั้นถึงเรียกคุณอาอเล็กซ์ว่าไร้ค่าคะ? เขาไม่ใช่นะ!” สาวน้อย โซอี้ คาร์เตอร์ ขมวดคิ้วด้วยความโกรธเธออายุเกือบจะหกขวบ ดังนั้นเธอจึงโตพอที่จะคิดได้เธอสามารถหนีจากความตายมาได้ซึ่งต้องขอบคุณอเล็กซ์ ตอนที่เธอจิตของเธอหลุดออกมาจากร่าง สิ่งที่เธอรู้สึกได้มีเพียงแต่ความเหงาและความหนาวเหน็บ แต่อเล็กซ์เป็นเหมือนดั่งกองไฟในฤดูหนาว คอยทำให้เธออุ่น ซึ่งนั้นทำให้เธอประทับใจในตัวอเล็กซ์ชาร์ลส์ตอบกลับ “พวกเขาไม่รู้หรอกว่ากำลังพูดอะไรอยู่”เฮลีย์เสริม “เรามาช่วยเขาด้วยวิธีอื่นเถอะ แทนที่จะมัวพล่ามถึงสองคนนั้น ไหนดูซิ เราจะตามหาเขาได้ยังไง… ฉันได้ยินมาว่าหลังจากอุบัติเหตุของวิลเลียม ภรรยาของเขากลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เธออยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่นั้นมา”ชาร์ลส์พูด “เราไปในเมืองเพื่อไปหาคุณหมอเชอร์ริลกันเถอะ”จากนั้นอเล็กซ์และเชอริลก็ได้กลับมายังโรงพยาบาลอเล็กซ์กำลังคิดที่จะพาแม่ของเขาออกจากโรงพยาบาล แต่อย่างไร เชอริลลรู้สึกว่าบริตทานีควรจะได้รับการรักษาต่ออีกวันสองวันอเล็กซ์ยิ้ม “ไม่จำเป็นหรอก ผมคุ้นเคยกับอาการของแม่มากกว่าคุณอีก”เชอริลกัดริมฝีปากของตัวเองด้วยควาหงุดหงิด “ฉันเป็

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 46

    เฮลีย์นั้นสวยมากอีกทั้งเธอยังมีทรวดทรงที่งดงามที่สาว ๆ หลาย ๆ คนนั้นไฝ่ฝันที่จะมี เธอนั้นงดงามราวกับภาพวาดที่ชวนให้หลงใหลอเล็กซ์หลับตาลงทันที บังคับตัวเองไม่ให้มองหรือคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาพยายามนึกถึงใบหน้าบูด ๆ เบี้ยวของคุณนายแคลร์ขณะที่เธอตะโกนก่นด่าเขา สิ่งนี้ช่วยให้เขาสงบลงจากความคิดอันไม่บริสุทธิ์ของเขาเมื่อสักครู่นี้ภายในหนึ่งนาที เข็มทั้งเจ็ดก็ถูกฝังลงไปจนหมดเข็มจี้ไฟฟ้าจะใช้เวลาเพียงแค่เจ็ดวินาทีในการแสดงผลของมันหลังจากผ่านไปเจ็ดวินาทีแล้ว อเล็กซ์ก็เอ่ยถามขึ้นมาว่า “โอเค เสร็จแล้วเฮลีย์ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?"เฮลีย์นวดที่ขมับของเธอและอุทานว่า “คุณพระ หัวของฉันไม่ปวดแล้ว! ก่อนหน้านี้ฉันรู้สึกปวดหัวมาก ๆ โอ้ เจ้าหนู เก่งจริง ๆ ! ถ้าฉันป่วยอีก ฉันจะกลับมาหาคุณแน่นอน!”ขณะที่เธอพูด เฮลีย์ก็โยกตัวไปมา ทำให้หน้าอกของเธอกระเพื่อมเบา ๆ อะไรกัน ในเวลาเพียงไม่กี่นาที อเล็กซ์ถูกเปลี่ยนจากการเรียกว่า ดร.ร็อคกี้เฟลเลอร์ เป็นอเล็กซ์ และในตอนนี้เธอยังเรียกเขาว่า เจ้าหนู อีกด้วยความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูเป็นกันเองมากขึ้นทุกครั้งที่เปลี่ยนคำเรียกนี้“คุณอาคะ ช่วยนวดที่หัวของหนู

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 47

    นิโคลัสวิ่งเข้าไปในห้องของคุณนายบริตทานีและพูดว่า “คุณนายบริตทานี คุณฟื้นแล้วจริง ๆ ด้วย! ค่อยยังชั่ว…"“โอ้ เธอนั่นเอง นิโคลัส!”พวกเขาพูดคุยกันเล็กน้อย ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบซึ่งกันและกันอเล็กซ์ได้พูดขึ้นว่า “นายช่างมาในเวลาที่เหมาะสมเสียจริง ๆ ฉันจะไปจัดการพาแม่ออกจากโรงพยาบาล นายช่วยฉันจัดการเรื่องเอกสารที่จำเป็นหน่อยได้ไหม?”นิโคลัสดึงเขาออกไปและกระซิบถาม “อเล็กซ์ เมื่อคุณนายบริตทานีออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว นายกับแม่จะไปอยู่ที่ไหนกัน? นายจะพาเธอไปอยู่ที่แอสเส็กซ์ วิลล่า หรือเปล่า?”นิโคลัสรู้ดีว่าพวกแอสเส็กซ์นั้นโหดร้ายกับอเล็กซ์มากแค่ไหนอเล็กซ์ไตร่ตรองและตอบกลับว่า “ไม่ ๆ เราอาจจะพักในโรงแรมก่อน แล้วเดี๋ยวฉันจะซื้อสถานที่ที่เหมาะสมในภายหลังอีกที”ดวงตาของนิโคลัสเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “นายมีเงินพอที่จะซื้อหรือเปล่า?”อเล็กซ์แกล้งไอและโกหกว่า “แม่ของฉันมีน่ะ!”ด้วยคำอธิบายนี้ นิโคลัสนั้นก็เชื่อคำโกหกของเขาอย่างไม่ระแคะระคายอะไรเลยเพราะว่าในท้ายที่สุด คุณนายบริตทานีก็เคยเป็นประธานบริหารของ ร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป และทุกคนก็รู้จักเธอดีในฐานะผู้หญิงที่แข็งแกร่งและเก่ง แม้ว่า

บทล่าสุด

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 194

    สตีเวนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับคำรามออกมา เขาปลุกพละกำลังภายในที่น่ากลัวและชั่วร้ายออกมาอย่างฉับพลัน พร้อมกับแสงสีแดงที่กะพริบระยิบระยับในดวงตา ระหว่างที่มิเชลล์กำลังจะฟาดฝ่ามือลงไปที่สตีเวน เขาก็พลันตอบโต้การโจมตีด้วยฝ่ามือของตัวเองเช่นกัน ตู้ม! เสียงระเบิดดังก้องกังวานไปทั่วห้องโถง สตีเวนเองก็ได้เก็บซ่อนพลังพิเศษไว้ที่ในฝ่ามือของตัวเอง พลังนั้นพุ่งทะลุผ่านฝ่ามือของมิเชลล์ไป มันเป็นทักษะอันทรงพลังในฐานะจ้าวแห่งเงามรณะเลยก็ว่าได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะแห่งการล่อลวง เพราะเหตุนั้น สตีเวนจึงไม่สนใจการโจมตีมิเชลล์มากนัก เพราะเขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วตนจะต้องชนะอย่างแน่นอน ในตอนนั้นเอง เขาพลันดีดนิ้วและกล่าวคำพูดขึ้นมา “หยุด!” ทว่า ทักษะแห่งชัยชนะทั้งหมดของสตีเวนกลับไม่มีผลอะไรเลยในวันนี้ มิเชลล์พุ่งเข้าใส่สตีเวนด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและเฉียบแหลม เธอยกขาขึ้นแล้วกระแทกไปยังศีรษะของสตีเวนอย่างแรง "อะไรกัน?" อึก! สตีเวนล้มลงไปนอนกับพื้น เขาพลันกลอกตาไปมาและรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ทันทีที่สติเริ่มจางหาย ความคิดสุดท้ายของสตีเวนก็พลันปรากฏขึ้นมาในหัว “มันจะเป็นไปได้ยังไง

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 193

    ตุ๊บ! ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมของฝูงชน มิเชลล์ก็กระโดดข้ามราวขึ้นไปบนเวทีประลอง ระหว่างที่มิเชลล์ขึ้นไปยืนบนเวทีประลอง หน้าอกขนาดมหึมาของเธอก็พลันกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ทุกคนต่างตกตะลึงและเบิกตากว้าง โดยเฉพาะเหล่านักเรียนชาย พวกเขาต่างก็ยิ่งอิจฉาอเล็กซ์มากกว่าเดิมทันทีที่เห็นเช่นนั้น มิเชลล์รีบคว้าตัวพริสซิลล่าและลากเธอมาหลบอยู่ด้านหลัง มิเชลล์จ้องไปยังชายวัยกลางคนจอมหยิ่งผยองและกล่าวคำพูดขึ้น “ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ของนายเอง!” พริสซิลล่าในตอนนี้ไม่กล้าที่จะอยู่บนเวทีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น เธอจึงรีบวิ่งออกไปจากลานประลอง พร้อมกับกุมมือตัวเองด้วยความหวาดกลัว อเล็กซ์ตบไหล่ของพริสซิลล่าและเผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “เธอทำดีมาก ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องชนะ” “ฉัน... ฉันชนะการประลองจริง ๆ เหรอ?” “...” หลายต่อหลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มจ้องมองไปที่พริสซิลล่าและกลอกตา แอนนาลิสเองก็ขมวดคิ้วและจ้องไปยังพริสซิลล่าเช่นกัน เธอไม่เข้าใจความสามารถที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของพริสซิลล่าเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้น เธอก็คิดเองเออเองว่าเทรเวอร์น่าจะใช้พลังของตัวเองมากเกินไป แอนนาลิสคิดหาวิธีอื่

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 192

    “พูดบ้าอะไรของเธอกัน?!” ระหว่างกำลังคิดว่านี่คงเป็นแผนของชมรมซาตานที่ต้องการส่งใครสักคนขึ้นมาบนเวทีประลอง เทรเวอร์ก็รู้สึกโกรธไม่น้อย ทันใดนั้น เทรเวอร์ก็พุ่งเข้าไปหาพริสซิลล่าและฟาดฝ่ามือใส่เธอ เทรเวอร์ต้องการสยบพริสซิลล่าด้วยฝ่ามือ นั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงพละกำลังและความยิ่งใหญ่ในฐานะประธานชมรมมังกรหยก "อ๊าย!" พริสซิลล่าพลันกรีดร้องและยกมือขึ้นมาตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณ ทันใดนั้น กระแสพลังฉีพลันพุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ ตุบ! เทรเวอร์พลันฟาดลงไปยังข้อมือพริสซิลล่า ทว่า เขากลับสัมผัสได้ถึงกระแสพลังจำนวนมหาศาลพุ่งตรงเข้ามา ฟิ้ว! ทันใดนั้น ร่างกายของเทรเวอร์ก็ลอยละล่องขึ้นไปกลางอากาศเหนือเวทีประลองและล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง พร้อมกับผมที่ตั้งชูอยู่เหนือศีรษะ ร่างกายของเทรเวอร์สั่นเทา เขาอ้าปากค้างราวกับมีหมอกพิษทมิฬลอยออกมาจากปาก ทุกคนในห้องโถงต่างก็เงียบไปด้วยความตกใจ พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ มิเชลล์เองก็เบิกตากว้างเช่นกัน เธอจ้องมองดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตาของแอนนาลิสพลันเบิกกว้าง เธออ้าปากค้างทันใด เธอแทบจะไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ท

DMCA.com Protection Status